อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 7/2 วันที่ 7 เม.ย. 56
“แกจะขัดใจชั้นหรือ บอกให้หาก็หาสิแกเป็นลูกคนใช้ แกต้องทำตามที่ชั้นสั่ง แกเข้าใจไหม”เนื้อทองมองหน้าเนียนเหมือนไม่เข้าใจ เนียนพยักหน้าให้ลูกยอม
ระหว่างนั้นเทิดศักดิ์วิ่งเข้ามาถึง ทันได้ยินพอดี
“เล่นเอาแต่ใจตัวกันแบบนี้ ก็ต้องขัดใจกันบ้างละ น้าเนียนครับ”
เนียนหันมายิ้มให้เทิดศักดิ์
“ขอบคุณมากค่ะ คุณหนูเทิดศักดิ์ แต่ว่า…”
“เล่นกันต้องเท่าเทียมกันครับ น้าเนียน เล่นกันต้องสนุกเท่ากันครับ”
“ไม่เป็นไรดอกค่ะ คุณหนูเทิดศักดิ์”
แล้วจู่ๆ เนียนก็รู้สึกได้ว่ามีคนมองมา เนียนหันไปใจหายวับ
เจอขุนภักดีมองมา เนียนกับท่านขุน มองหน้ากัน ขุนภักดีมองเนียนอยู่อย่างนั้น
ภาพเนียนที่มอมแมมในยามนี้ สลับกับภาพเนียนแสนสวยเมื่อวันวานไปมาอยู่ในหัวขุนภักดี จนท่านขุน เผลออุทานเรียกเนียนออกมาเบาๆ
“โธ่ เนียน”
แต่แล้วขุนภักดีก็ตั้งสตินึกได้ หันหลังกลับเดินไปจากที่นั่นทันที
“ผู้หญิงหลายใจ เลี้ยงไม่เชื่อง ผู้หญิงแพศยาหลอกลวง”
เนียนมองตามน้ำตาไหลริน
พวกเด็กๆ เล่นกันต่อ ทานตะวันไม่พอใจที่เทิดศักดิ์เข้าข้างเนื้อทองยกนิ้วโป้งให้
“โป้งพี่เทิดศักด์ ไปเข้าข้างนังลูกคนใช้”
“โป้งน้องอี๊ด เกเรเอาเปรียบคนอื่น” เทิดศักดิ์โป้งกลับ
“จะไปฟ้องแม่สน” ทานตะวันว่า
“พี่ไม่กลัว พี่ไม่ได้ทำผิด หนูติ๋ว อย่าไปเล่นกับน้องอี๊ด”
ทานตะวันมากระชากแขนเนื้อทองไปแรงๆ
“มาเล่นกับชั้นเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ต้องเล่นกับเด็กเกเร”
เทิดศักดิ์ดึงเนื้อทองกลับมา นั่นทำให้ทานตะวันซวนเซแล้วล้มลงกับพื้นร้องไห้โฮ
เนียนตกใจมาก ผวามาอุ้มทานตะวันทันที
“อุ๊ย ลูก เอ้อ...คุณหนูเจ็บไหมคะ”
สนกับช้อยก้าวออกมา
“มีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องคุณหนู ไม่ดูสารรูปมอซอของตัวเองซะบ้าง” ช้อยด่า
“มาหาแม่สนนะคะหนูอี๊ด”
แล้วสนก็แย่งทานตะวันมาจากมือเนียน จังหวะนั้นสนเห็นสร้อยประคำที่คอทานตะวัน จึงรีบแอบแกะออกอย่างรวดเร็ว
“คุณแม่ลำเอียง โตขึ้นผมเป็นตำรวจจะมาจับคุณแม่” เทิดศักดิ์ไม่พอใจแม่ตามประสา
สนอุ้มทานตะวันหายไปแล้ว ช้อยพยายามดึงเทิดศักดิ์ออกไป
“คุณแม่ไปแล้ว รีบตามคุณแม่ไปเถิดเจ้าค่ะ”
แต่เทิดศักดิ์ไม่ยอม แถมตวาดช้อย
“ปล่อย อย่ามายุ่งกับชั้นนะ ยุ่งมากจะฟ้องคุณพ่อว่ายัยช้อยชอบโกหก”
กบแอบหัวเราะคิก ช้อยรีบปล่อยเทิดศักดิ์ทันที
“หัวเราะอะไรนางกบ”
เนียนรีบบอก “คุณเทิดศักดิ์ขา ตามคุณแม่ไปเถิดค่ะ”
“ไม่ไป ผมจะเล่นกับหนูติ๋ว เล่นกับหนูติ๋วสนุกดีออกจะตาย ยัยช้อยนั่นแหละผู้ใหญ่ไก่เขี่ย ไปให้พ้น”
ช้อยเดินสะบัดตูดออกไป เทิดศักดิ์เดินมาจูงมือเนื้อทองไปนั่งชิงช้าด้วยกัน
เนียนไม่สบายใจมาก
สนอุ้มทานตะวันมาฟ้องทองจันทร์ ที่กำลังเอนให้แมวนวดอยู่
“คุณแม่ขามีเรื่องร้อนหูอีกแล้วค่ะ”
“อะไรรึแม่สน”
“สร้อยประคำของหนูอี๊ดหายไปตอนที่เล่นอยู่กับพวกเล้าหมูค่ะ”
“ไฮ้ ได้ยินว่าเพิ่งจะหาซื้อมาวันนี้ หล่นที่ไหนหรือเปล่า”
“เปล่าแน่ๆ ค่ะ ตอนที่สนเดินไปแต่ไกล ยังเห็นใส่อยู่ พูดก็พูดจะหาว่าใส่ความกันนะเจ้าคะ หนูอี๊ดหกล้ม กบก็อยู่ แต่เนียนน่ะสิเจ้าคะ ตัวก็สกปรกมอมแมม มีเจตนาอะไรรึเปล่า วิ่งมาอุ้มหนูอี๊ด สนงี้ใจแป้ว รีบไปชิงเอาตัวคืนมากลัวความสกปรกจะมาติด มองอีกทีสร้อยหายไปแล้วค่ะ” สนใส่ไฟเป็นการใหญ่
“อุเหม่ นี่ นี่ แม่สนจะบอกว่าเนียนมันขโมยรึ”
ช้อยพรวดมาอีกคน ช่วยผสมโรง
“ช้อยเห็นคาตาเจ้าค่ะ เนียนปลดสร้อยประคำออกไปจากคอคุณหนูอี๊ด ช้อยสาบานเจ้าค่ะ”
“จริงรึ หนูอี๊ด” ทองจันทร์หันมาทางหลานสาว
ทานตะวันคิดนิดหนึ่งแล้วสบตาสน เห็นสนพยักหน้าให้
“จริงค่ะ คุณย่า”
ทองจันทร์ลุกพรวด โกรธมากน้ำหมากกระเด็นหก
“อุเหม่ นางคนถ่อย เลี้ยงเสียข้าวสุก”
ฝ่ายขุนภักดีกำลังครุ่นคิดเรื่องเนียน เรียมมองจับสังเกตท่าที จึงเอ่ยถาม
“พี่เทพ ไปแอบดูลูกเราเล่นกับหนูติ๋วมาหรือคะ”
“นี่ อย่ามาหาว่าพี่ไปแอบดูใครนะ พี่ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ พี่ก็หันไปมองก็เท่านั้น อย่ามาจับผิดพี่สิเรียม” ขุนภักดีพาลหงุดหงิดเพราะกลัวใครจับได้ว่ายังอาลัยอาวรณ์เนียนอยู่ “นางแพศยาคบชู้นั่น พี่ไม่เหลือบแลมันให้เสนียดมาติดสายตาพี่ดอก พี่ห่วง กลัวว่าลูกมันจะมารังแกลูกเราเข้า”
“แล้วหนูติ๋วรังแกหนูอี๊ดไหมคะ”
“เปล่า มันไม่กล้า ลูกเราน่ะฉลาดวางตัวเก่ง ข่มมันตั้งแต่พบหน้ากัน มันเลยหงอ”
“พี่เทพขา ถ้าลูกเราไปข่มคนอื่นจนหงอ เอาแต่ใจตัว โตขึ้นจะมีเพื่อนหรือคะ” เรียมหารือ
“จะเดือดเนื้อร้อนใจไปทำไม ลูกเราอยู่แต่ในแวดวงดีๆ ลูกท่านหลานเธอของพวกเราเอง ได้แต่งงานกับคนดีๆมีบารมีผัวคุ้มตัวแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับลูกผู้หญิง หรือว่าตัวเรียมไม่ได้เป็นเช่นนี้”
“ก็คล้ายๆ กันค่ะ แต่เรียมไม่เคยยกตนข่มใคร ผู้หญิงสมัยนี้ ต้องเก่งกว่าสมัยเรียม ไม่จำเป็นต้องอาศัยแต่บารมีผัว ไม่ใช่แค่เออๆ ค่ะๆ เท่านั้น เขาต้องช่วยตัวเองได้ ต้องมีเพื่อนมากๆ”
“ก็ถูกของเรียม แต่คนเราก็ต้องไว้ตัว ไม่อย่างนั้นจะแยกนายแยกบ่าวได้ยังไง”
“คนเหมือนกัน หายใจอากาศเดียวกัน อย่าข่มเขาเกินไป ที่พูดมานี่คือเรียมจะส่งลูกเราไปเรียนโรงเรียนของนฤมล เพื่อนสนิทของรียม ที่บางกอกน่ะค่ะ”
“ดีมากจ้ะ พี่จำนฤมลได้แม่น โรงเรียนของนฤมลมีชื่อเสียงมาก”
“เรียมคิดว่าหนูอี๊ดไปอยู่ตามลำพังคงจะเหงา”
ขุนภักดีรู้ทัน “พูดวนไปเวียนมา ชักแม่น้ำทั้งห้า ก็เพื่อจะเอาเด็กติ๋วไปเรียนด้วย จะส่งเสริมมันให้เท่าเทียมว่างั้นเถอะ พี่ไม่ออกเงินค่าเรียนให้มันเด็ดขาด”
“เอ้อ เรียมก็แค่ส่งไปเป็นคนรับใช้ คนสนิทของหนูอี๊ดไม่ดีหรือคะ”
ขุนภักดีคิดอยู่ เสียงช้อยดังขึ้นก่อนตัวจะพรวดพราดเข้ามา
“ท่านขุน คุณนายเรียมเจ้าขา เกิดเรื่องใหญ่ในรอบห้าปีแล้วเจ้าค่ะ”
“ใครเป็นอะไร ลูกข้าเป็นอะไร นางบ่าวเล้าหมูมันทำอะไรลูกข้า”
“ไม่ได้ทำอะไรแค่ขโมยปลดสร้อยประคำของคุณหนูไปตอนที่ลูกมันผลักคุณหนูล้ม มันจึงแสร้งทำท่าไปอุ้มเพื่อหวังขโมยของเจ้าค่ะ”
“ไม่จริง ช้อยอย่ามาเหลวไหลใส่ความคนอื่น พี่เทพคะ..สอบถามก่อนค่ะ”
ขุนภักดีหายไปแล้ว อึดใจเดียวกลับมาพร้อมด้วยแส้ม้า หน้าตึงกระแทกส้นลงเรือนไป ช้อยยิ้มย่องวิ่งตามไปทันที
“พี่เทพ อย่านะคะ” เรียมร้องห้าม
สนกับแทนพร้อมด้วยบ่าวชายอีกจำนวนหนึ่ง กรูกันมาจับตัวเนียน
“ลากเอาตัวอีเนียนไปลงอาญา”
เนียนตกใจ “คุณสนว่ากระไรนะคะ”
“เอ็งอย่ามาทำไขสือ ไอ้แทน บอกพวกเอ็ง ลากเอาตัวมันไปโยงไว้กับต้นไม้ใหญ่ที่มันเคยโดนโบยมาแล้ว เมื่อห้าปีก่อน” สนสั่งบ่าวชาย
แทนกับพวกกรูมากระชากลากเนียนไป เนียนดิ้นรน เนื้อทองร้องไห้จ้า มาช่วยฉุดแม่ไม่ให้ใครเอาแม่ไป เทิดศักดิ์ตกตะลึง
“ฉันทำผิดอะไรหรือคะ คุณสน” เนียนร้องถาม
“เอ็งรู้อยู่แก่ใจไม่ต้องมาทำเป็นโง่เง่าเต่าตุ่น”
“ปล่อยแม่หนู อย่าเอาแม่หนูไป อย่าทำร้ายแม่หนู ฮือๆๆ” เนื้อทองร้องไห้
“อะไรกันนักกันหนา ห้าปีที่ทารุณกันมา ป่านนี้ยังมิเลิกรา” กบฉุน
“ฉันอุ้มคุณหนู เพราะเธอหกล้ม ผิดมากมายขนาดนั้นเลยหรือคะ” เนียนอธิบาย
“แค่บังอาจอุ้มหนูอี๊ดก็ผิดมาก ยิ่งเรื่องปลดสร้อยปะคำนี่เอ็งผิดจนอภัยไม่ได้ เอ็งมันนังหัวขโมย รีบลากมันไปให้พี่ขุนโบยเดี๋ยวนี้” สนสั่งเสียงแข็ง
“คุณแม่สนเห็นกับตาหรือว่าน้าเนียนปลดสร้อยน้องอี๊ด ผมอยู่ข้างๆ ใกล้กว่าคุณแม่สนผมยังไม่เห็น” เทิดศักดิ์เอ่ยท้วงขึ้น
“หยุดนะ ลูกเทิดศักดิ์ อย่าหลับหูหลับตาเข้าข้างคนใช้”
พวกแทนพยายามฉุดเนียน เนื้อทองมาดึงแม่ สนกระชากเนื้อทองจนเซจะล้ม เทิดมาจับไว้
“หลีกไปนะนังเด็กบ้า”
“คุณแม่รังแกเด็ก” เทิดศักดิ์ว่า
“หนูติ๋วจ๋า อย่าตามไปนะลูก กบฝากหนูติ๋วด้วยอย่าให้ตามไป”
เด็กหญิงเนื้อทองดิ้นรนจะไป พวกแทนลากเนียนไป
“เอาแม่หนูคืนมา อย่าเอาแม่หนูไป”
สนเดินยิ้มตามไป เทิดศักดิ์ไม่พอใจช่วยเนียนไม่ได้โอบกอดหนูติ๋วไว้ พลางเช็ดน้ำตาให้
“หนูติ๋วจ๋า อย่าร้องไห้ พี่จะช่วยน้าเนียนไม่ให้โดนโบย พี่กบ ไปบอกลุงเอกให้มาช่วยน้าเนียนไวๆ เข้า” เทิดศักดิ์บอก
“เจ้าค่ะ”
กบวิ่งออกไป เสียงร้องไห้ของเนียนผสมกับเสียงร้องของเนื้อทองดังระงมไปหมด เทิดศักดิ์เช็ดน้ำตาให้
“หนูจะไปช่วยแม่เนียน คุณเทิดศักดิ์ขาช่วยแม่เนียนด้วย”
เนื้อทองเขย่ามือเทิดศักดิ์สบตาอ้อนวอนน้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม สะอื้นฮักๆ
เทิดศักดิ์พยักหน้า “พี่ช่วยแน่ เราไปช่วยน้าเนียนกัน”
เทิดศักดิ์จูงมือเนื้อทองเดินออกไปด้วยกัน เนื้อทองป้ายน้ำตาป้อยๆ ไปตลอดทาง
เนียนกำลังถูกบ่าวผู้ชายจับมัดโยงไว้กับต้นไม้ต้นเดิมเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนขุนภักดีลงอาญา
เนียนอดนึกตอนที่ตัวเองโดนโบยเมื่อห้าปีก่อนไม่ได้
คิดขึ้นมาแล้วเนียนน้ำตาไหลพราก สนเดินยิ้มเข้าไปหา
“ห้าปีผ่านไปไวเหมือนโกหก กงล้อเวรกรรมตามทันเอ็งอีกครั้ง ห้าปีผ่านไปเนื้อหนังของเอ็งคงด้านหนากว่าเดิมโบยไม่เจ็บนะ”
ช้อยเข้ามากระซิบ “ห้าปีที่คุณสนรอคอยจะล้างแค้นที่พี่ชายมันทำกับคุณสนก็มาถึง เชื่อหัวอีช้อยหรือยังเจ้าคะ”
“เชื่อสิ คืนนี้ข้าจะตกรางวัลให้เอ็งอย่างงาม”
“สาบานได้ว่าชั้นไม่ได้ขโมย ชั้นไม่มีวันขโมยของคุณหนูอี๊ดเด็ดขาด” เนียนอธิบาย
ขุนภักดี พร้อมด้วยทองจันทร์ พากันมาถึงมีเรียมตามมาติดๆ ทองจันทร์ชราลงมาก มีแมวคอยประคอง
“มึงมันเลี้ยงไม่เชื่อง มึงทำให้กูหมดเมตตาเฉดหัวไล่ออกจากบ้านก็วันนี้ ถ้ามึงไม่สารภาพว่ามึงปลดสร้อยปะคำลูกสาวกู”
เนียนมองท่านขุนน้ำตาไหลย้อยคิดในใจ “ก็ลูกเนียนเหมือนกัน เนียนจะไปทำเช่นนั้นกับลูกของตัวเองได้ลงคออย่างไร” เนียนพูดออกมา
“เนียนไม่ได้ทำเจ้าค่ะ”
“นางผู้ร้ายปากแข็ง แพศยาตาใส สารภาพมา หนักจะได้เป็นเบา แค่โดนแส้ม้าโบย ไม่ถึงกับเฉดหัวออกจากบ้าน” สนพูดสอดขึ้น
เรียมเอ่ยขึ้น “พี่เทพขา เรียมขอยืนยันอีกคน ว่าเนียนไม่มีวันขโมยของหนูอี๊ดแน่ค่ะ”
“เพราะอะไร แม่เรียมถึงเข้าใจไขว้เขวเข้าข้างมันไปได้ขนาดนั้น” ทองจันทร์สอดขึ้น
เรียมคิดอยู่ในใจ “เนียนเป็นแม่ของหนูอี๊ด” แต่ที่พูดออกมาได้คือ “เนียนไม่ใช่คนขี้ลักขี้ขโมย สมัยก่อนทองหยองกองวางเต็มห้องไม่เคยหาย”
ช้อยสาระแน “สมัยนี้ มันต่างกันเจ้าค่ะ มันอิจฉาแทนลูกตัวเอง เห็นคุณหนูอี๊ดเกิดวันเดือนปีเดียวกัน ตกฟากใกล้เคียงหรือพร้อมกันแต่มีชีวิตต่างกันราวสวรรค์กับนรก”
เรียมหันไปดุ “หยุดนะช้อย รู้ดีขนาดว่าหนูติ๋วอยู่ในนรก แล้วรู้ต่อไปไหมว่าใครยัดเยียดนรกให้หนูติ๋ว”
ทองจันทร์ดุ “หยุด! นายว่าขี้ข้าพลอย เนียน เอ็งรับสารภาพซะ ข้ารังเกียจเอ็ง ขยะแขยงเอ็ง แต่เวทนาเด็กตาดำๆ ถ้าถูกเฉดหัวไปไม่แคล้วลูกเอ็งกลายเป็นขอทานข้างถนน”
“ประการแรก ต้องโบยเอ็งเรื่องบังอาจมาอุ้มลูกสาวข้า ประการที่สองต้องโบยที่เอ็งปล่อยให้ลูกเอ็งมาผลักลูกข้า ประการที่สามหนักที่สุดเอ็งขโมยของซึ่งหน้า”
สนพยายามถามนำ “เนียนเอ็งยุลูกเอ็งให้ทำใช่ไหม”
เนียนส่ายหน้าไม่มีปัญญาพูดอะไรออกมา ขุนภักดีขยับแส้จะฟาด
“พี่เทพจะไม่ถามลูกเราก่อนหรือคะ ว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร”
สนอุ้มทานตะวันไว้ตลอดเวลา กระซิบเบาๆ ข้างหู ทานตะวันชี้หน้าเนียน
“มันบอกให้ลูกมันผลักหนู แล้วมันก็ปลดสร้อยคอหนู”
“หนูอี๊ด โกหก” เรียมไม่พอใจ
ขุนภักดีบันดาลโทสะ ฟาดแส้บนหลังเนียนทันที
“เด็กไร้เดียงสาโกหกไม่เป็น”
ขณะที่ขุนภักดีจะฟาดต่อ เทิดศักดิ์จูงพาเนื้อทองมาถึง
“คุณพ่อหูเบา เป็นผู้ใหญ่ทำไมฟังความข้างเดียวครับ”
ทุกคนหันไปมอง เป็นตาเดียว
“เทิดศักดิ์”
สนกริ้วมาก “ไอ้ ...” แล้วเปลี่ยนเป็นคำรามในคอ “เด็กเวร”
เนื้อทองสะบัดมือจากเทิดศักดิ์ถลาไปกันแม่ไว้
“ตีหนูแทนแม่เถิดเจ้าค่ะ”
เนื้อทองกันแม่ไว้อย่างกล้าหาญ สองมือพนมไหว้ขุนภักดีอย่างน่าเวทนา สีหน้าทุกคน อึ้ง ขุนภักดี ชะงักแส้
เรียมมองอย่างชื่นชมแต่ก็ตกใจมาก
“หนูติ๋ว ออกมา”
ทองจันทร์ตะลึง อดชื่นชมไม่ได้ แต่ก็ยังโกรธเนียน
“เออแน่ะ เด็กนี่มันกตัญญูแท้ๆ”
ท่านขุนตวาดลั่น "เอาเด็กออกไป"
สนกระทุ้งช้อยมากระชากเนื้อทองออกไป จังหวะนั้นสร้อยปะคำก็หล่นมาจากชายพกของเนียน
สร้อยปะคำหล่นลงมาต่อหน้าต่อตา ทุกคนตื่นเต้น ชี้ไปยังสร้อยที่ตกลงพื้น ขุนภักดียิ่งมั่นใจมาก
“พยานหลักฐาน ปรากฏออกมา มึงยังกล้าปากแข็ง อีเนียนกูจะโบยมึงแล้วเอาตัวไปส่งตำรวจ”
ขาดคำท่านขุนก็โบยเนียนถี่ยิบ เนื้อทองร้องไห้โฮ
“ไม่จริง แม่หนูไม่ได้ขโมย แม่หนูมีสร้อยแบบนี้เหมือนกัน”
“แม่แกจะเอาปัญญาที่ไหนไปมีของแบบนี้ จะกินยังต้องรอกากเดนจากพวกฉัน”
เรียมมองเนียนน้ำตานองหน้า เนียนน้ำตาอาบแก้ม
ฝ่ายเอกวิ่งหน้าตั้งมายังที่เนียนถูกโบย โดยมีกบตามหลัง
“วิ่ง วิ่งให้ไว พี่เอก ไว อีก ไวอีก”
“ไอ้คนไม่ไวน่ะเอ็งนางกบ ไม่ใช่พี่ เอ็งวิ่งตามหลังข้าแท้ๆ”
“ก็แหมคนมันกลัวไปไม่ทันช่วยเนียนนี่นา ป่านเนี้ย โดนหวดไปกี่แส้ม้าแล้วก็ไม่รู้ ว๊าย…”
กบพูดจบหกล้มลงไปกองกับพื้น
เอกหน่าย “เวร”
ขุนภักดีโบยเนียนต่อ เนื้อทองโดนอุ้มออกไปร้องไห้ลั่น
สนกับช้อย และทานตะวันยิ้มดีใจ
“อย่าร้องหนูติ๋ว เกิดมาเป็นลูกแม่ ต้องอดทน อย่าต้องร้องไห้”
“อย่าพูดมาก ของหล่นมาจากตัว ยังไม่ยอมรับอีกรึ จะโบยมึงให้ถึงร้อย แล้วเฉดหัวออกจากบ้านไปเป็นขอทานทั้งแม่ทั้งลูก”
เทิดศักดิ์เข้าไปขวางในทันที
“ถ้าอย่างนั้นโบยผมด้วยสิครับคุณพ่อ คุณพ่อชอบใช้ความรุนแรง”
ทองจันทร์ เรียม และสนตกใจ “เทิดศักดิ์”
“เหลวไหล อย่ามาท้าทายพ่อ นึกว่าไม่กล้าตีลูกรึ ออกไปนะเทิดศักดิ์”
“ผมจะไป ถ้าคุณพ่อหยุดโบยน้าเนียนแล้วฟังผม ผมอยู่กับน้องสองคนนี่ตลอดเวลา แม่สนต่างหากมาทีหลัง แล้วพูดเอาเอง” เทิดศักดิ์พูดอย่างห้าวหาญ
ทุกคนมองหน้ากัน อึ้งกับคำพูดของเทิดศักดิ์
“เทิดศักดิ์อย่ามาใส่ร้ายแม่นะ”
“ผมไม่ต้องการให้คุณพ่อลงโทษผิดคน” เทิดศักดิ์บอกต่อ
พวกบ่าวแอบซุบซิบกัน สนแค้นลูกมาก เทิดศักดิ์เองยังคงขวางกันเนียนเอาไว้
แดงน้อยในวัย 7 ขวบ แพร โพล้ง คนมากินอาหาร คนส่งของ
หนักให้ทุนมาปรับปรุงร้านอีกก้อน แพรและโพล้งเปิดหน้าร้านดูใหญ่กว่าเดิม วันนี้มีคนมานั่งกินอาหาร โดยมีแดงน้อยวัย 7 ขวบ ช่วยเสิร์ฟอาหาร ด้วยหน้าตาที่น่ารักจึงมีแต่คนเอ็นดู
“น่ารักแท้ๆ” ลูกค้าคนหนึ่งบอก ยิ้มปลื้ม
โพล้งกับแพรมองชื่นใจ
“เนียนคงดีใจถ้าได้เห็นว่าแดงน้อยน่ารักฉลาด ขนาดนี้” โพล้งว่า
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 7/2 วันที่ 7 เม.ย. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager