อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 8 วันที่ 9 เม.ย. 56


อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 8 วันที่ 9 เม.ย. 56

ไข่มุกไม่พอใจการกระทำของคีรินทร์และมาระบายออกกับการสอนเต้นในคลาสฟิตเนสอย่าง

บ้าคลั่ง พวกกีกี้เห็นแล้วขยาดไม่กล้าเข้าใกล้ ขนาดคีรินทร์ที่เยี่ยมหน้ามาหวังง้องอนก็โดนเธอจับทุ่มหลังแทบหัก

คีรินทร์รู้ว่าไข่มุกโกรธจริงแต่ยังไม่รู้จะง้อวิธีไหนเลยต้องปล่อยเธอไปก่อน ไข่มุกเดินน้ำตาคลอออกมามุมหนึ่งของโรงแรม จินจูผ่านมาเห็นเดินเข้ามานั่งข้างๆ ทักว่าไม่ได้เจอหนูหลายวันเป็นอย่างไรบ้าง ไข่มุกเงยหน้าทั้งน้ำตา จินจูเห็นแล้วชะงักไปนิดก่อนลูบศีรษะเธอเบาๆ บอกว่าตนอยากไปเที่ยวพาไปหน่อยได้ไหม


“ได้ค่ะ หนูกำลังอยากไปเหมือนกัน เราไปที่ไกลๆ

เลยนะคะ เดี๋ยวหนูพาไปเอง”

ไข่มุกยิ้มทั้งน้ำตา จินจูยิ้มรับจางๆ แล้วพากันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะร่มรื่น พูดคุยกันถึงปัญหาที่ไข่มุกกำลังเผชิญ ซึ่งจินจูให้กำลังใจอย่างคนที่ผ่านชีวิตมามากกว่า

“ชีวิตมันยากอย่างนี้แหละ บางเรื่องก็หนักกว่าที่คิด แต่บางทีก็ดีกว่าที่เรานึก เชื่อฉันเถอะลูกไก่ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปเอง ไม่มีใครที่แย่ตลอดไปหรือดีตลอดไปหรอก แต่ไม่ว่าจะดีหรือร้าย...สุดท้ายเราก็จะผ่านมันไปได้”

ไข่มุกซึ้งใจเอ่ยปากขอกอดจินจู...จินจูไม่ตอบแต่ดึงสาวน้อยเข้ามากอดและลูบศีรษะอย่างเอ็นดู ไข่มุกสะอื้น รำพันด้วยความน้อยใจ

“หนูพยายามทำดีที่สุดแล้ว ทำไมเขาถึงยังเป็นแบบนี้ ทำไมไม่นึกถึงจิตใจกันบ้างเลย”

“นี่แหละผู้ชาย เวลาดีก็ทำให้เรามีความสุขเหลือเกิน แต่เวลาใจร้าย...ก็เหมือนฆ่าเราทั้งเป็น”

จินจูให้กำลังใจไข่มุกในขณะที่ตัวเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน...หลังจากนั้นไข่มุกกลับเข้าบ้าน เป็นเวลาที่นุชนารถประกาศตัวต่อหน้าทุกคนว่าเธอเป็นเมียคีรินทร์

ชลลดากับภัททิมาไม่พอใจทุ่มเถียงกับนุชนารถไปมาโดยมีคีรินทร์และมณีอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

“ได้ยังไง ลูกฉันเป็นเมียคุณรินทร์อยู่ เธอจะมาเป็นอีกคนหรือไง หน้าด้าน คิดจะออลอินวันเหมาหมดทั้งพยาบาลทั้งเมียใช่มั้ย” ชลลดาแว้ดใส่อย่างไม่ยอม

“ใช่ ฉันทำได้ทั้งสองอย่าง และทำได้ดีด้วย ไม่เชื่อก็ถามคุณรินทร์กับหนูนาสิ”

“อ๋อ...ทำกร่างล่ะสิ สำคัญตัวผิดหรือเปล่า” ภัททิมายิ้มเย้ย แต่แล้วหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อโดนนุชนารถตอกกลับอย่างแรง

“อย่างน้อยก็สำคัญกว่าพวกอ่อยให้ตายเขาก็ไม่เอา”

ภัททิมาโกรธจ้องหน้านุชนารถเขม็ง...ไข่มุกมองคีรินทร์แต่เขายังนิ่งไม่ออกความเห็นใดๆ ชลลดาทน

ไม่ไหวโวยวายว่ายังไงตนก็ไม่ยอม รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เมียสองคนในบ้านเดียวกัน มณีซึ่งชังน้ำหน้าชลลดาอยู่แล้วปรามขึ้นมาเสียงเขียว

“โอ๊ย...จะโวยไปทำไม นิสัยผู้ดีไม่รู้จักเหรอ พูดค่อยๆก็ได้ เรื่องของเด็กๆ ผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว ลูกฉันเป็นเมียแต่ง ต้องถามก่อน ใช่ไหมลูกไก่ บอกมาเลยว่าไม่เอาแม่นี่”

ไข่มุกมองทุกคนแล้วเดินออกไปเงียบๆ ชลลดาเรียกเสียงหลงให้กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน แต่ไข่มุกไม่สน ไม่เหลียวหลังกลับมาเพราะเคืองคีรินทร์ที่ไม่จัดการอะไรเลย กระทั่งค่ำลงคีรินทร์ย่องเข้ามาในห้องนอน ทำทีเอาใจจะหวีผมให้ไข่มุก แต่โดนปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบทำเอาใจฝ่อ พยายามอ้อล้อหว่านล้อม

“อย่าโกรธฉันเลย นุชเคยเป็นเมียฉันมาก่อน เขาเองก็ไม่มีใคร ถ้าไม่รับผิดชอบก็ทำร้ายจิตใจกันเกินไป แต่ยังไงเธอก็สำคัญที่สุดนะ”

“ไม่ต้องอ้างเรื่องรับผิดชอบหรอก คุณต่างหากที่เป็นคนมักมาก เอาแต่ใจ ไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น คิดแต่ประโยชน์ของตัวเอง ไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง แล้วก็ไม่ต้องบอกว่าฉันสำคัญที่สุดด้วย ถ้าสำคัญจริง คุณต้องไม่ทำแบบนี้”

“เธอก็เอาแต่ว่าฉัน ตัวเองทำหน้าที่เมียสมบูรณ์หรือเปล่าล่ะ ที่ฉันเป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอนั่นแหละ เมียคนเดียวยังกอดไม่ได้ ตัวเลือกฉันมีเยอะแยะ ไม่เห็นต้องแคร์เธอเลย”

“คุณกำลังบ่ายเบี่ยงนะ คุณเองก็ไม่ให้เกียรติฉัน ไม่ให้เกียรติผู้หญิงทุกคนในชีวิตคุณ ปัญหาที่มันคาราคาซังยืดเยื้อเป็นเพราะคุณไม่ใช่ฉัน”

“นี่เธอว่าฉันเหรอยายลูกไก่” คีรินทร์เริ่มโมโห พลันประตูเปิดออก นุชนารถเดินเข้ามาควงแขนและโอบเอวคีรินทร์พลางยิ้มยั่วไข่มุก

“เสียงดังอะไรกันคะ ไปเถอะคุณรินทร์ ไปนอนห้องนุชนะ อย่าอยู่ที่นี่นานๆเลยค่ะ เหม็นของเก่าเก็บ”

คีรินทร์มองหน้าไข่มุกแล้วเดินออกมาด้วยความโมโห นุชนารถยิ้มเย้ยซ้ำอีกทีก่อนเชิดหน้าจากไป ไข่มุกเสียใจและเจ็บใจน้ำตาไหลพราก ทรุดลงสะอื้นบนเตียงนอนอย่างเดียวดาย

หลังจากประกาศตัวในบ้านไปแล้วเมื่อวาน เช้าวันนี้นุชนารถเดินหน้าต่อด้วยการใช้หนูนาบังหน้าพาไปโรงแรม หมายเปิดตัวว่าตนก็เป็นเมียคนหนึ่งของ

คีรินทร์ หนูนาไม่รู้อะไรดีใจยกใหญ่เมื่อได้เห็นโรงแรมสวยๆของครอบครัว แต่คีรินทร์กับไข่มุกรู้ทันว่านุชนารถคิดอะไร ไข่มุกจึงงอนใส่คีรินทร์ที่ไม่ว่านุชนารถสักคำ

คีรินทร์รีบก้าวตามไข่มุกที่เดินหนีไปด้วยความเสียใจ คว้าแขนเธอไว้ไม่ให้หนีไปไหน

“ปล่อยค่ะ ฉันไม่อยากยุ่งกับคนอย่างคุณอีกแล้ว สนุกใช่ไหมคะ ที่ทำให้คนอื่นเสียใจได้”

“แล้วเธอจะรีบไปไหน ไปหากิ๊กหรือไง อย่างี่เง่าน่า”

ไข่มุกสะบัดวิ่งหนีออกมาด้านนอก คีรินทร์ไม่ลดละ คธาเดินมาหยุดดูทั้งคู่อยู่เงียบๆ

“คุณน่ะแหละงี่เง่า...ปล่อย” เธอสะบัดหนีไปจนได้ คีรินทร์ฮึดฮัดเตะลมแล้งระบายอารมณ์ บ่นอย่างหงุดหงิด

“ผู้หญิงก็อย่างนี้ ขี้งอนทั้งปี ไม่ได้ดั่งใจก็เดินหนี...ยายลูกไก่บ้าเอ๊ย”

“รู้อย่างนี้แล้วก็ต้องถนอมน้ำใจหน่อยนะครับ ภรรยาคุณทั้งคน อย่าทำให้เสียใจเลย” คธาเข้ามาเตือนแล้วผละไป ทิ้งคีรินทร์ยืนอึ้งครุ่นคิดตาม...

นอกจากเตือนคีรินทร์แล้วคธายังมาปลอบใจไข่มุกและชวนเธอหัดเล่นเปียโนเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ จินจูกำลังคุยงานกับผู้อำนวยการสร้างหนังไทยได้ยินเสียงเพลงจากก็นึกรู้ว่าเป็นคธา ครั้นผู้ร่วมสนทนาของเธอเหลือบไปเห็นคธาเข้าก็รีบชวนจินจูไปทักทายอย่างคุ้นเคย คธาเองก็จำเขาได้ ยกมือไหว้นอบน้อม

“สวัสดีครับผู้อำนวยการ ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีไหมครับ”

“ก็สบายตามปกติครับ นี่คุณจินจู เคยเจอกันมาแล้วนี่ จำได้ไหมครับตอนที่คุณคธามาสอนร้องเพลงให้ไง”

“เหรอคะ แต่มันนานมากแล้ว จำไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะ” จินจูสบตาคธาอย่างเย็นชา

“อ้าว นี่คุณอารู้จักคุณจินจูมาก่อนเหรอคะ ไม่เห็นบอกกันเลย ปล่อยให้หนูโม้ตั้งนาน” ไข่มุกยิ้มหวานรอคำตอบจากคธา ซึ่งเขาบอกว่านานมาแล้วจำไม่ได้

“ผู้ชายนี่ลืมง่ายจังนะ” จินจูสวนนิ่มๆ แต่สายตาเชือดเฉือนคธา

“แต่ผมว่าผู้หญิงลืมเก่งกว่า ทั้งลืมทั้งเปลี่ยนไป” คธาเอาคืนด้วยสีหน้าท่าทีเดียวกัน ผู้อำนวยการสร้างหนังเห็นท่าไม่ดีรีบเปลี่ยนเรื่อง

“สงสัยต่างคนต่างลืมจริงๆ เพราะมันยี่สิบกว่าปีแล้วนี่นะ นี่คุณคธา ผมกำลังจะทำหนังฟอร์มยักษ์ร่วมทุนไทยเกาหลี สนใจมาร่วมงานด้วยไหมครับ ผมอยากได้คนมีประสบการณ์มาช่วยทำเพลงประกอบ”

“อย่าดีกว่าครับ ผมคงมีความสามารถไม่พอที่จะร่วมงานกับดาราดังหรอกครับ คงต้องเป็นคนอื่น ขอโทษนะครับ”

คำตอบนั้นทำให้คนถามนิ่งไปอย่างเสียดาย...ไข่มุกมองจินจูกับคธาด้วยแววตาสงสัยแต่ไม่กล้าพูดอะไร

ขณะเดียวกันที่ห้องทำงานคีรินทร์ ภัททิมาชงกาแฟมาให้เจ้านายแต่ไม่ยอมชงให้นุชนารถที่ยังเชิดหน้าวางตัวกร่างอยู่ด้วย เมื่ออีกฝ่ายใช้สิทธิ์ความเป็นเมียคีรินทร์ออกคำสั่งจึงเกิดการทะเลาะกันลั่นจนคีรินทร์แอบหนีออกจากห้องด้วยความรำคาญ

คีรินทร์วิ่งออกมาฉุดมือไข่มุกที่กำลังคุยอยู่กับ

จินจูให้ไปด้วยกันก่อนที่ภัททิมากับนุชนารถจะตามทัน ไข่มุกงงแต่ก็ยอมให้เขาฉุดมือไปเพราะเห็นสองสาวกำลังวิ่งตรงมา จินจูมองทุกคนแล้วส่ายหน้าน้อยๆก่อนเดินเลี่ยงไป ปล่อยให้สาวๆของคีรินทร์ทุ่มเถียงกันอยู่ตรงนั้นตามสบาย

คืนนั้น คีรินทร์ง้องอนไข่มุกจนได้กลับมานอนห้องเดียวกันเหมือนเดิม แต่ไม่ทันไรนุชนารถก็มาตามเขาจะเอาตัวกลับไปให้ได้ คีรินทร์แกล้งนอนคลุมโปงไม่พูดไม่จาหลับตาแน่น ไม่ว่าถูกเขย่าตัวขนาดไหนก็ไม่ลุก ที่สุดนุชนารถก็กรี๊ดออกมาอย่างแค้นใจ

“คุณรินทร์...คุณทำแบบนี้อยากให้นุชตายใช่มั้ย คิดจะทิ้งนุช อยากเห็นนุชเป็นบ้าใช่มั้ย”

“อืม...บอกด้วยแล้วกันว่าจะเผาวัดไหน กับข้าวเลี้ยงอะไร ตั้งศพกี่คืน”

“ได้ งั้นฉันจะตายให้ดู” ว่าแล้วเธอผลุนผลันออกจากห้องไปเอาคัตเตอร์กรีดแขนตัวเอง หนูนาเห็นเข้าก็ร้องกรี๊ดจนคนในบ้านตกอกตกใจ

คีรินทร์พานุชนารถส่งโรงพยาบาล หมอทำแผลแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก คัตเตอร์ไม่ได้ลงลึก ควรนอนให้น้ำเกลือสักคืน และกินยาคลายเครียด พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้

หมอออกจากห้องไปแล้ว นุชนารถทำท่าจะอ้อนคีรินทร์ แต่เห็นสายตาเย็นชาของเขาก็เลยเปลี่ยนเป็นประชดประชัน “ขอโทษนะที่ไม่ได้ตายสมใจคุณ”

“เลิกเล่นละครได้แล้วนุช อย่านึกว่าผมไม่รู้นะ ที่คุณทำแค่เรียกร้องความสนใจ ไม่ได้จะตั้งใจตายจริงหรอก คุณเป็นพยาบาล ถ้าอยากตายจริงคงกรีดเส้นเลือดใหญ่ไปแล้ว”

“คุณหาว่านุชแกล้งทำเหรอ”

“ช่างมันเถอะ คุณนอนพักแล้วกัน” คีรินทร์พูดจบก็เดินออกจากห้อง นุชนารถมองตามแววตาทั้งรักทั้งแค้น

ooooooo

นักสืบที่แทยอนจ้างวานตามไปถึงบ้านวันดี แต่ก็จุดไต้ตำตอเพราะไม่รู้จักหน้าค่าตา พูดคุยซักถามจนได้ความว่าวันดีตายนานแล้วโดนรถชนตายพร้อมลูก

วันดีโกหกนักสืบแล้วเดินหนีอย่างนึกกลัว เมื่อแท–ยอนได้รับแจ้งก็บอกต่อจินจูขณะนั่งอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้ว่าคธาจับตามองอยู่ห่างๆอย่างเศร้าใจ

“ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ยองแอ..ยองแอตายแล้ว” จินจูคร่ำครวญทั้งน้ำตา แทยอนสงสารดึงเธอมากอดพลางลูบศีรษะเธอด้วยความรักสุดซึ้ง

“อาจจะมีอะไรผิดพลาดก็ได้ ขอทานที่ชื่อวันดีคงไม่ได้มีคนเดียว ผมไม่เชื่อหรอกว่ายองแอจะตายไปแล้ว ยองแอยังมีชีวิต เขายังรอคุณอยู่ เราต้องมีความหวังนะจินจู”

จินจูปาดน้ำตา สบตาแทยอนอย่างขอบคุณ คธามองมาสีหน้าหมองเศร้าด้วยความเจ็บปวด พอหันกลับไปก็เจอไข่มุกเข็นรถหนูนา สองฝ่ายหาที่นั่งคุยกันครู่หนึ่ง หนูนาเห็นจินจูกับแทยอนเดินผ่านรีบสะกิดไข่มุกให้ดูดาราในดวงใจ คธามองคนทั้งคู่หน้าเศร้า ไข่มุกจับสังเกตแล้วถามเขาว่าไม่ชอบจินจูหรือ?

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ”

“ก็คราวที่แล้วที่เจอกัน ท่าทางคุณอาดูไม่ค่อยชอบ หรือว่าเคยทะเลาะกันตอนร่วมงานมาก่อนเหรอคะ ทำไมถึงดูเหมือนต่างคนต่างมีอะไรในใจที่ไม่ถูกกัน”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้” คธาตอบเสียงแผ่ว ไข่มุกมองอย่างสงสารปนสงสัย...

ที่โรงพยาบาล นุชนารถรอคีรินทร์มารับกลับบ้าน พอช้อยมาแทนก็เลยฉุนเฉียวไม่พอใจ โทร.เข้ามือถือเขาก็ติดต่อไม่ได้เลยบุกไปถึงโรงแรม พรวดพราดมากลางห้องประชุมโดยไม่ฟังเสียงห้ามปรามของภัททิมา

คีรินทร์อับอายผู้ร่วมประชุม ไล่นุชนารถกลับบ้านแต่ถ้าเธอไม่ยอมก็จะให้ รปภ.มาลาก นุชนารถเจ็บใจสุดๆ ผลุนผลันออกมาโดยมีสายตาเยาะเย้ยของภัททิมาจิกตามอย่างสะใจ

เย็นนั้น จินจูเผลอตัวแสดงท่าทีหมางเมินใส่คธาต่อหน้าไข่มุกอีกครั้ง โดยคีรินทร์กับหนูนาก็อยู่ด้วย เมื่อจินจูบ่นปวดหัวขอตัวขึ้นห้องไปพักผ่อน สองสามีภรรยาจึงพูดคุยด้วยเรื่องของเธอกับคธา ซึ่งคีรินทร์คาดว่าพวกเขาเคยเป็นแฟนกัน คงจะมีอดีตไม่ค่อยดี เจอหน้าก็เลยเชิดใส่กัน ไข่มุกคล้อยตามแต่แปลกใจว่าเขารู้ได้ยังไง

“มือชั้นนี้แล้ว...ประสบการณ์เยอะ แค่มองก็รู้แล้ว”

“ค่ะ คนเก่ง แล้วคุณคิดว่าคุณคิมจะรู้ไหมคะ”

“ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คงจะรอดูท่าทีว่าสองคนนั้นจะเอายังไงต่อไป ผู้ชายสมัยนี้ไม่โง่นะ ขืนทำโวยกระโตก กระตากไป ดีไม่ดีเขาเลยไปคืนดีกัน ได้ซวยไป”

“ก็เป็นไปได้นะคะ ท่าทางแปลกขนาดนั้น ไม่รู้ก็ต้องสะกิดใจบ้าง”

“สามีเธอเก่งมั้ย มามะ ให้รางวัลกันหน่อย” คีรินทร์เอียงหน้าหอมแก้มไข่มุก หนูนาหัวเราะชอบใจที่พี่ชายกับพี่สะใภ้กุ๊กกิ๊กกัน

กลับเข้าบ้านค่ำนั้น คีรินทร์ได้รับตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีจากเขมทัตให้ไปคุยธุรกิจร่วมทุนโรงแรมและให้พาไข่มุกไปด้วยเพื่อดูงานฟิตเนสเอามาปรับปรุงโรงแรมของเราที่เมืองไทย ชลลดากับภัททิมาอยากไปด้วย อ้างโน่นนี่สารพัดแต่ถูกมณีเบรกหัวทิ่มหัวตำไม่ยอมท่าเดียว

“ไปคราวนี้อย่าลืมเอาหลานกลับมาฝากด้วยล่ะ อย่ามัวแต่ทำงานเพลิน ดูแลเมียดีๆ เดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่มีน้ำยานะรินทร์” เขมทัตเปิดทางเต็มที่

“นี่ใครครับพ่อ นี่คีรินทร์ลูกพ่อเชียวนะ รับรองว่ากลับมาคราวนี้เมียผมได้ป่องมาแน่นอน กะว่าจะผลิตน้องโซลแฝดเลย”

นุชนารถที่นั่งเงียบมานานทำแก้วน้ำตกลงพื้นแตกกระจายจนทุกคนหันมองเป็นตาเดียว เธอจ้องหน้าคีรินทร์ถมึงทึง แววตาแข็งกร้าวน่ากลัว ลุกออกจากวงสนทนาไปเงียบๆแล้วโทร.สั่งการใครบางคนด้วยสีหน้าแค้นจัดโดยไม่สนใจว่าหนูนาแอบมองอยู่

รุ่งขึ้น ขณะคีรินทร์กับไข่มุกเดินทางไปสนามบินมีคนร้ายดักยิงจนรถคว่ำแต่ทั้งคู่ไม่เป็นอะไร เขมทัตกับวัฒนาตกใจรุดมายังที่เกิดเหตุและดูแลทางนี้แทน เพราะคีรินทร์ยืนยันเดินทางไปเกาหลีเที่ยวบินเดิม

ถึงเกาหลี คีิรินทร์ปลอบขวัญไข่มุกด้วยการพาเที่ยวชมเอเวอร์แลนด์สวนสนุกยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ไข่มุกเคยเที่ยวแต่งานวัด ตื่นตาตื่นใจและเล่นเครื่องเล่นโลดโผนหวาดเสียวที่คีรินทร์เห็นแล้วขยาด แอบบ่นเธอว่าเล่นไปได้ยังไง

หลังจากเที่ยวเล่นและถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานตลอดวัน ตกกลางคืนสถานที่ยิ่งสวยงามประดับประดาด้วยไฟหลากสีสัน ไข่มุกชอบมากรู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป

“ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่พาฉันมาที่นี่ มันสวยเหมือนอยู่ในความฝันเลย”

“แล้วเธอมีความสุขหรือเปล่า”

“ค่ะ มีความสุขมากที่สุด”

“งั้นก็ไม่ต้องขอบคุณ หน้าที่ของสามีคือทำให้ภรรยามีความสุขอยู่แล้ว”

คีรินทร์ดึงเธอเข้ามากอด ไข่มุกกอดตอบซุกหน้าเข้าหา ทำท่าเหมือนจะบอกรักแต่ไม่กล้าพูด บอกผ่านทางสายตา คีรินทร์มองตอบด้วยแววตาแบบเดียวกัน ค่อยๆก้มลงสัมผัสริมฝีปากเธออย่างนุ่มนวล

ooooooo

อ่านละคร มายาสีมุก ตอนที่ 8 วันที่ 9 เม.ย. 56

ละคร มายาสีมุกบทประพันธ์ : ทวิตา
ละคร มายาสีมุกบทโทรทัศน์ : เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ, เทอดโชค เกียรติสุขเกษม, จุฑามาศ สาคร
ละคร มายาสีมุกกำกับการแสดง : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ละคร มายาสีมุกแนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละคร มายาสีมุกผลิต : บริษัท กันตนา
ติดตามชมละคร มายาสีมุก ได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ