อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 13/4 วันที่ 26 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 13/4 วันที่ 26 เม.ย. 56

เนียนน้ำตาไหลรินอาบสองแก้ม “แดงน้อย จะกลับมาแล้ว”
“อ้าว แม่จ๋า หนูอุตส่าห์ขออนุญาตคุณย่ารีบมาบอกนึกว่าแม่จะหัวเราะดีใจ ทำไมแม่กลับร้องไห้”
“แม่แม่ดีใจ ดีใจมาก จนร้องไห้”
“แม่ ทำหนูอิจฉาพี่แดงน้อยแล้วนะคะ ตอนหนูจบกลับมาแม่เนียนไม่ได้น้ำตาไหลมากขนาดนี้”
“อย่าไปอิจฉาเขาเลย เขาไม่มีแม่คอยเหลียวแลรักใคร่เหมือนหนู แม่สงสารเขาจับใจ แม่ขอโทษที่ทำให้หนูเข้าใจว่าแม่รักใครมากกว่าหนู”

“หนูหยอกแม่เนียนเล่นน่ะค่ะ พี่แดงน้อยน่ารัก ดีกับแม่เนียนและหนูมาก หนูไม่อิจฉาเขาดอกค่ะ”
เนียนป้ายน้ำตายิ้มออก โอบกอดลูกสาว


“เขาจะกลับมาถึงเมื่อไหร่หรือลูก”
“พี่เทิดศักดิ์บอกว่า อีกไม่กี่วันนี้แหละค่ะ”
“คุณเทิดศักดิ์ หายดีแล้วหรือลูก”
“เกือบดีแล้วค่ะ คุณท่าน ท่านขุนให้พี่เทิดศักดิ์ ไปทำเรื่องย้ายมาประจำที่อำเภอเมืองแล้วค่ะแม่”
“แม่เห็นด้วยจ้ะ”
“โจรที่มาปล้นพี่เทิดศักดิ์ คือนายแช่มลูกป้าช้อย”
เนียนตกใจ “ตายจริง”
“แปลกมากกว่านี้อีกค่ะ คนที่มาช่วยพี่เทิดศักดิ์ คือเสือหนัก”
“ว่าไงนะ โธ่ เสือหนัก” เนียนน้ำตาไหลพราก สะอื้นไห้หนักกว่าเดิม
“ตกลงเสือหนักนี่เขาดีหรือเลวกันแน่คะ แม่เนียน”
เนียนส่ายหน้า พูดตัดบท “รีบไปอยู่กับคุณท่าน เถิดลูก ท่านจะรอ”
เนื้อทองออกไปแล้ว เนียนยิ้มมีความสุขทั้งน้ำตา
“พี่หนักคงคอยตามปกป้องคุ้มครอง ลูกของพี่ ตลอดเวลา เราสองคน มีกรรมเหมือนกัน มีลูกรักลูกแต่ไม่อาจแสดงตัว”
เนียนรีบไปที่หน้าต่างแหงนหน้ามองออกไป เห็นบนท้องฟ้ามีดาวกระพริบแสงแข่งกับพระจันทร์ที่ลอยเด่น
“ลูกแดงน้อยของแม่ เรียนสูงสมใจลุงหนักและแม่ ลูกแม่จบปริญญาโทเก่งเหลือเกิน”
เนียนน้ำตาไหลพรากเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปีติต่อไป

ที่เรือนเล็ก สองนายบ่าวใจทรามนั่งเครียดอยู่ด้วยกัน สนกับช้อยวิตกเรื่อง เสือหนัก แช่มและเสน่ห์
“ไอ้หนักมันแอบตามปกป้องเทิดศักดิ์ สักวันเถิด ความแตกแน่ พี่ขุนคงกระทืบชั้นจมดิน”
“ช้อยสิเจ้าคะ จะโดนกระทืบจมนรก ไอ้แช่มเลวระยำสุนัข ดันไปปล้นคุณเทิดศักดิ์”
“จริงสิ ลูกแกมันชั่วมาก มันจะฆ่าลูกชั้น”
สนโมโหตบหน้าช้อยโดยแรง
“ช้อยไม่รู้เห็นเป็นใจกับมันนะเจ้าคะ คุณเทิดศักดิ์ ลั่นวาจาไว้ ว่าจะตามล่ามันให้ได้ โอ๊ย..ช้อยกลัวมากเจ้าค่ะ”
“ชั้นสิกลัวมากกว่าแก เออ...ชั้นทนไม่ได้ที่เห็นอีสองคนนั่นมันสร้างโรงเรียนให้นังติ๋ว”
“ก็ต้องทนแหละเจ้าค่ะ”
“ชั้นอยากไปดูโรงเรียนของมัน อีช้อย”
ช้อยส่ายหน้าแต่สนพยักหน้าทำตาดุ ช้อยจ๋อย

ตรงบริเวณสถานที่ก่อสร้าง ติดป้ายไว้ว่า “สถานที่ก่อสร้าง โรงเรียนอนุบาลเนื้อทองวิทยา” รถสามล้อคันหนึ่งแล่นมาจอด ก่อนจะเห็นสนกับช้อยลงมาจากรถ สามล้อไปจอดแอบๆ
“ดูดู๋นังช้อย ลูกกูยังไม่ทันได้แบ่งสมบัติจากอีแก่ทองจันทร์สักกระหยิบมือ แต่ลูกอีเนียนมันได้ไปแล้ว ทั้งโรงเรียน มันสุมหัวกันทั้งอีเรียม ทำไมนะ ขนาดมันเห็นจะๆ ว่าอีติ๋วลูกชู้ มันยังปันกันให้เพียงนี้ทำยังกะลูกตัวเอง”
“ถ้ามันรู้ความจริงว่าเป็นลูกท่านขุน สงสัยคุณเทิดศักดิ์ คงเหลือได้กระหยิบมือเดียวเองเจ้าค่ะ” ช้อยบอก
สนเดือดปุดๆ “กูเดือดมาก เคืองมาก จนสุดทนแล้ว ไหนขี้หมาที่แกห่อใบตองมาอยู่ไหน”
“นี่เจ้าค่ะ แต่ว่าจะดีหรือเจ้าคะ ถ้าใครมาเห็น คุณสนกำลังเอาขี้หมาปาป้ายชื่อโรงเรียน”
“กูไม่ปา แต่มึงนั่นแหละปา เดี๋ยวนี้อีช้อย ไปให้ไวไว กูจะยืนสวดมนต์แช่งให้มันพินาศ ประกอบพิธี”
ช้อยเดินไปท่าทีไม่มั่นใจนัก ส่วนสนยืนพนมมือสวดแช่ง

ขณะที่เนื้อทองเดินออกมาหน้าโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด เจอเทิดศักดิ์ยืนหล่อรอยู่ข้างรถ
“สวัสดีครับคุณครู ผมร้อยตำรวจโทเทิดศักดิ์ ภักดีภูบาลมารายงานตัวครับผม” เทิดศักดิ์วันทยาหัตถ์ด้วยท่าทางแข็งขัน
เนื้อทองเขินอายรีบยกมือไหว้ “เพิ่ง มาจากสวนแตงหรือคะ”
“มาจากโรงพักอำเภอเมืองครับ ผมเพิ่งย้ายมาวันนี้ครับผม”
“ดีใจด้วยค่ะ ที่จะได้กลับมาบ้าน”
“แต่พี่ดีใจที่ได้เห็นหน้าคุณครูทุกวัน วันละสามเวลา ยกเว้นแต่ว่า ไปล่าโจรครับ ผมจะไปส่งคุณครูต้องการไปไหนครับผม”

เนื้อทองอายเพราะเทิดศักดิ์พูดซะดัง แต่ก็เดินตามที่รถซึ่งเทิดศักดิ์เปิดประตูรถให้
ทางด้านช้อยกำลังจดๆ จ้องๆ มีสนยืนพนมมือบริกรรม หรี่ตามองช้อยซึ่งบ่นงึมงำอยู่

“เดี๋ยวนี้เวลาทำความชั่วทีไรมือมันสั่น มันหวิว ยิ่งกว่าโดนจูบครั้งแรก ใจมันไม่นิ่ง”
“นังช้อย อย่ามัวเงื้อง่า ปาไปเลยสิ”
ระหว่างนี้มีคนงานเดินมาถึงพร้อมกับหมา เห็นช้อยลับๆ ล่อๆ
“มาหาใครรึ”
“ว๊าย มาหา มาหา เอ้อ...”
“คุณครูเนื้อทองรึ เดี๋ยวก็มา นั่นเอาอะไรมาให้คุณครูรึ”
“ปะ..ปะ..”
หมาเห่าโฮกโฮ่ง
“ว๊าย”
ช้อยตกใจวิ่งหนี ทำห่อขี้หมาหกใส่ตัวเลอะเทอะไปหมด พอสนเห็นช้อยวิ่งหนีหมามาพลอยตกใจไปด้วย
“แหวะ นังช้อย แกทำพลาดอีกแล้ว”
หมาเห่าโฮ่งๆ ไม่หยุด
สนวิ่งบ้าง เสียงแตรรถดังขึ้น สนกับช้อยหันรีหันขวาง กลางถนน แล้วมองไป
“คุณเทิดศักดิ์” / “นังเด็กติ๋ว”

สองคนในรถแปลกใจ เทิดศักดิ์เบรกรถกลางถนน
“คุณแม่” / “คุณนายสน”

ต่อมาไม่นานสนยืนหน้างอไม่พอใจที่เห็นเทิดศักดิ์มากับติ๋ว ช้อยยืนพะอืดพะอมอาเจียนห่างออกไป คนงานคุมหมาได้แล้ว
“คุณแม่มาทำอะไรที่นี่ครับ”
“เปล๊า...แค่ผ่านมา เห็นว่าโรงเรียนสวยดี ก็เลยจอดแวะดู”
“คุณครูครับ ผู้หญิงคนนั้นครับ กำลังจะเอาห่ออะไรมาขว้างใส่ป้ายชื่อโรงเรียน พอไอ้ด่างมันวิ่งมาโฮกใส่ ตกใจทำถุงตกใส่ตัวเอง ขี้หมาทั้งนั้น” คนงานบอก
เนื้อทองนิ่งเงียบไป เทิดศักดิ์มองไปที่ช้อยตาเขียวปั้ด สนรีบปฎิเสธ
“แม่ไม่เกี่ยว แม่มาของแม่ นังช้อยมันมาเองคนเดียว ไม่เกี่ยวไม่ข้องสามล้อจ้ะไปกันเถิดจ้ะ”
สนเดินไปนั่งสามล้อ สามล้อขี่ออกไป พึมพำกับตัวเอง
“ไอ้ลูกไม่รักดี”
ช้อยยืนอ๊วกไปร้องไห้ไป
“ยัยช้อย อย่าให้ใครเห็นแกเข้าใกล้โรงเรียนนี้ใกล้กว่าร้อยเมตรทีเดียว จะให้เขาสั่งหมากัดให้ลิ้นขาด พูดจาส่อเสียดไม่ได้ไปตลอดชาติ”
“เอ้อ พี่เทิดศักดิ์คะ หนูขอเข้าไปดูความคืบหน้าการก่อสร้าง ข้างในก่อนนะคะ ขอบคุณที่มาส่งค่ะ”
“พี่มาส่ง และพี่จะรอรับกลับบ้านด้วยค่ะ ไปดูอะไรพี่ไปด้วย”
เทิดตามติดเนื้อทองไปทันที
“คุณสนเขวี้ยงกรรมใส่หน้ากันอีกแล้ว ฮือๆๆ ไม่ถึงวันกูล้างแค้นบ้างให้มันรู้ไป ไม่รู้หรือยังไงว่ากูอยู่เพราะสิ้นหนทาง ไม่ใช่อยู่เพราะภักดีมึง”

กลับมาถึงเรือน สนนั่งตาขวาง ตบหน้าช้อยที่ล้างตัวแล้ว
“จะร้องไห้หาพ่อหาแม่แกที่ไหนกัน อีช้อย หรือว่าแกอยากหาไอ้หนัก”
ช้อยร้องไห้ไม่เลิก “ช้อยเจ็บกระดองใจ เอะอะตบ เอะอะตี เผลอนิดด่า เผลอหน่อยถีบ ช้อยก็มีหัวใจนะเจ้าคะ คุณสน”
“แกไม่ต้องมาร้องแรกแหกกระเชอ แกไปไม่รอด หนีไอ้หนักกับไอ้เสน่ห์หัวซุกหัวซุน ลูกชายแกหนีทหาร ชั้นช่วยเอาไว้ พระคุณชั้นท่วมหัวแกแกไม่มีสิทธิ์โวยวายจำไว้” สนทวงบุญคุณ
“จำมากมายที่สุดในชีวิตแล้วเจ้าค่ะ” ช้อยประชด
“แกอย่ามาประชดนะนังช้อย แกคอยดูนะ อีนังติ๋วมันไม่ได้ สบายใจไปตลอดหรอก อีเด็กโง่ ทานตะวันกำลังจะกลับมา ชั้นจะให้มันจัดการ อีสองแม่ลูกนี่ต่อไป”
“อย่าหาว่าช้อยสาระแน เลยนะเจ้าคะ เราเข่นฆ่ามันมา ยี่สิบกว่าปีที่ได้มาคือโค่นมันไม่ลง แถมเรากลับเจริญลง มันเจริญขึ้น ทุกที ช้อยว่า เวรกรรมมันโดนลมพัดลมเพเหหันกลับมาหาเราหรือเปล่าเจ้าคะ ทางไปของเราเหลือน้อยสายและแคบลงทุกที อีกหน่อยก็ถึงทางตัน”
สนตวาด “หุบปากนะ คนอย่างชั้น มันไม่มีวันจนตรอก ถ้ากูจนตรอก กูกัดดะ ไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรม และคนแรกที่จะโดนคือมึง ถ้ามึงบังอาจทรยศกู”
“อย่าลืมว่าไอ้หนักมันเพิ่งมาเล่นงานเราไปวันก่อน นี่เผลอๆ มันอาจมาแอบฟังอยู่ข้างล่าง”
สนกรี๊ด “ว๊าย ..ใครใช้ให้แกเอ่ยถึงมัน”
“ก็มันน่ะยังกับขอมดำดิน ไปไหนมาไหนเหมือนล่องหนหายตัวได้” ช้อยกระซิบ “ต่อไปนี้พูดจาอะไรอย่าให้เอ็ดอึง กระซิบกระซาบกันเข้าไว้เจ้าค่ะ”
สนเค้นคำกริซิบคำราม “มึงนั่นแหละทรยศกูวันใด มึงตายอย่างหมาอีช้อย”
สนส่งสายตาอำมหิตดุดันใส่ช้อย ที่เห็นแล้วหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจ

ฝ่ายเทิดศักดิ์พาตเนื้อทองมาในย่านค้าขายของเมืองสุพรรณ จอดรถไว้ริมถนน
“พี่เทิดรอสักครู่นะคะ หนูขอตัวลงไปซื้อ ของไปฝากคุณย่า คุณนายแม่ กับแม่หนูแป๊บเดียวเองค่ะ”
“ฝากกันใหญ่ ทำไมไม่ฝากพี่บ้าง”
“แหม...หนูไม่บังอาจหรอกค่ะ”
เนื้อทองเดินไปจนพ้นแล้ว เทิดศักดิ์มองไปเห็นสิน ที่เดินเหมือนรีบร้อนมาก
“คุณลุงสินครับ” เทิดศักดิ์ดีใจมาก
หนักหันมาเห็นเทิดศักดิ์ยิ้มอย่างดีใจ แต่ก็หันไปมองด้านหลังนิดหนึ่ง
“เทิดศักดิ์” หนักในคราบสินผวามาเหมือนทำท่าจะจับแขนที่โดนยิงพลางจ้องแขน
“ดีใจมากครับ ที่พบคุณลุง แดงน้อยกำลังจะกลับมาแล้ว คุณลุงทราบใช่ไหมครับ”
“ทราบแล้ว ดีใจกับทุกคนจริงๆ ช่างเป็นเด็กดี และประสพความสำเร็จกันทุกคนเป็นตำรวจต้องใจแข็ง อย่าใจอ่อนตอนจับคนร้าย จะโดนมัน เล่นงานเอา”
“ครับ...ผมอาจใจอ่อนกับเสือหนักก็ได้ เพราะผมเคยเจอเขาสองครั้ง สายตาของเขาเป็นสายตาเดียวกับที่คุณลุงมองผม”
“อย่าไปสนใจสายตานั่น ทำตามหน้าที่ ลุงรับรองว่าหลานจับเสือหนักได้แน่”
จู่ๆ มีเสียงเหมือนเอะอะห่างมาจากอีกด้าน หนักมีทีท่าร้อนรนนิดหนึ่ง
“ลุงเพิ่งนึกได้ว่าลืมของเอาไว้ที่ร้านนั้น ลุงไปเอาก่อนนะ โชคดี”
หนักรีบร้อนออกไป

เทิดศักดิ์เชื่อสนิทว่าสินหรือหนักลืมของ ยืนรอเนื้อทองต่อไป
ในขณะที่ทองเดินออกมาจากร้าน เทิดศักดิ์เดินเข้ามาหา

“ขอโทษค่ะ ที่หนูช้า”
“น้องติ๋วไม่ได้ช้า แต่พี่จะมาดูว่าลุงสินแกลืมอะไรไว้ที่นี่แล้วได้ของคืนไหม”
“ลุงสินของพี่ ของพี่แดงน้อยน่ะหรือคะ”
เทิดศักดิ์หายไปในร้าน หมู่เติม ตำรวจท้องที่เดินออกมายืนเกาหัวไปมาที่หน้าร้าน
“หายไปไวเร็วจริงๆ”
เทิดศักดิ์เดินออกมาจากด้านในร้านสีหน้าแปลกใจ
“อ้าวหมู่เติม มาทำอะไรแถวนี้”
“มาตามหาผู้ชายคนหนึ่งแว้บๆ คล้ายกับว่าพูดจาอะไรกับหมวดน่ะครับ”
“อ้อ ลุงสิน ลุงเพื่อนรักของผมเอง หมู่มีอะไรหรือ”
“ผมเห็นเสือหนักครับ” หมู่เติมว่า
สองคนตกใจมาก “อะไรกัน”
หมู่เติมบอกอีก “มันมาพูดกับหมวด”
“ไม่ใช่หรอก” เทิดศักดิ์บอกด้วยท่าทีจริงจัง
หมู่เติมเลยไม่แน่ใจ “หรือว่าผมจำหน้าคนผิด”
“คงใช่น่ะ หมู่ไปสิ รีบไปตามหาเสือหนัก”
เทิดศักดิ์กับเนื้อทองเดินออกไป
จังหวะนี้หนักปลอมตัวใส่หนวดใส่เครา เดินอยู่แถวริมถนน หมู่เติมส่ายหน้าแล้วเดินผ่านหน้าหนักไป
หนักยิ้มน้อยๆ ถอนใจโล่งอก ขณะพึมพำ
“ต่อไปนี้ คงต้องระวังตัวมากขึ้น ในการแอบตามดูเทิดศักดิ์”

หลายวันต่อมา วันนี้เรียมแต่งตัวสวยงาม ขุนภักดีมองยิ้มย่องผ่องใส
“สวยจริงเมียเรา สวยเสมอต้นเสมอปลายเหมือนนิสัยที่แสนดีไม่มีที่ติ”
“พี่เทพดีใจที่จะได้พบลูกสาวละสิคะ อารมณ์ดียกใหญ่”
สนแต่งตัวสวยเข้ามาสมทบอีกคน
“สนมาแล้วค่ะ จะขอกอดหนูทานตะวันให้หายคิดถึงค่ะ”
“อย่าทีเดียวนะ เราไม่กอดกันให้ใครเห็นในที่สาธารณะ กลับมากอดที่บ้านเถิดสน ชั้นอายเขา” เรียมบอก
“แหม คุณพี่เรียมละก็ นั่นมันประเพณีเก่าคะ สมัยนี้เขาจูงมือกันเดินตามถนนรนแคมกันยังกับกลัวหลงทาง”
“แม่สนอีกคนนี่ก็สวยไม่สร่างไม่ซามาเฮ้อ เมียเรา ไป ไปกัน ไอ้เอก”
“อยู่นี่ขอรับ เชิญขอรับ เชิญขอรับ”
“เอ๊ะ...ทำไมลูกเทิดศักดิ์ไม่ไปรับน้องกับเรา”
“ไปแล้วขอรับ ไปกับเอ้อ... หนูติ๋วขอรับ” เอกบอก
สนแทบทรุด “โอ๊ย...นี่ นี่ แกอย่าบอกนะว่ามันจูงมือกันไป จะด่ามันกลางสนามบิน”
“วันนี้วันดีนะจ๊ะสน ชั้นให้เทิดศักดิ์พาหนูติ๋วไปเองจ้ะ ได้ยินว่า แดงน้อยกลับวันนี้ จะได้ไปรับพร้อมกัน”
สนหน้าตึง แล้วทำเป็นกดท้อง
“โอ๊ย..สนปวดท้องกะทันหัน สนไปด้วยไม่ทันแล้วค่ะ สนขอตัว”
ขาดคำสนเดินกระแทกกระทั้นออกไป เอกมองตามยิ้มๆ
ขุนภักดียังอารมณ์ดี “แม่สนนี่สวยแต่ เซี๊ยวเฮี้ยวสะบัด ใช่ไหมจ๊ะ เรียม”
เรียมยิ้มๆ ไม่วิจารณ์กลับ

ขณะเดียวกันเนียนมาแอบฟังเรื่องติ๋วกับแดงน้อยที่หลังพุ่มไม้ข้างเรือนใหญ่ ยิ้มหน้าบานมีความสุขมาก
“ลูกแม่กลับมาจากนอกพร้อมกันทีเดียวสองคน อะไรมันจะงดงามปานนี้ แดงน้อยของแม่ หนูอี๊ดของแม่”
สนเดินพรวดมาแทบชนเอากับเนียนที่กำลังจะเดินกลับพ้นพุ่มไม้ไป
“ว๊าย นังแพศยา มาทำบ้าอะไรแถวนี้”
“เอ้อ ชั้น...ชั้น…”
“แกมาแอบดูแอบฟังพี่ขุน แกมีเจตนาร้ายอะไรบอกมานะ”
“ชั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรหรอกค่ะ คุณสน ชั้น แค่ผ่านมาได้ยินเรื่องราวน่ายินดี”
“แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมายินดีกับพวกชั้น ไม่เจียมกะลาหัว”
ทองจันทร์เดินมา โดยมีกบ แมวประกบ
“โอ้โห..เสียงใครหนอใหญ่โตโอ่โถงคับบ้านชั้น ด่าคนกลางวันแสกๆ ไม่เจียมปากเจียมใจ ไร้มารยาท บ้านผู้ดีไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พูดจาหยาบคาย”
สนยืนนิ่ง เนียนก็ตกใจ ทองจันทร์มาถึงแล้ว
“อ้าวแม่สน นี่เอง นึกว่านางยักษ์ขมูขีที่ไหนมาหวีดหวาด มีอะไรกันยะ เนียน โดนหมากัดเอารึเปล่า”
“เปล่าเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรดอกเจ้าคะ”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 13/4 วันที่ 26 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager