อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 10
ไข่มุกเห็นนุชนารถโดยบังเอิญที่ร้านขายยา เธอแอบสะกดรอยตามไปเกือบถึงบ้านเช่า แต่แล้วก็คลาดกันอย่างน่าเสียดายเพราะนุชนารถไหวตัว...วัฒนาป้วนเปี้ยนดักเจอไข่มุกอีกครั้ง เห็นเธอนั่งมองไอโฟนอย่างจดจ่อก็จงใจพูดให้สะเทือนใจ“ไม่นึกว่าลูกสาวขอทานจะมีไอโฟนใช้ด้วย”
“คุณรินทร์ซื้อให้ค่ะ...แล้วฉันก็จำได้ค่ะว่าอยู่ในฐานะอะไร”
“อย่าโกรธนะครับ ผมล้อเล่น นายรินทร์มันพูดย้ำจนผมติดไม่รู้ตัว พอคุณออกจากบ้านไปแล้วผมติดต่อคุณไม่ได้ เลยนึกว่าเขาทวงมือถือคืนไปแล้ว อันตั้งแพง อาจจะอยากเอาไปให้สาวอื่นต่อ”
วัฒนาเงียบไป ได้ไอเดียบางอย่าง จึงย้อนกลับมาหานุชนารถเพื่อขอยืมมือถือคีรินทร์ นุชนารถสงสัยว่าเอาไปทำไม และพูดดักคอไว้ก่อนว่าคิดจะตุกติกงั้นหรือ?
“จะทำไปทำไมล่ะ เอามาเถอะ ผมจะแกล้งส่ง ข้อความบอกแม่มันไง ว่าไม่ต้องห่วง อีกไม่กี่วันจะกลับบ้านแล้ว พวกนั้นจะได้ไม่ไปแจ้งความ หายไปหลายวันเดี๋ยวตำรวจรับแจ้งนะ เอามาเถอะน่า แป๊บเดียว เดี๋ยวรีบคืน”
“จำไว้นะว่าเราเป็นพวกเดียวกัน ถ้าฉันโดนจับฉันซัดทอดแน่”
“ผมไม่ให้คุณโดนจับหรอก” วัฒนารับโทรศัพท์จากนุชนารถมาพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบลบทิ้งแล้วส่งคืน...
มณีกับไข่มุกได้รับข้อความเดียวกันแจ้งที่อยู่ของคีรินทร์ ต่างฝ่ายต่างรีบร้อนมาเจอกันที่บ้านเช่า โดยมีชลลดากับภัททิมาตามมณีมาด้วย แล้วเกิดตบตีต่อสู้กับนุชนารถและลูกน้องของวัฒนา แต่ไม่มีใครรู้ว่าวัฒนาแจ้งนักข่าวมาเก็บภาพเพื่อเขียนข่าวทำลายชื่อเสียงคีรินทร์
นุชนารถไม่ยอมให้พวกมณีพาคีรินทร์ไป พอโดนมณีด่ามากเข้าก็โมโหตั้งท่าจะฉีดยาให้สักเข็ม ไข่มุกกำลังประคองคีรินทร์เห็นดังนั้นผละมาช่วยมณีจนตัวเองโดนเข็มแทงที่แขนทรุดลง ส่วนคีรินทร์อ่อนแรงหมดสติ ในมือกำที่มัดผมของไข่มุกแน่น ลูกน้องวัฒนารีบทำตามคำสั่งพานุชนารถหลบออกมาท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของพวกมณีที่กรีดร้องเพราะเป็นห่วงคีรินทร์
หลังจากส่งคีรินทร์ไปถึงมือหมอ ชลลดากับภัททิมาอาสาเฝ้าติดขอบเตียงรอจนกระทั่งเขาฟื้นแต่ไม่ยอมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องไข่มุกที่อุทิศตัวรับเข็มแทนมณีและพยายามช่วยเหลือเขา
ไข่มุกโดนนุชนารถฉีดยาแต่ไม่เป็นอะไรมาก พักไม่นานก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม และด้วยความเป็นห่วงคีรินทร์ เธอพยายามจะเข้าไปเยี่ยมแต่ได้ยินสองแม่ลูกกำชับพยาบาลไม่ให้ใครเข้าเยี่ยม นอกจากพ่อแม่ของคน่ไข้เท่านั้น
เมื่อสบโอกาสสองแม่ลูกตัวแสบกลับไปแล้ว ไข่มุกแอบเข้ามาหาคีรินทร์ที่ยังสะลืมสะลือละเมอเรียกหาเธอและบอกรัก หญิงสาวกอดเขาด้วยความสงสาร พร้อมกับสารภาพว่าเธอก็รักเขาเหมือนกัน...
ooooooo
อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 11
วัฒนาหาห้องเช่าให้นุชนารถอยู่ชั่วคราว กำชับให้ทนหน่อยเพราะที่นี่ไม่หรูหราเหมือนบ้านคีรินทร์ ปรากฏว่านุชนารถไม่เรื่องมากเหมือนก่อน บอกว่าแค่นี้ก็ดีแล้ว
“ช่วงนี้ก็อยู่เงียบๆเก็บตัวไปก่อน เรื่องยังวุ่นวายอย่าเพิ่งออกไปไหนแล้วกัน”
“พวกเขาแจ้งความรึเปล่า”
“ไม่มีนะ เรื่องไอ้รินทร์ก็ปิดข่าวเงียบ ออกข่าวแต่ว่าไม่สบาย อีกสองสามวันจะกลับมาทำงาน คุณเองอยู่ที่นี่ให้เรื่องเงียบสักพัก แล้วจะกลับบ้านต่างจังหวัดก็ตามใจ”
“ไม่! ไม่มีวันยอมแพ้ ฉันจะเอาคืนทุกอย่าง ทุกคน เอาคืนเป็นสองเท่า คอยดูฝีมือนุชนารถคนนี้ก็แล้วกัน”
“ดี...อย่างนี้ค่อยได้ใจหน่อย ผมจะคอยช่วยแล้วกัน”
ทั้งคู่สบตากันแล้วยิ้มร้าย ต่างก็มีเป้าหมายไปคนละอย่าง...ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาล คีิรินทร์รู้สึกตัวหลังจากหลับไปพักใหญ่ เรียกหาลูกไก่เหมือนจำได้ลางๆว่าเธอมาหา ทันใดภัททิมาเยี่ยมหน้าเข้ามากระดี๊กระด๊าทำตาปิ๊งๆ นึกว่าเขาเรียกตนเอง เอ่ยเสียงใสว่าลูกไก่อยู่นี่ไง
“แล้วผมเป็นอะไร มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ก็นังนุชคนดีของคุณมันวางยาแล้วก็ลักพาตัวคุณไปไงคะ คนใจยักษ์ โรคจิต นี่ถ้าลูกไก่ไม่ไปช่วยป่านนี้นังนั่นจะทำอะไรก็ไม่รู้ คนอะไรน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่าไส้เดือน ดีนะที่คุณไม่เป็นไร ไม่งั้นลูกไก่จะตบๆๆนังนุชให้ตายเลย”
“แล้วไข่มุกไม่ได้มาช่วยผมเหรอ”
“ช่วยเช่ยอะไรกันคะ ตั้งแต่มาโรงพยาบาลยังไม่เคยเห็นหน้าสักนิด คนหลอกลวงปลิ้นปล้อนจะไปคิดถึงทำไม มันสนใจคุณที่ไหน นี่สิลูกไก่ตัวจริงอยู่ด้วยทั้งคน มีแต่คนนี้แหละที่รักและหวังดีกับคุณรินทร์”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ถึงนังมุกใจดำไม่ยอมมาดูแต่ลูกไก่จะอยู่กับคุณ คอยดูแลจนกว่าจะหาย รับรองว่าจะปรนนิบัติอย่างดี”
“ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่มาดูสักนิดเลยหรือไง” คีรินทร์แอบบ่นกับตัวเองด้วยความน้อยใจไข่มุก
หารู้ไม่ว่าไข่มุกยังป้วนเปี้ยนอยู่ในโรงพยาบาล สักพักเห็นภัททิมาพาคีรินทร์ลงมานั่งเล่นในสวนหย่อมร่มรื่น เธอจับตามองแต่ไม่กล้าเผยตัว
“คุณรินทร์ผอมลงนะคะ เดี๋ยวกลับไปบ้านลูกไก่จะทำกับข้าวให้ทาน จะได้หล่อเหมือนเดิม ที่จริงทำไม่เป็นหรอก พูดให้ดูดีไปงั้นแหละ แต่ลูกไก่ซื้อเก่งนะ ซื้อของจากร้านอร่อยๆมาโด้ปคุณได้ ไม่เชื่อให้มาแสนนึงสิ ซื้อแป๊บเดียว หมดแสนเลย เอาไหมคะ”
“ไม่เป็นไร”
“อุ๊ยนั่นดอกไม้ สวยจัง เด็ดเอาไปใส่แจกันในห้องไหมคะ จะได้สดชื่น”
“ไม่เห็นป้ายหรือไงว่าห้ามเด็ดของโรงพยาบาล หรือไม่ได้ทำงานนานจนอ่านหนังสือไม่ออก”
ภัททิมาหน้าเสีย คีรินทร์มองเลยไปฝั่งตรงข้ามแล้วนิ่วหน้าสงสัย ถามภัททิมาว่าเห็นเงาใครตรงนั้นไหม
“ไม่มีนี่คะ สงสัยตายังเบลอเพราะฤทธิ์ยาอยู่”
“แต่ผมเห็นเหมือน...ไข่มุก”
“นังมุกมันไม่มีหน้ามาหาหรอกค่ะ ดีไม่ดีป่านนี้เดินตัวปลิวมีกิ๊กใหม่ไปแล้ว ไปนอนพักดีกว่านะคะ ลูกไก่ดูแลคุณเอง”
ภัททิมากุลีกุจอพาคีรินทร์ไป ไข่มุกค่อยๆโผล่จากที่ซ่อนมองตามหลังอย่างเป็นห่วง...เมื่อกลับเข้าห้องได้สักครู่ หมอมาตรวจอาการคีรินทร์ก่อนบอกว่าทุกอย่างสมบูรณ์ดีเหมือนเดิม อนุญาตให้กลับบ้านได้ พยาบาลนำของที่เก็บไว้มาคืนคนไข้ คีรินทร์ทำหน้างงๆแต่ก็รับที่มัดผมนั้นมา
คิดไปคิดมาเขาจำได้ว่าตัวเองซื้อให้ไข่มุกและรีบเก็บซ่อนเมื่อภัททิมากลับเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าหลากสีหลายตัวแต่ไม่ถูกใจสักชุด ขอจัดการเองเพราะไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัว ภัททิมาถึงสะอึก นิ่งไปอย่างผิดหวังและเสียหน้า
กลับมาบ้านได้ไม่ทันข้ามวัน คีรินทร์แต่งตัวจะไปทำงาน มณีห้ามก็ไม่ฟัง ยืนยันว่าตนแข็งแรง นอนมาหลายวันป่านนี้มีงานให้เคลียร์เพียบแน่
“ยังไม่ต้องรีบไปก็ได้ รอให้เรื่องซา...เอ๊ย...ให้หายป่วยก่อน” มณีหลุกหลิกมีพิรุธ คว้าหนังสือพิมพ์มาซ่อนข้างหลังทำให้ลูกชายสงสัย ดึงออกมาดู “พวกนี้ชอบลงข่าวมั่ว รินทร์อย่าไปใส่ใจนะ แค่สองสามวันเดี๋ยวคนก็ลืมๆไปแล้ว อย่าเครียดนะ”
คีรินทร์เห็นแล้วกลับพูดขึ้นอย่างไม่ยี่หระ “ลงข่าวซะผมเป็นคาสโนว่าสิ้นลาย เสียเชิงชายหมด ข่าวพวกนี้ผมไม่แคร์หรอก ลงสิยิ่งดี เรตติ้งจะได้พุ่งกระฉูด สาวๆได้มากันอีกเพียบ”
มณีฟังแล้วอึ้ง เหลือบมองชลลดาที่เร่งภัททิมายิกๆ
“รีบแต่งตัวเอาของมาสิลูก จะได้ไปพร้อมคุณรินทร์เลย ไหนๆก็ไปที่เดียวกัน พาน้องไปด้วยนะ”
“อย่าดีกว่า ผมไม่ชอบให้ใครมาตาม ทุกวันก็ไปเองได้ไม่ใช่เหรอ”
คีรินทร์พูดอย่างไม่แยแสแล้วผละไป ภัททิมาหน้าตูมตึง ชลลดาอึ้งเหวอ มณียิ้มเยาะสะใจ
“ไงล่ะ อยากยัดเยียดลูกสาวให้ลูกฉันดีนัก หน้าแตกหกคะเมนหัวฟาดสลบไปเลย สมน้ำหน้า”
“ถึงจะไม่ชอบลูกไก่ แต่ลูกสาวดิฉันก็ยังดีกว่านังนุชใจยักษ์ กับนังไข่มุกลูกขอทาน หรือว่าคุณมณีชอบลูกสะใภ้แบบนั้นจะได้ไปตามกลับมาให้ อุ๊ย แต่ระวังข่าวลือหน่อยนะ เดี๋ยวพวกคุณนายไฮโซจะแอบนินทาเอา”
ชลลดาจีบปากจีบคอยอกย้อน มณีเจ็บใจสะบัดหน้าพรืดจากไป
ooooooo
ไข่มุกช่วยวันดีขายส้มตำมือเป็นระวิง ขายดีแต่ก็เหนื่อยมาก วันดีเห็นแล้วสงสาร อดบ่นไม่ได้ว่า
“นังมุกเอ๊ยนังมุก จะมามัวขายส้มตำให้ลำบากทำไม เอ็งไปง้อผัวหน่อยสิวะ จะได้กลับไปสบายเหมือนเก่า แล้วเผื่อแผ่มาถึงข้าด้วย”
“ไม่เอาหรอกแม่ เขาไม่ยอมหรอก”
“หรือจะให้ข้าง้อแทน เอ็งนี่มันโง่ชิบเป๋ง เป็นคุณนายดีๆไม่ชอบ ดันอยากมาใช้แรงงาน ผัวเอ็งลงทุนง้อนิดหน่อยเดี๋ยวก็หาย หยิ่งนักนะเอ็งเนี่ย...ถามจริงเหอะ เอ็งเป็นเมียมันหรือยัง”
ไข่มุกเงียบไม่ตอบ เม้มปากแน่นนัยน์ตาเศร้า วันดีทำหน้าเซ็ง สุดจะคาดเดา ขณะเดียวกันที่โรงแรม คีรินทร์หายไปหลายวันเพิ่งมาทำงาน วัฒนาลอบมองสะใจก่อนเดินเข้ามาทักและบอกว่าทวยไทยอยากเจอ อยากเลี้ยงข้าวต้อนรับที่เขาหายป่วย
“มีเงินซื้อกินเอง ไม่ต้องให้ใครเลี้ยง”
“ยังไงเขาก็เป็นผู้ใหญ่ ยอมลงให้หน่อยจะเป็นไรไป”
“แต่ฉันเป็น...แล้วก็อย่าพูดเรื่องแบบนี้ให้ได้ยินอีก ไอ้นายทวยไทยทุยไทยอะไรนั่นมาไม่กี่วันก็ตามไปกระดิกหางเลียมือมันแล้ว มีศักดิ์ศรีซะบ้างสิ”
วัฒนาไม่พอใจแต่ข่มไว้ บอกว่าอยากให้เขากับทวยไทยปรับความเข้าใจ เตือนเขาอย่าทำตัวเป็นเด็กๆไปหน่อยเลย
“อยากทำอะไรก็เชิญทำไปเลย อย่าเอาฉันไปยุ่ง แล้วก็ขอเตือนไว้หน่อยนะ เลียเยอะๆระวังลิ้นจะด้านหมด” ว่าแล้วคีรินทร์เดินจากไป วัฒนากำมือแน่น มองตามสายตาอาฆาต
บ่ายนั้นมีประชุม คีรินทร์เผชิญหน้าทวยไทยและบอร์ดบริหารอีกหลายคน ยังไม่ทันเริ่มเรื่องงาน ทวยไทยโยนหนังสือพิมพ์ที่มีภาพข่าวคีรินทร์ลงบนโต๊ะพร้อมกับประจานอย่างเยาะหยัน
“คาสโนว่าของเราได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ทำอีท่าไหนถึงได้เป็นข่าวขนาดนี้”
“ไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นห่วงผม...หรือกลัวผมไม่เสียชื่อเสียงกันแน่” คีรินทร์สวนทันควันอย่างไม่เกรงใจ
“เปล่าเลย ห่วงโรงแรมต่างหาก รู้ไหมว่าข่าวออกไปแบบนี้ลูกค้าจะไม่เชื่อมั่นในตัวผู้บริหารที่ทำตัวไร้สาระไปวันๆ แถมยังอื้อฉาวเรื่องคาวๆ”
“ก็ช่วยไม่ได้ คนมันหน้าตาดี...ลืมไป คนหน้าตาไม่ดีไม่มีวันเข้าใจหรอก ขอโทษนะที่หล่อเลือกได้ สาวๆเลยต้องมารุมแย่งไม่เหลือไปถึงแก่หน้าเหี่ยว”
คีรินทร์กระแทกเสียงแล้วผลุนผลันออกไป ทวย-ไทยสีหน้าโกรธขึ้ง ตรงข้ามกับเขมทัตยิ้มพอใจ...
มุมหนึ่งในโรงแรม ซอนซาดารารุ่นน้องจินจูเดินทางมาพร้อมแทยอนที่กลับไปดูงานหนังที่เกาหลีแล้วกลับมาที่นี่อีกครั้ง ท่าทางซอนซาชอบแทยอนและแสดงออกว่าไม่ชอบจินจู แขวะเรื่องเธอมาเมืองไทยทำให้แทยอน วุ่นวาย หรือว่าที่นี่มีผู้ชายให้ติดใจ พอแทยอนดุ ซอนซาก็อ้างว่าแค่หยอกเล่น
จินจูลุกหนีไปเงียบๆ แทยอนตามมาปลอบไม่ให้เธอคิดมาก ปรากฏว่าเธอแค่ไม่พอใจคำพูดแรงๆของซอนซาแต่ไม่ได้คิดมากเลยสักนิด ย้ำว่าถ้าเขามีความสุขเธอก็ยินดีด้วย
“แต่ผมไม่เคยคิดอะไรกับซอนซา คุณเองก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่พี่ก็รู้ว่าพี่เป็นพี่ชายของฉันเสมอ”
“พี่ชาย...ผมเป็นได้แค่นี้สำหรับคุณใช่ไหมจินจู ตลอดยี่สิบกว่าปีผมทำทุกอย่างก็เพื่อคุณ ที่ผ่านมาไม่มีความหมายเลยหรือไง”
“พี่สำคัญกับฉันเสมอ แต่ฉันรักใครไม่ได้อีกแล้ว” จินจูย้ำหนักแน่นจนแทยอนหมดหวัง เดินคอตกไปนั่งที่ล็อบบี้ ถอนใจออกมาพร้อมๆกับคีรินทร์ที่นั่งถัดไป...สองคนมองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนที่แทยอนจะเป็นฝ่ายถามขึ้นว่า
“คนหนุ่มอย่างคุณมีเรื่องกลุ้มใจอะไรถึงกับต้องถอนใจ”
“ก็...นิดหน่อยครับ”
“การงานก็ดี ภรรยาก็น่ารักเนี่ยนะจะมีปัญหากลุ้มใจ”
“ตอนนี้ไม่มีแล้ว...ตอนนี้ผมไม่มีภรรยาแล้ว”
แทยอนไม่เข้าใจ คีรินทร์ถอนหายใจอีกครั้ง บ่นอุบว่าผู้หญิงไว้ใจไม่ได้ โกหกหลอกลวงกันได้หน้าซื่อๆ จิตใจทำด้วยอะไร
“แต่ผู้ชายบางคนก็โกหกจนต้องมานั่งถอนใจรับผลกรรมตัวเองก็มี” แทยอนเปรยหน้าเศร้า...คีรินทร์ชะงัก สงสัยคำพูดของอีกฝ่ายที่คล้ายมีเรื่องไม่สบายใจ
ooooooo
จินจูคิดถึงและเป็นห่วงไข่มุกที่ตัวเองเข้าใจมาตลอดว่าชื่อลูกไก่ วันนี้เห็นคีรินทร์มาทำงานจึงเข้ามาซักถามเพราะก่อนหน้านี้ทราบจากภัททิมาว่าไข่มุกเป็นสิบแปดมงกุฎและโดนไล่ออกจากบ้านเขมทัตไปแล้ว
“ที่ฉันมาถามก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณหรอกนะ แต่ลูกไก่เขาทำผิดอะไร คุณถึงได้ทำเรื่องใจดำกับเขาถึงขนาดนี้”
คีรินทร์ปฏิเสธว่าตนไม่ได้ใจร้ายใจดำ ไข่มุกต่างหากที่หลอกลวงตน ไม่เคยจริงใจ ไม่เคยเห็นความสำคัญของตนสักนิด ป่านนี้คงนั่งหัวเราะหาว่าตนเป็นไอ้หน้าโง่
“งั้นลูกไก่ก็คงโง่เหมือนกันที่ยอมลงทุนโทร.ทางไกลจากเกาหลีให้ช่วยคนไม่สำคัญอย่างคุณ” คีรินทร์ชะงัก นิ่งฟังจินจูบอกเล่าต่อไป “ลูกไก่เขารู้ว่าฉันสนิทกับประธานลีซอนมิน เลยโทร.มาขอให้ฉันช่วยพูดเรื่องคลิปของคุณ ไม่งั้นคุณคิดเหรอว่าเขาจะยอมยกโทษแล้วเซ็นสัญญากับคุณง่ายๆ”
อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 10-11 วันที่ 14 เม.ย. 56
ละคร มายาสีมุกบทประพันธ์ : ทวิตาละคร มายาสีมุกบทโทรทัศน์ : เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ, เทอดโชค เกียรติสุขเกษม, จุฑามาศ สาคร
ละคร มายาสีมุกกำกับการแสดง : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ละคร มายาสีมุกแนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละคร มายาสีมุกผลิต : บริษัท กันตนา
ติดตามชมละคร มายาสีมุก ได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ