อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 12/2 วันที่ 21 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 12/2 วันที่ 21 เม.ย. 56

“แกคิดว่ามีโอกาสมากนักหรือจะปลิดชีวิตมันสองคน จะว่าไปอีเด็กอี๊ดนั่นมันเสี้ยนหนามใหญ่กว่าอีเด็กติ๋วเสียอีก เพราะสมบัติทั้งหมดของอีแก่กับพี่ขุนจะต้องแบ่งครึ่ง ระหว่างมันกับลูกเทิดศักดิ์ โอกาสมาถึงฉันจะรออะไร”
“แปลว่าไม่ต้องให้ใครไปช่วยเด็ก ปล่อยจมน้ำตายทั้งคู่” ช้อยถามแผน
“ฉลาดมาก อ้าวนั่นเอ็งเป็นอะไรขนลุกขนชัน”
“หนาวเจ้าค่ะ”
ช้อยรู้สึกหนาวขนลุกซู่ กลัวใจสนสุดๆ

ทองจันทร์หัวเราะมีความสุขโอบกอดทานตะวันไว้
“หนูอี๊ดลองเล่าเรื่องขำๆของหนูสิ”
“ได้ค่ะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กหญิงคนหนึ่ง มีนิสัยปากร้ายชอบด่าว่าคนอื่น แต่มาบัดนี้เธอเลิกนิสัยนั่นแล้ว และอยากบอกให้ให้ทุกคนอภัยให้เธอ และเด็กหญิงคนนั้นคือหนูอี๊ดเองค่ะ คุณย่า ทุกคนฉันขอโทษ”


ทุกคนฟังแล้วหายโกรธอี๊ดทองจันทร์ถึงกับน้ำตาซึม เนียนเบือนหน้าซ่อนน้ำตา
“น้องอี๊ดไปกินอะไรมาหรือจ๊ะ หรือว่ามีนางฟ้าใจดีที่ไหนมาสิงสู่น้อง”
“ไฮ้...ตาเทิดศักดิ์ เหลวไหล หนูอี๊ดจ๋าย่าจับใจเรื่องของหนูมาก ซึ้งจริงๆ”
“จริงหรือน้าเนียน”
เจอคำหวานเข้าเนียนหัวใจพองโต บอกเสียงสั่น
“จริงเจ้าค่ะ คุณหนูพูดได้ซึ้งจับใจมาก”
“แล้วยัยติ๋วเล่า”
“ค่ะ เหมือนกับที่แม่เนียนพูดนั่นแหละค่ะ ใช่ไหมคะ พี่แดงน้อย”
“ใช่ครับ น้องอี๊ดพูดได้ดีมาก พี่ขอชื่นชม”
ทานตะวันหน้าบานที่หลอกทุกคนสำเร็จ ยกเว้นดวงตาของเทิดศักดิ์ที่มองมาไม่เชื่อเอาเลย

ด้านนางช้อยคนชั่ว ดำเนินแผนตามสนสั่ง กำลังส่งเงินให้คนเช่าเรือ
“นี่เงินคุณนายสนฝากมาให้ ค่าเช่าเรือ หนึ่งร้อยบาท”
“โอ้โฮ ใจดีแท้ๆ เช่าแป๊บเดียวให้ตั้งร้อยบาท จะให้เอาเรือไปจอดที่ไหนล่ะ”
“ท่าน้ำบ้านท่านขุนภักดีภูบาล”
“เอ๊ะ ก็ท่านขุนมีเรือตั้งหลายลำ ทำไมมาเจาะจงเช่าลำนี้ จะให้ใครพายล่ะ”
“จะให้เช่าหรือไม่ให้เช่า พูดมากปากปลาหมอ ไปเช่าคนอื่นก็ได้” ช้อยว่า
“ไม่มีปัญหาจ้ะ ฉันถามไปงั้นแหละ ตกลงจ๊ะ”
ช้อยถอนใจโล่งอก ใจคอไม่ค่อยดีนัก

ฟากทองจันทร์ส่ายหน้ามองเนียนที่เขินอาย
“ไม่ไหวเรื่องยัยติ๋วก็เรียบๆ เรื่อยไม่น่าสนใจ เรื่องของ เนียนก็แห้งๆ จืดชืดไม่มีชีวิตชีวา เรื่องของตาเทิดก็โม้ทั้งเพ”
“ก็ผมเป็นนักประพันธ์เอกนี่ครับคุณย่ามันก็ต้องโม้ เอาเป็นว่าให้แดงน้อยเล่าดีกว่า เอาเรื่องจริงนะแดงน้อย”
“ชีวิตของพี่แดงน้อยก็ดีค่ะ หนูอี๊ดอยากรู้”
แดงน้อยพยักหน้า
“ครับ คือตอนที่ผมเป็นเด็กเล็กๆ ย้ายจากบ้านแพนไปบางกอก”
“เล่าข้าม แกต้องบอกมาด้วยว่าเล็กๆ น่ะเล็กแค่ไหน กี่เดือนกี่ขวบ โอ๊ย...ใครขว้างผม” เทิดศักดิ์ร้องลั่น
“ย่าเอง แกขัดคอเขาทำไม ย่ากำลังฟัง ห้ามสอดตอนเขาเล่าเด็ดขาด”
“ผมไปกับลุงโพล้งและแม่แพร แม่แพรมีน้องสาวชื่อ..เอ้อ...”
แดงน้อยพูดไม่ทันจบ เนียนรีบบอก “ชื่อแพรวค่ะ”
ทุกคนหันมามองเนียน ทองจันทร์โบกมือให้แดงน้อยพูดต่อ
“ครับชื่อน้าแพรว...น้าแพรวไม่ได้อยู่บ้านแพน แต่อยู่ที่เอ้อ...”
เนียนบอกอีก “ลานเทค่ะ”
ทุกคนมองเนียนอีก
“เอ๊า เนียน นี่แกรู้เรื่องของแดงน้อยเขาไปหมดเลยหรือ”
“เอ้อ..คือเนียนเป็นคนบ้านแพนไงคะ คุณท่าน เนียนก็เลยรู้เรื่องพวกเขา”
“แล้วรู้จักแม่ของแดงมากเขาบ้างหรือเปล่า” ทองจันทร์ถาม
เนียนเสียววาบ พูดไม่ออกไปเลย
“ว่ายังไง รู้จักแม่ของพี่แดงน้อยไหม” ทานตะวันถาม
“น้าเนียนคงไม่รู้จักดอกครับ แม่ผมตายตั้งแต่ผมยังเตาะแตะ”
เนียนน้ำตาไหลย้อยลงมาอีก
“ฉันสั่งห้ามแกร้องไห้แล้ว ยังมาร้องไห้อีก แม่แดงน้อยเขาตายตั้งแต่ยังเล็กแกก็สะเทือนใจร้องไห้ร้องห่ม อ่อนไหวเหลือเกินนะแก”
“ไม่เป็นไรครับ น้าเนียน” แดงน้อยแตะแขนเนียน “ผมทราบว่าน้าเนียนสงสารที่ผมไม่มีแม่เหมือนคนอื่น ถึงผมไม่มีแม่ แต่ผมก็จำสัมผัสของแม่ลึกๆ ได้ว่าแม่รักผมมาก”
ฟังแล้วเนียนยิ่งสะอื้น มือไม้สั่น
“เออแน่ะ ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ แดงมากแน่ะ ปลอบทีสิ”
แดงน้อยมากุมมือเนียนปลอบโยน
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ น้าเนียน ผมขอบคุณที่ห่วงใยผม”
อี๊ดแอบมองหมั่นไส้ แดงยังปลอบโยน

ทานตะวันทำดีกับเนื้อทอง ตลอดสามสี่วันมานี้ ชวนเดินดูโน่นดูนี่ พูดคุยหัวเราะ มีช้อยกับสนแอบมอง
อักวันทานตะวันช่วยเนื้อทองทำขนม สนกับช้อยแอบดู รุ่งขึ้นอีกวัน ทานตะวันมาช่วยเนื้อทองจัดดอกไม้ให้ทองจันทร์ ก็มีสนกับช้อยแอบมอง

สนชมเชยทานตะวัน พลางสบตาช้อย
“หนูอี๊ด เก่งมากเหลือเกินค่ะ ทำเอาอีเด็กติ๋วมันเชื่อสนิท ยอมไปนังเรือเล่นด้วยกัน”
“พรุ่งนี้ตอนสายๆ พามันมาลงเรือที่ท่าน้ำนะคะ”
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมให้หนูปลอดภัยแน่นะ แม่สน”
“แน่สิคะ พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายที่หนูอี๊ดจะ ต้องทนอีเด็กติ๋ว พรุ่งนี้อีเนียน มันต้องเสียใจไปจนตาย”

ทานตะวันหลงระเริงเชื่อสนไปด้วยหมดใจ
วันต่อมาเรียมมาถามหาทานตะวันเอากับเนียนที่นั่งอยู่บนตั่งหน้าเรือนทองจันทร์

“เนียนเห็นหนูอี๊ดไหม”
“เห็นมาชวนหนูติ๋วไปไหนก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ”
“แล้วไปที่ไหนกับหนูติ๋ว เนียนรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันสบายใจขึ้นอักโข หนูอี๊ดไม่เคยบ่นว่าหรือฟ้องพี่เทพเรื่องหนูติ๋วกับเนียนมาหลายวันแล้ว”
“เจ้าค่ะ เนียนเห็นเธอมาชวนหนูติ๋วไปเดินเล่น มาช่วยทำโน่นทำนี่ เนียนดีใจเหลือเกินที่..เอ้อ…”
“ที่พี่น้องหันมาปรองดองไม่ตีหน้ายักษ์ใส่กัน” เรียมว่าต่อยิ้มๆ
“ขอให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเถิดนะเจ้าคะ”
“ฉันก็หวังเช่นนั้นเหมือนกับเนียน และชั้นก็ยังหวังต่อไปว่าสักวัน พี่เทพจะยอมเชื่อว่าหนูติ๋วเป็นลูกของเขา”
“คุณเรียม”
“ฉันไม่เคยเชื่อว่าเนียนเป็นดังที่พี่เทพเข้าใจ เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ ประกอบกับเนียนไม่ยอมพูด จึงทำให้คนที่คิดร้ายใช้มาปรักปรำเนียน”
“ขอบคุณมากค่ะ ที่เชื่อว่าเนียนบริสุทธิ์”
ทองจันทร์กับแมวพากันลงเรือนมาสมทบ
“อ้าวแม่เรียมมารอแม่แล้วรึ ไปกันได้ละสิ นางแมวร่มเอามาไหม”
“เอามาเจ้าค่ะ”
“ฉันจะไปวัดกับเรียมเขา กว่าจะกลับก็บ่ายคล้อย วันนี้วันพระ อาหารบ้านเรางดเนื้อสัตว์นะเนียน”
“เจ้าค่ะ”
เรียมกะทองจันทร์ เดินออกไปด้วยกัน มีแมวถือร่มถือข้าวของตามหลังไป เนียนยิ้มตามอย่างมีความสุข
“สิ่งศักดิ์สิทธ์เจ้าขา ท่านเจ้าที่เจ้าทางคะ ดิฉันขอขอบพระคุณที่ท่านช่วยดลบันดาลให้ลูกทั้งสองของดิฉันหันหน้ามาปรองดองกันเจ้าค่ะ”
เนียนมีความสุขมาก หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่นาทีจะเกิดเรื่องใหญ่

แดงน้อยมองไปที่กลางลำน้ำห่างออกไปแปลกใจ
“เอ๊ะ..ไหนน้องอี๊ดบอกว่าว่ายน้ำไม่เป็น ทำไมไปพายเรือเล่นตามลำพังกับหนูติ๋ว”
แดงน้อยมองต่อไป

กลางลำน้ำ แลเห็นสองแฝดนั่งในเรือ มีเนื้อทองพาย ทานตะวันนั่งเอามือราน้ำรอจังหวะ เนื้อทองดูเบิกบานเพราะเข้าใจว่าทานตะวันดีกับตนแล้ว ส่วนทานตะวันยินเสียงของสนก้องในหู
“หนูอี๊ดต้องทำเรือล่มให้ได้ แล้วแกล้งว่ายน้ำไม่เป็น ตะโกนเรียกให้คนมาช่วย ตะโกนไปก็โวยวายไปด้วยว่า อีเด็กติ๋วล่มเรือจะฆ่าหนู”
ทานตะวันนึกแล้วยิ้มร้ายขณะพูดออกมา “พายเรือเก่งนี่”
“ค่ะ พายไปตลาดบ่อยๆ นี่คะ”
“ฉันอยากพายเป็นบ้าง สอนฉันได้ไหม”
“ได้สิคะ หยิบพายมาสิคะ จะสอนให้”
ทานตะวันทำทีหยิบพายมาพายเปะปะ
“ว๊าย..ฉันพายไม่ดีหรือนี่ เรือเอียงไปเอียงมา”
“นั่งนิ่งๆ สิคะ อย่าโยกไปมาเรือมันจะเอียง”
“จริงหรือไหนลองดูสิ”
แล้วทานตะวันก็จงใจทำให้เรือเอียงไปมา แถมลุกขึ้นยืน วิ่งไปมาบนเรือ เนื้อทองห้ามเสียงหลง
“อย่าค่ะ...อย่าทำอย่างนั้น”
“ฉันจะทำ แกอย่ามาสั่ง”
เนื้อทองนึกสงสัยว่าทานตะวันจะมาไม้ไหน ได้แต่คอยระวังตัวแจ

เอกมาเตือนเนียนเรื่องทานตะวัน
“เนียนพี่ขอเตือนนะ ฝากบอกหนูติ๋วด้วย อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง”
“พี่เอกกำลังจะบอกว่าหนูอี๊ดไม่จริงใจกับหนูติ๋ว ไม่มีแล้วจ้ะ สองคนนี่เขาถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ชะรอยคงเป็นเพราะสายเลือดเดียวกัน จึงผูกพันกันโดยสัญชาตญาณ” เนียนคิดในแง่งามตามเคย
“เนียนละก้อ มองทุกอย่างดีงามไปหมด ก็ไอ้สายเลือดเดียวกันฆ่ากันตาย ชิงมรดกกันมีออกเกลื่อน คุณหนูอี๊ดเธอรู้ที่ไหนว่าเป็นพี่ของหนูติ๋ว แล้วนี่ไปไหนกันล่ะ”
“เอ้อ...ไม่ทราบดอกจ้ะ”
กบเดินเข้ามาได้ยินพอดีจึงบอก
“เห็นไปเอาเรือที่ไหนมาก็ไม่รู้ พายงัดพายงัดออกจากท่าน้ำไปทางคุ้งโน้นแน่ะ”
“อะไรนะ” เนียนแปลกใจเท่านั้น ไม่คิดอะไร
“ชักทะแม่ง กลิ่นตุๆ แล้วนะเนียน”
“ไม่มีอะไรดอกพี่เอก หนูติ๋วน่ะว่ายน้ำเป็น”
แล้วเนียนก็ยกของขึ้นเรือนไปให้ทองจันทร์

ส่วนกลางลำน้ำสองแฝดคนยังมีปัญหาเพราะทานตะวันตั้งท่าพยายามจะล่มเรือให้ได้
“โธ่..คุณหนูอี๊ดขา เรือล่มมันไม่สนุกนะคะ”
“ฉันอยากให้เรือมันล่ม แกจะทำไม...นี่ นี่ นี่”
“คุณหนูอี๊ดว่ายน้ำไม่เป็นนะคะ” เนื้อทองท้วง
“ฉันไม่กลัวซะอย่าง แกนั่นแหละว่ายน้ำไม่เป็น ถ้าเรือล่มแกจมตายแน่ๆ”
“เรามาห่างบ้านมากไปแล้วนะคะ กลับกันเถิดค่ะ ตรงนี้น้ำเชี่ยวนะคะ”
“แกก็พายกลับไปสิ”
เนื้อทองหนักใจ เรือเอียงวูบไปวูบมา

ช้อยดูเหตุการณ์เห็นทุกอย่างเป็นไปตามแผน รีบวิ่งแจ้นมารายงานสน
“คุณสนเจ้าขา เด็กบ้านั่นมันพายเรือห่างไปจากฝั่งจากท่าน้ำบ้านเราตั้งไกลหายไปเลยเจ้าค่ะ”
“ดี...อยากโง่ดีนัก ยิ่งห่างไกลออกไป ก็เรียกใครมาช่วยไม่ทันก็ให้มันจมน้ำตายคู่กันไปอย่างที่ฉันต้องการ”
ช้อยสยอง แต่ต้องพยักหน้าตาม

ด้านเนื้อทองยังพยายามพายเรือกลับท่าน้ำ ทานตะวันเริ่มนึกได้ว่าห่างบ้านออกมามาก จะมีใครได้ยินไหม
“แกพายกลับไปใกล้ๆ บ้าน ไวๆ หน่อยสิ นางติ๋ว”
“บอกแล้วไงคะว่าน้ำมันเชี่ยว พายเรือทวนน้ำมันยากนะคะ”
“เอ๊ะ...แกนี่ ถ้าเกิดเรือล่มขึ้นมา ตะโกนเรียกก็ไม่มีใครได้ยินแล้วมาช่วยฉันสิ”
“ลงนั่งนิ่งๆ สิคะ เผื่อเรือมันจะไปได้เร็วขึ้น”
พอดีมีเรือใหญ่ผ่านมาเครื่องแรงมากเรือพายของสองสาวเอียงวูบ
ทานตะวันร้อง “ว้าย” พยายามฝืนแต่เรือยิ่งโคลง ผลที่สุดเรือคว่ำลงไป
“คุณหนูอี๊ด ระวังค่ะ”
สองคนตกลงไปในน้ำ ทานตะวันรีบตะโกนให้ช่วย เพราะกลัวจริงไม่ใช่เล่นๆ
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วยนังติ๋วล่มเรือจะฆ่าฉัน ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
เนื้อทองรีบมาหาเพื่อจะช่วยไม่ให้ทานตะวันจมน้ำ
“อยู่นิ่งคะ ฉันจะช่วย”
“นี่แกว่ายน้ำเป็นนี่นา”
“ค่ะ คุณหนูอี๊ดก็ว่ายเป็นไม่ใช่หรือคะ”
“เป็นผีเป็นทะเลน่ะสิ ฉันว่ายไม่แข็ง โอย..ช่วยด้วย ฉันไม่ไหวแล้ว”
พอเนื้อทองว่ายเข้าหาอีก ก็ถูกทานตะวันถีบโดยแรง
“ว้าย”
นอกจากนี้ทานตะวันยังทุบตีเนื้อทองหมายจะให้จมน้ำให้ได้
“จมสิ จมน้ำตายซะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วยนังติ๋วจะฆ่าฉัน”
สองคนตะเกียกตะกายวุ่นวายอยู่ในน้ำ จนเนื้อทองเองเริ่มอ่อนแรง
“คุณหนู”
เนื้อทองหันไปคว้าท่อนไม้ที่ลอยมา ออกแรงสุดตัวแล้วเอาทานตะวันพาดเกาะไว้บนท่อนไม้
“เกาะนะคะ เกาะให้แน่น”
พอเกาะได้ทานตะวันก็ถีบเนื้อทองอีก
“แกน่ะไปตายซะ”
“โอ๊ย”
เนื้อทองเจ็บไปทั่วสรรพางค์ หมดเรี่ยวแรงแทบจะว่ายน้ำไม่ได้ ทำท่าจะจมน้ำเสียเอง
“สมน้ำหน้า”
ทานตะวันพยายามกระทุ่มน้ำเกาะขอนไม้ บ่ายหน้าไปทางบ้าน
ส่วนเนื้อทองตะเกียกตะกายกำลังจะหมดแรง จมน้ำ ขณะที่ทานตะวันเกาะขอนไม้ห่างออกไปๆ

เนื้อทองหมดแรงแล้ว ร่างจมลงไปในน้ำ โผล่มาแต่สองมือไหวๆ และเริ่มจมไปมือหนึ่ง อีกมือก็กำลังใกล้จะจม
ขณะเดียวกันบนฝั่งใกล้ที่เนื้อทองกำลังจะจมน้ำ แดงน้อยแปลกใจว่าสองคนพายเรือไปไหน จึงเดินลัดเลาะมาดูตามริมฝั่ง

“แย่แล้ว”
แดงน้อยเห็นเรือจมลอยผ่านหน้ามาก็ตกใจมาก
“เรือล่ม น้องอี๊ด น้องติ๋ว” แดงน้อยตะโกนเรียกสุดเสียง
ไวเท่าความคิด แดงน้อยกระโจนลงไปในน้ำทันที

ทานตะวันเกาะขอนไม้มามุ่งหน้าตีน้ำกลับมาทางน้ำบ้าน
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย นังติ๋วจะฆ่าฉัน”
ทานตะวันได้ยินเสียงแดงน้อยตะโกนเรียก
“น้องอี๊ด น้องติ๋ว”
ทานตะวันดีใจมาก “พี่แดงน้อย”
สายตาทานตะวันเห็นแดงน้อยว่ายน้ำเข้ามาในสายตา
ทานตะวันรีบปล่อยขอนไม้ ลอยตัวในน้ำทำตะเกียกตะกายตะโกนเรียกทำเป็นไม่รู้ว่าแดงน้อย
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย นังติ๋วจะฆ่าฉัน”
แดงน้อยเห็นทานตะวัน
“น้องอี๊ด”
แดงน้อยพุ่งเข้าหาทานตะวันทันทีพลางส่ายตาหาเนื้อทอง แดงน้อยพุ่งเข้ามาช่วยทานตะวัน
ทานตะวันกำลังจะจมน้ำให้เห็น
“พี่แดงน้อย ชะ...ช่วยด้วย”
“น้องติ๋วอยู่ไหน”
“หนีขึ้นฝั่งไปแล้ว มะ..มันจะฆ่าหนู หนูกลัว หนูหมดแรง”
แล้วทานตะวันก็ทำเป็นหมดสติปล่อยให้แดงน้อยช่วย

เวลาเดียวกันเอกนั่งเรือไปทำธุระให้ท่านขุน เห็นเรือของเนื้อทองและทานตะวันที่พายเล่นคว่ำอยู่กลางน้ำขวางหน้า
“เรือใครล่ม”
เอกสอดส่ายสายตามองหาคน แล้วต้องตกใจ
“เฮ้ย คนจมน้ำ”
เอกเห็นมือเนื้อทองที่พยายามชูกำลังจะจมหายไปใต้ผิวน้ำและจมหายลงไป
เอกกระโจนพรวดลงไปในน้ำทันที
ใต้น้ำ เห็นเนื้อทองกำลังจมน้ำร่วงลงมาใต้ น้ำแล้ว
เอกว่ายน้ำพุ่งมารวบตัวเนื้อทองเอาไว้

แดงว่ายน้ำลากเอาทานตะวันมาถึงท่าน้ำหน้าบ้าน ทานตะวันที่ดูเหมือนหมดสติก็พลันมีสติแหกปากตะโกนลั่นไปหมดจนแดงน้อยเองก็ตกใจแปลกใจ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย นังติ๋วมันจะฆ่าฉัน”
“น้องอี๊ด”
ทานตะวันช่วยตัวเองได้ทันที โผเกาะท่าน้ำไต่ขึ้นไปบนท่าน้ำป้องปากตะโกนสุดเสียง แดงน้อยตะลึงอยู่ในน้ำ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย นังติ๋วจะฆ่าฉันๆๆๆ”
แล้วทานตะวันก็ทำล้มหมดสติต่อไป
แดงน้อยขึ้นมาบนฝั่ง มองทานตะวันแบบ เธอมันแย่มากแล้วเดินผละจากไปทิ้งทานตะวันไว้ตรงนั้นเพื่อจะไปตามหาเนื้อทอง
“อะไรกันนี่ นี่หรือลูกผู้ดี” แดงน้อยคิดนิดหนึ่ง “น้องติ๋ว เกิดอะไรขึ้นกับน้องติ๋ว”
แดงออกวิ่งไปทางริมฝั่งตรงไปหาเนื้อทองต่อไปใหม่เพราะรู้ว่าโดนทานตะวันหลอก
พอแดงน้อยวิ่งพ้นไป บ่าวนายใจชั่ว สนกะช้อย ก็วิ่งนำหน้ามาที่เกิดเหตุก่อนใครเพื่อน
สนกระซิบช้อย “นังอี๊ดมันไม่ยักจมน้ำตาย ใครพามันขึ้นมานะ”
ช้อยกระซิบตอบ “แต่นังติ๋วมันหายค่ะ นังติ๋วคงจมน้ำตาย”
“เอาเถิดยังไงก็เป็นไปตามแผนถล่มอีสองแม่ลูกของเรา รีบตะโกนป่าวประกาศไวๆเข้า”
ช้อยกะสนตะโกนสุดเสียง “ช่วยด้วย ช่วยด้วย เด็กติ๋วจะฆ่าคุณหนูอี๊ดๆๆๆ”
ผู้คนในบ้านพวกบริวารพากันมาทันที
“คุณหนูอี๊ด”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 12/2 วันที่ 21 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager