อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 1 วันที่ 8 เม.ย. 56


อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 1 วันที่ 8 เม.ย. 56

“ดิออร์แกน” เป็นคอกเทลเลาจน์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟ ผู้ที่เข้ามาหากไม่ใช่นักการเมืองก็เป็นมหาเศรษฐีเท่านั้น

ไผ่พญา หรือที่คนในวงการเรียกกันว่า “จูเลีย” สาวสวยนัยน์ตาคมลีลาร้อนแรงเร้าใจ ถือเป็นแม่เหล็กของที่นี่ ทุกคนอยากได้ตัวไผ่พญาแต่ก็เกรงใจเสี่ยสมสุข ผู้ทำธุรกิจส่งออกรายใหญ่บังหน้า จึงไม่มีใครกล้าแซงหน้าเขา

คืนนี้ หลังจากบรรดาโคโยตี้เต้นเสร็จลงจากเวที แขกในห้องต่างโห่ฮาอย่างยังไม่จุใจ แต่พอเสียงดนตรีเร้าใจกระหึ่มขึ้น ทุกเสียงที่โห่ฮาก็เงียบลง จ้องไปบนเวทีที่ไฟส่องสว่างเปิดตัว ไผ่พญา อย่างยิ่งใหญ่


ไผ่พญา ในชุดสีขาว มีไฝที่มุมปาก เต้นโยกย้ายย้วยร่างอยู่กลางเวทีอย่างเย้ายวน ก่อนเลื้อยไปบนพื้นเวทีราวกับนางงู แขกคนหนึ่งยื่นใบละห้าร้อยให้ทิป

ไผ่พญากลิ้งหนี แขกคนนั้นมองไป เห็นเธอกลิ้งไปหาแขกอีกคนที่ยื่นใบละพันให้

แขกคนที่สองเย้ยแขกคนแรกว่าแค่ห้าร้อย เอาไว้ทิปพวกโคโยตี้ปลายแถวโน่น แขกคนแรกเลือดขึ้นหน้าเข้าไปจะเอาเรื่อง ไผ่พญาเข้าห้าม แต่ดึงเงินจากแขกทั้งใบละพันและใบละห้าร้อยติดมือหนึบไปแบบหยิบทีเดียวได้สองเด้ง แล้วร้องขอ

“ใจเย็นค่ะ...แหม...ไม่ต้องแย่งกัน...ไผ่น่ะเป็นคนชอบเงิน...ไม่ว่าจะเป็นแบงก์สีอะไรก็เงินทั้งนั้น” พับเงินสอดที่ร่องอกเต่งตูมแล้วเชิญชวน “สนุกกันต่อเถอะค่ะ”

“หยุดเต้นทำไม” เสียงโสภีเจ้าของร้านแหวขึ้นก่อนเดินเข้ามา มีลูกน้องชายลํ่าบึ้กห้อมล้อมราวกับนางพญา

ไผ่กลบเกลื่อนบอกว่าไม่มีอะไร พวกพี่เขาเข้าใจผิดกันนิดหน่อย แต่แขกที่ทิปใบละพันไม่ยอมหยุดเสนอเจ้โสภีว่า น่าจะติดป้ายหน้าร้านว่าดิออร์แกนไม่ต้อนรับพวกไม่มีเงิน แขกที่ทิปห้าร้อยหันขวับเดินยิ้มเหี้ยมเข้าไปหา เจ้ถามขัดขึ้นว่า

“โทษนะ เมื่อกี้ฉันได้ยินไม่ถนัด...คุณกำลังบอกให้ฉันติดป้ายห้ามคนไม่มีเงินเข้ามาที่นี่ใช่ไหม” แขกคนนั้นพยักหน้า ไม่ทันระวังตัวถูกเจ้โผนเข้าจิกหัวเต็มแรงตวาดถาม “แกเป็นใครถึงได้กล้ามาสั่งฉัน...หา! ฉันเป็นเจ้าของที่นี่ ฉันรู้ต้องทำอะไร ออกไป!!” เจ้โสภีผลักอย่างแรง

“อีบ้า!” แขกคนนั้นโกรธหน้าแดงกํ่า แต่ไม่ทันขยับก็ถูกลูกน้องเจ้กรูกันเข้าล็อกตัว เขาตะโกนอย่างยิ่งใหญ่ “ปล่อย!! พวกมึงรู้ไหมว่า กูลูกใคร”

“ก่อนที่จะพูดอะไร คิดก่อนนะ เพราะฉันไม่ค่อยกลัวคำขู่เสียด้วย ไปซะ! แล้วอย่ามาที่นี่อีก เพราะฉันเหม็นขี้หน้าแกแล้ว” เจ้ไล่ตะเพิด

ลูกน้องเจ้โสภีลากแขกคนนั้นออกไป ไผ่รีบเข้ามาไกล่เกลี่ยเชิงตัดพ้อว่านี่เจ้กำลังทำให้ตนขาดรายได้

“แกต่างหากนังไผ่ ที่ทำให้ฉันขาดรายได้ ใครให้แกลงมา แกเห็นไหมว่าแขกเขามารอดูแกเต้นตั้งเท่าไหร่ ขึ้นไปเต้นซะ”

ขณะเจ้โสภีกำลังหงุดหงิด เสียงเสี่ยสมสุขก็ดังแว่วเข้ามา เจ้ที่กำลังตีหน้ายักษ์ใส่ไผ่ หันมาทางเสี่ยก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มอ่อนหวานในพริบตา ถามเสี่ยว่าไหนบอกว่าจะมาดึกๆ เจ้พูดเป็นนัยรู้กันกับเสี่ยเพราะไผ่ยังยืนอยู่ตรงนั้น

“ไม่ต้องเต้นแล้ว เข้าไปรอเสี่ยที่ห้องแต่งตัวนะ” เสี่ยบอกไผ่ เธอถามว่ารอทำไม เสี่ยหันไปมองหน้าเจ้ถามเสียงข้องใจ “ยังไง...ไหนบอกว่าไผ่จะยอมไปกับฉันคืนนี้ไง”

“เฮ้ย มันยังไงกันเจ้” ไผ่โวยทันที

“เดี๋ยวๆ เมื่อกี้ได้ยินว่าใครจะให้น้องไผ่ไปไหน” ลูกค้าคนหนึ่งเดินกร่างเข้ามาขวาง แต่พอถูกปืนจ่อหน้าผาก นักเลงขี้เท่อก็ช็อกหน้าซีดเป็นไก่ต้ม

เขาคือ พายัพ ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยสมสุขนั่นเอง

“พายัพ! หมาบ้าอย่างแกชอบทำให้ฉันเสียงานใหญ่...คืนนี้แกอยากทำพังอีกใช่ไหม” เสี่ยตวาด พายัพขอโทษลดปืนลง เสี่ยหันไปพูดอ่อนหวานกับไผ่ว่า “เสี่ยขอทำธุระแป๊บนึง...เสี่ยสัญญาว่าจะรีบมานะ”

“ไม่ต้องห่วงค่ะเสี่ย...โสภีจะดูแลน้องไผ่พญาของเสี่ยเป็นอย่างดีเลยค่ะ”

ไผ่หน้าตาเหรอหรารู้ตัวว่าโดนเจ้ขายให้เสี่ยแน่แล้ว พอพวกเสี่ยเดินออกไป เจ้ก็หันมาจะจิกไผ่ แต่ไม่เห็นแล้ว เจ้ถามพวกลูกน้องว่าไผ่ไปไหน ทุกคนก้มหน้างุดไม่มีคำตอบ เจ้ด่าอย่างหัวเสีย “เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ พวกแกนี่”

“แม่นกมาแล้ว” ตำรวจที่ปลอมเป็นแขกนั่งซุ่มสังเกตการณ์อยู่รายงานผ่านวิทยุสื่อสาร

ooooooo

ในรถตู้ที่จอดอยู่มุมเปลี่ยวหน้าเลาจน์ หมวด ภูวนัย ตำรวจมือปราบ ได้รับรายงานจากสายที่ซุ่มอยู่ใน เลาจน์ว่า “แม่นกมาแล้ว” ก็สั่งให้จับตาดูเอาไว้ ตนกำลังจะไป พูดแล้วหยุดการติดต่อ

หมวดภูวนัยหันไปถามจ่าวีระกับราชัยที่กำลังแฮกกล้องวงจรปิดและเช็กอุปกรณ์วิทยุดักฟังว่าพร้อมไหม สองจ่าให้ลองเช็กดู หมวดเช็กแล้วพยักหน้าพอใจ

ขณะนั้นเอง หมวดชาติกล้าเพื่อนตำรวจของภูวนัยเปิดประตูรถเข้ามา ภูวนัยชักปืนทันทีตามสัญชาตญาณ พอเห็นเป็นชาติกล้า ภูวนัยถามว่าไปไหนมา ชาติกล้าบอกว่าออกไปโทร.หาพ่อเพราะแถวนี้ไม่มีสัญญาณ

“อ้าว...หมวดชาติไม่รู้เหรอครับว่า หัวหน้าแกสั่งตัดสัญญาณโทร.ศัพท์ในรัศมีหนึ่งกิโล” จ่าวีระถาม

ภูวนัยชี้แจงว่าตนไม่อยากให้แผนของเรารั่ว บอกเพื่อนไว้โทร.หลังเสร็จงานก็แล้วกัน พลางตบบ่าเชิงขอโทษ

ชาติกล้าทักท้วงภูวนัยไม่อยากให้เขาบุกเดี่ยวเข้าไป ภูวนัยยืนยันว่าตนเข้าไปคนเดียวดีกว่า ไม่ต้องห่วง ยิ่งเข้าไปเยอะพวกมันจะยิ่งสงสัย ชาติกล้าพยายามทัดทานอีกว่า “แต่ฉันว่ามันเสี่ยงเกินไป”

“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจเป็นตำรวจแล้ว” พูดจบก็เปิดประตูรถออกไป

“วันไหนไม่วิ่งฝ่าดงกระสุนสงสัยหัวหน้าเราจะนอนไม่หลับ” จ่าวีระพูดกับชาติกล้าและราชัย ทั้งสามมองตามภูวนัยไปอย่างเป็นห่วง แล้วชาติกล้าก็บอกจ่าว่า ตนดูเอง ว่าแล้วเอาคอมพิวเตอร์กับหูฟังใส่พร้อมปฏิบัติงานทันที

ooooooo

เจ้โสภีเดินตามหาไผ่พญามาถึงห้องแต่งตัว ถามขิง บาเทนเดอร์เพื่อนสนิทของไผ่พญาว่าไผ่อยู่ไหน ขิงที่กำลังทะเลาะกับกระดังงาแฟนสาว เพราะหึงแขกที่มาเกาะแกะ เห็นเจ้ก็ตกใจบอกว่าพวกตนไม่เห็น

“ไม่เห็นหรือไม่บอก ถ้าฉันเดินเข้าไปตรงนั้นแล้วเห็นนังไผ่หลบอยู่ แก...กับนังงารู้ไหมว่าฉันจะจัดการยังไงกับลูกน้องที่โกหกเจ้านาย”

ขิงกับกระดังงามองหน้ากันเหมือนจะร้องไห้ แล้วขิงก็พูดขึ้นลอยๆว่า

“เจ้เขาพูดขนาดนี้แล้ว แกยังจะหลบอีกเหรอวะไอ้ไผ่”

ไผ่ซ่อนอยู่หลังเคาน์เตอร์ค่อยๆโผล่ขึ้นมา บอกเจ้ว่ายังไงตนก็ไม่ไปกับเสี่ย ตนเป็นโคโยตี้ไม่ได้ขายบริการ เจ้ย้อนถามเสียงเหี้ยมว่าอยากให้ตนใช้ไม้แข็งใช่ไหม ไผ่ฟังแล้วรู้ตัวว่ายังไงคงไม่รอด เลยทำอุบายมองไปข้างหลังเจ้ร้องทัก “อ้าวเสี่ย...เสร็จธุระแล้วเหรอคะ” พอเจ้หลงกลหันไปดู ไผ่ก็โกยอ้าวไปทันที

“นังไผ่!” เจ้ตะโกนตาแดงเป็นไฟลมออกหู ตวาดลูกน้องให้ไปจับตัวมาให้ได้ พวกลูกน้องวิ่งผ่านขิงกับกระดังงา ถูกทั้งสองพยายามขัดขวาง จนข้าวของล้มระเนระนาดไปหมด

ooooooo

ที่หน้าห้องวีไอพีลูกน้องพายัพเฝ้าระวังอยู่ทั้งหน้าห้องและทางเดิน ภูวนัยเมาดิบเดินโซเซมาจะผ่านไปทางห้องวีไอพี ลูกน้องพายัพไม่ยอมให้ผ่าน

ภูวนัยทำท่าจะฝ่าไปถูกลูกน้องพายัพคว้าไหล่ไว้ เขาพลิกกลับจับมันบิดมือเสยแข้งเข้าที่ปลายคางทีเดียวมันก็หลับร่วงกลางอากาศ อีกคนพรวดเข้ามา ภูวนัยต่อยท้องแล้วสับเข้าที่ต้นคอร่วงไปอีกคน รีบลากทั้งสองไปแอบไว้ที่ข้างทางเดินแล้วออกมาสื่อสารแจ้งหน่วยที่อยู่ด้านนอกทันที “เคลียร์ต้นไม้แล้ว พิราบมาแล้วบอกด้วย”

เสี่ยสมสุขนั่งจิบเครื่องดื่มรอเฉินที่นัดซื้อของกันอยู่ โมโหที่เฉินมาไม่ตรงเวลา สั่งพายัพให้ไปตาม

ไผ่พญามาดับอารมณ์หงุดหงิด พอดีลูกน้องข้างนอกรายงานว่าเฉินมาแล้ว เสี่ยสั่งอย่างหงุดหงิด “รีบๆเข้ามาเลย เสียเวลาจริงๆ”

ชาติกล้าดูกล้องวงจรปิดจากคอมพิวเตอร์เห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้าไป เขารีบรายงาน

“พิราบกำลังไปรัง”

ภูวนัยที่จัดการลูกน้องของเสี่ยแล้วมายืนยามแทน ได้รับรายงานจากชาติกล้าถามเขาว่ามากี่คน...ฟังแล้ว บอกเดี๋ยวติดต่อกลับ พูดจบเฉินก็มาถึงพอดี เฉินหิ้วกระเป๋าที่คล้องกุญแจมือมาด้วย บอกภูวนัยที่มาืนขวางว่า

“พวกเรามาหาเสี่ยสมสุข”

“สวัสดีครับคุณเฉิน” ภูวนัยก้มหัวให้อย่างงาม แล้วทำทีขอตรวจ เฉินยอมให้ตรวจแต่โดยดี ระหว่างนั้น ภูวนัยแอบติดเครื่องดักฟังที่กระดุมสูทของเฉิน แล้วโค้งอย่างงามอีกที เชิญให้เข้าไป พอเฉินคล้อยหลังก็ส่งข่าวชาติกล้า

“ใส่เครื่องดักฟังแล้ว เช็กสัญญาณ”

ooooooo

เสี่ยสมสุขกับเฉินซื้อขายยากันในห้องวีไอพี

เฉินเช็กยาแล้วบอกว่า AA ใช้ได้ ชาติกล้าได้ยินจากเครื่องดักฟัง ส่งข่าวภูวนัยว่า “พิราบกำลังกินข้าวเปลือกอยู่”

ขณะมอบยาและเฉินเปิดกระเป๋าให้ดูเพชรอยู่นั้น พายัพก็ได้รับ SMS พอเปิดดูก็หน้าเครียดไปกระซิบบอกเสี่ย

“อะไรนะ...พวกมึงเอาตำรวจมาจับกูเหรอ” เสี่ยจ้องหน้าเฉินอย่างโกรธจัด

เวลาเดียวกัน ภูวนัยก็พยายามถามชาติกล้าที่ดักฟังอยู่ว่า “มันส่งเงินกันหรือยัง...ชาติ...ชาติ” ไม่มีเสียงจากชาติกล้าแต่กลับมีเสียงปืนยิงกันสนั่นหวั่นไหวในห้องวีไอพี ลูกน้องของเสี่ยกับเฉินต่างสาดกระสุนใส่กัน ภูวนัยไม่ได้ยินเสียงตอบจากชาติกล้า แต่เสียงปืนทำให้เขาตัดสินใจถีบประตูเข้าไป ประกาศลั่น

“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ...วางอาวุธเดี๋ยวนี้!” ทุกคนชะงัก ภูวนัยจ้องหน้าเสี่ยสมสุข “จับได้คาหนังคาเขาอย่างนี้ เสี่ยคงไม่มีอะไรแก้ตัวนะ”

“ฉันเพิ่งรู้ว่า...การขายแป้งมันก็ผิดกฎหมายด้วย” เสี่ยทำใจดีสู้เสือ ภูวนัยเดินไปดูของกลางบนโต๊ะ ถูกพายัพเตะปืนในมือกระเด็น ภูวนัยพุ่งไปแย่งปืนจากมือเฉินยิงต่อสู้ ทำให้เฉินกับผู้ติดตามถูกกระสุน จังหวะนั้นพายัพรีบพาเสี่ยสมสุขหนีออกไป ภูวนัยเห็นถุงยาหยิบปาสมุนเสี่ยที่กำลังจะยิงมา ถุงยาถูกยิงแตกฟุ้งกระจายในอากาศ ภูวนัย ฉวยโอกาสวิ่งออกไป

ไผ่วิ่งหนีลูกน้องเจ้โสภีมาเจอเสี่ยเข้าพอดี เสี่ยจะคว้ามือไผ่ไปด้วย ไผ่ปัดมือเสี่ยยืนงงอยู่ ภูวนัยวิ่งมาถึงพอดี ลูกน้องเสี่ยยิงใส่ภูวนัยแต่ไผ่ยืนบังอยู่ ไผ่หลับตาปี๋คิดว่าตายแน่แล้ว แต่ภูวนัยพุ่งเข้ามากระชากเธอพ้นวิถีกระสุนแล้ววิ่งไล่ตามเสี่ยกับลูกน้องไป

ไผ่ยืนมึนหูอื้ออึง คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะรอดตายได้อย่างเหลือเชื่อ

พวกเสี่ยไปถึงลานจอดรถก็พากันขึ้นรถ พายัพหันมองภูวนัยที่วิ่งตามมาสั่งเหี้ยม “ฆ่ามัน!” แล้วขึ้นรถตะบึงออกไปทันที ภูวนัยกระโดดหลบกระสุน ระหว่างนั้นยังถูกลูกน้องเสี่ยต้าน แต่เขาก็จัดการมันได้ราบคาบ

หันมองไปรอบตัวโชคดีเจอรถมอเตอร์ไซค์ที่

คากุญแจทิ้งไว้ ภูวนัยกระโดดขึ้นรถบิดตามรถตู้ไป แต่ไม่เห็นรถตู้แล้ว จึงติดต่อชาติกล้าให้หาตำแหน่งรถของเสี่ยสมสุข ชาติกล้าเช็กแล้วบอกว่ามันมุ่งหน้าไปทางมอเตอร์เวย์

ภูวนัยพุ่งรถข้ามเกาะกลางถนนไปอีกฝั่ง ทำเอารถที่ขับกันอยู่เบรกกันสนั่นหวั่นไหว แล้วเขาก็ลัดไปดักที่ซอยข้างทางเมื่อรถของเสี่ยสมสุขมาถึงจึงพุ่งมอเตอร์ไซค์ออกไป ลูกน้องเสี่ยสั่งคนขับรถ “ชนแม่งเลย!’

รถพุ่งเข้าหามอเตอร์ไซค์หมายบดขยี้ให้เละกลางถนน แต่ภูวนัยหักหลบล้มกลิ้งไปกับพื้นนอนแน่นิ่ง เมื่อรถตู้ผ่านไปเขาจึงค่อยๆลุกเดินไปยกมอเตอร์ไซค์โดดคร่อมบิดตามไป

เพราะตำรวจตั้งด่านไว้ถี่ยิบ รถของเสี่ยจึงเลี้ยวเข้าโกดังร้าง ไม่ทันไรภูวนัยก็ตามมาถึง ลูกน้องเสี่ยระดมยิงใส่ราวกับห่าฝน รถก็ยังพุ่งเข้ามาอย่างระห่ำชนรถของเสี่ยโครม! พวกมันจึงรู้ว่าถูกหลอกเพราะมอเตอร์ไซค์มีเข็มขัดล็อกคันเร่งเอาไว้

ตัวภูวนัยเอง โหนโซ่โรยตัวลงมาจากด้านบน ยิงตอบโต้กับพวกสมุนเสี่ยหูดับตับไหม้ ลูกน้องเสี่ยล้มเป็นใบไม้ร่วง ภูวนัยวิ่งไปหลบในที่กำบัง เห็นคนลักษณะคล้ายพวกพายัพกับเสี่ยกำลังวิ่งหนี วินาทีนั้น เขาก็ได้ยินเสียงขึ้นนกคลิก! พอหันมองก็เห็นลูกน้องเสี่ยจ่อปืนอยู่ข้างหลังแล้ว มันสั่งให้ทิ้งปืน เขาจำต้องทิ้ง

แต่ระดับภูวนัยแล้ว แค่สมุนเสี่ยไม่กี่คนไม่อาจทำให้เขาจำนนได้ ในที่สุดเขาก็จัดการสมุนเสี่ยเกลี้ยง เห็นรถของเสี่ยกำลังสตาร์ตจะขับหนี ภูวนัยเล็งปืนจะยิง ถูกสมุนเสี่ยขับรถพุ่งเข้าชน เขายิงยางรถระเบิดทำให้รถเสียหลักพุ่งเข้าชนกำแพง เขาวิ่งไปที่รถหมายจับเสี่ยสมสุขกับพายัพ แต่กลับพบว่าคนที่อยู่ในรถไม่ใช่ทั้งสอง มันเพียงแต่งตัวเหมือนเสี่ยกับพายัพตบตาเท่านั้น!

ภูวนัยเจ็บใจมากที่เสียรู้ถูกหลอกให้ตามมาจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด!

ooooooo

ไผ่พญาหนีกลับมาถึงบ้านในย่านชุมชนแออัดที่เซ็งแซ่ไปด้วยเสียงพวกขี้เมาในวงเหล้า ผัวเมียทะเลาะกัน ไผ่เดินเข้าบ้านอย่างคุ้นชินกับสภาพเหล่านั้น

พอเข้าบ้านเห็นลำไยผู้เป็นแม่นอนห่มผ้าตัวสั่นอยู่บนโซฟาเก่าๆ ถามว่าแม่เป็นอะไร ทีแรกก็เป็นห่วงแต่พอมองสภาพภายในบ้านแล้วไผ่รู้ว่าแม่แค่ตื่นเต้นที่ป๊อกเก้า เลยพูดลอยๆ “กลับบ้านกลับช่องกันได้แล้ว” สิ้นเสียงไผ่บรรดาขาไพ่ก็ทยอยกันออกจากที่ซ่อน ทีละคน...ทีละคน...
ลำไยยังอยากเล่นต่อเพราะมือกำลังขึ้น ไผ่ถามอย่างอ่อนใจว่าเมื่อไรแม่จะเลิกเล่นไพ่เสียที เล่นแล้ว

มันมีอะไรดีขึ้นไหม ถูกลำไยลำเลิกทันทีว่า

“นังนี่...พอเรียนจบมีงานทำหน่อยก็ปีกกล้าขาแข็งเถียงฉอดๆ ถามหน่อยใครเป็นคนส่งเงินให้แกเรียน หา!”

“แม่...เท่าที่ฉันจำได้...ฉันทำงานส่งตัวเองเรียนมาตลอด”

“เว้ย...เรื่องมันเก่าแล้วฉันจำไม่ได้แล้ว เอาเรื่องตอนนี้ดีกว่า ที่แกได้งานทำทุกวันนี้เพราะใคร!”

“เรื่องนั้นฉันไม่เถียงว่าฉันต้องเป็นสาวโคโยตี้

ก็เพราะแม่...ถ้าแม่ไม่ไปยืมเงินเจ้เขา...ฉันก็ไม่ต้องไปเป็นโคโยตี้ขัดดอกให้แม่อย่างทุกวันนี้หรอก” พูดแล้วเดินขึ้นข้างบนไปเลย ลำไยเล่นงานไผ่ไม่ได้สักแง่ ได้แต่สบถระบายอารมณ์ไล่หลัง

“ไอ้ไผ่...นี่แกว่าฉันเหรอ...ไอ้ลูกเวร...ระวังนรกจะกินหัวเถอะ...ฮึ่ย!!”

ส่วนไผ่ พอเข้าห้องนอนก็หยิบรูปที่ตัวเองถ่ายไว้ในวันรับปริญญา คณะศิลปศาสตร์ ถ่ายเดี่ยวๆไม่มีแม่อยู่ด้วย ไผ่ดูรูปอย่างคับแค้นใจในโชคชะตาของตัวเอง...

ooooooo

รุ่งขึ้นหมอกไม่ทันจางน้ำคางไม่ทันแห้ง ไผ่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเลื่อนเก่าอี้โครมคราม ไผ่รู้ทันทีว่าแม่ตั้งวงอีกแล้ว

สายๆก็ได้ยินเสียงแม่เอะอะโวยวายจับความได้ว่ามีคนจะมายึดรถมอเตอร์ไซค์ ไผ่โดดลงบันไดวิ่งพรวดเข้าไปขวาง ถามว่าจะทำอะไร พวกมันเห็นความสวยเซ็กซี่ของไผ่ก็ตาวาว แต่เจอมาดนักเลงของไผ่เข้าก็เจื่อนบอกว่าเพราะลำไยไปค้ำประกันเงินกู้ให้ขิง ไผ่ถามแม่ว่าไปค้ำประกันให้ขิงหรือ

“เอ่อ...แม่ไม่รู้นี่ เห็นไอ้ขิงมันบอกว่าไม่มีอะไร แม่ก็เห็นว่ามันเป็นเพื่อนแก ก็เลยช่วยๆมัน” ไผ่ถามว่าไอ้ขิงมันให้เท่าไร ลำไยยกมือกางห้านิ้ว ไผ่ถามว่าห้าร้อยหรือ ลำไยส่ายหน้าบอกเสียงอ่อยว่า “ห้าสิบบาท”

ไผ่โมโหมากบอกพวกนักเลงทวงหนี้ว่าเรื่องไอ้ขิงไม่ต้องห่วงตนจะเป็นคนทวงมาให้เอง ว่าแล้วคว้าพร้าจ้ำอ้าวไป

ขิงกับกระดังงาค่อยๆโผล่หัวออกจากที่ซ่อนในบ้านถามกันว่าเฮียหมูไปแล้วหรือ เห็นเงียบๆ ชวนรีบไปกันดีกว่าป่านนี้พวกนั้นคงไปที่บ้านไอ้ไผ่แล้ว แต่ไม่ทันออกจากบ้าน ไผ่ก็พรวดเข้ามาเงื้อพร้าด่า

“ไอ้เพื่อนทรยศ!”

ขิงกับกระดังงากลัวไผ่ยิ่งกว่าพวกเฮียหมู คว้ากระเป๋าได้ก็โกยอ้าวตัวใครตัวมัน ไผ่ไล่ตามพร้อมพร้าในมือ

ooooooo

ร.ต.อ.ชาติกล้า ณรงค์ฤทธ์ รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน เดินมาที่โต๊ะทำงานตัวเอง เห็นภูวนัยนั่งหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ถามว่ามีอะไรหรือ ภูวนัยบอกว่าตนพลาดอีกแล้ว

ชาติกล้าทำเสียงตกใจถามว่าพวกมันรู้ตัวอีกแล้วหรือ ภูวนัยบอกว่าก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ตนจับพวกมันได้แต่ไม่มีหลักฐานว่าพวกมันกำลังส่งยากัน ชาติกล้าถามว่าคนที่ถูกจับได้อยู่ที่ไหน ตนอยากคุยกับมัน ภูวนัยไม่ทันบอกจ่าวีระก็เข้ามาขัดจังหวะหน้าตาซีดเซียว ภูวนัยสังหรณ์ใจว่าต้องมีอะไรไม่ค่อยดีแน่

ภูวนัยไปที่ห้องสอบปากคำ ไม่มีผู้ต้องสงสัยแล้ว จ่าราชัยรายงานว่า ปล่อยไปแล้วตามคำสั่งของผู้กำกับและผู้กำกับก็กำลังเรียกตัวเขาไปพบเดี๋ยวนี้ด้วย

ไปถึงเจอผู้กำกับมารุตกำลังพูดโทรศัพท์จับความได้ว่า จะรีบหาสาเหตุและทำรายงานส่งท่านให้เร็วที่สุด พอหันมาเห็นภูวนัยก็ชักสีหน้าตำหนิ

“ใครให้คุณขังผู้ต้องสงสัยเอาไว้อย่างนั้น คุณไม่รู้หรือไงว่ามันผิดกฎหมาย” ภูวนัยชี้แจงว่าเธอเป็นเบาะแสเดียวที่ทำให้เราสืบไปถึงแก๊งของนายสมสุขได้ ถูกเสียงดังใส่อีกว่า “แล้วมันคุ้มที่จะโดนยุบทั้งหน่วยหรือไง!” พอสงบสติอารมณ์ลง จึงผ่อนเสียงลงถามว่า “เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 1 วันที่ 8 เม.ย. 56

คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็ง
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ