อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 10 วันที่ 15 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 10 วันที่ 15 เม.ย. 56

ข้างๆ เป็นแดงน้อยกับเทิดศักดิ์โดนมัดเอามือไพล่หลังไว้ที่โคนต้นไม้ จ้องแบบไม่ละสายตา หนักไม่ได้พูดจาอะไรกับสองคนทั้งสิ้น สองคนกระซิบกัน
“แดงน้อย กันไม่เข้าใจว่าเสือหนักจับเรามามัดเพื่อเป็นตัวประกันหนีคุณพ่อ หรือว่าจับเรามานั่งจ้องหน้าเอาจ้องหน้าเอากันแน่”
“กันก็แปลกใจอยู่นี่แหละ ว่าทำไมเสือหนักไม่ข่มขู่ดุร้ายใส่เราสองคน ดังคำร่ำลือ”
หนักเอ่ยขึ้น “เอาเหล้ามาสิ”

สองคนมองหน้ากันว่าเสือร้ายชื่อก้องมันจะทำอะไรตัวเองหรือ สักครู่เห็นเสน่ห์เอาเหล้ามา หนักแกะผ้าที่พันแผลออก เอาเหล้ามาดื่มอั้กๆ แล้วเอาเหล้าที่เหลือราดลงบนแผล มีสีหน้าเจ็บปวดมากแต่ทนไว้


เสน่ห์ส่งมีดมาให้หนักรับมีดมากรีดลงบนแผล สองหนุ่มน้อยมีสีหน้าหวาดเสียวมาก
แผลของหนักเหวอะหวะเลือดไหลย้อย หนักเอามีดชอนไชกลั้นความเจ็บปวด ครู่เดียวหนักยกมีดขึ้นมา เห็นกระสุนปืนของตำรวจอยู่บนปลายมีด หนักก้มลงไปเอาปากคาบ แล้วพ่นกระสุนออกไปแรงๆ กระสุนกระเด็นไปไกล หนักเอาเหล้าราดลงไปที่แผลอีก เสียงหนักครางด้วยความเจ็บปวด
หนักมองจ้องลูกและหลานที่ดูออกว่ากลัวมาก
“กลัวหรือ จะเป็นตำรวจจะเป็นปลัดอำเภอ ขืนกลัวโจรจะตายก่อนปราบโจรสำเร็จ จำไว้”
หนักพูดคล้ายอบรม จนสองคนมองหน้ากันแปลกใจอีก
เสน่ห์ฉีกผ้ามาพันแผลให้หนัก ที่ยังไม่ยอมละสายตาไปจากสองคน บางครั้งเงยหน้าแหงนขึ้นไปมองดวงจันทร์บนท้องฟ้า หนักมองหน้าสองคนถอนใจเฮือกๆ
สองคนสบตากันแดงน้อยกระซิบ
“ถามเสือหนักสิ เทิดศักดิ์”
“แกจะถามก่อนหรือจะให้กันถามก่อน”
หนักได้ยิน ชี้มาที่เทิดศักดิ์แล้วสั่ง
“ถาม”
เทิดศักดิ์อึ้งไปเลย
หนักย้ำอีก
“ถามสิ”

ฟากขุนภักดีและกำลังตำรวจ รวมทั้งเอก ถึงท่าน้ำโรงพยาบาลแล้ว เรือแล่นมาจอดท่าน้ำ เพื่อนตำรวจพาตำรวจที่บาดเจ็บลงจากเรือ
“ไปไหนต่อขอรับ ท่านขุน” เอกถาม
ขุนภักดีคั่งแค้น รู้สึกว่าเสียเหลี่ยมมาก
“ยังมีหน้ามาถามตอกย้ำความอับอาย มันให้ไปรอรับสองคนที่บ้าน”
“ได้ขอรับ เอ้อ...ท่านขุนอย่ากังวลไปเลยขอรับ เสือหนักไม่ทำอะไรคุณเทิดศักดิ์ดอกขอรับ”
“แกเป็นพ่อเป็นโคตรเหง้าศักราชมันรึ ถึงรู้หัวจิตหัวใจมัน”
เอกบอก “ถ้ามันทำ มันทำไปแล้วขอรับ”
“แค่นั้นรึ แกมีเหตุผลอะไรมารับรองว่ามันจะไม่ทำร้ายลูกชายฉัน”
เอกอึ้งไป คิดแล้วบอกออกไปตามคิด
“มันเลิกปล้นฆ่ามานานมากแล้วนะขอรับ มันอาจตั้งใจไปบวชจริงๆ การบวชอาจทำให้มันจิตใจหายอำมหิตได้ อีกประการ มันแค่หวังรอดจากการจับกุมน่ะขอรับ”
ท่านขุนเงื้อตะพด
“เดี๋ยวพ่อฟาดหัวหูแตก แกไม่ยอมห่วงลูกชั้น แถมยังไปเห็นใจไอ้คนอำมหิตนั่นอีก”
ท่านขุนเหวี่ยงตะพดลงน้ำ เอกกระโดดไปรับไว้ทัน เรือเอียงวูบ

ส่วนเทิดศักดิ์ตัดสินใจถามหนัก
“ทำไมถึงอยากเป็นโจรปล้นฆ่าชีวิตผู้อื่น ไม่เกรงกลัวบาปหรือ”
“ความจำเป็นของคนเราไม่เหมือนกัน แต่สักวัน ความจริงจะเปิดเผยว่าทำไม แล้วคุณจะได้คำตอบ”
“วันไหนหรือ” เทิดศักดิ์ฉงน
“วันที่ ชีวิตไอ้เสือหนักหาไม่แล้ว อีกไม่นานดอก”
“รู้ด้วยหรือว่าจะตายวันไหน ใครจะเป็นคนเปิดเผยในเมื่อความลับติดอยู่กับเสือหนัก” เทิดศักดิ์ซักต่อ
“ความลับไม่มีในโลก ความลับนี้มีคนรู้หลายคน เพียงแต่เขาไม่เอ่ยออกมาเพราะต้องการปกป้องอีกหลายคนหลายชีวิต”
หนักไม่รอให้เทิดศักดิ์ถามต่อชี้ไปที่แดงน้อย
“จะถามไหม”
“อยากรู้ว่าเสือหนัก เอาเงินที่ปล้นฆ่ามากมายไปไว้ที่ไหน”
หนักมองหน้าแดงน้อยน้ำตาแทบร่วง “เอาไปใช้ในสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับชีวิตของคนอีกหลายคน”
“ลูกเมียเสือหนักหรือ”
“ฉันไม่มีเมีย”
“แปลว่ามีลูก”
หนักไม่ตอบคำถามนี้ของแดงน้อย แต่กลับถาม
“ถ้าก่อไฟแล้วมันจะไหม้บ้าน จะโยนฟืนใส่กองไฟต่อ รึว่าจะดึงฟืนที่อยู่ในกองไฟออก”
สองหนุ่มน้อยมองหน้ากัน
“เอากลับไปคิด สำหรับดำเนินชีวิตในภายภาคหน้า”

เทิดศักดิ์และแดงน้อยมองหน้ากันอีกในคำพูดอันแสนคมคายของหนัก ที่เหมือนอบรมสั่งสอนพวกตน
สักครู่หนึ่งหนักเดินมาใกล้ชิดสองคน มองจ้องหน้าเหมือนอาลัยอาวรณ์เหลือแสน หากสังเกตก็จะว่ามีน้ำตาซึม คลอเบ้าตายเสือร้าย

“พบกันครั้งต่อไป ไม่ต้องยั้งมือ ทำตามกฎหมายที่มีไว้ให้จับคนทำผิดแม้ว่าคนทำผิดนั่นสำคัญอย่างไรกับตนเองก็ละเว้นไม่ได้ เพราะบ้านเมืองต้องมาก่อน”
สองคนมองหน้ากันอีก มองหน้าหนักสงสัยแปลกใจมาก
“ใกล้รุ่งแล้ว กลับไปหาพ่อหาแม่เถิด”
หนักก้มลงเอามือตัดเชือกที่มัดสองคน จากนั้นหันกลับ น้ำตาไหลพรากเต็มสองตา
เทิดศักดิ์และแดงน้อยมองหนัก เห็นร่างสูงใหญ่ แกร่งกำยำของหนักเดินหายจากใปในความมืด มีเสน่ห์หอบของวิ่งตาม
“นี่หรือเสือหนัก”
สองหนุ่มมองหน้ากันงวยงง

ฟากเนียนกับติ๋วตื่นแต่เช้ามืดกำลังทำข้าวต้ม
“อย่าเพิ่งยกข้าวต้มลงนะลูก คุณท่านฟันไม่ค่อยจะดีแล้ว เคี่ยวอีกนิด”
“จ้ะแม่เนียน แม่เนียนจ๋า เมื่อคืนนี้หนูนอนหลับฝันดีมากจ้ะ ตื่นมายิ่งมีความสุข เพราะแม่นอนกอดหนูไว้”
“ทั้งคืนเลยจ้ะ ลูกรัก”
เนียนยิ้มให้ลูก ระหว่างนั้นกบกับแมววิ่งกันเอะอะโครมครามเข้ามา
“เกิดเรื่องใหญ่โตมโหระทึกแล้ว”
“คุณเทิดศักดิ์กับเพื่อนชื่อคุณแดงน้อยโดนเสือหนักจับตัวไว้”
เนียนกับเนื้อทองตกใจมาก
“ไม่นะ ไม่”
“โธ่ คุณเทิดศักดิ๋ พี่แดงน้อย” เนื้อทองคราง
แต่แล้วเนียนก็เกิดนึกได้ว่า หนักไม่มีทางทำอะไรแดงน้อยแน่ แต่เนียนก็ประสาทเสีย
“รู้ได้อย่างไรกบแมว”
“ไปดูที่ท่าน้ำสิ ท่านขุนกับนายเอกกลับมาตามลำพัง คุณท่านกับคุณนายเรียมกำลังร้องไห้ กันใหญ่” แมวบอก
เนื้อทองรีบดึงแขนเนียนออกไป
“เอ้อ..เราไม่ควรไปปรากฏตัวให้ทุกคนไม่สบายใจนะลูก”
“อ้าว” กบงง
“ไม่อยากรู้เรื่องไม่ตื่นเต้นดอกรึ”
“กบกับแมวไปเถิด ฉันกับหนูติ๋วจะตามไปทีหลัง”
สองคนพากันออกไป เนื้อทองมองแม่
“แม่รับรองว่า เสือหนักไม่ทำอะไรพี่แดงน้อยคนนั้นกับคุณเทิดศักดิ๋ดอก”
“ทำไมแม่เนียนมั่นใจอย่างนั้น”
“เพราะ เพราะ ..เชื่อแม่สักครั้งเถิด”
“แต่หนูก็ยังอยากรู้ เราไปดูแต่อยู่ห่างๆ พวกเขานะจ๊ะ”
เนียนพยักหน้า

ทุกคนคณะใหญ่อยู่ที่ท่าน้ำ ขุนภักดีปลอบโยนทองจันทร์ที่เอาแต่ร้องไห้ มีเรียมช่วยโอบประคองอยู่อีกด้าน สนยืนหน้าเครียดมีช้อยปะกบข้างๆ มีทานตะวันมายืนใกล้สน แทนที่จะใกล้แม่ตัวเอง
เอกยืนสงบนิ่งถอนใจเฮือกๆ แทน กบ แมว และคนรับใช้อื่นๆ ยืนซุบซิบไปมา
“คุณแม่ขา ขอให้มันทำตามสัญญา ปล่อยสองคนนั่นมาเถิดค่ะ” เรียมว่า
“แม่ไม่เชื่อดอกว่าคนโฉดชั่วอย่างมันจะไม่ตระบัดสัตย์ พ่อเทพ น่าจะยิงมันให้ตายซะ”
“มันเสี่ยงมากครับ ยิงมันอาจโดนลูกเทิดศักดิ์ ยังมีแดงน้อยอีกคน”
“ทำไมพี่ขุนไม่ให้มันจับนายแดงน้อยเอาไว้คนเดียว ปล่อยให้มันเอาลูกเทิดศักดิ๋ไปได้ยังไงกัน”
ทานตะวันออกอาการไม่พอใจสนเป็นครั้งแรก
“อ้าวแม่สนพูดแบบนั้นได้ยังไงกันคะ”
เรียมเข้าข้างทานตะวัน “แดงน้อยเขาก็มีพ่อมีแม่เหมือนเรานะจ้ะ แม่สน”
ช้อยกับสนสบตากัน ช้อยกระซิบ
“ถ้ามันเกิดฆ่าคุณเทิดศักดิ์ละก้อ ช้อยไม่กล้าคิดต่อแล้วค่ะ”
สนตบปากช้อยโดยแรง
“แล้วแกพูดออกมาทำไม ฉันจะกำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ถึงเขาจะขัดคอฉันไม่เข้าฉันบ้าง แต่ฉันก็รักของฉัน ลูกฉันทั้งคน”
สนเลยร้องโฮๆๆ แข่งกับทองจันทร์
“เทิดศักดิ์หลานย่า โฮๆๆ” / “เทิดศักดิ์ลูกแม่ โฮๆๆๆ”
ช้อยเหลือบไปเห็นเนียนกับเนื้อทองมาแอบมอง สะกิดสนชี้ไป เห็นว่าเนียนกับลูกมายืนหลบดูอยู่ห่างๆ
ช้อยร้องขึ้น “ตัวต้นเหตุมาแอบดูนั่นค่ะ”
สนโวยลั่น
“พี่ขุนขา อีเนียนมันมาสาแก่ใจที่ไอ้เสือหนักจะฆ่าลูกสน ดูหน้ามันสิคะ ไม่ทุกข์ไม่ร้อน เผลอๆ มันนั่นแหละเป็นคนวางแผนเรื่องนี้”
ทุกคนมองไปที่เนียนกับเนื้อทองเป็นตาเดียว
“นางแพศยา”
ขุนภักดีปราดออกไป เรียมตะโกนห้าม
“อย่าค่ะ พี่เทพ”
เอกก็ห้าม “อย่าขอรับท่านขุน”
สนวิ่งไปอีกทางเช่นกัน

“ฉันจะไปเอาแส้ม้า”
เนียนกับลูกยืนตกใจที่เห็นขุนภักดีพรวดเข้ามาหา

“แม่เนียน เขาวิ่งมาเหมือนจะมาทำร้ายแม่เนียน”
“เขากำลังเข้าใจผิดอีกแล้ว”
“หนูไม่ยอม”
เนื้อทองกางกั้นแม่เอาไว้ ขุนภักดีปราดมาถึง
“หลีกไปนะ”
เนื้อทองยกมือพนม “แม่หนูผิดอะไรคะ”
“ผิดสิ แม่เอ็งนั่นแหละวางแผนให้ลูกชายฉันโดนจับตัวไว้”
ช้อยรีบสอพลอ “แอบนัดกันไว้แน่ๆ เจ้าค่ะ”
เรียมฉุน “ช้อย แกเริ่มก่อกองไฟไว้กลางบ้านฉันอีกแล้วนะ”
ขุนภักดีตวาด “เงียบทุกคน เอาเด็กนี่ออกไปให้พ้นแม่มัน ลากแม่มันมาโยงไว้กับต้นไม้คู่บาปของมัน”
“อย่านะคะ พี่เทพ เรื่องนี้มันคนละเรื่องกันแท้ๆ พี่เทพอย่าเอามาโยงกันสิคะ”
“จะไม่ให้โยงกันได้ยังไงคะ ก็ในเมื่อไอ้เสือหนักมันคือพ่อของเด็กติ๋ว” ทานตะวันแหลมขึ้น
“หนูอี๊ดหยุดนะ” เรียมขึ้นเสียง
แม้ขุนภักดีชะงักกับคำพูดของเนื้อทองนิดหนึ่ง แต่ดึงดันต่อ
“ใครไปเอาแส้ม้ามาทีสิ”
สนวิ่งแจ้นกลับมาถึง ยื่นแส้ม้าให้ทันทีทันใด
ทานตะวันกับช้อยเข้าไปกระชากเนื้อทองออกมาจากเนียน แทนกับสนปราดมาดึงเนียน
“อย่า อย่าบอกว่าอย่านะ”
เนียนยกมือห้ามสนกับแทน “ไม่ต้องมาฉุดกระชากลากฉันดอก ฉันก็แค่เศษสวะที่บ้านนี้ ยอมให้โบยแต่โดยดี เชิญสิเจ้าคะ ท่านขุน โบยอีเนียนแพศยาคนนี้ให้สาแก่ใจ ให้ตายคามือก็ย่อมได้ ชีวิตอีเนียนอยู่ในกำมือท่านขุนนี่เจ้าคะ”
เนียนนอนหมอบลงไปกับพื้น หันมาเชื้อเชิญให้ขุนภักดีโบย
ขุนภักดีผู้หูเบาชะงักกับคำพูดของเนียนที่บาดหัวใจยิ่งนัก
“มันท้าทายพี่ขุนค่ะ” สนรีบยุส่ง
เนื้อทองน้ำตานองหน้า ร่ำร้องอ้อนวอน
“อย่าโบยแม่หนู ปล่อยหนูนะ”
เรียมน้ำตาไหลพราก
“พี่เทพอย่าทำเวรทำกรรมกับเนียนอีกนะคะ ถ้าเรื่องมันไม่จริงพี่ขุนจะเสียใจตัวเอง แล้วมันก็อาจจะสายเกินแก้”
“เนียน แกสั่งให้ไอ้เสือหนักไปจับหลานฉันรึ แกกับมันเป็นอะไรกันแน่”
เนียนไม่ตอบ แต่เนื้อทองกลับทนไม่ได้ตอบแทนเนียน
“เขาไม่ใช่พ่อหนู แต่เขาคือผู้มีพระคุณต่อแม่เนียนเจ้าค่ะ”
ทุกคนหันไปมองเนื้อทอง ไม่เว้นแม้แต่สองนายบ่าวใจชั่ว
“หนูติ๋ว อย่านะลูกอย่าพูด ไม่มีประโยชน์ดอก เรามันต่ำต้อยเกินกว่าใครจะเชื่อคำพูด อดทนสิลูก”
เนื้อทองส่ายหน้าน้ำตานอง
“ไม่มีลูกคนไหน ที่ทนดูแม่โดนโบยต่อหน้าแล้วต้องทนดอกแม่เนียนจ๋า”
“แกไม่ต้องออดอ้อนให้คุณพ่อใจอ่อน โบยมันสิคะ คุณพ่อ” ทานตะวันว่า
ขุนภักดีขยับแส้แล้วค้าง สนดึงแส้มาจากมือท่านขุน ฟาดบนหลังเนียนโดยแรงไม่ยั้งหลายครั้งอย่างเร็วมาก
“ลูกชั้นโดนผัวแกทำร้าย ฉันไม่ทำร้ายแกฉันก็ไม่ใช่ คน”
เสียงเทิดศักดิ์ร้องตะโกนห้ามสนดังลั่นมาจากท่าน้ำ
“คุณแม่สน หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
ทุกคนหันไปมอง ตาค้าง
เทิดศักดิ์ยืนเด่นกลางท่าน้ำ มีแดงน้อยยืนข้างๆ สองคนสีหน้าตื่นตกใจเทิดศักดิ์นั้นโกรธกรุ่น

ตรงจุดที่โบยเนียนทุกคนอึ้งตะลึงค้างไปทั้งแถบ โดยเฉพาะเรียม ทองจันทร์ร้องประสานเสียงอย่างดีใจ

“เทิดศักดิ์”
เนียนพึมพำเบาๆ “แดงน้อย”
สองสาวแฝดดีใจมาก อุทานประสานเสียง “พี่แดงน้อย”
“เทิดศักดิ์”
สนยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ทองจันทร์เดินไปหาสน กระชากแส้ม้าออกมาจากมือสนเหวี่ยงลงพื้น
“แม่สนทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม เอะอะก็คว้าแส้ นางช้อยแกเป็นบ่าวตัวดีห้ามปรามเจ้านายแกบ้างนะ อย่าทำตัวเป็นนางผีผลักนักเลยย่ะ เทิดศักดิ์มาหาย่า นะลูก”
ขุนภักดีหันไปมองเนียน ที่เรียมกับเนื้อทองกำลังประคองให้ลุก ท่านขุนพยายามสบตาเนียน แต่เนียนเมินหนีไปมองทางอื่น
สนสวมบทแม่แสนดี กางแขนรอรับเทิดศักดิ์
“แม่เป็นห่วงลูกแทบขาดใจตายทั้งคืน ไอ้คนทมิฬหินชาติมันทำอะไร ลูกแม่บ้าง”
เทิดศักดิ์กลับเดินปราดเลยแม่ไปหาเนียน มีแดงน้อยตามมาติดๆ
“มีคนใส่ไคล้น้าเนียนอีกแล้วใช่ไหมครับ ใจดำกันเป็นที่สุด”
“น้าเนียนเลือดออกนะครับ ผมว่า ไปหายาใส่เถิดครับ น้องติ๋ว”
เนียนสุดปลื้มที่แดงน้อยมาดูแล ยิ้มทั้งน้ำตา “ขอบคุณมากค่ะ คุณแดงน้อย ม..เอ้อ ฉันไม่เป็นอะไรมากดอกค่ะ ใส่ยาอีกสามวันแผลก็หายค่ะ”
เรียมเอ่ยขึ้นเป็นนัย “แผลที่กายใส่ยาสามวันก็หาย แต่แผลที่ใจ ใส่อะไรสามปีก็ไม่มีวันหาย”
“บ้านเรามีแต่คนวู่วาม บ้าอำนาจ” ทองจันทร์ฉุนเฉียว
“ผม ขอพาน้าเนียนไปใส่ยานะครับ” แดงน้อยบอกอย่างมีมารยาท
ทองจันทร์สนใจมองดู “นี่รึ แดงน้อยที่เขาลือกันว่า จะเป็นตำรวจ”
ทุกคนเลยนึกได้ว่ายังไม่ได้แนะนำให้แดงน้อยรู้จักทองจันทร์ แดงน้อยจึงรีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับ”
“คุณย่าของกันเอง”
“ทุกอย่างไม่มีเรื่องราวให้ตื่นเต้นกันแล้ว หน้าที่ใครมีไปทำเสีย” ขุนภักดีบอกเสียงดัง
บ่าวไพร่ทุกคนจึงแยกย้ายกันไป สนเสียหน้าที่ยกมือค้างเทิดศักดิ์ไม่มาหา กบแมวประคองทองจันทร์ออกไป
“เนียนเอ๊ย นึกว่าโดนกรรมเก่าเล่นงานก็แล้วกัน ฉันจะสวดมนต์ภาวนา ให้มันเป็นครั้งสุดท้ายของแกแล้ว”
“แม่ดีใจที่ทั้งสองคนปลอดภัย ไปพักผ่อนในบ้านให้หายเหนื่อยหายเครียดกันเถิดจ้ะ ทุกคน”
เรียมพยายามคลี่คลายสถานการณ์
“ผมขออนุญาตพาน้าเนียนไปส่งก่อนนะครับ” แดงน้อยขอร้องเรียมอีกครั้ง
“ผมก็จะไปด้วย” เทิดศักดิ์ว่า
ทานตะวันดี๊ด๊า “หนูก็จะไปบ้าง” อยากไปใกล้ชิดกับแดงน้อย
“ไปกับคุณย่าเถิด น้องอี๊ด ครับ กรุณาเถิด” เทิดศักดิ์ขอร้องดีๆ
“ย่ามีอะไรจะถาม มาสิ”

ทองจันทร์พยักหน้าให้ ทานตะวันจึงตามทองจันทร์ไป แต่อดหันไปยิ้มหวานให้แดงน้อยไม่ได้
ทุกคนพากันไปจนหหมด คงเหลือเพียงบ่าวนายใจชั่ว ช้อยกับสนที่ยืนจ๋อย สนหันไปจิ๋มหน้าช้อย

“แกนังหมาหัวเน่า เอาแต่เรื่องเน่าๆ มาทำให้ฉันปวดกบาล ดูสิลูกฉันแท้ๆ มันยังไม่แลนางคนใช้ ไม่สนใจความรู้สึกแม่”
“เพราะเธอเป็นลูกเสือหนักด้วยไงคะ เธอเหมือนพ่อค่ะ ไม่สนใจคุณสนดอก”
“อีช้อย”
สนเดินปึงปังออกไป

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 10 วันที่ 15 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager