อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 6/3 วันที่ 4 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 6/3 วันที่ 4 เม.ย. 56

เอกนั่งรอยายอ่อนอยู่ เห็นช้อยเดินย่องๆมา
“พี่เอก กลายเป็นยามประจำทุกเรือนในบ้านนี้ไปแล้วรึ”
“แล้วเอ็งเล่า นางช้อย กลายเป็นสัมภเวสีไม่มีที่ไปแล้วรึ ร่อนไปร่อนมาไปมันทุกเรือน เอ็งมาสอดแนมอะไร”
“เปล๊า นอนไม่หลับลงมาเดินเล่น ได้ยินเสียงเด็กร้อง ก็แค่หยุดฟัง”
“ฟังแล้วก็ก้มลงกราบงามๆ ด้วยสิ” เอกแขวะ
“ไอ้พี่เอก”

“ไม่แวะไปฟังเสียงเด็กร้องที่กระท่อมเนียนบ้างรึ จะได้นึกอยากหาผัว แล้วมีลูกร้องให้ฟังสักคน จะไปไหนก็ไป ถ้าคุณนายเรียมรู้ว่าเอ็งมาสอดรู้เธอเคืองแน่ อ้อ แล้วไอ้ที่ทำทีเป็นช่วยคิดว่าเขาจะหัวฟาดคอหักตายน่ะ ผีบ้านผีเรือนเขาเห็นเขาเป็นพยาน วันที่เอ็งคลอดลูกเขาจะตามไปทำเอ็งบ้าง”
ช้อยปฏิเสธเสียงดังลั่น “ชั้นเปล่านะ”


เอกหันมองไปบนเรือนกังวลว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ขณะเดียวกันเห็นเรือลำหนึ่งแล่นฝ่าความมืดมาตามลำคลอง ที่แท้ในเรือเป็นขุนภักดี ที่นั่งมีสีหน้ากระวนกระวาย เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวบึ้ง

“ไอ้แทน ทำไมเอ็งไม่ให้ไอ้คนขับเรือมันแล่นให้ไวกว่านี้เล่า”
“เขาว่าไวที่สุดแล้วขอรับ” แทนบอก
“บ้าจริงๆ กลับไปนี่จะต้องสั่งซื้อเรือใหม่ที่มันวิ่งได้ไวกว่านี้มาใช้สักที”
ขุนภักดีชะเง้อแล้วชะเง้ออีก
“ตอนที่คุณนายเรียมเริ่มเจ็บท้อง ใครสั่งให้เอ็งไปตามข้าทันทีหรือเปล่าหรือว่ามัวแต่ชักช้า”
“พี่เอกมาสั่งให้กระผมไปบางกอกไปเรียนท่าน แต่ไม่ทราบว่าทันทีหรือเปล่าขอรับ เพราะตอนนั้นทุกคนวิ่งกันวุ่นวายมากขอรับ”
“ทำไมต้องวิ่งกันวุ่นวาย เกิดอะไรขึ้นรึ”
“เกิดมีคนเจ็บท้องคลอดลูกสองคนพอดีขอรับ” แทนว่า
“เอ็งพูดอะไร เมียเอ็งรึว่าเมียใครจะคลอดลูกอีกคน นอกจากคุณนายเรียมรึ”
“เอ้อ คุณ...เอ้อ...แม่เนียนขอรับ”
ขุนภักดีโกรธขึ้นมาทันควัน
“แล้วมึงมาบอกกูทำไม ทีหลังมึงอย่าเอาเรื่องของอีนางคนนี้มาบอกกู มึงไปนั่งให้ห่างกูที่สุด ไม่เตะมึงตกน้ำก็บุญโขแล้ว”
แทนหงอทันที ท่านขุนหน้าตึงเลิกพูดจาไต่ถามแทน นับแต่นั้น

ทางด้านเนียนกำลังให้นมลูกเช่นเดียวกันกับเรียม ช้อยพรวดเข้ามา
“ไหนขอดูหน้าลูกหน่อยสิเนียน”
“นี่มันจะเช้าแล้ว ช้อยยังไม่ยอมหลับนอนอีกรึ”
“ก็ห่วงเนียนน่ะสิ คุณสนเธอจะให้เอาของคุณหนูเทิดศักดิ์มาให้ด้วยนะ”
“ขอบพระคุณ แต่ไม่เป็นไรดอก ลูกชั้น ใช้ของอะไรก็ได้ ช้อยจ้ะ ชั้นอ่อนเพลียมากอยากพักผ่อนเต็มทนแล้ว”
“ข้านั่งเป็นเพื่อนก็ได้”
กบกะแมวพากันเข้ามาพูดพร้อมเพรียง
“ไม่ได้ดอกจ้ะ”
“อยากเฝ้ามาก ก็กลับไปเฝ้าคุณหนูเทิดศักดิ์สิยะ”
“ห้องนี้มันเล็กมาก บางทีข้าสองคนอาจเหยียดแข้งเหยียดขาไปโดน เอาหน้าเอาตาของช้อยได้ง่ายๆ นะจ๊ะ”
“พวกเอ็ง ข้าจะไปฟ้อง...” ช้อยชี้หน้า
“คุณสนรึ เชิญจ้ะ” กบไม่สนใจ ท้าทายกลับ
“ข้าก็จะไปฟ้องคุณนายเรียมว่าเอ็งแกล้งทำเชือกขาด อยากจะให้เนียน หัวฟาดพื้นตายจ้ะ” แมวผสมโรง
นั่นแหละช้อยจึงยอมถอยออกไป กบกับแมวพากันมาดูลูกเนียน
“ขอบใจมากจ้ะ” เนียนขอบใจสองสาว บ่าวน้ำใจงาม

ส่วนเรียมให้เด็กดื่มนมแล้วเกิดความซาบซึ้งในความเป็นแม่มาก กอดเด็กไว้แนบอก หลงรักเด็ก น้ำตาคลอ
“ลูกชั้นยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะดื่มนมจากชั้นแม้เพียงหยดเดียว”
“ก็มีลูกสาวอีกคนมาดื่มแทนแล้วนี่เจ้าคะ” ยายอ่อนบอก
“ยายพูดอะไร นี่ลูกของเนียน เดี๋ยวชั้นก็ต้องส่งคืนไปให้เนียนแล้ว” เรียมว่า
“คุณนายเรียมอยากส่งคืนไหมเจ้าคะ”
เรียมส่ายหน้า
“ไม่อยากดอกจ้ะ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อยายหนูคือลูกของเนียนไม่ใช่ลูกชั้น”
“เนียนเขามีความฝากมาเรียนคุณนายเรียมเจ้าค่ะ”
“ฝากว่าอย่างไรรึ”
ยายอ่อนทำท่าเล่า จนเรียมนึกภาพออก เป็นภาพเนียนบอกกับยายอ่อนและเอก เรื่องเต็มใจยกลูกให้เรียมเพื่อทดแทนพระคุณ

เรียมตะลึงอึ้ง น้ำตาไหลออกมาด้วยความยินดี โอบกอดเด็กน้อยในอ้อมกอดระล่ำระลักพูด
“ยายหนูจ๋า ยายหนูจะมาเป็นลูกแม่จริงๆหรือจ้ะ ยายอ่อนจ๋า เนียนพูดจริงๆ นะยาย”
“จริงสิเจ้าค่ะ นอกซะจากว่าคุณนายเรียมอยากจะส่งคืนเนียน”
เรียมรีบเอาเด็กหันหนี
“ไม่จ้ะ แต่ชั้นเพียงคิดว่าตัวเองกำลังฉกชิงของรักของหวงที่สุดในชีวิต ฉกชิงดวงตาดวงใจของคนอื่น”
“เนียนทราบข้อนี้ดีเจ้าค่ะ เนียนทราบดีว่ายายหนูจะมีแต่ความสุข มีชีวิตที่ดีงามเจ้าค่ะ จะมีสิ่งใดที่ผู้เป็นแม่ต้องการมากไปกว่านี้เจ้าคะ”
“กลับไปบอกเนียนว่าชั้นขอบใจมาก ขอบใจที่สุด ชั้นจะไม่ให้ชีวิตที่ดีกว่าจำเพาะยายหนูผู้นี้เพียงคนเดียว ชั้นจะให้ชีวิตที่ดีกว่าเผื่อแผ่ไปถึงลูกของเนียนด้วยจ้ะ บอกเนียนด้วยว่าตอนนี้เนียนกลายเป็นผู้มีพระคุณของชั้นไปแล้ว เนียนทำให้ชีวิตชั้นผ่านพ้นวิบัติจากพี่เทพด้วยอีกต่างหาก”
“เจ้าค่ะ อิชั้นจะไปบอกเนียน”
เรียมใจหาย “แล้ว ลูกของชั้นเล่าจ้ะ ชั้น ไม่อยากจากแกเหมือนกัน”
“อิชั้นจะเอาแกไปฝังเจ้าค่ะ เอาไปฝังในที่ที่ดีที่สวยงาม ให้แกหลับสบายที่สุดเจ้าค่ะ แกอยู่กับคุณนายไม่ได้อีกแล้วเจ้าค่ะ”
“ขอบใจยายมากนะจ้ะ ชั้นจะตอบแทนยายให้สาสมเช่นเดียวกันจ้ะ ขอเพียงยายอย่าบอกใครเรื่องนี้เด็ดขาด”
“สาบานให้ผีหักคอ ให้ฟ้าผ่าตายเจ้าค่ะ ให้…”
“พอแล้วจ้ะยาย แล้วชั้นจะให้นายเอกเอารางวัลตามไปให้ยายร้อยชั่ง”
ยายอ่อนตะลึงคาดไม่ถึง “ร้อยชั่ง”
“แล้วไปให้ไกลที่สุดจากที่นี่”
“เจ้าค่ะ”
ยายอ่อนยังไม่วายตะลึง ส่งเด็กให้เรียมร่ำลาครั้งสุดท้าย
“ร่ำลาครั้งสุดท้าย ส่งให้แกไปสงบไปดีเจ้าค่ะ”

เรียมน้ำตาคลอ
ฟ้ายังมืดอยู่ แทนโยงเรือผูกกับท่าเรียบร้อย ขุนภักดีก้าวพรวดมาบนท่าน้ำ พลางจ้ำอ้าวเดินลิ่วออกไปอย่างรวดเร็ว แทนมองตาม

“จ้ำอ้าวราวกับพายุพัด เกือบไปแล้วไหมล่ะเรา เฮ้อ”

เอกกำลังสัปหงก ขุนภักดีเอามือมาเคาะหัว
“ไอ้เอก”
เอกตกใจและตะลึงที่เจอท่านขุนตรงหน้า
“ท่านขุน”
“แล้วเอ็งนึกว่าผีเร๊อะ มานั่งขวางทางขึ้นเรือนทำไม หลีก ข้าจะไปดูลูก”
“เอ้อ” เอกมองไปด้านบนยายอ่อนยังไม่เอาเด็กที่ตายลงมา “เอ้อ กระผมว่าอาจจะยังไม่เรียบร้อย”
“เอ็งอย่าบอกนะว่า คุณนายเรียมเจ็บท้องตั้งแต่ข้าเริ่มออกจากบ้านจนกระทั่งข้ากลับมา ยังไม่ยอมคลอด”
มีเสียงเด็กร้องออกมา ขุนผลักเอกโครม กระโจนขึ้นเรือนไปทันที
“ท่านขุนขอรับ คือ ยายอ่อน ยายอ่อน”
“เสียงลูกข้า เสียงเพราะๆ ของลูกข้า”
เอกปวดหัวหนึบ พึมพำ
“ตายละวา ยายอ่อนก็ยังไม่ออกมา พายุจะลงฟ้าจะผ่ากลางเรือน”
เอกรีบก้าวพรวดๆ ตามไปติดๆ
ขุนภักดีปราดมาหน้าห้องมาเคาะประตู
“ยายอ่อน ยายอ่อน เปิดประตู ชั้นจะเข้าไปดูลูก”
เอกยืนด้านหลังเอามือปิดตาไว้ เสียงประตูเปิดออก ยายอ่อนยืนหน้าประตู ในมือหิ้วตะกร้าไว้ยิ้มแย้มให้ท่านขุน
“เชิญท่านขุนเจ้าค่ะ คุณหนูสุขภาพแข็งแรงน่ารักน่าชังที่สุดเจ้าค่ะ”
ขุนภักดีพรวดหายไปในห้อง ยายอ่อนพรวดออกมาแทน เอามือมาสะกิดเอก
“ลืมตาได้แล้วพ่อเอก”
เอกลืมตา เบิกโพลงใจหายใจคว่ำ
“ยาย ยาย”
“ปลอดภัยทุกประการแล้ว ข้าจะรีบเดินทางไปวัด”
“ไปวัด”
ยายอ่อนขยับตะกร้าให้ดู
“ไปก่อนนะ ข้าต้องทำตามที่สาบานกับคุณนายเรียมไว้”
เอกถึงบางอ้อ “เข้าใจละ”
“ยังมีอีก ตอนสายข้าจะคอยที่ป่าช้า คุณนายท่านจะฝากบางอย่างกับพ่อเอกไปให้ข้า แล้วข้าจะไม่กลับมาที่นี่อีกเลย”
ยายอ่อนกับเอกรีบพากันลงเรือนไปอย่างรีบเร่ง

ฟากเรียมน้ำตาไหลไม่หยุด เพราะยังไม่หายสะเทือนใจ ส่วนขุนภักดีไม่สนใจใดๆ นอกจากจะมองหน้าลูก
“พี่มีลูกชายแล้วพี่ก็ได้ลูกสาว เทวดาใจดีแท้ๆ เรียมจ๋าพี่ขอบใจมากที่มีลูกสาวน่ารักแข็งแรงให้พี่”
“ค่ะ พี่เทพ”
“น้อยใจพี่ใช่ไหม ที่พี่ขู่เรียมตลอดเวลาเรื่องลูก ว่าถ้าลูกมีอันเป็นไปเราขาดกัน”
“ค่ะ พี่เทพ”
“พี่ขอโทษสักพันครั้ง อภัยให้พี่นะ เรียมคนดี”
“ค่ะ พี่เทพ”
“ไฮ้ นี่เรียมไม่อภัยให้พี่ดอก เรียมพูดน้อยก็จริง แต่ไม่ถึงกับค่ะ ค่ะอย่างนี้”
“เรียมอ่อนเพลียน่ะค่ะ พี่เทพ”
“พี่ช่วยอุ้มลูกให้จ้ะ ส่งมาให้พี่สิจ้ะเรียม”
เรียมส่งเด็กให้ ลอบมองกิริยาสามี ขุนภักดีทะนุถนอมเด็กน้อย มองแล้วมองอีก
“เอ๊ะ ยายหนูของพ่อ ช่างหน้าตา…”
ภาพใบหน้าเนียนยามที่โดนขุนภักดีโอบกอด ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด
แต่ขุนภักดีกลับเอ่ยขึ้น
“เหมือนลูกเทิดศักดิ์แท้ๆ ยายหนูของพ่อ ฟังนะคะ ลูกรัก นี่พ่อของหนู พ่อรักหนู หนูคือแก้วตาดวงใจของพ่อ พ่อกลัวหนูจะเป็นอะไรแทบแย่ ที่แท้หนูกลับแข็งแรง จนพ่อปลาบปลื้มที่สุดจ้ะ”
ขุนภักดีหันไปโอบกอดเรียมอีกคน ยิ้มอย่างมีความสุข เช็ดน้ำตาให้เรียม
“ไม่เอาน่าทูนหัวของพี่ มีลูกสาวสมใจ รอมานานสิบปี ยังจะมาร้องไห้ทำไม ยิ้มสิจ้ะ เดี๋ยวลูกสาวเราเสียใจร้องไห้ตามแม่นะจ้ะ ยายหนูจ๋า ดูหน้าคุณแม่ บอกคุณแม่ยิ้มให้หนูนะจ้ะ นั่นไงยายหนูลืมตาแล้ว”
“ไฮ้ พี่เทพ ลูกยังพูดไม่เป็นสักหน่อยค่ะ”
“พี่รู้ แต่พี่อยากเย้าให้เรียมยิ้มนี่จ้ะ”
เรียมยิ้มให้เด็กน้อย โดยมีขุนภักดีกอดไว้ เรียมรู้สึกดีเหลือแสน กับภาพครอบครัว พ่อแม่ลูกที่ฝันถึงมานาน พึมพำได้ยินคนเดียว
“ขอบใจมาก ขอบใจที่สุดจ้ะ เนียน

เช้าวันใหม่ ทองจันทร์ชะเง้ออยู่บนเรือนมองมาเบื้องล่าง
“นั่น นางกบนางแมวมันจะหอบฟูกหอบของเด็กไปไหนกัน”
แมวกับกบหอบหิ้วฟูกและของใช้เด็กกำลังหลบๆ ซ่อนๆ ไปทางหลังเรือน
“คุณนายเรียมท่านสั่งว่า อย่าให้ใครมาชิงเอาไปทิ้งซะกลางทางทีเดียว” กบว่า
“ใคร้จะไปใจจืดใจดำทำเช่นนั้นได้ ถ้าไม่ใช่” แมวบอก
สองคนประสานเสียง “นายบ่าวอเวจีคู่นั้น”
ขาดคำช้อยก็ปรากฏตัวออกมาทันที ถามอย่างเอาเรื่อง
“เอ็งสองคนขโมยฟูกขโมยของใช้ใครมา”
กบกะแมวมองหน้ากัน
“พายกระซิบที่ไหนบอกเอ็งว่าเราขโมยมา” แมวพูดกวนๆ
“เห็นทีท่าลับๆล่อๆของพวกเอ็งก็รู้แล้ว จะเอาไปไหน” ช้อยคาดคั้น
“ทำไมข้าต้องบอกเอ็ง เอ็งก็รู้ต่อไปสิ ว่าจะเอาไปไหน” แมวบอกไม่กลัวเกรง
“คุณสนให้มาหาฟูกให้หมาใต้ถุนเรือนคุณสน มันเพิ่งออกลูกมาห้าตัวพอดี” ช้อยบอกอีก
“เอ็งก็ฉีกผ้าถุงเอ็งทำฟูกมันสิ” กบบอก
“แต่คุณสนให้ข้ามาเอาที่พวกเอ็งถืออยู่นี่ ส่งมาซะดีๆ หาไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ถึงท่านขุนแน่ พวกเอ็งก็รู้ว่าท่านขุนรังเกียจลูกชู้แค่ไหน” ช้อยเอาขุนภักดีมาขู่
“ข้ามศพอีแมวไปก่อนดีไหมนางช้อย เออแน่ะจะแนะนำให้ ไปหาผ้าห่อศพผีไม่มีญาติที่ป่าช้ามาสิ มีถมไป”
“กูจะไปบอกนายกูว่าพวกมึง จะเอาของดีๆ ของคุณหนูคนใหม่ไปให้ลูกอีเนียน”
เสียงทองจันทร์แหลมเข้ามา “นางช้อย วางก้ามเบ่งเป็นนักเลงโตอะไรแถวเรือนข้ารึ”
ช้อยสะดุ้งโหยง กบกับแมวมองไป ตกใจเช่นกัน
สามคนประสานเสียง “คุณท่าน”
ทองจันทร์พูดสำทับซ้ำ
“ข้าถามเอ็งว่ามาเบ่งกล้ามเป็นนักเลงโตอะไรแถวเรือนข้านางช้อย”
ช้อยอึกอัก ส่วนแมวกับกบรีบเผ่นแน่บหายวับไป
“คือ คือว่าช้อยสงสัยว่า นางสองคนนั่นมันขโมยของดีๆ ของคุณหนูคนใหม่ไปให้ลูกของเนียนเจ้าค่ะ”
“เอ็งอยากรู้ เอ็งก็ไปถามคุณนายเรียมเองดีไหม เอ็งต้องหยุดวอนได้แล้วนางช้อย บ้านนี้ต้องการความสงบ จำไว้ว่าอย่ามาเบ่งแถวนี้อีก”

ทองจันทร์เอาจริง ช้อยจ๋อยรีบหลบไป
ที่กระท่อมน้อยข้างเล้าหมูของเนียน ฟูกถูกวางลงมีหมอนใบน้อย และมุ้งเล็กกางกันยุงและแมลง แล้วยังมีผ้าอ้อมผ้าห่มพร้อมที่เรียมให้กบกับแมวนำมาให้ เนียนอุ้มลูกน้ำตาซึม

“ฝากกราบคุณนายเรียมด้วย ช่วยเรียนท่านว่า ขอบพระคุณมาก
สองคนมองดูหน้าลูกเนียน
“ต๊าย หน้าตาเหมือน คุณหนูเทิดศักดิ์ ยังกับคลานตามกันออกมา” กบว่า
“แปลกแท้ๆ เห็นเนียนมีลูกแล้ว ข้าอยากมีลูกบ้างแท้ๆ” แมวระรื่น
“อยากมีแน่ๆ เอ็งไปหาผัวให้ได้ก่อนเหอะ นางแมว”
เนียนเยื้อนยิ้มไม่รู้จะพูดอะไร
“มีอาหารด้วยนะ คุณนายเรียมท่านให้เอามาให้เนียนกินชูกำลังจ้ะ” แมวว่า
“ท่านฝากบอกว่า ตอนนี้เนียนต้องพักฟื้นก่อน อย่าเพิ่งไปโหมงานหนัก” กบบอก
“เรื่องมันพูดยากจ้ะ ชั้นมีหน้าที่เลี้ยงหมูเป็นสำคัญ ถ้าชั้นไม่เลี้ยงหมูจะอดตายจ้ะ” เรียมบอก
กบกะแมวมองหน้ากัน
“เราเลี้ยงเองจ้ะ”
เนียนซึ้งใจนัก “กบ แมว”
สองคนยิ้มให้เนียน

ยายอ่อน กำลังเอาดอกไม้มาปลูกทับที่หลุมฝังศพลูกสาวของเรียมตรงท้ายวัดใกล้บ้านภักดีภูบาล ตกแต่งจนดูไม่รู้ว่านี่คือหลุมฝังศพ เอกเดินมาส่งถุงเงินให้
“100 ชั่ง ตามสัญญาจะยายอ่อน”
ยายอ่อนยกมือท่วมหัว “ช่างเมตตาคนยากคนจน คนสิ้นหนทางแท้ๆ”
“ตรงนี้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมยาย” เอกถาม
“ดูสิดอกไม้สวยงาม ไม่มีใครรู้ดอกว่านี่คืออะไร วานฝากพ่อเอกมาคอยดูดอกไม้บ้าง อย่าให้มันจางหายไป เดี๋ยวคุณหนูเธอจะไม่ได้อยู่กับสิ่งสวยงาม” ยายอ่อนบอก
“จ้ะยาย รีบไปเถิด ปิดปากให้สนิท ทีเดียว”
ยายอ่อนพยักหน้า เอกยิ้มพลอยสบายใจไปด้วย

ส่วนขุนภักดีมาหยุดยืนมองไปทางเรือนพักของเนียน พยายามมองไปแต่ไม่เห็นสิ่งใดเพราะห่างไกล
ขุนภักดีได้แต่รำพัน “ทำไม ทำไม”

ช้อยมาฟ้องดังเคย
“ทำไมพี่ขุนไม่เฉดหัวมันไปซะตั้งแต่วันที่จับได้ว่ามันมีชู้นะ”
“ถึงว่าละสิเจ้าคะ ทำไมไม่เฉดหัวมันไป ทั้งที่ใครมีเมียแบบนี้ ไม่ฆ่าให้ตาย ก็ไม่เอาไว้ประจานตนเองคาบ้านอย่างนี้ดอกเจ้าค่ะ”
“เป็นเพราะพี่ขุนไม่อยากลืมมัน พี่ขุนลืมมันไม่ลง พี่ขุนไม่ต้องการลืมมัน” สนเริ่มคลั่งกรี๊ดแตก “นี่พี่ขุนรักมันมากมาย เกินกว่าที่ข้าคิด ข้าจะทำอย่างไรดีช้อย”
ช้อยเสี้ยมทันที “ใส่ร้ายมันอีกเจ้าค่ะ”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“พยายามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เรื่องจนได้เจ้าค่ะ เอ้อ คุณสนเจ้าขาช้อยแนะนำว่า ช่วงนี้ท่านขุนต้องเห่อลูกสาวมากๆ คงไม่มาเรือนนี้บ่อยๆเหมือนเคยดอกเจ้าค่ะ”
“จะให้ข้าทำอย่างไรรึ”
“พาคุณหนูเทิดศักดิ์ไปประชันกับคุณหนูบ้านโน้นเจ้าค่ะ”
สนพยักหน้า

ขุนภักดีกำลังเชยชมลูกสาวอยู่กับเรียมที่ชานเรือน
“เรียมจ๊ะ ดูลูกสาวเราสิ แข็งแรง ยิ้มเก่งด้วยจ้ะ”
“ค่ะ ยิ้มเก่งมากๆ เลยค่ะ”
ทองจันทร์มากับกบและแมว
“ไหนมาให้ย่าชื่นใจหน่อยสิหนูคนสวยจ๋า”
เรียมส่งเด็กให้ทองจันทร์มองแล้วทำท่าสงสัย นึกถึงหน้าเด็กที่ตนดูครั้งแรกตอนยังไม่เปลี่ยนตัว ทองจันทร์มองหน้าเด็กในมือยามนี้แล้วร้องขึ้น
“เอ๊ะ”
“มีอะไรครับคุณแม่”
“เมื่อวานยายหนูยังปากเหมือนพ่อเทพเหมือนแม่อยู่เลยจ้ะ”
เรียมรีบแก้ “แหม คุณแม่ขา เด็กก็หน้าตาคล้ายกันทุกคนแหละค่ะ”
“คุณแม่ตาฝาด ลำเอียงอยากให้ยายหนูหน้าเหมือนคุณแม่กับผม”
ทองจันทร์ชักเขว “อาจเป็นได้ เอ วันนี้ดูไปดูมาหน้าตาไปละม้ายคล้าย คล้ายเอ้อ...”
จู่ๆ ใบหน้าของเนียนก็ผุดขึ้นมาในมโนภาพ

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 6/3 วันที่ 4 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager