อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/4 วันที่ 19 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/4 วันที่ 19 เม.ย. 56

ทานตะวัน พูดอย่างอวดเก่งถือดีตามเคย “หนูคงไม่ไปเรียนต่อที่ไหนดอกค่ะ คุณป้านฤมล ไปเมืองนอกดีกว่า
โก้จะตายไป หนูจะไปเป็นสาวปารีเซียงที่ฝรั่งงเศส ใครๆ มันก็อิจฉาค่ะ”
“ใครที่ว่า คงไม่รวมเนื้อทองด้วยหรอกนะ ใช่ไหมเนื้อทอง” นฤมลเย้า
“คุณหนูอี๊ด สวย รวย ตระกูลสูง ก็น่าอิจฉาออกนะคะ”
“นั่นไงคะ...สารภาพออกมาแล้วว่าเขาอิจฉาหนู”

“เขาชื่นชมหนูต่างหาก เอาละ ใครจะมารับพวกหนูกลับสุพรรณจ๊ะ”
“พี่เทิดศักดิ์ค่ะ” ทานตะวันบอก
“หนูต้องไปดูผลสอบชิงทุน เคหกรรมศาสตร์ที่การเรือนค่ะ ขอตัวนะคะคุณป้านฤมล คืนนี้หนูขอกลับมานอนกับคุณป้า พรุ่งนี้ค่อยกลับสุพรรณเองค่ะ” เนื้อทองว่า


“โชคดีแน่ๆ จ้ะ เนื้อทอง” นฤมลยิ้มแย้ม
“ฉันก็ขอให้โชคคี หาไม่ย่าฉันแม่ฉันจะโชคร้าย เพราะต้องส่งเสียให้เธอเรียน”
เนื้อทองยกมือไหว้ลา นฤมลแล้วออกไป
“คนที่ชอบทับถมเหยียบย่ำคนอื่น จะเจ็บช้ำมากกว่าคนที่ตนไปเยียบย่ำ ถ้าถึงวันที่ตนเอง ล้มลงแล้วโดนเหยียบย่ำ บางคนอับอายขายหน้า ถึงฆ่าตัวตายมาแล้ว หนูพร้อมทุกอย่าง แต่ขาดอย่างเดียวที่มันทำให้หนูหมดสวย หนูขาดความเมตตาปราณี หามาเติมในหัวใจของหนูซะทานตะวัน ป้าคงเตือนหนูได้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหนูเรียนจบแล้ว”
ทานตะวันรู้สึกนิดหน่อย แต่ก็ไม่มียี่หระกลับโต้ตอบอย่างถือดี
“คนอย่างหนู ไม่มีวันล้มลงให้ใครมาเหยียบหรอกค่ะ คุณป้า ลืมแล้วหรือคะ ว่าหนูลูกใคร”
นฤมลถึงกับส่ายหน้า นิสัยเกินเยียวยาของเด็กสาว

ไม่นานหลังจากนั้น เนื้อทองพาตัวเองมาอยู่ที่สถานที่ประกาศผล สอบชิงทุน กำลังยืนหน้าแผ่นป้ายประกาศว่าใครชิงทุนได้ เนื้อทองมองนิ่ง มองแล้วมองอีก เอามือลูบชื่อไปมา
ครู่หนึ่งเนื้อทองถอนสะอื้นร้องไห้ออกมา
“แม่เนียนจ๋า”
แลเห็นแดงน้อยเดินมาเข้าทางขวา ส่วนเทิดศักดิ์เดินมาทางซ้ายต่างคนต่างยังไม่เห็นกันและกัน
“น้องติ๋ว”
เนื้อมทองสะดุ้งไม่รู้ว่าจะมองไปทางไหนดี จึงยืนนิ่งน้ำตาไหลพราก สองหนุ่มน้อยเดินมาถึงป้ายประกาศ ต่างอ่านชื่อคนที่สอบได้ทุนพร้อมๆกัน
“ผู้ที่ผ่านการสอบชิงทุนการศึกษาวิชาเคหะศาสตร์จำนวนหนึ่งทุนได้แก่ นางสาวเนื้อทอง...”
สองหนุ่มอ่านไม่ทันจบ
“ค่ะ หนูสอบชิงทุนได้”
สองคนดีใจกับเนื้อทอง
“พี่...” / “พี่…”
สองหนุ่มมองหน้ากัน ต่างรู้สึกว่าใจตรงกันเกินไป และต่างเกี่ยงกันอีก
“แกพูดเถิดแดงน้อย”
“กันให้แกพูดก่อน”
“ไม่ต้องพูดทั้งสองคนค่ะ แสดงความยินดีกับหนูสิคะ”
สองคนหันมาหาติ๋ว ยิ้มกว้าง ท่าทีดีใจมากๆ อย่างจริงใจ
“ยินดีด้วยน้องติ๋ว”
“จะเลี้ยงอะไรพี่” เทิดศักดิ์ถาม
“จะพาพี่ไปกินอะไร” แดงน้อยถาม
“น้ำแข็งเปล่าคนละหนึ่งแก้วค่ะ” เนื้อทองหัวเราะนิดๆ
สองคนขำ “โอ้โฮ เค็มแฮะ”
สามคนหัวเราะให้กัน

ส่วนทานตะวันแหวใส่เอกทันที เมื่อรู้ว่าเทิดศักดิ์สั่งให้มารับตน
“ใครใช้ให้มารับฉัน”
“คุณเทิดศักดิ์ขอรับ”
“ทำไมเขาไม่มารับฉัน”
“ไม่ทราบขอรับ”
“โง่”
เอกไม่ถือสา “ขอประทานโทษ คุณหนูอี๊ดจะกลับสุพรรณวันนี้ไหมขอรับ”
“รถอยู่ไหน” ทานตะวันถาม
“คุณเทิดศักดิ์ขับไปขอรับ”
“ขับไปไหน”
“ไม่ทราบขอรับ”
“บ้า แล้วชั้นจะนั่งอะไรกลับ”
“เรือขอรับ เรือของเราจอดอยู่ที่ท่าน้ำพระอาทิตย์ขอรับ”
“นี่มันอะไรกัน พี่เทิดศักดิ์นะ จะฟ้องคุณพ่อ กับแม่สน”
“สามล้อ จอดรอนานแล้วขอรับ”
“อย่ามานั่งสามล้อคันเดียวกับฉัน”
“ขอรับ”
ทานตะวันกระฟัดกระเฟียดเดินไปแล้วหันกลับ
“ฉันไม่กลับ ถ้าฉันไม่ได้นั่งรถเก๋ง ฉันไม่ต้องการนั่งเรือ”
ทานตะวันเดินหน้างอกลับเข้าไปในโรงเรียน
“หรือว่าพี่เทิดศักดิ์ไปหานังติ๋ว”
“ไม่ทราบขอรับ” เอกไม่ทราบลูกเดียว

ทานตะวันคิดแค้นเนื้อทอง ยืนกระทืบเท้าเต้นเร่าๆ
ในเวลาเดียวกันสามคนมานั่งในร้านอาหารแถวสามเสน ใกล้โรงเรียนการเรือน ทั้งสามร่าเริง มีน้ำแข็งเปล่าวางตรงหน้าสามแก้ว และสามคนกำลังดื่มไปด้วย

“อร่อย” / “ชื่นใจ” สองหนุ่มบอก
เนื้อทองหัวเราะ เด็กเสิร์ฟเอาก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟสามชาม
“ใครกินใครจ่ายเองนะคะ หนูบอกแล้วว่าจะเลี้ยงน้ำแข็งเปล่า” เนื้อทองว่า
สองคนประสานเสียง “พี่จ่ายเอง”
“คุณผู้หญิงจ่ายแล้วครับ” เด็กเสิร์ฟบอก
สองคน หันมามองเนื้อทองอย่างเอ็นดู และต่างหลงรัก เนื้อทองหัวเราะน่ารัก
“กิ้วๆ โดนหลอก”
สองหนุ่มมองเนื้อทองอย่างลุ่มหลง แต่พอมาสบตากัน เทิดศักดิ์มองแดงน้อยทวงสัญญา แดงน้อยนึกได้พยักหน้าให้
“เทิดศักดิ์เขาอยากจะเลี้ยงหนังน้องติ๋ว” แดงน้อยเอ่ยขึ้น
“จริงหรือคะ”
“จริงสิ พี่ยังไม่ได้บอกน้องติ๋วเรื่องของพี่ ที่กำลังจะติดดาวอาทิตย์หน้า”
“หนูดีใจด้วยค่ะ”
“ดีใจแล้วอย่าลืมเรื่องไปดูหนังฉลองกันนะ”
“แล้ว พี่..แดงน้อย...” เนื้อทองถาม
“พี่มีธุระสำคัญมากครับ”
“แล้วคุณหนูอี๊ด เธอรอคุณเทิดศักดิ์อยู่ไม่ใช่หรือคะ”
“พี่ให้นายเอกไปรับแล้วครับ”
เทิดศักดิ์มองแดงน้อยด้วยความขอบคุณ แดงน้อยพยักหน้าแบบยินดีด้วย
แต่เนื้อทองแอบหน้าเจื่อน เพราะชอบแดงน้อยไม่ได้ชอบเทิดศักดิ์

แดงน้อยออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วมายืนนิ่งสงบจิตใจ ถอนใจเฮือก พึมพำกับตัวเอง
“กันขอให้แกโชคดี เทิดศักดิ์”
แดงน้อยเดินออกมาจากที่นั้น

เนื้อทองเดินกลับมากับเทิดศักดิ์ที่โรงเรียนกุลสตรี
“หนูขอโทษ ที่ขอเปลี่ยนจากดูหนังไปเป็นเขาดิน”
“ไปไหนกับน้องติ๋ว พี่ก็สนุกทั้งนั้นครับ เพราะน้องติ๋วคือ...คือ...คือ...”
“อะไรหรือคะ”
“ดวงตาดวงใจของพี่” เทิดศักดิ์บอกออกไป ท่าทีเขินๆ
เนื้อทองเขินอายม้วน แล้วรีบตัดบท
“ส่งหนูแค่นี้ก็พอค่ะ”
“ตกลง พรุ่งนี้พี่จะมารับกลับสุพรรณ”
“ขอร้องนะคะ หนูขอกลับเองเห็นใจหนูเถิดนะคะ หนูไม่ต้องการมีปัญหา”
“พี่เข้าใจ พบกันที่สุพรรณพรุ่งนี้นะครับ”
“ค่ะ”
เทิดศักดิ์กำลังเดินกลับมาที่รถ ทานตะวันพรวดสวนออกมาผลักเนื้อทองเต็มแรงจนซวนเซแทบล้ม
“ที่แท้ก็พานางลูกคนใช้ไปเที่ยวมาจนไม่ยอมพาน้องกลับบ้าน” ทานตะวันด่าอย่างกราดเกรี้ยว
“น้องอี๊ด”
“คุณหนูอี๊ด”
ทานตะวันกระชากแขนเนื้อทองโดยแรง ทั้งระดมหยิกระดมทุบลงไป เนื้อทองปัดป้อง แต่ไม่สู้สักนิด
“แกยั่วยวนพี่เทิดศักดิ์ แกรู้ว่าเขาจะมารับฉันแล้วทำไมแกยังอ้อนเขาให้ไปเที่ยวกับแก นี่ๆๆ จะตีแกให้สำนึก จะฟ้องคุณพ่อ คุณย่าคุณแม่แม่สน ฟ้องมันทุกคน”
“หยุดนะน้องอี๊ด”
“ไม่”
นฤมลออกมาดึงเนื้อทองออกมาจากทานตะวัน
“ที่โรงเรียนกุลสตรี เราสอนให้คนเป็นคน ไม่ได้สอนให้เป็นอันธพาลหยุดทำร้ายเนื้อทอง เทิดศักดิ์ช่วยพาน้องสาวของเธอกลับบ้านเถิด”
“ครับ คุณป้านฤมล ผมขอโทษ ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องไม่เหมาะสม”
นฤมลพาเนื้อทองกลับเข้าไปในโรงเรียน ทานตะวันยืนหน้าคว่ำเทิดศักดิ์สั่งเสียงเข้ม
“ขึ้นรถ”
ทานตะวันร้องไห้สะอึกสะอื้น

ทางด้านแดงน้อยเดินตัวปลิวออกมาจาก ก.พ. ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วในที่สุดแดงน้อยก็ออกวิ่งไปหัวเราะไป ออกไปยังลานกว้างแก่งหนึ่งสวยๆ
แดงน้อยวิ่งหมุนตัวไปมากางมือตะโกน
“ลุงสินครับ ผมกำลังจะได้เป็นปลัดอำเภอนายอำเภอปริญญาโทหัวนอก ผมจะกลับมาจับเสือหนักให้ลุงดูเป็นขวัญตา”
แดงน้อยยืดอกภูมิใจในตัวเอง

เวลาเดียวกันเนียนกำลังชิมน้ำแกง มีกบช่วย เนื้อทองวิ่งผวาเข้ามา ท่าทีดีใจมากๆ
“แม่เนียน จ๋า หนูสอบชิงทุนเรียนคหกรรมศาสตร์ได้จ้ะ”
เนียนดีใจทำตะหลิวตกพื้น
“หนูติ๋วของแม่ เก่งเหลือเกิน”
เนียนกอดลูกเอาไว้ กบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“หนูติ๋ว เก่งที่สุด น้ากบดีใจด้วยจริงๆ จ้ะ”
“อีกสามปี สามปีเท่านั้น หนูจะเลี้ยงแม่เนียนได้แล้ว”
สองแม่ลูกกอดกันอย่างมีความสุข

ฝ่ายทองจันทร์อยู่บนเรือน มีแมวและกบคอยดูแล หญิงชรากำลังนั่งขัดเครื่องเพชรเครื่องทองของทองหีบใหญ่
“สมบัติมากมายตายแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้ ฉันปลงซะแล้ว นางแมวนางกบ”
“แปลว่าคุณท่านจะทิ้งสมบัติมากมายนี่หรือเจ้าคะ” กบถาม
“อย่าทิ้งนะเจ้าคะ แมวยังไม่ปลงเจ้าค่ะ”
“อ้าวเอ็งนี่ลามยิ่งกว่าขี้กลาก ของของฉันมันต้องให้คนที่เหมาะสมใส่ เอาละ นี่แหวนพลอยแถวสีแดงกับสีฟ้า สมัยแม่ข้าเขามีเอาไว้แจกคนใช้”
ทองจันทร์หยิบออกมาส่งให้แมวกับกบที่นั่งตะลึงตาค้าง
“อะไรเจ้าคะ”
“ตกลงแปลว่าเอ็งสองคนไม่ต้องการแหวนทองของข้า”
“ต้องการเจ้าค่ะ”
สองคนรีบรับมาสวมอย่างชื่นชม ขณะเดียวกัน อี๊ดเดินมากอดมาหอมย่าทองจันทร์
“เอาสมบัติออกมายกให้หนูหรือคะคุณย่า”
“จะให้อะไรใครไม่ใช่ให้ไม่มีกาลเทศะ มันต้องให้ในโอกาสที่เหมาะสม”
“หนูเรียนจบมอแปด เหมาะไหมคะ คุณย่า”
“เหมาะจ้ะ เอาสร้อยข้อมือนพเก้านี่ไปสิหลาน”
ทานตะวันกลับหยิบจี้สร้อยทองคำขาว มีจี้เพชรโบราณเส้นหนึ่งขึ้นมา
“หนูอยากได้เส้นนี้”

ทองจันทร์ส่ายหน้าไม่ให้ ทานตะวันขัดใจหน้าคว่ำ
ไม่นานต่อมา สนฟังทานตะวันที่โร่มาฟ้อง โดยมีช้อยนั่งฟังอยู่ด้วย

“ต๊าย แม่สนเสียใจด้วยนะคะ ที่คุณย่าไม่ยอมให้สร้อยเพชรนั่น สร้อยนั่น แม่สนก็เคยเลียบเคียงขอ คุณนายเรียมก็เคยเปรยว่าชอบมาก คุณพ่อก็เคยบอกว่าให้คุณย่าให้ใครไปสักคนก็ได้”
“แต่คุณท่านก็ไม่ยอมให้ใครสักคนนะคะ ความจริง คนที่ท่านสมควรให้ที่สุดคือคุณหนูอี๊ด”
เทิดศักดิ์เดินถือหนังสือพิมพ์หน้าระรื่นเข้ามา
“มีข่าวดีมารายงาน”
“จับไอ้เสือหนักได้แล้วใช่ไหม” สนเอ่ยขึ้น
“ดีใจจริงๆ ใช่ไหมเจ้าคะ คุณสน” ช้อยผสมโรง
“ทำไมแม่สนต้องดีใจด้วยคะ” ทานตะวันงง
“ผิดหมดทุกคน น้องอี๊ดอ่านประกาศนี่สิครับ”
ช้อยกับสนตกใจ
ช้อยกระซิบสน “ประกาศจับไอ้แช่มหนีทหาร”
“ประกาศจับตัวคนร้ายที่มาปล้ำคุณหนูอี๊ดได้งั้นหรือ” สนสงสัย
ทานตะวันยื่นหน้ามาอ่านเทิดชี้ให้ดู
“ประกาศชื่อผู้สอบชิงทุนก.พ.ไปเรียนปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์การปกครองหนึ่งทุน ได้แก่ นายแดงน้อย...”
ทานตะวันอ่านยังไม่ทันจบ ก็ร้องลั่น “ไชโย พี่แดงน้อยเก่งที่สุด” ดีใจมาก เพราะชอบแดงน้อย
“ใช่แดงน้อยเขาเก่งที่สุด” เทิดศักดิ์บอกอย่างภูมิใจ
สนกับช้อยมองหน้ากัน ช้อยกระซิบ
“โล่งอกค่ะ”

หลายวันต่อมาแดงน้อยเดินเข้ามาในร้านกาแฟไทยเจริญ ยกมือไหว้แพรกับโพล้ง
“ผมจะไปนอนพักบ้านเทิดศักดิ์ที่สุพรรณตามคำเชิญของเขาสัก อาทิตย์ครับ แม่แพรลุงโพล้ง”
“บ้านที่มีแม่เนียนแม่ของหนูติ๋วอยู่ละสิ”
“ครับลุงโพล้ง”
“ฝากความคิดถึงและห่วงใยไปให้แม่เนียนเขาด้วย”
“ครับ ผมจะบอก เอ้อ...ไม่ทราบว่าแม่แพรกับลุงโพล้งรู้จักกับน้าเนียนตอนไหนครับ”
สองคนมองหน้ากัน
“ตอน ก็... เออน่า คนบ้านเดียวกันมันก็รู้จักกันทั้งนั้นแหละ” โพล้งบอก
“มันก็รู้จักกันทั้งหมู่บ้านทั้งตำบลนั่นแหละ” แพรว่า
แดงน้อยพูดแล้วรู้สึกสงสารเนียนขึ้นมา “ผมเคยพบแกมาแล้วสองครั้ง แกเป็นผู้ใหญ่ที่ดีน่ารักมากครับ”
“ก็รีบรักเข้าไปสิ” โพล้งบอกอย่างเริงร่า
แพรเสริม “รักเขาเอาไว้แหละดี คนอย่างเขามีแต่รักมีแต่ทำดีงามกับคนอื่น”
“ครับ ผมก็รู้สึกอย่างที่แม่แพรบอก ผมยังแปลกใจตัวเองว่าทำไม ผมรู้สึกเหมือนเคยพบกับน้าเนียนมาก่อน เหมือนผูกพันกันมากๆ”
สองคนมองหน้ากันพูดไม่ออก เทิดเดินเข้ามาไหว้สองคน ใส่เครื่องแบบร้อยตำรวจตรี
“สวัสดีครับ ผมร้อยตำรวจตรีเทิดศักดิ์ ภักดีภูบาลรายงานตัวครับผม”
“นายร้อยตำรวจตรีเทิดศักดิ์”
สองคนเข้าไปโอบกอดเทิดศักดิ์
“โก้เหลือเกิน ยินดีด้วยหลานชาย”
“งามสง่าแท้ๆ แม่แพรดีใจกับหลานชายด้วยจริงๆ”
“ขอบคุณมากครับ ผมมารับว่าที่ข้าหลวงใหญ่ในอนาคต ไปเที่ยวบ้านผมที่สุพรรณครับ”
สองคนรีบอนุญาต “ไปเถิดพ่อคุณ”
เทิดศักดิ์พยักหน้า สองหนุ่มพากันออกไปคุยกัน
“สัญชาติญาณมันส่งกระแสจิตให้แม่ลูกรู้สึกผูกพันรักกัน โดยไม่ต้องมีใครมาบอกกล่าว” โพล้งว่า
“เนียนคงมีความสุขที่ได้พบลูก”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/4 วันที่ 19 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager