อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 9/2 วันที่ 12 เม.ย. 56
“โธ่ แม่สนขา ทำไมคุณย่าถึงเข้าข้างนังเด็กติ๋วกับแม่มันแทนที่จะเข้าข้างแม่สน มันคนละชั้นกับเรานะคะ” ทานตะวันติดนิสัยชั่วร้ายมาจากสนที่เสี้ยมตั้งแต่เด็ก“ก็เพราะนางสองคนแม่ลูกนั่นมันอยู่เรือนเดียวกับคุณย่าน่ะสิคะ มันเป่าหูคุณย่าสามเวลาหลังอาหาร คุณย่าทำท่าจะรักมันมากกว่าหนูอี๊ดซะแล้ว” สนเสี้ยมอีก
“จริงหรือคะ”
“ไม่จริง คุณย่าจะออกค่าเรียนมหาวิทยาลัยให้มันหรือคะ คุณแม่น่ะให้มันทุกอย่างเท่าหนูอี๊ดมานานแล้ว คุณพ่อก็ทำท่าจะโอนเอน หนูอี๊ดจะกลายเป็นหมาหัวเน่าประจำบ้านสักวัน”
“หนูอี๊ดไม่ยอม แต่คนอื่นเขาพร้อมใจกันเอ็นดูมันไปแล้ว นะคะ คอยดูเถิดมันจะปะเหลาะขอโน่นแอบขโมยนี่ของคุณย่าไปเรื่อยๆ ดีไม่ดีมันถึงขั้นเป่าหูให้คุณย่าเกลียดหนูอี๊ด”
“โอ๊ย หนูทนฟังไม่ได้แล้วหนูเกลียดมัน หนูไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับมัน แม่สนจ๋าช่วยหนูนะ นะคะ นะคะ”
“จ้ะ ตอนนี้นางช้อยมาแล้ว อีกไม่นานดอก มันโดนเราสำเร็จโทษแน่ๆ”
สนทำเป็นสวมกอดทานตะวันแล้วแอบยิ้มเยาะ พูดไม่มีเสียง
“อีเด็กโง่”
ทานตะวันเป็นปลื้ม “ขอบคุณมากค่ะแม่สน มีแต่แม่สนคนเดียวที่ใจเรื่องความรู้สึกของหนู”
สนหันมายิ้ม “แม่สนจะสอนวิธีทำให้พวกมันช้ำใจเป็นอันดับแรก”
ทานตะวันฟังที่สนกระซิบกระซาบแผนร้ายให้ฟัง
ฝ่ายเนียนกอดเนื้อทองแน่น สองแม่ลูกน้ำตาคลอ เนื้อทองปลอบใจแม่
“ไม่ต้องเสียใจดอกนะจ๊ะแม่เนียน เราไม่ผิด ใครเขาจะว่าอย่างไร ก็ช่างเขาปะไร”
“เขาว่าแม่ แม่ทนได้แต่เขาว่าหนูแม่เจ็บที่หัวใจ เจ็บจนปวดร้าวไปหมด”
“หนูก็เช่นเดียวกับแม่เนียน ใครว่าหนูหนูทนได้ แต่ใครว่าแม่เนียน หนูก็เจ็บจนหัวใจปวดร้าวไปหมด พอหนูเรียนจนเป็นครู ไปสอนหนังสือมีรายได้ หนูจะพาแม่เนียนกลับไปบ้านเดิมของแม่นะคะ”
เนียนน้ำตาไหลพราก เป็นปลื้มนัก ซึ้งในน้ำใจของลูก แต่เนียนยังมีใจรักขุนภักดีไม่อาจจากไปได้ ตราบใดที่ไม่ได้โดนไล่
“ขอบใจมากทูนหัวของแม่ แต่...”
“แต่อะไรจ้ะ”
“แม่ไปไม่ได้ดอก”
“ทำไมจ๊ะ เขากดหัวกดขี่ทั้งกายและหัวใจของแม่ ขนาดนี้ทำไมแม่ไม่ไปในเมื่อมีโอกาส”
“ตาของหนู สั่งเอาไว้ให้แม่อยู่รับใช้ทดแทนพระคุณบ้านนี้ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม่ผิดคำสั่งตาไม่ได้ดอกลูก”
“คำสั่งที่โหดร้าย ผูกมัดเกินไป ทำไมตาถึงสั่งอย่างนั้นจ๊ะ”
“เรื่องมันยาว มันลึกซึ้ง สรุปง่ายๆ คือแม่ไปจากที่นี่ไม่ได้ถ้าเขาไม่เฉดหัว”
“ถ้าตารู้ได้ตาจะยอมให้แม่กลายเป็นทาสของเขาหรือ เขาทารุณเหยียดหยามแม่เหมือนไม่ใช่คน ทำไมแม่ต้องทน แม่ยิ่งทนหนูยิ่งเกลียดเขา หนูเกลียดขุนภักดีภูบาลที่สุดในโลก”
เนียนตวาดลูก
“หยุดนะ ถ้ายังรักยังเคารพแม่ เห็นแม่ว่าเป็นแม่ห้ามพูดถึงเขาอย่างนี้อีก”
เนื้อทองตกใจ “แม่เนียน โกรธหนู หนูทำอะไรผิดหรือคะ”
“หนูไม่มีสิทธิ์เกลียดเขา”
“หนูมีสิทธิ์เกลียดทุกคนที่ทำร้ายแม่หนู อย่ามาห้ามไม่ให้หนูเกลียดเขา”
เนื้อทองน้อยใจ ไม่เข้าใจ ร้องไห้โฮวิ่งหนีออกไป เนียนมองตามน้ำตาไหล
“คนเราเกิดมา ไม่ว่าพ่อแม่จะใจไม้ไส้ระกำ ทำกับเราอย่างไร ก็ไม่มีสิทธ์ประณามตำหนิ ไม่มีสิทธิ์เกลียดเขา เพราะเรามีหน้าที่กตัญญูเทิดทุนเขา จึงจะเป็นคนที่สมบูรณ์ หนูติ๋วจ๋าแม่ขอโทษ ที่ไม่อาจอธิบายให้ลูกเข้าใจได้”
เนียนร้องไห้สะอื้นอยู่คนเดียว
แทนกระหืดกระหอบหน้าตาผิดหวังขึ้นเรือนเข้ามาบอกสน
“คุณนายสนขอรับ คือว่า เรื่องที่ให้ผมไปตามนางช้อยน่ะ…”
“ขอบใจมาก”
“ขอบใจที่ผมตามหานางช้อยไม่พบหรือขอรับ”
สนปรี๊ด “อ้าว นี่เอ็งยั่วโมโหชั้นรึ ถ้าเอ็งตามหามันไม่พบ แล้เอ็งกลับมาหาข้าได้ยังไง”
“มันกลับมาแล้ว ผีผลักมันมา หรือว่ามีพรายกระซิบให้มันมากันแน่ ก้อ...”
ทานตะวันหงุดหงิด “ไอ้แทน แกพูดจาไม่เป็นประสาคน มันน่าโดนโบยนัก ก็แม่สนบอกว่านางช้อยมันกลับมาแล้ว แกพูดราวกับว่าแกไม่ได้เจอนางช้อย”
“เกือบเจอขอรับ เจอแม่ชีแม่ของมัน บอกผมว่าคลาดกันไปเส้นยาแดงผ่าแปด”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันให้ไปตามมัน” สนงง
“ผมก็แปลกใจนะขอรับ แม่ชีเล่าว่า จู่ๆ ก่อนที่ผมจะมาถึงมันก็ลนลานวิ่งหนีพระธุดงค์กับลูกศิษย์พระคู่หนึ่งไปซึ่งๆ หน้าแม่ชีขอรับ”
“แปลกจริงๆด้วย ทำไมมันต้องหนีพระ กับลูกศิษย์ เอ็งไปตามมันมาสิ”
แทนหันออกไป สนเริ่มกังวลว่าช้อยหนีพระเรื่องอะไร?
ติ๋วมาแอบซุกตัวร้องให้เงียบๆ อยู่มุมหนึ่ง
“แม่เนียนไม่เข้าใจหนู แม่เนียนไม่รู้ว่าหนูรักสงสารแม่ โกรธแค้นแทนแม่มากมายเพียงใด เขาดูถูกเหยียดหยามแม่ ทำไมยังปกป้องเขา”
มีเสียงเดินสวบสาวใกล้เข้ามา เนื้อทองรีบกระเถิบตัวแอบซ่อนลึกเข้าไปอีก
เนื้อทองมองไปเห็นขุนภักดี เดินทอดถอนใจมานั่งแปะที่เก้าอี้ใกล้ๆ บริเวณนั้น สักครู่หนึ่งเนียนเดินปาดน้ำตาไปทางครัวเพื่อทำกับข้าว
“หนูเกลียดเขา หนูเกลียดเขา หนูเกลียดขุนภักดีภูบาลที่สุดในโลก”
เนียนสะอื้น ครวญคร่ำร่ำไห้ออกมาดังๆ “โธ่ ไม่นะไม่ได้เด็ดขาด”
เนียนเดินน้ำตากบตาผ่านซุ้มไม้ที่มีเก้าอี้ ที่ขุนภักดีแอบมานั่งคร่ำครวญตัดเนียนไม่ขาดจากใจ
“ทำไม ทำไม ทำไม มันถึงต้องเป็นอย่างนี้ ทำไม”
เนียนเดินเร็วๆ พรวดมาเจอเอาท่านขุนนั่งอยู่เนียนตะลึงยืนนิ่ง
ขุนภักดีรู้สึกว่ามีคนเดินมาใกล้ๆ หันขวับไปเห็นเป็นเนียน เผลอลุกพรวด แล้วชะงักกึก
สองคนยืนนิ่งมองหน้ากัน ขุนภักดีทำท่าเหมือนจะอ้าปากพูดแต่ไม่ได้พูด
เนื้อทองเห็นอาการของสองคนชัดเจน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม เนื้อทองนึกกลัวว่าท่านขุนจะทำอะไรแม่
“เขามองแม่เหมือนแค้นอยากฆ่าให้ตาย แต่ทำไมแม่ถึงมองเขาเหมือนเทิดทูนบูชา”
เนื้อทองขยับตัวจะก้าวออกไป
ฝ่ายขุนภักดีรีรอทำอะไรไม่ถูกเช่นเดียวกับเนียน แล้วสะบัดหน้าเดินด่ากระทบกระเทียบก่อนเดินปังๆ ออกไป
“ตะบิดตะบอยร้องไห้หาไอ้มหาโจรนั่นไม่เลิกไม่ราสักทีสินะ”
เนียนยืนนิ่งได้แต่มองตามทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลอย่างเดียว
เนื้อทองชะงักไม่เดินออกไป เพราะเห็นท่านขุนไปแล้ว
“ทำไมเขาถึงด่าว่าแม่อย่างนั้น ทำไมเขาถึงหาว่าแม่ร้องไห้หาโจรนั่นโจรนั่นเป็นใครกันนะ”
เนื้อทองไม่เข้าใจเอาเลย
ฟากพระหนักกำลังนั่งสมาธิ มีเสน่ห์นั่งห่างออกมา ตาคอยระแวดระวัง พระหนักเกิดนิมิตเห็นผลกรรมที่ตัวเองทำเอาไว้มากมาย
ในนิมิตนั้นเสือหนักกำลังหนีไปสู้ไป มีเสียงตะโกนเรียก
“เสือหนัก อย่าหนีนะ นี่ตำรวจ ยอมให้จับเสียดีๆ” เสียงนั้นเป็นเสียงของเทิดศักดิ์
ตามมาด้วยเสียงของแดงน้อย “นี่ปลัดอำเภอ เราไม่อยากจับตาย แต่เราอยากให้มอบตัว”
หนักตะโกนตอบออกไป
“กูไม่ยอมให้ใครมาจับกูทั้งนั้น ไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย”
หนักยิงโต้ตอบ สู้กับแดงน้อยและเทิดศักดิ์ สองคนบุกมาใกล้จนหนักที่แอบอยู่เห็นหน้า หนักยกปืนขึ้นเล็งกำลังจะยิงใส่สองคน ต้องตกตะลึง
หนักเห็นเทิดศักดิ์กับแดงน้อยตะลุยเข้ามา หนักยกปืนค้างไม่กล้าลั่นกระสุนออกไป
พระหนักหลุดจากสมาธิที่แตกซ่านตะโกนดังลั่น
“เทิดศักดิ๋ แดงน้อย”
หมอเสน่ห์ตกใจไปด้วย
“ท่านเรียกหาใครหรือ”
พระหนักลืมตา สอดส่ายสายตาหาแล้วถอนใจ พึมพำเบาๆ
“เทิดศักดิ์ แดงน้อย”
“ใครนะครับ” หมอเสน่ห์ได้ยินไม่ถนัด
“เจ้ากรรมนายเวร ที่อาตมาทำกับเขาไว้กำลังไล่ตามอาตมาน่ะ”
พระหนักหลับตาลงไปใหม่ หมอเสน่ห์ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน แต่ไม่กล้าสอบถามต่อ
ฟากช้อยมายืนเท้าสะเอวมองเนียนกับแมวกำลังทำอาหาร ทำตัวเจ๋อเหมือนเดิม
“เป็นยังไงยะเนียน ฉันจากไปทำบุญทำกุศลมาตั้งนาน กลับมาแกก็ยังประพฤติตนบาปหนาหน้าไม่มียางอายเหมือนเดิมนะยะ”
เนียนไม่ได้โต้ตอบกำลังเสียใจหลายเรื่อง
“ต๊าย นางช้อย แน่ใจรึว่าที่เอ็งจากไปนี่เอ็งไปทำบุญทำกุศล ข้าเห็นตราบาปหนาเป็นศอกประทับกลางหน้าผากเอ็งไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูบาปที่มันติดหน้าเอ็งบ้างสิโว๊ย” กบด่าเป็นชุด
แมวด่าต่อ “ไอ้บาปที่เอ็งทำไว้นั่น มันล้นมาจากหัวจิตหัวใจของเอ็ง ลามออกมาถึงหน้าถึงปาก ยังมาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบุญเป็นกุศล นรกรอให้เอ็งไปเกิดเป็นหมาหน้าเป็นคนยังไม่สำเหนียก”
“วุ๊ย ตาบอดรึ คนที่กำลังตกนรกหมกไหม้ ไส้เกรียมอยู่ทุกวันนี้ ไม่ใช่ข้าดอก ข้าไม่เคยคบชู้ ข้าไม่เคยมีผัวแล้วมาหลอกว่าไม่เค๊ยไม่เคย เอ็งสองคนอยากเลียนแบบแล้วโดนโบยไปเลี้ยงหมูบ้างก็เอาสิ” ช้อยขุดเรื่องเก่ามาด่าเนียน
กบกะแมวลุกพรวด ชี้หน้า ประสานเสียง
“จะมากไปแล้วนางตัวดี”
ช้อยทำท่ากร่างใส่สองคน ที่ลุกมายืนเท้าสะเอวสู้ไม่ลดละลอยหน้าลอยตา
“ก็พอสมควร ไม่มาก ไม่น้อยไม่มีวี่แววลงนรก เหมือนเอ็งสองคน”
ช้อยถลกซิ่นสู้ แมวกับกบถลกซิ่น ช้อยผลักอกกบกะแมวด้วยสองมือ กบกะแมวผลักช้อยคนละมือ
จึงแรงกว่า ช้อยเซล้มลงไป สองคนถลกซิ่นไปยืนค้ำไว้ กลายเป็นตบตีกัน
“ช่วยด้วย เนียนมันสั่งให้นางกบนางแมวมารุมข้า”
เทิดศักดิ์เดินเข้ามา ไม่ห้ามแถมยังสั่งให้รุมต่อ
“รุมเข้าไปเลย กบแมว ไม่ต้องไปช่วย คนสอพลอต้องโดนสั่งสอนให้หลาบจำ”
ช้อยตกใจ “คุณเทิดศักดิ์”
“กลับมาอีกครั้งนึกว่าจะสงบเสงี่ยมเจียมตัว กลับแย่กว่าเดิมจำไว้นะช้อย ฉันอยู่ตรงไหนอย่าได้เฉียดกรายเข้ามาให้อยู่ในสายตาของฉันเด็ดขาด” เทิดศักดิ์คาดโทษ
กบกะแมวมองหน้ากันแอบยิ้ม
“เข้าใจไหม ก่อนไปยกสองมือขึ้นเอ่ยคำขอโทษน้าเนียน เดี๋ยวนี้” เทิดศักดิ์สั่ง
กบกะแมวแอบหัวเราะกันอีก
“เอ้อ...”
“หายไปนาน หูหนวกหรือว่าไปกินแกลบกินรำมา เลยพูดภาษาคนไม่เข้าใจ”
กบทวนความจำให้ “จำวันที่เอ็งโดนเฉดหัวไปได้ไหม สตางค์แดงเดียวเอ็งไม่มีติดตัว”
“ผู้เมตตาคนไหนให้เงินเอ็งหนึ่งตำลึง ไม่ใช่เนียนคนนี้รึ” แมวว่า
“คุณเทิดศักดิ์คะ ไม่ต้องให้เขาขอโทษฉันดอกค่ะ ขอโทษด้วยปากแต่ใจยิ่งเพิ่มเกลียดชังอาฆาตไม่มีประโยชน์ดอกค่ะ ไปเถิดช้อย”
ช้อยอึ้งไป กบกะแมวยกมือสองมือประนม
“สาธุ”
ช้อยรู้สึกแย่นิดหน่อยแต่ก็รีบหนีไป เทิดศักดิ์มองเนียนอย่างชื่นชม ยกมือขอโทษเนียนยกใหญ่
“ผมเองก็ต้องขอโทษน้าเนียน สำหรับเรื่องทีเกิดขึ้น คนที่ก่อเหตุคือผม…”
เทิดศักดิ์จ้องหน้ากบกับแมว สองคนรีบออกไป
“ไม่ใช่ดอกค่ะ เราสองคนแม่ลูกต่างหากที่ต้องระวังตัว”
“ผมบริสุทธิ์ใจ ผมจะปกป้องน้าเนียนกับน้องติ๋วเอง”
“โธ่ ทำไมดื้อดึงนักคะ”
“ทุกคนดื้อดึงกันทั้งนั้น ยกเว้นน้าเนียนกับน้องติ๋ว ถึงต้องตกเป็นเหยื่อ ผมมาตามหาน้องที่นี่ แต่เขาไม่อยู่ ผมขอตัว ไปขอโทษเขาก่อน”
พูดจบเทิดศักดิ์หันตัวเดินออกไป เนียนพยายามห้าม แต่ไม่ทัน
ส่วนเนื้อทองกำลังบีบๆ นวดๆ ให้ทองจันทร์ ที่ทำท่าสบายใจมาก เพลิดเพลินกับการนวดของเด็กสาว
“ยัยติ๋วมือแกทั้งเบาทั้งนิ่มนวล นวดแล้วพาลจะหลับเอาแน่ะ” หญิงชราเคลิ้ม
เนื้อทองยิ้มเศร้าๆ
ระหว่างนั้นทานตะวันแอบมองเนื้อทองนวดให้ทองจันทร์เขม็ง
เสียงเสี้ยมสอนของสนที่บอกว่า ทองจันทร์อาจรักเนื้อทองมากกว่าตนดังก้องในหู
“คุณย่าทำท่าจะรักอีเด็กติ๋วมากกว่าเรา อย่างที่แม่สนบอกจริงๆ”
ทานตะวันไม่พอใจมาก
ทองจันทร์เยื้อนยิ้มพอใจ ขณะที่เนื้อทองนวดไปใบหน้าหม่นหมองมาก ครุ่นคิดเรื่องที่ได้ยินขุนภักดีว่าแม่ และเรื่องทะเลาะกับแม่ เนื้อทองนวดไปน้ำตาซึมไป แต่ทองจันทร์ไม่เห็น เพราะหันหลังให้
“อืม แกไปเรียนนวดที่ไหนมารึ”
“แม่เนียนสอนให้เจ้าค่ะ”
“แม่เนียนของแกมันเก่งทุกอย่างจริงๆ”
“เอ้อ...เจ้าค่ะ”
“ตอนแกไปเป็นนิสิต แกควรมีนาฬิกาใส่สักเรือน”
“เอ้อ...ไม่มีก็ไม่เป็นไรดอกเจ้าค่ะ”
“เอ๊ะแกนี่ มีแต่คนเขาอยากได้อยากมี นี่มาตัดรอนผู้ใหญ่ เสียมารยาท”
ทานตะวันเดินเข้ามาทำเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว โถมมากอดทอง พลางผลักมือเนื้อทองออก ทานตะวันนวดอยู่ด้านหลัง ทองจันทร์จึงไม่เห็น
“คุณย่าขา หนูอี๊ดจะนวดให้คุณย่าค่ะ”
ทานตะวันจ้องหน้าเนื้อทองตอนมากอดทองจันทร์ ทำปากไม่มีเสียง
“ไปให้พ้น”
เนื้อทองผละตัวถอยออกมา ทำท่าจะออกไป คลานผ่านหลังทองจันทร์แล้วอ้อมมาด้านหน้า
“นั่นจะไปไหน ยัยติ๋ว เอ๊ะ” ทองจันทร์เขม้นมอง “นั่นแกร้องไห้”
“เอ้อ...”
“เขาไม่อยากนวดดอกค่ะ ยัยติ๋วเขาบอกหนูอี๊ดว่าเขาเมื่อยแล้วค่ะ” ทานตะวันใส่ไคล้
“บอกตอนไหนย่าไม่ได้ยินสักหน่อย”
“เขาอ้าปากบอกโดยไม่ส่งเสียง หนูอี๊ดอ่านปากเขาได้ค่ะ”
“มันไม่อยากนวดย่าถึงขนาดร้องไห้เลยรึ”
ทองจันทร์ชักไม่แน่ใจ แถมทานตะวันก็ออดอ้อนต่อ หอมแก้มย่าซ้ายขวา
“ช่างเถิดค่ะ หนูอี๊ดก็นวดเป็น หนูอี๊ดเสียใจน้อยใจกลายเป็นเด็กมีปมด้อย มีปัญหา แล้วนะคะเพราะคุณย่าไม่ยอมให้รับใช้”
“ไม่เอาน่า ย่าจะไปว่าอะไร ย่าดีใจด้วยซ้ำที่หนูอี๊ดใจดีกับย่าถึงเพียงนี้”
“อย่ามัวมาสำออยร้องไห้ จะไปไหนก็ไปสิยัยติ๋ว ย่าหลานเขาจะเอาใจกัน”
เนื้อทองเลยคลานออกไป ทานตะวันหัวเราะคิกคัก
“หัวเราะอะไรหนูอี๊ด”
“ยัยติ๋วมันจะไปหาพี่เทิดศักดิ์จะไปพลอดรักกันค่ะ”
“ไฮ้ เหลวไหล”
“เขารักกัน คุณย่าว่าเหลวไหลหรือคะ”
ทานตะวันเกิดแค้นเนื้อทองเลยเผลอทุบทองจันทร์อย่างแรงระบายแค้น
“โอ๊ย ทุบย่าทำไมไหปลาร้าย่าหักแน่ๆ”
“หนูอี๊ดขอโทษค่ะ เอ้อ...คือนี่เป็นท่านวดที่...”
ทองจันทร์สวนออกมา “แม่สนสอนรึ”
“เอ้อ ค่ะ” ทานตะวันรับมั่วๆ
“สักวันมันคงสอนให้หักคอย่า อย่าไปเชื่อไปฟังมันมากนะ หลาน”
“เอ้อ ค่ะ คุณย่าขา เรื่องที่ยัยติ๋วกับพี่เทิดศักดิ์นัดกันหนูไม่ได้ปดนะคะไม่เชื่อคุณย่าไปแอบดูสิคะ”
ทานตะวันขยำๆ ไปอย่างนั้น แต่ทองจันทร์ก็พอใจเพราะหลานสาวมาคอยเอาใจ
ขณะที่เนื้อทองเดินน้ำตาซึมมาจากทางเรือนทองจันทร์ โดยจะรีบไปหาแม่ แต่เทิดศักดิ์โผล่มาขวางหน้าไว้
“พี่มีเรื่องจะพูดด้วย”
“แต่หนูไม่มีค่ะ เราไม่ควรมีเรื่องพูดคุยกันค่ะ”
“เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อตอนสายนั่นหรือ”
“นั่นก็เหตุหนึ่งค่ะ”
“แล้วมีอะไรอีกหรือ”
“แม่เนียนบอกว่า หนูควรมุ่งหน้ารับใช้ตอบแทนพระคุณท่านที่นี่ทุกคน และตั้งใจเรียนให้จบสถานเดียวค่ะ”
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 9/2 วันที่ 12 เม.ย. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager