อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 13/5 วันที่ 27 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 13/5 วันที่ 27 เม.ย. 56

“อ้าวแม่สน นี่เอง นึกว่านางยักษ์ขมูขีที่ไหนมาหวีดหวาด มีอะไรกันยะ เนียน โดนหมากัดเอารึเปล่า”
“เปล่าเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรดอกเจ้าคะ”
“แต่ชั้นรู้ว่ามีอะไร เมื่อตะกี้ แม่สนด่ากบาลใครยะ”
“สนด่าลอยลมค่ะ ไม่เจาะจงว่ากบาลใคร ค่ะคุณแม่”
“ลมมันแรงนะยะ ด่าไปจะไม่พ้นตัว เพราะลมมันหวนกลับ เข้าตัวเอง จะกลายเป็นคนไม่เจียมกะลาหัวไม่เจียมกบาลเสียเองย่ะ ไปเนียน ชั้นอยากกินกะละแมจ้ะ”

เนียนรีบเดินตัวลีบผ่านสนไป กบ กะแมวหัวเราะคิกคัก สนมองตามตาขวาง แค้นมาก
“อีแก่ มึงอยากเป็นศัตรู หมายเลขหนึ่งของกูให้ได้ใช่ไหม อีเนียน มึงไม่มีวันรอดเงื้อมมือกูไปได้แน่”


เวลาผ่านไป ที่สนามบินดอนเมืองเวลานั้น แพร โพล้งยืนรอ แดงน้อยอยู่มุมหนึ่ง
“พี่หนักว่าจะมานี่นา ทำไมพี่หนักยังไม่มา” แพรว่า
“สองหนักแล้วนา แกจะเอ่ยชื่อเขาหาตำรวจโรงพักไหนวะ” โพล้งเอ็ดเอา
แพรค้อน แล้วสองคนก็เห็นเนื้อทองเดินมาพร้อมกับเทิดศักดิ์ ตรงเข้ามาไหว้สองคน
“สวัสดีครับ ผมมารับน้องอี๊ดครับ แล้วฉวยโอกาสรับแดงน้อยด้วยครับ”
“เครื่องพี่แดงน้อยเกือบลงแล้วใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้ะ”
“เอ๊ะ นั่น ผมขอตัวก่อนครับ”

เทิดศักดิ์เดินลิ่วออกไปทันที สามคนมองตามว่าเทิดศักดิ์จะรีบไปไหน
หนักมาแอบยืนหลบมุมระวังตัวอยู่มุมหนึ่ง เทิดศักดิ์ตรงมาหาหนักในคราบสิน ที่วันนี้เปลี่ยนทรงผมใหม่ และไว้หนวด

“คุณลุงสิน มารอรับแดงน้อยหรือครับ”
หนักในคราบสินมองเทิดศักดิ์ด้วยแววตารักใคร่
“ใช่ ...ดีใจที่ได้พบกันอีกแล้ว”
“วันนี้ลุงสินเปลี่ยนทรงผม ไว้หนวด ผมจำเกือบไม่ได้”
“อ้อ คือลุงอยากลองไว้หนวด แล้วก็ไปตัดผมมา เผลอหลับไปช่างเขาเลยตัดทรงใหม่ให้”
“ป้าแพรกับลุงโพล้ง อยู่ทางโน้นครับ เชิญครับ”
“อ้อ”
ระหว่างนี้มีตำรวจเดินวนเวียนผ่านไปมา
“เชิญครับ” เทิดศักดิ์บอก
“ลุงขอตัวเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวตามไป”
หนักรีบผลุบไปทางห้องน้ำ เทิดศักดิ์ให้แปลกใจ
“แปลกแท้ๆ”

อีกด้านหนึ่งทุกคนจากสุพรรณ กำลังชะเง้อมองไป เทิดศักดิ์กับเนื้อทองยังไม่มาสมทบ เรียมถือพวงมาลัยเตรียมมาคล้องคอต้อนรับทานตะวัน
“ได้ยินว่าเครื่องบินลงมาตั้งนาน ทำไมลูกสาวเรายังไม่ออกมา”
เอกหันไปเห็น “มาแล้วขอรับ นั่นขอรับ ใส่ชุดสีแดง”
เรียมกับท่านขุนถึงผวาแล้วชะงักกึกไม่แน่ใจ
“ไม่ใช่หรอก” สองคนว่า
“ผมว่าใช่นะขอรับ”
ทานตะวันสวมใส่ชุดแปลกประหลาด สีหน้า ทรงผมก็ด้วย เดินมาเหมือนเดินแบบ ทุกคนต่างอึ้งไปหมด
“ใช่ลูกอี๊ดหรือนั่น น่ากลัวมาก” เรียมบอก
“ชั้นก็ว่าไม่ใช่ดอกไอ้เอก แกตาฝาด” ขุนภักดีก็ไม่คดว่าจะใช่
แต่แล้ว ที่ว่านั่นไม่ใช่คือทานตะวันจริงๆ กำลังเข็นรถออกมา แล้วไสรถมาใส่เอก
“คุณพ่อคุณแม่ขา สาวปารีเซียงมาแล้วค่ะ”
สองคนยืนตัวแข็งตัวชา ทานตะวันแต่งตัวมหัศจรรย์ เหมือนหลุดมาจากแคทตาล๊อคฝรั่ง
ทานตะวันโผมากอดจูบ สองคนอย่างจริงจัง ผู้คนหันมามองกันเป็นแถว
ขุนภักดี “เอ้อ...เอ่อ” ขณะที่เรียม “อ่า..อ่า”
“ตกใจทำไมคะ ทำไมไม่ดีใจที่หนูกลับมาแล้วเล่าคะ”
“เอ้อ... แม่ดีใจ แต่ตอนนี้แม่หายใจไม่ออกจ้ะ คนมองเรากันใหญ่แล้วจ้ะ” เรียมบอก
“เรากลับไปกอดไปหอมกันที่บ้านดีกว่าไหมยายหนู
“ทำไมคะ ที่โน่นใครๆ เขาก็กอดก็จูบกัน ทุกหนทุกแห่ง กลางถนน ริมถนน บนรถเมล์ รถใต้ดิน จูบปากกันด้วยซ้ำ”
“แม่กำลังจะเป็นลมจ้ะ นี่จ้ะพวงมาลัย แม่เอามาคล้องคอให้หนูจ้ะ”
ทานตะวันมองตาคว่ำว่าแม่ทำอะไรเชยมาก
“คุณแม่ขา ทำอะไรเชยมากๆ ที่โน่นใครจะไปใครจะมา ไม่มีใครบ้าเอ๊ย...เอาพวงมาลัยมาใส่คอกันหรอกค่ะ”
สองผัวเมียมองหน้ากันเซ็งๆ
“ที่นั่นกับที่นี่ไม่เหมือนกันนะลูก”
“แม่ตั้งใจเอามารับขวัญหนู แต่ถ้าหนูไม่...”
เรียมพูดไม่ทันจบ ขุนภักดีสวนคำออกมาเป็นเชิงสั่ง “ก้มหัวลงให้คุณแม่คล้องพวงมาลัยให้สิหนูอี๊ด เห็นไหม ใครๆ ที่นี่เขาทำอย่างนี้กันทั้งนั้น”
“เชิญขอรับ คุณหนู” เอกกำกับ
“พี่เทิดศักดิ์เล่าคะ” ทานตะวันเฉไฉ
เทิดศักดิ์มาพร้อมกับเนื้อทองที่สะดุ้งไม่น้อย
“น้องอี๊ด พี่ดีใจด้วยจ้ะที่เรียนจบกลับมา...”
“แมกซิมค่ะ” ทานตะวันบอกสถาบันแล้วหันไปแขวะเนื้อทอง “อ้าว นั่นยัยเพิ้งติ๋ว แต่งตัวยังกับแม่ชี ติดสอยห้อยตามมาทำไมไม่ทราบ”
“เอ้อ ยินดีด้วยค่ะ คุณอี๊ด” เนื้อทองบอก
“คุณพ่อคุณแม่พาน้องกลับไปก่อนนะครับ ผมขอตัวไปรอรับแดงน้อยก่อน”
ทานตะวันกรี๊ด “ว๊าย ...พี่แดงน้อยมา หนูไม่กลับแล้ว จะไปรับพี่แดงน้อยกับพี่เทิดศักดิ์”
ทานตะวันวี๊ดว๊ายกระตู้วู้ออกอาการมาก
“คุณย่ารออยู่ที่บ้าน อยากเจอหลานใจแทบขาด ทำไมถึงจะไปหาคนอื่นก่อน” เรียมตำหนิ
“พ่อขอสั่งว่าให้หนูกลับบ้านตอนนี้”
ทานตะวันหน้างอ จำใจเดินตามไปกลับบ้านพึมพำ
“เมืองไทยนี่ไม่ฟรีกันซะเลย พ่อแม่เอาแต่สั่งๆๆๆๆ”

ตรงจุดที่แพรกับโพล้งรอแดงน้อยอยู่ มีตำรวจเดินพล่านไปมา แพรกระซิบโพล้ง
“พี่หนะ...”
โพล้งยกมือจะตีปาก
“พี่เขาถ้าจะไม่กล้ามาแสดงตัวแล้วละ ตำรวจพรึ่บไปหมด”
เทิดศักดิ์กับเนื้อทองพากันเดินกลับมาหา
“ลุงสินเล่าครับ”
“นั่นสิ ยังไม่เห็นมาเลย สงสัยไม่มาแล้วแหละ” โพล้งบอก
“ลุงสินมาแล้วนะครับ เมื่อสักครู่ผมยังไปคุยกับคุณลุง” เทิดศักดิ์ว่า
แพรงง “แล้วทำไมไม่บอกตอนที่เห็นแกเล่าคะ”
“คือผม ไม่แน่ใจ จู่ๆลุงสินไว้หนวด เปลี่ยนทรงผมด้วย ยิ่งใส่แว่นตาผมยิ่งไม่แน่ใจ เลยเดินไปดูให้แน่ใจน่ะครับ”
โพล้งกะแพร มองหน้ากัน รู้ทันทีว่าหนักแว่บหนีตำรวจ
“พี่แดงน้อยออกมาแล้วค่ะ” เนื้อทองยิ้มบอก

ทุกคนจึงเบนความสนใจไปที่แดงน้อย
แดงน้อยเดินด้วยมาดสง่าออกมา ดูหล่อเหลาสมาร์ทมากกว่า 3 ปี ก่อนนัก โพล้งกับแพรตะลึง พูดพร้อมเพรียงกัน

“แดงน้อย...หล่อเหลือเกิน”
แดงน้อยมากราบที่อกสองคน
“ผมกราบครับ แม่แพร ลุงโพล้ง”
“ไหว้พระนะหลาน”
สองคนเอาพวงมาลัยคล้องให้ แดงน้อยไหว้ซ้ำ
“เทิดศักดิ์ กันไม่นึกว่าจะมารับ”
แดงน้อยหันมาจับมือกับเทิดศักดิ์
“แกหล่อยังกับพระเอกหนังเลยนะ แดงน้อย จริงไหมน้องติ๋ว”
“สวัสดีค่ะ ยินดีด้วยมากๆ ค่ะ นี่ค่ะพวงมาลัย พี่เทิดใส่ให้พี่แดงน้อยสิคะ”
เทิดศักดิ์ทำตามที่เนื้อทองบอก
“ขอบใจมากครับ น้องติ๋ว เป็นคุณครูติ๋วสมใจแล้วใช่ไหมครับ”
“ค่ะ... เอ้อ แม่เนียนฝากยินดีมาด้วยค่ะ”
“พี่ยินดีด้วยเช่นกัน ฝากกราบแม่เนียนไปด้วยนะครับ เรียนว่าพี่จะไปกราบด้วยตัวเองในไม่ช้าครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ แม่ดีใจจนน้ำตาไหลตอนที่หนูไปบอกว่าพี่แดงน้อยจะกลับมาแล้วค่ะ”
แพรกับโพล้งสบตากันอีก
“กลับกันดีไหม”
แดงน้อยสอดส่ายตาหาลุง
“ครับ เอ้อ ลุงสินไม่ทราบหรือครับ ว่าผมจะกลับวันนี้”
แพรกะโพล้งบอก “ทราบ”
“คุณลุงมาแล้ว แต่ไปเข้าห้องน้ำ กันกลับก่อนนะ แกจะได้เจอคุณลุง ยินดีกันในหมู่ญาติ แล้วค่อยพบกัน”
เนื้อทองไหว้ลา แดงน้อยมองตามใจปลิวไปด้วย แดงน้อยยังส่ายตาหาลุงสิน ไม่เลิก
แพรกับโพล้งมองหน้ากันพูดไม่ออก

ขบวนคนในบ้านมาตั้งแถวรอรับทานตะวัน อยากเห็นมาก เนียนทำพวงมาลัยรอรับลูกสาว น้ำตาไหลพยายามระงับแต่อดไม่ได้ ช้อยปะปนอยู่คอยซุ่มสังเกตการณ์ทุกอย่าง กบกะแมววิ่งมาบอกทุกคน
“มาแล้ว...มาแล้ว” กบบอก
“เหมือนหลุดมาจากหนังสือฝรั่ง ยังไงยังงั้น” แมวว่า
เนียนชะเง้อจนสุดตัวพึมพำเบาๆ “ลูกแม่”
ทุกคนเห็นทานตะวันเดินราวกับเดินแฟชั่น ทำท่าระเหิดระหงเชิดหยิ่ง มีท่านขุนเดินขวา เรียมเดินสีหน้า
หนักใจมาทางด้านซ้าย
“บ้านเราไม่มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างเลย หนูอยากให้บ้านเราเหมือนบ้านฝรั่งเศส”
“ที่เมืองไทยไม่ใช่ฝรั่งเศส เราออกแบบบ้านให้เหมาะกับอากาศและภูมิประเทศ แต่ถ้าหนูอยากทำ พ่อจะให้เขาแต่งห้องหนูใหม่ก็ได้จ้ะ”
“แบบหลุยส์นะคะ”
เรียมมองไปเห็นเนียนยืนถือพวงมาลัย ปนกับพวกบริวารที่ต่างพากันยิ้มและตกใจผสมกัน
“ทุกคนมารอรับหนู ทุกคนดีใจที่หนูกลับมา นั่นน้าเนียน ยืนถือพวงมาลัยรอสวมให้หนู”
“หนูไม่รับพวงมาลัยของมันค่ะ”
“โตป่านนี้แล้ว อย่าทำลายน้ำใจที่ใครเขามอบให้สิลูก”
“คนอย่างหนู ทำไมต้องรับน้ำใจของคนอย่างมันใช่ไหมคะ คุณพ่อ”
จังหวะนี้เสียงเรียมดังก้องในหัวขุนภักดี
“ถ้าหากว่า หนูติ๋วไม่ใช่ลูกชู้ แต่เป็นลูกพี่เทพเองเล่าคะ หนูติ๋วกับหนูอี๊ดก็พี่น้องกัน ทำไมพี่เทพต้องรังเกียจเนียน ถ้าเรื่องไม่จริง เราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
คิดแล้ว ท่านขุนถอนใจ
“รับพวงมาลัยจากเขาเถิดลูก”
“คุณพ่อน่ะ” ทานตะวันขัดใจ
“มาสิเนียน”
เนียนเดินมาท่าทีดีใจแต่กึ่งหวาดๆ เกรงใจ ยื่นพวงมาลัยให้
“ยินดีด้วยค่ะ คุณหนู”
ทานตะวันยิ้มรับพวงมาลัยมา แล้วโยนไปให้แมวกับกบ ทุกคนตกใจมาก
“หนูอี๊ด โยนทำไมคะ” เรียมฉุน
“โยนไปให้ยัยแมวกับยัยกบ ใครรับได้จะได้มีผู้ชายมาขอแต่งงาน ที่นั่นเขาทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น อย่ามาว่าหนู ทำลายน้ำใจใครนะคะ”
ทานตะวันมองเนียนที่ตะลึงไม่หาย น้ำตาซึม ทานตะวันหัวเราะร่วน เรียมไม่พอใจ มองเนียนด้วยความสงสาร
“คุณย่ารอนานแล้ว รีบไปกราบคุณย่า”
ขุนภักดีต้อนสองคนเดินไป เอกเดินมาหาเนียน
“อภัยนะเนียน อภัยให้เธอ อีกไม่นานเธอต้องมาขอให้เนียนอภัยให้เธอบ้าง”
เนียนนิ่งน้ำตาซึมไม่เลิก ส่งสายตามองตามลูกสาว ช้อยยิ้มเยาะ
“สมน้ำหน้า”
แล้วช้อยก็วิ่งหลบแว้บไป

สนนั่งฟังช้อยรายงานการกลับมาของทานตะวัน
“ชั้นก็สมน้ำหน้านังเนียน มันเป็นบ้าอะไร ถึงได้อยากยุ่งเกี่ยวกับอีเด็กนั่นนักหนา”
“ถึงว่าละสิเจ้าคะ น้ำตาหยดน้ำตาย้อย ทำยังกับลูกของมันจากไปเองหลายปี”
“นี่คือปริศนา ที่ค้างคาใจชั้นมานานแล้ว รวมทั้งเรื่อง ทำไมอีเด็กติ๋วกับกับอีเด็กอี๊ดดันหน้าตาเหมือนฝาแฝด ทำไมน้อ” สนครุ่นคิด
“มาฟังช้อยเล่าต่อเรื่องคุณหนูอี๊ด กลายเป็นฝรั่งขี้นก ต่อนะเจ้าคะ”

นางช้อยใจชั่วจีบปากจีบคอเล่าต่ออย่างออกรส
ฟากทองจันทร์ที่ชะเง้อคอมองอยู่แล้วต้องร้องอุทาน

“นั่นมันขบวนแห่ขันหมากหรือยะ เอะอะมะเทิ่งกันไปหมด”
ขาดคำทานตะวันก็ผวามากอด มาหอมหน้าตา และแก้ม ของทองจันทร์ หญิงชราตกใจ
“คุณย่าขา หนูมาแล้ว สาวปารีเซียงมาแล้วค่ะ”
“ว๊าย อะไรกันนี่สาวกุนเชียง มาทำย่าจั๊กจี้ จั๊กกะเดียม”
“สาวปารีเซียงค่ะ ไม่ใช่สาวกุนเชียงค่ะคุณย่า คิดถึงคุณย่ามากค่ะ หนูจะมาปฎิวัติการแต่งตัวทุกคนที่นี่ใหม่ รวมทั้งคุณย่า ให้นุ่งกระโปรงแบบแหม่ม” ทานตะวันระรื่นบอกทองจันทร์
“ว๊าย ไม่นะ ย่าจะใส่ของย่าแบบนี้”
“ทรงผมก็เหมือนกันค่ะ หนูจะดัดให้เป็นลอนกันให้หมด”
“ย่าไม่ดัด”
“หมากก็ไม่ให้กิน”
“ย่าจะกินหมากไปจนวันตาย”
คนอื่นนั่งหัวเราะเอ็นดูทานตะวันกันไปหมด

ฟากเนียนยังนั่งหลบมุมดูเหมือนเดิม ฟังและจำทุกคำพูดของอี๊ด เรียมเดินมาสะกิด
“จะแอบมองไปถึงไหน เขยิบมานั่งใกล้ๆ นี่ดีกว่านะ”
เนียนส่ายหน้า
“อย่าดีกว่าคะ เธอจะรำคาญเอาค่ะ”
ทองจันทร์ถูกทานตะวัน จูบ หอมไม่หยุด
“หยุดกอดจูบย่าได้แล้ว หนูอี๊ด ย่าไม่ไหวแล้ว”
นั่นแหละทานตะวันจึงหยุด
“ไปเรือนเรานะลูก เดี๋ยวค่อยกลับมากินข้าวเรือนคุณย่าตอนเย็นๆ”
“หนูไม่กินน้ำพริกปลาทู หนูจะกินสเท้ก”
“กินอะไรนะ สระ อะไรนะ”
“สะเต๊กครับ คุณแม่”
“แต่ที่นี่ไม่มีใครทำเป็นหรอกนะหนูอี๊ด” เรียมบอก
“แหม น่าเบื่อหน่ายมากกก เฮ้อ เอ๊ะ ยัยเนียน มาแอบมองชั้นอีกแล้วรำคาญจริงๆ”
“หนูอี๊ด” เรียมปราม
เนียนสบโอกาส “เอ้อ ถ้าคุณหนูอยากกินสะอะไรที่ว่านั่น จะให้หนูติ๋วไปซื้อตำรามาหัดทำให้นะคะ”
“บ้า มีปัญญาทำหรือนั่น มันไม่ใช่ง่ายๆ สักหน่อย อย่าอวดรู้ไปหน่อย”
เนียนเลยจ๋อยไป

วันหนึ่ง ขณะที่แดงน้อยเดินออกมาจากกระทรวงมหาดไทย ริมคลองหลอด้วยสีหน้าเบิกบานยิ้มแย้ม หนักมาดักรอแดงน้อย
“แดงน้อย”
“ลุงสิน”
แดงน้อยทำท่าจะกราบ สินยกมือห้าม
“อย่าเพิ่ง ลุงไม่อยากประเจิดประเจ้อ”
แดงน้อยพยักหน้ารับรู้

แลเห็นรถคันเล็กๆ จอดอยู่ริมถนนหลังคลองหลอด หนักเดินนำแดงน้อยมาที่รถคันนั้น
“ชอบไหม”
“กะทัดรัดน่ารักดีครับ รถลุงสินหรือครับ”
“รถของแดงน้อยต่างหาก” หนักในคราบสินบอก
แดงน้อยงงปนตื่นเต้น “ลุงสิน”
“ของแดงน้อยจริงๆ ขึ้นไปนั่งสิ ลุงจะสอนให้ขับ”
แดงน้อยงง หนักรุนหลังแดงน้อยให้ขึ้นรถ

หนักเป็นคนขับรถ ขับแล่นมาตามทางในกรุงเทพฯ มีแดงน้อยนั่งข้างๆ แดงน้อยก้มลงกราบที่แขน
“ลุงให้ผมมากเกินไปแล้วครับ”
“ลุงให้หลานน้อยไปด้วยซ้ำ บางทีหลานอาจไม่รู้ว่า การกระทำบางอย่างของลุง ทำให้หลานต้องกำพร้าพ่อแม่”
แดงน้อยตกใจ “ลุงสิน”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 13/5 วันที่ 27 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager