อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 9/3 วันที่ 13 เม.ย. 56
“แม่เนียนบอกว่า หนูควรมุ่งหน้ารับใช้ตอบแทนพระคุณท่านที่นี่ทุกคน และตั้งใจเรียนให้จบสถานเดียวค่ะ”เทิดศักดิ์สะอึกนิ่งไป มองเห็นเนื้อทองน้ำตาซึม จึงขยับตัวจะไปเช็ดให้
“หนูติ๋วร้องไห้ นี่พี่ทำหนูติ๋วต้องร้องไห้อีกแล้ว”
เนื้อทองถดตัวถอยหนี
“อย่าค่ะ เราไม่ข้องแวะกันดีที่สุดค่ะ เราแตกต่างกัน ตั้งแต่ฐานะจนถึงชาติกำเนิด”
“หนูติ๋ว”
เนื้อทองขยับจะหนี เทิดศักดิ์กั้นไว้
ฝ่ายทานตะวันชวนทองจันทร์มายืนดูพิสูจน์ว่าสองคนนัดพบกัน
“หนูอี๊ดไม่ได้ปดหรือใส่ใคล้ใส่ความยัยติ๋วดูสิคะ”
“เขาคุยกันไม่ได้แปลว่ามาพลอดรัก”
“แล้วทำไมต้องจ้องแต่จะเจอกันทั้งวันคะ คุณย่า นี่แค่ที่พวกเราเห็นวันนี้ก็สองครั้งแล้วนะคะ แล้วไอ้ที่ไม่มีใครเห็นเล่าคะกี่ครั้ง”
ถูกเป่าหูถี่ๆ ทองจันทร์เริ่มลังเล
“พี่ไม่เคยคิดว่าเราแตกต่างกัน ที่ผ่านมาเราคบหาเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทำไมจึงตัดรอนพี่ง่ายดายนัก”
“หนูไม่ใช่เด็กตอนนี้หนูอายุสิบแปด โตพอที่ต้องรู้ว่าสิ่งใดควรทำสิ่งใดควรหลีกเลี่ยง หนูถือว่านี่คือการลดความขัดแย้ง”
เนื้อทองเลี่ยงจะหลบที่เทิดศักดิ์ยืนขวาง เทิดศักดิ์ก็หลบแต่กลับไปทางเดียวกัน ทำให้สองคนชนกัน
“อุ๊บ”
“อุ๊ย”
เทิดศักดิ์รีบจับเนื้อทองไว้ไม่ให้ล้ม
ฝ่ายทองจันทร์ปแอบดูอยู่ ชักหวั่นไหวไปตามทานตะวัน
“เขากอดกันอย่ามาบอกว่าบังเอิญนะคะ วันๆ เอาแต่บังเอิญจับมือกุมมือ บังเอิญมาโอบกอดกัน”
“นั่นสินะ”
“ใช่ว่าหนูอี๊ดจะดูแคลนยัยติ๋วว่าต่ำต้อยลูกนางแพศยา แต่ว่า ยัยนั่นไม่คู่ควรกับกับพี่เทิดศักดิ์หรือคุณย่าว่าเขาคู่ควรคะ”
ทองจันทร์อึกอักนิดหนึ่ง “ไม่คู่ควรดอก แม้ว่าย่าจะเอ็นดูยัยติ๋วมากแค่ไหนย่าก็เห็นว่ามันไม่คู่ควรกับเทิดศักดิ๋”
ทานตะวันยิ้มสาแก่ใจ
ขณะเดียวกันเนียนยืนหน้าเศร้าใกล้ๆ นั้นเอง แต่อยู่ในมุมที่ทองจันทร์กับทานตะวันไม่เห็น เนียนได้ยินหมดทุกคำพูด เนียนยิ้มออก พูดเบาๆ กับตัวเอง
“คุณท่านพูดถูกเจ้าค่ะ พี่น้องพ่อเดียวกัน ชอบพอกันมันบาปหนาที่สุด”
เนียนหันตัวกลับไม่เดินเข้าไปหาทองจันทร์ ท่าทีสบายใจมาก
ทางด้านช้อยวิ่งโร่กลับมาฟ้องสน
“เรื่องที่เอ็งโดนนางกบนางแมวมันหมาหมู่ ข้าไม่สนใจดอก ข้าสนใจอยากรู้ว่า ที่เอ็งวิ่งโร่กลับมาหาข้านั่น เพราะอะไร”
“เอ้อ ช้อย ช้อย…”
“เอ็งมาก่อนที่ไอ้แทนจะไปเจอเอ็ง เอ็งอย่ามาแชเชือนบอกความจริงมานะ”
“เอ้อ เจ้าค่ะ...”
ภาพตอนเห็นหมอเสน่ห์กับ พระหนักแล้ววิ่งหนีผุดขึ้นในหัวนางช้อยใจบาป
สนตกใจมาก แต่ยังไม่รู้ว่าพระคืออดีตเสือหนัก
“นี่นี่ ไอ้หมอเสน่ห์ยังไม่ตาย จริงๆ ด้วย ใครนะช่วยมันเอาไว้”
“พระเจ้าค่ะ”
“พระ ที่มันมาด้วยหรือ เอ็งรู้จักไหม”
“คลับคล้ายคลับคลาเจ้าค่ะ”
“คนที่สามารถช่วยไอ้หมอเสน่ห์นั่นได้ ต้องเป็นคนที่มีฝืมือ”
“เสือหนักหรือเปล่าเจ้าคะ” ช้อยว่า
สนสะดุ้ง “โอย นี่ศัตรูตัวร้ายของเราสองรายไปรวมหัวกัน รึนั่น”
“บอกท่านขุนไปจับมันดีไหมเจ้าคะ” ช้อยออกความคิด
“ถ้าไม่ใช่มัน ข้าก็กลายเป็นคนบาปหนามดเท็จ ใส่ความพระสิ”
“แต่ถ้าเกิดใช่ คุณสนก็ได้ความดีความชอบนะเจ้าคะแถมได้กำจัดศัตรู ได้ลบมลทินที่กลบฝังไว้”
“หยุดเอ็งอย่ามาฟื้นฝอยหาตะเข็บ ใช่ไอ้หนักหรือไม่ แกกับไอ้แทนรีบรายงานพี่ขุน”
ช้อยครวญ “คุณสนผลักกรรมใส่ช้อยอีกแล้วหรือเจ้าคะ”
“หรือว่าจะให้ข้าส่งเอ็งกลับไปที่วัดนั่นให้พวกมันมาถลกหนังเอ็ง”
ช้อยส่ายหน้า
ฟากขุนภักดีกำลังหงุดหงิด ส่ายหัวจะหนีขึ้นเรือน
“ทำไมเราต้องพะวงถึงผู้หญิงใจง่ายใจต่ำแบบนั้นตลอดเวลา”
แล้วท่านขุนก็ได้ยินเสียงช้อยกับแทนเถียงกัน
“มีผัวเป็นท่านขุนผู้ยิ่งใหญ่เป็นมหาเศรษฐีดีๆ ไม่ชอบ”
“ชอบไปมีชู้เป็นไอ้มหาโจร สมน้ำหน้าชะตาขาดทั้งเป็น”
ขุนภักดีตวาดก้อง
“หุบปากเดี๋ยวนี้”
ช้อยกับแทนยืนตัวสั่นตกใจ ท่านขุนก้าวออกไปยืนจังก้า
“ท่านขุน” สองคนประสานเสียง
สองคนทรุดลงไปคุกเข่ากองที่พื้น
“พวกมึงนินทากูรึ”
“หามิได้ขอรับ” / “หามิได้เจ้าค่ะ” แทนและช้อยประสานเสียง
“แล้วมึงเอ่ยถึงท่านขุนคนไหน ถ้าไม่ใช่กู”
“ท่านขุนที่เมียคบชู้น่ะขอรับ”
แทนตกใจตอบออกไปเจอช้อยดีดปากโดยเร็ว
“หามิได้เจ้าค่ะ ช้อยกำลังเอ่ยถึงไอ้เสือหนักเจ้าค่ะ”
“อย่ามาเอ่ยชื่อมันให้กูได้ยิน” ขุนภักดีตวาด
“เอ้อ...ขอประทานอภัยเจ้าค่ะ ท่านขุนไม่ต้องการจับตัวมันแล้วหรือเจ้าคะ”
“กระผมสองคนรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนขอรับ”
ขุนภักดีชะงัก “มึงว่าอะไรนะ”
“มันหนีไปบวชเจ้าค่ะ”
“อุเหม่ บังอาจนักเอาผ้าเหลืองมาบังหน้าหาทางรอด ไปตามไอ้เอกมาเดี๋ยวนี้”
สองคนวิ่งขาขวิดออกไป เทิดศักดิ์เดินเข้ามาพอดี เห็นขุนภักดีหน้าถมึงทึงจึงรีบถาม
“คุณพ่อโกรธใครอีกแล้วครับ”
“ยิ่งกว่าโกรธอีก ไอ้มหาโจรที่พ่อตามล่ามาเท่าอายุลูก มันไปกบดานเอาผ้าเหลืองบังหน้า”
“เสือหนัก” เทิดศักดิ์ตะลึง
“ใช่! เสือหนัก พ่อจะไปตามจับเอาตัวมันมารับโทษให้ได้”
“ผมไปด้วย”
ท่านขุนมองหน้าเทิดศักดิ์ พยักหน้าอนุญาต
วันต่อมา เทิดศักดิ์แวะมาหาแดงน้อยที่ร้านกาแฟไทยเจริญ นำเรื่องจะไปตามจับโจรชื่อดังมาบอก แดงน้อยมีสีหน้าตื่นเต้นมากๆ ขอไปด้วย
“กันไปด้วย”
โพล้งกับแพรนั่งอยู่ห่างๆ พอได้ยิน จึงหันมาถามสนุกๆ
“ทำหน้าตายินดีขนาดนั้นจะไปจีบสาวที่ไหนกัน”
“ไปจับโจรครับ ลุงโพล้ง” แดงน้อยว่า
“จับโจรอะไรที่ไหนยังเด็กยังเล็ก”
“ไปกับคุณพ่อของเทิดศักดิ์ครับ เท่ากับได้ฝึกฝนการจับโจรไปในตัว”
“ผมก็จะได้ฝึกฝนการเป็นตำรวจมือปราบไปด้วยซะเลย”
“ระวังนะโจรมันจะเล่นงานเอา พวกนี้ใจมันดำอำมหิตผิดมนุษย์นัก” โพล้งเตือน
“ขึ้นชื่อว่าโจรมันไม่เคยปราณีใครดอก ยิ่งถ้าโจรชื่อกระฉ่อน มันยิ่งเหี้ยมโหด” แพรผสมโรง
“นั่นสิเทิดศักดิ์โจรนั่นมันชื่ออะไร” แดงน้อยถาม
“เสือหนัก”
แพรกับโพล้ง ผวามากอดกัน ตกใจแทบลมจับ
“แย่แล้ว”
สองคนเข่าอ่อนไปตรงหน้าเทิดศักดิ์กับแดงน้อย ที่มองมาโดยคิดว่าแพรและโพล้งกลัวเสือหนัก
ตกกลางคืนเนียนนอนไม่หลับ มานั่งซึมใจลอยอยู่ในสวนหลังบ้านภักดีภูบาล เนื้อทองเข้ามากอดจากด้านหลัง เนียนสะดุ้ง
“แม่เนียนจ๋า หนูมาขอโทษที่วิ่งหนีแม่เนียนเมื่อตอนกลางวันยกโทษให้หนูนะจ้ะ”
“แม่ไม่มีอะไรจะยกโทษให้ลูก ลูกไม่เคยผิดจนต้องอภัยให้ แม่เองสิ...ที่ต้องขอโทษลูก ที่บังคับจิตใจของลูก”
“แม่ไม่ได้บังคับจิตใจหนู หนูเข้าใจแล้ว ว่าแม่ต้องมีเหตุผลที่บอกหนูไม่ได้ หนูจะไม่พูดถึงเขาอีกต่อไปแล้วจ้ะแม่”
สองแม่ลูกกอดกันน้ำตาซึมครู่หนึ่งแล้วผละออกจากกัน
เนียนพยายามถามติ๋วถึงเรื่องที่แดงน้อยจะมากินอาหารที่บ้านภักดีภูบาล
“เอ้อ..เพื่อนของคุณเทิดศักดิ์เขาจะมากินข้าวอาทิตย์นี้ใช่ไหมลูก”
“เขาไม่มาแล้วจ้ะ”
“โธ่...” เนียนผิดหวัง
“หนูได้ยิน คุณท่านบอกคุณนายแม่ว่าเขาจะพากันไปจับโจร”
เนียนตกใจ “จับโจร”
“เสือหนักจ้ะ”
เนียนตะลึง ทำท่าจะเป็นลม
“แม่” ติ๋วตกใจมาก
บนเรือนคุณนายทองจันทร์วันถัดมา เห็นนาฬิกาเรือนสวยวางอยู่ในกล่องข้างๆ ทานตะวันก้มกราบที่ตักทองจันทร์ แล้วโผเข้ากอด หอมคุณย่ายกใหญ่
“ขอบพระคุณมากค่ะ คุณย่า สำหรับนาฬิกา ที่คุณย่าซื้อให้หนูอี๊ด”
“ย่าซื้อให้หนูได้ทุกอย่าง เว้นเดือนกับดาว”
“ดีใจจังค่ะ คุณย่าขา คุณย่าอย่ารักใคร มากกว่าหนูอี๊ดได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ดอกจ้ะ”
“คุณย่าน่ะ” ทานตะวันออกใส่
“เด็กขี้อิจฉา พี่เทิดศักดิ์ก็เป็นหลานของย่าเหมือนกัน มันก็ต้องยกไว้ให้สักคนสิ แต่หนูเป็นเด็กผู้หญิงช่างฉอเลาะมากกว่า ย่าเอ็นดูหนูมากกว่าจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะ รักคุณย่าที่สุดค่ะ”
“รักย่าก็ทำตัวดี ได้ยินว่าหนูจะไม่ยอมเรียนต่อ”
“แหม..หนูกำลังคิดอยู่ต่างหาก” ทานตะวันบ่ายเบี่ยง
“ย่าแก่แล้ว ห่วงลูกห่วงหลานหนูจะมีเหย้ามีเรือน เลือกผู้ชายให้คู่ควรนะหลาน” หญิงชราอบรม
“ปลัดอำเภอคู่ควรไหมค่ะ...คุณย่า”
“ต้องดูยศ ดูกำพืด ของพ่อแม่ปู่ย่าตาทวดด้วยจ้ะ”
“คนกำพร้าก็ไม่ต้องดูใช่ไหมคะ คุณย่า” ทานตะวันถามหยั่งเชิง
“เรามาถามย่าแบบนี้ ไปมีใจให้ปลัดที่ไหนรึ ตระกูลของทั้งพ่อทั้งแม่หนูน่ะสืบเชื้อสายจากขุนน้ำขุนนาง เราเป็นคนชั้นสูง รู้ไหม”
“ค่ะ เอ้อ...คุณย่าขา หนูได้ยินว่าคุณย่าจะซื้อนาฬิกาให้เด็กติ๋วเหมือนกัน”
“จริงด้วย กบ แมว อยู่ที่ไหนไปเรียกยัยติ๋วมาสิ”
ว่าพลางทองจันทร์หยิบกล่องนาฬิกาออกมาออกมาอีกกล่อง ทานตะวันหน้าคว่ำ
ฟากขุนภักดีเดินมาที่ท่าเรือ เตรียมไปจับเสือหนัก โดยมีเรียมตามส่ง
“พี่เทพระวังตัวด้วยนะคะ สูงอายุแล้ว ไม่แคล่วคล่องเหมือนเมื่อก่อนจะเสียท่าโจร”
สนผวามาเกาะอีกข้าง
“เล่นงานมันให้ถึงตายให้ได้นะคะพี่ขุน มันเลวมาก แต่ถ้าพี่ขุนฆ่ามันตาย คงมีใครแถวนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นเดือนเป็นปี”
“แม่สนจ๊ะ พูดจาอะไรทำไมต้องเลี้ยวลดไปแขวะคนอื่นเขา ถ้าสักวันเรื่องมันไม่จริงขึ้นมา มิต้องหาปี๊บมาคลุมหัวกันทั้งบ้านหรือ” เรียมค่อนขอด
“แหม...” สนหน้างอ
“พอที เลิกพูดเรื่องในบ้าน เรื่องโจรเป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องล้างแค้นกัน”
ขุนภักดีพูดจบแล้วมองเลยสองคนไกลออกมา
ขุนภักดี เห็นพุ่มไม้ด้านหลังของสนกับเรียมไหวๆ อยู่ เป็นเนียนนั่นเองที่มาแอบดูการไปจับเสือหนักใจระทึกไปหมด เนื้อตัวเนียนสั่นเทา
ทานตะวันเข้าทางมาด้านหลังตะโกนลั่น
“เจ้าข้าเอ๊ย..ยัยเนียนมาแอบดูคุณพ่อไปจับโจร ออกมานี่นะ มาแอบดูทำไม”
ทานตะวันกระชากแขนเนียนออกไป เนียนพยายามขัดขืน แต่ไม่กล้าฝืนมาก จำต้องให้ลูกสาวคนเล็กลากออกไป
เรียม เนียน และขุนภักดี รวมทั้งสนมองไปเห็นทานตะวันกระชากลาก ดึง เนียนที่หน้าสลดก้มหน้างุดออกมาจากพุ่มไม้ ทุกคนได้ยินเสียงทานตะวันเอ็ดตะโรตะโกนแล้วกำลังมองมา สนยิ้มสบตาทานตะวัน
“หนูอี๊ด ปล่อยเนียนนะ” เรียมโกรธมาก
“ไม่ปล่อย ใครใช้ให้มาแอบดู ตัวเองเกี่ยวอะไรกับเรื่องไปจับเสือหนักด้วย”
“นั่นสิคะไม่เกี่ยวจะมาแอบดูทำไม เฮ้อ..แต่ หนูอี๊ดเป็นเด็กจะไปรู้กับวันคืนเก่าๆ หรือคะ เอ...หรือว่าเกี่ยวจ๊ะเนียน”
สนถากถาง ทานตะวันมองแล้วสงสัยเนียนก้มหน้านิ่ง
“หนูอี๊ด ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ” เรียมตำหนิ
“ทำไมคะ ก็นี่คนใช้ กินบ้านเรานอนบ้านเรา ไม่มีเราก็ต้องไปขอทานแล้ว” ทานตะวันย้อนเรียม
“แม่บอกให้หยุดนะ” เรียมขึ้นเสียง
“คุณพ่อขา คุณแม่เข้าข้างคนใช้มากกว่าลูก”
“ฉันผิดเองค่ะ ที่ละลาบละล้วง ฉันขอประทานโทษ”
เนียนถอยออกมาเสียงเทิดศักดิ์ดังขึ้น
“แดงน้อย นี่ไงบ้านกัน”
คำว่า “แดงน้อย” ทำให้ร่างเนียนกระตุกพรืด ก้าวขาไม่ออก ตกตะลึงตัวแข็งตัวชา ราวหุ่นปั้น
แดงน้อยก้าวขึ้นจากเรือ มาบนท่า ยกมือไหว้ท่านขุนกับเรียม
“สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่”
แดงน้อยกวาดตามองหน้าทุกคน ทานตะวันดี๊ด๊าปราดไปหาแดงน้อย
“สวัสดีค่ะ พี่แดงน้อย”
ขุนภักดีถลึงตาใส่ท่าทีกระริกกระเร่อของลูกสาว สนมองออกว่าทานตะวันพึงใจแดงน้อย
“แดงน้อย นั่น คุณแม่สนแม่ของกัน” เทิดศักดิ์แนะนำ
“สวัสดีครับ คุณแม่สน”
เทิดศักดิ์มองไปยังเนียน “นั่น น้าเนียนที่กันเอ่ยถึงว่าเคารพเหมือนน้าของกัน”
เนียนยืนสั่นมากขึ้น แดงน้อยยกมือไหว้เนียน
“สวัสดีครับ น้าเนียน ผมอยากกินอาหารฝีมือน้าเนียนมาก เพราะเทิดศักดิ์บอกว่าฝีมือเหมือนลุงโพล้งกับแม่แพรทำเปี๊ยบ”
เนียนแทบจะเป็นลมทั้งยืน
“พี่แดงน้อยขาเนียนเป็นคนรับใช้ ไหว้ให้เสียมือทำไมกันคะ” ทานตะวันแหวขึ้นมา
ขุนภักดีฟังแล้วหงุดหงิด จึงเอ่ยตัดบท “ไปกันได้แล้ว ทุกคนรีบลงเรือ”
ทุกคนทำตามที่ท่านขุนบอก
ฝ่ายแดงน้อยแปลกใจมากกับสายตาของเนียนที่มองมา ราวกับว่ารักตนเหลือแสน และมองไม่เลิกและมีน้ำตาคลอเบ้า แดงน้อยจึงหันมามองเนียนอีกครั้ง
สองแม่ลูกสายตาสบกันจังๆ เนียนค่อยๆ เซทำท่าจะล้มลง
“น้าเนียน”
แดงน้อยปราดมาประคองเนียนทันที เนียนยิ่งสั่นไปหมดทั้งร่าง
“สำออยอีกแล้ว นั่นเด็กคราวลูกแท้ๆ” สนด่า
“เทิดศักดิ์ช่วยพาแดงน้อย อุ้มน้าเนียนไปพักที่ห้องเขาสิ” เรียมบอกสองหนุ่ม
เนียนหมดสติไปแล้ว แดงน้อยอุ้มเนียนออกไป เรียมส่งสายตามองตามไปอย่างห่วงใย
“ห่วงชู้ถึงขั้นลมใส่เลยนะคะพี่ขุน” สนใส่ไฟต่อ
เรียมตัดรำคาญ “เรียมส่งพี่ขุนแค่นี้นะคะ โชคดีนะคะพี่ขุน”
ขุนภักดีพยักหน้าให้ แต่ไม่อยากพูดอะไรต่อทั้งนั้น เงียบอย่างเดียว
“พี่ขุนคะ สนว่า...” สนอ้าปากจะใส่ไฟต่อ
“พี่ไม่อยากฟัง” ขุนภักดีขึ้นเสียงใส่
ทานตะวันสะกิดสน
“แม่สนขา หนูว่ามันแปลกๆ”
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 9/3 วันที่ 13 เม.ย. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager