อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/2 วันที่ 10 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/2 วันที่ 10 เม.ย. 56

“แดงน้อยครับ เพื่อนคนที่ชื่อเทิดศักดิ์ เขาดีกับแดงน้อยมากหรือ” หนักหันมาทางหลานชาย
“ดีที่สุดครับ เราถูกคอกันมาก เขาไม่ถือตัวว่าเป็นลูกท่านหลานเธอ เหมือนบางคนที่พอรู้ว่าผมเป็นลูกคนธรรมดาก็เมินหน้าไม่อยากสมาคมด้วย”
“แล้วใครว่าแดงน้อยเป็นลูกคนธรรมดาเล่า” โพล้งคุยโว
หนักรีบตัดบททันที “พอทีไอ้โพล้ง”
แพรแก้ตัวให้ “ลุงโพล้งเขาจะหมายความว่า ลุงสินของแดงน้อยน่ะธรรมดาที่ไหน”

“ใช่ครับ ลุงไม่ธรรมดา ทั้งหล่อทั้งโก้ ทั้งรวยด้วย เพียงแต่ว่าไม่มีคำนำหน้าว่าท่านขุน คุณหลวง คุณพระเท่านั้นเอง”
คำพูดของแดงน้อย ทำเอาทุกคนเงียบงันกันไป หนักดึงแดงน้อยเข้ามากอด


“ลุงไปก่อน อาจจะอีกนานลุงถึงจะมา รักษาความดีให้เหมือนเกลือรักษาความเค็มนะแดงน้อย”
“ครับ ลุงสิน”
“ฝากชมเพื่อนสนิทของแดงน้อยด้วยว่าเก่งมาก”
หนักไม่วายฝากแรงใจไปให้ลูกชาย สองลุงหลานกอดลากันกลม

ไม่นานต่อมา หนักนั่งอยู่ในสามล้อ หวนคิดในใจถึงคำพูดของแดงน้อยแล้วนึกสะท้อนใจ
“ลุงไม่มีคำนำหน้าดีงามว่าท่านขุน คุณหลวง คุณพระ แต่ลุงมีคำนำหน้าชั่วช้าเลวทรามว่าไอ้เสือ ช่างเป็นคำนำหน้าที่อัปลักษณ์น่ารังเกียจที่สุด ถ้าใครรู้เข้าแดงน้อย จะเอาหน้าไว้ที่ไหนจะอับอายเพียงใด”
หนักคิดแล้วเศร้า

ตกตอนกลางคืนเนียนจัดที่นอนหมอนมุ้งให้เนื้อทอง
“เดินทางมาแทบทั้งวัน หนูคงเหนื่อยมาก หลับนะลูก”
“จ้ะ” เนื้อทองดึงมือแม่มาแนบแก้ม “แม่เนียนจ๋า หนูรู้แล้วว่า คนที่ชื่อแดงน้อยเพื่อนคุณเทิดศักดิ์เขาเป็นคนที่ไหน”
เนียนกระตือรือล้นมาก “คนสุพรรณหรือจ๊ะ”
“บางกอกจ้ะ”
เนียนงงคิดไม่ออกว่าแดงน้อยลูกตัวองจะไปอยู่บางกอกได้อย่างไร

เวลาต่อมาเนียนเอนตัวโอบกอดลูบหัวลูบหลังเนื้อทองที่หลับไปแล้ว พึมพำเหมือนจะบอกลูก
“หนูติ๋วจ๋า แม่ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ลุงของหนูช่างกล้าหาญมาพบพูดจากับเขา ยังมอบพระให้เขาเพื่ออะไร แต่แม่ก็ดีใจว่าลุงปลอดภัย แม่อยากภาวนาขอให้แดงน้อยคนนั้น เป็นแดงน้อยคนเดียวกันกับแดงน้อยพี่ชายของหนูเหลือเกิน”

วันคืนหมุนผ่าน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ความเจริญแผ่ขยายเข้ามาถนนเส้นเล็กแคบ กลายเป็นถนนหนทางใหญ่โตขึ้น พร้อมๆ กับเวลาที่ ผ่านไปอีก 10 ปี

วันนี้ เด็กนักเรียนในโรงเรียนสตรีชั้นมัธยม 6 ทั้งหมดกำลังทำข้อสอบวิชาสุดท้าย ครูประจำชั้นเดินวนเวียนดูการทำข้อสอบของเด็กที่ก้มหน้า ก้มตา บ้างก็นั่งคิดคำตอบ
เด็กสาวฝาแฝดนั่งทำข้อสอบใกล้กัน เนื้อทองก้มหน้าก้มตาเขียนคำคอบ แต่ทานตะวันนั่งเขียนไม่ค่อยจะออก พลางมองไปที่อีกฝ่าย เหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง
“นักเรียน ห้ามทุจริตการสอบด้วยการแอบเอาคำตอบเข้ามาในห้อง หรือแอบ ลอกข้อสอบกันเด็ดขาด ถ้าใครไม่เชื่อฟังจะโดนทำโทษให้สอบตก” เสียงครูดังขึ้น
เนื้อทองรีบเขียนคำตอบโดยเร็ว ทานตะวันกระซิบเรียก
“เนื้อทอง เนื้อทอง เนื้อทอง ได้ยินไหม”
เนื้อทองไม่อยากพูดด้วย แต่ก็ต้องหันไปมอง
“ทำข้อสอบเสร็จหรือยัง”
เนื้อทอง พยักหน้า ทานตะวันยิ้มเจ้าเล่ห์ แกล้งทำกระดาษข้อสอบตกมาที่ข้างโต๊ะของเนื้อทอง
“อุ๊ย”
ทันใดนั้นทานตะวันก็ฉวยข้อสอบที่เนื้อทองทำเสร็จไปจากโต๊ะ
“อุ๊ย”
ครูหันมามอง
“มีอะไรกันน่ะเนื้อทอง ทานตะวัน”
เนื้อทองอึกอัก “เอ้อ…”
“เนื้อทองทำกระดาษคำตอบตกค่ะ แต่เขากลัวคุณครูจะหาว่าลอกข้อสอบหนู เขาไม่กล้าก้มลงไปเก็บค่ะ”
“เอ้อ”
“เก็บเถิดจ้ะ เนื้อทอง จะหมดเวลาแล้ว ใครทำยังไม่เสร็จเร่งมือด้วย ใครที่ทำเสร็จแล้ว เอามาส่ง”
ทานตะวันยกมือว่าตัวเองทำเสร็จพลางลุกขึ้น ถือกระดาษคำตอบ แล้วทำทีเป็นก้มลงไปเก็บกระดาษเปล่าของตัวเองวางให้ติ๋วพร้อมกระซิบสั่ง
“เขียนชื่อชั้นที่กระดาษคำตอบนี้ เพราะกระดาษคำตอบของเธออยู่ที่ชั้น ทำคำตอบของชั้นให้ดีๆ ด้วย”
พูดจบทานตะวันก็รีบเดินออกไปเนื้อทองตกใจมองตามพึมพำ
“อีกแล้วรึนี่”
เนื้อทองหน้าจ๋อย เขียนชื่อบนกระดาษข้อสอบว่า น. ส. ทานตะวัน ภักดีภูบาล
จากนั้นรีบก้มหน้าก้มตาทำคำตอบ

ขณะเดียวกันที่ประตูหน้าโรงเรียนเตรียมทหาร แดงน้อย อายุ 17 ย่าง 18 เป็นหนุ่มแล้ว เดินออกมาจากโรงเรียน สวมชุดนักเรียนเตรียมทหารใส่หมวกนักเรียนนายร้อยหิ้วกระเป๋าออกมา ยืนตรงนิ่งแต่ส่ายตามองหาใครบางคน สักครู่จึงเห็นเทิดศักดิ์ วัย 17 ปี ในชุดนักเรียนเตรียมอุดมหิ้วกระเป๋าเดินยิ้มเผล่มาหาแดงน้อย
“แหมใส่ชุดนักเรียนเตรียมทหารโก้จริงนะ แดงน้อย”
“เอ็งก็เหมือนกัน แต่งชุดนักเรียนเตรียมจุฬาติดเข็มโก้หยอกใครซะเมื่อไหร่”
สองคนหัวเราะให้กันเบาๆ

ส่วนที่โรงสตรี ขณะที่เนื้อทองนั่งหันหลังกำลังอ่านตำรา ขุนภักดีเดินเข้ามาหา มองเห็นด้านหลังของเนื้อทองที่เหมือนกับด้านหลังของทานตะวัน จึงเข้าไปโอบกอดบ่า
“หนูอี๊ดลูกรักของพ่อ”
เนื้อทองตกใจมาก ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกตัวแข็งทื่อ
“ไม่พอใจรึหนูอี๊ดของพ่อ เด็กติ๋วมันขัดใจอะไรลูกพ่ออีก พ่อจะเอ็ดมันให้”
ทานตะวันเดินเข้ามาโวยวายใส่บิดา
“คุณพ่อไปกอดยัยติ๋วมันทำไมค่ะ นั่น”
ขุนภักดีตกใจ ทานตะวันมาดึงท่านขุนออกมาจากเนื้อทอง
“บ้าจริง ทำไมไม่รีบบอกว่าไม่ใช่หนูอี๊ด” ขุนภักดีเอ็ดแก้เก้อ
“นั่นสิยืนนิ่งเป็นตอไม้ไปได้ หรือว่าอยากมีพ่อเป็นท่านขุนเหมือนฉัน”
เนื้อทองหันมาไหว้ขุนภักดี หน้าจ๋อยมาก
“เธอพยายามทำตัวให้เหมือนฉันตลอดเวลา เธอชอบทำให้ใครๆเข้าใจผิดว่าเธอคือฉัน”
นฤมลเข้ามา
“สวัสดีค่ะ ท่านขุน เรียมไม่ได้มาด้วยหรือคะ”
“ครับ คือผมมาราชการ เลยแวะมาเยี่ยมลูกสาว ได้ยินว่ากำลังสอบ เป็นยังไงบ้างหนูอี๊ด”
“นี่แหละค่ะ เป็นเรื่องที่กำลังจะมาสอบ สองคนนี่เป็นการส่วนตัว”
“มีอะไรหรือครับ”

สองสาวหน้าจ๋อยมาก ท่านขุนมองหน้านฤมลสลับกับมองหน้าสองคน
ฟากสองหนุ่มน้อย เดินคุยกันอยู่ตรงป้ายรถเมล์ แดงน้อยเดินตรงเป๊ะ ระมัดระวังตัวมาก

“โชคดีนะ ที่เราเรียนอยู่ใกล้กัน กับเอ็งเลยพบกันที่ป้ายรถเมล์ทุกเย็นวันศุกร์”
“งั้นเย็นนี้ ไปกินอาหารฝีมือแม่แพรที่บ้านกัน เอ็งชอบไม่ใช่รึ”
“วันนี้ต้องรีบกลับไปรับหน้าคุณพ่อท่านมาราชการ ที่บางกอก เอ็งไปบ้านท่านเจ้าพระยาด้วยกันไหมล่ะคุณพ่อมาทีไรถามถึงเอ็งทุกที”
“กันอยากรีบกลับไปบ้าน เผื่อลุงสินจะแวะมาหากัน”
“กันไม่เคยเจอลุงเอ็งอีกเลยตั้งแต่วันที่ ลุงมารับเอ็งตอนที่เรายังเป็นเด็กเล็กๆ”
“ลุงถามถึงเอ็งทุกครั้ง ที่ลุงมาหากัน ลุงชอบเอ็งมาก”
“กันก็เคารพลุงของเอ็งมาก ฝากกราบสวัสดีลุงของเอ็งด้วย”
รถเมล์มา ทั้งสองแยกย้ายกันไปขึ้นรถตามเส้นทางของตัวเอง

ภายในห้องพักครูใหญ่นฤมล สองแฝดต่างนั่งร้องไห้ เนื้อทองร้องเงียบๆ ทานตะวันสะอึกสะอื้น นฤมลทำหน้าเข้ม ขุนภักดีพูดไม่ออกถอนใจเฮือกๆ
“ทานตะวัน เนื้อทอง จะแอบทำข้อสอบให้กันอีกไหม”
“ไม่ทำแล้วค่ะ” สองคนประสานเสียง
“รู้ไหมว่า การกระทำแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ คือการเริ่มต้นของการทุจริต”
ขุนภักดีดุ “หนูอี๊ด ลูกไม่ใช่เด็กโง่ แต่ลูกไม่พยายามจะทำอะไรด้วยตัวของลูกเองต่างหาก เนื้อทอง จำไว้ ห้ามช่วยเหลือใดๆกับทานตะวันอีกเด็ดขาด”
“เจ้าค่ะ” เนื้อทองรับคำ
“เลิกเจ้าค่ะเจ้าคะสักที ครูนฤมลจะเข้าใจว่าฉันกดขี่เอา สมัยนี้เขายิ่งถามหาประชาธิปไตยกันทั้งนั้น” ขุนภักดีบอก
นฤมลแอบยิ้ม หันมาปรามสองคน
“ลายมือเนื้อทองกับทานตะวันถึงจะคล้ายกัน แต่ครูก็จำได้ไม่เช่นนั้นจะเป็นครูของพวกหนูได้อย่างไร”
“หนูขอโทษค่ะ จะลงโทษหนูยังไงหนูก็ได้ค่ะ” เนื้อทองบอกจ๋อยๆ
“หนูไม่ชอบเรียนหนังสือค่ะ คุณพ่อ คุณป้านฤมล จบมอหกหนูไม่เรียนต่อได้ไหมคะ”
ท่านขุนอึ้งไป นฤมลพยายามเกลี้ยกล่อม
“รอให้จบมอแปดก่อนค่อยตัดสินใจ แต่ที่แน่ๆ เนื้อทองจะเรียนคุรุศาสตร์จุฬา เขาอยากเป็นครูค่ะ ท่านขุน”
ขุนภักดีพยักหน้าหนักใจ มองหน้าเด็กสองคน เสียใจที่ทานตะวันไม่เอาถ่าน มองเนื้อทองเริ่มใจอ่อนลงเพราะเนื้อทองแสนดีเหมือนเนียนสมัยก่อนไม่มีผิด

ทองจันทร์ยื่นกำไลทองคำอันเล็กๆ ส่งให้เนื้อทอง
“ของขวัญที่เอ็งรับใช้ฉันตอนปิดเทอมมาสิบปี รับไปสิ”
“คุณท่านให้หนูจริงๆ หรือคะ”
“ถามอะไรอย่างนั้น รีบกราบขอบพระคุณท่าน สิเนื้อทอง” เนียนบอก
“ลูกเอ็งมันก็เหมือนเอ็งนั่นแหละเกรงกลัวคนอื่นไปหมด นี่ใกล้จบมอแปดแล้วสินะ”
“ค่ะ”
ทานตะวันเดินเข้ามากอดย่าหอมแก้มทองจันทร์ยิ้มหน้าบาน
“คุณย่าขาคิดถึงจังเลย รักคุณย่าที่สุด”
“เด็กคนนี้ประจบ จะเอาอะไรจากย่าอีกรึ”
ทานตะวันหยิบกำไลที่เนื้อทองถืออยู่ มาดู
“คุณย่าให้มันหรือคะ งั้น ให้หนูเป็นกำไลทองฝังเพชรนะคะ คุณย่า”
“ได้สิหลาน ย่าให้หลานได้ทั้งนั้น ว่าแต่จบมอแปดแล้วหนูจะเรียนอะไรต่อล่ะ”
“อยู่บ้านเฉยๆ เดินไปเดินมา รอเวลาแต่งงานกับคนดีๆ มีเงินค่ะ คุณย่า”
ทองจันทร์ตกใจบ้วนน้ำหมากปิ๊ดดด
“ไฮ้พูดอะไรออกมาอย่างนั้น คนแก่ฟังแล้ว อยากจะเอาหน้าด้นดิน ใครสั่งใครสอนให้พูดถึงเรื่องนี้หน้าตาเฉย”
“แม่สนค่ะ แม่สนบอกว่าหนูมีชาติมีตระกูล ไม่ต้องไปร่ำไปเรียนสูงเหมือนพวกคนไม่มีอันจะกิน เดี๋ยวก็มีผู้ชายเศรษฐีดีๆ มีชาติมีตระกูลมาสู่ขอ รอวันเป็นคุณหญิงคุณนายเหมือนคุณย่ากับคุณแม่”
ทองจันทร์ตบอกผาง
“แม่สนเอาอีกแล้วรึ”
เนียนกับติ๋วนั่งเงียบไปไม่ปริปาก ขณะอี๊ดโยนกำไลใส่ติ๋ว
“กำไรสวะ ทองเส้นนิดเดียว”
เรียมเดินเข้ามาเห็นภาพเกเรพอดี
“ไม่น่ารักเลยนะหนูอี๊ด” เรียมเอ็ด
“ก็ไม่ต้องรักสิคะ รักยัยเนื้อทองไปเถิดค่ะ มันดีมันวิเศษวิเศษไปหมดทุกอย่าง วันก่อนคุณพ่อไปเยี่ยมหนูที่โรงเรียน ยังไปกอดมันเรียกมันว่าลูกรัก อีกไม่นานคุณย่าก็คงจะเอาด้วยอีกคน”
เนียนกับเรียมสะดุ้งตกใจมองหน้ากัน
“จริงรึเนื้อทอง”
“ท่านเข้าใจผิดเพราะเห็นหนูด้านหลัง ท่านเข้าใจว่าหนูเป็นคุณทานตะวันค่ะ”
เนียนกับเรียมสบตากันอีกครั้งเนียนใจเต้นตูมๆ ที่พ่อไปกอดลูกโดยไม่รู้ตัวว่านั่นคือลูก ลูกก็ไม่รู้ว่าพ่อ พอพูดจบทานตะวันเดินกระแทกเท้าปังๆ ลงเรือนไป ทองจันทร์มองตามส่ายหน้า เรียมยิ่งระอามากกว่า
ทานตะวันสวนกับเทิดศักดิ์ที่เดินยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเข้ามามีดอกไม้ซ่อนไว้ด้านหลัง
“ผมมาขอข้าวเรือนคุณย่ากินครับ อยากกินฝืมือ...”
ทานตะวันสวนคำทันที “ฝีมือยัยติ๋ว พี่เทิดศักดิ์นี่ก็อีกคน ไม่แคล้วหลงรักยัยคนนี้เข้าให้แล้ว”
“พี่หลงรักเด็กดีๆ ดีกว่าหลงรักเด็กชั่วร้าย เอาแต่ใจตัว เนื้อทองพี่มีดอกไม้มาให้คนสอบได้ที่ 1 อีกแล้ว”
พวกผู้ใหญ่นิ่งเงียบพูดไม่ออก เนื้อทองไม่กล้ารับ เนียนใจคอไม่ดี ทองจันทร์จึงเลยตามเลย
“มัวรีๆ รอๆ ทำไม เข้าให้ก็รับสิ เนื้อทอง”
เสียงตะโกนดังมาจากนอกเรือน เป็นเสียงทานตะวัน
“ยังขาดคุณแม่อีกคน จะประเคนอะไรให้ก็รีบๆ สิคะ”

ทุกคนส่ายหน้าเอือมเหลือล้น เนื้อทองมือสั่นขณะรับดอกไม้จากเทิดศักดิ์
ทานตะวันวิ่งแจ้นมาฟ้องสนถึงเรือนเล็ก สนแอบเบือนหน้ายิ้มเยาะทานตะวันคิดในใจ

“สมน้ำหน้า เอ็งมันเด็กชั่วร้าย นิสัยเลวเหมือนอีช้อยไม่มีผิด”
คิดแล้วก็หันมายิ้มหวานเอามือเชยคางทานตะวัน
“โถๆๆๆๆ แม่สนฟังแล้วอยากจะไปตบหน้าอีเนียนกับอีเด็กติ๋วให้หน้าหันเป็นหมูย่าง คุณแม่เรียมของหนูก็กระไรเลย ลูกตัวเองแท้ๆ กลับไม่เข้าข้าง ไปเห็นดีเห็นงามไปตามพวกอีเนียน คุณย่าก็อีกคนทนดูได้ยังไง”
“พี่เทิดศักดิ์ก็เป็นไปกับเขาด้วยค่ะ พี่เทิดศักดิ์อยากเป็นคู่รักของอีเด็กติ๋ว เอาดอกไม้ไปให้มันหลัดๆ นี่เองค่ะ”
“ต๊าย อกอีแป้นจะแตก ช่างเป็นไผ่ลอดกอซะจริงๆ แม่สนต้องจัดการทำอะไรสักอย่าง”
“ทำเถิดค่ะ แม่สน หนูอี๊ดเสียหน้ามาก อีเด็กติ๋วมันหยามหนูอี๊ด หนูอี๊ดเกลียดมาก แค้นมาก”
“หนูอี๊ด แค้นมันเกลียดมันขนาดไหนคะ”
“เกลียดจนไม่อยากให้มันอยู่ร่วมบ้าน ร่วมโรงเรียน”
“หนูอี๊ดพูดถูก มันกับแม่มันน่าขยะแขยงมาก หนูอี๊ดรู้ไหมว่าอีเนียนมันเคยมาหลอกคุณพ่อว่าเป็นสาวบริสุทธิ์ ทั้งที่มันมีลูกแล้ว”
“ตายจริง งามหน้าแท้ๆ แล้วยังไงอีกคะ”
“พอมันได้เป็นเมียคุณพ่อ มันก็มีชู้ จนมีลูกเป็นเด็กติ๋ว”
“เลวมาก ขนาดนี้แล้วทำไมคุณพ่อไม่เฉดหัวมันออกไปจากบ้านเล่าคะ”
“มันทำเสน่ห์ค่ะ”
“ตายจริง เอ้อ...แล้วลูกมันอีกคน ที่มีมาก่อนมันไปไหนแล้วคะ”
“นี่แหละที่แม่สนกลัวว่ามันจะย้อนกลับมาสมคบกันกับอีเนียนอีเด็กติ๋ว มาทำร้ายพวกเรา”
ทานตะวันตกใจมาก
“ตายจริง แล้วทำไมเราไม่ทำอะไรกับมันก่อนที่มันจะมาทำกับเราค่ะ แม่สน”
“เราต้องระวังให้ดี เพราะชู้ของอีเนียนมันคือไอ้เสือปล้นฆ่าดุร้ายมาก”
“น่ากลัวมากค่ะ”
“มันชื่อไอ้เสือหนัก”
ทานตะวันตกอกตกใจมาก ส่วนสนแอบสะใจ

ทางด้านหนักโอบบ่าแดงน้อย มองอย่างภาคภูมิใจ
“อีกไม่กี่ปีก็กลายเป็นนายร้อยห้อยกระบี่แล้วหลานลุง”
“ลุงชอบไหมครับ ที่ผมอยากเป็นตำรวจ”
หนักแอบถอนใจ “ชอบสิ ชอบมาก หลานคงเป็นข้าหลวงที่ดี”
“ผมจะพิทักษ์สันติราษฎร์ให้ดีที่สุด ผมจะปราบโจรผู้ร้ายให้ราบคาบไอ้เสือไหนที่ว่าร้ายนักร้ายหนาผมจะตามราวีมันให้ถึงที่สุด”
หนักแอบถอนใจ “ถ้ามีตำรวจสักคน ที่พ่อหรือพี่น้องเขาเป็นตำรวจ เขาจะกล้าจับไอ้เสือคนนั้นไหมหนอ แดงน้อยว่ายังไง”
“คนอื่นผมไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นผม ผมต้องจับเพราะเกิดมาเป็นคนไทย ต้องเคารพกฎหมายครับ แม้ว่าจะต้องขมขื่นข่มใจจับคนคนนั้นผมก็ไม่อาจจละเว้น ลุงเห็นด้วยไหมครับ”
“เห็นด้วยที่สุด เอ้อ เพื่อนคนนั้น เทิดศักดิ์ เป็นอย่างไรบ้าง เขาเรียนอะไรรึ”
“รัฐศาสตร์จุฬาครับลุง เขาต้องการเป็นนักปกครอง เขาบอกว่าอยากเป็นปลัดอำเภอเดียวกับที่ผมเป็นตำรวจ จะช่วยกันจับผู้ร้าย ที่ชื่อไอ้เสือหนักที่มันคลาดแคล้วมาเกือบจะยี่สิบปี แต่มันยังก่อเหตุอยู่เนืองๆ”
หนักสะดุ้งกระสับกระส่ายนิดหนึ่ง
“บอกเขาว่าลุงขออวยพรให้เรียนจบด้วยดี และได้ทำสิ่งที่เขาตั้งใจไว้”
“ลุงคงชอบเขามากจริงๆ ด้วย ขนาดไม่ได้พบกันเป็นสิบกว่าปี แล้วลุงถามหาเขาทุกครั้งที่พบผม ถ้าลุงอยากเจอเขา ผมจะชวนเขา กับน้องสาวมาทานอาหารที่ร้านของเรา ตกลงไหมครับ”
หนักนิ่งไปใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“ลุงขอคิดดูก่อน”
“เขาเองก็เคารพชื่นชมลุงมากนะครับ ถามถึงลุงเสมอ”
“ตกลง”
หนักตัดสินใจเพราะอยากเจอลูก

เทิดศักดิ์ซึ่งเวลานี้กลายเป็นนิสิตจุฬาฯเรียนคณะรัฐสาสตร์ กำลังไหว้นฤมลขณะมารับสองสาว
“สวัสดีครับ คุรับคุณป้านฤมล”
“สวัสดีจ้ะเทิดศักดิ์ แหมใส่ชุดนิสิตโก้จริงๆ นะ มารอน้องสาวรึ”
“ครับ คุณป้า ผมจะขออนุญาตคุณป้าพาน้องไปดูรับประทานอาหารที่ร้านเพื่อนสนิทของผม แล้วก็ขอไปดูหนังกันต่อน่ะครับ”
“ไม่มีปัญหาจ้ะ อย่ากลับมาดึกเกินไป แม้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันหยุด”
“รับรองครับ”
“เนื้อทองเขากำลังมุอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าคุรุศาสตร์จ้ะ”
“ผมทราบครับ น้องเขาบอกผมแล้ว” สีหน้าเทิดศักดิ์ดูกระชุ่มกระชวย กระฉับกระเฉงมาก

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/2 วันที่ 10 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager