อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/6 วันที่ 20 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/6 วันที่ 20 เม.ย. 56

สนกะทานตะวันตวาดพร้อมเพรียง “โกหก”
เนื้อทองถอยไปชิดแดงน้อยที่ตกใจมาก สนรีบกระซิบบอกทานตะวัน
“กระชากสิคะ”
ทานตะวันกระชากมือของเนื้อทองที่กุมสร้อยเอาไว้ แดงน้อยทำอะไรไม่ถูก แต่ก็พยายามจะปกป้องเนื้อทอง
“ผมว่าไปถามคุณย่าท่านก่อนไม่ดีหรือครับ น้องอี๊ด”

“ถามทำไมกันคะ ก็สร้อยกับจี้นี่หนูเพิ่งขอคุณย่ามาแหม็บๆ แต่คุณย่าไม่ยอมให้ หนูน่ะหลานแท้ๆ แต่มันลูกชู้ คนรู้กันทั้งสุพรรณ เรื่องอะไรคุณย่าจะไปให้มัน”


“เอ็งเอาคืนมาซะดีๆ นางติ๋ว หรือจะให้ฉันต้องลงมือกับเอ็ง”
สนหันไปคว้าไม้เรียวจะมาตีติ๋ว เทิดศักดิ์ลงเรือนมาเจอพอดี
“สร้อยกับจี้นั่นเป็นของน้องติ๋ว ผมเห็นกับตาว่าคุณย่าใส่ให้น้องติ๋วกับมือน้องอี๊ด คุณแม่สน ปล่อยน้องติ๋วนะครับ”

สนกับทานตะวันมองหน้ากันแทบไม่เชื่อหู
ขณะเดียวกันเรียมมาแวะหาทองจันทร์ที่บนเรือน เอาของมาฝาก

“คุณแม่ขา เรียมซื้อเสื้อลูกไม้ใส่ไปวัดมาฝากคุณแม่ค่ะ”
“จะมาขอบใจฉันละสิที่เอาจี้เพชรกับสร้อยที่เคยขอไว้ให้ยัยติ๋วให้มันไปเรียบร้อยแล้ว” ทองจันทร์บอกอย่างรู้ทัน
เรียมดีใจ “จริงหรือคะ คุณแม่ให้จี้เพชรนั่นกับยัยติ๋วไปแล้ว”
“จริงสิ แม่เรียม ก็เห็นแม่เรียมอยากให้มันหนักหนา แม่ก็เลยฉลองศรัทธา”
“ขอบพระคุณคุณแม่มากค่ะ”
“ถามจริงอยากให้ตอบดีๆ ด้วย ทำไมถึงอยากให้โน่นให้นี่ยัยติ๋วมันมากมายนัก”
เรียมอึ้งไป คิดหาคำตอบ
“เอ้อ..เพราะว่ายัยติ๋วคนนี้ ก็อย่างที่ท่านพระครูท่านทำนายเอาไว้ว่าแกจะเป็นที่พึ่ง แกเป็นคนดี มีอนาคต ผิดกับหนูอี๊ดของเรียม ทั้งที่เกิดวันเดียวกัน เรียมหวังจะให้แกเป็นที่พึ่งของหนูอี๊ดในภายภาคหน้าที่ไม่มีเรียมแล้วค่ะ ก็เลยอยากให้แกดูดี”
“เหตุผลก็ใช้ได้นะ แต่แม่ฟังไม่ค่อยจะขึ้น เด็กมันไม่ใช่พี่น้องกัน มันจะมาดูแลกันทำไม มิหนำซ้ำไอ้คนฝ่ายของเรา จ้องคอยจิกคอยทึ้งเขาตลอดเวลา”
“แต่เรียมมั่นใจว่าเนียนไม่ได้มีชู้ และถ้าเนียนไม่มีชู้หนูติ๋วก็คือลูกพี่เทพและเป็นพี่น้องกับหนูอี๊ด”
“ไฮ้..แม่ฟังแล้วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เอาเถิดมันเป็นเด็กดีจริงๆ แม่ยอมรับเผื่อเรื่องที่แม่เรียมพูดจริง เกิดแม่ไม่ให้มันแต่ ดันตายเสียก่อน วิญญาณคงตาค้างหลับไม่ลง ปล่อยให้หนทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์เนียน”
“ค่ะ”
ทองจันทร์เริ่มเอนเอียงมาทางเรียมบ้างแล้ว

ส่วนที่เรือนเล็ก สนกับทานตะวันไม่พอใจเนื้อทองมาก จนได้เทิดศักดิ์มาห้ามเอาไว้ได้ แดงน้อยก็แอบโล่งใจ แต่สองคนยังหาเรื่องเนื้อทองและเนียนเล็กๆ น้อยต่อไปอีกจนได้
“แม่แกนึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านงั้นรึ เอาสิทธิ์อะไรมาเชิญแขกของพวกฉันไปพบ หน้าด้านหน้าหนาหน้าไม่มียางอาย”
“ผมเองต่างหากครับ ที่กำลังจ้องหาโอกาสจะไปพบปะพูดคุยกับน้าเนียน เพราะน้าเนียนกับแม่แพรของผมนับญาติเป็นพี่น้องกัน”
“ต๊าย ลดตัวลงไปนับญาติกับขี้ข้าทำไมกันคะ นางติ๋ว แกก็เหมือนกันต่อไปนี้อย่าทะลึ่งไปเรียกพี่แดงน้อยว่าพี่ แกต้องเรียกว่าคุณแดงน้อย”
“คุณหนูอี๊ดจ๋า พี่บอกหลายครั้งแล้วว่าสมัยนี้เขาไม่มีขี้ข้ากันแล้ว”
“นางเนียนแม่แกต้องวางแผนอะไรแน่ๆ” ทานตะวันส่งสายตาจ้องแดงน้อย
“ทำไมน้องอี๊ดเรียกน้าเนียนว่านางเล่าครับ”
“ก็เพราะว่ามันคือคนใช้ ทำไมจะเรียกไม่ได้ หรือจะให้หนูเรียกมันคุณนายเนียน ก็ได้ค่ะ คุณหนูติ๋วเจ้าขา คุณนายเนียนให้มาเชิญพี่แดงน้อยไปทำอะไรไม่ทราบเจ้าค่ะ”
“ผมได้ยินคุณนายแม่บอกกับผมว่า แม่ของน้องติ๋วก็เป็นภรรยาของท่านขุนเหมือนกันนะครับ” แดงน้อยพูดต่อไม่ลดละ “ถ้าใครเพรียกพวกเขาอย่างที่น้องอี๊ดบอกก็คงจะถูกต้องครับ”
“หนูมาเรียนเชิญพี่แดงน้อยเสร็จแล้ว หนูขอตัวก่อนนะคะ”
เนื้อทองเดินน้ำตาคลอตัดบทออกไปไม่อยากต่อเรื่อง
“ต๊าย ไม่มีสัมมาคารวะ ไปไม่ลามาไม่ไหว้ เดินหนีฉันไปหน้าตาเฉย อีเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไม่เคารพคนเหนือกว่า”
“ก็พ่อมันเป็นโจร มัวแต่ไปปล้นจะเอาเวลาที่ไหนมาสอนลูกคะแม่สนละก้อมันจะเคารพใครเป็น” ทานตะวันผสมโรง
“หวังแต่จะให้ผู้อื่นมาเคารพตัวเอง ดูตัวเองบ้างก่อนดีไหมว่าน่าเคารพเพียงไหน” เทิดศักดิ์ว่า
“นี่เทิดศักดิ์กำลังด่าแม่”
“เปล่าครับผมเตือนน้องอี๊ด ขอตัวก่อน ต้องไปรายงานตัวกับเจ้านายที่อำเภอ แดงน้อยไปคุยกับน้าเนียนให้สนุก”
“พบกันตอนเย็นนะเทิดศักดิ์”
“พี่แดงน้อยขา หนูขอเตือนนะคะว่านางเนียนมันกำลังเอาลูกชู้คนสวยมาล่อพี่แดงน้อย” ทานตะวันว่า
“น้องติ๋วน่ารักน่าชื่นชม แม้แต่เทิดศักดิ์ก็ยังชมเธอให้ผมฟังเสมอ ความดีงามของเธอคือสิ่งที่ล่อให้ใครๆ มาผูกมิตรกับเธอ” แดงน้อยว่า
ไม่มีใครฟังสองคน ต่างเดินหนีกันหมด

สามคนนั่งอยู่ที่ตั่งตรงลานหน้าเรือนทองจันทร์ เนียนมือไม้สั่นรับไหว้แดงน้อย มองเอาๆ จนพูดไม่ออก
“สวัสดีครับ น้าเนียน”
เนียนเริ่มตัวสั่น ปากสั่น คำพูดติดอยู่แค่ลำคอ โดยไม่ทันคิด มือสั่นๆ ของเนียนก็เอื้อมไปจับแขนแดงน้อย
ลูบคลำไปมา ดวงตาแสดงความรักใคร่เทิดทูนอย่างเปิดเผยเก็บงำไม่อยู่
เนียนพยายามเอ่ยปากเรียกอย่างเต็มตื้น “คุณแดงน้อย”
แดงน้อยเริ่มรับสัมผัสที่เนียนส่งมาให้อย่างรวดเร็วไปจนถึงหัวใจ
“ครับ น้าเนียน”
เนียนพยายามกลั้นสะอื้น ในที่สุด เนียนก็สะอื้นร้องไห้ออกมาน้ำตานองหน้า
“คุณแดงน้อย ของ...” เนียนหยุดแค่นั้น
“แม่เนียนจ๋า อย่าร้องไห้ คุณท่านเพิ่งสั่งมาว่าอย่าร้องไห้”
แดงน้อยตกใจ “ผม ทำอะไรให้น้าเนียนไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”
“เปล่า เปล่า น้า เอ้อน้าตื้นตันใจ ดีใจแทนพี่แพร ที่มีลูกชายโตเป็นหนุ่มขนาดนี้”
“ผมไม่ใช่ลูกแม่แพรแท้ๆดอกครับ แม่ผมตายตั้งแต่เล็กๆ”
เนียนคราง “โธ่...”
“แม่เนียนขี้สงสารน่ะค่ะ”
“ลุงสินของผมฝากให้แม่แพรกับลุงโพล้งให้ดูแลผมมาจนโตป่านนี้ครับ” แดงน้อยบอก
“ลุงสิน สบายดีหรือคะ”
“น้าเนียนรู้จักลุงสินด้วยหรือครับ”
“เอ้อ.. เคยรู้จักนานมาแล้วจ้ะ ว่ายังไงจ๊ะ...” เนียนเริ่มกล้ามากขึ้น “ลุงสินสบายดีไหมจ๊ะ”
“ลุงไม่ได้อยู่กับเราครับ นานครั้งลุงจะมาหาผม แต่ตอนนี้ลุงเงียบหายไปเลย แต่ลุงก็เขียนจดหมายมาบอกว่าลุงทราบแล้วว่าผมเรียนจบ”
“ดีใจด้วยนะคะ ที่เรียนจบแล้ว”
“พี่แดงน้อยสอบชิงทุนได้ไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอกด้วยจ้ะ”
เนียนดีใจ “เก่งเหลือเกิน..เก่งที่สุด น่าชื่นใจปลื้มใจจริงๆ”
“ขอบพระคุณครับ”
“วันนี้แม่เนียนคุยเก่งที่สุดตั้งแต่หนูเกิดมา ยิ้มเก่งที่สุดด้วย ขอบคุณพี่แดงน้อยที่ทำให้แม่หนูมีความสุข”

ทั้งสามยังคงคุยกันอย่างมีความสุข
ผิดกับสนและทานตะวัน ที่ออกอาการหงุดหงิด ปรึกษานางช้อยใจชั่วกันอยู่สามคนบนเรือนสน

“แม่สนไม่เคยเกลียดใครเท่าอีสองคนแม่ลูกนี่เลยค่ะ”
“เหมือนหนูไม่มีผิด”
“แล้วจะมัวเงื้อง่าราคาแพงไปเรื่อยๆ อยู่ทำไมคะ คุณหนูอี๊ดคุณสน”
“ลองให้ของราคาแพงมากกับมันอย่างนี้ แปลว่าคุณย่าหลงมันจนลืมหนูอี๊ดอย่างที่แม่สนกังวลแล้ว”
“แม่สนไปกับหนู ตามไปด่านางสองแม่ลูกนั่นนะคะ”
“จะไหวหรือคะ เรือนคุณท่านนะคะ ใครกล้าไปด่าใครที่นั่นหัวกุดนะคะ” ช้อยเตือน
“จริงด้วยค่ะ ไม่เหมาะค่ะ ไปฟ้องคุณพ่อดีกว่าค่ะ” สนสั่ง
“ไปยุแยงตะแคงรั่วให้คุณพ่อด่าพวกมันเอาจี้คืนมาให้ได้ค่ะ” ช้อยเสี้ยม
ทานตะวันพยักหน้า รีบเดินหายไปสองคนหันมายิ้มให้กัน
“โง่เหมือนอีเรียม” สนบอก
“แต่ร้ายเหมือนคุณสน” ช้อยว่า
“อีช้อย”
ช้อยยิ้มแห้งๆ

ที่ลานเรือนทองจันทร์ เนียนยังคงเป็นปลื้มกับการชื่นชมแดงน้อย
“เป็นบุญเป็นกุศลเหลือเกินที่ได้เห็นคุณแดงน้อยได้ไปเรียนต่อที่เมืองนอก ตั้งใจเรียนกลับมาช่วยเหลือคนยากคนจนนะคะ กลับมาเป็นที่พึ่งของแม่...เอ้อ..แม่แพรกับลุงโพล้งนะคะ”
ทองจันทร์โผล่ออกมาเขม้นมอง
“ขาไพ่ตองของฉันหายไปไหนหมด อ้าว นั่งอยู่นั่น สามคน มามะมาเล่นไพ่ตองกับฉัน มามะ ไม่มาเจอปาหัวด้วยเชี่ยนหมาก”
ทองจันทร์กวักมือเรียกสามคนเหยงๆ

ส่วนขุนภักดีนั่งดื่มเมรัยไป แล้วเริ่มเมาไม่น้อย มีเอกคอยรับใช้
“ไอ้เอก เอ็งว่าเกิดเป็นท่านขุนภักดีภูบาลนี่มันดีหรือเลวกันแน่”
“ดีสิขอรับ ดีมากๆ เสียด้วย ใครๆ ก็นับหน้าถือตา โจรผู้ร้ายก็หวาดผวา”
“เฮ้ย หวาดผวาประสาบ้าอะไร ทำไมมันดันมาเป็นชู้กับเมียของกู เมียของกูก็ดันเห็นโจรดีกว่าผัว”
“ท่านขุนขอรับ เรื่องนี้ความจริงก็ยังไม่กระจ่าง”
“ไอ้เอกเอ็งก็เห็นกับตาพร้อมกับข้าว่า มันเอาสร้อยเอาแหวนของกูให้ชู้”
“เห็นกับตา แต่ไม่ได้ยินกับหูสักหน่อยว่าเขาพูดอะไรกันนะขอรับ”
“นี่มึงกล้าขัดกู มึงเข้าข้างนางแพศยา”
ขุนภักดียกตะพดจะตีเอก เอกถอยกรูด ทานตะวันเดินเข้ามาพอดี ท่านขุนยกค้าง
“ว๊ายคุณพ่อ...อย่าตีหนูอี๊ด ค่ะ”
เอกแอบถอนใจโล่งอก
“คนสวยของพ่อ มานั่งข้างๆ พ่อสิลูก”
ทานตะวันทำหน้าเบะจะร้องไห้
“หนูไม่ยอมค่ะ คุณพ่อ นางเนียนกับนางติ๋วมัน…”
“มันทำอะไรหนู”
เอกแอบหันมาทำหน้าเบื่อหน่าย

ฟากทองจันทร์ออกอาการดี๊ด๊าสนุกสนานมากๆ สอนให้สามคนเล่นไพ่ตอง แถมพูดติดตลกไปด้วย
“แย่มาก เล่นกันไม่เป็นสักคน ต้องให้คนแก่สอน ดีไม่ดีหมวดเทิดศักดิ์เขามาเห็นโดนจับหมดสี่คน เลิกๆๆ หิวข้าวแล้ว กินข้าวกันดีกว่าพ่อแดงน้อยคนนี้ มากินด้วยกันที่นี่เถิดนะ”
“ครับ เอ้อ”
เนียนรีบรับทันที “ดีค่ะ น้ากับหนูติ๋วจะรีบไปทำอาหารให้ทานค่ะ ชอบทานอะไรบอกน้าได้ค่ะ”
ทุกคนงงเนียนที่กลายเป็นคนช่างพูด
“ผีที่ไหนมาแอบเจาะปากให้เนียนมันกลายเป็นช่างพูด” ทองจันทร์แขวะ
“แม่เนียนชื่นชมพี่แดงน้อยมากน่ะเจ้าค่ะ” เนื้อทองบอก
“ก็น่าจะชื่นชมหรอกนะ เก่งอย่างนี้ไม่แดงน้อยดอก ต้องแดงมาก นี่พ่อแดงมากจ๋า ดูหน้าตาของพ่อสิ ช่างเหมือนกับแม่เนียนยังกับแม่ลูก เหมือนยัยติ๋วด้วย นี่ถ้าไปเดินตลาดกันสามคนใครเขาคงเข้าใจว่าแม่พาลูกสองคนมาชมตลาด หรือว่าจะมีใครเถียงว่า...ฉันพูดไม่เอาอ่าว”
แดงน้อยเห็นด้วย “คุณย่าพูดถูกครับ ผมเองเวลาส่องกระจกยังแปลกใจตัวเองว่าทำไมหน้าเหมือนน้องติ๋ว”
“ยัยติ๋ว เราว่ายังไง”
“เจ้าค่ะ หนูก็ว่าหน้าหนูเหมือนพี่แดงน้อยเจ้าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น วันนี้เรามากินข้าวด้วยกันทั้งหมดนี่ติ๊ดต่างว่ากินข้าวกันแม่ๆ ลูกๆ” ทองจันทร์ว่า
เนียนตะลึง “คุณท่าน”
“เนียนแกไม่ต้องมาทำหน้าปฎิเสธ อย่าให้ฉันมีโมโห เดี๋ยวจะขว้างเชี่ยนหมากใส่หัวแก” ทองจันทร์ดุแต่ท่าทีน่าขันไม่จริงจัง
“เจ้าค่ะ...กินเจ้าค่ะ”
ทองจันทร์ยิ้ม เนียนปลื้มปริ่มจนตัวแทบลอย สีหน้ามีแต่ความสุข

ส่วนทานตะวัน ร้องไห้ไปฟ้องไปด้วย
“คุณย่าให้สร้อยเพชรเส้นที่หนูเพียรขอแล้วขออีกไปให้คนอื่น”
“คนอื่น คุณย่าเอาไปให้ใครหรือลูก”
“นางติ๋วค่ะ”
“อะไรนะ”
“เอาแล้วไง” เอกพึมพำ “บ่อนแตก”
“นางเนียนมันยุให้ลูกมันปะเหลาะขอของคุณย่าค่ะ”
“นางนี่บังอาจ”
“แค่นั้นที่ไหนกันคะ หนูกับแม่สนกำลังคุยกับพี่แดงน้อย มันส่งลูกมันมาอ่อยเหยื่อล่อปลากะพง เรียกพี่แดงน้อยไปหามันหน้าตาเฉย”
“แล้วแดงน้อยเขาไปไหมล่ะ”
“แจ้นไปเลยแหละค่ะ”
เอกพึมพำต่อ “สาแก่ใจจริงๆ”
“ยังไม่หมดค่ะ ก็ไอ้เรื่องที่มันขึ้นไปลอยหน้าอยู่ในห้องเก่าของคุณแม่กันทั้งสองคนแม่ลูกนั่นก็ขัดหูขัดตา ขัดใจหนูเป็นที่สุด คุณพ่อว่ามันเหมาะแล้วหรือคะ”
“ไม่เหมาะดอกจ้ะ ลูกรักเดี๋ยวพ่อจะไปจัดการให้”
ทานตะวันกอดประจบพ่อไว้แน่น
“คุณพ่อน่ารักที่สุด”

เอกมองทำหน้าเอือมระอา พ่อหูเบาลูกขี้อิจฉา
ฝ่ายสี่คนร่วมวงกินอาหารด้วยกัน อย่างมีความสุข คุณนายทองจันทร์นั้นสนุกมากๆ เย้าคนโน้นแหย่คนนี้ จังหวะหนึ่งทองจันทร์มองเนียนกับแดงน้อยและเนื้อทองที่นั่งเรียงกันอยู่ เสียงของเรียมดังก้องในหู

“แต่เรียมมั่นใจว่าเนียนไม่ได้มีชู้ และถ้าเนียนไม่มีชู้หนูติ๋วก็คือลูกพี่เทพและเป็นพี่น้องกับหนูอี๊ด”
ทองจันทร์คิดแล้วได้ถอนใจ “นอกจากเธอสามคนจะหน้าเหมือนกันแล้ว ยัยติ๋วแกยังมีปากเหมือน...”
“ใครเจ้าคะ” เนื้อทองถาม
ทองจันทร์คิดในใจ “พ่อเทพ” แต่ที่พูดออกมากลับเป็น “ช่างเถิด เนียนวันนี้แกเจริญอาหารจริงนะ ทุกทีเห็นตีหน้าเศร้ากินข้าวเคล้าน้ำตาเหมือนแมวดม”
“เอ้อ..เนียนดีใจที่คุณท่านให้มากินข้าวด้วยนี่เจ้าคะ”
“ฉันว่าแกดีใจที่ได้กินข้าวกับพ่อแดงมากคนนี้ตะหาก กินแยะๆ นะหลาน ฝีมือสองแม่ลูกนี่เขาเฉียบขาดจริงๆ”
“ผมกินไปสามจานแล้วครับ คุณย่ากินไม่เหลือสักเม็ด” แดงน้อยรวบช้อน
เนียนรวบตามบ้าง
“อ้าวแม่เนียน เห็นพ่อแดงมากอิ่ม อิ่มตามไปด้วย”
“เนียนก็กินไปสามจานแล้วเหมือนกันเจ้าค่ะ”
“หนูจะไปเอาขนมมาให้นะเจ้าค่ะ”
เนื้อทองถอยออกไป ช่วยเนียนเก็บจาน แมวช่วยอีกคน
ระหว่างนั้น ทานตะวัน และท่านขุนดาหน้ากันขึ้นมา สีหน้าเอาเรื่อง มีเอกตามมาติดๆ
“นั่นสองพ่อลูกตีหย้ายักษ์มาบนเรือนฉันมีปัญหาอะไรไม่ทราบ” ทองจันทร์ทัก
“มีค่ะ นางติ๋วมานั่งประจบคุณย่าอยู่ที่นี่ไงคะคุณพ่อ” ทานตะวันฟ้องทันที
ทุกคนงง

จังหวะนี้สนกะช้อยมาแอบฟังอยู่ที่ใต้ถุนรือนทองจันทร์
“ได้ยินอีแก่มันพูดจาให้ท้ายอีเนียนแล้วอยากขึ้นไปเอามีดเสียบปากมัน” สนว่า
“เสียบปากอีแก่หรืออีเนียนเจ้าคะ”
“เสียบปากแกด้วยอีกคน สะเออะพูดเล่นอยู่ได้ คนเขากำลังจริงจัง”
“งั้นพูดจริงจังก็ได้ค่ะ อีแก่มันพูดถูก อีเนียนหน้าเหมือนคุณแดงน้อย คุณแดงน้อยหน้าเหมือนอีเด็กติ๋ว อีเด็กติ๋วหน้าเหมือนคุณหนูอี๊ด คุณหนูอี๊ดหน้าเหมือน คุณเทิดศักดิ์ รวมความได้ว่า คุณเทิดศักดิ์ก็หน้าเหมือนอีเนียนอีกคน เพราะอีเนียนมีศักดิ์เป็นอาของเธอ เนื่องจากว่าพ่อของเธอเป็นพี่ของอีเนียน” ช้อยลำดับญาติ
“อีช้อยเอ็งกำลังวอนตาย รู้ตัวไหม เงียบ ข้าจะฟังพี่ขุนด่ามันสองคนแม่ลูก”
ช้อยเงียบไป
ทองจันทร์มองหน้าขุนภักดีกับทานตะวัน ต่อว่าเอาตรงๆ
“แหมขึงขังขี่พายุทะลุเมฆจะมาเอาเรื่องเอาราวกันถึงเรือนฉัน มาผิดบ้านแล้ว แม่อี๊ดมาว่ายัยติ๋วเขาทำไม ตัวเองไม่เห็นจะทำอะไรให้ย่า ฉะนั้นอย่ามาว่ายัยติ๋ว เพราะเขาทำให้ย่าทุกอย่าง”
“หนูไม่ใช่คนช่างประจบสอพลอเหมือนมันนี่คะ”
“ผมไม่พอใจเรื่องที่นางเนียน เจ้าหน้าเจ้าตาไปเชิญแดงน้อยมาพบตัวเอง ไม่เจียมตัวซะเลยว่าตัวเองมีฐานะเป็นคนใช้ มีสิทธิ์อะไรมาสาระแนกับแขกของผม”
“นางเนียนอยากได้ลูกเขยเป็นนักเรียนนอก”
ทองจันทร์ชักเหลืออด “นางเด็กสาระแน” ชี้หน้าด่าทานตะวัน “พูดจายกเมฆป้ายสีคนอื่น”
“ว๊าย...คุณย่าด่าหนูสาระแนค่ะคุณพ่อ”
“ฟ้องพ่อจะให้มาตีฉันรึ พ่อแกน่ะฉันหวดด้วยก้านมะยมมานักต่อนักถึงได้ดิบได้ดีอย่างทุกวันนี้ มีแต่แกนั่นแหละ ไม่เคยโดนจนไม่เอาไหนสักอย่าง นางเด็กสาระแนช่างฟ้อง”
ทานตะวันอึ้งไป ขุนภักดีงงเถียงไม่ออก

ฟากสนกับช้อยฟังพลอยปวดหัวไปด้วย ที่เหตุการณ์พลิกตาลปัตร
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น อีแก่เข้าข้างนางสองแม่ลูกทุกประตู พี่ขุนยังทำท่าจะถอยฉาก”
“ถ้าจะให้มันมาอยู่ร่วมบ้านกับคุณท่านไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ คุณสน”
“เอ็งจะให้ฉันจัดการอย่างที่เคย ดี...เอ็งจัดการมันทั้งแม่ทั้งลูกให้ไวที่สุด”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/6 วันที่ 20 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager