คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 4-5 วันที่ 19 เม.ย. 56


อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 4

ภายในห้องนั่งเล่น ภูวนัยเข้ามาชำระความ เผ่าพงศ์และม่านหมอก นั่งก้มหน้างุด ส่วนม่านหมอกนั่งคอแข็งหน้านิ่ง ภูวนัยถามเสียงเครียดว่า

“ตกลงจะไม่มีใครยอมรับใช่ไหม...อะไรกัน

พ่อไม่อยู่แค่วันเดียว ทำไมถึงได้ก่อเรื่องราวได้ขนาดนี้”

เผ่าพงศ์เตือนว่าค่อยๆ พูดก็ได้ เลยถูกสวนมาว่า “พ่อก็เหมือนกัน เป็นผู้ใหญ่ทำไมไม่ห้าม” ทำเอาเผ่าพงศ์สะอึก ม่านหมอกพูดขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ฉันเป็นคนทำเอง” ม่านเมฆแทรกขึ้นว่า “พวกเราทำด้วยกันหมดแหละ”


“แต่ฉันเป็นคนคิด เอาซิ ฉันเป็นคนทำจะทำอะไร จะส่งฉันไปให้ตำรวจอย่างที่ไอ้พ่อเลี้ยงนั่นว่าหรือไง” หมอกท้า ภูวนัยเสียงอ่อนลงว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้เกิดพั้นซ์ตายขึ้นมาจะว่าไง “จะไปยากอะไร ฉันตายไปอีกคนไง เรื่องก็จบ!”

“ฉันว่านายใจเย็นก่อนเถอะ ตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าคุณพั้นซ์เป็นอะไรมากน้อยแค่ไหน แล้วอีกอย่าง ฉันอยากให้นายฟังความสองข้าง ว่าทำไมเมฆ หมอก แล้วก็คุณลุงถึงได้ทำอย่างนั้น” ไผ่ไกล่เกลี่ยอย่างไม่อยากให้พ่อลูกทะเลาะกัน

“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพราะเขามักจะเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคนใกล้ตัวอยู่แล้ว” ม่านหมอกประชด

ภูวนัยตัดบทบอกม่านหมอกให้ไปนอนเสีย พรุ่งนี้ตนจะพาไปขอโทษพั้นซ์ที่โรงพยาบาล ม่านหมอกเสียงแข็งว่า

“ฉันไม่ไป” ภูวนัยดุว่าทำผิดก็ต้องยอมรับผิด “แต่ฉันไม่ได้เริ่มก่อน ถ้าอยากให้ฉันขอโทษ อาก็ไปลากยัยนั่นมาขอโทษฉันก่อน”

ไผ่เสนอตัวจะไปขอโทษแทนม่านหมอก ภูวนัยไม่ยอม ยืนยันว่า ใครทำคนนั้นต้องรับผิดชอบ ม่านหมอกลุกเดินออกไปอย่างไม่พอใจ ภูวนัยร้องเรียกก็ไม่สนใจ

ไผ่พยายามขอไปแทนม่านหมอกอีก เลยโดนภูวนัยดุ

“คุณเป็นครูยังไง แทนที่จะสอนให้รู้จักรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง แต่กลับออกหน้ารับผิดเสียเอง ทำอย่างนี้เดี๋ยวก็ได้ใจกันใหญ่”

“เอ้า...โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้แล้วจะให้ฉันทำยังไง” ไผ่ชักฉุน

“ก็ทำให้เธอไปขอโทษพั้นซ์ที่โรงพยาบาลพรุ่งนี้ไง!” พูดแล้วเดินออกไปเลย ไผ่พญามองตามอย่างเหนื่อยใจ...

ooooooo

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 5


รุ่งขึ้น ภูวนัยจะพาไผ่พญากับม่านหมอกไปเยี่ยมและขอโทษพรรณราย ลงมาเจอไผ่ก่อนเห็นใส่เสื้อดำ ก็ตำหนิว่าไปเยี่ยมคนป่วยใครเขาใส่เสื้อดำกัน ให้ขึ้น ไปเปลี่ยนเสีย

“งั้นนายก็ไปโกนหัวสิ” ไผ่สวนไปทันควันทำเอาภูวนัยงงว่ามันเกี่ยวกันยังไง “ผมนายก็ดำเหมือนกัน” ไผ่ชี้ให้ดูภูวนัยทำตาเขียวใส่บอกว่าอย่าหาเรื่อง ดีที่พรรษาบอกว่าแม่ของไผ่เพิ่งเสีย ไผ่นึกได้ผสมโรงทันทีอ้างว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่

“เออ...ผมลืมไป” ภูวนัยเสียงอ่อนลงแล้วเปลี่ยนเป็นถาม “หมอกล่ะ...ตกลงคุณทำให้เธอยอมไปโรงพยาบาลได้ไหม”

ไผ่อึกอัก พรรษาบอกว่าเมื่อเช้าเห็นอยู่ในครัว ก็พอดีม่านหมอกเดินมาพร้อมถุงผ้าใส่กล่องอาหารกับกระบอกน้ำ

“ฉันทำอะไรไปเยี่ยมคุณพั้นซ์เขาหน่อย ไปกันหรือยัง”

ภูวนัยแปลกใจมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แอบถามไผ่เบาๆว่า “คุณทำยังไง หมอกถึงได้ยอมไป” ไผ่ทำเป็นอำว่าเป็นความลับ แล้วเดินตามม่านหมอกออกไป ภูวนัยเดินตามไปอย่างไม่หายสงสัย

แต่พอไปถึงโรงพยาบาล ภูวนัยหันบอกสองคนว่าตนจะเข้าไปก่อน เห็นทั้งสองกำลังซุบซิบๆอะไรกัน พอถามไผ่บอกว่าหมอกกลัวว่าพรรณรายจะยังโกรธอยู่แล้วไม่รับของที่เธอตั้งใจทำมาฝาก ปะเหลาะเขาว่า

“ถ้าบอกว่านายเอามาฝาก รับรองว่ายัยนั่น...อุ๊ย...คุณพั๊นซ์ จะต้องหายทันทีเลย น่า...อยากให้หมอกหน้าแตกรึไง”

“ก็ได้...ดีเหมือนกัน ถ้าเกิดพวกคุณโผล่เข้าไปเลย พั้นซ์อาจตกใจก็ได้...เดี๋ยวผมเข้าไปก่อน แล้วสักพักค่อยตามเข้าไปแล้วกัน”

พอภูวนัยหิ้วถุงเข้าไป ไผ่หันมากระหยิ่มยิ้มย่องกับม่านหมอกว่า “ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ต้องแฮปปี้เอนดิ้งแน่นอน”

ooooooo

ภูวนัยเข้าไปเจอพรรณรายกำลังหงุดหงิดที่รอแต่เช้ายังไม่เห็นเขามา พอภูวนัยโผล่ไปก็ยิ้มแย้มดีใจ แต่แล้วก็ถามอย่างทำใจไม่ได้ว่า

“ภูไปกรุงเทพฯกับยัยครูนั่นทำอะไรกันคะ” ภูวนัยบอกว่าแม่ของไผ่เสียตนเลยขับรถพาเธอไปงานศพแล้วก็เลยไปทำธุระต่อด้วย “จริงนะคะ ภูกับยัยครูนั่นไม่ได้กิ๊กกั๊กกันใช่ไหมคะ”

ภูวนัยแสดงความจริงใจถามว่าเธออยากได้ของชำร่วยงานศพไหมเธอจึงเชื่อ เหลือบเห็นถุงในมือเขา ถามว่านั่นอะไร พอภูวนัยบอกว่าแซนด์วิช เธอเปิดดูอุทานอย่างปลาบปลื้มมากว่า

“ภูนี่...รู้ใจพั้นซ์จริงๆเลย รู้ไหมว่าพั้นซ์เบื่อข้าวโรงบาลจะแย่แล้ว...พั้นซ์ทานเลยนะคะ”

กัดคำแรกพรรณรายก็ชะงัก พอดีไผ่กับม่านหมอกเปิดประตูเข้ามา พรรณรายชะงักหน้าเปลี่ยนสีแต่แล้วรีบปรับเมื่อเห็นภูวนัยมองอยู่ ทำเป็นทักทายเสียงอ่อนโยน ชมว่าแซนด์วิชอร่อยมากเลย

“เหรอ...เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าอาหารหมูเอามาทำแซนด์วิชก็อร่อยเหมือนกัน” ม่านหมอกพูดเยาะหน้านิ่ง พรรณรายแทบอ้วกออกมา ภูวนัยดุม่านหมอกว่าเล่นอะไร ไม่เห็นหรือว่าพรรณรายเจ็บอยู่

บรรยากาศเปลี่ยนไปทันที เมื่อเสกสรรผลักประตูนำตำรวจสองนายเข้ามาบอกว่ามาสอบปากคำพรรณราย ไผ่แทบช็อกเมื่อเห็นตำรวจ ค่อยๆ หลบๆเลี่ยงๆจะออกไป เสกสรรชี้ให้ตำรวจจับไผ่กับม่านหมอก

“อะไรกันเนี่ยพ่อ...พ่อพาตำรวจมาทำไม” เมื่อทั้งเสกสรรและตำรวจจะเอาเรื่องกับไผ่และม่านหมอกว่าแกล้งพรรณรายจนได้รับบาดเจ็บ พรรณรายก็เปลี่ยนเสียงทันทีบอกว่า “พั้นซ์ลื่นล้มเองค่ะ” ทั้งตำรวจและเสกสรรเลยมึน

สารวัตรสะดุดตาไผ่ว่าคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ไผ่รีบชี้แจงว่าตนเป็นคนหน้าโหลคนทักผิดอยู่บ่อยๆ แล้วหาเหตุชิ่งอ้างว่าเมื่อกี๊เข้าห้องน้ำแล้วลืมปิดน้ำ ว่าแล้วเดินอ้าวไปเลย สารวัตรรีบตามไปเหมือนจะเอาเรื่อง เสกสรรตามไปถามสารวัตรว่าจะกลับแล้วหรือ ไผ่ฉวยโอกาสนั้นผลุบเข้าไปในห้องข้างๆทันที

เสกสรรตามไปดึงสารวัตรถามว่าจะกลับง่ายๆอย่างนี้หรือ สารวัตรบอกว่าไม่ได้กลับแต่เพิ่งจำได้ว่าไผ่เป็นลูกสาวของยายแป๋วขายฮ่อยจ๊อที่ตลาด เจ้านี้ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยสามวัน เลยจะฝากเธอไปบอกยายแป๋ว

“นี่สารวัตรเห็นฮ่อยจ๊อสำคัญกว่าลูกผมเหรอ” เสกสรรถามอย่างไม่พอใจ

ห้องที่ไผ่พญาหลบเข้าไปเป็นห้องตรวจโรคหัวใจ ขณะกำลังใจตุ๊มๆต่อมๆอยู่นั่นเอง หมอเดินเข้ามาบอกว่ากำลังให้พยาบาลตามตัวเธออยู่พอดี ไผ่แทบช็อกเป็นครั้งที่สองเมื่อหมอบอกว่า

“โรคหัวใจของคุณถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดภายในหกเดือนนี้...หมอเกรงว่า...”

“ฉันเข้าใจดีค่ะหมอ” ไผ่รีบบอกเมื่อเหลือบเห็นตะวันฉายที่พายายสามาหาหมอเดินรี่เข้ามาจะทัก พอหมอไปแล้ว ไผ่ก็ถอนใจโล่งอกที่เอาตัวรอดได้เฉียดฉิวและตะวันฉายก็เข้าใจว่าเธอเป็นโรคหัวใจที่ต้องผ่าตัดภายในหกเดือนด้วย!

ไผ่กลัวเรื่องจะบานปลาย จึงขอร้องตะวันฉายว่าเรื่องที่เขาได้ยินหมอบอกว่าตนเป็นโรคหัวใจนั้นขอให้เก็บไว้เป็นความลับได้ไหมเพราะตนไม่อยากให้ใครต่อใครมองด้วยความสงสาร

ระหว่างนั้นปลายฟ้าเดินมาเจอทั้งไผ่และตะวันฉาย ทักทายกันครู่เดียวภูวนัยกับม่านหมอกก็เดินออกมาบอกไผ่ว่าเราจะกลับกันแล้ว ทันใดทุกคนก็ชะงักเมื่อพรรณรายเดินกะเผลกๆออกมาอ้อนภูวนัยอย่าทิ้งตนไว้คนเดียวเลย ภูวนัยอ้างว่าตนต้องไปส่งม่านหมอกกับครู

“อ๋อ...ตามสบาย...เดี๋ยวฉันพาหมอกเขากลับเองได้” ไผ่รีบเสนอตัว ตะวันฉายก็อาสาจะไปส่งแทน ทำเอาภูวนัยเซ็งที่อุตส่าห์หาข้ออ้างกับพรรณรายแล้ว ไผ่พญายังดั๊น... อาสาเสียได้

ooooooo

จากแท่งข้อมูลที่อนันต์เอามาให้พายัพ ทำให้พายัพได้รายชื่อตำรวจหลายนายที่รับส่วยจากเสี่ยสมสุขทุกเดือน

“ไอ้สมสุข...มิน่า...ทำไมพวกตำรวจถึงได้เกรงใจแกหึๆ ร้ายไม่ใช่เล่นนี่” พายัพยิ้มเหยียด ทันใดก็มีเสียงเคาะประตู เมื่อพายัพอนุญาตให้เข้า มือขวาของเขาเข้ามาเอาพระสมเด็จให้ พายัพถามว่า “แล้วผู้หญิงอยู่ไหน”

มือขวาของเขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ พายัพรีบคลี่อ่าน

“ฉันคืนของที่คุณต้องการให้แล้ว...ต่อไปนี้ขอให้เราเลิกแล้วต่อกัน”

พายัพขยำกระดาษทิ้ง มือขวาบอกว่านั่นอาจเป็นของปลอมก็ได้ พายัพจึงหยิบที่ทับกระดาษขึ้นมาทุบกรอบพระจนแหลก ก็ไม่พบอะไรเลย เขาหันไปตวาดสั่งมือขวา

“หาตัวนังผู้หญิงนั้นมาให้ได้!!”

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 4-5 วันที่ 19 เม.ย. 56

คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็ง
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ