My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 4 วันที่ 2 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 4 วันที่ 2 ก.ค.61

ในงานปลูกป่าที่อุทยานแห่งชาติทับสัก ปุ้มมาทำงานสวัสดิการแต่มาเจอเก๋ที่หลงรักอิสร์ ต่างก็หาว่าอีกฝ่าย “หวงก้าง” จนตบตีกัน ครูที่พาเด็กมาปลูกป่ามองอย่างสยองบอกเด็กอย่าเอาผู้หญิงสองคนนี้

เป็นเยี่ยงอย่างแล้วพาเด็กกลับเลย

บรรจงก็ด่าปุ้มว่าสร้างความอับอายไล่ให้กลับ

ไปเสีย ปุ้มไม่ยอมกลับ บรรจงเลยลากไปขึ้นรถพ่วงข้างพากลับไปจนได้ ฝ่ายเก๋ก็ระบายอารมณ์ทุ่มกล้าไม้



ใส่หลุม ตะโกนถามว่าใครมีรถบ้างขอเหมาไปส่งที่

ตลาดหน่อย ชาติเห็นชัยมีรถมอเตอร์ไซค์ปุโรทั่ง ขนาดประคองมาจอดก็ยังล้ม เลยอาสาไปส่ง

เก๋ไม่รู้จักชาติ พอถึงท่ารถ ถูกเก๋เรียก “คุณลุง” ก็ถึงกับสำลักน้ำ เก๋ขอที่อยู่และยื่นเงินให้ห้าร้อยเป็นค่ามาส่งด้วยความเวทนา ทำเอาชาติอึ้ง

ชาติยังไม่ทันออกจากลานจอดรถที่ตลาด ก็เจอกับแก๊งมอเตอร์ไซค์วิบากคำรามกระหึ่มเข้ามาตีวงโอบล้อม คันหนึ่งขี่ยกล้อเข้ามา อีกคันพุ่งตามมาแทบจะเหยียบชาติ พอถอดหมวกกันน็อกเปิดหน้าก็คือไกรสรกับทัศน์ นักการเมืองท้องถิ่นกับสมุนนั่นเอง

ชาติเปรยว่าแข่งรถกวนชาวบ้านเป็นมลพิษทางสังคม ไกรสรทำเป็นหัวหมอขู่ว่า “ด็อก ไม่ได้มีหน้าที่ปราบแว้น...ระวังจะผิดกฎหมายฐานหมิ่นประมาท...ระวังอย่าเอาตีนไปแหย่ขวางทางรถใครเขาอีกล่ะด็อก วู้ววว...” แล้วเบิ้ลให้ฝุ่นฟุ้งใส่หน้าชาติก่อนขี่ตามกันไปพร้อมเสียงเครื่องยนต์แผดลั่น

ชาติได้แต่มองตามแก๊งกวนเมืองด้วยความแค้น กลับมาเล่าให้พนัสกับอิสร์ฟัง ทั้งสองสมเพชพฤติกรรมของแก๊งกวนเมือง พนัสถามอิสร์เรื่องผู้หญิงสองคน

ตบตีกันวันนี้ อิสร์ขอโทษและจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก

“ผมไม่โทษคุณหรอกนะ ผมก็เห็นว่าคุณไม่ได้ทำอะไร...แต่ทีหลังก็กินยาลดเสน่ห์ลงหน่อยก็แล้วกัน เอาล่ะ ไปพักผ่อนกันเถอะ แยกย้ายๆ เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว”

พนัสไล่ลูกน้องแล้วตัวเองก็ขึ้นบ้าน ชาติจึงเดินคุยกับอิสร์ต่อ ถามว่าถ้าเมียเขารู้ว่ามีผู้หญิงมาตบตี

แย่งเขากันถึงในป่า เขาจะว่ายังไง

“ตบตีอะไรกันครับ ด็อกเตอร์ก็รู้...ไอ้ปุ้มมันติงต๊อง...พวกที่มาปลูกป่าเขาเลยมองผมแปลกๆเลย”

“เป็นหนุ่มเนื้อหอมนี่เป็นกรรมแท้ๆ สู้คนเป็นลุงไม่ได้ ได้ตังค์ตั้งห้าร้อย” ชาติเอาแบงก์ห้าร้อยโบกอวดขำๆ แล้วเดินแยกไป อิสร์จับต้นชนปลายไม่ถูกได้แต่มองงงๆ

ooooooo

กลับมาถึงทางเดินเข้าบ้านตัวเอง อิสร์ดูนาฬิกาเป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว เขาโทร.หาโอม แต่ไม่มีคน

รับสาย เปลี่ยนเป็นโทร.หาอาร์มก็ไม่มีคนรับสายอีก บ่นห่วงๆว่า “แล้วมีใครไปงานแต่งงานเป็นเพื่อนปอนด์รึเปล่าวะ” ตัดสินใจโทร.หาปอนด์บอกตัวเองอย่างทำใจ “เอาวะ โดนด่าเป็นโดนด่าสิ...”

ปอนด์นั่งแท็กซี่กำลังจะไปงานแต่งงานของเพื่อนชื่อแม่มด เสียงโทรศัพท์เข้าเห็นเป็นสายจากอิสร์ เธอลังเลนิดหนึ่งแล้วตัดสินใจตัดสายเลย ปอนด์ในลุคสวยซอฟต์ เสื้อผ้าหน้าผมสวยหวานแบบธรรมชาติในชุดธีมทะเล ก่อนเดินเข้างานปอนด์ให้กำลังใจตัวเอง “ฮึบ... สดใสๆ ร่าเริงๆเข้าไว้ ปอนด์สู้ๆ” แล้วเดินเชิดสง่าเข้าไป

“ปอนด์มาแล้ว...ปอนด์มาแล้ว...” เสียงเพื่อนร้องบอกกัน มองปอนด์แล้วมองหาอีกคน มีเสียงถามกันว่า ไหนสามีปอนด์...

“เอาไปซ่อนไว้ที่ไหนเอามาอวดสิ อยากรู้ว่าจะหล่อกว่าพี่ก้อนอิฐของฉันรึเปล่า” แม่มดแซว

“คือพี่อิสร์เขาอยากมามากเลยนะ แต่บังเอิญวันนี้มีงานปลูกป่าน่ะจ้ะ” ปอนด์ฉีกยิ้มพยายามร่าเริง อธิบายความจำเป็นในการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำลำธาร ออกรับแทนอิสร์ว่า “ปอนด์ก็เลยบอกให้พี่อิสร์เขาอยู่ทำงานนั้นดีกว่า อาทิตย์นี้พี่อิสร์ก็เลยไม่ได้กลับบ้านจ้ะ”

เพื่อนๆต่างโห่...ฮู้ย...ซี้ดดด เสียดายและเซ็ง ปอนด์แอบถอนใจที่เอาตัวรอดเนียนๆสวยๆไปได้...

เมื่อได้เวลาที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวโยนดอกไม้ บรรดาสาวโสดต่างรีบออกไปเตรียมรับช่อดอกไม้กัน เหลือแต่ปอนด์นั่งหง่าวเฝ้าโต๊ะอยู่คนเดียว เลยจิ้มเค้กแต่งงานกิน บ่นเซ็งๆ

“ถ้าแต่งงานแล้วเหมือนโสดแบบนี้...กลับไปเป็นโสดยังสนุกกว่าอีก ฮึ...พี่อิสร์บ้า!”

กินเค้กก้อนใหญ่จนติดคอ แต่แล้วก็มีมือหนึ่ง

ยื่นแก้วน้ำทรงไวน์มาให้ตรงหน้า

“ดื่มน้ำหน่อยสิครับ...” ปอนด์มองเจ้าของมือ... กรรชิตนั่นเอง “พี่นั่งด้วยนะครับ เดี๋ยวปอนด์จะเหงา”

ปอนด์ที่กำลังหงุดหงิดรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที แต่ก็รักษามารยาท ส่วนเพื่อนๆก็สะกิดกันให้ดู บ้างก็ซุบซิบกัน

กรรชิตถามว่าทำไมต้องเอากระเป๋ามาคืนด้วย ปอนด์บอกว่ามันแพงเกินไปและหญิงที่มีสามีแล้วไม่ควรรับของแบบนั้นจากผู้ชายอื่น กรรชิตถามว่าแล้วไหนล่ะสามี

“เขาไม่ได้มาค่ะ เขาทำงาน” กรรชิตเหน็บว่าสงสัยทำวันหยุดได้เบี้ยเลี้ยงเยอะโอทีเพียบ “พี่อิสร์ไม่ได้ทำงานเพื่อเงินค่ะ พี่อิสร์เขาต้องคุมงานปลูกป่าที่ทับสักค่ะ”

“ทับสัก ฮ่ะๆๆ ปลูกป่าที่ทับสักเนี่ยนะ จะปลูกไปทำมั้ย...เพราะอีกไม่นานมันก็จะกลายเป็นเขื่อนแล้ว”

ทันใดนั้นมีแสงแฟลชเข้าหน้าทั้งสองเป็นฝีมือของช่างภาพประจำงาน ถ่ายภาพสองคนคู่กัน กรรชิต พอใจมากขออีกภาพเพราะเมื่อกี๊ไม่ได้มองหน้ากัน แล้วขยับเข้านั่งติดปอนด์ ปอนด์ขยับออกเขาก็ขยับตาม ช่างภาพนับหนึ่ง...สอง กรรชิตก็รีบยื่นหน้าเข้าใกล้

ปอนด์ทำหน้าเซ็ง

เมื่อมาถ่ายรูปกับบ่าวสาวที่หน้างาน กรรชิตก็มายืนติดกับปอนด์ ช่างภาพให้ขยับชิดๆหน่อย เขา

ก็เบียดแนบชิดปอนด์ ไม่เพียงเท่านั้นยังเอามือโอบ

ปอนด์ด้วย ปอนด์ได้แต่ทำหน้าเย็นชา

เมื่อเข้าไปนั่งที่โต๊ะ กรรชิตเอาอกเอาใจมากจนปอนด์อึดอัด จึงแกล้งทำเป็นได้รับโทรศัพท์แล้วเดินคุยออกมา พอออกมานอกห้องก็เก็บโทรศัพท์แล้วรีบเลี่ยงออกจากงานเลย มาถึงริมถนนโบกแท็กซี่ แท็กซี่โฉบเข้ามาแต่พอบอกว่าจะไปไหนก็ปฏิเสธอ้างว่าแก๊สไม่พอ ทันใดนั้นรถกรรชิตปาดเข้ามาจอด เขาเปิดประตูตอนหลังลงมาเอ่ย

“แท็กซี่สมัยนี้ก็แบบนี้แหละปอนด์ แย่หน่อยนะนายอิสร์สามีเธอคงอยู่แต่ในป่า ไม่รู้หรอกว่าชีวิตคน กรุงเทพฯน่ะมันยากแค่ไหน” พอปอนด์บอกว่าไม่เป็นไรตนชินแล้ว กรรชิตถามว่า “ชิน ปอนด์พูดออกมาได้ไง ตลอดเวลาที่เราคบกัน พี่เคยปล่อยให้ปอนด์ต้องมาเสี่ยงข้างถนนแบบนี้เหรอ”

ปอนด์กราบขอบพระคุณสำหรับทุกอย่างที่เขาเคยทำให้ แต่ตอนนี้ตนอยากดูแลตัวเองมากกว่า เขาบอกว่าทนดูเธอยืนอยู่ท่ามกลางฝุ่นควันแบบนี้ไม่ได้ เกิดเจอคนขับแท็กซี่ลวนลามล่ะ ให้ตนตายเสียดีกว่า แล้วบังคับให้ปอนด์ไปกับตน ปอนด์ไม่ไปก็ฉุดจะให้ขึ้นรถให้ได้

ทันใดนั้นอาร์มขับบิ๊กไบค์เข้ามาเบรกกึกเกือบผ่ากลางทั้งสอง อาร์มถอดหมวกกันน็อกสั่งให้กรรชิตปล่อยสุภาพสตรีเดี๋ยวนี้ กรรชิตตกใจปอนด์จึงสะบัดหลุดถลามาหาอาร์มรวบชายกระโปรงขึ้นคร่อมรถ อาร์มส่งหมวกกันน็อกให้เอ่ยเย้ยกรรชิต “ลาก่อนนะครับคุณผู้ชาย” แล้วพุ่งหายไปในพริบตา ทิ้งให้กรรชิตช็อกอยู่ตรงนั้น

ooooooo

กลับถึงบ้านอาร์มบอกว่าพี่อิสร์อยากให้ตนหรือพี่โอมกับพี่เจนพาพี่ปอนด์ไปงานแต่งงาน แต่พวกเราไม่ว่างจริงๆ ปิ๊กก็ติดนัดทำรายงานกลุ่ม อาร์มบอกว่าพอเสร็จงานตนเลยรีบแว้นไปที่งาน โชคดี

ที่ไปทันเวลา

ปอนด์บ่นว่าพี่อิสร์ทำไม่ถูก ตนไม่ตั้งใจจะรบกวนใครเลย พี่อิสร์ทำเหมือนตนเป็นภาระของส่วนรวม แต่พูดไม่ทันขาดคำอิสร์ก็มาถึง อาร์มบอกให้เคลียร์กันเองแล้วกัน แล้วเลี่ยงไปเลย

อิสร์บ่นหิวข้าวชวนปอนด์ไปหาอะไรกินกันข้างนอก ระหว่างนั้นอิสร์ถามว่าไปงานแต่งงานเพื่อนเป็นไงบ้าง มีรูปให้ดูไหม พอปอนด์เอาให้ดูเป็นรูปที่ถ่ายกับเพื่อนๆ อิสร์ชมว่าสวย ปอนด์บอกให้เข้าไอจีไปดูชื่อแอ็กเคานต์แม่มด ชมว่าแม่มดสวยน่ารักมากมีรูปสาวๆให้ดูเพียบ แต่พออิสร์เปิดเข้าไปดูเขาชะงักหน้าตึงทันที ปอนด์

ถามว่าทำไมหรือ เขากระชากเสียงว่า “ดูเอาเอง”

ปรากฏว่าเป็นภาพที่กรรชิตโอบไหล่ปอนด์พร้อมคำบรรยายว่า “ถ่านไฟยังไม่เก่า”

“บ้าที่สุด ยัยแม่มดคิดอะไรอยู่เนี่ย”

“ไม่ต้องไปโทษแม่มดหรอก ถ้าไม่มีคนทำก็คงไม่มีคนถ่าย” อิสร์เสียงกระด้าง จ้องหน้าปอนด์ที่นั่งซีดพูดไม่ออก

ทั้งสองเดินกลับบ้านต่างเดินจ้ำตะบึงตะบอนโทษกันไปมา ปอนด์โทษว่าเพราะอิสร์ไม่ไปงานพี่เก้าจึงแทรกเข้ามา อิสร์ก็โทษว่าถ้าปอนด์ไม่ยอมนั่งด้วยก็ไม่เกิดภาพอย่างนี้ ชี้แจงว่าที่ตนไม่ไปเพราะติดปลูกป่า ไม่เชื่อก็ดูในเฟซบุ๊กของอุทยานได้เลยว่าวันนี้ตนทำอะไรบ้าง

อิสร์เปิดให้ดูอย่างมั่นใจ พลันก็ผงะช็อก และปอนด์ก็จี๊ดทันทีเมื่อเห็นปุ้ม อิสร์ และเก๋เซลฟี่กันแช่มชื่น โดยเฉพาะเก๋ระรื่นมาก อิสร์บอกว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น พยายามจะอธิบายแต่ไม่มีช่องให้พูดเลย ปอนด์พูดประชดจ้องหน้าถามว่า

“ยัยเก๋ไปหาพี่อิสร์เหรอ...มันหมายความว่ายังไงพี่อิสร์”

กลับถึงบ้านปอนด์เอาผ้าห่มกับหมอนมาวางที่โซฟาเชิญอิสร์หลับฝันดี อิสร์ตัดพ้อว่าตนอุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกลให้นอนโซฟาเนี่ยนะ ปอนด์อารมณ์ค้างถามประชดว่าก็ทำไมไม่ชวนเก๋อยู่ที่อุทยานต่อให้เพลินๆ

“ปอนด์...พี่ขอร้องเถอะ เราอย่ามีปัญหากันเพราะเก๋อีกเลย”

ปอนด์ชี้ว่าอิสร์ไม่ได้มีแค่เก๋คนเดียวแต่ยังมี

ยัยหน้าหวานอีกคนด้วย ถามว่าแต่งงานแล้วยังไม่เลิกนิสัยอ้อนแม่ยกอีกเหรอ อิสร์ทิ้งตัวนั่งอย่างหมดแรง ในขณะที่ปอนด์เข้าห้องปิดประตูล็อก ร้องไห้เงียบๆ

แต่พอตกดึก ปอนด์อดไม่ได้ที่จะออกมาดู เห็นอิสร์นอนอย่างหมดสภาพที่โซฟา ผ้าห่มหล่นมากองที่พื้นก็สงสารหยิบผ้าห่มคลุมให้ มองอย่างสงสารแล้วเดินไปปิดไฟกลับห้องนอน

ตีสอง อิสร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากพนัสให้ไปช่วยสกัดจับพวกมอดไม้ที่ลักลอบตัดไม้พะยูงขนออกชายแดน อิสร์ไปทันที รุ่งขึ้นปอนด์ออกมาเห็นผ้าห่มพับเรียบร้อยวางไว้บนหมอนก็ถอนใจพึมพำ

“แค่ต้องนอนโซฟาคืนนึงนี่ถึงกับต้องหนีกันไปแบบนี้เลยเหรอ...คนเลว”

ออด เจิม และบรรจงไปซุ่มอยู่บนสันเขากะว่าพวกนั้นเดินเท้ากว่าจะมาถึงที่นี่น่าจะสัก 9 โมงเช้าหรือ 10 โมง แต่ผิดคาดเพราะพวกมันใช้มอเตอร์ไซค์วิบากเกือบ 20 คันขนไม้บิดกระหึ่มมากลางป่า ออดยกปืนจะยิง เจิมจับมือไว้บอกว่ามันมาเป็นสิบเรามีแค่สาม

ออดจึง ว.รายงานพนัส พนัสฟังแล้วสั่งเฉียบขาด

“จัดงานต้อนรับให้สาสม”

อิสร์จัดการตามแผน พนัสดูนาฬิกาบอกว่าตำรวจทหารที่ประสานไปน่าจะมาถึงแล้ว แล้วทั้งอิสร์กับพนัสก็ไปขึ้นรถเตรียมไปขวางถนนดัก

พวกมอดไม้ใช้มอเตอร์ไซค์วิบากขนไม้ทั้งร่อนทั้งเหินมากลางป่าอย่างชำนาญ อิสร์กับพนัสอยู่ในรถเตรียมพร้อม พอเสียงมอเตอร์ไซค์ใกล้เข้ามาทั้งสองก็เอารถออกไปขวางถนน พนัสถือโทรโข่งประกาศให้พวกมันหยุดอยู่กับที่ วางอาวุธยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี

คณาถามอิสร์ว่าจะไหวหรือ ทำไมทหารตำรวจยังมาไม่ถึงสักที อิสร์สั่งให้หยุดบ่น และออกไปปฏิบัติการทันที พวกมอดไม้ค่อยทยอยยกมือยอมแพ้ คณาเตรียมเชือกมามัด แต่มอดไม้คนหลังสุดลุกขึ้นวิ่งหนี คนอื่นจะวิ่งตาม พนัสยิงปืนขึ้นฟ้าชุดหนึ่งจึงหยุดพวกมันได้

แต่ทั้งสามยังไม่ทันทำอะไรก็มีเสียงแว้นกระหึ่มมาจากอีกด้าน ไกรสรมาแล้ว! สามคนหน้ายิงกราด

ใส่เจ้าหน้าที่แต่ไม่โดนใคร พวกที่เตรียมหนีก็กลับมาขึ้นรถพุ่งลงข้างทางอ้อมรถปิดถนนหนีไปได้ ทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้สองสามคัน อิสร์โดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่พวกนั้นทิ้งไว้ตามไปทันที

อิสร์ยิงยางมอเตอร์ไซค์คันหลังสุดซึ่งเป็นของทัศน์จนยางระเบิดรถล้ม ทัศน์กลิ้งหลบลงข้างทาง แต่ก็ถูกอิสร์ยิงที่เข่าเลือดพุ่ง ขณะอิสร์จะเข้าไปยึดปืนก็มีเสียงแว้นแปร๋นนนน...มาข้างหลัง อิสร์ตกใจหันมอง ไกรสรขี่รถโฉบมาหิ้วทัศน์ขึ้นรถขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

อิสร์จะตามแต่ถูกแว้นอีก 5 คันวิ่งสวนมาพุ่งใส่ มือปืนกำลังจะยิงอิสร์ แต่ถูกพนัสยิงมาจากอีกด้าน มันจึงต้องหนีไป เจอรถยีเอ็มซีของทหารตำรวจแล่น

สวนมาหักรถขวางทาง พวกมอดไม้จึงต้องทิ้งรถหนี

เอาตัวรอด ไกรสรกับทัศน์ก็หนีรอดไปได้

พอหนีไปไกลเห็นว่าปลอดภัยแล้วไกรสรกังวลว่าเจ้าหน้าที่ยึดรถได้จะสาวมาถึงตน ทัศน์บอกก่อนจะเป็นลมเพราะเสียเลือดมากว่า

“พวกนั้นพูดไทยไม่ได้สักคนครับ รถก็ไม่มีทะเบียน ขโมยมาทั้งนั้น เจ้านายปลอดภัยแน่ แต่ผม...ผม...”

ทัศน์พูดไม่ทันจบก็เป็นลมพิงหลังไกรสร ไกรสรใช้มือหนึ่งจับทัศน์ไว้ อีกมือขับรถเข้าป่าไป

ooooooo

ปิ๊กดูทีวีเห็นการแถลงข่าวจับพวกมอดไม้ ได้ของกลางทั้งไม้พะยูงและมอเตอร์ไซค์วิบากนับสิบคัน มีพนัสกับอิสร์ร่วมกันแถลงข่าว ปิ๊กตะโกนเรียกปอนด์ให้มาดู แต่ข่าวจบเสียก่อน

ปอนด์มาดูข่าวไม่ทัน ฟังจากปิ๊กเล่าแล้วพูดประชดว่าที่รีบไปเพราะจะไปออกทีวีนี่เอง ปิ๊กบอกว่าไม่ใช่ ก็ถูกปอนด์หาว่าแก้ตัวให้กัน ไม่อยากฟัง ปิ๊กยังพยายามจะชี้แจง ปอนด์เอามืออุดหูพูดเสียงเขียว

“ถ้าแกพูดถึงผู้ชายบ้านี่อีกคำ ฉันจะร้องกรี๊ด” แล้วเดินลงส้นปึงปังไปหน้าบ้าน ปิ๊กมองพี่สาวเซ็งๆ

หลังการแถลงข่าว อิสร์หยิบมือถือมาพิมพ์ไลน์ “ปอนด์...เมื่อเช้าพี่รีบออกมาก็เพราะได้รับแจ้งว่ามอดไม้...”

ขึ้นต้นแล้วไม่รู้จะพิมพ์อะไรต่อ ถามตัวเองว่าเล่าไปแล้วได้อะไร ตัดสินใจกดลบข้อความจนหมด ชาติเหล่มองอิสร์ที่กดลบไลน์ถามว่า “เสี่ยงตายจับมอดไม้ได้ตั้งเยอะ ไม่คิดจะเล่าให้เมียฟังบ้างหรือ”

“คิดว่าไม่เล่าดีกว่า ถ้าผมเล่าละเอียดเขาก็จะตกใจ กลุ้มใจเปล่าๆ แต่ถ้าเล่าย่อๆ เขาก็จะอารมณ์เสีย สู้เอาเวลามาเขียนรายงานส่งกรมฯดีกว่า”

“คุณนี่ประหลาดคน ทีตอนแถลงข่าวละอธิบายได้เป็นฉากๆ ทีกับเมียตัวเองไม่ยอมบอกอะไรเลย รอให้เขาเห็นเองจากข่าวรึไงคุณ”

“ก็ดีนะครับ เผื่อเขาได้เห็นหน้าผมในจอโทรทัศน์แล้วจะรู้สึกเท่ๆเหมือนเป็นแฟนกับคนดังขึ้นมาบ้าง” อิสร์พูดติดตลกแต่หัวเราะขื่น

บุ้งเข้าขัดจังหวะบอกว่า มีกล่องพัสดุอีเอ็มเอสมาถึงด็อกเตอร์ วางพัสดุกล่องใหญ่ไว้แล้วออกไป ชาติหยิบกล่องมาเขย่าเอาหูแนบฟังพูดขำๆว่า “ระเบิดเปล่าวะ” แต่พอแกะกล่องออกข้างในมีแต่พวกบะหมี่สำเร็จรูป อาหารแห้ง ปลากระป๋อง สเปรย์กันยุง เห็นของเพียบถึงกับอุทาน

“โห...ใครส่งมาให้เนี่ย” พอเห็นการ์ดเป็นรูปเก๋ก็รีบพลิกอ่านตาเป็นประกาย “ลุงชาติคะ เก๋ฝากของจำเป็นสำหรับการเดินป่าพวกนี้ให้ลุงชาติค่ะ ขอบคุณที่ดูแลผืนป่าของเรา...ปล. ถ้าขาดอะไรโทร.หาเก๋นะคะ” แล้วให้เบอร์โทรศัพท์ตัวเองไว้ ชาติยิ้มปลื้ม พึมพำ “เรียกพี่ได้ไหม”

“ด็อกเตอร์ว่าอะไรนะครับ”

“เอ่อ...เปล่า ไม่มีอะไร มีคนเขาส่งของมา...ให้พวกเราน่ะครับ” พูดพลางรีบซ่อนรูปเก๋ หยิบของโชว์กลบเกลื่อน อิสร์ชำเลืองแวบหนึ่งแล้วพิมพ์งานต่อ

ooooooo

ปอนด์นั่งเล่นกับเจ้าบ๊อบบี้ที่สนามหญ้า

หน้าบ้าน ลูบหัวคุยเหมือนปรับทุกข์ว่าอย่าทิ้งตนเหมือนคนบางคนนะ ชมว่า “แกนี่น่ารักที่สุดเลย น่ารักกว่า...คนอีก ฮึ”

 ขณะปอนด์กำลังอยู่ในอารมณ์งอนกับอิสร์นั่นเอง กรรชิตก็นั่งรถหรูมาหาพร้อมบลูเบอร์รีเค้กที่ปอนด์ชอบ ทำเป็นมาขอโทษที่พูดจาไม่เข้าท่า ก้าวร้าวล่วงเกินสามีของปอนด์ แต่ที่ทำไปเพราะรักและเป็นห่วงปอนด์แล้วชวนออกไปกินของอร่อยข้างนอกกัน จะแพงแค่ไหนก็ยินดีจ่ายเพื่อปอนด์

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 4 วันที่ 2 ก.ค.61

ลมไพรผูกรัก บทประพันธ์โดย อุธิยา
ลมไพรผูกรัก บทโทรทัศน์โดย ปราณประมูล
ลมไพรผูกรัก กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ลมไพรผูกรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
ติดตามชมละคร ลมไพรผูกรัก ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ