อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8 วันที่ 10 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8 วันที่ 10 เม.ย. 56

ขุนภักดีแปลกใจว่าหนักหยิบพระออกมาทำไม
“อืมม์...งามมาก แต่เรื่องพระเอาไว้ก่อน เอ็งยังไม่ได้ตอบข้าว่ามาทำไม”
“มาหายายอ่อนขอรับ ยายอ่อนแกบอกว่าอยู่ที่นี่ แกเป็นคนทำคลอดกระผม กระผมเป็นคนสวนแตง ผ่านมาก็เลยจะแวะมาเยี่ยมขอรับ” หนักยกมือไหว้ “ต้องขอประทานอภัยท่านด้วยที่กระผมมาเอามืดค่ำ”
“ไม่เป็นไร แต่ยายอ่อนไปจากที่นี่นานห้าปีแล้ว นั่งก่อนสิ”

ขุนภักดีเกิดอารมณ์ดีในความอ่อนน้อมของหนักขึ้นมา เก็บปืน
“เอ้อ ขอบพระคุณขอรับ คือ ขอประทานโทษ ที่กระผมเงอะงะในตอนแรกเพราะกระผมกลัว สืบเนื่องมาแต่ผู้คนกล่าวถึงท่านขุนว่า ดุร้ายดูถูกคนจน แต่ตอนนี้ กระผมเห็นว่าคำกล่าวนั้นตรงกันข้าม ท่านขุนไม่ได้ดูถูกชาวบ้านธรรมดาอย่างกระผมแม้แต่น้อย แถมเมตตากระผมอีกด้วย”


“อย่างว่าแหละ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น”
ขุนภักดีบ้ายอพอสมควร หัวเราะชอบใจยกใหญ่

เนียนตกใจระคนแปลกใจเพราะไม่ได้ยินสองคนคุยกันแต่ตอนนี้ได้ยินเสียงท่านขุนหัวเราะชอบใจให้ประหลาดใจมาก
“ทำไมเขาไม่ฆ่าพี่หนัก ทำไมเขาหัวเราะเหมือนชอบใจ”
สนได้ยินเสียงปืนวิ่งมาเจอเอาเนียนกำลังแอบมองขุนภักดีกับหนัก สนชะงักไม่ไปต่อ
“อีเนียน มันมาแอบดูพี่เทพ ยิงอะไรนะ หรือว่ายิงไอ้หนักตายโหงไปแล้ว”
เนียนยกมือท่วมหัว
“ชะรอยจะเป็นพระสมเด็จที่พี่หนักพกมาทำให้แคล้วคลาดกระมัง”
สนใจได้ยินเนียนบ่นถนัดมาก สนตะลึง
“ไอ้หนักมาจริงๆ ไอ้เสือหนักมันมาจะหาเรา แย่แล้ว”
สนเขม้นมองไป เห็นเป็นหนักจริงๆ ไวเท่าความคิดตะเกียกตะกายหนีจนหกล้มหกลุก แล้วรีบหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

ด้านขุนภักดีตบบ่าหนักเบาๆ
“ขอบใจที่เข้าใจฉัน ขอโทษด้วยที่วู่วามยิงขู่ไป ที่นี่โจรมันชุม โจรบางรายห้าปีผ่านไปยังตามจับไม่ได้ ก็ไอ้เสือหนักไงล่ะ น้องชายคงได้ยินกิตติศัพท์มันแล้ว”
“ขอรับ กระผม เอ้อ...กระผมมีธุระต้องไปก่อนขอรับ”
“กำลังคุยกันออกรสทีเดียว วันหลังผ่านมาแวะอีกได้”
หนักยกมือไหว้แล้วส่งพระให้
“ทราบว่าท่านขุนมีลูกชาย น่ารักแสนฉลาด กระผมได้รับน้ำใจไมตรีจากท่าน กระผมขอฝากพระองค์นี้ไว้ให้ลูกชายท่านด้วยขอรับ”
ขุนภักดีอึ้งไปครู่หนึ่ง “ไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย ให้พระนี่ มากเกินไป จะดีรึ”
“กรุณารับไว้เถิดขอรับ กระผมนับถือน้ำใจท่าน อยากมอบสิ่งดีๆ ให้แก่ลูกชายท่านขอรับ ได้โปรดเถิดขอรับ”
ขุนภักดีลังเล แล้วตัดสินใจรับไว้ หนักมองไปในความมืด ใจให้นึกถึงน้องสาวผู้อาภัพพลางยกมือไหว้
“มองหาอะไรรึ”
“หามิได้ขอรับ กระผมมองว่าบ้านท่านใหญ่โตกว้างขวาง แต่เหมือนมีคนอยู่ไม่มาก จึงดูเงียบเชียบนัก”
“มันเพิ่งจะเงียบเชียบเพราะลูกของฉันสามเอ๊ย สองคนไปเรียนที่บางกอกหมดแล้ว เหลือแค่แม่ฉันหนึ่ง เมียสามลูกเอ๊ยสอง ที่นี่อยู่กันเงียบๆ บ่าวไพร่ทุกคนสบายดี”

หนักฟังแล้วให้นึกสบายใจเรื่องเนียนขึ้นมาบ้าง จึงไหว้ลาแล้วถอยตัวลงเรือไป
เวลานั้นคุณนายทองจันทร์อยู่บนเรือนตัวเอง ยังคงสั่งการต่อ โดยมีเนียนนั่งก้มหน้าก้มตาฟัง

“ข้าจะให้เอ็งมาจัดข้าวของ รอรับ หนูอี๊ด กับหลานเทิดศักดิ์ กลับบ้านปิดเทอมใหญ่”
“กลับบ้านรึเจ้าคะ” เนียนตื่นเต้นนัก
“กลับบ้านน่ะสิ รวมทั้งลูกเอ็งด้วยนั่นแหละ”
เนียนยิ่งตื่นเต้นดีใจใหญ่
“แหม เอ้อ ปิดเทอมแล้วหรือเจ้าคะ แหม...”
“ดูเอ็งดีใจกว่าฉันอีก คิดถึงลูกสาวละสิ” หญิงชรามองอย่างเวทนา
“เอ้อ เจ้าค่ะ”
“เอ็งจัดห้องชั้นล่างที่เอ็งเคยอยู่ด้วยนะ”
“เจ้าค่ะ”
ทองจันทร์นึกหมั่นไส้นิดๆ “เอ็งมันก็เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ไม่อยากรู้รึ ว่าข้าให้จัดห้องนั้นทำไม”
“เนียนไม่บังอาจอยากรู้ดอกเจ้าค่ะ”
“เอ็งไม่เคยบังอาจอยากใดๆ สักอย่าง แล้วทำไมเอ็งบังอาจอยากมีชู้ฮึ” ทองจันทร์หมั่นไส้ อดเหน็บแนมไม่ได้
เนียนสะดุ้งนิ่งไป
“เอาละ เรื่องมันผ่านไปหลายปีแล้ข้าไม่อยากตอกย้ำหัวตะปู ท่านพระครูท่านให้ปลงซะ ข้าอยากให้เอ็งช่วยบังอาจอยากรู้สักนิดไม่ได้รึ ว่าข้าให้เอ็งจัดห้องนั่นทำไม”
นั่นแหละเนียนจึงถาม “คุณท่านให้จัดห้องนั่นทำไมเจ้าคะ”
“จัดให้เอ็งกับเด็กติ๋วลูกเอ็งอยู่น่ะสิ”
“คุณท่าน”
ทองจันทร์ยิ้มด้วยเวทนา เนียนก้มลงกราบเท้า ทองจันทร์ทำทีเป็นชักเท้าหนี เมินหน้า
“ข้าเวทนาเด็กติ๋วย่ะ ไม่ใช่เอ็ง”
เนียนก้มหน้าแอบยิ้มดีใจที่ลูกจะสบายขึ้น
“แม่เรียมย่ะ เขาตัวตั้งตัวตีมาพูดซ้ำซากกับข้าว่าสงสารเด็กติ๋วเอ็งก็เลยพลอยฟ้าพลอยฝนได้ดิบได้ดีไปกับลูกเอ็งด้วย”
เนียนให้นึกขอบคุณเรียมมากขึ้น

ภายในห้องเรียนของฝาแฝด เด็กสาวทุกคนต่างกำลังฟังผลสอบอย่างจดจ่อ ครูนฤมลกำลังจะประกาศ
“ฟังผลสอบเสร็จนักเรียนทุกคน ไปรอผู้ปกครองมารับกลับบ้านนักเรียนประจำ ให้รอผู้ปกครองที่ห้องรอผู้ปกครองเอาละมาฟังผลสอบกันสักที ใครที่ดีแล้วก็ขอให้รักษาความดีไว้ดังเกลือรักษาความเค็ม ใครที่แย่ ต้องปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นนักเรียนที่สอบได้ที่หนึ่ง ได้แก่ เด็กหญิง...”

ไม่นานต่อมา เด็กหญิงที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นฝาแฝดกัน นั่งรออยู่ในห้องรอผู้ปกครอง เนื้อทองนั่งยิ้มถือสมุดพกแน่น ทานตะวันมองมาอย่างไม่พอใจ
“เอ็งถือสมุดพกจะเอาไว้อวดคุณแม่ใช่ไหมว่าเอ็งสอบได้ที่หนึ่ง เอามานี่นะ”
ทานตะวันกระชากมาจนได้ พอดีกับที่เรียมกับท่านขุน และเอกตามหลัง เดินเข้ามา
ขุนภักดีชะงักชักสีหน้า ที่เห็นเด็กสองคนแต่งชุดนักเรียนทั้งคู่ จึงหันมาเอาเรื่องเรียม
“เด็กติ๋วใส่ชุดนักเรียนโก้ เรียมส่งเสียเงินแพงๆ ให้มันเรียนเสมอลูกเราจนได้รึ”
“เอ้อ...” เรียมอึกอัก
นฤมลเดินเข้ามาพอดี รีบแก้ต่างให้
“ฉันให้ทุนการศึกษาเด็กที่เก่งที่สุดในชั้นค่ะ ฉันให้ไว้หลายทุนค่ะ”
“นี่ นี่ครูกำลังจะบอกว่า...” ขุนภักดีอึ้ง
นฤมลสวนออกมา “เนื้อทองสอบได้ที่หนึ่ง ทั้งสองเทอม”
“เก่งมากจ่ะหนูติ๋ว” เรียมยิ้มปลื้ม
เอกแอบยิ้มหน้าบาน เป็นปลื้มแทนเนียน
“แล้วลูกสาวผม...” ขุนภักดีถาม
“ทานตะวันสอบเกือบได้ที่โหล่ทั้งสองเทอมค่ะ เอ็งไม่ค่อยตั้งใจเรียนค่ะ”
“หนูอี๊ดจ๋า ทำไมลูกไม่ตั้งใจเรียนจ๊ะ” เรียมถามขึ้น
“หนูคิดถึงคุณแม่ คุณพ่อ คุณย่า นี่คะ หนูต้องทำอะไรเองทุกอย่าง เด็กติ๋วมันก็ไม่ยอมช่วย ให้มันตามหนูมาทำไมก็ไม่รู้” ทานตะวันพูดอย่างฉุนเฉียว
ครูนฤมลเอ่ยขึ้น “ป้าบอกทานตะวันหลายครั้งแล้วว่า ที่โรงเรียนทุกคนเท่าเทียมกันจ้ะ” ครูใหญ่ของโรงเรียนสตรีชื่อดังหันมาทางขุนภักดี “ท่านขุนคะ ดิฉันอยากจะแนะนำในฐานะเป็นครูใหญ่ที่นี่ ทานตะวันเอาแต่ใจตัวเองมากจึงไม่ค่อยมีเพื่อน มีแต่เนื้อทองที่ยอมเอ็งทุกอย่างแต่เอ็งก็ยังไม่พอใจ ถ้าปล่อยอย่างนี้นานไปจะเป็นผลเสียกับทานตะวันเองนะคะ คือ...ฉันหวังดีนะคะ”
“ผมเข้าใจและรับฟังครับ ขอบคุณมาก”
“ขอบใจมากจ้ะ นฤมล” เรียมไม่อยากพูดนาน “หนูอี๊ด หนูติ๋ว กราบลาคุณครูสิ”
ทุกคนล่ำลากัน แล้วเดินออกไปที่รถ เอกหิ้วกระเป๋าของทานตะวันตามไป

ในเวลาต่อมาหนักกำลังแอบมองอยู่นอกโรงเรียนชายล้วน รอดูหน้าเทิดศักดิ์ด้วยความคิดถึง
“ลูกเอ๋ย! ขอเพียงเห็นหน้า แม้แตะต้องไม่ได้พ่อก็ปลื้มใจเป็นที่สุดแล้ว”
หนักยิ้มบางๆ แอบดูต่อ สอดตามองผ่านรั้วโรงเรียนหาเทิดศักดิ์
หนักมองไปจนเห็นเทิดศักดิ์เต็มๆ ซึ่งมีเรียมและขุนภักดีมารับ ซึ่งเวลานั้นขุนภักดีกำลังบรรจงใส่สร้อยห้อยพระที่หนักให้แก่เทิดศักดิ์
“ของขวัญที่ลูกสอบได้ที่หนึ่ง เป็นเด็กดีพระจะคุ้มครองลูกนะ”
“แม่ดีใจมากที่เทิดศักดิ์สอบได้ที่หนึ่ง เก่งจริงๆ”
“ยังมีคนเก่งสอบได้ที่หนึ่งเหมือนผมอีกคนครับ คุณนายแม่ คุณพ่อ”
“ใครรึ”
“เขารอผู้ปกครองอยู่ตรงนั้นครับ คุณพ่อ”
เทิดศักดิ์ชี้ไปที่แดงน้อย แต่ไม่ทันได้เรียก แดงน้อยก็วิ่งตื้อไปอย่างรวดเร็ว
“ลุงมาแล้ว”
“เขาวิ่งไปหาลุงของเขาแล้วครับคุณนายแม่ คุณพ่อ”

สองคนพยักหน้า พาเทิดศักดิ์กลับบ้านไป
รถของขุนภักดีจอดอยู่ ในรถมีเด็กสาวฝาแฝดรอกันอยู่สองคน

“เด็กติ๋ว เอ็งลงไปยืนรอข้างล่างสิ” ทานตะวันบอก
เนื้อทองพยายามจะเปิดประตูรถลงไป ในจังหวะพอดีกับที่หนักและแดงน้อยเดินมา แดงน้อยกับเนื้อทองเลยชนกัน
“อุ๊ยตาย” เนื้อทองตกใจ
“อุ๊ย ขอโทษครับ”
หนักจับเนื้อทองเอาไว้ไม่ให้ล้ม พลางถาม
“ไม่เจ็บใช่ไหมหนู”
“ไม่เจ็บค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” เนื้อทองไหว้นอบน้อม
ทานตะวันแหวใส่อย่างไม่สบอารมณ์ “เด็กติ๋ว เอ็งพูดกับใครน่ะ จะฟ้องคุณพ่อว่าเอ็งไปพูดกับพวกคนข้างถนน”
ทำเอาแดงน้อยกับหนักต้องหันไปมองทานตะวันในรถที่นั่งเชิดหยิ่งเกินงามเป็นคุณหนูอยู่
“รีบไปกันเถิด รถที่ลุงว่ามารับ รอด้านโน้น”
หนักรีบจูงแดงน้อยเดินออกไป เนื้อทองมองตาม แดงน้อยหันมามองตอบ
เด็กสองคนสบตากันยิ้มให้กัน
เสียงเทิดศักดิ์ดังเข้ามา “แดงน้อย แดงน้อย รอก่อน”
แต่แดงน้อยกับหนักเดินหันหลังห่างไปแล้วจึงไม่ได้ยิน สักครู่พวกเรียมเดินมาถึง
“คุณพ่อขา เด็กติ๋วมันไปพูดกับคนข้างถนนสองคนที่เดินออกไปนั่นค่ะ” ทานตะวันฟ้องทันที
“นั่นเพื่อนรักของพี่กับลุงของเขานะ น้องอี๊ด” เทิดศักดิ์ตำหนิสีหน้าไม่พอใจ
“ทำไมพี่เทิดศักด์มีเพื่อนนั่งสามล้อ พวกมันเป็น คนจนคนชั้นต่ำนี่นา”
ทั้งหมด เห็นเพียงด้านหลังแดงน้อยกับหนักนั่งสามล้อกลับบ้านไป
“คุณครูเพิ่งสอนพี่เมื่อสักครู่ ท่านว่า คนเราจะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัวจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำจ้ะนองอี๊ด”
เรียมยิ้มลูบหัวเทิดศักดิ์อย่างเอื้อเอ็นดู ขุนภักดียิ้มให้เทิดศักดิ์ที่พูดจาฉลาดหลักแหลม ส่วนทานตะวันหน้าตึง

คณะที่ไปบางกอกทุกคนกลับมาถึงบ้านแล้ว เวลานี้เนียนนั่งกางมือ เด็กหญิงเนื้อทองโผเข้ามากอดแม่ด้วยความคิดถึง
“หนูติ๋วลูกรัก แม่คิดถึงลูกตลอดเวลา”
“แม่เนียนจ๋า หนูคิดถึงแม่ที่สุดในโลกทุกวัน”
สองคนกอดกันกลมดิก

ครอบครัวขุนภักดี มาล้อมวงกินอาหารที่เรือนคุณนายทองจันทร์
“ขอบใจที่มารวมญาติข้าวเรือนนี้เพื่อต้อนรับหลานสองคน บางคนต้องทำใจสักหน่อย อาหารถูกปากแต่อาจไม่ถูกใจ เลือกกินเอาที่ถูกใจตามสะดวกเถิดนะ”
“แม่สนทำน้ำพริกปลาทู เด็กๆ ไม่กินน้ำพริกกินแต่ปลาทูนะลูก”
“เทิดศักดิ์ ครับ เด็กคนที่สอบได้ที่หนึ่งเหมือนหนูเขาชื่ออะไรรึ” เรียมเอ่ยขึ้น
“เขาชื่อแดงน้อยครับ เขาเป็นเพื่อนรักของผมครับ คุณนายแม่”
เนียนกำลังถือจานผัดมา ตกใจทำจานหล่นจากมือ ทุกคนหันมามองเนียน
“อุ๊ย ขอประทานโทษเจ้าค่ะ”
“ซุ่มซ่ามที่สุด ดูสิน้ำผัดผักกระเด็นใส่เสื้อสวยฉันเลอะเทอะหมด” สนด่า
“น้าเนียนเขาไม่ได้ตั้งใจครับ” เทิดศักดิ์แก้ต่างให้
ทองจันทร์เอ็ดเอา “ลูกเอ็งก็ไม่ใช่ แล้วจะตื่นเต้นตกใจไปทำไมขวัญอ่อนมากไปรึเปล่า”
เนื้อทองรีบมาช่วยเนียนเช็ดเก็บจานเก็บของที่ตก กบกับแมวรีบมาช่วย เนียนใจเต้นมือเท้าอ่อนเย็นไปหมด
เรียมรีบช่วยกู้สถานการณ์ “บ้านนี้มีเด็กเรียนเก่งสอบได้ที่หนึ่งสองคนค่ะคุณแม่”
“ใครรึ หนูอี๊ดของย่าแน่ๆ”
สนทำเป็นตื่นเต้น “ใช่ไหมคะ หนูอี๊ด”
ทานตะวันนิ่งเงียบ
“หนูติ๋วต่างหาก หนูอี๊ดน่ะได้เกือบที่โหล่” เรียมบอก
สนให้ท้ายทันที “จะเป็นไรไปคะ ได้เกือบที่โหล่ แต่มีชีวิตสุขสบายกว่าคนได้ที่หนึ่งมีถมไป ไม่ต้องเสียใจนะหนูอี๊ด”
ทานตะวันมองหน้าสนอย่างพึงพอใจ

เนียนนั่งมองเนื้อทองกินข้าวที่ตนคลุกให้อย่างมีความสุข ในหูได้ยินเสียงเทิดศักดิ์บอกกับเรียม
“เขาชื่อแดงน้อยครับ เขาเป็นเพื่อนรักของผมครับ คุณนายแม่”
เสียงนั้นดังซ้ำๆ ในหู ในที่สุดเนียนตัดสินใจถามลูกสาว
“หนูติ๋วจ๋า ลูกเห็นเพื่อนรักของคุณเทิดศักดิ์ที่ชื่อแดงน้อยไหมจ๊ะ”
“เห็นสิจ๊ะ”
“หนูเห็นเขา” เนียนตื่นเต้นมาก “หนู...ได้พูดกับเขาไหมจ้ะ”
“พูดสิจ๊ะ เราชนกัน เกือบหกล้ม หนูได้แต่ร้องอุ๊ยตาย เขาขอโทษหนู ลุงเขาจับหนูไว้ไม่ให้ล้ม”
“ลุงเขา ลุงเขาไปรับหรือจ้ะ” เนียนยิ่งตื่นเต้น
“ลุงเขาท่าทางใจดีมาก ถามหนูว่า เจ็บไหม หนูตอบว่าไม่เจ็บ”
“แล้วพูดอะไรกันต่อจ้ะ”
“ไม่ทันพูดจ้ะ คุณหนูอี๊ดเอ็ดตะโรว่าหนูไปพูดกับคนข้างถนน เขาเลยพากันเดินไปเลยจ้ะ”
“โธ่...น่าเสียดาย”
เนียนคราง ตื่นเต้นจนมือไม้สั่น ใจสั่น ไปหมด
“แม่เนียน อยากรู้จักเขาหรือจ๊ะ” เนื้อทองแปลกใจ
เนียนได้สติ
“เปล่าจ้ะ ไม่มีอะไรจ้ะ แม่แค่ตื่นเต้นเห็นเขาเก่งเท่าคุณหนูเทิดศักดิ์ เอ้อ...เขาเป็นคนที่ไหนรึ”
“ไหนว่าแค่ตื่นเต้นเพราะเห็นเขาเรียนเก่ง ทำไมถามละเอียดยิบ” เอกที่อยู่ด้วยเหล่ถาม
“เอ้อ ไม่ถามแล้วจ้ะ ไม่อยากรู้แล้วจ้ะ”
“หนูไปถามคุณเทิดศักดิ์ให้ก็ได้จ้ะ แม่เนียน”
เนียนส่ายหน้า
“แม่ไม่อยากรู้ดอกจ้ะ หนูติ๋วคนดี แม่ภูมิใจ ดีใจมากที่หนูเก่งสอบได้ที่หนึ่ง”
“โตขึ้นหนูจะเป็นคุณครูเหมือนคุณครูป้านฤมล จ้ะแม่เนียน”

เนียนมาโอบกอดลูกไว้อย่างมีความสุข และอยากรู้อยากฟังเรื่องราวของแดงน้อย ว่าใช่คนเดียวกับแดงน้อยลูกตัวเองไหม
ที่ร้านกาแฟไทยเจริญ หนัก หรือ สิน โพล้ง แพร และแดงน้อย ทั้งหมดนั่งคุยกันอยู่

“พี่หนักไปสุพรรณทำไมรึ” โพล้งสงสัยยิ่งนัก
“เอ็งอยากรู้ไปทำไมเล่า”
“มันสอดรู้ ไม่รู้สักเรื่องมันจะเส้นสมองแตกตาย” แพรแขวะ
“แดงน้อยครับ เพื่อนคนที่ชื่อเทิดศักดิ์ เขาดีกับแดงน้อยมากหรือ” หนักหันมาทางหลานชาย
“ดีที่สุดครับ เราถูกคอกันมาก เขาไม่ถือตัวว่าเป็นลูกท่านหลานเธอ เหมือนบางคนที่พอรู้ว่าผมเป็นลูกคนธรรมดาก็เมินหน้าไม่อยากสมาคมด้วย”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8 วันที่ 10 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager