คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 4 วันที่ 16 เม.ย. 56


อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 4 วันที่ 16 เม.ย. 56

ไผ่พญาหูตาเหลือกจ้ำอ้าวเข้าบ้านเหลียวซ้ายแลขวาอย่างระแวดระวังไม่อยากเจอใครตอนนี้เลย พลันก็สะดุ้งเมื่อได้ยินพรรษาถามภูวนัยว่า เสกสรรกลับไปแล้วหรือ

ไผ่หาที่ซ่อน เห็นประตูตรงหน้าก็ผลุบเข้าไปทันที แต่ยังแอบฟังพรรษากับภูวนัยคุยกัน ครู่หนึ่งพอทั้งสองแยกกันไป ไผ่ถอนใจอย่างโล่งอก หันมองเข้าไปในห้อง ก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นรูปขนาดเท่าตัวจริงของภูวนัยแต่งตำรวจเต็มยศหน้าเคร่งขรึม

“เฮ้ย!” ไผ่หัวใจแทบวาย มองไปรอบๆจึงรู้ว่า

ตนเข้ามาในห้องเก็บของ หายใจไม่ทันทั่วท้องก็ต้องผวาเฮือกเมื่อเห็นภูวนัยเดินเข้ามา ไผ่หลบแว้บไปแอบหลังรูป เห็นเขาเดินเข้ามายืนดูรูปตัวเอง แล้วไปปิดไฟออกไป “เว้ย...หัวใจ จะหยุดเต้น!” แล้วไผ่ก็เดินดู เห็นรูปและประกาศนียบัตรต่างๆของภูวนัยเกี่ยวกับทางราชการตำรวจวางเรียงรายเต็มไปหมด พึมพำเหมือนค้นพบสัจธรรมว่า “ถึงว่า...นายกับฉันมันไม่ถูกชะตากันจริงๆ”


เมื่อหนีตำรวจจากกรุงเทพฯ มาเจอตำรวจที่ราชบุรีอีก ไผ่คิดหนัก ในที่สุดตัดสินใจ หนีต่อ!

เวลาเดียวกัน ขิงที่ถูกพายัพขู่ฆ่าถ้าพาตัวไผ่มาไม่ได้ รีบไปหาลำไยที่กำลังตั้งวงไพ่ในครัว บอกว่าเราต้องรีบหนีถ้าเราเอาตัวไผ่พญามาให้มันไม่ได้ มีหวังถูกพายัพฆ่าตายแน่

ลำไยดวงกำลังดีเล่นมือขึ้นมีแต่ได้กับได้เชื่อว่าเจ้าที่ที่นี่อยู่ข้างตน เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมหนีไปไหน

ooooooo

เมื่อตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ไผ่เก็บของที่จำเป็น แต่เพราะมีบทเรียนจากคราวก่อนที่หนีจนหิวแทบตาย คราวนี้จึงเข้าครัวเปิดตู้เย็น กวาดทุกอย่างที่กินได้ลงถุงแล้วย่องออกไป

แต่ขณะผ่านห้องรับแขก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไผ่ตัดสินใจรับสาย พอได้ยินเสียงปลายสายไผ่อุทานตะลึง

“ไอ้งา!”

กระดังงาดีใจมากที่ติดต่อไผ่ได้ ขิงไปคว้าโทรศัพท์ขอคุยเอง แล้วละล่ำละลักเล่าเรื่องพายัพมาขู่จะเอาชีวิตลำไย ถ้าภายในสามวันพาไผ่ไปหามันไม่ได้ ไผ่ถึงกับเข่าอ่อน โทรศัพท์ร่วง

กระดังงาพยายามโทร.กลับอีกแต่สายไม่ว่างแล้ว ขิงถามว่าแล้วไผ่จะกลับมาไหม

“ฉันว่าต้องกลับ เห็นไอ้ไผ่มันอย่างนั้นก็เถอะ แต่มันรักแม่มันที่สุด”

“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะวะ” ขิงภาวนา แต่กระดังงากระวนกระวายใจเพราะเวลากระชั้นเข้ามาทุกทีแล้ว

ooooooo

ไผ่ร้อนใจหาทางที่จะไปกรุงเทพฯให้เร็วที่สุด ทันใดนั้นเสียงภูวนัยทักขึ้นว่าดึกแล้วลงมาทำอะไร

ต่อมเจ้าเล่ห์ของไผ่พญาทำงานทันที บีบน้ำตาทำเสียงเครือบอกว่าแม่ตนตายแล้ว ภูวนัยใจอ่อนยวบแสดงความเสียใจด้วย ไผ่ฉวยโอกาสเอ่ยปากขอยืมรถบอกว่าอยากกลับไปกราบศพแม่ให้เร็วที่สุด

“เดี๋ยวผมขับไปส่งคุณเอง”

เอาล่ะสิ! ไผ่คิดหาทางเลี่ยง บอกว่าไม่เป็นไร ภูวนัยมองไผ่ติงว่า

“ผมว่าสภาพคุณตอนนี้ไม่ควรขับรถ” ไผ่ต่อรองว่าให้ขับไปส่งที่ท่ารถก็ได้ ตนจะกลับกรุงเทพฯเอง “คุณจะไปขึ้นรถทัวร์ให้เสียเวลาทำไม เดี๋ยวผมขับไปส่งคุณเอง”

ถึงจะเจ้าเล่ห์แสนกลขนาดไหน เจอความมีน้ำใจที่ยัดเยียดให้ขนาดนี้ ไผ่ก็พูดไม่ออก

ฝ่ายเสกสรรมาอาละวาดที่ฟาร์มสุขกลับไปก็ถูกพรรณรายต่อว่าต่อขานว่าไปหาเรื่องกับภูวนัยทำไม บอกแล้วว่าเรื่องนี้ตนจะจัดการเองเพราะ “ภูเขาคือสามีในอนาคตของพั้นซ์นะพ่อ”

“แต่มันเป็นศัตรูของฉันในปัจจุบัน...แล้วก็จะเป็นต่อไปในอนาคต ถ้ามันไม่ย้ายฟาร์มหมูมันออกไป”

สองพ่อลูกทุ่มเถียงกันรุนแรง พรรณรายโต้ว่าพ่อต่างหากที่ต้องย้ายออกไปเพราะพ่อมาสร้างรีสอร์ตบ้านี่ทีหลัง แล้วจะให้คนที่มาอยู่ก่อนย้ายออกไปได้ยังไง

“เรื่องอย่างนี้ไม่มีก่อนมีหลัง มันอยู่ที่ใครดีใครได้” เสกสรรตะแบงอย่างเห็นแก่ได้อย่างเดียว

“พ่อก็ลองดู ยังไงหนูก็ไม่มีทางให้พ่อทำอะไรภูเด็ดขาด” พรรณรายกระทืบเท้าผละไป

จากนั้น พรรณรายไปหาภูวนัยที่ฟาร์มหมูพร้อมกระเช้าองุ่น เจอพรรษาก็เข้าประจ๋อประแจ๋บอกว่าเอาองุ่นปลูกเองที่รีสอร์ตมาฝาก ปลอดภัยและอร่อยด้วย

แต่พอรู้ว่าภูวนัยไม่อยู่ก็หน้าเจื่อน กระเช้าองุ่นแทบหลุดมือถามเสียงเครียดว่า ไปไหน

“ไม่รู้ว่าไปไหน แต่เขาไปกับครูไผ่”

พอดีม่านหมอกมาถามม่านเมฆว่า รู้ไหมครูไผ่ไปไหน ม่านเมฆบอกว่าไปกรุงเทพฯ ม่านหมอกทำเป็นนึกได้ว่า

“อ๋อ...ใช่...เมื่อวานเห็นครูไผ่บ่นๆว่าอยากช็อปปิ้ง...

วันนี้อาภูก็เลยพาครูไผ่เข้ากรุงเทพฯ...สอง-ต่อ-สอง”

พรรณรายยืนตัวสั่นด้วยความโกรธสุดๆ

ooooooo

ไผ่พญานั่งรถมากับภูวนัย เธอนั่งเครียดมาตลอดทาง คิดหาทางที่จะสลัดให้พ้นจากภูวนัย จนมาถึงวัดหนึ่งในกรุงเทพฯ พากันลงเดินหาศาลา ภูวนัยถามว่าวัดนี้ใช่ไหม ไผ่กำลังเหม่อๆตั้งหลักไม่ทันถามว่า “เอ่อ...อะไรนะ”

“ผมเห็นคุณเดินวนมาสามรอบแล้ว...ตกลงศาลาไหนกันแน่...” ไผ่กำลังจะเข้าตาจน ก็พอดีมือถือของภูวนัยดังขึ้น เขาดูเบอร์ก่อนรับสาย “ว่าไงพั้นซ์”

ไผ่เห็นภูวนัยพูดโทรศัพท์ก็ได้โอกาสหลบแว้บไป พอภูวนัยคุยโทรศัพท์เสร็จหันมา ปรากฏว่าไผ่หายไปแล้ว

“เฮ้อ...หนีมาได้ซะที” ไผ่โผล่ออกมาจากหลังต้นไม้

“หนีอะไรมาเหรอพี่” เสียงเด็กวัดเหลือขอคนหนึ่งถามขึ้น ไผ่ตกใจหันมอง เด็กนั่นแบมือ “ขอเงินหน่อย”

ไผ่บอกไม่มี ไล่ให้ไปที่อื่นเลย เด็กนั่นโวยทันทีว่าไม่มีอะไร เห็นเพิ่งขโมยเงินผ้าป่าไป พอไผ่ปฏิเสธเด็กนั่นเอียงคอมองถามว่า “งั้นน้าหนีอะไรมา”

“พูดไม่รู้เรื่องรึไง...ไปเลย เดี๋ยวตบตายชัก”

“ได้...งั้นผมจะบอกน้าคนนั้น” เด็กชี้ไปข้างหลังไผ่ พอไผ่หันมองก็ตาเหลือกเพราะภูวนัยกำลังเดินลิ่วมา ไผ่รีบควักเงินออกมา มีทั้งใบละร้อยและใบละยี่สิบ ไผ่หยิบใบละยี่สิบให้ ไล่ให้รีบไปเลย เด็กนั่นส่ายหน้า ตาจ้องเป๋งที่ใบละร้อย ไผ่อยากตบกะโหลกมันจริงๆ เลยตัดใจให้ไป พอรับเงินเด็กเวรนั่นก็วิ่งอ้าวไปเลย ไผ่รู้ว่าภูวนัยกำลังเดินตรงมาก็แกล้งตะโกน

“ตั้งใจเรียนหนังสือนะ” ภูวนัยเดินมาถึงพอดีถามว่าทำอะไร ไผ่ทำไก๋บอกว่า “อ้าว...ฉันเห็นคุณคุยโทรศัพท์ ฉันก็เลยเดินออกมาหาศาลาไง”

ภูวนัยชี้ไปที่ศาลาหนึ่ง เป็นศาลาเดียวที่กำลังมีงานบอกว่าน่าจะใช่ ไผ่รีบขอบคุณพยายามให้เขากลับไปก่อน

“ไหนๆก็มาแล้ว ผมขอเข้าไปกราบคุณแม่คุณหน่อยแล้วกัน” พูดแล้วเดินนำไปเลย

“หา!!” ไผ่ปวดหัว จะทำยังไงดี สุดท้าย ตกกระไดพลอยโจน ตีหน้าเศร้าขึ้นไปบนศาลาร้องไห้คร่ำครวญ “แม่...แม่จ๋า...” ทำเอาผู้คนงงกันไปทั้งศาลา ครู่หนึ่งมีหญิงสูงอายุคนหนึ่งเดินมาหาไผ่

“เดี๋ยวๆ...คุณเรียกใครว่าแม่”

ไผ่ยังหลับหูหลับตาบีบน้ำตาคร่ำครวญ จนมีชายอีกคนเดินมาสะกิด

“เอ่อ...ผมว่าคุณคงมีอะไรผิดพลาดแล้วล่ะครับ เพราะคนที่อยู่ในนั้น เป็นพ่อของพวกเรา”

ไผ่อึ้ง แต่ยังดราม่าต่อได้อย่างมืออาชีพ “ก็ถูกแล้วไง...หนูน่ะ เรียกท่านว่าแม่มาตั้งแต่เด็ก...เพราะอะไร...ทุกคนรู้ไหม” ไผ่บีบน้ำตาเป็นเผาเต่า “เพราะหนูไม่มีแม่ไงคะ ท่านกับแม่ของหนู แต่งงานกันด้วยความรัก จนมีลูก แต่เพราะหนู...ทำให้แม่จริงๆต้องเสียไป...ตั้งแต่นั้น ท่านก็เลี้ยงดูหนูตลอดมา แล้วด้วยความที่ท่านกลัวว่าหนูจะขาดความอบอุ่น จะมีปมด้อยกับคำว่าแม่...ท่านจึงให้หนูเรียกท่านว่าแม่ค่ะ...”

หญิงสูงอายุที่เข้ามาถามคนแรก หน้าเครียดทันทีคิดว่าไผ่เป็นลูกเมียน้อยที่ผัวตัวเองไปเที่ยวไข่ทิ้งไว้ พลันก็ทำท่าหายใจติดขัดจะเป็นลม ญาติๆต้องช่วยกันปลอบให้ทำใจดีๆไว้

“มานี่!” ภูวนัยเดาสถานการณ์ออก เข้าไปลากตัวไผ่ออกจากศาลาทันที ไผ่ถามว่าดึงตนออกมาทำไม “แล้วคุณอยากเห็นงานศพของอีกคนรึไง ขืนคุณอยู่ต่อ ผู้หญิงคนนั้นต้องตายเพราะรู้ความจริงว่าสามีเขานอกใจแน่ๆ”

แม้จะเสียใจที่ทำให้ป้าคนนั้นเสียใจจนจะเป็นลม แต่ไผ่ก็แอบดีใจที่เห็นภูวนัยเชื่อสนิท ระหว่างนั้นมือถือของภูวนัยดังขึ้น เขาดูเบอร์แล้วถามไผ่ว่าจะกลับเมื่อไร ตนต้องไปทำธุระหน่อย ไผ่ดีใจบอกเขาให้ไปเลย ตนอยู่ได้ ถ้าไม่มีอะไรพรุ่งนี้ก็คงกลับ

“ถ้างั้นคุณโทร.บอกผมแล้วกัน” เขาทำท่าจะพูดอะไรอีกแต่ก็ไม่พูดแล้วเดินไปเลย

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 4 วันที่ 16 เม.ย. 56

คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็ง
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ