อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 1-2 วันที่ 9 เม.ย. 56


อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 1

“ใครให้คุณขังผู้ต้องสงสัยเอาไว้อย่างนั้น คุณไม่รู้หรือไงว่ามันผิดกฎหมาย” ภูวนัยชี้แจงว่าเธอเป็นเบาะแสเดียวที่ทำให้เราสืบไปถึงแก๊งของนายสมสุขได้ ถูกเสียงดังใส่อีกว่า “แล้วมันคุ้มที่จะโดนยุบทั้งหน่วยหรือไง!” พอสงบสติอารมณ์ลง จึงผ่อนเสียงลงถามว่า “เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”

ภูวนัยเล่าว่าพวกมันเปลี่ยนที่ส่งยา ถูกผู้กำกับย้อนถามว่า “เราเป็นตำรวจ เราต้องนำหน้าพวกมัน ไม่ใช่ให้มันคอยปั่นหัวเราอย่างนี้ เราส่งสายเข้าไปสืบการเคลื่อนไหวพวกมันได้ แล้วคุณคิดบ้างไหมว่าพวกมันอาจจะส่งสายเข้ามาสืบการเคลื่อนไหวของเราเหมือนกัน”

“ท่านกำลังจะบอกว่าในทีมผมมีหนอนบ่อนไส้เหรอครับ” มารุตไม่ตอบแต่ย้อนถามว่าแล้วทำไมมันถึงล้มเหลวอีก ภูวนัยนิ่งไปอย่างไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่ก็ยืนยันว่า “ผมเชื่อใจและไว้ใจทีมของผม ทุกคนทำงานกับผมมาหลายปี...ผมขอเอาตำแหน่งและอาชีพตำรวจของผมยืนยันครับท่าน”


“ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้งเดียว...คงรู้นะว่าผมหมายถึงอะไร”

ภูวนัยหน้าเครียดกับเดิมพันที่หมายถึงอนาคตในอาชีพที่ตนรัก...

ooooooo

ม่านหมอก...สาวน้อยวัย 15 ลูกสาวคนโตของลักขณาพี่สาวของภูวนัย นั่งอยู่ในห้องเรียนชั่วโมงเรียนพุทธศาสนา ขณะครูเขียนบนกระดานดำ เธอก็นั่งมองไอโฟนยิ้มอย่างมีความสุข ส่วนเพื่อนๆต่างสนใจเรียนกันจริงจัง

“นี่คือหลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้า...จะเห็นว่าพระพุทธเจ้าสอนเราไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ” ครูหันมาสอน

เห็นม่านหมอกไม่สนใจเรียนก็เรียกปราม “ม่านหมอก!” แต่เธอใส่หูฟังตาดูภาพในไอโฟนที่มี ลักขณา สมภพ และม่านเมฆน้องชายกำลังเล่นน้ำทะเลอยู่

ครูเดินเข้ามาเห็นม่านหมอกกำลังดูไอโฟนก็หยิบไอโฟนไป ม่านหมอกชักสีหน้าถามว่า “ครูจะทำอะไร”ครูบอกว่าทำให้เธอตั้งใจเรียน แต่ถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็กลับไปเล่นโทรศัพท์ที่บ้านไม่ใช่ที่โรงเรียน ม่านหมอกไม่เถียงแต่เสียงแข็งบอกให้ครูคืนโทรศัพท์มา แล้วเข้าไปแย่งโทรศัพท์คืนเลยถูกครูดึงกลับไปบอกว่า จะเก็บไว้ให้แล้วค่อยไปเอาที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียน

ม่านหมอกไม่ยอมแสดงกิริยาวาจาก้าวร้าว จนครูเตือนว่าชักจะก้าวร้าวเกินไปแล้ว กลับถูกย้อนสวนมาว่า

“ทำไมหนูต้องเชื่อครูด้วย...ครูเพิ่งสอนเองไม่ใช่เหรอคะ...แม้แต่พระพุทธเจ้ายังสอนไม่ให้เราเชื่อแม้แต่คนที่เป็นครูของตัวเอง”

ครูอ้าปากค้าง โกรธมากแต่พยายามระงับอารมณ์พูดเสียงอ่อนลงว่า“ไว้เอาหลังเลิกเรียนแล้วกัน” แต่ม่านหมอกไม่ยอมตะโกนให้เอาคืนมา ตรงเข้าไปยื้อแย่งจนไอโฟนตกกระแทกพื้นแตก ทุกคนในห้องเงียบกริบ

ม่านหมอกมองหน้าครูอย่างโกรธสุดๆ

เป็นเหตุการณ์รุนแรงที่ต้องเรียกผู้ปกครองมาพบครูที่โรงเรียน ภูวนัยไปในฐานะผู้ปกครอง ถูกม่านหมอกปฏิเสธว่าไม่ใช่ ภูวนัยต้องรับปากกับ ผอ.โรงเรียนว่าจะกลับไปอบรมแกให้ดีกว่านี้ ผอ.เสนอว่าอย่างม่านหมอกควรอยู่บ้านจะดีที่สุด

ความหมายของ ผอ.คือไล่ม่านหมอกออกจากโรงเรียนเพราะจากพฤติกรรมวันนี้ ทางโรงเรียนคงรับไว้ไม่ได้และเธอก็เข้ากับเพื่อนๆ ไม่ได้ด้วย

“จะไล่ออกก็พูดแค่ว่าไล่ออก...ทำตัวเป็นคนแก่พูดมากไปได้” ม่านหมอกทะลุกลางปล้องอย่างไม่พอใจแล้วเดินคอแข็งออกไป ผอ.มองตาค้าง ส่วนภูวนัยเห็นว่าไม่มีทางยื้อแล้วจึงยกมือไหว้ลา ผอ.วิ่งตามม่านหมอกออกไป

ooooooo

ฟาร์มสุข....เป็นฟาร์มเลี้ยงหมูที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล มีบ้านสองหลังอยู่บนเนิน และไม่ไกลนักเป็นโรงเรือนเลี้ยงหมูขนาดใหญ่

เผ่าพงษ์ พ่อของภูวนัยเป็นเจ้าของฟาร์มแห่งนี้ แต่สภาพของเผ่าพงษ์เวลานี้คือ อารมณ์แปรปรวนและมีอาการอัลไซเมอร์ จนต้องจ้างปลายฟ้าหมอสาวสวยเป็นเพื่อนกับภูวนัยมาตั้งแต่เด็ก มาเป็นหมอประจำตัว คอยดูแลอย่างใกล้ชิด คอยพูดคุย อ่านหนังสือให้ฟังและทดสอบความจำอยู่เสมอ

วันนี้ก่อนกลับ ปลายฟ้าฝากพรรษาแม่บ้านประจำตระกูลอย่าลืมเอายาให้เผ่าพงษ์ทาน พรรษาขอให้อยู่ทานข้าวเย็นกันก่อน เพราะตอนนี้ภูวนัยกำลังไปรับเด็ก เดี๋ยวคงมาถึง แล้วขอตัวไปดูแลเผ่าพงษ์

“คุณภูมาเหรอ...” ปลายฟ้ารำพึงอย่างสงสัย...

ที่ฟาร์มสุขนี้ ยังมีผจญหนุ่มวัย 18 กับแก้วใจสาวใต้ที่รักชีวิตที่ฟาร์มหมูจับใจ ทั้งสองสนิทสนมรู้ถึงแก่นใจของกันดี มักหยอกล้อกันเฮฮาเสมอ ขณะอยู่ที่เรือนหมู ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา แก้วใจร้องบอกอย่างดีใจว่า

“ว้าย...คุณหมอกกับคุณเมฆมาแล้ว”

ผจญหน้าตาแช่มชื่นขึ้นทันที เพราะแอบหลงรักม่านหมอกมานาน แต่เจียมตัวว่าเหมือนดอกฟ้ากับหมาวัดจึงไม่กล้าแสดงออก แต่ม่านเมฆชอบเล่นกับผจญเพราะเล่นกันแรงๆ ได้โดยเฉพาะการต่อยมวย ผจญกุลีกุจอจะช่วยรับของจากม่านหมอก เธอเดินผ่านผจญไปราวกับอากาศธาตุ ผจญเลยหันไปทางภูวนัย เขาบอกว่าไม่มีอะไรให้ช่วย ถ้ามีจะเรียกเอง

“คิดว่าจะได้เจอนายตอนที่เป็นข่าวแล้วเสียอีก” เสียงปลายฟ้าทักอย่างสนิทสนม ภูวนัยถามว่าข่าวอะไร “ก็ข่าวตอนนายได้ตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจไง...คิดอะไร”

ภูวนัยถามว่านั่นมันนานเกินไปหรือเปล่าหมอ ปลายฟ้าติงว่าเรียกหมออีกแล้ว ขอให้เรียกตามเดิมได้ไหม พอเรียกหมอก็ทำให้รู้สึกห่างๆยังไงพิกล

“ได้ซี...เข้าไปข้างในดีกว่าเหยิน” ภูวนัยพูด เต็มปากเต็มคำ ปลายฟ้าสะดุ้งทำหน้างอนๆบอกให้เรียกตนว่าฟ้า ไม่ใช่เรียกชื่อตอนเด็กๆ แล้วมองภูวนัยยิ้มดีใจที่ได้พบเขาอีก...

ooooooo

ภูวนัยได้รับรายงานจากสายว่าจะมีการลำเลียงยาบ้าลอตใหญ่จากชายแดนฝั่งตะวันตกเข้ากรุงเทพฯ เขาประชุมวางแผนกับชาติกล้า สองจ่าและตำรวจอีกหลายนาย

การส่งยาบ้าครั้งนี้ พวกมันจะส่งกันที่ท่าเรือ แฝงมากับตู้สินค้า โดยแจ้งตัวอักษรที่ตู้สินค้าให้ทุกคนจดจำไว้ ย้ำกับทุกคนว่า วันนี้เราต้องจับพวกมันให้ได้

ช่างเหมาะเจาะเหลือเกิน เพราะเป็นวันที่ไผ่พญา ไปเสนอเจ้โสภีขอเอาตัวแลกกับเสี่ยสมสุขเพื่อยกหนี้ทั้งของแม่ของขิงและของกระดังงาทั้งหมด เจ้ไม่เล่นด้วยอ้างว่าถ้าตนยกหนี้ให้ไผ่ ตนต้องเสียรายได้อีกเท่าไร

ทั้งสองต่างต่อรอง วัดใจกัน จนไผ่ตัดสินใจบอกว่า ตนแค่โทร.หาเสี่ยแล้วบอกว่าคืนนี้ตนยอมเป็นของเสี่ย เงินที่ตนติดหนี้เจ้มันก็จิ๊บจ๊อยมาก พูดให้ดูดีว่า “ที่ฉันมาบอกเจ้ ก็เพราะฉันให้เกียรติเจ้ เจ้เลือกแล้วกันว่าจะเอายังไง”

โสภีมองหน้าไผ่อย่างแค้นใจที่มาบีบเกม แต่ไม่ นานเสี่ยสมสุขก็ได้รับโทรศัพท์ เสี่ยพูดอย่างตื่นเต้นมากว่า

“อะไรนะ...ไผ่มันพูดอย่างนั้นจริงๆเหรอ ได้... ได้...เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอด้วยตัวเองเลย”

พายัพท้วงติงว่าคืนนี้เรามีงานใหญ่ เสี่ยไม่สนใจบอกให้เขาไปแทน เมื่อพายัพพูดแรงขึ้นว่าไม่อยากให้นายต้องเสียงานใหญ่เพราะผู้หญิงคนนั้น ก็ถูกเสี่ยเอาปืนจ่อสั่งเหี้ยม “ฉันสั่งอะไรก็ทำตามนั้น” พายัพรีบรับคำบอกว่าคืนนี้จะให้ไอ้วุฒิขับรถให้ เสี่ยไม่ต้องการ ย้ำว่า “เสร็จงานแล้วโทร.หาฉันแล้วกัน”

เสี่ยเดินอ้าวออกไปอย่างกระสันเต็มที่ ส่วนพายัพหยิบมือถือขึ้นโทร.บอกใครบางคนทันทีเช่นกันว่า

“ฉันเอง...เปลี่ยนแผนนิดหน่อย”

ooooooo

หลังประชุมและวางกำลังกันที่ท่าเรือตามแผนแล้ว ภูวนัยสั่งทุกคนให้เตรียมพร้อมให้ดี ใกล้ถึงเวลาแล้ว

ชาติกล้าซุ่มอยู่ในมุมของตน จ่าวีระกับราชัยปลอมตัวเป็นพนักงานท่าเรือซุ่มอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์ กำลังส่วนอื่นกระจายกันตามแผน

กำลังตำรวจซุ่มอยู่นานจนจ่าวีระสงสัยว่าทำไมยังไม่มา แต่ไม่นานก็มีรถคอนเทนเนอร์เข้ามา ภูวนัยส่องกล้องดูเห็นตัวอักษรตามที่ระบุไว้ชัดเจน สั่งทุกคนเตรียม พร้อมทันที ครู่เดียวก็มีคนเดินออกจากเงามืดตรงไปที่คนขับรถคอนเทนเนอร์ส่งกระเป๋าให้ ภูวนัยส่งสัญญาณให้ปฏิบัติการทันที ตำรวจกรูกันเข้าไปพร้อมอาวุธครบมือ

“ทิ้งกระเป๋า...แล้วหมอบลงกับพื้น!” ชาติกล้าสั่ง ภูวนัยบอกให้ชาติกล้าไปเปิดตู้คอนเทนเนอร์ อึดใจเดียวชาติกล้าก็เรียกเขาไปดู ภูวนัยตะลึงงันเมื่อพบแต่ตู้เปล่า เขาพุ่งกลับมาที่คนขับรถที่นอนหมอบอยู่ถามว่ายาอยู่ไหน หมอนั่นหน้าตาเหลอหลาตกใจไม่รู้เรื่อง แม้จะถูกขู่ว่าไม่บอกตาย หมอนั่นก็ยืนยันว่าไม่รู้อยู่ดี เพราะตนรับจ้างขับรถคันนี้ไปตราดและให้แวะมารับคนที่ท่าเรือไปด้วย

“ฉันว่าไอ้หมอนี่มันไม่รู้เรื่องจริงๆ เก็บปืนเถอะ” ชาติกล้าบอก

“โธ่เว้ย!” ภูวนัยสบถแค้นแทบเป็นบ้า! แต่เขาไม่ ยอมแพ้บอกชาติกล้าว่า “ยังไงคืนนี้ฉันต้องจับไอ้สมสุขให้ได้ เพราะฉันส่งสายเฝ้าหน้าบ้านมันเอาไว้ ถ้าคืนนี้เป็นการส่งยาลอตใหญ่จริง มันต้องมีการเคลื่อนไหวที่บ้านมัน”

พอรู้ว่าภูวนัยส่งสายไปเฝ้าหน้าบ้านเสี่ย ชาติกล้าก็ทำหน้าลำบากใจ บอกว่าทางโรงพยาบาลโทร.แจ้งว่าคืนนี้พ่อผ่าตัด

“ถ้าอย่างนั้นแกไปเลย...ไม่ต้องห่วงทางนี้ แกรีบไปเถอะ” ภูวนัยบอก ชาติกล้ารีบขอบใจแล้วผละไปทันที

ภูวนัยมองตามชาติกล้าก่อนหันไปสั่งสองจ่าด้วยแววตามุ่งมั่นว่า

“เรียกทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องมาให้ผมเดี๋ยวนี้”

ooooooo

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 2


ภูวนัยกลับมาที่ ป.ป.ส.เห็นพายัพเดินคุยกับผู้กำกับมารุตอย่างสนิทสนมก็โมโห ถามพายัพว่ามาทำไม ทำไมถึงมาที่นี่ได้ ผู้กำกับปกป้องว่า พายัพมาเพื่อเป็นพยานซัดทอดเสี่ยสมสุข

ภูวนัยติงว่าผู้กำกับคงไม่เชื่อที่พายัพพูด มารุตปรามภูวนัยว่าใจเย็นๆ แล้วเดินไปส่งพายัพอีกทางหนึ่ง พายัพหันยิ้มเย้ยภูวนัยก่อนเดินตามผู้กำกับไป

เวลาเดียวกัน ที่เซฟเฮาส์ของเสี่ยสมสุข เสี่ยกำลังกระเหี้ยนกระหือรือเตรียมเครมไผ่พญาให้เต็มคราบ พาไปนั่งที่ริมสระน้ำให้ผ่อนคลาย แต่ไม่ว่าบรรยากาศจะเป็นอย่างไร ไผ่ก็ตึงเครียดมากกับแผนเอาตัวรอดจากเสี่ยคืนนี้ให้ได้

ก่อนมาพบเสี่ย ขิงกับกระดังงาตอบแทนที่ไผ่ช่วยพวกตนด้วยการให้ยามาเม็ดหนึ่ง บอกว่าเป็นยานอนหลับอย่างแรง กินเข้าไปหลับเป็นตาย แถมตื่นขึ้นมายังจำอะไรไม่ได้ด้วย เสี่ยเห็นไผ่เครียดๆ ถามว่าเป็นอะไรพลางส่งแก้วไวน์ให้

“เดี๋ยวก่อนนะคะ...เอ่อ...เสี่ยจะไม่เปิดเพลงสร้างบรรยากาศหน่อยเหรอคะ” ไผ่หาทางถ่วงเวลา รอจังหวะทำอะไรบางอย่าง เสี่ยเปิดเพลงอย่างเอาใจ แต่จู่ๆไผ่ก็ทำท่าเขิน “แหม...เสี่ยคะ...ลูกน้องเสี่ยอยู่เต็มบ้านอย่างนี้ ไผ่อายนะคะ” เสี่ยจึงไล่ลูกน้องออกไปอยู่หน้าบ้านให้หมด ระหว่างเสี่ยหันไปสั่งลูกน้อง ไผ่ก็แอบเอายานอนหลับใส่ในแก้วไวน์ของเสี่ยทันที

หลอกเสี่ยให้ดื่มไวน์จนหมดแก้วแล้ว ไผ่อ้อนชวนไปที่ห้องนอนกันดีกว่า เสี่ยดี๊ด๊าว่าเดี๋ยวได้แอ้มไผ่แน่แล้ว รีบพากันขึ้นห้องนอน แต่พอขึ้นถึงห้องนอนเสี่ยก็ตาพร่า ถามไผ่อย่างระแวงว่า “เธอใส่อะไรลงไปในไวน์”

“เปล่านี่คะ...โอ๊ย...ทำไมมันมึนหัวอย่างนี้” ไผ่แกล้งทรุดลงไปกองกับพื้นหมดสติ เสี่ยเรียกไผ่อยู่สองสามครั้งก็ทรุดหมดสติไปอีกคน

ooooooo

ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ภูวนัยให้ไปเฝ้าหน้าบ้านเสี่ย เห็นลูกน้องเสี่ยเดินเกร่อยู่หน้าบ้านเต็มไปหมดรู้สึกผิดสังเกต ปรึกษากันว่าพวกมันวางกำลังกันขนาดนี้ต้องกำลังทำอะไรสำคัญอยู่แน่ๆ รายงานหัวหน้าดีกว่า

แต่ไม่ทันทำอะไรก็มีมือมาเคาะกระจกรถ พอลดกระจกลง ก็ถูกยิงด้วยปืนเก็บเสียง เก็บเงียบไปทั้งสองนาย แล้วมือปืนที่ใส่ถุงมือดำใส่หมวกไอ้โม่งก็ถือปืนเดินจากไปอย่างใจเย็น

ภูวนัยคอยติดตามข่าวอยู่ที่ ป.ป.ส. ติดต่อสอบถามไปหลายครั้ง จ่าทั้งสองก็ไม่ตอบมา จ่าราชัยบอกว่าสงสัยหลับแน่ๆ ภูวนัยไม่พูดอะไร รีบลุกขึ้นเดินออกไป สั่งจ่าราชัยว่า

“ผมว่าต้องเกิดอะไรขึ้นที่บ้านเสี่ยสมสุข...บอกทุกหน่วยให้เตรียมพร้อม” พูดแล้ววิ่งออกไปเลย

ส่วนที่ห้องนอนเซฟเฮาส์ของเสี่ย พอเสี่ยทรุดลง ไผ่ก็ปรือตาลุกขึ้นเขี่ย เห็นหลับสนิทก็เตรียมจะจัดฉากตบตา แต่พอลากเสี่ยเห็นสร้อยทองคำมีจี้เป็นแท่งสี่เหลี่ยมเล็กๆห้อยคออยู่ก็ปลดออก พูดสบายๆว่า

“ขนาดบ้านยังให้ได้ สร้อยแค่นี้เสี่ยคงไม่หวงหรอกนะ” พอได้สร้อยเห็นแหวนก็ขอเอาไปใส่ให้ครบเครื่อง เหลือบเห็นกระเป๋าสตางค์วางอยู่ ก็หยิบเอาเงินปึกใหญ่ออกมาอย่างตื่นเต้น แต่แล้วความตื่นเต้นดีใจก็หายวับไปเมื่อเสียงปืนรัวขึ้น

ไผ่ย่องไปแอบดูว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นชายชุดดำกำลังยิงใส่ลูกน้องเสี่ยที่รัวปืนสนั่นหวั่นไหวอยู่หน้าบ้าน อึดใจเดียวลูกน้องเสี่ยก็ตายเกลี้ยง ชายชุดดำแหงนมองขึ้นบนบ้านอย่างใจเย็น!

“เสี่ย...เสี่ย...ตื่นเร็ว” ไผ่พยายามปลุก แต่เสี่ยหลับเป็นตาย พอดีเห็นเงาชายชุดดำแวบๆ ไผ่ละล้าละลังจะทำยังไงดี

พริบตานั้น ชายชุดดำพรวดเข้ามาเล็งปืนกราดไปรอบห้อง เห็นไม่มีอะไรจึงลดปืนลง เดินไปเห็นเสี่ยนอนหมดสติที่พื้น เข้าไปใช้เท้าเขี่ยๆ เห็นว่าแค่หมดสติจึงมานั่งที่เตียงแล้วยกปืนยิงไปที่เสี่ย ไผ่ตะลึงตาค้างยกมือปิดปากแน่น

มีเสียงปรบมือดังขึ้น พายัพเดินปรบมือเข้ามาพูดกลั้วหัวเราะว่า

“เป็นตำรวจมันดีอย่างนี้นี่เอง...ยิงคนแล้วไม่ผิดกฎหมาย” แล้วเดินไปตบหน้าเสี่ยเบาๆ เรียก “นาย... นาย...เฮ้อ...ทำไมนายไม่เคยฟังผมเลย ผมเตือนนายแล้วใช่ไหมว่านายจะตายเพราะผู้หญิง”

ขณะพายัพจะเดินออกจากห้อง เห็นแก้วไวน์อยู่สองใบ เขาบอกลูกน้องว่า

“ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ในบ้าน...หาตัวมันมาให้ฉัน”

ไผ่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำหัวใจแทบวายนึกว่าตายแน่แล้วถึงกับบอกลาแม่ แต่ขณะพายัพกำลังจะมาเปิดประตูห้องน้ำนั่นเอง วิทยุสื่อสารของชายชุดดำก็ดังขึ้น...

“ขอให้ทุกหน่วยไปรังพิราบเดี๋ยวนี้...ย้ำ...” ชายชุดดำบอกพายัพว่ารีบไปดีกว่าตำรวจกำลังมา แล้วรีบออกไปกัน

ไผ่เลยรอดตัวหวุดหวิด ถอนใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่


ไผ่มุดรั้วออกด้านข้างของบ้านเสี่ย พอตั้งท่าจะวิ่งก็ต้องเบรกกึก เมื่อได้ยินเสียงพายัพเดินคุยมากับชายชุดดำ

“แผนแกนี่เข้าท่าว่ะ เท่านี้ก็ไม่มีใครสงสัยว่าฉันเป็นคนฆ่าไอ้สมสุขมันแล้ว” ชายชุดดำถอดหน้ากากไอ้โม่งออก ไผ่พยายามเขม้นมอง แต่ทั้งมืดและไกลเลยมองไม่เห็น ได้ยินแต่เสียงพายัพคุยว่า “น่าดีใจแทนพวกตำรวจที่มีตำรวจฉลาดๆอย่างแก” ชายชุดดำถามว่าแล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ “เรื่องเล็ก ไว้ฉันจัดการเอง ไง...ให้ฉันไปส่งไหม”

ชายชุดดำไม่ตอบแต่เดินไปเลย พายัพจึงเดินไปขึ้นรถขับออกไป ไผ่ขยับจะหนีก็ได้ยินเสียงรถหวอตำรวจแว่วมาแต่ไกล เลยเปลี่ยนใจวิ่งหนีไปอีกทาง

ที่บ้านของไผ่พญา...ลำไยกำลังไหว้กุมารทอง ติดสินบนกุมารทองว่าถ้าป๊อกเก้าจะเลี้ยงน้ำแดง แต่ไม่ทันแจกไพ่ ไผ่ก็ผลักประตูผัวะเข้า

ขาไพ่จังงัง แต่แปลก! วันนี้ไผ่ทำเหมือนมองไม่เห็น เดินทื่อขึ้นข้างบนไปเลย จนขาไพ่นางหนึ่งถามงงๆ

“เฮ้ย! วันนี้ลูกแกกินยาผิดหรือเปล่าวะนังลำไย”

“มาๆๆ ฤกษ์ดีละกูวันนี้...” ลำไยดี๊ด๊าแจกไพ่อย่างฮึกเหิม

ไผ่เข้าห้องนอนก็ปิดประตูลงกลอน เอาแก้วไวน์กับสร้อยคอทองคำออกมาวางคู่กัน เดินงุ่นง่านไม่รู้จะทำอย่างไรดี

ooooooo

ภูวนัยมาถึงเซฟเฮาส์ของเสี่ยสมสุข เขาอึ้งเมื่อพบว่าตำรวจนอกเครื่องแบบที่ส่งมาสังเกตการณ์ถูกยิงตายในรถ!

ระหว่างนั้นชาติกล้าเดินเข้ามา ภูวนัยถามว่ามาได้ยังไง ชาติกล้าบอกว่าได้ยินรายงานทางวิทยุเลยรีบมา ภูวนัยให้ชาติกล้าดูชั้นล่าง ส่วนตนจะขึ้นไปดูชั้นบน พอเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ภูวนัยชะงักกึกเมื่อเห็นเสี่ยถูกยิงตายแล้ว!

จากการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ไม่มีร่องรอยการต่อสู้และรอยนิ้วมือ ชาติกล้าคาดว่าพวกนั้นคงนัดส่งยากันที่นี่ อาจมีอะไรที่คุยกันไม่รู้เรื่อง เสี่ยสมสุขเลยต้องตายแบบนี้

ต่อมา เจ้าหน้าที่นิติเวชพบหลักฐานเป็นแก้วไวน์ที่ข้างสระน้ำ จากร่องรอยคิดว่าผู้ตายไม่ได้อยู่คนเดียวก่อนถูกยิง นอกจากนั้น สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก็แจ้งว่า พบสารประกอบในยานอนหลับ ซึ่งน่าจะเป็นโดมิคุ่มในแก้วไวน์ของผู้ตาย

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...มีคนผสมยานอนหลับให้สมสุขกิน...ก่อนที่จะยิงเขาจากด้านหลัง” ภูวนัยวิเคราะห์กับชาติกล้าที่มาตามเขา ชาติกล้าคาดว่าคนที่อยู่กับสมสุขอาจจะเป็นฆาตกร “ฉันยังไม่อยากจะคิดอย่างนั้น มันจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ แล้วว่าไง แกมาตามฉันทำไม”

อ่านละคร คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ ตอนที่ 1-2 วันที่ 9 เม.ย. 56

คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะโดย บทประพันธ์ เล่าเต็ง
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะ บทละคร โดย อภิวัฒน์ เล่าสกุล
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะผลิตโดย : บริษัท กำกับการดี จำกัด
คุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะนำแสดงโดย : ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ - ไปรยา สวนดอกไม้
ติดตามชมคุณชายเลี้ยงหมู คุณหนูเลี้ยงแกะได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ