อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 2 วันที่ 10 เม.ย. 56
“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...มีคนผสมยานอนหลับให้สมสุขกิน...ก่อนที่จะยิงเขาจากด้านหลัง” ภูวนัยวิเคราะห์กับชาติกล้าที่มาตามเขา ชาติกล้าคาดว่าคนที่อยู่กับสมสุขอาจจะเป็นฆาตกร “ฉันยังไม่อยากจะคิดอย่างนั้น มันจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ แล้วว่าไง แกมาตามฉันทำไม”ชาติกล้ามาตามภูวนัยไปพบผู้กำกับมารุตให้ไปรับทราบคำสั่งพักราชการของเขา ทั้งยังตั้งข้อสงสัยที่ร้ายแรงว่า
“ผมสงสัยว่าคุณจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด...ในระหว่างที่เราทำการสืบสวนความจริง... ผม...จำเป็นต้องทำอย่างนี้”
เมื่อออกมาเจอชาติกล้า ภูวนัยพูดอย่างเจ็บลึกว่า “ความจริงก็คือความจริง สักวันมันจะปรากฏออกมา”
และผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้มาเป็นหัวหน้าหน่วยแทนหมวดภูวนัย คือ หมวดชาติกล้านั่นเอง
ooooooo
หลังจากเสี่ยสมสุขตาย พายัพไปแสดงความเสียใจกับหยาดฟ้าภรรยาของเสี่ยที่ศาลาสวดศพ หยาดฟ้าถามอย่างเย็นชาว่าเสียใจเรื่องอะไร เมื่อพายัพทำเป็นงง หยาดฟ้าพูดตรงๆว่า อยากได้ส่วนแบ่งของตนสองร้อยล้าน
พายัพถ่วงเวลาว่าไว้เราค่อยคุยกัน หยาดฟ้าพูดขึงขังว่าตนคุยกับทนายแล้ว สามีตนทำพินัยกรรมไว้ ถ้าตนสงสัยในการตายของสามีก็ขอให้เอาข้อมูลไปให้ตำรวจ พายัพยิ้มเยาะบอกว่าข้อมูลที่เสี่ยบอกอยู่กับตนหมดแล้ว
“แกคิดว่าสามีฉันจะโง่รึไง ข้อมูลนั้นไม่ได้มีที่แกคนเดียวหรอกนะ” หยาดฟ้าพูดอย่างเป็นต่อ ทำเอาพายัพอึ้ง แต่หยาดฟ้าก็บอกว่า “ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสามีฉันเขาเก็บไอ้ข้อมูลนั่นไว้ที่ไหน แต่ที่แน่ๆ ข้อมูลสำคัญขนาดนั้น เขาคงจะเก็บติดตัวตลอดเวลา”
พายัพออกมาที่ลานจอดรถ พอดีมีสายเข้ามือถือ เขาดูเบอร์ก่อนกดรับ พูดอย่างร้อนใจว่า
“ฉันว่าเราสองคนกำลังเดือดร้อน ไอ้สมสุขมันก๊อบปี้ข้อมูลไว้อีกชุด...แล้วฉันจะรู้ไหม!...ฉันอยากให้เรื่องนี้รู้แค่เราสองคน...อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” พูดเสร็จก็กดวางสายอย่างหัวเสีย พลันก็นึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นเสี่ยใส่สร้อยทอง แต่ตอนพบศพไม่เห็นสร้อยเส้นนั้นแล้ว พายัพจิกตาร้ายเมื่อฉุกคิดได้ว่า สร้อยเส้นนั้นเองที่เป็นตัวเก็บข้อมูล!
ooooooo
ไผ่ร้อนใจไปหาขิงกับกระดังงาที่ห้องเช่า เล่าเรื่องเสี่ยสมสุขถูกยิงตาย ถามว่าตนจะทำอย่างไรดี ขิงปลอบใจว่าไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นหรอก กระดังงาแนะว่าไม่ต้องทำอะไร คิดเสียว่าสิ่งที่เพิ่งเห็นมาเป็นฝันร้าย พรุ่งนี้ตื่นมาก็ทำตัวปกติ
แต่ความจริงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะมีเพื่อนโคโยตี้ที่ดิออร์แกนรู้ว่าคืนนั้นไผ่ไปกับเสี่ย กระดังงาบอกไผ่ว่าเมื่อมีคนรู้แบบนี้ให้เตรียมคำตอบไว้หน่อยก็ดี พอดีโสภีให้ลูกน้องมาตามไผ่ไปพบ ทั้งสามสบตากันอย่างหนักใจ
“เมื่อคืนแกทำอะไรเสี่ย” โสภีถามทันทีที่เห็นหน้า ไผ่บอกว่าตนไม่ได้ทำอะไร “ไม่ใช่ว่าแกไม่ยอมเสี่ย แล้วแกโมโหที่เสี่ยเขาจะปล้ำแก ก็เลยหันไปคว้าปืนมายิงเสี่ยเขานะ”
เมื่อไผ่ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ เพราะถ้าทำป่านนี้เจ๊ไม่ได้เห็นหน้าตนแล้ว โสภีทิ้งตัวนั่งอย่างโล่งอก ไผ่ถามว่า
“เจ๊กลุ้มเรื่องอะไรหรือ”
“ไม่กลุ้มได้ไง แกไม่รู้เหรอว่าเสี่ยเขาเป็นใคร แกคิดว่าพวกลูกน้องของเสี่ยจะเอาไอ้คนที่ทำลูกพี่มันไว้ไหมล่ะ แต่แกไม่ได้ทำก็ดีแล้ว เออ...แล้วแกรู้ไหมว่าใครทำ” ไผ่ตอบตาใสว่าตนจะไปรู้ได้ไง “นั่นซิ แต่แกไม่รู้ก็ถือว่าแกโชคดีแล้ว เพราะถ้าไอ้พวกนั้นมันคิดว่าแกรู้ละก็...พวกมันไม่ปล่อยแกไว้แน่”
ไผ่ฟังแล้วเสียวสันหลังวาบ...
พายัพไปขู่ไผ่ถึงดิออร์แกน ไผ่เห็นพายัพก็ไม่เป็นอันเต้น บอกกระดังงาว่าพายัพเป็นคนฆ่าเสี่ย แล้วเลี่ยงลงเวทีไป พายัพให้โสภีเรียกไผ่ไปคุยส่วนตัว หาว่าเธอเป็นคนขโมยสร้อยของเสี่ยไปให้เอามาคืนเสียดีๆ ไผ่ปฏิเสธว่าตนไม่ได้เอาไป พายัพจึงให้คนไปทำร้ายลำไยบอกให้เอาสร้อยมาคืน
เมื่อลำไยไม่รู้เรื่องก็ถูกทุบตีทำลายข้าวของในบ้านยับเยิน เมื่อไผ่กลับถึงบ้าน ลำไยถามว่าเอาสร้อยไป
จริงหรือเปล่า ไผ่ปากแข็งว่าตนไม่ได้เอาไปจริงๆ
“จริงนะ...เพราะพวกมันบอกว่า ถ้าแกยังไม่เอาสร้อยให้มัน มันจะกลับมาฆ่าเราสองคน!”
ไผ่แทบจะบ้า ไม่รู้จะทำอย่างไร คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะบานปลายถึงขนาดนี้
ooooooo
เมื่อถูกสั่งพักราชการ ภูวนัยจึงไปที่ฟาร์มสุข บอกพรรษาว่า ตนลาพักร้อนคงได้อยู่ดูแลฟาร์มมากขึ้น
นับแต่เกิดเรื่องกับครูที่โรงเรียนจนถูกไล่ออก ม่านหมอกเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เธอเตรียมกระเป๋าจะหนีออกจากบ้าน เดินลงมาได้ยินเสียงภูวนัยพูดกับรูปของลักขณาและสมภพพ่อแม่ของเธอว่า
“พี่ครับ...พี่คงจะโกรธผมมากใช่ไหมครับ แกสองคนเคยเป็นเด็กน่ารัก ผมผิดเอง ที่ทำให้พวกแกเป็นอย่างนี้... พี่...ผม...ผมขอโทษ”
ม่านหมอกนิ่งไปนิดหนึ่งแล้วตัดสินใจเดินไป ภูวนัยได้ยินเสียงหันมอง ถามว่าจะไปไหน ม่านหมอกทำหูทวนลม เขาจึงเดินไปขวางถามว่า “เก็บเสื้อผ้าจะไปไหน”
“ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่...นี่ไม่ใช่บ้านของหนู” ภูวนัยบอกว่าที่นี่เป็นบ้านของเรา “ไม่ใช่...บ้านมันต้องมีพ่อ มีแม่ มันถึงจะเรียกว่าบ้าน” ภูวนัยขู่ว่า รู้ไหมว่าแค่เธอเดินพ้นฟาร์มไปอาจจะเป็นศพก็ได้ ม่านหมอกจ้องหน้าถามว่า “รู้ไหมว่าทำไมหนูถึงไม่อยากอยู่ที่นี่ เพราะหนู...ไม่อยากอยู่กับฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่หนู!”
ม่านหมอกเดินไปอย่างเด็ดเดี่ยว ภูวนัยจึงเรียกแก้วใจให้เอาตัวม่านหมอกขึ้นไปบนห้องและห้ามออกจากฟาร์มนี่เด็ดขาด ม่านหมอกทั้งดิ้นทั้งโวยวาย แต่ในที่สุดก็ถูกแก้วใจเอาตัวขึ้นไปจนได้ ภูวนัยเองก็เสียใจที่ต้องทำกับหลานอย่างนี้
ปลายฟ้าอ่านข่าวหนังสือพิมพ์เรื่องพ่อค้ายาเสพติดถูกฆ่า เธอเชื่อว่าภูวนัยไม่ได้ทำ เมื่อมาคุยกัน เธอถามว่า แล้วเขาจะอยู่ที่นี่อีกนานไหม
“ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ดีนะ ฉันจะได้มีเวลากับครอบครัว แล้วก็พวกเด็กๆ...ฟ้า...ฟ้ามีเพื่อนที่เป็นครูบ้างไหม”
ปลายฟ้าแปลกใจที่จู่ๆภูวนัยก็ถามเรื่องครูขึ้นมา
ooooooo
ไผ่ไปปรึกษากับขิงและกระดังงาว่าจะทำอย่างไรดี ขิงบอกให้หนีไปอยู่ที่อื่นสักพักดีกว่า กระดังงารับปากว่าจะดูแลแม่ให้ รอให้อะไรๆดีขึ้นแล้วค่อยกลับ
ในที่สุด ไผ่พญาก็ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า...
หิ้วกระเป๋าขึ้นรถทัวร์ นั่งถอนใจเฮือกๆ ไม่รู้ชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ป้าคนหนึ่งนั่งติดกันเห็นไผ่ถอนใจก็สอนโยคะให้คลายเครียด ไผ่ไม่มีใจจะทำก็บังคับ “วางกระเป๋า แล้วทำตามฉัน!” ไผ่จำต้องทำตามทั้งที่ไม่มีใจเลยสักนิดเดียว
นั่งรถไปได้ไม่นานก็เจอด่านตรวจ ตำรวจขึ้นรถมาประกาศให้ทุกคนเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนให้ตรวจด้วย ไผ่ใจไม่อยู่กับตัว พอตำรวจขึ้นมาตรวจ ป้าคนนั้นบอกตำรวจว่า ผู้หญิงที่นั่งข้างๆตนดูน่าสงสัยพิกล พอตำรวจมองไปปรากฏว่าไผ่หายไปแล้ว
“เห็นเดินไปด้านหลัง...ฉันคิดว่าต้องหลบอยู่ในห้องน้ำแน่ๆเลยค่ะ” ป้าชี้เบาะแส สารวัตรตรงดิ่งไปห้องน้ำทันที
ไผ่ถูกตำรวจเรียกตัวไปตรวจสอบอย่างเข้มงวด สั่งให้เอาบัตรประชาชนให้ดู ไผ่ชะงักเพราะถ้าดูบัตรประชาชนมีหวังโดนแน่ๆเลย โกหกว่าบัตรอยู่ก้นกระเป๋าเอายาก เสนอว่าถ้าไม่เชื่อ ตนจะร้องเพลงชาติให้ฟัง ตำรวจไม่เอาบอกให้ร้องเพลง “ย้ำ” ของบอดี้แสลม ไผ่ก็ร้องได้
ตำรวจให้ไผ่ร้องเพลงอะไร ไผ่ร้องได้หมด ไผ่ร้องเพลงแล้วเพลงเล่าราวกับเพลงตามคำขอ จนเหมือนเปิดคอนเสิร์ตเล็กๆกลางถนน จนรถสิบล้อคันหนึ่งดูเพลิน ชนรถทัวร์เข้าอย่างจังเกิดความโกลาหลขึ้นทันที ไผ่ฉวยโอกาสนั้นคว้ากระเป๋าโกยแน่บไปเลย
ooooooo
พอวิ่งหนีพ้นแล้ว ไผ่เดินเหงื่อแตกเต็มหน้า ทั้งร้อนทั้งหิว เข้าร้านไปซื้อของ ปรากฏว่าหาเงินไม่เจอ เลยบอกคนขายว่าไม่เอาแล้ว กัดฟันเดินต่อไป มองไปข้างหน้าเห็นถนนที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุดก็ยิ่งท้อใจ จนถึงปั๊มน้ำมันก็นั่งพัก รื้อกระเป๋าหาเงิน จึงรู้ว่าไม่ใช่กระเป๋าของตัวเอง แต่เป็นของป้าคนนั้นที่ตนหนีตำรวจเลยคว้าผิดมา!
แต่ความหิวทำให้ไผ่ตัดสินใจเข้าไปในร้านขายข้าวขาหมู สั่งเฮียคนขายว่า
“ข้าวจานเฮีย...เนื้อๆนะเฮีย” สั่งแล้วมองหาที่นั่ง เหลือที่เดียวมีชายหนุ่มนั่งกินอยู่ เลยเดินเข้าไปขอนั่งด้วย
ชายคนนั้นคือภูวนัยนั่นเอง เขามานั่งรอรับครูที่จะมาสอนเด็กที่นัดพบกันวันนี้
ไผ่ตีซี้เข้าไปทัก “ไอ้ยอด” ถามว่าจำกันไม่ได้หรือ ทำตัวเหมือนแฟนกัน แต่พอภูวนัยบอกว่าเธอจำคนผิด ไผ่ก็ทำหน้าตายขอนั่งด้วยคนก็แล้วกัน
อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 2 วันที่ 10 เม.ย. 56
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็งคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ