อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 9-10 วันที่ 12 เม.ย. 56


อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 9

ชลลดาถูกมณีหมายหัวถึงกับร้องไห้โฮบีบน้ำตาอ้อนเขมทัต “คุณพี่ขา...ชลผิดไปแล้ว ชลพลาดเสียท่าเอง ไปเข้าบ่อนจนติดหนี้ ไอ้พวกแก๊งที่นั่นอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดส่งตัวแม่นี่มาเพื่อคอยดูดเงินจากบ้านนี้”

ไข่มุกตกใจไม่คิดว่าชลลดาจะเอาตัวรอดด้วยการแต่งเรื่องใส่ร้ายตนขนาดนี้ แถมพอเธอท้วงว่าไม่ใช่ ชลลดาก็รีบแผดเสียงกลบจนเธอไม่กล้าพูดความจริง

“ไม่ใช่ตัวจริงน่ะสิ ไม่ต้องแก้ตัวอะไรอีกแล้ว... คุณพี่ขา...พวกบ่อนมันขู่จะฆ่าชลกับลูก ชลเลยต้องยอมให้สลับตัวกับหนูลูกไก่เพื่อให้นังนี่ดูดเงินจากคุณรินทร์ได้ถนัดค่ะ”


“นี่หมายความว่าบ้านฉันกำลังโดนรุมกินโต๊ะแบบยกแก๊งเหรอ นึกอยู่แล้วเรื่องนี้มันทะแม่งตั้งแต่ต้น...แก... นังสะตอ” มณีชี้หน้าไข่มุกอย่างเอาเรื่อง แต่คีรินทร์ยังไม่ปักใจเชื่อ ค้านว่าเป็นไปไม่ได้ ไร้สาระ แล้วคาดคั้นไข่มุกให้พูดออกมาว่าไม่จริง

“ไม่ได้ล้อเล่นค่ะ เรื่องสลับตัวเรื่องจริง แต่เรื่องที่...” ไข่มุกไม่กล้าพูดต่อเพราะชลลดาถลึงตาดุดัน

“เรื่องแดงขนาดนี้แล้วยอมรับซะเถอะ ฉันเองทนไม่ไหวแล้วก็อึดอัดจะตายชัก คุณพี่เขมขา...ชลยอมตายดีกว่านั่งปอกลอกพี่เขมไปชั่วชีวิต”

“หนูก็ยอมตายกับแม่ ไม่เอาแล้ว มันโหดมาก พวกเราถึงต้องหนีมาที่นี่ มันยังสั่งให้ช่วยแม่นี่รีดไถเงินให้ได้มากที่สุดด้วยนะคะ”

ชลลดากับภัททิมาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยรวมหัวกันเล่นละครตบตาทุกคน ไข่มุกน้ำตาคลออย่างเจ็บใจ คีรินทร์มองคนโน้นคนนี้แล้วพูดโพล่ง

“ยังไงก็ไม่เชื่อ บอกซิว่าเธอไม่ได้ถูกส่งตัวอะไรมาจากบ่อนนั่น...ลูกไก่ ไข่มุก จะชื่อบ้าอะไรก็ช่างเถอะ บอกแต่ว่าไม่จริงได้ไหม เธอไม่ได้หลอกฉัน บอกสิ”

ไข่มุกเอาแต่ร้องไห้ไม่กล้าพูด มณีฉุนจัดเดินมาตบหน้าแล้วไล่ออกจากบ้าน ชลลดากับภัททิมาสะดุ้งแต่รีบเก็บอาการ นุชนารถลอบยิ้มสะใจ ไข่มุกทนสู้หน้าใครต่อใครไม่ไหววิ่งขึ้นห้องไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า คีรินทร์ตามเข้ามาสีหน้าขึงขังน่ากลัว

“นี่มันเรื่องอะไรกัน เธออธิบายให้ฉันฟังชัดๆ หน่อยซิ”

“คุณก็ได้ยินไปหมดแล้ว จะมาถามอะไรอีก”

คีรินทร์ยื้อยุดไม่ยอมให้ไข่มุกเก็บเสื้อผ้า มองหน้าเธออย่างคาดคั้น “เธอเป็นคนที่บ่อนส่งมารีดไถบ้านฉัน แล้วเธอมีเหตุผลอะไรมาสารภาพวันนี้”

“ฉันมีเหตุผลของฉัน ปล่อยเถอะค่ะ ฉันต้องรีบไป”

“เธอจะไปง่ายๆแบบนี้เหรอ แล้วระหว่างเราไม่มีความหมายเลยหรือไง เธอรู้สึกอะไรกับฉันบ้างไหม มาทำดีกับฉันทำไม”

ไข่มุกน้ำตาร่วงอย่างปวดร้าว คีรินทร์ตาแดงก่ำความรู้สึกเจ็บช้ำไม่ต่างกัน

“บอกฉันซิว่าเธอไม่รู้สึกอะไร ฉันไม่สำคัญอะไรเลยสำหรับเธอใช่ไหม เป็นแค่ไอ้โง่ที่มีเงินให้เธอไถ”

หญิงสาวร่ำไห้สะอึกสะอื้น คีรินทร์เดินไปฉีกบอร์ดกระดาษสะสมแต้มทั้งของตัวเองและของไข่มุกแล้วขย้ำปาใส่หน้าเธอพร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธสุดขีด

“ไป...จะไปไหนก็ไปให้พ้น!”

ไข่มุกน้ำตานองหน้า หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าลงบันไดมาเจอมณีตีหน้ายักษ์ สั่งช้อยเอากระเป๋ามาค้นดูว่าขโมยอะไรไปบ้าง แม้ไข่มุกยืนยันว่ามีแต่เสื้อผ้าก็ไม่ฟัง

“ไม่มีใครเชื่อแกแล้ว เกลียดนักไอ้พวกปลิ้นปล้อน อย่าหวังว่าจะฉกอะไรไปจากบ้านนี้ได้แม้แต่ชิ้นเดียว”

“แจ้งตำรวจลากคอมันเข้าคุกเลยค่ะ เดี๋ยวนุชจับมันไว้เอง”

ชลลดากับภัททิมากลัวเรื่องจะซัดทอดมาถึงตัวเอง ตวาดใส่นุชนารถว่าบอกตำรวจให้โง่หรือไง พวกนักเลงจะได้แห่มาฆ่าหมดบ้าน แค่พวกตนรวมกันไล่มันก็หัวซุกหัวซุนหนีไม่ทันแล้ว

“คุณนายคะ ไม่เจออะไรเลยค่ะ มีแต่เสื้อผ้าเน่าๆ” ช้อยรายงาน

“ให้มันขนไปให้หมด อย่าทิ้งไว้เป็นเสนียดบ้านฉัน”

ไข่มุกสะอึก เก็บเสื้อผ้าที่ถูกรื้อกระจัดกระจายลงกระเป๋าออกจากบ้าน ชลลดาก้าวตามมากระซิบเสียงแผ่วแต่สีหน้าดุดัน

“ไสหัวไปให้พ้นจากบ้านนี้ หนี้สินทุกอย่างฉันยกให้หมด แต่อย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก”

ไข่มุกชอกช้ำแทบหมดแรง แข็งใจก้าวเดินต่อ... คีรินทร์ยืนมองจากชั้นบนอย่างขมขื่น นุชนารถเข้ามาโอบ กอดเขา พูดอย่างเริงร่าสาสมใจ

“เรื่องก็เปิดเผยออกมาหมดแล้ว นุชดีใจมาก รินทร์จะได้กลับมาเป็นคนเดิมสักที”

คีรินทร์หงุดหงิดยังรับไม่ได้กับเรื่องไข่มุก ดึงมือหญิงสาวบอกว่าตนอยากอยู่คนเดียว นุชนารถหน้าตึงเสียงแข็งใส่ทันที

“นี่คุณรักมันมากนักหรือไง มันมาหลอกคุณนะ นุชอดทนมาตลอดก็เพื่อวันนี้ คุณต้องยอมรับความจริง หรือคิดว่ามันมีใจด้วย โธ่เอ๊ย...”

“พอได้แล้วนุช...ผมไม่อยากได้ยินเรื่องนี้อีก”

นุชนารถปั้นปึ่ง เดินออกไปอย่างผิดหวัง ดูออกว่าคีรินทร์รักไข่มุกเข้าให้แล้ว...ด้านไข่มุกเมื่อกลับไปถึงบ้านเจอวันดีที่ถูกปล่อยตัวกลับมาก็เอาแต่ซักถามอย่างห่วงใย สำรวจตรวจตราว่าแม่บาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า

“ยังไม่ตายโว้ย...รู้ทั้งรู้ว่าข้าโดนพวกมันจับไปทำไมเอ็งไม่ไปช่วย ข้าบอกมันปากแทบฉีกว่าใช้หนี้หมดแล้ว กว่ามันจะปล่อยข้ามาเนี่ย ว่าแล้วมันต้องโง่จับ ผิดตัวแน่ เวรจริงๆ”

“ไม่ใช่พวกเจ้าหนี้แม่หรอก มันเป็น...เอาไว้ฉันค่อยเล่านะ”

“ไม่ใช่แล้วใครวะ แล้วนั่นเอ็งหอบผ้าหอบผ่อนมาทำไม”

ไข่มุกสะอึกสะอื้นไม่ตอบ วันดีนึกว่าลูกเป็นห่วง สั่งให้หยุดร้อง แล้วกอดกันกลม...

ooooooo

เช้าวันต่อมา ช้อยกับนุชนารถทำตามคำสั่งของมณีเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าชลลดากับภัททิมาโยนออกจากห้องพัก ไล่ออกจากบ้านโทษฐานสมรู้ร่วมคิดกับไข่มุกหลอกลวงพวกตน เป็นสิบแปดมงกุฎเหมือนกัน

สองแม่ลูกดึงดันไม่ยอมไป อ้างตัวอุตส่าห์ช่วยเปิดโปงยังจะไล่กันอย่างกับหมูกับหมา เขมทัตลงมาได้ยินแต่ไม่คิดช่วยเหลือ ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจกับเรื่องวุ่นวายในบ้าน ทำท่าจะเดินผ่านเลยไป

“เดี๋ยวสิคะคุณพี่ ทำแบบนี้ไม่นึกถึงวิญญาณของพี่ยุทธเพื่อนรักพี่เลยใช่ไหม เพราะช่วยพี่ สามีชลถึงต้องพิการตลอดชีวิต ลืมแล้วหรือไง”

เขมทัตหยุดกึกก้าวขาไม่ออก นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้วตัดสินใจให้สองแม่ลูกอยู่ต่อ ชลลดาพนมมือไหว้ ขอบคุณเขมทัตที่ไม่ลืมบุญคุณพวกเรา จากนั้นหันมาวางก้ามใส่นุชนารถกับช้อยสั่งให้ขนกระเป๋าของตนกับลูกสาวไปเก็บไว้อย่างเก่า และต่อไปอย่าแส่กับของของตนอีก

นุชนารถกับช้อยมองมณีที่นั่งเฉย ทั้งคู่เลยต้องหิ้วกระเป๋าของสองแม่ลูกกลับที่เดิม...เขมทัตหันมองมณีที่นั่งหงิก ย้ำว่าตนต้องทำถ้าวันนั้นยุทธไม่ช่วย วันนี้ตนคงไม่ได้มานั่งอยู่ที่นี่ มณีไม่โต้แย้งเพราะจำนนต่อเหตุผล

เมื่อไข่มุกจากไป ภัททิมาหรือลูกไก่ตัวจริงก็เข้ามาเป็นครูสอนฟิตเนสแทน แต่สอนไม่ได้เรื่องจนลูกค้าเบื่อหน่ายบ่นกันขรม จินจูด้อมๆมองๆอยู่หลายวันไม่เห็นไข่มุก พอเข้ามาถามหา ภัททิมากลับเข้าใจว่าจินจูอยากเรียนเต้น

“ถ้าสนใจเต้น เรียนกับหนูก็ได้ค่ะ ต่อไปหนูจะสอนแทนเอง”

“ทำไมเธอต้องสอนแทนเขาด้วย”

“ใครๆก็รู้หมดแล้วว่าแม่นั้นเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหลอกคนเขาไปทั่ว สงสัยคุณยังไม่รู้”

จินจูนิ่งอึ้ง ไม่เชื่อที่ภัททิมาพูด ลองไปสอบถามคธาเพราะเห็นว่าสนิทกับไข่มุก คธานิ่งคิดไตร่ตรองก่อนตอบอย่างมั่นใจ

“เท่าที่ผมรู้จัก คุณลูกไก่เป็นเด็กดี เรียบร้อย น่ารัก ไม่น่าใช่พวกหลอกลวง”

“ฉันเห็นด้วย ต้องมีเบื้องหลังอะไรแน่”

“งั้นผมจะลองสืบดู อาจได้ข่าวอะไรบ้าง”

“ได้เรื่องยังไงช่วยบอกด้วย ฉันเป็นห่วงเขา”

“ดูคุณกับคุณลูกไก่เข้ากันได้ดี”

“ไม่รู้ทำไมฉันถึงถูกชะตากับเด็กคนนี้มาก...รู้สึกสนิทใจเหลือเกิน”

“แล้วธุระของคุณที่นี่ถึงไหนแล้ว” คธาเปลี่ยนเรื่อง...จินจูหน้าตึงตอบประชดว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แทยอนกำลังช่วยดูอยู่ หวังว่าจะได้ข่าวดีเร็วๆนี้ จะได้กลับเกาหลีสักที”

“คงเบื่อเมืองไทยเต็มทีแล้วสินะ”

“เมืองไทยสวยงาม ผู้คนใจดี น่ารัก แต่คนไทยบางคนไม่ควรเชื่อใจ เพราะชอบทำร้ายจิตใจคนอื่นอย่างเจ็บปวดที่สุด” พูดจบเธอเดินจากไปอย่างเย็นชา ทิ้งคธานั่งอึ้งสีหน้าเศร้าหมอง...ความรักของเราสองคงไม่มีวันหวนคืน

ooooooo

อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 10

วัฒนาให้การต้อนรับทวยไทยกรรมการบอร์ดคนใหม่ด้วยการนำชมโรงแรมก่อนจะพามาทำความรู้จักเขมทัตกับคีรินทร์ สองพ่อลูกเจ้าของโรงแรม

“คุณทวยไทย...เศรษฐีนักสะสมหุ้นโรงแรม ที่นี่คงเข้าตาคุณหลายอย่าง ไม่งั้นคงไม่ไล่ซื้อหุ้นจนมีเป็นอันดับสามรองจากผมกับลูก”

“สะสมอะไรกันครับ มีแค่ 20 กว่าแห่งทั่วโลกเท่านั้น โรงแรมนี้จุดดีก็มาก จุดเสียก็เยอะ หลายอย่างยังต่ำกว่ามาตรฐานสากล”

เขมทัตยิ้มรับอย่างเสียมิได้ คีรินทร์เองก็มีมารยาทพอ ตอบกลับอย่างสุภาพว่า

“งั้นคงต้องขอคำแนะนำด้วยนะครับ”

“คุณคีรินทร์นี่หล่อสมกับเป็นเพลย์บอยระดับชาติ ได้ข่าวว่าสาวๆแย่งตัวจนมาตบตีกันในโรงแรม ถ้าเป็นพนักงานทั่วไปคงโดนไล่ออกไปแล้ว แต่คุณมีแบ็กแน่นบึ้กขนาดนี้ อย่าว่าแต่เรื่องผู้หญิง เรื่องงาน...หลับตาบริหารก็ยังได้ จริงไหม”

ทวยไทยยิ้มหยันดูถูกความสามารถคีรินทร์ วัฒนาสะใจแต่ไม่แสดงออก เขมทัตไม่ชอบใจแต่เอ่ยด้วยน้ำเสียง ราบเรียบ

“การรวมทุนกับทางเกาหลีได้เป็นฝีมือของคีรินทร์ คุณอาจสนุกอยู่กับการไล่ซื้อหุ้นจนลืมศึกษาว่าฝ่ายบริหารที่นี่ทำงานกันหนักขนาดไหน”

“ล้อเล่นนิดเดียว คุณพ่อออกรับแทนเลย ตอนนี้ผมได้เป็นกรรมการบอร์ดอีกคนแล้ว ก็จะคอยติดตามการทำงานของคุณคีรินทร์อย่างใกล้ชิดแน่นอน ต้องขยันหน่อยนะคุณคีรินทร์”

“แน่นอนครับ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะให้ตรวจสอบ”

“ดีมาก ผมชอบคนหนุ่มที่กล้าหาญแบบนี้ นับจากนี้ไปเห็นจะมีคุณเขมทัตคนเดียวที่มีหุ้นในโรงแรมนี้มากกว่าผม ใครจะไปรู้ ต่อไปคุณเขมทัตเหนื่อยขึ้นมาผมอาจช่วยถือหุ้นใหญ่แทนคุณก็ได้ จริงไหมคุณวัฒนา”

ทวยไทยพูดทีเล่นทีจริง วัฒนาไม่ออกความเห็นแต่ลอบมองสองพ่อลูกที่นิ่งขรึมรู้สึกไม่ถูกชะตากับเศรษฐี ขี้โอ่รายนี้

ooooooo

นอกจากจะกลับไปช่วยแม่ขายส้มตำแล้วไข่มุกยังหารายได้พิเศษด้วยการรับงานตัวประกอบในกองถ่ายหนัง วันนี้กะเทยกัสจังสั่งให้เธอเอาทิชชูยัดหน้าอก

เพื่อให้สมบทบาทตัวละครที่ต้องโชว์ของ แต่ยังจัดการไม่ทันเสร็จ กีกี้ควงคีรินทร์เข้ามาเห็น ไข่มุกอับอายแถมยังถูกกีกี้ประจานให้ขายหน้าคนทั้งกอง

“นังตัวดีจอมลวงโลก...กำลังจะไปหลอกใครอีกล่ะ นั่นยัดนมเหรอ ดูมันสิคะรินทร์ ขนาดนมมันยังหลอกคนดูเลย มานี่ฉันแฉแกเอง นังนมไข่ดาว”

ไข่มุกอับอายจนทนไม่ไหววิ่งหนีไปจากตรงนั้น กัสจังสงสารตามมาปลอบและบอกให้เก็บตัวสักพักรอข่าวฉาวเงียบก่อนแล้วค่อยกลับมาเล่นใหม่ ขณะไข่มุกเดินใจลอยไปรอรถเมล์เกือบโดนรถคีรินทร์ชน เขากดแตรไล่ดังลั่นก่อนจะเคลื่อนรถจากไปอย่างไม่สนใจไยดีเธอเลย

ความจริงคีรินทร์ทั้งรักทั้งแค้นไข่มุก ที่สำคัญเขาตัดใจจากเธอไม่ได้ นุชนารถพยายามเสียบแทนจึงผิดหวัง แถมยังมีศัตรูอีกคนคือภัททิมาที่จ้องจะงาบคีรินทร์อยู่เหมือนกัน ซึ่งนุชนารถยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด เธอต้องการครอบครองเป็นเจ้าของเขาคนเดียว

นุชนารถร้ายกาจอย่างไม่มีใครคาดคิด เธอฉีดยากล่อมประสาทคีรินทร์แล้วพาไปไว้ที่คอนโดฯ โดยไม่มีใครรู้เห็น ไข่มุกย้อนกลับมาเพราะโดนวันดีไล่ จึงรู้ว่าคีรินทร์หายตัวไปและโดนพวกมณีกล่าวหา กีกี้มาสมทบเพราะตามตัวคีรินทร์ไม่เจอ ไข่มุกเลยโดนยำใหญ่ แม้ปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นก็ไม่มีใครเชื่อ ชลลดากับภัททิมาก็พลอยผสมโรงใส่ร้าย หาว่าพวกนักเลงใช้ให้ทำเพื่อจะเอาเงินเยอะๆ

“เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะคุณ แจ้งตำรวจให้ลากคอมันดีกว่า” มณีพูดอย่างร้อนใจ เขมทัตไม่เห็นด้วย กลัวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ให้ใจเย็นค่อยๆคิดก่อน

“ว่าแต่เธอรู้ไหมว่าคีรินทร์เขาหายไปไหน” เขมทัตถามไข่มุก

“ไม่ค่ะ หนูไม่รู้เรื่องอะไรเลย คุณคีรินทร์ไม่ได้อยู่กับหนู”

“ไม่ได้อยู่กับเธอแล้วจะอยู่กับใคร”

สิ้นเสียงภัททิมาที่จ้องจะเล่นงานไข่มุก นุชนารถกลับเข้ามาเห็นไข่มุกก็สงสัยแต่ไม่ทันถามอะไร มณีทักขึ้นเสียก่อน

“ญาติเธอเป็นไงบ้างล่ะนุช หายดีหรือยัง”

“ต้องรีบพาเขากลับบ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ จะขอลาไปวันนี้เลย” นุชนารถโกหกแนบเนียนแล้วขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า หนูนาตามเข้ามาหน้าเศร้า แทนที่นุชนารถจะปลอบโยน กลับซักถามว่าไข่มุกมาที่นี่ทำไม

“คุณแม่สงสัยว่าพี่รินทร์ไปอยู่กับพี่ลูกไก่ เอ๊ย พี่ไข่มุก เลยเอาตัวมาถาม”

“พี่นุชจะไปกี่วัน ทำไมเอาของไปหมดเลยล่ะคะ”

“ไปไม่กี่วันหรอกหนูนา หรือว่า...อาจจะไม่กลับมาดี”

“ไปแบบนี้หนูนาก็คิดถึงแย่สิคะ รีบกลับมานะ”

“ถ้าพี่กลับ...ก็จะไม่กลับมาในสภาพนี้”

รัตนาไม่เข้าใจที่นุชนารถพูด ได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ กระทั่งรู้ว่าไข่มุกถูกพวกมณีจับตัวขังไว้ในห้อง หนูนาสงสารแอบช่วยออกมาแล้วบ่นประสาเด็ก

“ใครๆก็ไปจากหนูนา พี่นุชก็บอกจะไม่กลับ เก็บของไปหมดเลย แถมพูดงงๆว่าถ้ากลับจะไม่มาในสภาพนี้ ส่วนพี่รินทร์ก็หายตัวไปอีก”

“แอบไปอยู่กับสาวๆที่คอนโดฯมั้ง” พูดไปแล้วไข่มุกชะงัก นึกได้ว่าคีรินทร์มีคอนโดฯตั้งสามแห่งไว้สับรางหลบกิ๊กเพราะกลัวรถไฟชนกัน

ไข่มุกตระเวนค้นหาคีรินทร์ไปตามคอนโดฯ

ขณะเดียวกันชลลดากับภัททิมาก็ย้อนกลับมาหาวันดีถามหาไข่มุกว่าหายไปไหน แต่วันดีก็ไม่มีคำตอบอื่นใดนอกจากบอกว่าไล่มันกลับไปอยู่บ้านผัว

นุชนารถกลับมาหาคีรินทร์ที่คอนโดฯแล้วฉีดยากล่อมประสาทซ้ำอีกครั้งเมื่อเขาเริ่มรู้สึกตัว ท่าทางของเธอคล้ายโรคจิต พูดเพ้อเจ้อจะพาเขากลับบ้านก็ต่อเมื่อเราต้องจดทะเบียนสมรสกันก่อน


ในที่สุดไข่มุกก็ตามจนพบคีรินทร์ และฉวยโอกาสตอนนุชนารถออกไปซื้ออาหารลอบเข้ามาในห้องแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพคีรินทร์นอนไร้เรี่ยวแรงแต่ยังรู้สติ

“คุณเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมเขาไม่พาคุณไปหาหมอ ให้นอนแบบนี้ได้ไง ทุกคนเป็นห่วงคุณมากนะ”

“เธอ...ลูกไก่...ไม่ใช่สิ...ไข่มุก...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“นี่คุณเป็นอะไรกันแน่ หรือโดนเขาวางยา เดี๋ยวฉันจะพาคุณหนี”

ไข่มุกพยายามประคองคีรินทร์ออกจากห้อง แต่ไม่ทันพ้นประตู นุชนารถกลับมาเจอ จ้องมองไข่มุกเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“นังสารเลว ถ้าจะเอาคีรินทร์ไป ข้ามศพฉันไปก่อน” นุชนารถแผดเสียงแล้วผลักทั้งคู่ล้มลง

“ใจเย็นสินุชนารถ คุณรินทร์หายไป ทุกคนเป็นห่วงมาก เขาเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

“เขาก็สบายดี ไม่เห็นเป็นไร ลุกขึ้นมาเร็ว ลุกสิคุณรินทร์ ฉันบอกให้ลุกขึ้นได้ยินมั้ย นิ่งอยู่นั่นแหละ โดนแค่นี้จะอะไรนักหนา” นุชนารถเขย่าคีรินทร์หัวสั่นหัวคลอน

“พอได้แล้ว ฉันไม่นึกว่าเธอจะกล้าทำกับเขาถึงขนาดนี้”

“แกยุ่งอะไรด้วย ฉันจะทำอะไรกับผัวต้องบอกแกด้วยเหรอ จะไปไหนก็ไปให้พ้น”

“ลูกไก่...พาผมกลับบ้าน พาไปที” คีรินทร์ เสียงแหบพร่า

“เห็นไหมว่าเขาอยากกลับบ้าน เธอกักตัวคุณรินทร์ไว้ทำไม”

“เอ๊ะนังนี่ รนหาที่ตายเหรอ” นุชนารถผละจากคีรินทร์หันมาจ้องไข่มุกตาขวาง

“ฉันรู้นะว่าเธอฉีดยาให้คุณรินทร์เป็นแบบนี้ เธอทำเกินไปนะนุชนารถ”

นุชนารถสีหน้าโกรธจัด คว้าผ้าเช็ดตัวมาบิดเป็นเกลียวจะรัดคอไข่มุกแต่ไม่สำเร็จแถมโดนเตะขาล้มลง ไข่มุกประเมินแล้วว่าช่วยคีิรินทร์ไม่ได้แน่ จึงกระซิบบอกเขาว่าจะไปตามคนมาช่วย

ไข่มุกวิ่งหนีออกจากห้อง นุชนารถไล่กวดถึงหน้าลิฟต์ ยื้อยุดกันไปมาครู่หนึ่งก่อนที่ไข่มุกจะหนีเข้าลิฟต์และรอดพ้นอย่างหวุดหวิด

“เฮ้อ...เกือบโดนคนบ้าฆ่าแล้วเรา”

เมื่อไม่ได้ตัวไข่มุก นุชนารถโทร.หาวัฒนา จากนั้นไม่นานลูกน้องวัฒนาสองคนก็มาปรากฏตัวที่คอนโดฯ พาคีรินทร์นั่งรถเข็นลงมาพร้อมนุชนารถ ไข่มุกแอบมองอยู่ด้วยความสงสัยว่าพวกเขาจะพาคีรินทร์ไปไหน?

ไข่มุกเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างขับตามรถพวกเขาไป พยายามตีคู่จนได้แล้วโบกมือให้จอด นุชนารถหันมาเห็นก็ยิ่งแค้น

“นังนี่มันตื๊อวอนตายจริงๆ ไม่ต้องหยุด ขับไปเลย อย่าสนใจมัน”

ในเมื่อไข่มุกยังตามไม่ลดละ นุชนารถสั่งเฉียบสีหน้าโหดเหี้ยมอำมหิต “บี้มันเลย เอาให้กลายเป็นศพข้างถนน”

มอเตอร์ไซค์ถูกเบียดจนเสียหลักพุ่งลงข้างทาง แต่ทั้งคู่ไม่เป็นอะไร ไข่มุกรีบพยุงคนขับลุกขึ้น ถามว่าไหวไหม ถ้าตามต่อจะเพิ่มเงินให้อีกหนึ่งร้อย

“ห้าร้อยก็ไม่เอา มันกะฆ่ากันนี่หว่า ไปคนเดียวเหอะ”

“เฮ้ยพี่...เดี๋ยวก่อนสิ” ไข่มุกตะโกนลั่น แต่หมอนั่นเข็ดขยาดจากไปไม่เหลียวหลัง

ooooooo

อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 9-10 วันที่ 12 เม.ย. 56

ละคร มายาสีมุกบทประพันธ์ : ทวิตา
ละคร มายาสีมุกบทโทรทัศน์ : เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ, เทอดโชค เกียรติสุขเกษม, จุฑามาศ สาคร
ละคร มายาสีมุกกำกับการแสดง : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ละคร มายาสีมุกแนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละคร มายาสีมุกผลิต : บริษัท กันตนา
ติดตามชมละคร มายาสีมุก ได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ