อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/3 วันที่ 18 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/3 วันที่ 18 เม.ย. 56

“นายเอก น้าแมว น้ากบ ไปเรียกคนทั้งบ้าน มาหน้าลานเรือนคุณย่า” เทิดศักดิ์สั่ง
“เรียกมาทำไม” ท่านขุนฉงน
“เหตุเกิดในบ้านท่านขุนภักดีภูบาล ที่คนสะท้านกลัวทั้งเมืองสุพรรณ มันต้องมีเกลือเป็นหนอน หรือไม่ก็มือลึกลับแถวนี้บงการอยู่”
“พวกแกไปตามคนทั้งบ้าน ลูกชายข้าเขาอยากลองวิชา”
ขุนภักดีพูดประชดประชัน

สนกับช้อยกำลังรุมด่าแช่ม ซึ่งแช่มเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ว
“ก็ยังดีที่แกหัวไวใส่ความว่าเป็นไอ้เสือหนักส่งสมุนมาล้างแค้น” สนว่า


“ลูกช้อยมันก็หัวไวเหมือนช้อยนี่แหละเจ้าค่ะ”
“รอดตัวไปนะแก ถามจริงๆ เถิด แกไม่รู้หรือว่าจงใจไม่รู้ว่าที่ลากไปนั่นไม่ใช่เด็กติ๋ว” สนถาม
“เอ้อ...มันมืดน่ะขอครับ เอ้อ...คุณสนขอรับ ผมให้แปลกใจว่าทำไมตอนนางเนียนมันโผล่มาเจอเหตุ มันตะโกนว่าอย่ามาแตะต้องลูกมัน”
“มันคงคิดว่าเป็นลูกมันน่ะสิ ก็หน้ามันเหมือนกันจะตายไป”
“จริงสิครับ ขนาดมันยังจำผิดผมจะจำถูกได้ยังไง”
ช้อยหันไปเห็นเอก “ไอ้เอกมาเจ้าค่ะ ไอ้แช่มรีบหลบไปไวๆ”
แช่มรีบหลบไปทันที
“ท่านขุน กับคุณเทิดศักดิ์ให้มาตามคนทั้งบ้านไปที่ลาน เรือนคุณท่านขอรับคุณนายสน”
สองคนมองหน้ากัน
“มีอะไรกันหรือ” สนตีหน้าเซ่อ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ไปถึงแล้ว ท่านคงแจ้งเองว่ามีอะไร”
“นี่เอ็งถือดีว่าเป็นคนสนิทพี่ขุนมาพูดจาโยกโย้เฉไฉใส่ข้ารึ” สนฉุน
“มิได้ขอรับ กระผมพูดตามที่ท่านสั่ง ก็แล้วแต่คุณนายสนจะเห็นเช่นไร อ้อ แม่ช้อยช่วยไปตามนายแช่มไปตามคำสั่งด้วย”
สองคนปรายตามองสบตากัน
“มันไม่อยู่ มันลากลับบ้านไปหาพ่อกำนัน ไปนางช้อย”
สนรีบดึงแขนช้อยออกไป

เอกมองเข้าไปในบ้านแต่ไม่กล้าเข้าไป ยิ้มอย่างไม่เชื่อสองบ่าวนายใจชั่ว
ทุกคนในบ้านมารวมกันที่ลานหน้าเรือนทองจันทร์ เทิดศักดิ์เริ่มสอบถามเอาความจนทั่วหน้า

“นายแช่มญาติคุณแม่สนหายไปไหนครับ ทำไมมันไม่มาตามคำสั่งผมกับคุณพ่อ”
“แม่ใช้ให้มันไปหาคุณตาของลูก”
“คงเป็นธุระร้อนมากน่ะขอรับ ถึงขั้นต้องไปค่ำมืดๆ” เอกแดกดัน
ทุกคนหันมามองทางเอก
“เอ๊ะ ไอ้เอก นี่เอ็งจะมาขับฉันให้ข้าจนแต้มใช่ไหม” สนแหวใส่
“หามิได้ขอรับ”
“ทำไมนายเอก ถึงรู้ว่านายแช่มไปตอนค่ำๆ มืดๆ”
“ตอนหัวค่ำผมยังเห็นมันนั่งกรึ่มเหล้าอยู่ท้ายเรือนคนรับใช้ขอรับ”
“แม่สน ทำไมให้ญาติของแม่สนมาดื่มเหล้าในบ้านนี้” ขุนภักดีไม่พอใจ
“คุณสนเธอไม่ทราบดอกเจ้าค่ะ ช้อยจัดการมันเองเจ้าค่ะ” ช้อยสาระแน
“นี่แปลว่ากำลังสงสัยไอ้แช่ม หลักฐานก็ไม่มี อย่าเบนเข็มมาปรักปรำมันสิ ก็ไอ้โจรนั่นมันบอกอยู่โต้งๆ ไม่ใช่รึ ว่า ไอ้เสือหนักส่งมันมา”
ช้อยตกใจเพราะเมื่อสักครู่ สนเพิ่งบอกว่าไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร รีบสะกิดเตือน
“คุณสนเจ้าขา”
“เมื่อสักครู่ที่กระผมไปตาม คุณนายสนยังไม่ทราบเลยนะขอรับว่าเกิดเรื่องอะไร” เอกบอก
สนหน้าเสียไปนิดหนึ่งแมวและกบกระซิบ
“เออน่ะสิ หรือว่ามีพรายกระซิบตามทางเดินมาที่นี่”
“ทุกคนกลับไปได้แล้ว” เทิดศักดิ์ตัดบท “คุณพ่อครับ ผมพอได้เค้าลางแล้วครับ”
สนแอบถอนใจโล่งอก ส่วนเทิดศักดิ์ไม่สบายใจ
ส่วนเนื้อทองทาแผลให้เนียน ร้องไห้ไปด้วยกันทั้งแม่ทั้งลูก
“หนูสงสารแม่เหลือเกิน ทำไมเวรกรรมของเราสองคนไม่จบสิ้นสักทีนะจ๊ะแม่เนียนจ๋า”
“แม่น่ะไม่เป็นไรดอก แต่แม่สงสารคุณหนูอี๊ด โถ ถ้าแม่ ช้าไปก้าวเดียว คุณหนูของแม่ คงยับเยิน ทุกคนคงหัวใจสลาย”
เนื้อทองแปลกใจ “นี่แม่รักแม่ห่วงจนยอมโดนตบตีเพื่อปกป้อง คุณหนูอี๊ดถึงเพียงนี้ ทั้งที่แม่ก็ทราบดีว่าเขาไม่มีวันจะหันมาเมตตาเราสองคนสักนิด”
“ช่างเขาเถิดลูก แม่ทำไปไม่หวังจะให้คุณหนูอี๊ดมาตอบแทนอะไรแม่”
“ไม่ตอบแทน แถมยังเกลียดชัง หนูจะรอดูวันพรุ่งนี้ว่าเขาจะขอบใจแม่สักคำไหม หนูเชื่อว่าเขาเชื่อคำป้ายสีไอ้คนโจรชั่วนั่น”
“เสือหนักไม่มีวันส่งใครมาทำร้ายคนที่นี่แม้แต่ปลายก้อยดอกเชื่อแม่เถิดลูกรัก”
เนื้อทองพยักหน้า
“หนูติ๋วเชื่อแม่จ้ะ”
“ขอบใจ ลูกรัก ขอบใจมากจริงๆ แม่ขอร้องนะลูกรักไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณหนูอี๊ด จะร้ายกาจอย่างไร จงให้อภัยเธอนะลูก”
คราวนี้เนื้อทองนิ่ง
“รับปากแม่สิลูก โกรธกันไปเกลียดกันมา อาฆาตแค้น มันก็ทุกข์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย เชื่อแม่เถิดอีกหน่อยเธอก็เลิกราไปเอง”
เนื้อทองไม่อยากจะเชื่อ แต่เห็นแม่อาการแย่ จึงรับคำ
“จ้ะ หนูจะพยายามเชื่ออย่างที่แม่บอก”
เนียนเบาใจขึ้น

ทานตะวันฟื้นแล้ว เอาแต่นั่งร้องไห้พะอืดพะอม มีเรียมกับขุนภักดีคอยปลอบโยนเอาใจ
“หนูไม่มีวันเลิกเกลียด นางเนียน หนูจะเอาเรื่องมันกับลูกมันให้ถึงที่สุด”
“หยุดนะ คนเขาช่วยให้รอดเงื้อมมือคนใจทรามยังไม่คิดกราบขอบคุณ กลับมาด่าว่าปรักปรำเขา” เรียกฉุน
“คุณแม่พูดออกมาได้ยังไง ให้หนูไปกราบขอบคุณ คนใช้” ทานตะวันไม่พอใจ
“เรียมนี่ก็แปลกแท้ๆ หรือว่าโดนมันทำเสน่ห์เอาจนหลงผิดคิดว่าตัวเองเป็นพี่น้องท้องเดียวกับมันไปแล้ว”
“เสน่ห์ของใครก็ไม่อาจทำให้ใครหลงใหลได้ตลอดไปดอกค่ะ พี่เทพ ความดีงามความจริงใจของเนียนต่างหากที่จับใจเรียมเอาไว้”
“มันทำดีอะไรกับคุณแม่นักหนาคะ”
“ที่เห็นๆ ก็ช่วยลูกวันนี้ หรือว่าลูกคิดว่าที่รอดพ้นมาได้เพราะผีนรกที่ไหนมันมาช่วย ถ้าเขาช้าไปก้าวเดียวลูกก็แหลกลาญ ถ้าเขารู้เห็นเป็นใจว่ามีใครมาทำร้ายลูก แล้วเขาจะยอมให้มันตบตีเพื่อช่วยหนูทำไมทั้งพ่อทั้งลูกช่วยไตร่ตรองด้วย แม่ขอตัวก่อนจะไปดูเนียน”
พูดจบเรียมก็เดินหน้านิ่งออกไป เงียบๆ

ฟากสนกับช้อยซุบซิบกันอยู่บนเรือน เทิดศักดิ์เข้ามาไล่ช้อยไป
“ช้อยไปให้พ้น ฉันต้องการจะคุยกับคุณแม่ อย่ามาแอบฟังทีเดียวนะ”
เทิดศักดิ์จ้องหน้าช้อยดุๆ ช้อยรีบก้มหน้างุดออกไป สนทำเป็นหาว
“แม่ง่วงนอน เอาไว้คุยพรุ่งนี้ เถิด”
“ผมพูดแค่ประโยคสองประโยคเท่านั้น ไม่มีการตั้งคำถามด้วย”
“นี่ยังไม่ทันติดดาว ก็เห็นแม่เป็นผู้ต้องหาแล้วรึ”
“ฟังนะครับ ผมกับน้องอี๊ด มีพ่อคนเดียวกัน เป็นพี่น้องกันแม้ว่าจะต่างแม่ก็ตาม ถึงน้องอี๊ดจะเหลวไหลอาละวาดนิสัยเสียอย่างไร ผมก็รัก น้องของผม ผมไม่ต้องการให้ใครหวังดีต่อผมด้วยการพยายามทำร้ายทำลายน้องผม พรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณตาแสง ไปถามเอาความจริงจากนายแช่มให้ได้”
เทิดศักดิ์พูดจบสนนิ่งสนิทพูดไม่ออก ตกใจมาก

ส่วนช้อยกำลังส่งเงินให้แช่ม ด่าไปด้วย แช่มห่อผ้าเตรียมหนี
“มึงรีบไสหัวไปให้พ้น ก่อนที่มึงจะทำให้กูพินาศ ไอ้ลูกเหลือขออุตส่าห์หาที่หลบภัยให้ ดันมาก่อเรื่อง”
“ถามจริงเหอะแม่ รู้นะว่าคุณสนน่ะเกลียดนางคุณหนูนั่นพอๆ กับนังเด็กติ๋ว แต่แสร้งทำเป็นดีกับมัน น่าจะขอบใจฉันตะหากใช่มาโกรธฉัน”
“มึงทำผิดที่ผิดเวลา ถ้ามึงเล่นงานนังเด็กติ๋ว ใครเขาจะเดือดเนื้อร้อนใจเพราะมันแค่ลูกคนใช้ ทำไมมึงไม่อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ไสหัวไปซะ อย่ามาก่อเรื่องให้กูเดือดร้อน มึงนึกว่ากูสนุกรึ ที่ทนให้อีคุณนายสนเจ้าเล่ห์มันสับมันโขกเอา”
“ก็ไหนแม่ว่ามันไม่กล้าหือแม่ เพราะแม่กำความลับมันเอาไว้มาก”
“เออ..กรรมของกูมากด้วย ที่ไปกำความลับของมันไว้มาก กู ก็ยิ่งต้องระวังตัวมาก อีคนนี้น่ะให้มันสู้กับงูพิษกูว่ามันชนะ เลยแหละ”
เสียงเอกดังเข้ามา “ใคร อยู่ตรงนั้นน่ะ”
สองคนสะดุ้ง
“มึงยังไม่รีบไปจะรอพ่อมึงมาลากคอไปรึ”
แช่มจึงรีบผละไป ช้อยทำเป็นเก็บผักเด็ดหญ้าแถวนั้น เอกฉายไฟก้าวออกมา
“มาทำอะไรตรงนี้ ช้อย”
“เก็บผัก” ช้อยบอกหน้าตาเฉย
“เก็บผักตำแย จะเอาไปยำตำแยให้เจ้านายกินหรือนางช้อย” เอกแดกดัน

ช้อยจ๋อย เอกเดินผ่านช้อยไปตามทางที่แช่มเพิ่งหนีไป ช้อยใจหายวับ
ส่วนทานตะวันพอหายดี ก็แวะมาหาสนที่เรือนทันที มองซ้ายมองขวา ท่าทีระวังตัว ก่อนจะกระซิบกระซาบกับสน

“พี่เทิดศักดิ์ไปแล้วหรือคะ”
“ไปแล้วค่ะ แม่สนเสียใจด้วยนะคะ กับเรื่องที่นังเนียนมันไปฟ้องไอ้เสือหนัก ให้มาเล่นงานหนูอี๊ด”
“แม่สนก็เชื่อใช่ไหมคะว่าเสือหนักมันส่งคนมาจริงๆ”
“เชื่อสิคะ”
“แต่คุณแม่บอกว่า นางเนียนมันยอมเจ็บตัวปกป้องช่วยหนู”
“มันเล่นละครตบตาน่ะสิคะ..เดี๋ยวจะไม่สมจริง”
“แม่สนแก้แค้นให้หนูนะคะ”
“แหม..เพิ่งเกิดเรื่องเกิดราวไปติดๆ กัน ขืนแม่สนก่อเรื่องอีก โดนจับได้แม่สนตายแน่ๆ ค่ะ แม่สนตายหนูอี๊ดก็ตายด้วย เพราะเราวางแผนด้วยกัน”
“แต่หนูอัดอั้นตันใจนี่คะ อยากจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด”
ทานตะวันกอดออเซาะ
“ขอเวลาแม่สนหาทางก่อนนะคะ แต่ตอนนี้ทำตัวดีๆ เหมือนขอบใจที่นางเนียนมันช่วยหนูให้พวกมันตายใจก่อน นางสองคนนั่นมันโง่ หลอกง่ายจะตายไป
“ค่ะ หนูจะฝืนใจทำ”
สนพยักหน้ายิ้มให้ แล้วแอบหันมาทำหน้าสมเพชทานตะวัน

วันต่อมาที่บ้านกำนันแสงในอำเภอศรีประจันต์ กำนันแสงดูชราลงไปมากกำลังรับไหว้เทิดศักดิ์ท่าทางยินดีปรีดามาก แต่ดูงงๆ อยู่
“สวัสดีครับคุณตา”
“ใครกันหว่า หน้าตาไม่คุ้นเคย”
“เทิดศักดิ์ลูกแม่สนครับ คุณตา”
กำนันยื่นหน้ามาดู แล้วตื่นเต้นดีใจ
“อุ๊บ๊ะ นี่รึเทิดศักดิ์ ตาเคยเห็นตอนเด็กๆ ครั้งเดียว โตจนเป็นหนุ่มแล้วหรือนี่”
“ครับ โตจนเรียนเกือบจบแล้วครับ คุณตา”
กำนันลูบหน้าลูบหลัง วนรอบตัว “ตาดีใจมากที่หลานมาหาตาถึงบ้าน ช่างเป็นบุญของคนแก่แท้ๆ”
“คุณตาสบายดีหรือครับ”
“ก็เรื่อยๆ ตาแก่จัดเหมือนผลไม้ใกล้หล่นแล้วหลานเอ๊ย มามะ นั่งนั่ง อีเล็กๆ หายตัวไปไหนกันหมด มาดูแลต้อนรับหลานข้าไวๆ เข้า”
“ไม่ต้องพิธีรีตรองดอกครับคุณตา ผมอยากมาหาคุณตานานแล้ว แต่ผมติดเรียน”
“ดีเลยหลาน นอนค้างบ้านตาสักเจ็ดวัน กำลังเหมาะเนาะหลานเนาะ”
เทิดศักดิ์มองหน้าเอก
“คือคุณเทิดศักดิ์ต้องกลับไปเตรียมตัวรับกระบี่ครับ พ่อกำนัน”
“รับกระบี่ อะไรรึ”
“ผมเรียนนายร้อยตำรวจครับ จบพอดี กำลังรอรับกระบี่ติดยศร้อยตรี”
“โอ้โฮ นี่ตามีหลานเป็นตำรวจรึ”
“ครับ คุณตา ผมขอโทษที่พักกับคุณตาไม่ได้”
“ตาดีใจเหลือเกิน ไม่นอนก็ไม่เป็นไร ยังดีที่ยังรู้ว่ามีตาอยู่ตรงนี้”
เทิดศักดิ์มองไปรอบๆ “เอ้อ คุณตาครับ ญาติของคุณตาที่ชื่อว่าแช่มที่คุณแม่สนส่งมา ทำธุระให้ มาถึงหรือยังครับ”
“มันไม่ใช่ญาติของเรา มันเป็นลูกอีนางช้อย มันหนีตะหาน มันไม่กล้าหลบมาที่นี่ดอก ขืนมา มันก็โดนรวบตัวน่ะสิ”
เทิดศักดิ์สบตาเอก เป็นเชิงบอกว่านั่นปะไร

สองคนอยู่ในเรือ กำลังนั่งเรือกลับสุพรรณมาด้วยกัน
“คุณแม่สนโกหก ทำไมต้องโกหกว่านายแช่มเป็นญาติฉัน ทั้งที่มันเป็นลูกนางช้อย”
“พูดยากขอรับ คุณเทิดศักดิ์ นางช้อยเขาใกล้ชิดคุณนายสนมาตั้งแต่เล็ก แต่น้อย ลูกของนางช้อยเดือดร้อนหนีทหารมาคุณนายสน ก็ต้องช่วยเหลือ”
“ช่วยคนหนีทหาร บ้านขุนภักดีภูบาลเสียหายหมด เชื่อฉันสิว่านายคนนี้ มันต้องไม่ใช่คนดีแน่นอน มันอาจทำชั่วร้ายอะไรได้อีก”
“ครับ ดีแล้วที่มันไปจากบ้านคุณเทิดศักดิ์ได้”
“ฉันจะไม่ถามเรื่องนี้กับคุณแม่สน นายเอกก็เงียบไว้ด้วย เพราะฉันมั่นใจว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำมากกว่านี้”
“ขอรับ”
เทิดศักดิ์ใคร่ครวญครุ่นคิด

บนเรือนทองจันทร์ ขณะที่เนียนกำลังจัดดอกไม้ให้ทองจันทร์อยู่บนเรือน ทานตะวันเดินมารีๆ รอๆ หน้างอทำใจไม่ได้ตามที่สนสอน ยืนจ้องเนียนตาขวาง จนเนียนรู้สึกตัว มองไปตกใจมาก
“คุณหนูอี๊ด”
“เออ ฉันเอง”
“มีอะไรให้อิฉันรับใช้เจ้าคะ”
“มีอะไรจะบอก”
“เชิญเจ้าค่ะ”
“ถ้าแกไม่ได้ฟ้องไอ้เสือหนักชู้ของแก แต่แกตั้งใจช่วยฉันจริง ก็ขอบใจนะ”
เพียงเท่านั้นแหละเนียนก็ดีใจจนน้ำตาทะลัก
“คุณหนูเจ้าขา”
เนียนดีใจเผลอตัวยื่นมือจะไปจับลูกสาว ทานตะวันถอยกรูด
“นี่ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ทีเดียว ขนาดเมื่อวานแกมาโอบมากอดฉัน ฉันยังเอาทั้งสบู่ทั้งมะขามเปียกขัดคราบโสมมของแกเกือบตาย ไม่ให้หลงเหลือ”
เนียนชะงักน้ำตาทะลักล้นออกมาอีก
“เจ้าน้ำตาเหลือเกิน ทำไมแกไม่ไปขอเล่นลิเก เป็นตัวแม่นมนางเอกซะ”
เนื้อทองเข้ามาพอดี มองสถานการณ์รีบปกป้องมาหาแม่
“แม่เป็นอะไรจ๊ะ”
“เป็นนางสำออย น่ะสิ ฉันมาขอบใจเข้าหน่อย ร้องไห้น้ำตาร่วงเป็นเผาเต่า”
ทานตะวันเดินยิ้มเยาะออกไป อี๊ดมองหน้าแม่
“จริงหรือจ๊ะแม่”
“จริงจ้ะ คุณหนูอี๊ดมาขอบใจแม่”

ทานตะวันงงไม่อยากเชื่อ
อยู่มาวันหนึ่งแดงน้อยกลับมาถึงร้าน เข้ามากอดแพร พลางยื่นใบปริญญาบัตรให้ดู

“แม่แพรครับ ดูนี่สิครับ”
แพรมอง แล้วอ่านเป็นนานสองนาน โพล้งทนไม่ได้ถามแพร
“จดหมายพี่หนะ...” โพล้งจะหลุดเป็น “หนัก” แต่รีบแก้ “เอ๊ย พี่สินรึ”
“ใบเปรียญของแดงน้อยเขาเขียนว่า เกียรตินิยม”
“เกียดแล้วจะไปนิยมมันทำไม”
“นั่นน่ะสิ แม่แพรไม่เข้าใจคนสมัยนี้ ทำไมนิยมความเกลียด”
เทิดศักดิ์โผล่เข้ามาได้ยินสองคนพูดหัวเราะชอบใจ
“เกียรติไม่ใช่เกลียดครับ ลุงโพล้ง แม่แพร แปลว่าได้รับเกียรติเป็นที่นิยมเนื่องจาก แดงน้อยเขาเรียนเก่งมาก ได้คะแนน มากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ครับ”
สองคนปรบมือให้แดงน้อยทันที แดงน้อยยิ้มร่าอย่างมีความสุข
“แล้วคุณเทิดศักดิ์เล่า” สองคนถาม
“ผมได้คะแนนปกติ ครับ”
“เทิดศักดิ์เขากำลังจะติดดาวเป็นนายร้อยตรีครับ”
สองคนปรบมือซ้ำ
“แล้วหนูอี๊ด หนูติ๋วเล่า”
สองหนุ่มยิ้มร่า

ขณะเดียวกันนั้นที่บ้านพักของครูนฤมล โรงเรียนวีรสตรี ครูนฤมลส่งใบวุฒิมัธยมแปดให้ทั้งสาวสองคน

“วุฒิมัธยมแปดของเนื้อทอง กับทานตะวัน เอาไว้แสดงเวลาจะไปเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยหรือขั้นอุดมศึกษาที่ต้องการ” นฤมลยิ้มแย้ม
ทานตะวัน พูดอย่างอวดเก่งถือดีตามเคย “หนูคงไม่ไปเรียนต่อที่ไหนดอกค่ะ คุณป้านฤมล ไปเมืองนอกดีกว่า
โก้จะตายไป หนูจะไปเป็นสาวปารีเซียงที่ฝรั่งงเศส ใครๆ มันก็อิจฉาค่ะ”
“ใครที่ว่า คงไม่รวมเนื้อทองด้วยหรอกนะ ใช่ไหมเนื้อทอง” นฤมลเย้า

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 11/3 วันที่ 18 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager