My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 2 วันที่ 30 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 2 วันที่ 30 ก.ค.61

กิตติแอบฟังทั้งหมด สงสัยว่าหรืออคินจะเกี่ยวข้องด้วยถึงได้ไม่ไปบิน?

อคินรู้สึกผิดสังเกตกิตติที่ตามติดตนตลอดเวลา แต่พอจะเข้าไปคุยด้วยกิตติก็วิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา ซ้ำร้ายอคินยังถูกตำรวจเชิญตัวไปเพราะมีบางคนไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนตัวนักบินกะทันหันเป็นแค่ความบังเอิญ อคินถามว่าบางคนนั้นหมายถึงนายศรันย์ใช่ไหม ตำรวจไม่ตอบ

ในหมู่เพื่อนนักบิน บางคนบอกอคินว่าเข้าใจเขาดี บางคนก็บอกว่าหลายคนข้องใจเขามาก บางคนก็สะท้อนเสียงซุบซิบรุนแรงว่า “เขาบอกว่าพี่ไม่สมควรจะเป็นนักบินอีกต่อไป” กระทั่งแอร์บางคนบอกว่าผู้บริหารยังส่งหนังสือเวียนไปบริษัทอื่นว่า “ให้ระวังอย่ารับพี่ไปบินดีกว่าเพราะเรื่องนี้ทำให้รู้ว่า พี่เป็นคนไม่รับผิดชอบ” นักบินคนหนึ่งเสริมว่า “เขาพูดกันว่านายไม่เหมาะสมที่จะบินอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ”



“ไม่เหมาะสมที่จะบินอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ” อคินพึมพำแค้นเมื่อเพื่อนขอตัวไป

วันต่อมาทีวีก็สรุปข่าวเครื่องบินของบลูไคท์ตกว่า

“สรุปแล้วรองประธานสายการบินบลูไคท์ นายศรันย์ วิทยเศรษฐี ยอมรับความผิดของนักบิน ขึ้นบินในสภาพไม่พร้อม สุขภาพไม่แข็งแรงทำให้การบินผิดพลาด นักบินที่สองไม่สามารถแก้สถานการณ์ได้ ทำให้เครื่องบินเกิดระเบิดกลางอากาศ บริษัทไม่ได้รับเงินประกัน แต่ทำใจยอมรับได้ ผู้บริหารยืนยันให้บริการเหมือนเดิม”

“บ้าไปแล้ว พี่สารัตถ์เนี่ยนะสภาพไม่พร้อม ทำการบินผิดพลาด พี่วิสสุตแก้สถานการณ์ไม่ได้ ไม่จริงไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้หลักฐานคืออะไรวะ”

อคินโวยวายคับแค้นใจแล้วคว้าโทรศัพท์กดเบอร์ที่เมมไว้แต่ไม่มีคนรับสาย เอะใจว่าบริษัทบลูไคท์ไม่มีใครรับโทรศัพท์เลยหรือ แล้วพรวดออกไปเลย ตรงไปหาศรันย์ที่ห้องทำงาน บอกว่าตนจะทำเรื่องให้สืบคดีนี้ใหม่ ศรันย์ตราหน้าว่าเพราะอคินมีชนักติดหลังถ้าเรื่องกลายเป็นว่ามีอย่างอื่นอยู่เบื้องหลังเขานั่นแหละเป็นตัวการเพราะรู้ว่าเครื่องบินจะตกล่วงหน้าเลยไม่ยอมไป “คุณมันตัวอันตรายของวงการบิน ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”

“พวกแกใช่ไหมที่เป็นฆาตกรตัวจริง” อคินตะคอก

“กัปตันอย่าหมิ่นประมาทกันซึ่งหน้าแบบนี้สิ อยากเจอของจริงหรือไง”

ศรันย์เรียกลูกน้องเข้ามารุมอคินจนสะบักสะบอม ครู่เดียวนุชก็เดินนำ รปภ.หลายคนเข้ามา ศรันย์สั่ง

“จับมัน”

ooooooo

เย็นนี้อคินไปหาครูจันทราในสภาพหน้าตาบวมปูด เมื่อเล่าให้ครูจันทราฟัง ครูบ่นว่า

“อคิน เธอจะเดินเข้าไปตัวเปล่าแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งรู้ว่ามันมีขบวนการอะไรอยู่เบื้องหลังก็ยิ่งต้องสุขุมให้สมกับเป็นนักบินที่เก่ง ฉลาด มีความรับผิดชอบ มีความเป็นผู้นำ ไม่ใช่บ้าบิ่น ไม่ดูตาม้าตาเรือ”

พัสกรเชื่อว่าพวกมันวางแผนกันอย่างดีแผนเดิมของพวกมันคือจงใจให้อคินตายไปกับเครื่อง เบนเชื่อว่า มันลงทุนทำลายเครื่องเพื่ออะไรสักอย่าง อคินจึงขอให้เบนช่วยสืบอีกที เตชัสขอรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องตนจะลองไปถามพรรคพวกให้อีกทีว่าช่วยอะไรได้บ้าง

อคินเรียกเพื่อนๆมาร่วมกันคิดอย่างจริงจัง

ooooooo

ศรันย์เกาะติดริศา วันนี้ก็ไปที่บ้าน บอกว่าตอนนี้หุ้นของอาสารัตถ์ก็โอนเป็นของริศาแล้วอีกไม่นาน เราก็จะได้ดูแลบริษัทบลูไคท์ด้วยกัน แล้วประคองริศา ไปนั่งที่โซฟา

ริศามองไปที่อีกด้านหนึ่งของห้องได้ยินเสียงเรียก “ริศา...” เธอผวาที่ได้ยินเสียงนั้นอีกแล้วทนไม่ได้ลุกวิ่งหนีออกไป ศรันย์วิ่งตามไปกอดไว้ถามว่าได้ยินเสียงอะไรหรือ ริศาตะโกนไล่อย่างขวัญเสีย จนป้านิ่มวิ่งมาถามว่าเป็นอะไร

ศรันย์ถามมั่วว่ากลัวเสียงหมาหอนในทีวีหรือ คว้ารีโมตมากดปิด แต่กดอย่างไรก็ปิดไม่ได้ แต่ทีวีเปลี่ยนช่องเองจนมั่วไปหมด ซ้ำสัญญาณกันขโมยที่รถของศรันย์ก็ดังลั่นขึ้นมาอีก

“เฮ้ย...อะไรวะเนี่ย มันเกิดอะไรขึ้น โอ๊ยยยย...อะไรจะเฮี้ยนขนาดนี้ อาสารัตถ์”

ศรันย์กลัวจนหนีกลับไป ป้านิ่มเอายาคลายเครียดมาให้ริศากินจะได้พักผ่อนหายเครียด

แต่พอริศาหลับชายคนนั้นซึ่งก็คือวิญญาณของอัศนีที่ยังห่วงใยสัญญาที่ให้ไว้กับอนงค์ผู้เป็นภรรยาจึงยังวนเวียนอยู่ในบ้านสันติ มาปรากฏขอให้ริศาช่วย

ริศาเหมือนถูกสะกดจิต ลุกขึ้นไปขับรถชวนป้านิ่มไปบ้านสวนกัน โดยมีอัศนีนั่งที่ข้างหลังไปด้วย

คืนนี้เองกิตติมาที่บ้านริศาเพื่อจะบอกว่าพ่อเธอไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุ แต่กดกริ่งแล้วบ้านเงียบจึงปีนกระถางเกาะรั้วเรียก อคินก็มาหาริศาเห็นเข้าพอดีนึกว่าขโมยตะโกนให้หยุด แต่กิตติกลับโกยแน่บ อคินเป็นห่วงริสา กดกริ่งก็แล้วตะโกนก็แล้วไม่มีเสียงตอบรับจึงโทร.เข้าไปแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ไม่รู้ว่าไปไหนรถก็ไม่อยู่

เช้าตรู่ริศาก็ขับรถมาถึงบ้านสวน อัศนีไปยืนที่สระบัวมองไปที่สร้อยกับจี้ที่ปริ่มอยู่ผิวโคลนก้นสระด้วยสายตาเศร้าอยากได้สร้อยคืนแล้วหันมองไปที่บ้านสวน

ริศาสะดุ้งตื่นงงๆเมื่อรู้ว่าตนอยู่ที่บ้านสวน ทันใดนั้นประตูเปิดออก ริศาเห็นเงาคนแว้บๆผ่านห้องไปนึกว่าป้านิ่ม ลุกไปเปิดประตูเห็นอัศนียืนอยู่จ้องหน้าเธอเขม็ง

ริศาเดินตามอัศนีไปเหมือนคนถูกสะกดจิต พาไปลงเรือที่สระบัว พลันฟ้ามืดลมพัดแรง พอริศาลงเรือเรือก็เลื่อนออกไปเอง

ป้านิ่มมาเรียกริศา เปิดประตูห้องเข้าไปไม่เจอตัว รองเท้าก็อยู่ รถก็อยู่ จึงโทร.หา ปรากฏว่าโทรศัพท์ดังอยู่ในห้องวางอยู่ที่หัวเตียง จึงโทร.หาอคินก็พอดีเขามาถึงเพราะสังหรณ์ใจว่าริศาจะมาหาความสงบที่บ้านสวน ป้านิ่มเอะใจว่าริศาจะไปที่สระน้ำ บอกว่ามันคือสระผีสิง ตอนเด็กๆริศาเคยตกไปเกือบตาย ผีมันจะมาเอาไป

ทั้งสองรีบไปที่สระบัว เห็นริศายืนตัวแข็งเกร็งอยู่ในเรือพอเห็นอคินเธอก็ตะโกน

“พี่อคินช่วยด้วย ริศากลัว ริศาว่ายน้ำไม่เป็น”

ริศาผวาจะไปหา ทำให้เรือเอียงวูบร่างริศาตกน้ำไป อคินกระโดดลงไปช่วยทันที แต่ถูกทั้งสาหร่ายและสายบัวพันไปไม่ถึงริศาสักที ริศาพยายามตะกายมาหาอคิน แต่สำลักน้ำหมดสติไปเสียก่อน

อัศนีที่อยู่ข้างริศาช่วยจับมือเธอยื่นไปหาอคิน อคินคว้ามือริศาไว้ มือทั้งสามเกาะเกี่ยวกันไว้

ooooooo

ณ ดินแดนหลังความตาย...ริศาได้พบกับสารัตถ์ที่หน้าตาอิ่มเอิบใส่ชุดสูทหล่อเท่ ริศาดีใจร้องไห้วิ่งไปหาพ่อ สองพ่อลูกกอดกันด้วยความรัก ห่วงหา

“โอ๋...ลูกรัก อย่าร้องไห้ อย่าเสียใจเลยนะลูก ตอนนี้พ่อได้ไปอยู่ที่ที่ดีมาก ได้เจอทุกคนที่พ่อรัก ทั้งคุณแม่และคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายของลูก หนูไม่ต้องห่วงพ่อแล้วนะลูก” ริศาถามว่าไม่มีพ่อแล้วตนจะอยู่ได้ยังไง “อยู่ได้สิคนเก่งของพ่อ พ่อจะอยู่ดูแลลูกจากตรงนี้เสมอ ไม่ไปไหน สาริศา ลูกรักของพ่อ”

แล้วร่างของสารัตถ์ก็ค่อยๆเลือนหายไปกลายเป็นใบไม้หลากสีลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสวยงาม ริศาร้องไห้ขอพ่ออย่าทิ้งตนไป ทันใดนั้นก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามา...อัศนีนั่นเอง อัศนียื่นมือข้างหนึ่งมาตรงหน้าริศา

“ริศา ช่วยเอาของไปให้อนงค์ด้วย” ริศาถอยบอกว่าตนไม่รู้จักเขา “เอาของไปให้อนงค์ เธอต้องไปสาริศา”

อัศนีก้าวเข้าหาริศาใกล้เข้าทุกที ทันใดนั้น ฟ้าผ่าเปรี้ยง!!

ooooooo

อคินอุ้มริศาเข้ามาในบ้านตัวเปียกโชกทั้งคู่ เมื่อริศายังไม่ฟื้นอคินก้มลงจะผายปอด ผีอัศนีร้องลั่น “เฮ้ย ไม่ต้องๆ” แล้วใช้ปลายนิ้วกดไปที่ร่างริศา ริศาสำลักน้ำออกมาน้ำเกือบพุ่งใส่หน้าอคิน

พอรู้สึกตัว ริศาถามเหม่อๆว่าอคินคือใคร...

แล้วของล่ะ ของอยู่ไหน จะให้เอาของไปให้อนงค์ ริศาลุกเดินวุ่นมือกำแน่นเดินไปมาเหมือนไม่มีสติ อคินบอกให้ป้านิ่มพาน้องไปอาบน้ำก่อนเผื่อจะดีขึ้น ป้านิ่มก็บอกให้อคินไปอาบน้ำและเอาเสื้อผ้าของสารัตถ์มาเปลี่ยนก่อน

ริศาอาบน้ำแล้วสงบขึ้น เธอมองมือตัวเองสงสัยว่ากำอะไรอยู่ พอคลายนิ้วออกดูเห็นสร้อยคอทองคำห้อยล็อกเกตทองรูปไข่ แม้จะเลอะโคลนแต่ทองยังสุกปลั่ง เมื่อลูบโคลนออกเห็นลายนกฟีนิกซ์กางปีกอ่อนช้อย เธอพึมพำกับป้านิ่ม...

“สร้อยเส้นนี้คือเส้นที่หนูเคยเจอตอนเป็นเด็กนี่นา” ป้านิ่มถามว่าแล้วหนูไปเอามาจากไหน “มันเหมือนติดมือหนูขึ้นมาจากใต้น้ำ”

เมื่อริศาพลิกล็อกเกตดูเจอที่เปิด พอเปิดดูข้างในด้านหนึ่งเป็นรูปของอัศนีตอนหนุ่มดูหล่อเท่ อีกฝั่งเป็นรูปหญิงสาวผมสั้นสวยเก๋ ริศาอุทานจำอัศนีได้ แต่พอป้านิ่มถามเธอตัดสินใจไม่เล่าให้ฟัง

ฝ่ายอคินใส่เสื้อผ้าของสารัตถ์แล้วเอาชุดเก่าออกมาที่ซักล้าง เหมือนสารัตถ์จนป้านิ่มทักผิด รำพึงเศร้า

“ถ้าคุณมาทำหน้าที่แทนคุณผู้ชายได้ทุกอย่างจริงๆก็คงดี” พออคินถามว่าอะไรนะ ป้านิ่มบอกว่าไม่มีอะไร บอกให้ไปพักผ่อนเสียเดี๋ยวจะเตรียมทำอาหารไว้ให้ แต่พอเข้าครัวข้าวสารหมด ป้านิ่มจึงออกไปซื้อฝากอคินให้ดูแลริศาด้วย

ริศามาเห็นอคินใส่เสื้อผ้าของพ่อก็ไม่พอใจสั่งให้ถอด อคินบอกว่าชุดเก่าของตนยังปั่นอยู่ในเครื่อง เลยพูดไม่ออก พาลถามว่าแล้วเขามาที่นี่ทำไม พออคินเล่าให้ฟังว่าเธอจมน้ำและตนไปช่วยขึ้นมา เธอจ้องหน้าเขาแล้วหันเดินอ้าวออกไปที่หน้าบ้านร้องเรียกป้านิ่ม พอรู้ว่าป้านิ่มไปตลาดก็จะออกไปตาม

อคินถามว่าทำไมดื้ออย่างนี้ ทีอยู่กับพี่สารัตถ์ไม่เห็นจะดื้อเลย เธอหันขวับแว้ดใส่ทันที

“หยุดพูดถึงพ่อฉันเดี๋ยวนี้ คุณไม่มีสิทธิ์จะเรียกชื่อพ่อฉันด้วยซ้ำ คุณเป็นคนทำให้พ่อต้องตาย” ว่าแล้วกระแทกไหล่เขาออกไปเลย

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 2 วันที่ 30 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทประพันธ์โดย นภสร
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทโทรทัศน์โดย ทิพย์สุดา
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ