อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 12/5 วันที่ 22 เม.ย. 56
“แล้วหนูเล่า รักแม่บ้างไหม ทำไมเชื่อคนอื่นมากว่าแม่ บอกมาต่อหน้าพ่อกับแม่สิว่าเรื่องการไปพายเรือเล่น นี่หนูคิดเองหรือมีใครวางแผนให้สองคนจ้องหน้าลูกสาวแสบ ทานตะวันเอาแต่ส่ายหน้า
“ถ้าหนูไม่บอกความจริง พ่อจะถือว่าหนูวางแผนเองทั้งหมดและพ่อจะลงโทษหนู”
“คุณพ่อ”
“ลูกเกือบทำให้พ่อเป็นฆาตกรเพราะรักลูก เมื่อพ่อทราบความจริง พ่อต้องลงโทษลูกเพื่อไม่ให้ทำเรื่องเช่นนี้ต่อไป”
“รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตีจ้ะ” เรียมบอก
“คุณพ่อจะตีหนู”
“แน่นอน..เว้นเสียว่าลูกจะบอกพ่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร”
ทานตะวันร้องไห้ไปกอดท่านขุน ส่ายหน้าไปมา เรียมหันไปคว้าก้านมะยมกำใหญ่มาถือท่าทีเอาจริง
“หนูจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้อีก หนูไม่ยอมโดนตีด้วยก้านมะยมดอกค่ะ คุณพ่อ...คุณแม่”
สองคนมองหน้ากัน พยักหน้า
“ดีมากลูกรัก”
ทานตะวันเริ่มเล่า
วันต่อมาเทิดศักดิ์กำลังต่อว่าสน ส่วนช้อยรู้แกวพยายามจะเลี่ยง แต่เจอเรียกไว้
“เวรกรรมตามทันคนทำผิดทั้งนั้นไม่ว่าจะพยายามซ่อนเร้นปิดบัง แค่ไหนก็ไม่อาจหลีกพ้นกรรมได้ เรื่องที่เกิดขึ้นร้ายแรงมาก และผมจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นกับใครที่นี่อีก ผมจับทันทีจำไว้”
“นี่แม่นะ แกกำลังจะมาขู่เข็ญว่าแม่ทำผิดอะไรให้ได้ใช่ไหม”
“มาเตือนสติ มายับยั้งผม ไม่อยากจับแม่ จับญาติจับคนในบ้านตัวเองเข้าตะรางครับคุณแม่สน”
ช้อยกำลังจะเลี่ยง
“ยัยช้อย ฉันกำลังพูดด้วยไม่ได้ยินหรือ หรือว่าอยากจะลองดีกับฉัน”
“ไม่บังอาจดอกเจ้าค่ะ”
“เรื่องนายแช่มนั่น ฉันยังไม่เคยพูดว่าที่แท้มันก็ลูกของช้อย หนีทหารแต่เอามาตบตาว่าเป็นญาติคุณแม่สน เขามีความผิดไม่น้อย และอาจมากกว่านั้น ระวังเถิดจะโดนจับ ตอนนี้ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครในบ้านรู้ เพราะแม่ของฉันคือผู้ช่วยเหลือนายแช่ม แต่แค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะครับคุณแม่สน”
เทิดศักดิ์ซึ่งใส่ชุดตำรวจลงเรือนไป สนหันมาด่าช้อย
“เอ็งทำให้ข้าโดนลูกชายด่า”
“ด่าช้อยตะหากค่ะ ว๊าย วันนี้วันอะไรหนอ มาอีกรายแล้วเจ้าค่ะ หน้าตาราวกับจะมาฆ่าแกงใครกิน”
สนชะโงกมองตามไปแต่ต้องตาเหลือก
“พี่ขุน”
สนหน้าเสีย
“คุณหนูอี๊ด ปัสสาวะมาให้คุณสนแน่ๆ ค่ะ” ช้อยมั่นใจ
“อีงูพิษ”
สองคนเตรียมตัวรับท่านขุน ช้อยจะหนีสนกระชากไว้ ขุนภักดีเดินขึ้นมาหน้าบึ้งตึง
“บังอาจนัก มาสอนลูกฉันให้เป็นโจรใจดำอำมหิต”
สนนิ่ง ช้อยสั่นไปหมดทั้งตัว
ด้านเนียนกับเนื้อทองค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว เนียนทายาให้ลูกปากก็พูดไป
“แม่มีเรื่องจะขอหนู แต่แม่รู้ว่ามันยากที่หนูจะให้”
“หนูให้แม่ได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งชีวิตของหนู แม่จะขออะไรหนูจ๊ะ”
“ขอให้หนูอภัยให้คุณหนูอี๊ดกับท่านขุน”
เนื้อทองนิ่งไปเงียบสนิท เนียนน้ำตาคลอ เนื้อทองก็น้ำตาคลอ พอดีแดงน้อยเดินเข้ามาดูอาการ
“สวัสดีครับ น้าเนียน สวัสดีครับ น้องติ๋ว ค่อยยังชั่วกันหรือยังครับ”
“ค่ะ” สองคนบอก
“ขอบคุณมากค่ะ” เนียนมองเพ่ง “เอ๊ะ แต่งตัวหิ้วกระเป๋ามาด้วย จะเอ้อ…”
“ครับ ผมจะกลับบางกอกครับ”
เนียนเผลอตัว “โธ่ จะจากกันไปแล้วหรือนี่”
เนื้อทองอธิบาย “พี่แดงน้อยเขาต้องไปเตรียมตัวเรื่องเรียนต่อต่างประเทศจ้ะแม่”
เนียนน้ำตาร่วงพรู
“แม่จ๋า” เนื้อทองตกใจ
“น้าเนียน เป็นอะไรครับ” แดงน้อยก็ตกใจ
เนียนรู้ตัว “เอ้อ...คือน้าคิดถึงลูกชายของน้า”
เนื้อทองตกใจไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน “แม่”
“เนื้อทองมีพี่ชายหรือครับ”
“ใช่จ้ะ”
“เอ้อ ... เขาไปไหนแล้วครับ”
“เอ้อ เอ้อ....”
แล้วเนียนก็สุดกลั้นไว้ได้ ร้องไห้มากขึ้นมือไม้สั่น อยากจะจับอยากจะโอบกอดแดงน้อยใจแทบขาด
“แม่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับหนูมาก่อนว่าหนูมีพี่ชาย”
“เรื่องบางอย่างแม่ไม่อยากพูดถึง พูดแล้วมันตื้นตันใจ อยากแต่จะร้องไห้คุณแดงน้อยขา น้าเห็นหน้าคุณทีไรใจหายคิดถึงลูกชายที่พลัดพรากจากกันมานานมากร่วมยี่สิบกว่าปีทุกที”
“ถ้าเช่านั้น น้าเนียนให้ผมเป็นลูกแทนเขาสิครับ นะครับ แม่เนียน”
เนียนปลื้มปิติจนเหลือเอ่ยมือสั่นยื่นไปจะโอบแดงน้อยแล้วชะงัก
“ลูกเอ๊ย..คุณแดงน้อยไม่รังเกียจน้าหรือคะ น้าเป็นคนรับใช้เท่านั้น”
“แม่ผมจะเป็นใครก็ได้ขอให้เป็นแม่ผม ผมก็รักใคร่เคารพเทิดทูนไว้เหนือหัวจนวันตายครับ แม่เนียน กอดลูกสิครับ แม่เนียน กอดให้หายคิดถึง”
“แดงน้อยลูกรักของแม่ แดงน้อยของแม่”
เนียนโผเข้ากอดแดงน้อย กอดแนบแน่น แดงน้อยโอบกอดตอบ เนียนพร่ำรำพัน มีเนื้อทองมองน้ำตาคลอตื้นตันใจกับความสุขของแม่
“ผมมีความสุขเหลือเกินครับแม่เนียน อ้อมกอดของแม่ช่างอบอุ่นบ่งบอกถึงความรักที่มีต่อผม อย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน”
“แม่ก็เช่นกันลูกรัก แดงน้อยรู้ไหมว่า ลูกชายของแม่คนนั้น เขาเหมือนแดงน้อยราวกับคนเดียวกัน”
“แม่ในฝันของผมก็ช่างหน้าตาเหมือนน้าเนียนราวกับคนเดียวกันครับ”
เนื้อทองนั่งยิ้มมองสองคน
อี๊ดแอบมองเนียนกับแดงน้อยกอดกัน
“อีเนียนจะเอาพี่แดงน้อยเป็นชู้ หนอยแน่ะ นึกว่าจะแย่งพี่แดงน้อยไว้ให้อีติ๋ว ที่แท้ก็จะเอาเสียเอง อีไก่แก่แม่ปลาช่อน มีผัวมาหลายคนก็ไม่อิ่มสักที คิดจะแย่งพี่แดงน้อยของฉัน ไม่มีวันดอกอีเนียนไปฟ้องแม่สนดีกว่า”
ส่วนสนกำลังแก้ตัวกับท่านขุนไปแบบน้ำขุ่นๆ
“สนไม่เคยสอนไม่ได้อบรมหนูอี๊ดให้เป็นอย่างที่เห็นนะคะ แต่หนูอี๊ดแกน้อยใจว่าไม่มีใครรักแกแม้แต่คุณย่า ก็เอาแต่พะเน้าพะนอเด็กติ๋วคุณพี่เรียมก็ยกเด็กติ๋วให้เท่าเทียมแถมบางครั้งเหนือกว่า แกมีปมด้อยหนีร้อนมาพึ่งเย็น สนก็แค่ปลอบใจ”
“ปลอบจนลูกฉันกลายเป็นเด็กริษยาปองร้ายคนอื่นงั้นรึ”
“แหม..พูดก็พูดนะคะพี่ขุน คือหนูอี๊ดน่ะ แกไปเรียนที่บางกอกสิบกว่าปี แกไปจำอะไรมาจากบางกอกบ้างก็ไม่ทราบ มาเจอสนก็แค่ปิดเทอม เวลาเพียงเล็กน้อย สนจะไปสอนอะไรให้แกได้หนักนะคะ แกก็คงกลัวว่าใครๆ จะรักแกน้อยกว่าเด็กติ๋ว ดีไม่ดีพาลยกสมบัติให้มันไปด้วยน่ะค่ะ แกวางแผนของแกคนเดียว ถ้าสนรู้สนห้ามแล้วค่ะ”
“แต่หนูอี๊ดบอกว่าสนเป็นคนวางแผนทั้งหมด แม้กระทั่งสอนแกให้ว่ายน้ำเป็นตบตาคนอื่น”
“ต๊าย อกอีสนจะแตกตาย สนว่ายน้ำเป็นซะที่ไหนกันคะ จะไปสอนใครได้ ใช่ไหมช้อย”
“ใช่เจ้าค่ะ...วันก่อนคุณสนตกน้ำป๋อมแป๋มที่ริมคลองบ้านเรา ช้อยต้องตะโกนให้เรือที่ผ่านมาช่วยชีวิตเอาไว้ไม่งั้นตายไปแล้วนะเจ้าคะ”
ท่านขุนเริ่มมึน “ตกลงใครพูดความจริง ใครพูดโกหกกันแน่”
สนฉวยธูปใกล้มือมาทำท่าจะจุด
“สนสาบานต่อหน้าฟ้าดินได้ค่ะ”
“ไม่ต้อง ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจตน ลูกอี๊ดกำลังจะไปเมืองนอกสามปี ในอีกไม่กี่วัน ขอความสงบสุขเกิดในบ้านฉันได้ไหม”
ขุนภักดีพูดจบกระแทกเท้าปังๆ ลงเรือนไป สนหันหน้ามามองช้อย สองคนประสานเสียง
“เกือบไป”
“ขอบใจเอ็งมากที่รับกระแสจิตที่ข้าส่งไปให้พูดว่าอย่างไรเรื่องว่ายน้ำ”
“ก็ช้อยรักคุณสนนี่เจ้าคะ ช้อยต้องปกป้องคุณสน สุดชีวิตเจ้าค่ะ”
“แต่แหม...อีเด็กอี๊ดมันร้ายกาจ พอจวนตัวมันย้อนกลับมาเล่นงานข้าอยากจะสั่งลามันก่อนไปเรียนต่อนัก”
ไม่ทันขาดคำเสียงทานตะวันดังเข้ามาเสียงหวาน
“แม่สนจ๋า แม่สนจ๋า”
สองคนมองหน้ากันอย่างระอา
ฝ่ายเนียนลูบหัวแดงน้อยที่ก้มลงกราบแทบตักเนียน
“ไปดีมาดีนะลูก ไปสามปีแม่คนนี้กับน้องเนื้อทองรออยู่ จะสวดมนต์ทุกคืนให้ปลอดภัย กลับมาเป็นใหญ่เป็นโตนะลูกนะ”
“ขอบพระคุณครับ แม่เนียน ผมอยู่ทางโน้นก็จะสวดมนต์ให้แม่เนียนกับน้องติ๋วปลอดภัยและมีความสุขกลับมาเมื่อไหร่จะรีบมากราบที่ตักของแม่เนียนทันทีครับ”
“ขอบใจมากขอบใจที่สุด ที่ให้ความสุขกับน้า คุณแดงน้อยไปกราบลาคุณท่านด้วยสิคะ หนูติ๋วจ๋าพาพี่แดงน้อยไปกราบลาคุณท่านสิลูก”
“ค่ะ เชิญค่ะ พี่แดงน้อย”
เนื้อทองพาแดงน้อยไป
ทานตะวันฟ้องสนฉอดๆๆ
“แม่สนคิดเหมือนหนูไหมคะ ว่าอีเนียนมันกำลังจะแย่งพี่แดงน้อยไปจากหนู”
สนกับช้อยสบตากันระอากับเรื่องแดงน้อย
“แหม คงจะไม่…” ช้อยรำคาญ
สนสะกิดขยิบตา ช้อยหยุด
“อับปรีย์แท้ๆ ค่ะ หนูอี๊ด เอ้อ..ว่าแต่ว่า คุณหนูไม่น่ามาที่เรือนนี้อีกนะคะ คุณแม่เพิ่งจะสั่งห้ามนี่คะ”
“ก็ทนไม่ไหวแล้วนี่คะ มันมากอดกับพี่แดงน้อยตำหูตำตาบนเรือนคุณย่าเลยนะคะ”
“ทำไมไม่ไปฟ้องคุณย่าเล่าคะ มาฟ้องแม่สน เดี๋ยวแม่สนก็โดนถลกหัวหงอกอีก คุณพ่อเพิ่งมาด่าลงจากเรือนไปแหม่บๆ เพราะหนูไปฟ้องว่าแม่สนชี้แนะวางแผน”
“หนูเปล่านะคะ แต่คุณแม่ต่างหากที่ คาดคั้นจับเรื่องราวมาปะติดปะต่อคนที่พูดมากที่สุด ก็พี่เทิดนั่นแหละฟ้องคุณแม่ฟ้องคุณพ่อ แม่สนก็เห็นว่าคุณพ่อเปลี่ยนใจทันทีที่พี่เทิดไปกระซิบกระซาบอะไรก็ไม่รู้”
“ใช่แล้วค่ะ คุณสน” ช้อยว่า
“ไอ้ลูกสาระเลว มันใส่ร้ายแม่ แถมมาด่าว่าแม่ มันรักนางเนื้อทองมากกว่าแม่บังเกิดเกล้า”
“อีติ๋วมันเป็นคู่รักบังเกิดเกล้าของพี่เทิดศักดิ์ไงคะ ชี้นกเป็นไม้ เห็นงูก็บอกว่าปลา พี่เทิดเชื่อมันหมด แม่สนเรียกพี่เทิดมาด่าได้เลยค่ะว่าอกตัญญูบุพการี หนูมาบอกแค่นี้แหละค่ะ ถ้าคุณแม่คุณพ่อรู้หนูจะโดนเลื่อนการไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส”
อี๊ดพูดจบเดินไปเฉยๆ สนมองตามด่าอี๊ดกับช้อย
“เออแน่ะ....อีเด็กโง่ หาสัมมาคารวะไม่พบ ไปไม่ลามาไม่ไหว้”
“เพราะเธอเห็นคุณสนเป็นแค่เมียน้อยพ่อมีไว้เป็นที่ปรึกษาฝ่ายความชั่วร้าย ไงเจ้าคะ”
“เจ้าปะคู้น ขอให้มันเครื่องบินตกตาย ระหว่างทางไปฝรั่งเศส”
“ขอให้สมปากเจ้าค่ะ”
สองคนพนมมือ
ทองจันทร์ยื่นพระให้แดงน้อย
“ขอให้หลานแดงน้อยประสพโชคชัย อย่ามีภยันตรายใดๆ มากล้ำกราย ขอให้เรียนสำเร็จกลับมาเป็นเจ้าคนนายคนนะหลาน”
แดงน้อยกราบรับพร
“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ คุณย่า”
“พระพุทธรูปองค์นี้ให้หลานเอาไว้กราบไว้บูชา เรานับถือศาสนาพุทธพระท่านจะนำทางเราไปสู่ที่ถูกที่ชอบ ระลึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของท่าน จิตใจเราจะได้เบิกบานในการมุ่งหน้าไปสู่ความดี มีเมตตา ย่าให้พรไปนี่เพราะคิดว่าแดงน้อยคือหลานแท้ๆ ของย่าคนหนึ่งนะหลาน”
“เป็นพระคุณอย่างสูงครับ ผมจะจำคำสอนคุณย่าใส่ใจไว้ตลอดเวลาครับ”
เนียนทนไม่ได้ตามมานั่งมองแดงน้อยลาทอง ด้วยความสุขสมหวังแต่ใจหายห่วงใยคิดถึงลูก
“อ้าวเนียน ตามมานั่งมองแดงน้อยเขาราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไปให้ได้”
“เอ้อ เนียน.. เนียน...”
“แม่เนียนเขาเห็นพี่แดงน้อยแล้วคิดถึงลูกชายเจ้าค่ะ คุณท่าน”
“ว่าอะไรนะ นี่เนียนแกมีลูกชายที่ไหนขึ้นมาอีกคนแล้วล่ะ”
“ก้อ เอ้อ ลูกชายของเนียนกับสามีคนที่ตายไปตั้งแแต่ลูกของเนียนยังเด็กน่ะเจ้าค่ะ”
“ชีวิตของเขาช่างเหมือนกับผมเหลือเกินครับ แม่เนียน”
“อ้อ นี่เลยตั้งตัวเป็นแม่เป็นลูกกัน แดงน้อยขาดแม่ เนียนขาดลูก ประจวบเหมาะกันดีแท้ๆ”
“ความจริงเนียนไม่บังอาจ แต่ คุณแดงน้อยเขาอนุญาตเนียนแล้วเจ้าค่ะ
จังหวะนี้ เทิดศักดิ์เข้ามาพอดี”
“จะไปบางกอกกันหรือยังขอรับ ท่านผู้ว่าแดงน้อย กระผมนั่งรอขับรถจะไปส่งท่านเป็นนานสองนาน ที่ไหนได้ท่านมาแอบแย่งความรักของคนแถวนี้ไปจากผมหมดแล้ว”
“เหลวไหล ใครแถวนี้จะมารักกันมากกว่าแก”
“น้าเนียนคนหนึ่งแหละ ดูมองแกเข้าสิ ยังกับมองลูกยังไงยังงั้น”
“เอ้อ...” เนินเขิน “รีบไปกันเถิดค่ะ”
แดงน้อยลุกขึ้นเดินออกกับเทิดศักดิ์ เนียนมองตาม แดงน้อยหันมามอง แล้วพูดราวกับรู้ใจ
“แม่เนียน ไปส่งผมที่รถนะครับ”
เนียนเขิน เนื้อทองยิ้มทองจันทร์หัวเราะ เทิดศักดิ์แซวเอา
“แม่เนียนหรือ นี่กันหูเฝื่อนหรือเปล่า”
“เอาไว้เล่าในรถเถิด หมวดเทิดศักดิ์ เชิญครับ แม่เนียน น้องติ๋ว”
“ไม่ต้องมาเขินมาอาย อยากไปจนเนื้อเต้นออกมาให้สายตาคนชราอย่างฉันเห็นแล้วไม่ต้องมาทำนิ่ง ไปสิเนียน ยัยติ๋ว”
แดงน้อยยื่นมือไปให้เนียนจับ เนียนที่นั่งให้ลูกชายจูงมือเดินออกไป มีเทิดศักดิ์ส่ายหน้าขำๆ เนื้อทองเดินตามไปยิ้มๆ
“ทำไมมันไม่เป็นแม่ลูกกันสามคนจริงๆ เสียเลยหนอ จะได้ลงเอยกันด้วยความสุขแท้จริงสักที เนียนเอ๊ย”
ทองจันทร์ยิ้มอย่างเอ็นดู เห็นแดงน้อยจูงเนียนไป ขณะที่เนียนหันมาจูงเนื้อทองอีกที สามคนเดินไปด้วยกัน
เทิดศักดิ์เดินตามพยักหน้าหงึกๆ
ฟากทานตะวันแอบมองสามคนเดินจูงมือกันผ่านหน้าไปด้วยความเคียดแค้น
“ดูพวกมันทำ บาดตาบาดใจเหลือเกิน”
ทานตะวันขยับออกไป แต่ก็ชะงักเพราะเห็นเทิดศักดิ์เดินตามมาด้วย
“พี่เทิดศักดิ์อีกแล้ว”
ขณะจะถอยหลังหลบ แต่เทิดศักดิ์ก็เห็นจนได้ เทิดศักดิ์ซึ่งเวลาไม่พอใจมักจะเรียกชื่อเต็มเรียกดังลั่น
“ทานตะวัน”
เสียงเรียกชื่อทานตะวันทำให้เนียนกับเนื้อทองและแดงน้อยหันมามอง เนียนดีใจเห็นลูกสาวคนโตเผลอยิ้ม
“คุณหนูอี๊ด”
ทานตะวันเมินหน้าไม่มองเนียนและเนื้อทอง แต่พูดกับแดงน้อย
“พี่แดงน้อยหอบกระเป๋าจะกลับบางกอกหรือคะ”
“ครับ..พี่จะกลับแล้ว”
“ไม่เห็นบอกหนูอี๊ด เลยว่าจะกลับแล้ว”
“ก็เธอมัวไปหมกตัววางแผนอะไรอยู่ที่ไหน ใครเขาจะไปเห็น”
“พบกันแล้ว พี่เลยขอบอกลา ตรงนี้เสียเลย ลาก่อนนะครับ น้องอี๊ด ขอให้น้องอี๊ด ไปฝรั่งเศสและเรียนจบด้วยดีนะครับ โชคดีนะครับ”
“แหม..ความจริงเราน่าจะได้เลี้ยงส่งกันสักนิด” ทานตะวันว่า
“ขอบคุณมากครับ..แต่ไม่เป็นไรครับ อีกสามปีพบกันใหม่นะครับ”
ทานตะวันรู้สึกว่าอาลัยอาวรณ์แดงน้อยมาก ที่สุดตัดสินใจเดินเข้ามาหา แล้วดึงมือแดงน้อยมาจากมือของเนียน
“ขอหนูอี๊ดอวยพรพี่แดงน้อยบ้างนะคะ ขอให้พี่แดงน้อยเรียนจบ กลับมาพร้อมหนูอี๊ดพอดีนะคะ”
“ฟังเธอพูดเข้าสิทานตะวัน มันจะเป็นไปได้ยังไง แดงน้อยรีบไปกันเถิด แกต้องรีบไปจัดการเรื่องพาสปอร์ตนี่นา ไป”
เทิดศักดิ์มาดึงแขนแดงน้อยออกไปจากทานตะวัน พลางยิ้มให้เนียนกับเนื้อทอง
แดงน้อยสบตาเนียน เนียนสบตาตอบ หน้าจ๋อย
เทิดกับแดงน้อยขึ้นรถ พากันออกไป เนียนยืนมองจนลับสายตา เนื้อทองยืนอยู่ข้างๆแม่ ไม่ขัดใจ อยากให้แม่ความสุข
ทานตะวันยังไม่มองสองคนแม่ลูก แต่พูดขึ้นมาลอยลม
“ทุเรศบอกไม่ถูก แก่แล้วไม่ดูตัวเอง อยากมีผู้ชายหนุ่มมาเคียงข้าง เชอะ น่าไม่อายแท้ๆ”
“คุณหนูอี๊ด” เนียนเสียใจ
“ฉันไม่ได้ว่าแก อยากรับเองก็ช่วยไม่ได้”
ทานตะวันเดินเชิดออกไป เนียนมองตาม เนื้อทองชักไม่พอใจ
“หนูไม่ยอมให้เขามาว่าแม่เนียนเสียๆ หายๆ แบบนี้อีกแล้ว”
เนื้อทองอ้าปากขยับตัว
“คุณ...”
เนียนเอามือปิดปากลูกมือหนึ่ง และดึงแขนไว้มือหนึ่ง
“แม่ขอไว้แล้วไงลูกจ๋า ขอเถิดนะ อย่าให้ความสุขที่แม่เพิ่งได้รับมลายไปหมดตอนนี้เลยจ้ะ ถ้ารักแม่อย่าไปยุ่งกับเขานะจ๊ะ”
เนื้อทองจึงไม่เดินไปไม่พูดอะไรกับทานตะวันอีกต่อไป
ไม่มีใครรู้ว่าระหว่างนั้นหนักมาแอบดูลูกและหลาน ทั้ง เทิดศักดิ์ แดงน้อย เนื้อทอง แล้วหนักใจกับนิสัยทานตะวันเอามากๆ
“โธ่ เนียน เราสองคนช่างอาภัพเหลือเกิน ที่ไม่อาจแสดงตัวกับลูก ว่าเป็นแม่เป็นพ่อของเขา เทิดศักดิ์ของพ่อ ใส่ชุดนายร้อยตำรวจตรี ช่างโก้แท้ๆ”
ทานตะวันเดินผ่านพุ่มไม้ที่หนักซ่อนอยู่
“อีเนียนอีติ๋ว ฉันเกลียดแกสองคนที่สุด แกแย่งพี่แดงน้อยไปจากฉัน พี่เทิดศักดิ์ก็ช่างไม่รู้สึกรู้สมบ้างสักนิด โง่กันไปหมดแล้วจริงๆ”
ทานตะวันสบถแล้วเดินผ่านไป หนักส่ายหน้า
“เด็กคนนี้ช่างน่าเกลียดผิดพี่ผิดน้อง น่าเสียดายแท้ๆ”
หนักแอบย่องตามอี๊ดไป
ทานตะวันมานั่งไม่สบอารมณ์อยู่มุมหนึ่งคนเดียว โกรธเนียนกับเนื้อทอง สนเดินมานั่งข้างๆ
“มานั่งซึมอยู่ตรงนี้นี่เอง โกรธใครอีกแล้วหรือคะ”
“อีเนียนอีกแล้วค่ะ มันเดินจูงมือพี่แดงน้อยไปส่งถึงรถ มันออกนอกหน้าจนน่าตบ”
“แล้วทำไมไม่ตบมันไปตามใจอยากเล่าคะ”
“ถ้าไม่มีพี่เทิดศักดิ์อยู่ตรงนั้น หนูทำแน่คะ”
“เทิดศักดิ์นี่ยังไม่โดนแม่สนด่าให้เจ็บสักที ก่อนไปนอกไปสั่งลาตบมันทั้งแม่ทั้งลูกดีไหมคะ”
“หนูเหนื่อยเต็มทนแล้วค่ะ พักเรื่องงี่เง่านี่เอาไว้ก่อน รอหนูเรียนจบกลับมา หนูจะมาเล่นงานพวกมันใหม่ แม่สนอยู่ทางนี้ เล่นงานมันแทนหนูไปพลางๆก่อนเถิดค่ะ หนูใจคอไม่ดี เพราะกังวลเรื่องพี่แดงน้อย หนูไปก่อนนะคะ”
ทานตะวันเดินไม่สบอารมณ์ออกไป
สนยิ้มเยาะเดินบ่นดังๆ ไม่คิดว่าจะมีใครมาได้ยิน
“อีเด็กหน้าโง่ แกคงนึกละสิว่าฉันเป็นมิตรแท้ของแก เชอะ อีโง่ แกนี่แหละ ศัตรูตัวฉกาจหมายเลขหนึ่ง แกมีสิทธิ์ในทรัพย์สินของภักดีภูบาล ฉันต้องทำให้แกพลาด เพื่อให้ทุกอย่างเป็นของลูกชายฉันคนเดียวเท่านั้น”
แล้วสนก็สะดุ้ง เพราะมีเสียงใครคนหนึ่ง พูดพร้อมกับหัวเราะดังมากๆ
“ไอ้ความคิดหมาๆ แบบนั้นก็ไม่ถูกดอกนะ นางสนคนสารเลว”
“ใครน่ะ ว๊าย แก แก”
หนักก้าวออกมา สนมองแล้วเสียววูบ สัญชาญาณค่อนข้างมั่นใจ และคิดว่าเป็นหนัก
“เราไม่ค่อยได้เจอกัน หน้าฉันก็มักปิดบังๆ ก็ผัวเจ็ดวันของคุณนายไงล่ะ”
สนถอยกรูดใจหายวับ
“ไอ้เสือหนัก แกมาทำไม”
“มาแอบดูลูกชายฉันบ้างสิ คิดถึงเขาใจจะขาด ยังจะหลานอีกสองคน แดงน้อยกับหนูติ๋ว”
“แกกล้าดีเกินไปแล้ว ฉันจะเรียกให้เทิดศักดิ์มาจับแก”
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 12/5 วันที่ 22 เม.ย. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager