My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 6 วันที่ 7 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 6 วันที่ 7 ก.ค.61

อิสร์ตามพนัสไปด้วยความสงสัย เขาขับรถข้ามจังหวัดไปยังโรงพยาบาลใหญ่แล้วรีบขึ้นไปที่ห้องฉุกเฉิน ครู่หนึ่งเห็นดวงตาเดินออกมา อิสร์นึกครู่หนึ่งจึงจำได้ว่าเป็นเมียเก่าของพนัสนั่นเอง

ดวงตาบอกพนัสว่าตนเป็นคนพาแม่เขามาโรงพยาบาลเพราะแม่เป็นลมคนแถวนั้นไม่มีรถ โทร.หาเขาก็ติดต่อไม่ได้จึงโทร.บอกตน ตนจึงพามาส่งโรงพยาบาล พนัสขอบใจมาก

“ไม่เป็นไรค่ะ มีอะไรที่ตาช่วยได้ก็จะช่วย พี่แบ่งเวลาข้ามจังหวัดมาดูแลแม่บ้างนะคะ ตอนนี้ตาไม่ค่อยมีเวลาไปหาแกแล้ว แกบ่นว่าพี่นัดแกไว้ว่าจะมากินข้าวเย็นกะแกวันนี้แล้วพี่ก็เบี้ยว ทำไมล่ะคะ ทำไมพี่จะรักษาคำพูดกับแม่ก็ยังทำไม่ได้”



อิสร์ถามตัวเองอย่างสงสัยว่า “ไม่ใช่หัวหน้าเหรอ...ที่มาค้นหาเมมโมรีการ์ด...แล้วใครวะ”

ขณะอิสร์ขับรถกลับ แต่ออกมาได้ไม่นานก็ถูกรถเก๋งคันหนึ่งขับแซงขึ้นไปอย่างเร็ว แล้วก็มีรถบรรทุกข้างหลังเปิดไฟสูงกะพริบเหมือนจะขอแซง อิสร์เปิดทางให้ก็ไม่ยอมแซง อิสร์เห็นท่าไม่ดีจะขับรถหนี ก็ถูกรถบรรทุกอีกคันขับสวนมาและอีกคันขับกินเลนเข้ามา

อิสร์ตกใจหักรถลงข้างทางอย่างเร็วรถพลิกหงายล้อหมุนติ้วในอากาศ แล้วรถบรรทุกทั้งสามคันก็พุ่งหายไปในความมืด

อิสร์หัวแตกเลือดไหลเข้าตา แต่เขาพยายามมองหากระเป๋าสะพายที่ใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ พอเห็นก็ดีใจพยายามหยิบมา และถีบประตูรถจนเปิด ตะกายออกมาอย่างยากลำบาก หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาคณาบอกว่าตนรถคว่ำ ห่างจากจังหวัดกลับทับสักไม่ถึงยี่สิบกิโล คณารีบขึ้นรถเครื่องออกไปทันที

คืนนี้ปอนด์โทร.หาอิสร์นับครั้งไม่ถ้วนแต่อิสร์ไม่รับสาย ปิ๊กบอกว่าเดี๋ยวเขาเห็นมิสคอลก็โทร.กลับมาเองแหละ แซวว่า “ใครจะกล้าทำให้ภรรยาโกรธ”

จนเช้าปิ๊กจะออกไปเรียนเห็นปอนด์ในชุดทำงานยังถือโทรศัพท์เครียดอยู่ บอกปิ๊กว่าพี่อิสร์ยังไม่โทร.กลับมาเลย ปิ๊กให้ลองโทร.ดูอีกที

คราวนี้มีคนรับสายแต่เป็นเสียงผู้หญิง ปอนด์ปรี๊ดทันทีถามว่าเธอเป็นใคร ที่แท้เป็นปุ้มที่มาเยี่ยมอิสร์ที่โรงพยาบาลเป็นคนรับสาย ส่วนอิสร์ยังหลับอยู่เพราะฤทธิ์ยา ปุ้มทำเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอิสร์ ทั้งด่าทอต่อว่าปอนด์ว่าโทร.มาอ่อยผัวชาวบ้าน รู้ไว้เสียด้วยว่าเขามีเมียแล้ว พูดแล้วอุทานว่าอิสร์ตื่นแล้ว ขอตัวไปดูคนสำคัญของตนก่อนแล้ววางสายเลย

ปอนด์โกรธแทบคลั่งเชื่อว่าอิสร์มีเมียอยู่ในป่าอีกคน ด่าและแช่งให้ตายไปเลย

ขณะนั้นเองโอมกับอาร์มวิ่งเข้ามาบอกปอนด์ว่า ที่อุทยานทับสักโทร.มาบอกว่าอิสร์รถคว่ำอาการสาหัสพวกตนกำลังจะขับรถไปกันเดี๋ยวนี้ เร่งปอนด์ให้ไปเก็บของอีกสามนาทีจะวนรถมารับ

ปอนด์ช็อก ยืนบื้อทำอะไรไม่ถูก

ooooooo

พออิสร์รู้สึกตัวคณารีบบอกเขาว่าพี่ไม่เป็นอะไรมาก หัวแตกเย็บ 30 เข็ม แต่สมองไม่กระทบ กระเทือนอะไร มีแค่ไหปลาร้าร้าวต้องดามเอาไว้ บอกอิสร์ไม่ต้องเครียด พักฟื้นเดี๋ยวก็หาย

อิสร์ถามหาของในรถ คณาบอกว่าตนเก็บมาหมดแล้วและให้หัวหน้าที่มาเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลเดียวกันนี้เก็บไว้ให้ อิสร์ซีดไปทันทีจนคณาถามว่าเป็นอะไร เดี๋ยวเรียกพยาบาลให้

อิสร์หลับตาลงอย่างร้อนใจ สับสน เป็นห่วงของในกระเป๋าที่บัดนี้อยู่ในมือของหัวหน้าแล้ว

ที่กรมป่าไม้ชาติเดินคุยกับเจ้าหน้าที่รุ่นพี่ที่ฝากเยี่ยมอิสร์ด้วย ยังไงก็จะไปหาเขาที่ทับสักเสาร์หน้าฝากดูว่าอิสร์มีข่าวคืบหน้ายังไงให้โทร.บอกด้วย แล้วแยกกัน

ขณะนั้นเองพนัสเดินคุยกับรองอธิบดีผ่านมาแต่ไม่เห็นชาติ พนัสเชื่อว่าอิสร์ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุแต่มีคนจงใจจะเอาชีวิตเขา ตนคิดว่าเราควรจะย้ายเขาออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะโดนเก็บ

ชาติได้ยินพอดี พึมพำไม่พอใจว่า “หัวหน้าจะย้ายอิสร์ออกจากพื้นที่...แบบนี้มันจงใจกำจัดกันชัดๆ”

พวกปอนด์ไปถึงโรงพยาบาล ปอนด์โผไปที่เตียงมองอิสร์อย่างสงสารมาก พยาบาลมองงงๆว่ายังไงกันเมื่อวานก็มีคนที่ทำตัวเหมือนเมียวันนี้ก็มีเมียมาอีก

ปิ๊กเตือนปอนด์ว่าให้ดูแลอิสร์ให้ดีเพราะขนาดนอนป่วยอย่างนี้ยังมีหญิงมาตอมหึ่ง ให้ปอนด์ลาพักร้อนมาเฝ้าอิสร์ ปอนด์พูดงอนๆว่าใครอยากได้ก็เอาไปเลย

โอมตำหนิปอนด์ว่าผัวนอนพะงาบๆอยู่ยังจะเอาแต่หึงหวงอีก ปิ๊กบอกปอนด์ว่าพี่อิสร์ไม่เคยรักใครนอกจากพี่ปอนด์ เราห้ามใจคนอื่นไม่ได้ ฉะนั้นพี่ปอนด์ต้องมาอยู่รั้งเมืองตีพวกทัพเถื่อนให้กระเจิง

แรงยุของพี่และน้องทำให้ปอนด์ได้คิด มองอิสร์ใจอ่อนยวบ

ที่หน้ากรมป่าไม้ขณะชาติกำลังเตรียมจะกลับเก๋ก็โทร.เข้ามาอย่างตกอกตกใจถามว่าอิสร์เป็นยังไงบ้างเพราะเมื่อคืนตนฝันว่าเขาตาย โทร.หาอิสร์ก็ปิดเครื่อง ถามทำท่าจะร้องไห้ว่า “พี่อิสร์ตายจริงๆเหรอลุง...”

ครูจันทรา ป้านิดและแก๊งของอิสร์ ทั้งเตชัส พัสกร อคิน โขง มาถึงโรงพยาบาลอย่างร้อนใจ ขณะเดินเข้าโรงพยาบาลเตชัสเห็นไกรสรก็จำได้ชี้ให้เพื่อนๆดู

ไกรสรกับเจ๊ชบาเข้าไปเยี่ยมอิสร์ในห้อง พร้อมกระเช้าเยี่ยมและพิเศษสุดคือสร้อยทองหนักห้าบาทพร้อมพระเลี่ยมทองเหลืองอร่าม ฝากทางโรงพยาบาลให้ดูแลคนป่วยให้ดีและขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ปอนด์จำไกรสรที่ออกทีวีได้ แนะนำตัวเองว่าตนเป็นภรรยาของอิสร์ ไกรสรชมว่าปอนด์สวย อิสร์จึงชอบทำอะไรแรงๆ หาเรื่องใส่ตัวแทนที่จะถนอมชีวิตเอาไว้ให้มีความสุขไปนานๆ เจ๊ชบาก็ว่าคราวนี้อิสระไม่เป็นอะไรมากแต่คราวต่อไปไม่แน่ และมอบสร้อยกับพระไว้คุ้มครอง ไกรสรบอกว่าขาดเหลืออะไรให้บอกตนได้

พอสองแม่ลูกเดินออกไป ปอนด์ก็ถือกระเช้าและสร้อยไปคืน ทั้งสองไม่รับปอนด์จึงหาที่แขวนไว้บอกว่าเมื่อไม่รับตนก็ไม่รับผิดชอบแล้วกลับไปเลย

พวกเพื่อนๆของอิสร์มาเห็นพอดีถามปอนด์ว่ามีอะไรหรือ ไกรสรกับพวกจ้องอย่างอยากหาเรื่อง เจ๊ชบาเห็นท่าไม่ดีเร่งไกรสรให้รีบไปอย่าเสียเวลาเลย บอกสมบัติให้เอากระเช้าไปให้พวกคนไข้อนาถาเสีย

ครูจันทราชมปอนด์ว่าเก่งมาก พัสกรบอกปอนด์ว่าพวกตนจะไม่ปล่อยให้อิสร์ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวเด็ดขาด และเมื่อเข้าไปเยี่ยมอิสร์ ทุกคนกระเซ้าเย้าแหย่กับอิสร์อย่างร่าเริง ครูจันทราติติงอิสร์ว่า

“อิสร์ห้าวเกินไปจริงๆ เรื่องเปิดโปงออกทีวีครูพอรับได้ แต่ที่อิสร์ทำขนาดปลอมตัวเข้าไปแอบถ่ายคลิปเขาระดับเผาขนแบบนี้แล้วอิสร์ยังไม่ตาย ครูว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มาก...ครูขอร้องอิสร์ให้ช่วยเพลาๆหน่อย อิสร์เป็นคนนะ ลูกปืนพุ่งมาหัวอิสร์ก็เป็นรูได้...เพราะฉะนั้น จะไปแลกกับเขาเพื่อ?”

อิสร์บอกว่าตนไม่ยอมแพ้หรอก ครูบอกว่าวิธีเอาชนะมีตั้งหลายวิธี ป้านิดก็บอกให้ใช้สมองให้มากอย่าเอาแต่ใช้แรง อิสร์ถามว่าสรุปว่าตนโง่ใช่ไหม

“ใช่!!!” ทุกคนตอบพร้อมกัน

“อิสร์ไม่โง่หรอก แต่อิสร์บ้า บ้าเกินไป อย่าบ้าแบบนี้อีก สงสารยัยปอนด์จะกลายเป็นม่ายทั้งที่ยังสาว” ครูจันทราเตือนสติ อิสร์บอกเพื่อนๆว่าอย่าบอกให้ปอนด์รู้ว่านี่ตนถูกปองร้ายนะ

ทุกคนโห่พร้อมกัน อิสร์ถามว่าโห่ทำไม เตชัส บอกว่าเขารู้จักปอนด์น้อยไป อย่าประเมินปอนด์ต่ำเกินไป

“การเป็นเมียคนอย่างพวกเธอ นึกเหรอว่าผู้หญิงธรรมดาเขาจะทำได้ จริงไหมเตชัส จริงไหมอคิน” ครูจันทราถาม ทั้งสองบอกว่าจริงครับ

พัสกรบอกว่า เหลือแต่เราแล้วล่ะโขง โอม อาร์ม โขงส่ายหน้าแหยงๆจนโอมกับอาร์มหัวเราะขำ

ooooooo

ค่ำแล้วปอนด์ไปซื้อของกินและกาแฟ กลับมาจ๊ะกับปุ้มที่หน้าห้องอิสร์พอดี ปุ้มถามว่าเธอคือใคร ปอนด์บอกว่าเป็นภรรยาของพี่อิสร์ ปุ้มคุยทับว่าตนสนิทกับพี่อิสร์เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก

ขณะปุ้มกำลังสาธยายถึงความสนิทสนมกับอิสร์ตั้งแต่เด็กนั้น ชาติก็พาเก๋เดินเข้ามาพอดี พอเก๋เห็นปุ้มก็ผลักพ้นทางแล้วเข้าไปหาอิสร์ทันทีพะเน้าพะนอถามว่าเป็นยังไง เจ็บตรงไหนไหม

ปุ้มมองตาเขียวปั้ด ตามเข้าไปแนะนำว่าปอนด์เป็นเมียพี่อิสร์ ไหว้พี่เขาหรือยัง? เก๋ไม่สนใจเอาแต่ถามไถ่อาการของอิสร์บอกว่าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ตนจะพาไปไหว้อาจารย์ ถูกปุ้มด่าว่าโรคจิต งมงาย สองคนเลยทะเลาะกันต่อหน้าอิสร์จนปอนด์สั่งให้หยุดเพราะสามีตนต้องการพักผ่อนขอให้ทั้งสองกลับไปเสีย ให้ออกจากห้องไปเดี๋ยวนี้เลย

เก๋กับปุ้มต่างไม่ยอมไปอ้างว่าเป็นห่วงและหวังดีกับอิสร์ ปอนด์บอกว่าตนเป็นเมียมีหน้าที่ปกป้องดูแลอิสร์อยู่แล้ว ไม่มีใครมีสิทธิ์ทั้งนั้น เชิญกลับไปแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เชิญเสียงแข็งให้ไปทั้งสองคนเลย

ระหว่างปุ้มกับเก๋ทะเลาะกันอิสร์นอนมองตาปริบๆ พอสองสาวทั้งแสบทั้งซ่าออกไป ปอนด์ถามประชด

“ไงคะ ตื่นแล้ว ถึงเจ็บตัวแต่ก็มีความสุขใช่ไหมล่ะที่มีสาวๆมาแย่งกันเกรียวแทบจะตบกันตายที่หน้าเตียงแบบนี้น่ะ”

“มีความสุขที่ได้เห็นหน้าปอนด์ต่างหากล่ะ” อิสร์ยิ้มหวาน ยื่นมือออกมา ปอนด์ค้อนงอนๆแต่ก็เดินไปหารับมืออิสร์มากุมไว้อย่างอบอุ่น

อิสร์ถามปอนด์ว่าลางานมาได้กี่วัน ปอนด์บอกว่าลาสามวันและลาพักร้อนต่อเลย

“จริงเหรอ”

“ปอนด์จะอยู่ดูจนกว่าพี่อิสร์จะดีขึ้นให้หลายวันที่สุดเท่าที่จะทำได้” อิสร์บอกว่าเกรงใจไม่อยากให้ปอนด์ลำบาก ปอนด์งอนขึ้นมาอีกหาว่าอิสร์จะกันเวลาไว้ให้เก๋กับปุ้มผลัดกันเข้าเวรมาเฝ้า

“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะปอนด์” ปอนด์ถามว่าแล้วความจริงคืออะไร “ความจริงคือพี่ไม่มีใครเลยนอกจากปอนด์ นี่แหละความจริง มีเท่านี้ พี่ต้องทำยังไงปอนด์ถึงจะเชื่อล่ะ”

ปอนด์ใจอ่อนแล้ว แต่ยังทำงอนมองหน้าอิสร์จริงจัง ในขณะที่อิสร์มองด้วยสายตาเว้าว้อน...เว้าวอน

ooooooo

ชาติตามเก๋ออกมา เก๋ระบายอารมณ์ว่าตนชอบพี่อิสร์มากไม่แคร์เรื่องเขามีเมียแล้ว และไม่คิดจะแย่งขอแต่ได้พูด ได้คุย ได้คบกันไปเรื่อยๆ ไม่จำกัดความว่าเป็นอะไรกัน แค่นี้...ไม่ได้เหรอ

ชาติอบรมว่าคนเราควรมีกฎเกณฑ์กันบ้าง กฎศีลธรรม กฎหมาย กฎสังคม ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่สนใจว่าจะเป็นลูกเขาเมียใคร มันจะดีหรือ

“เออๆๆ งั้นไปเอากระเป๋าที่รถลุงมา เดี๋ยวเก๋หาโรงแรมนอนแถวๆนี้แหละ ลุงจะได้กลับบ้านกลับช่อง เดี๋ยวเมียลุงจะหาว่าเก๋คิดอะไรกะลุง เพราะไม่มีศีลธรรม ไม่สนใจลูกเขาผัวใครอีก เก๋ดูจะเป็นหญิงชั่วมั่วผู้ชายไม่เลือกเกินไป”

เก๋พูดประชดจนชาติพูดไม่ออก ชาติเลยพาไปเลี้ยงจิ้มจุ่มข้างทาง เก๋ถามว่าลุงอายุป่านนี้แล้วยังไม่มีลูกเมียหรือ พอชาติบอกว่าตนแก่กว่าพี่อิสร์ของเธอไม่กี่ปีหรอก เก๋ตาโตบอกว่าแบบนี้ต้องเรียกพี่สิ

“จะเรียกอะไรก็ไม่สำคัญหรอก แต่เอาเรื่องคุณก่อน คือ...ถ้าเห็นผมเป็นผู้ใหญ่ที่แก่พอจะตักเตือนอะไรคุณได้ ผมก็อยากเตือนคุณอย่างนึงว่าอิสร์เขารักปอนด์มาก คุณควรตัดใจซะ อย่าเสียเวลาเลย”

แม้เก๋จะแก่นเซี้ยวแต่ก็เดาใจชาติออก ถามว่า

“ลุงรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าเมียพี่อิสร์ต้องมา...ลุงกะจะให้เก๋เจอเมียพี่อิสร์เต็มตาใช่ไหม...”

ชาติบอกว่าก็อยากให้มันชัดเจนไปเลย เก๋ดักคอว่าลุงคิดอะไรกับตนหรือเปล่า ชาติบอกว่าคิด คิดว่าจะทำไงดีให้เก๋เลิกชอบอิสร์ เก๋มองหน้าบอกว่าลุงนี่แผนสูง ตีแขนชาติเพียะพูดงอนๆเคืองๆ “เฒ่าหัวงูว่ะ”

พวกข้าราชการในจังหวัดที่เดินผ่านมาพากันเข้ามาทักทาย “ด็อกเตอร์ชาติ” แซวเก๋ว่าเก่งที่ดึงด็อกเตอร์ออกจากป่ามาสู่แสงสีได้ บ้างก็บอกว่าได้ฝากงานวิจัยเรื่องสมุนไพรที่ด็อกเตอร์อยากได้ไว้ที่ทับสักแล้ว

เก๋นั่งมองคนนั้นทีคนนี้ทีที่ทักชาติอย่างนอบน้อมและเรียกชาติว่าด็อกเตอร์ทุกคำ พอพวกเขาลาไปเก๋ ถามชาติว่าลุงเป็นหมอหรือเห็นพวกนั้นเรียกด็อกเตอร์กัน

“ด็อกเตอร์หมายถึงนักวิชาการที่จบปริญญาเอก ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์”

เก๋อายมากเมื่อนึกถึงที่ตนส่งบะหมี่สำเร็จรูปปลากระป๋อง ให้เงินด็อกเตอร์อีก 500 ชาติถามว่า “ถ้าเป็นลุง เก๋ให้ได้ไม่อายใช่ไหม” เก๋ร้องอย่างนึกได้ว่ารู้แล้ว นี่ด็อกเตอร์ปลอมเป็นลุงเพื่อตามหารักแท้ใช่ไหม ชาติจีบทันทีว่า “อือ...แล้วตามเจอแล้วด้วย...แต่ไม่รู้ใช่รักแท้หรือเปล่าน่ะสิ”

ชาติมองหน้าเก๋ด้วยแววตาสุขุมนุ่มลึก ส่วนเก๋อายเอามือปิดหน้าร้องว้ายๆๆบ้าๆประสาวัยรุ่นสุดซ่า

ooooooo

เพราะแม่จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว พนัสไปเยี่ยมอิสร์ เห็นอิสร์ดีขึ้นมากก็แซวว่าปอนด์น่ารักมากน่าจะหาเวลาอยู่กับอิสร์เยอะๆ ดีกว่าอยู่ไกลกันแยกกันอยู่คนละจังหวัด

พอพนัสออกไปพยาบาลพากันมองตามชมให้อิสร์กับปอนด์ว่าหัวหน้าพนัสน่ารักมากอัธยาศัยดี กว้างขวางและสนิทสนมกับทุกคน ยิ่งพวกนักการเมืองอย่างไกรสรยิ่งสนิทกันมาก แม่นักการเมืองก็ส่งอาหารพิเศษ หรูๆจากโรงแรมมาให้ทุกวัน ของแพงๆทั้งนั้นแต่แม่หัวหน้าเป็นเบาหวานและโรคหัวใจไม่กินของพวกนั้นเลยเอาไปแจกพวกด้อยโอกาสหมด

พยาบาลออกไปแล้วปอนด์จึงเล่าให้อิสร์ฟังว่าไกรสรเอาพระเลี่ยมทองพร้อมสร้อยมาเยี่ยมเขาด้วย สร้อยเส้นใหญ่หนักมาก บอกอิสร์ว่าสมัยนี้เขาไม่ให้เป็นเงินสดแต่ให้เป็นพระพร้อมสร้อยแทนเป็นการเลี่ยงบาลีว่าไม่ได้ให้เงินสดแต่ให้พระที่นับถือมากเลยต้องรับไว้ ปอนด์บ่นอย่างระอาว่า

“การคอร์รัปชันสมัยนี้ มันมีวิธีหลบเลี่ยงได้สารพัดจริงๆ”

อิสร์บอกว่าเพื่อนเล่าให้ฟังแล้วแต่ตนอยากรู้ว่าหัวหน้ารับไว้หรือเปล่า ปอนด์บอกว่าไม่เพราะหัวหน้าเป็นคนตงฉินมาก อิสร์ติงว่าชีวิตข้าราชการจนๆมันยากนะ ปอนด์ยอมรับว่ายากจริงๆ

“ปอนด์คงเข้าใจแล้วสินะ ว่าพี่กำลังสู้กับอะไร”

“เข้าใจค่ะ ปอนด์จะร่วมสู้ไปกับพี่ด้วยนะคะ” ปอนด์จับมืออิสร์เป็นสัญญาใจต่อกัน

เมื่ออิสร์จะได้ออกจากโรงพยาบาล ชาติแซวว่าเตรียมออกไปเต็มที่เลยนะ อิสร์บอกว่าจะไปเอาคืนพวกนั้นที่ลอบกัดตน ชาติบอกว่าคงไม่มีโอกาสแล้วเพราะได้ยินหัวหน้าพูดว่าจะย้ายเขาเพื่อความปลอดภัย อิสร์ตกใจแล้วกลายเป็นโมโห ประกาศกร้าวว่า

“ไม่มีทาง ผมไม่ไปซะอย่าง คอยดู ผมจะสู้ ผมไม่หนีพวกมันเด็ดขาด ผมไม่ปล่อยให้พวกมันได้เขื่อนทับสักง่ายๆหรอก ผมจะอยู่เป็นก้างขวางคอพวกมันทุกคน ไม่ให้ใครมาปู้ยี่ปู้ยำป่าผืนนี้ได้”

ooooooo

เมื่อกลับถึงบ้านพัก อิสร์พาปอนด์ไปดูบ้านแบบบ้านๆ อยู่อย่างเรียบง่ายสมถะ ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรทั้งสิ้น ห้องน้ำก็ใช้ขันตักอาบ ห้องครัวก็ใช้เตาถ่าน ห้องนอนก็ไม่มีแอร์ ไม่มีแม้แต่ตู้เสื้อผ้า

พาดูทั้งบ้านแล้ว อิสร์ถามปอนด์ว่า “คิดว่าพออยู่ไหวไหมครับ คุณภรรยา”

“ยิ่งกว่าไหวอีกค่ะ แล้วคุณสามีจะเห็นว่าภรรยาถึกแค่ไหน”

ทั้งสองหัวเราะกันอย่างพร้อมอยู่กับชีวิตที่เรียบง่ายเพื่อภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในการพิทักษ์ผืนป่า

ค่ำวันนี้เองหัวหน้าพนัสกับเพื่อนร่วมงานต่างพากันมาจัดเลี้ยงต้อนรับการกลับบ้านของอิสร์ ชาติกระซิบบอกอิสร์ว่าตนคบกับน้องเก๋แล้ว รู้สึกว่าเขาฮาๆดี แต่ไม่รู้ว่าจะไปกันได้สักกี่น้ำ

ค่ำนี้เองพนัสแจ้งกับอิสร์ว่าจะย้ายเขาเข้ากรุงเทพฯเพื่อใช้ชีวิตครอบครัวที่เพิ่งแต่งงานและทำโทต่อเพื่อความก้าวหน้าของตัวเอง อิสร์ของขึ้นทันที ยืนกระต่ายขาเดียวว่าตนไม่ต้องการความก้าวหน้าอะไร และขอคุยด้วย เมื่อไปคุยกันอิสร์ถามทันทีว่าหัวหน้าเป็นคนเก็บของสำคัญของตนในรถมาหมดใช่ไหม

พนัสบอกว่าอยู่ในรถเดี๋ยวไปเอามาให้ แต่พอเอามาปรากฏว่าเมมโมรีการ์ดหายไป อิสร์สงสัยพนัสทันทีบอกว่ามีคนไปแอบค้นบ้านตนถึงสองครั้งแต่มันหาไม่เจอเพราะตนเอาติดตัวไว้ตลอด

พนัสบอกว่าเพราะเรื่องนี้ตนจึงย้ายเขาเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง เพราะพวกมันไม่ปล่อยเขาไว้แน่

อิสร์โพล่งถามว่าหัวหน้าเอาเมมโมรีการ์ดไปให้พวกมันใช่ไหม ประณามว่าหัวหน้าขายตัวจึงพยายามย้ายตนออกจากพื้นที่เพื่อกำจัดตนให้พ้นเส้นทาง

“คุณคิดแบบนี้กับผมเหรอ” อิสร์ถามว่าไม่ใช่หัวหน้าแล้วจะเป็นใคร เพราะคณาบอกว่าเอาของของตนให้หัวหน้าเก็บไว้ให้ พนัสมองอิสร์อย่างเศร้าใจ ยืนยันว่า “ไม่ใช่ผม อิสร์...แต่ผมจะแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้ก็แล้วกัน” พนัสบอกให้อิสร์ใจเย็นๆแล้วคอยดูกันต่อไป

อิสร์ไม่ยอมออกจากพื้นที่เด็ดขาด ประกาศว่า

“ผมจะสู้ สู้กับอิทธิพลและอำนาจเงินของพวกคุณทุกทาง”

“คุณบ้าไปแล้ว อิสร์...”

ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างท้าทาย

ooooooo

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 6 วันที่ 7 ก.ค.61

ลมไพรผูกรัก บทประพันธ์โดย อุธิยา
ลมไพรผูกรัก บทโทรทัศน์โดย ปราณประมูล
ลมไพรผูกรัก กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ลมไพรผูกรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
ติดตามชมละคร ลมไพรผูกรัก ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ