อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/5 วันที่ 12 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/5 วันที่ 12 เม.ย. 56

“เรื่องจริง ที่เห็นบางทีอาจไม่ได้เป็นเช่นที่เห็น คนเราอย่าเอาแต่พูดถึงคนอื่นว่าไม่ดีงาม แม้ในศึกสงคราม เขายังต้องเมตตาต่อศัตรูผู้บอบช้ำ เขาเรียกว่าจริยธรรมที่มนุษย์พึงมีต่อกันจ้ะ”
ทานตะวันแก้ตัว “หนูไม่ได้เห็นเด็กเอ๊ยเนื้อทองเป็นศัตรูสักหน่อย”
“ดีแล้วจ้ะ ถ้าอย่างนั้นทั้งสองคนช่วยดูในมือของป้านี้สิ”
นฤมลชูชุดสามชุดของเนื้อทองคลี่ให้สองคนดู สองสาวหน้าเสีย

“ป้าจำได้ว่านี่คือชุดของเนื้อทอง ที่คุณแม่ของทานตะวัน พาเนื้อทองกับทานตะวันไปซื้อ ตอนมาเยี่ยมพวกหนูครั้งก่อน ถูกต้องไหม”
สองคนรับ “ค่ะ” พร้อมกัน


“ป้าไม่คิดว่า เนื้อทองจะตัดกระโปรงสวยนี่จนขาด แล้วเอากระโปรงนักเรียนกับเสื้อที่ใส่อยู่กับบ้านนั่นนั่งรถสปอร์ตไปดูหนังกับเทิดศักดิ์จริงไหม เนื้อทอง”
เนื้อทองก้มหน้า ไม่กล้าสบตาทั้งนฤมลและทานตะวัน
“เอ้อ...”
“หนูไม่รู้เรื่องนะคะ คุณป้า หรือว่า หนูมันจะมากัดคะ” ทานตะวันแก้ตัวทันที
“หนูที่ไหนมันมาจะเลือกปฎิบัติ ว่าจะกัดชุดของเนื้อทอง ไม่กัดชุดของทานตะวัน และรอยขาดนี่ไม่ใช่รอยหนูกัด แต่เป็นรอยกรรไกร ป้าจะไม่สอบสวนว่าใครตัดดอกนะ ใครทำอะไรย่อมละอายใจตัวเอง”
“หนูไม่ได้ทำ ไม่ละอายดอกค่ะ” ทานตะวันหน้าตึง
“ป้าอยากจะฝากการบ้านให้เอาไปนอนคิด คนกับหนูหรือว่าคนกับสัตว์ วัดกันที่ความยับยั้งชั่งใจไม่ไร้สติ ปิดเทอมครั้งนี้ ทั้งสองคนก็จะจบมอแปด ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ควรรู้ผิดชอบชั่วดี เพื่อ ที่จะอยู่ร่วมกับคนในโลกนี้ได้อย่างสงบสุขทุกฝ่าย”
นฤมลเดินออกไปจากตรงนั้น

ครู่ต่อมา แม่บ้านชื่อแจ่มรับชุดจากมือนฤมล
“ดิฉันละสงสารหนูติ๋วเหลือเกินค่ะ สิบสองปีที่อยู่ด้วยกัน แกตกเป็นเบี้ยล่างคุณหนูอี๊ด แกก็ช่างอดทนเหลือเกิน ตอนที่แกตัดเสื้อหนูติ๋วดิฉันก็เห็นกับสองตาแล้วนะคะ”
“พอได้แล้ว แม่แจ่ม พรุ่งนี้ช่วยพาหนูติ๋วไปซื้อเสื้อผ้าสักสามชุดเลือกเอาที่เหมาะสมกับตัวแกด้วย”
“ค่ะ”
แม่บ้านแจ่มรับเสื้อขาดมาไว้ที่ตัวเอง

พอสองคนก้าวมาถึงห้องนอน เนื้อทองก็หันมาจิ้มหน้าเนื้อทอง
“แกทำให้ฉันโดนคุณป้านฤมล ประณามทางอ้อม แกจงใจเอาชุดมาวางล่อตาให้คุณป้าเห็นใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ เอ้อ...ความจริง คุณป้าท่านไม่ได้ว่าคุณหนูอี๊ดสักหน่อยนี่คะ”
ทานตะวันขัดใจ กระชากตัวเนื้อทองมาเขย่าๆๆ แล้วกรี๊ดใส่
“แกอย่ามาแกล้งทำหน้าเซ่อ แกอย่ามาแกล้งทำตัวเป็นควาย แกมันใจแตกเหมือนแม่แก มีผัวทีเดียวตั้งหลายคน”
เท่านั้นเอง เนื้อทองก็หมดความอดทน สลัดทานตะวันที่เขย่าตัวออกโดยแรง
“แม่ใครใครก็รัก พอที อย่ามาว่าแม่ฉันนะ”
ทานตะวันปรี๊ดแตก เพราะเนื้อทองไม่เคยกล้าต่อล้อต่อเถียง
“แกกล้าขึ้นเสียงกับชั้น แกมันลูกนางคนคบชู้ แม่แกคบชู้ๆๆๆ”
เนื้อทองเอามือปิดหู ทานตะวันมากระชากมือออกจากหู แล้วตะโกนกรอกไปข้างหูซ้ำๆ
“แม่แกมันเป็นนางแพศยาๆๆๆ”
เนื้อทองหมดความอดทน ผลักทานตะวันโดยแรงจนเซหงาย
“อยากด่าฉันก็ด่าไป ฉันยอมให้ แต่แม่ฉันแตะต้องไม่ได้ หาไม่ฉันจะกลายเป็นคนอกตัญญู ฟังผู้อื่นประณามแม่โดยไม่สะดุ้งสะเทือน”
“แอร๊ยยย ช่วยด้วย อีเด็กติ๋ว รังแกหนู”
ทานตะวันพยายามตะกายมาทุบตี เนื้อทองปัดป้องไม่ทำตอบแต่ผลักๆ แต่อีกฝ่าย ไม่ลดละ ปากก็ตะโกน
“ช่วยด้วยอีติ๋วลูกไพร่รังแกหนู”
เห็นแจ่มวิ่งมาตามหลังด้วยนฤมล
“ต๊าย ลูกผู้ดีอะไรโกหกเป็นไฟ” แจ่มว่า
“หยุดนะทานตะวัน”

สองแฝดหยุดทันที เนื้อทองร้องไห้โฮๆ อย่างน่าสงสาร
ทางด้านหนักเดินมาหยุดมองวัดแห่งหนึ่ง เป็นวัดเก่าๆ โทรมๆ โดยมีหมอเสน่ห์ซึ่งบัดนี้หน้าตามีแผลเป็นจากไฟไหม้เมื่อหลายปีก่อนตามมาด้วย

“วัดนี้รึ ทิดเสน่ห์”
“วัดนี้แหละพ่อหนัก บวชแล้วก็ถือศีลธุดงค์ไปเรื่อยๆ”
“ขอบใจมาก ที่แนะนำวัดนี้ให้ฉัน”
“ฉันเป็นหนี้ชีวิตพ่อหนัก ทดแทนไม่หมดทั้งชาติ อะไรที่ทำให้ได้ฉันทำทั้งหมด ฉันขอเป็นลูกศิษย์พ่อหนัก ติดตามไปรับใช้ ตลอดเวลาที่พ่อหนักออกธุดงค์”
หนักหันไปมองหน้าเสน่ห์ ท่าทีซาบซึ้งมาก
“ขอบใจมาก”
ครู่ต่อมาเห็นหลวงพ่อชราเดินออกมามองสองคน
“จะมาปล้นวัดรึ ที่นี่ไม่มีอะไรให้ปล้นดอก”
หนักทรุดตัวลงนั่งพร้อมกับเสน่ห์ ก้มลงกราบหลวงพ่อ
“กระผมมาขอบวชขอรับ หลวงพ่อ”
หลวงพ่อพยักหน้ารับรู้

วันต่อมาภายในห้องรอรับนักเรียน นฤมลบอกกับเรียมอย่างอดหนาระอาใจ เรียมฟังจบแล้วหนักใจมาก
“ทานตะวัน นิสัยเหมือนใครหนอ เธอไม่ใช่คนอย่างนั้นนะเรียม”
“ฉันเสียใจ ที่ลูกสาวเป็นอย่างนี้ ทั้งที่พยายามขัดเกลาแล้ว”
ขุนภักดีตามเข้ามาพร้อมด้วย ทานตะวันที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นโดยมีท่านขุนโอบกอดไว้
“คุณพ่อจะให้นางลูกคนเลี้ยงหมูมาดูถูกเหยียดหยามลูกสาวคุณพ่อถึงเพียงนี้ได้ลงคอหรือคะ”
“ถ้ามันทำจริง พ่อจะจัดการมันทันทีที่กลับถึงบ้านเราที่สุพรรณ”
“ถ้าเขาไม่ได้ทำจริง หนูอี๊ดจะให้คุณพ่อทำอย่างไรกับลูกเล่า” เรียมแทรกขึ้น
“คุณแม่เข้าข้างมัน มันตบมันตีมันทุบมันเหวี่ยงหนูอี๊ดจนหงายท้อง” ทานตะวันฟ้องต่อ
“ตอนนี้มันไปหลบอยู่ที่ไหน” ขุนภักดีโกรธจัด
นฤมลสบตาเรียมแบบนี้ไงที่ทำให้ทานตะวันเสียนิสัย
“ไม่ได้ไปหลบที่ไหนดอกค่ะ” นฤมลหยิบเสื้อผ้าที่โดนตัดของเนื้อทองมาวางบนโต๊ะ
“เสื้อผ้านี่ ฉันพาหนูติ๋วไปซื้อเมื่อครั้งก่อนที่มาเยี่ยมเด็กๆนี่นา ทำไมกลายเป็นเสื้อขาดรุ่งริ่งไปได้” เรียมถาม
“นี่แหละค่ะ คือสาเหตุที่หนูติ๋วไม่อยู่ ฉันให้แม่บ้านพาแกไปซื้อเสื้อผ้ามาใส่ กลับบ้าน ไม่เช่นนั้นแกคงต้องใส่กระโปรงนักเรียนกลับบ้านจะขายหน้าไปถึงท่านขุน กับเรียม ว่าใจจืดใจดำกับเด็กกับเล็ก”
“ผมเพียงแค่อยากจะสอบสวนเด็กว่าทำไมต้องมาตบมาตีกัน” ขุนภักดีหน้าตึง
“รอเด็กกลับมาก่อนเถิดค่ะ ฉันกับแม่แจ่มในฐานะคนกลางที่เห็นเหตุการณ์ จะบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงต่อหน้าทุกคน เว้นแต่ท่านขุนจะคิดว่า ฉันอายุปูนนี้ยังโป้ปดมดเท็จ” นฤมลพูดจาแดกดันขุนภักดีอยู่ในที
ทานตะวันหน้าซีดเผือด เรียมมองดูอยู่ก็รู้ว่าตกใจ ทานตะวันผวากอดพ่อแน่น
“หนูไม่ผิด หนูๆ ไม่เคยตัดเสื้อผ้าใครขาด หนูไม่เคยทำร้ายใครจริงๆ นะคะคุณพ่อ”
พอดีเนื้อทองกับแม่แจ่มพากันกลับมา เนื้อทองรีบไหว้ท่านขุนกับเรียม สีหน้าหม่นหมอง
“แม่แจ่มกับหนูติ๋วมาพอดี พี่เทพคะ นฤมล สอบถามกันสิคะ” เรียมเอ่ยขึ้น
“เอาละ ไม่ต้องดอกครับ ครูนฤมล นี่เป็นเรื่องในครอบครัวผมขอกลับไปจัดการเองที่บ้าน” ขุนภักดีว่า
ทานตะวันรีบสอดขึ้น “หนูก็ไม่ถือสายัยติ๋วที่มาล่วงเกินจิกตีดึงผมทำร้ายหนู ยัยติ๋ว ฉันอภัยให้เธอ เราเลิกแล้วต่อกัน”
เนื้อทองถึงกับงงอึ้งไป ในความช่างพูดเอาดีเข้าตัวของทานตะวัน

เรือแล่นมาตามคุ้งน้ำมุ่งหน้ากลับสุพรรณบุรี ภายในเรือขุนภักดีนั่งหน้าตึง มีเรียมนั่งข้างๆ
“เรื่องที่เกิดขึ้น พี่ขอกล่าวโทษเธอด้วยนะเรียม”
“การที่หนูอี๊ดเหลวไหลถึงเพียงนี้ เรียมผิดมากหรือคะ”
“ไม่ผิดก็เหมือนผิด เธอทำให้ลูกอี๊ดมีปมด้อย”
“พี่เทพพูดผิด ลูกอี๊ดไม่มีปมด้อยแต่ มีปมเด่นต่างหากกระมังคะ”
“ลูกอี๊ดแกบอกพี่ว่าแกรู้สึกตลอดเวลา ว่าเรียมยกย่องเด็กติ๋วเสมอแก”
“ลูกเราขี้อิจฉา”
“เด็กที่ไหนไม่อิจฉา ถ้าเห็นแม่ตัวเองไปรักเด็กอื่นมากกว่าแก” ขุนภักดีออกอาการฉุนเฉียว
“พี่เทพพูดเกินไปค่ะ เรียมจะไปรักหนูติ๋วมากกว่าลูกอี๊ดได้อย่างไร”
“ได้หรือไม่อยู่ที่ใจเรียมรู้คนเดียว แต่การแสดงออกของเรียมมันแจ่มชัดว่า เรียมทำให้เด็กสองคนเท่าเทียมกันตลอดมา ตั้งแต่เขาเกิด ทำไม เพราะอะไรเรียมบอกพี่ได้ไหม”
“เพราะเรียมมั่นใจว่า หนูติ๋วไม่ใช่ลูกชู้แต่เป็นลูกพี่เทพเหมือนกับลูกอี๊ดค่ะ”
เรียมมองหน้าสามี เชื่อมั่นในสิ่งที่พูดแต่ขุนภักดีถึงปรี๊ดแตก
“เฮ้ย” เสียงท่านขุนดังมาก “กล้าดีอย่างไรกันหา”
ทุกคนในเรือสะดุ้งตกใจไปทั้งแถบ
ไม่เฮ้ยเปล่าร่างขุนภักดีสั่นเทิ้มไปหมดทั้งตัว ฉวยตะพดที่วางอยู่ ขว้างลงไปในน้ำเต็มแรง
ทุกคน เห็นไม้ตะพดท่านขุนปลิวลงไปกลางแม่น้ำ

ฝ่ายแพรกับโพล้ง ตื่นเต้นนักกับคำบอกกล่าวของแดงน้อย
“อาทิตย์หน้า ผมจะไปกินอาหารฝีมือน้าเนียนของเทิดศักดิ์ครับ”
แพรกะโพล้งตาเหลือก “หา”
“ครับ น้าเนียนคุณแม่ของน้องติ๋วน่ะครับ” แดงน้อยพูดด้วยดวงตาสดใส
แพรโพล้งสบตากันพยักหน้ากันน้อยๆ แบบรู้ว่าจะพูดอะไรกับแดงน้อย
“ในฐานะที่แม่แพรดูแลแดงน้อยมาตั้งแต่แบเบาะ มองดวงตาก็ทะลุไปถึงดวงใจของแดงน้อยแม่มองออกว่า แดงน้อยพึงใจหนูติ๋ว” แพรบอก
แดงน้อยหน้าแดงเขินอาย
“เอ้อ ผมไม่ทำอะไรนอกรีตนอกรอยดอกครับ แม่แพร ผมรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาสำหรับเรื่องแบบนี้”
“ดีแล้วหลานเอ๋ย ยับยั้งชั่งใจไว้ก่อน หนูติ๋วก็ยังเด็ก” โพล้งสำทับ
“ผมรู้ว่าผมต้องรอเวลา ให้เราเป็นผู้ใหญ่ก่อนครับ ผมจะรอจนถึงวันนั้น”
โพล้งกะแพร มองหน้ากันพูดไม่ออกแพรกระซิบโพล้ง
“เอาละสิ”

สองคนปวดหัวน้ำท่วมปาก พูดไม่ออก
เรือแล่นต่อมาตามลำน้ำ ส่วนในเรือท่านขุนนั่งหน้าตึงต่อไปกลายเป็นนั่งคนเดียว ส่วนเรียมถอยมานั่งตามลำพังเรียมหน้าตึงพอกัน

ทานตะวันนั่งอยู่คนเดียวกำลังร้องไห้กระซิกๆ ส่วนเนื้อทองนั่งอยู่กับเอกเงียบๆ เอกกระซิบถาม
“มีเรื่องอะไรกันอีกรึ หนูติ๋ว”
“หนู พูดไม่ได้ค่ะลุงเอก”
“ไม่พูดก็ไม่พูด แต่ไม่พูดมากๆ บางทีไอ้ที่เขาใส่ร้ายเราเอาไว้ มันจะกลายเป็นความเชื่อของคนที่ฟังความข้างเดียวว่าจริง ทั้งที่มันเท็จ”
“หนูยอมให้เขาเข้าใจเช่นนั้นค่ะ” เนื้อทองบอก
“ผลร้ายมันอาจจะเกิดกับหนู ดังเช่นตัวอย่างมีมาแล้วคือแม่ของหนู”
“แต่หนูเชื่อว่าสักวันความจริง จะปรากฏค่ะ แม้ว่ามันอาจจะนาน สักหน่อยก็ตาม ยังไงหนูก็ไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้น”
เอกถอนใจ “ลุงยอมแพ้ หนูช่างเหมือนแม่ของหนูที่สุด”
ทานตะวันหันมามองหน้าเนื้อทองทำตาเขียวปั้ดใส่ เนื้อทองเมินหน้าไปทางอื่น ส่วนเอกยิ้มให้ไม่กลัวทานตะวัน
จังหวะหนึ่งทานตะวันลุกผ่านเรียมไปนั่งกับขุนภักดี
“คุณพ่อขา หนูอี๊ดเสียใจที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ”
ทานตะวันซบบ่าพ่อ ขุนภักดีโอบกอดไว้อย่างสุดรัก
“ไม่ต้องร้องให้ ไม่ต้องเสียใจพ่อไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายหนูอี๊ดของพ่อทั้งร่ายกายและจิตใจดอกลูกรัก”
ทานตะวันหันมามองหน้าเรียม ยิ้มให้ เป็นเชิงบอกว่าเห็นไหม มองไปทางเนื้อทองเย้ยๆ
เรียมได้แต่ถอนใจ อ่อนอกอ่อนใจ

ฟากเทิดศักดิ์ กับแดงน้อยนัดเจอกันที่ลานพระรูป เทิดศักดิ์จอดรถตรงหน้าลานกว้าง ทั้งสองเดินลงไปกราบพระรูปแล้วเดินคุยกันตรงลานนั้นเอง
“แปลกใจไหมที่กันมาขอนัดพบแกก่อนที่จะพาแกไปกินอาหารฝีมือน้าเนียนกับน้องติ๋ว”
“กันไม่แปลกใจแกดอก เพราะแกมันแปลกมานานแล้ว เช่นจู่ๆ แกก็ชื่นชมลุงสินของกัน ทั้งที่แกพบลุงครั้งเดียวตอนอายุเจ็ดขวบ”
“ตอนนี้แกก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง ที่กันมีเรื่องขอความช่วยเหลือจากแก” เทิดศักดิ์พูดเป็นนัย
“อะไรกันนี่ ลูกผู้ดีมีเงินสูงส่งกว่ากันทั้งฐานะและชาติกำเนิดมาขอความช่วยเหลือจาก ลูกคนขายอาหาร”
“ขืนพูดแบบนี้อีกกันกับแกเลิกคบกัน กันไม่มีวันวัดคนที่ชาติกำเนิด เราคบกันมาสิบสองปี เราวัดกันที่หัวใจ”
พูดจบเทิดศักดิ์ทำท่าขึงขังใส่ แดงน้อยตกใจตบบ่าเทิดศักดิ์
“กันขอโทษ กันไม่ได้หมายความอย่างนั้น กันรู้ว่าแกเป็นอย่างไร กันแค่กระเซ้าแกเล่น อย่าโกรธเลยนะ” แดงน้อยแหย่ต่อ “คุณผู้ชายจะให้บ่าวรับใช้อะไรเชิญสั่งขอรับ”
เทิดศักดิ์หัวเราะ แล้วทำทีไล่ชกแดงน้อยแสร้งทำหน้าดุ แต่หายงอนไปแล้ว
“กันชอบน้องติ๋ว”
แดงน้อยตะลึง

ส่วนบนเรือนใหญ่ยามนั้น ขุนภักดียังเอาเรื่องเรียมต่อ
“เรียม พี่ยังไม่หายข้องใจ”
“คะ”
“ลูกเราเป็นนาย ส่วนมันเป็นคนรับใช้ มันได้อานิสสงค์ลูกเราไปเล่าเรียน จนได้ดิบได้ดีถึงเพียงนี้ ทำไมไม่ระลึกพระคุณลูกเรา อย่านึกนะว่าพี่โง่จนเชื่อว่านฤมลออกค่าใช้จ่ายให้เด็กนั่นเรียน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลยันมาถึงมอแปด แถมจะต่อที่มหาวิทยาลัยอีก เพียงแต่พี่ไม่อยากจะทะเลาะกับเรียม ก็เท่านั้น อย่าย่ามใจเห็นขี้ดีกว่าไส้ไปนักเลย เรียม”
“พี่เทพ จะให้เรียมทำอย่างไรหรือคะ”
“ไม่ต้องทำดอก มันเงินส่วนตัวของเรียมนี่ แต่พี่ไม่ชอบให้เรียมมาตบตาพี่ พี่ยอมรับว่าลำเอียงเพราะรักลูกของเรา แต่พี่ก็ไม่ได้ใจจืดใจดำที่เห็นเรียม ส่งเสริมเด็กที่มีอนาคตดีๆอย่าง เด็กติ๋ว พี่ยอมรับว่ามันเป็นเด็กดีจริงๆ”
เรียมตกตะลึง “พี่เทพ เรียม ขอโทษอีกครั้งเรียมมองพี่ผิดไป”
“พี่ก็ขอโทษ ที่วู่วามไปตอนที่เราอยู่ในเรือ”
ขุนภักดีโอบกอดเรียม สองคนหายโกรธคลายข้อข้องใจที่มีต่อกัน

ทองจันทร์ยิ้มย่องมองเนื้อทอง ที่กำลังก้มลงกราบแทบเท้าตน อย่างเอื้อเอ็นดู โดยไม่รู้ว่าเป็นหลานในไส้
“ต่อไปนี้ฉันจะออกค่าเรียนครูให้แกเอง ยัยติ๋ว”
“คุณท่านเจ้าคะ”
“แกไม่ต้องมาตื่นเต้น แกรู้ไหมว่าสิบสองปีที่ผ่านมานั่น ลูกชายชั้นกับแม่เรียม แทบจะไม่มองหน้ากัน เพราะแม่เรียมดันมาออกค่าเรียนให้ลูกแก”
กบกับแมวแอบยิ้ม
“หนูกราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ”
“ฉันเป็นคนจ่าย ผัวเมียจะได้ไม่ผิดใจกัน โน่นรางวัลที่แกรับใช้ฉันและเรียนเก่ง”
เนื้อทองมองไปท่าทีงงๆ
กบแมวบอกพร้อมเพรียง “ห้องใหม่ของหนูติ๋วจ้ะ”
“นั่น นั่นห้องของคุณนายแม่เรียมนะคะ” เนื้อทองท้วง
“ย่ะ แกกับแม่ของแกมันต่างกัน ตรงที่แกมันบุญหล่นทับ แต่แม่แกมันบาปหล่นใส่”
เนียนสบตาลูกพยักหน้าให้ เนื้อทองก้มลงกราบหญิงชราอีกครั้ง น้ำตาซึม
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ แต่หนูอยู่ห้องเดียวกับแม่เนียนได้เจ้าค่ะ”
“แกกับแม่ของแกพูดจาเหมือนนัดกันมาพูด ฉันสั่งให้แกอยู่ห้องนั้นแกจะกล้าขัดน้ำใจฉันรึ”
เนื้อทองมองตาแม่ เนียนพยักหน้าให้รับ
“หนูไม่กล้าขัดเจ้าค่ะ”
“ดี” คุณนายทองจันทร์นึกบางอย่างได้ “เอ๊ะ ทำไมหลานเทิดศักดิ์ไม่กลับมาพร้อมกับแก” ทองจันทร์แปลกใจ
“เอ้อ...คุณเทิดศักดิ์จะมาพร้อมเพื่อนสนิทเจ้าค่ะ”
“เพื่อนสนิท ลูกเต้าเหล่าใคร” ทองจันทร์ซักตามประสา
“ลูกใครหนูไม่ทราบดอกเจ้าค่ะ”
“ชื่ออะไร”
“แดงน้อย เจ้าค่ะ” เนื้อทองบอก
เนียนกำลังถืออะไรในมือทำตกทันที ทุกคนหันมามอง

ฟากทานตะวันฟ้องสนไปจนหมดสิ้นแล้ว สนได้ทีรีบยุส่ง
“ต๊าย ตาย ๆ ๆ หลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น แม่มันเคยทำแบบนี้กับแม่สน คุณแม่เรียม นี่ลูกมันก็มาทำกับหนูอี๊ด จนได้ จะอยู่ร่วมโลกกับมันไม่ได้แล้ว โอ๊ยแม่สน ของขึ้นองค์ลงสั่นไปหมดแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ แม่สน หนูควรจะทำยังไงดีคะ เพื่อเรียกศักดิ์ศรีที่เด็กติ๋วมันทำลายลงไปแล้วกลับคืนมา”
“แม่สนกำลังคิดหาทาง ต้องหาคนมาช่วย หนูอี๊ดจ๊ะ”
“ใครหรือคะ” ทานตะวันฉงน
“นางช้อย มันเป็นคนใช้เก่าของแม่สน หนูอี๊ดอาจจำมันไม่ได้หรือ”
“หนูจำได้ลางๆ ค่ะ แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่นานแล้วนี่คะ เขาไปไหนคะ”
“ไปบวชชี”
“ที่ไหนคะ”

สนยิ้มร้ายออกมา ไม่ยอมตอบ
เวลานั้น ที่วัดแห่งชนบทห่างไกล ซึ่งช้อยไปอาศัยอยู่แล้วอ้างว่าไปบวชชี แม่ของช้อยบวชเป็นชีอยู่ที่วัดแห่งนี้

ช้อยกำลังกวาดลานวัดอยู่ แม่ชี ที่เป็นแม่ของช้อยนั่งมองอยู่ แม่ของช้อยแก่มากแล้ว
“โฮ้ย เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เบื่อก็เบื่อ วัดอะไรก็ไม่รู้อยู่ห่างไกลผู้คนจะกินจะอยู่ก็ลำเข็ญ เป็นที่สุด รู้งี้ไม่ลาออกมาอยู่กับแม่ชีดอก”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 8/5 วันที่ 12 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager