อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 12 วันที่ 18 เม.ย. 56


อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 12 วันที่ 18 เม.ย. 56

“โชคดีนะแม่ที่คุณคธากับคุณจินจูมาช่วยไว้ ไม่งั้นต้องโดนปิดร้านแน่”

“แม่ว่าไปหาที่ขายใหม่กันมั้ย ไปไกลๆหน่อย”

“อ้าว ย้ายทำไมล่ะแม่ ที่นี่ก็ขายดี ลูกค้าติดกันเยอะ”

“ผัวเก่าเอ็งก็ไม่อยากให้ขาย ไหนๆก็ไหนๆย้ายเหอะ”

“เรื่องคุณรินทร์ช่างเขาเถอะ ถ้าเราจะย้ายไปที่อื่น ที่ไหนๆก็มีเจ้าที่เจ้าทางขายกันอยู่แล้ว ขืนไปขายแข่งเดี๋ยวก็โดนไล่โดนแกล้งอีก หนูว่าเราปักหลักสู้ตรงนี้แหละแม่ อย่าไปเริ่มต้นใหม่อีกเลย”


วันดีฟังแล้วอึ้ง แววตาสับสนกังวลเรื่องจินจู ทันใดเม่นถีบประตูเข้ามาในสภาพเมามาย แบมือขอเงินวันดีไปซื้อเหล้าอีก

“ไม่มี...ไม่ช่วยหาแล้วยังมาไถอีก ไปไกลๆ คนกำลังหงุดหงิด”

เม่นโมโหพุ่งเข้าไปจิกผมตบวันดีแล้วแย่งเงินหมดเกลี้ยง แถมผลักไข่มุกกระเด็นติดข้างฝาและทำท่าจะเตะวันดีซ้ำถ้าไข่มุกไม่พนมมือขอร้อง...

ooooooo

แทยอนไปเกาหลีแล้วกลับมาเมืองไทยอีกครั้งพร้อมโปรเจกต์ใหม่ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้แทยอนพูดคุยกับคธาด้วยดีเหมือนทำใจยอมรับแล้วว่าตนเองพ่ายแพ้ในความรักของเขากับจินจู

“ต่อไปนี้เราอย่าพูดเรื่องเก่าๆอีกเลยนะ ว่าแต่ทางเกาหลีว่าไงบ้างพี่แทยอน”

“เร่งเรื่องโปรเจกต์ใหม่น่ะ อาทิตย์หน้าจะเปิดแถลงข่าวจัดประกวดคัดเลือกสาวไทยเป็นนางเอกใหม่ประกบปาร์คจินจู ถ้าไม่รังเกียจผมอยากเชิญคุณมาร่วมโปรเจกต์ด้วย เราต้องการคนที่มีความสามารถ...ช่วยหน่อยได้ไหม”

“ผมจะลองดู” คธาตอบรับ

“นางเอกคนใหม่...เป็นใครก็ได้ใช่ไหมพี่แทยอน”

แทยอนพยักหน้า จินจูยิ้มกริ่มนึกถึงใครบางคน... หลังจากงานแถลงข่าวเสร็จสิ้น จินจูนำใบสมัครไปให้ไข่มุกด้วยตัวเอง

“ให้หนูไปแข่งกับคนเป็นพันเป็นหมื่น คงไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกค่ะ”

“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไง หนูมีความสามารถจะเก็บไว้ไม่ให้คนอื่นเห็นสักครั้งก็น่าเสียดาย นี่แหละโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตหนู”

“แต่คนอย่างหนู แม่ค้าส้มตำจนๆจะทำได้เหรอ”

“ลองดูก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่ แต่บอกไว้ก่อนนะ ฉันสนิทกับหนูก็จริง แต่งานนี้ไม่มีเส้นสายเด็ดขาด ถ้าได้ก็เพราะความสามารถของหนูเอง ถึงเวลาที่ต้องออกจากหลังม่านมาเป็นนางเอกตัวจริงแล้วนะไข่มุก”

ไข่มุกนิ่งคิด มองใบสมัครในมืออย่างตัดสินใจไม่ถูก จินจูสำทับอีกครั้งด้วยความหวังดี

“อนาคตอยู่ในมือหนูเองนะ”

หลังจากใคร่ครวญข้ามคืนไข่มุกก็ตัดสินใจมาสมัคร เจอพวกกีกี้และภัททิมาดาหน้ามาสมัครเช่นกัน สี่สาวพูดจาถากถางดูแคลนไข่มุกต่างๆนานา แต่ก็ไม่ทำให้เธอล้มเลิกความตั้งใจ อยากลองดูสักตั้งเพื่ออนาคตตัวเอง

ภัททิมาหมั่นไส้ไข่มุกไม่หาย กลับถึงบ้านเห็นคีรินทร์ดื่มเหล้าก็ถามหยั่งเชิงว่าคงกลุ้มใจเรื่องที่ไข่มุกเข้าประกวดเป็นดารา

“เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา ผมไม่เกี่ยวข้องแล้ว”

“คงคิดว่ามีจินจูเป็นเส้นก๋วยจั๊บหนุนหลัง ถึงไม่ชนะแต่ก็คงมีพวกเสี่ยๆมาขอเลี้ยง ต่อไปเขาก็ต้องไม่ง้อคุณแล้ว มีทางที่ดีกว่าให้เกาะ”

“ตอนนี้เขาก็ไม่ง้อผมแล้ว”

“ว่าแล้ว...สงสัยกำลังหาคนใหม่ให้ควั่ก ลูกไก่เข้าใจค่ะ คุณคงเหงามาก ไม่เป็นไรนะคะ ยังไงก็จะอยู่ข้างคุณ”

ภัททิมายิ้มหวานทำเป็นเข้าอกเข้าใจ รินเหล้าดื่มไปด้วยกัน ไม่นานก็แย้มยิ้มสมใจเมื่อเขาดึงตัวเข้ามากอด...

เช้าขึ้นกีกี้ซื้อขนมนมเนยมาเต็มสองมือ ทักทายมณีอย่างเอาใจ “มอร์นิ่งค่ะคุณแม่ขา กีกี้เอาขนมมาฝาก เอาไว้ทานกับกาแฟตอนเช้านะคะ เนี่ยบึ่งไปซื้อหลังเลิกกองตอนตีห้าแล้วแวะมาเลย อยากให้ทานตอนยังร้อนๆ”

“ขอบใจนะ เอ้าไข่มุก...รับไปจัดสิ”

ไข่มุกขยับเข้ามาตามคำสั่งมณี ชลลดาเบ้หน้าหมั่นไส้ พูดลอยๆเป็นปริศนาชวนสงสัย

“เอาใจกันน่าดู โถ...แต่น่าสงสาร ทำไปก็ไม่มีประโยชน์...อะไรๆมันเปลี่ยนไปแล้ว”

“อะไรเปลี่ยนไปยะ พูดให้รู้เรื่องหน่อย” มณีแว้ดใส่

ไม่ทันที่ชลลดาจะว่ากระไร คีิรินทร์เดินลงบันไดมา กีกี้ทักเสียงหวานและทำท่าจะวิ่งไปจูบ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นภัททิมาใส่ชุดนอนเซ็กซี่เดินตามลงมาควงแขนเขา

“ลูกลิงลูกชะนีที่ไหนมาร้องแต่เช้า ถอยไปห่างๆ สามีฉันเลย”

“แค่คู่กิ๊กอย่างเธอทำมาเรียกว่าสามี ทึกทักไปรึเปล่ายะ”

“ถามผู้ชายเขาดูสิ ฉันน่ะไม่ใช่คู่กิ๊กคู่กั๊กอย่างเธอหรอกย่ะ อย่างฉันน่ะของจริง”

ถ้อยคำแสดงตัวของภัททิมาเล่นเอาทุกคนยืนอึ้ง กีกี้มองหน้าคีรินทร์แล้วแว้ดใส่ภัททิมาอย่างเอาเรื่อง

“แก...แกมอมเหล้าหลอกคุณรินทร์ใช่ไหม ใช่ไหม คะรินทร์ หน็อย...วางแผนเป็นนางร้ายเกรดบี อย่านึกว่าฉันโง่นะยะ”

“เปล่า ผมตั้งใจ แล้วก็รู้ตัวดีด้วย...เรื่องเมื่อคืนผมเต็มใจ” คำตอบของคีรินทร์ทำให้ทุกคนช็อก ไข่มุกเสียใจมาก ประสานสายตากับเขาอย่างน้อยใจ

เมื่อออกไปทำงานที่โรงแรม ไข่มุกแสดงความอ่อนแอต่อหน้าจินจู เธอร้องไห้อย่างสุดกลั้น จินจูซักถามและปลุกปลอบด้วยความสงสาร

“มีอะไรอยากเล่าให้ฉันฟังมั้ย”

“มันจบไปแล้วค่ะ หนูไม่อยากพูดถึง เหมือนคุณเคยพูดไว้ เวลาเขาทำให้เราเจ็บ มันทรมานจริงๆ”

“เวลา...จะช่วยให้หนูลืม ถ้ามีความรักแล้วต้องร้องไห้ สู้ไม่มีดีกว่า”

“หนูควรจะรู้ว่าตัวเองไม่มีค่าอะไรเลย”

“อย่าตำหนิตัวเอง หนูต้องเข้มแข็ง อย่าให้ชีวิตต้องเสียหลักเพราะผู้ชายคนเดียว”

“ขอบคุณค่ะ ต่อไปหนูจะไม่ร้องไห้ให้กับผู้ชายใจร้ายคนนี้อีก”

“ดีมาก อย่าให้ฉันต้องเห็นน้ำตาหนู หนูยังมีอนาคตอีกยาวไกล ยังมีเรื่องดีๆรออยู่ข้างหน้า อะไรไม่ดีก็ลืมมันซะ อย่าลืมว่าเรามีงานสำคัญที่ต้องทำ”

ไข่มุกพยักหน้ารับ แววตามุ่งมั่น พยายามตัดใจจากคีรินทร์

ooooooo

ในขณะเดียวกันคีรินทร์ยังอยู่ที่บ้าน นั่งหน้าเครียด เพราะชลลดาเร่งรัดให้แต่งงานกับภัททิมา เขมทัตกับมณีกระอักกระอ่วนใจจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฟังสองแม่ลูกพล่ามเพ้อฝัน

“ชลอดตื่นเต้นแทนคุณพี่ทั้งสองไม่ได้จริงจริ๊งที่จะได้ลูกสะใภ้ของจริงนิ้งกว่าเพชร ฤกษ์ดีสิ้นเดือนนี้...แต่งเลยนะคะ”

“ลูกไก่ก็ปลื้มแทนคุณรินทร์ค่ะ คราวนี้ได้เมียเกรดเอสมใจ ไม่ใช่ฉบับก๊อปปี้เกรดห่วยอย่างนังไข่มุก”

“สิ้นเดือน...ใครจะไปเตรียมงานทันกันยะแม่คุณ งานแต่งงานนะ ไม่ใช่กินแชร์โต๊ะจีน” มณีกระแทกเสียง

“ฉันจัดเต็มให้เองค่ะพี่มณี จะดูแลให้เหมือนเป็นแม่คุณรินทร์ เป็นเมียพี่เขมเลย รับรองสามวันเสร็จ”

มณีไม่พอใจค้อนชลลดาปะหลับปะเหลือก ย้ำว่าเป็นแม่ยายคีรินทร์ก็พอ ไม่ต้องถึงขนาดเป็นเมียคุณเขม

“ลูกไก่ตัวจริงเขาเสนอมาแล้ว แกจะว่าไง” เขมทัตเข้าเรื่องรอคำตอบจากลูกชาย

“เพ้อกันไปใหญ่แล้ว ผมยังไม่เคยพูดว่าจะแต่งงานสักคำ”

“อ้าว...พูดแบบนี้จะชิ่งเหรอคะคุณรินทร์”

“ไม่ใช่ชิ่งครับ แต่เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับการแต่งงานอะไรเลย ลูกไก่เป็นฝ่ายเข้ามาหาผมในห้อง มันก็ แค่นั้น คบกันแบบนี้ก็ดีแล้วจะต้องไปคิดเรื่องแต่งงานอะไรกัน”

ภัททิมาทนไม่ไหวโวยวายไล่ทุบตีคีิรินทร์ที่เดินหนี ตัดพ้อต่อว่าเขาใจร้าย ทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง แต่เขาไม่สนใจแถมยังตะคอกใส่อย่างหงุดหงิด

“โอ๊ยเจ็บ...พอแล้ว ผีบ้าสิงหรือไง”

“จะไม่ให้บ้าได้ไง คุณปู้ยี่ปู้ยำลูกไก่บุบสลายทั้งกายทั้งใจขนาดนี้ ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องแต่ง”

“อย่างคุณผ่านมาเท่าไหร่แล้ว จะมาแอ๊บเป็นสาวไร้เดียงสาให้ผมรับผิดชอบ ไม่อายปากบ้างหรือไง”

ภัททิมาโดนแทงใจดำจนกรี๊ดลั่นเสียงสั่นเครือ “คนบ้า...ทำไมใจร้ายกับลูกไก่แบบนี้ ถึงจะเคยมีใครต่อใคร แต่ก็ไม่มีใครเหมือนคุณ ลูกไก่รักคุณนะคะ”

“ไม่ต้องมาบังคับทั้งทางตรงทางอ้อมไม่ต้องคิดเลย คนอย่างผมถ้าจะแต่งกับใครก็เพราะอยากแต่งเอง ไม่ใช่ให้ใครมากดดัน”

คีรินทร์เดินหนี ภัททิมาร้องกรี๊ดอย่างขัดใจ คว้าแจกันขว้างไล่หลังเกือบโดนเขมทัตที่ลุกขึ้นพอดี

“ชอบเขวี้ยงของแบบนี้ ต่อไปแกงานหนักแน่...ถามจริงเถอะที่แกทำกับลูกไก่เพราะประชดไข่มุกใช่ไหม”

“พ่อเข้าใจผิดแล้วครับ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีค่าให้ผมต้องทำขนาดนี้”

พูดขาดคำ ตุ๊กตาเซรามิกลอยวืดมาหล่นแตกใกล้ๆ สองพ่อลูกสะดุ้งโหยง รีบแยกย้ายกันไปให้พ้นเขตอันตราย

ooooooo

วันดีเห็นแก่เงินเข้ามารวมกลุ่มในม็อบพ่อค้าแม่ค้าประท้วงโรงแรมหาว่ารังแกคนจน ไข่มุกไม่เห็นด้วยพยายามห้ามปรามแม่แต่ท่าทางจะไม่สำเร็จ

“แม่อย่ายุ่งกับเขาเลย หยุดขายวันนึงรายได้หดนะ

ไม่คุ้มหรอก”

“ใครว่าไม่คุ้ม ไอ้ลูกโง่ เดี๋ยวคอยดูนะ”

วันดีเดินปรี่ไปยังลูกน้องทวยไทยที่เอาข้าวกล่องมาแจก ขอทีเดียวสามกล่อง แถมได้เงินมาอีกห้าร้อยแล้วเดินกลับมาคุยอวดไข่มุกหน้าระรื่น

“คุ้มไหมล่ะ แค่เย้วๆตามพวกมันไป ได้คนละตั้งห้าร้อย ตำทำไมวะส้มตำ มาชูป้ายแหกปากในม็อบดีกว่า”

“แบบนี้ก็ม็อบจัดตั้งน่ะสิแม่”

“หน็อย...ทำพูดดี จะม็อบจัดหรือม็อบตั้ง ข้าร่วมหมด ไม่สนเว้ย ขอให้ได้เงินเป็นพอ”

วันดีฮึกเหิม ลากไข่มุกมาถือป้ายประท้วงด่าทอเจ้าของโรงแรม คีรินทร์ขับรถผ่านมาเกือบโดนทุบกระจกถ้าไม่ตัดสินใจขับหนีเข้าโรงแรม หนึ่งในม็อบเซถลาและตะโดนด่าหาว่าเขาจะขับรถชน วันดีผสมโรงยกใหญ่ ไข่มุกหน้าเสียไม่รู้จะห้ามยังไง

คีรินทร์ไม่สบอารมณ์ เข้ามาเจอวัฒนาจี้เรื่องม็อบเข้าอีกก็ยิ่งหัวเสีย

“นายเห็นพวกม็อบแล้วใช่ไหม เมื่อเช้านักข่าวมากันเต็มไปหมด งานนี้จงใจทำลายชื่อเสียงนายกับโรงแรมชัดๆ”

“อยากทำอะไรให้ทำไป ฉันไม่สนใจคนพวกนี้ ดีแต่ใช้ความรุนแรง ไม่เคยคุยกันด้วยเหตุผล” พูดจบเดินหนีทันที...วัฒนามองตาม ยิ้มหยันอย่างสะใจ

ไข่มุกเข้ามาในฟิตเนส วอร์มร่างกายเตรียมสอนเต้น เหลือบเห็นคีรินทร์เดินหน้าตึงเข้ามา เธอเมินหนีไม่สนใจ ทำหูทวนลมกับสิ่งที่เขาจงใจพูดกระทบกระเทียบ

“จะไม่แสดงความยินดีกับฉันและลูกไก่ตัวจริงหน่อยรึไง อย่างน้อยเขาก็ไม่เสแสร้ง ไม่โกหกฉันเหมือนเธอ”

หญิงสาวทำเหมือนไม่ได้ยินจะเดินไปอีกทาง เขากระชากแขนดึงเธอเข้ามาใกล้
“ได้ยินที่พูดไหม...ทีตอนนี้ทำเงียบ เมื่อกี้เพิ่งไปถือป้ายด่าฉันอยู่หยกๆ เธอนี่แสบสันจริงๆ บทจะแอ๊บเป็นคนดีก็เนียนมาก แต่เสียใจฉันไม่หลงกลคนอย่างเธออีก ไอ้เซ่อคนนี้มันตาสว่างหายโง่แล้ว รู้ไว้ด้วย”

เขาสบตาเธออย่างทั้งรักทั้งแค้น เหวี่ยงจนเธอล้มลง แล้วเดินหนีไปอย่างไม่แยแส ไข่มุกน้อยใจและคับแค้นใจ น้ำตาแทบร่วง...

ooooooo

ในวันคัดเลือกผู้สมัคร ไข่มุกโดนพวกกีกี้กับภัททิมาดูแคลนอีกเหมือนเคย แต่เธอไม่สนใจ เดินเลี่ยงไปมุมหนึ่งและคิดไม่ถึงว่าจะเจอกัสจัง

“อุ๊ยตาย คุณน้องขา...มาประกวดกับเขาด้วย”

“เจ๊ก็มาประกวดด้วยเหรอคะ”

“แหม...ถ้าเขาเอากะเทย สวยๆอย่างเจ๊ก็เข้าวินไปแล้วล่ะย่ะ นี่มาช่วยงานกองประกวด งานช้างชนช้างแบบนี้เลิฟที่สุด ว่าแต่น้องสาวเจ๊ไปไงมาไงถึงยอมออกจากหอยสังข์มากับเขาได้ล่ะ”

“เจ๊จะว่าหนูไม่เจียมก็บอกมาเหอะ หนูชินแล้ว โดนมาเยอะ”

“โน้ว...ใครบอก เธอนี่แหละเริ่ดมาก แววฉายออร่าเจิดเลิศล้ำ นี่ถ้าโชคช่วยฟ้าเปิดเบิกทางมีหวังได้หนึ่งในสิบแน่นอน กะเทยคอนเฟิร์ม”

“เจ๊ยอซะหนูจะบินได้แล้ว ขอบคุณเจ๊มากนะคะ”

“ย่ะ สู้ๆแล้วกัน วงการเนี้ยโหดนะ ไม่เจ๋งจริงอยู่ไม่ได้หรอก มีฝีมืออย่ากั๊ก ใส่ให้เต็มไปเลย” กัสจังทำท่าสะดีดสะดิ้ง จับแก้มไข่มุกไปมาอย่างเอ็นดู

ถึงเวลาคัดเลือก ผู้สมัครต่างก็ตอบเหตุผลของตัวเอง ต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งส่วนใหญ่โอ้อวดและสร้างภาพ ยกเว้นไข่มุกที่พูดความจริงอย่างเป็นธรรมชาติว่า

“ฉันเป็นลูกแม่ค้าส้มตำและเป็นแฟนหนังของคุณจินจูมาตั้งแต่เด็ก และก็ทำงานเป็นนักแสดงแทนคิวบู๊ ในกองถ่ายเลยทำให้ชอบการแสดง ถึงจะไม่เคยมีหน้าโผล่บนจอสักครั้ง ที่มาสมัครเพราะรักในการแสดงและอยากจะพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถทำงานนี้ได้ดีแค่ไหน และข้อสำคัญที่สุด อยากได้ร่วมทำงานกับซุปเปอร์สตาร์ในดวงใจค่ะ”

กรรมการฟังแล้วปรบมือเกรียว จินจูกับแทยอนส่งยิ้มให้กำลังใจไข่มุก ขั้นตอนต่อไปเป็นการโชว์ความสามารถ แต่ละคนทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด มีบ้างที่ซ้ำกัน แต่ที่ไม่เหมือนใครก็คือการโชว์หมัดมวยและรำดาบของไข่มุก

ใช้เวลามากพอสมควรกว่าจะคัดเลือกผู้เข้ารอบได้สิบคน ไข่มุกเป็นหนึ่งในนั้น ทำให้พวกกีกี้กับภัททิมาที่เข้ารอบมาด้วยไม่พอใจอย่างแรง รวมหัวกันคัดค้านเสียงแข็ง

“ไม่ได้ค่ะ ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสิทธิ์เข้ารอบ...มีผัวแล้ว”

“ใช่ค่ะ กรรมการเฉดหัวมันไปเลย นังคนนี้สิบแปดมงกุฎ หลอกผู้ชายให้แต่งงานด้วย”

เสียงผู้คนฮือฮา นักข่าวถ่ายรูปกันวูบวาบ ไข่มุกหน้าเสียวางตัวไม่ถูก แพรวกับภัททิมาส่งเสียงขับไล่ไข่มุก ทำเอากรรมการเลิ่กลั่กรีบหารือกัน

“ผมว่าคัดอีกคนมาแทนดีกว่า ป้องกันปัญหา”

จินจูไม่เห็นด้วย เอ่ยเสียงดังฟังชัด “แต่เด็กคนนี้มีความสามารถ คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยซ้ำ แล้วเรื่องมีสามี...ในเมื่อไม่ได้จดทะเบียนก็เรียกว่าแต่งงานไม่ได้”

“ผมเห็นด้วยกับคุณปาร์ค เราไม่ควรตัดสิทธิ์ เพราะเขาไม่ได้ทำผิดกติกา เรื่องนั้นมันเป็นเรื่องส่วนตัว”

ซอนซาเลิกคิ้วมองจินจูกับแทยอน ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างนึกรู้ว่าจินจูเข้าข้างไข่มุก

เมื่อภายในห้องเหลือแค่คณะกรรมการกับผู้เข้ารอบสิบคน แทยอนประกาศอย่างเป็นทางการ

“ผมในฐานะตัวแทนกรรมการทุกคน ขอประกาศให้คุณไข่มุกมีสิทธิ์ในการเข้าประกวดและเก็บตัวฝึกซ้อมเหมือนผู้เข้าประกวดทั้งเก้าคน”

“แต่เขาเคยแต่งงานแล้ว แถมยังมีประวัติฉาวโฉ่จนผู้ชายทนไม่ไหวไล่ออกจากบ้านด้วยซ้ำ”

“ฉันไม่ยอมเด็ดขาด”

กีกี้กับแองจี้คัดค้านหัวชนฝา จินจูเลยต้องออกโรงเอง

“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณมีใบทะเบียนสมรสมายืนยันหรือเปล่า ถ้าไม่มีแสดงว่ายังไม่ได้แต่ง และมีสิทธิ์เข้าร่วมการคัดเลือกอย่างถูกต้อง”

“แต่มันไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ ผ่านผู้ชายมาตั้งกี่คนไม่รู้ นังนี่จะทำให้ภาพลักษณ์ของหนังเสื่อมเสียนะคะ” ภัททิมาหน้าตาไม่ยอมแพ้

“นั่นเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ได้มีกฎห้าม แต่ถ้าคุณบอกอย่างนั้น เพื่อความเหมาะสมฉันจะให้หมอมาตรวจความบริสุทธิ์ทุกคน ถ้าคนไหนไม่ใช่ก็ตกรอบไป ต้องการแบบนี้ใช่ไหม”

บรรดาสาวๆที่คัดค้านหน้าซีดเผือด เพราะแต่ละนางมีประวัติโชกโชน เลยต้องกลับคำว่าไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก เราหยวนๆกันไปดีกว่า แบบว่าปรองดองกัน

กีกี้ไม่พอใจภัททิมา กระซิบลอดไรฟันได้ยินกันสองคน “แกเกือบทำเราตกรอบทุกคนแล้วไหมล่ะ นังลูกไก่เน่า”

“ใครจะรู้ว่าแบ็กดีขนาดนี้ เซ็งไก่” ภัททิมากระซิบตอบ...แต่ไม่ว่าจะเซ็งแค่ไหน ยามนี้ต้องฉีกยิ้มหวานๆเพื่อโชว์ความมั่นใจว่าตัวเองใสซื่อ

ooooooo

เป็นอันว่าไข่มุกได้เข้ารอบสิบคน หญิงสาวกลับ

เข้าบ้านด้วยความดีใจ แต่พอวันดีรู้เรื่องก็หน้าตึง กระแทกตัวนั่งลงอย่างไม่สบอารมณ์

“แล้วอย่างงี้ใครจะช่วยแม่ขายของล่ะ เล่นหนีไปเล่นละเม็งละคร เก็บตัววุ่นวายอีก”

“ตอนนี้แม่ขายที่ไหนล่ะ หนูเห็นไปรับจ้างม็อบ ยืนเย้วๆอยู่”

“ถึงงั้นก็เหอะ แกคนเดียวก็ขายได้นี่หว่า นี่ดันไป ออดิช่งดิชั่น แถมยังเข้ารอบอีกซะงั้น แล้วจะให้แม่ทำไง”

“แต่ถ้าชนะได้เงินรางวัลห้าแสนนะแม่ ไม่รวมค่าแสดงหนังอีก”

วันดีตาพองก๋า เปลี่ยนท่าทีอย่างฉับพลัน “แล้วไม่บอกแต่แรก ไปเลยเอาให้ได้นะยะ แล้วก็ไม่ต้องมาย่งมาเยี่ยมข้า เดี๋ยวใครเขารู้ว่าขายส้มตำคะแนนจะตกเอา”

“หนูไม่ได้ปิดนะ บอกเขาไปตั้งแต่แรก ไม่เห็นน่าอายตรงไหน”

“เฮ้อ...เอ็งนี่มันดีเหมือนแม่ไม่มีผิด สายเลือดแรงไม่ทิ้งแถวจริงๆ”

“แหม...จะชมตัวเองก็ไม่บอก อ้อมค้อมจริงๆ

แม่เรา ก็แม่เลี้ยงมา...หนูก็ต้องดีเหมือนแม่สิ”

“แต่วันหนึ่งถ้าได้ดิบได้ดีอาจจะทิ้งแม่คนนี้ก็ได้”

“ไม่มีทางหรอก แม่เป็นแม่ หนูไม่มีวันทิ้งเด็ดขาด”

“แน่นะ เอ็งพูดแล้วห้ามลืมนะ”

“จ้ะแม่ ยังไงหนูก็จะอยู่กับแม่ ดูแลแม่ให้ดีที่สุด ถึงสบายแล้วก็ไม่ทิ้งแน่นอน สัญญาจ้ะ” ไข่มุกเข้าไปกอดวันดีแน่น...วันดีกอดตอบ แต่สายตาหม่นๆไม่วางใจ กลัวความจริงเปิดเผย

ooooooo

อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 12 วันที่ 18 เม.ย. 56

ละคร มายาสีมุกบทประพันธ์ : ทวิตา
ละคร มายาสีมุกบทโทรทัศน์ : เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ, เทอดโชค เกียรติสุขเกษม, จุฑามาศ สาคร
ละคร มายาสีมุกกำกับการแสดง : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ละคร มายาสีมุกแนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละคร มายาสีมุกผลิต : บริษัท กันตนา
ติดตามชมละคร มายาสีมุก ได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ