อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/3 วันที่ 11 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/3 วันที่ 11 เม.ย. 56

“เนื้อทองเขากำลังมุอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าคุรุศาสตร์จ้ะ”
“ผมทราบครับ น้องเขาบอกผมแล้ว” สีหน้าเทิดศักดิ์ดูกระชุ่มกระชวย กระฉับกระเฉงมาก
สักครู่จึงเห็นสองสาวแฝดพากันเข้ามาสองแต่งชุดมัธยมปลาย เสื้ออยู่ในประโปรง เข้ามาไหว้ครูนฤมล
“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิจ้ะ พี่เขามารับกินข้าวไปดูหนัง”
เทิดศักดิ์มองเนื้อทองอย่างชื่นชม ทานตะวันเห็นสายตาพี่ไม่พอใจเนื้อทองมากๆ

ไม่นานหลังจากนั้นภายในห้องพักส่วนตัวของทานตะวัน และเนื้อทอง ทานตะวันเอ่ยขึ้น
“รู้นะว่าพีเทิดศักดิ์ไม่อยากจะมารับฉันดอก แต่เขาอยากจะมารับเธอยัยติ๋ว ดูสิเนื้อเต้นใหญ่แล้ว” ว่าพลางหยิกเนื้อเนื้อทองด้วยความหมั่นไส้


“เอ้อ ไม่จริงดอกค่ะ เอ้อ คุณหนูอี๊ดจะใส่ชุดไหนคะ ฉันจะหยิบให้”
“ใส่ชุดไหนก็ได้ที่เธอเห็นว่าสวย อย่าให้สวยน้อยกว่าเธอก็แล้วกัน”
เนื้อทองหยิบมาให้ “นี่ค่ะ”
ทานตะวันรับเสื้อผ้ามาจากเนื้อทองที่หยิบให้ใส่มาแนบตัว
“ยัยเนื้อทอง เธอว่าชุดนี้สวยแล้วหรือ”
“สวยค่ะ ชุดของคุณหนูอี๊ดสวยทุกชุดค่ะ”
“แล้วเธอจะใส่อะไรเล่า รู้นะว่าคุณแม่แอบซื้อชุดให้เธอตอนมาเยี่ยมครั้งก่อน”
“ค่ะ”
ทานตะวันเอาเสื้อไปหาที่เปลี่ยน เนื้อทองเดินไปหยิบชุดที่เรียมซื้อให้ พอหยิบออกมาตกใจมาก เพราะชุดโดนตัดขาดรุ่งริ่งไปหมดทั้งสองชุด ทานตะวันแอบมองมาจากฉากเปลี่ยนชุด ยิ้มเยาะสะใจ

เนื้อทองน้ำตาคลอ รู้ทันทีว่าฝีมือใคร
เทิดศักดิ์มารอที่รถ ยิ้มย่องดีใจจะได้ใกล้ชิดเนื้อทอง หนุ่มน้อยยืนพิงรถชะโงกรอสองสาว

สักครู่หนึ่งเทิดศักดิ์มองไปเห็นสองสาวกำลังเดินมา ถึงกับขมวดคิ้ว เทิดศักดิ์เห็นทานตะวันแต่งตัวสวยแจ่มมาก มีเนื้อทองเดินตามหลัง ใส่เพียงกระโปรงนักเรียนตัวเดิมกับเสื้อแขนสั้นเรียบๆ กลางเก่ากลางใหม่
“อะไรกันนี่”
ทานตะวันกับเนื้อทองเดินมาถึงรถแล้ว
“หนูอี๊ดสวยไหมคะ พี่เทิดศักดิ์”
เทิดศักดิ์ตามองที่เนื้อทองเป็นคำถาม แต่ปากตอบทานตะวัน
“สวยสิ พี่หวังว่าน้องอี๊ดคงสวยทั้งเสื้อและสวยทั้งหัวใจนะจ๊ะ”
“พี่เทิดแขวะน้องอีกแล้ว ไปกันหรือยังคะ”
“ขึ้นรถสิจ๊ะสาวๆ”
“ฉันจะนั่งข้างหน้ากับพี่เทิดศักดิ์ ยัยติ๋วเธอไปนั่งข้างหลัง”
“ค่ะ”
“นั่งข้างหลังกับเพื่อนพี่เทิดศักดิ์ บางทีพี่คนนั้นเขาอาจจะเลิฟแอทเฟิร์สไซท์เธอขึ้นมาก็ได้” ทานตะวันแขวะ
“เอ้อ อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ”
“ใช่ไม่ควรพูดอย่างนั้น สิน้องอี๊ด เป็นสาวเป็นนางเขาไม่พูดเรื่องชู้สาวกันโจ่งครึ่มแบบนี้หรอก” เทิดศักดิ์ตำหนิ
“แหมก็ไหนว่าเพื่อนคนนี่ของพี่เทิดศักดิ์ เป็นคนขายอาหาร ก็น่าจะคู่ควรกับยัยติ๋วแล้วแหละ”
“พี่ขอโทษด้วนนะ เนื้อทอง น้องอี๊ดชอบพูดจา ไม่เอาอ่าวเสมอ พูดจาแบบนี้สิมิน่า ถึงสอบเกือบตก ก็ยังดีระวังอย่าให้กลายเป็นสอบเกือบได้ คุณพ่อกับคุณนายแม่ จะน้ำตาตก คอยดูเถิดเจอเพื่อนพี่แล้วจะพูดไม่ออก”
พูดจบเทิดศักดิ์ก็กระชากรถออกไปโดยแรง จนทานตะวันหัวคะมำ

ฟากแดงน้อยใส่ชุดนักเรียนนายร้อยมาดโก้มากยืนตัวตรง สายตาไม่วอกแวกและดูหล่อมากๆ ผู้คนเดินผ่านแถวนั้นหันมามองเป็นตาเดียวอย่างชื่นชม
รถของเทิดศักด์ ซึ่งเป็นรถเปิดประทุนขับมาช้าๆ เทิดศักดิ์สอดส่ายตาหาแดงน้อย ทานตะวันชักสีหน้า
“อะไรกันคะ มานัดกันตามข้างถนนรนแคม พี่เทิดศักดิ์มีเพื่อนจนๆ ด้วยหรือคะ”
“ไม่ต้องถามดอกนะ ถ้าน้องอี๊ดไม่พอใจ เดี๋ยวพี่พบเพื่อนแล้วจะพาน้องอี๊ดกลับไปส่งที่โรงเรียนคุณป้านฤมล”
เนื้อทองมองไปเห็นนักเรียนนายร้อยยืนโก้อยู่ ยิ้มน้อยๆ อย่างชื่นชม ส่วนทานตะวันก็เห็นเช่นกันตื่นเต้นในความโก้
“ตาย นักเรียนนายร้อย คนนั้นโก้จังแถมหล่อมากด้วย”
เทิดศักดิ์หัวเราะหึๆ เบนรถเข้าไปจอดเทียบที่แดงน้อยยืนตรงแหนวอยู่
“ขึ้นรถสิ แดงน้อย”
แดงน้อยหันมาเห็นเทิดศักดิ์จอดรถ ยิ้มพยักหน้าให้
แฝดทั้งสองสาวอึ้ง เห็นแดงน้อยเดินตัวตรงมาดเท่ห์มาที่รถ
“นักเรียนนายร้อยนี่หรือคือเพื่อนที่เทิดศักดิ์” ทานตะวันคาดไม่ถึง
แดงน้อยเดินมาถึงรถ เทิดศักดิ์แนะนำ
“หนูติ๋ว น้องอี๊ด นี่แดงน้อยเพื่อนรักที่สุดของพี่”
เนื้อทองยกมือไหว้ก่อน เนื้อทองรีบไหว้ตาม
แดงน้อยกับเนื้อทองประสานสายตาพอใจกัน ทางนตะวันเห็นสายตาทั้งคู่ไม่พอใจ
“สวัสดีครับ คุณอี๊ด คุณติ๋ว” แดงน้อยทักทาย
ทานตะวันเปิดประตูลงมาจากรถ “ยัยติ๋วลงมาสิเธอมานั่งข้างหน้ากับพี่เทิดศักดิ์ฉันจะนั่งข้างหลังกับพี่แดงน้อย”
เนื้อทองลงมาอย่างงงๆ
“เชิญค่ะ พี่แดงน้อย” ทานตะวันยิ้มหวาน
แดงน้อยก้มหัวให้
“เชิญคุณอี๊ดก่อนครับ”
แดงน้อยเปิดประตูให้ ทานตะวันเข้าไปนั่ง แล้วเปิดประตูให้เนื้อทองไปนั่งด้านหน้าคู่เทิดศักดิ์ จากนั้นแดงน้อยจึงเข้าไปนั่งข้างๆ ทานตะวัน

เทิดศักดิ์ส่ายหน้าเอือมระอาทานตะวันที่เรื่องเยอะ ก่อนจะขับรถแล่นไปตามถนน
ขณะเดียวกันที่บ้านภักดีภูบาล กบกับแมวกำลังวุ่นวายถือข้าวของเครื่องนอนหอบขึ้นหอบลง สองคนหัวเราะคิกคัก

“โชคดีของหนูติ๋วแท้ๆ คุณท่านก็โปรด คุณนายเรียมก็รัก”
“ห้องเก่าของคุณนายเรียมที่เรือนนี้ก็สวยหรูดูดีอยู่แล้ว ท่านยังสั่งจัดใหม่ให้หนูติ๋วอีก”
“บุญของเด็ก ที่แม่ทำไว้ให้ จึงได้กินบุญเก่าของแม่” กบยิ้มร่า
แมวหน้าสลด “แต่แม่น่ะสิกินกรรมเก่าที่คนใจร้ายบังคับให้กินจนสำลักแล้วยังไม่หมดสักที”
“พวกเอ็งสองคนซุบซิบนินทาอะไรพวกข้า” ทองจันทร์โผล่มาพร้อมเรียม
“เปล่านินทาเจ้าค่ะ แต่ชื่นชมโสมนัสปิติยินดีปรีดาปราโมทย์เจ้าค่ะ” กบบอก
“เอ็งชักจะเจ้าบทเจ้ากลอนมากไปแล้วจริงๆ นางกบ นางแมว เอ็งนินทาว่ากระไรบอกมานะ”
“บอกว่าคุณท่านกับคุณนายเรียม ช่างเมตตาปราณีมีน้ำใจต่อเนียนและหนูติ๋วมาก เจ้าค่ะ” แมวว่า
“ข้ากับคุณนายเรียมเห็นว่าเขาโตเป็นสาว จะมานอนกอดแม่เป็นเด็กอ่อนอยู่ได้ยังไง”
“ฉันให้รางวัลที่เขาเป็นเด็กดี รับใช้คุณแม่ รับใช้ฉัน แล้วยังเรียนเก่งเสมอต้นเสมอปลาย เนียนโชคดีที่ลูกสาวเอาถ่าน ผิดกับชั้น” เรียมถอนใจ “ที่หนูอี๊ดไม่ยอมเอาไหนสักอย่างเดียว”
“เอาอย่างคุณสนเจ้าค่ะ” กบเสนอหน้า
“นางกบ เอ็งอยากเอาไม้ตะพดท่านขุนเคาะกบาลไหม”
ทองจันทร์เอ็ดเอา สองคนแอบยิ้มแล้วเงียบไป
“เอ้อ เธอยังเด็กน่ะค่ะ อีกสักหน่อยเธอก็เข้าที่เข้าทางเองเจ้าค่ะ” เนียนบอก
“กลัวว่าจะไปเข้าที่เข้าทางของคนอื่นไม่ใช่ของแม่เรียมน่ะสิ” ทองจันทร์ก็ท้อใจไม่ต่างกัน
“เอ้อ เรื่องห้องของหนูติ๋ว เนียนขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ แต่ความจริงเราสองคนได้ขึ้นมานอนบนเรือนคุณท่าน ก็เมตตาเรามากโขแล้วเจ้าค่ะ” เนียนเกรงใจไม่เลิก
“สมัยนี้เขาไม่มีทาสกันแล้ว ใจคอเอ็งคิดว่าข้าจะใช้พวกเอ็งสองคนแม่ลูกทำงานแค่ให้แลกข้าวกินเท่านั้นรึ” ทองจันทร์ว่า
“หามิได้เจ้าค่ะ สำหรับเนียนกับลูกแค่แลกข้าวเพื่อทดแทนพระคุณก็เกินคุ้มเจ้าค่ะ แต่ท่านให้มากจนเนียนเกรงใจน่ะเจ้าค่ะ”
“เกรงใจและเกรงกลัวคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แล้วจะหาความสุขในชีวิตได้ตอนไหนรึ เนียน”
“หยุดโง่ไม่เข้าเรื่องสักที นางแมว นางกบ เอ็งสองคนรีบไปจัดห้องไวๆ เข้า”
สนเดินขึ้นเรือนมาเห็นข้าวของ
“นั่นคุณแม่จะเปลี่ยนเครื่องนอนใหม่หรือคะ”
“เปล่า ฉันต่างหาก”
เรียมตอบเสร็จดึงแขนเนียนเดินตามพวกกบแมวไปยังห้องเก่าตัวเอง
“เขาเปลี่ยนใหม่ให้ลูกสาวเนียนน่ะ”
“อะไรนะคุณแม่”
สนพรวดตามพวกเรียมไป ทองจันทร์ส่ายหน้า
“โรคริษยา นี่อาการหนักกว่าโรคริดสีดวงทวาร แท้ๆ”
ทองจันทร์เดินตามไปบ้างอย่างช้าๆ

ทุกคนเข้ามาในห้อง กบ แมว และเนียนกำลังจัดแจงโดยมีเรียมคอยสั่งการ เนียนนั้นมีท่าทีไม่ค่อยสบายใจ
สนตามมาถึงในห้อง
“คุณพี่ ทำอะไรมากเกินเหตุเลยเถิดไปหรือเปล่าคะ พี่ขุนรู้เข้าจะเคืองเอานะคะ”
“เขารู้แล้ว” เรียมบอกเสียงเรียบ
“เลี้ยงควายยังต้องมีใจให้เขา เลี้ยงคนก็ต้องไม่ใจเมตตาไม่ใช่กดขี่ชี้หน้าว่าอีขี้ข้าตลอดชาติแม่สนเอ๊ย” ทองจันทร์ว่า
“สนเพียงแต่ห่วงจิตใจหนูอี๊ด เอ็งมักบ่นกับสนเสมอว่าคุณแม่กับคุณย่ารักเด็กติ๋วมากกว่าเอ็ง ไม่ถามความเห็นแกก่อนหรือคะ”
“ฉันเป็นแม่ไม่ใช่ลูกหนูอี๊ดนะสน บางอย่างไม่ต้องถามความเห็นดอกสน อย่ากังวลแทนลูกฉันไปนักเลย ฉันสิควรกังวล ว่าหนูอี๊ดเชื่อฟังสนมากกว่าฉัน”
สนแอบหน้างอ พวกกบแมวแอบสบตาปิดปากหัวเราะ สนแอบจ้องหน้าเนียนที่รีบเมินไปทางอื่น
“นางกบนางแมว นางลูกขุนพลอยพยัก นางทนายหน้าหอ น่าหมั่นไส้นัก”
สนกระทืบเท้าออกไปจากห้อง

รถของเทิดศักดิ์มาจอดหน้าร้านกาแฟไทยเจริญ ทานตะวันและเนื้อทองมองไปที่หน้าร้าน เห็นสภาพร้านเปลี่ยนไป กลายเป็นร้านอาหารดูหรูหรากว่าสมัยก่อน มีป้ายชื่อป้ายใหม่ใหญ่ชัดเจนกว่าเก่า
“ร้านกาแฟไทยเจริญ” เด่นหรา
ทานตะวันแปลกใจมากที่เห็น ร้านกาแฟไทยเจริญ หรูหราดี แท้ๆ เทิดศักดิ์บอกสองสาว
“นี่แหละจ้ะร้านของพี่แดงน้อยจ้ะ สาวๆ”
“ไหนว่าเราจะมากินอาหารกันคะ พี่แดงน้อย”
“ครับ เราขายอาหารด้วย” แดงน้อยบอก
“อาหารฝรั่งหรือคะ น้องชอบกินอาหารฝรั่งมาก” ทานตะวันตื่นเต้น
“อาหารไทยครับ ลาบส้มตำ ข้าวเหนียวไก่ย่าง ชอบไหมครับ น้องๆ”
ทานตะวันนิ่ง เทิดศักดิ์ตอบแทน
“นี่แหละอาหารโปรดของน้องติ๋ว”
แดงน้อยมองหน้าเนื้อทองที่ยิ้มอายๆ แต่ทานตะวันหน้าคว่ำ
“แล้วใครว่าน้องรังเกียจ เพียงแต่เข้าใจผิดคิดว่าที่นี่มีแต่อาหารฝรั่ง”
“เดิมทีลุงโพล้งกับแม่แพร ขายกาแฟ กับขนมปังสังขยา ต่อมาเพิ่มอาหารไทยตามสั่ง มีคนมากินกันมากขึ้นก็เลยขยายใหญ่ขึ้นครับ” แดงน้อยอธิบาย
“แหม แสดงว่ากิจการดีมาก สมัยนี้เป้นพ่อค้านี่ร่ำรวยนะคะ...” ทานตะวันปะเหลาะเอาใจ
“อย่ามัวตื่นเต้น เราจะลงจากรถกันได้หรือยัง จ๊ะ สาวๆ”
เทิดศักดิ์พูดกับทานตะวันแต่ตามองเนื้อทองตลอดเวลา เนื้อทองยิ้มๆ ไม่พูดว่าอะไร แดงน้อยก็ลอบมองเนื้อทองเช่นกัน
ทานตะวันมองสองหนุ่มแล้วชักหงุดหงิด แดงน้อยรีบลงจากรถเปิดประตูให้ทานตะวันลง เช่นเดียวกันกับที่เทิดศักดิ์รีบลงมาเปิดประตูให้เนื้อทองลง
ทานตะวันกระซิบบอกแดงน้อยอย่างจงใจ “พี่เทิดศักดิ์เขาหลงเสน่ห์ร้อยเล่มเกวียนของเด็กติ๋ว”
แดงน้อยสะดุ้งกับคำเรียกขาน “เอ้อ อ้อ” เด็กหนุ่มพูดเบาๆ ได้ยินคนเดียว “เด็กติ๋ว”
“เชิญเข้าไปในร้านครับสาวๆ แดงน้อยกันขออนุญาตทำตัวเป็นเจ้าของร้านสักวันนะ รู้ไหมสาวๆ วันนี้วันเกิดพี่แดงน้อย”
ทานตะวันดี๊ด๊า “วันเกิดพี่แดงน้อย ตายจริง พี่เทิดไม่ยอมบอกน้องเลยเสียมารยาท ไม่มีของขวัญมาอวยพร สุขสันต์วันเกิดค่ะ พี่แดงน้อย”
“แค่คำอวยพรก็พอแล้ว ขอบคุณมากครับ”
ส่วนเนื้อทองได้แต่สบตาพร้อมกับยิ้มให้ แต่สายตาแสดงว่ายินดี แดงน้อยยิ้มตอบ
“น้องติ๋วอวยพรพี่แดงน้อยบ้างสิจ้ะ” เทิดศักดิ์บอก
“เอ้อ ขอให้พี่แดงน้อยสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาค่ะ”

แดงน้อยยิ้มปลื้ม
ทานตะวันเห็นเข้า ก็ชักสีหน้ากระซิบแดงน้อยอีก

“เด็กติ๋วชอบตีเสมอว่าเป็นคนในครอบครัวเรา ที่แท้ลูกคนเลี้ยงหมูที่บ้านน่ะค่ะ”
แดงน้อยอึ้งอีกรอบ
“อ้อ” แดงน้อยปรายตามองเนื้อทอง ทั้งเห็นใจสงสารยิ่งแอบชอบ
เทิดศักดิ์เห็นทานตะวันซุบซิบ รู้ทันว่าแอบนินทาเนื้อทอง จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง ถามย้ำเรื่องลุง
“น้องติ๋วน่ะ กันนับเป็นญาติสนิทที่สุด”
“ขอบคุณมากค่ะ” เนื้อทองยิ้มให้
“กันเคยพบลุงสินครั้งเดียวตอนอายุหกเจ็ดขวบ เลยจำหน้าไม่ได้ วันนี้ลุงสินจะมาวันเกิดแกไหม”
“ไม่รู้สิ แต่ลุงไม่เคยลืมวันเกิดของกัน เชิญครับ น้องอี๊ด น้องติ๋ว”
“ขอให้ลุงสินมาทีเถิด ไม่รู้ว่าเป็นยังไงทำไมกันถึงติดใจลุงสินของแกนัก”
แดงน้อย ผายมือเชิญทุกคนเข้าไปในร้าน

ระหว่างนั้นที่ถนนฝั่งเดียวกัน แต่ห่างออกไปจากรถเทิดศักดิ์ที่จอดอยู่ หนักสวมหมวกหลุบหน้า ใส่เสื้อผ้าดูดีมาก ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ กำลังจะเดินมาที่ร้าน ชะงักกึก
“นั่น นั่น แดงน้อย กับ กับ....”
หนักแอบดู แต่หลบซุ่มเหมือนกลัวใครเห็นเข้า
หนักเขม้นมองไปที่สี่คน จ้องเน้นที่คอเทิดศักดิ์ใส่สร้อยแขวนพระของหนักที่ฝากขุนภักดีไว้ให้
หนักตื้รตันจนน้ำตาซึม พึมพำ
“พระองค์นั้น เขาแขวนพระองค์นั้น เทิดศักดิ เทิดศักดิ์ ลูกรักของพ่อ”
หนักเพ่งมองไปที่เทิดศักดิ์แล้วรีบหยิบแว่นดำมาใส่ กลัวใครจำได้

หนักยืนมองทั้งสี่คนที่กำลังเดินเข้าร้าน จดสายตาจ้องสร้อยคอทองคำที่ห้อยพระองค์ที่หนักให้ไม่วางตา เทิดศักดิ์รู้สึกเหมือนมีคนมอง จึงหยุดเดินหันกลับไปมองทางหนัก แล้วเทิดศักดิ์มีสีหน้าแปลกใจ เพราะเห็นหนักจ้องมองมา

สามคนเดินต่อแต่เทิดศักดิ์หยุดกึก
“เอ๊ะ ผู้ชายคนนั้น แดงน้อยแกดูผู้ชายคนนั้นสิ”
เทิดศักดิ์หันไปกระตุกเขนแดงน้อย
“ผู้ชายคนไหนหรือ”
แดงน้อยหันกลับมามอง ทุกคนหันมองตามที่เทิดศักดิ์ชี้มือไป แต่ที่ตรงนั้นว่างเปล่าไปแล้ว

ทุกคนไม่เห็นใคร
สามคนบอกพร้อมเพรียง “ไม่เห็นมีใคร”
“เขาหายไปแล้ว” เทิดศักดิ์ว่า
ทานตะวันโวยวายตามประสา “โจรหรือเปล่า ตายแล้ว มันจะมาปล้นร้านพี่แดงน้อย”
“อย่าเดาสุ่มน้องอี๊ด เขามองมาที่พวกเรามองเอาแต่สายตาเขาเป็นมิตร หน้าตาเขาก็ดีมาก เหมือนพี่เคยเห็นที่ไหนแต่นึกไม่ออก” เทิดศักดิ์ดุไม่พอใจมาก
“ที่นี่ไม่มีโจรดอกครับ วางใจได้ เชิญครับ”

ทั้งหมดจึงพากันเข้าไปในร้าน
ฝ่ายหนักแอบมองเทิดศักดิ์ต่อ ตื้นตันจนน้ำตาซึม พึมพำกับตัวเอง

“เขาแต่งชุดนิสิต เขาจะเรียนวิชาปกครอง ไปเป็นปลัดอำเภอ นายอำเภอ ปลัดจังหวัด ชะรอยเราคงโดนฆ่าตายก่อนเห็นเขา เป็นข้าหลวง เขากับแดงน้อยอยากจับโจร พวกเขารู้เมื่อไหร่ไม่ปล่อยเรารอดไปให้หนักแผ่นดินแน่”
หนักทอดถอนใจ เอน็จอนาถชะตาชีวิตของตน

เทิดศักดิ์ยกมือไหว้แพรกับโพล้ง ที่แม้จะฐานะดีขึ้นมากแต่งตัวดีขึ้นมานิดหนึ่ง ถึงยังไงก็ยังดูบ้านๆ ติดดิน
“สวัสดีครับ แม่แพร ลุงโพล้ง”
เนื้อทองรีบยกมือไหว้ตามทันที โดยไม่ต้องมีใครบอกกล่าว
“สวัสดีค่ะ แม่แพร ลุงโพล้ง”
แต่ทานตะวันกลับยืนเชิดเฉย เพราะดูสองคนไม่คู่ควรแก่การไหว้
“สวัสดีจ้ะ เทิดศักดิ์” แพรมองเนื้อทอง “นั่น ใครกันจ๊ะ มืออ่อนดีแท้ๆ” แพรมาจับมือถือแขนเนื้อทองอย่างชื่นชม

“น้องสาวผมเองครับแม่แพร” เทิดศักดิ์บอก
“ไม่ยักรู้ว่าเทิดศักดิ์มีน้องสาวฝาแฝด” โพล้งว่ายิ้มๆ
ทานตะวันรีบออกตัว “ฉันไม่ใช่ฝาแฝดกับเด็กติ๋ว เด็กติ๋วเป็น…”
เทิดศักดิ์รีบบอก “ลูกสาวน้าเนียน”
โพล้งแพรกะแพรตกตะลึง “น้าเนียน”
“ครับ น้าเนียนที่ผมเคารพรักเหมือนน้าของผมแท้ๆ ครับ เราอยู่บ้านเดียวกันที่สุพรรณครับ น้องอี๊ดสวัสดีลุงโพล้งกับแม่แพรของพี่แดงน้อยสิ”
โพล้งผวาไปอีกคน แพรขยับไปโอบกอดติ๋วโดยอัตโนมัติ ทำให้เทิดศักดิ์ แดงน้อย และทานตะวันต่างแปลกใจมาก เนื้อทองเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าแพรจะมากอด ส่วนทานตะวันจำใจยกมือไหว้สองคนแกนๆ
“สวัสดีค่ะ”
“อุ๊ย...เอ้อ” เนื้อทองตกใจที่ 2 คน มะรุมมะตุ้ม
“ช่างน่ารักน่าเอ็นดูอ่อนหวานเหมือน.. น..” แพรจะหลุดปากว่า...เนียน
“ฮะแอ้ม ก้างปลาหมอติดคอ แค๊กๆๆ” โพล้งรีบแก้
นั่นทำให้แพรนึกได้ ไม่พูดต่อ
“เหมือนใครรึ” เนื้อทองฉงน

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/3 วันที่ 11 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager