My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 7 วันที่ 9 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 7 วันที่ 9 ก.ค.61

ที่แท้คณาหลบไปอยู่ที่กระต๊อบกลางไร่มันสำปะหลัง เขาเปิดเครื่องแล้วโทร.ออกกำโทรศัพท์แน่นอย่างตึงเครียด เขาโทร.หาทัศน์เสนอขอหนึ่งล้านแลกกับไม้สัก ไม้พะยูง กระทั่งหัวเสือ

ทัศน์ถามว่าไม่อนุรักษ์ป่าแล้วหรือ คณาพูดอย่างอัดอั้นเจ็บปวดว่าไหนๆมันก็จะกลายเป็นเขื่อนอยู่แล้ว ยื่นหมูยื่นแมวว่าโอนเงินให้ตนล้านนึงภายในสิบโมงแล้วตนจะบอกพิกัดไม้ใหญ่ทั้งหมดในป่าให้เพราะไม้ใหญ่ในป่ายังมีเยอะ

 ไกรสรเสนอเพิ่มให้อีกหนึ่งล้านแลกกับ “ไอ้อิสระ รัชชพลกุล” บอกว่าถ้าคณาล่ออิสร์ออกมาให้ตนยิงได้จะเพิ่มให้อีกหนึ่งล้านเป็นสองล้าน คณาให้โอนเงินมาเลยเพราะพอไม้ถูกตัดอิสร์ก็จะออกมาปกป้อง ถึงตอนนั้นเขาก็จะได้ทั้งไม้ทั้งชีวิตอิสร์



ไกรสรยื่นหมูยื่นแมวว่าถ้าคณาล่ออิสร์ออกมาให้ตนยิงตายเมื่อไหร่เอาไปเลยอีกล้าน คณาตกลงทันที ไกรสรพูดกับทัศน์ว่า ถ้าคณาไม่ส่งแผนที่ต้นไม้มาจริง มันตายก่อนใคร!

ขณะที่ทุกคนในสำนักงานทับสักร้อนรุ่มใจนั้น คณาก็โทร.หาอิสร์บอกว่ามีเรื่องจำเป็นรีบด่วนขอให้มาพบตนเดี๋ยวนี้ให้ได้ บอกเส้นทางไปครึ่งๆกลางๆ แล้วจะบอกจุดพบกันอีกที

ครู่เดียวปอนด์ก็โทร.มาบอกให้อิสร์เดินทางเข้ากรุงเทพฯวันนี้เพื่อคุยกับผู้บริหารแบงก์ซึ่งนัดยากมาก ถ้าไม่มาวันนี้ก็อาจไม่ได้เจอกันเลย อิสร์บอกว่าคณากำลังแย่ขอให้ไปพบตอนนี้เหมือนกัน

“พี่อิสร์ ผู้บริหารของแบงก์เขาเห็นด้วยกับโครงการเครือข่ายปกป้องช่วยเหลือทับสักที่ปอนด์เสนอไป ยังไงพี่อิสร์ก็ต้องมาหาพวกเขาวันนี้ให้ได้ เรื่องนี้มันใหญ่พอสำหรับพี่อิสร์รึยัง” ปอนด์เริ่มเสียงแข็งจนอิสร์อึ้ง

ไกรสรซ้อมมือยิงมะม่วงจนต้นแตกกระจายไปเป็นพวง ถามว่าเมื่อไหร่อิสร์จะมา คณาเชื่อว่าอิสร์ต้องมาเพราะเขารักและแคร์ตนยิ่งกว่าเมียอีก ทัศน์ให้โทร.ไปเร่งถ้าไม่อยากให้หัวตัวเองกระจุยเหมือนมะม่วง

คณากลัวรีบโทร.หาอิสร์มือสั่น

พนัส ชาติและอิสร์ยืนปรึกษากัน พนัสเสนอให้อิสร์เข้ากรุงเทพฯ ตนกับชาติจะไปพบคณาเอง อิสร์ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นห่วงคณา พนัสสั่งเฉียบขาดว่าไม่ได้ ตนไม่ยอมให้เขาไปลุยเดี่ยวถ้าจะไปก็ต้องมีทีมไปด้วยเพื่อความปลอดภัย

อิสร์ฮึดฮัดว่าพนัสไม่เป็นห่วงลูกน้อง พนัสบอกว่าเพราะเป็นห่วงลูกน้องรักลูกน้องซึ่งก็คือตัวเขาเหมือนที่เขารักคณานั่นแหละ บรรยากาศคุกรุ่น ตึงเครียด ก็พอดีปอนด์โทร.มาขอคำตอบจากอิสร์ พออิสร์บอกว่ายังไม่รู้จะไปได้หรือไม่ ปอนด์ก็ตัดบทว่าเขาไม่ต้องมาก็ได้ให้หัวหน้ากับ ดร.ชาติมาแทนก็ได้ สองคนนั้นเขาคงเห็นความสำคัญในเรื่องที่ตนเสนอและพยายามผลักดันมากกว่าเขาที่เห็นคนอื่นสำคัญกว่าแล้ววางสายเลย

ทันทีที่ปอนด์วางสาย คณาก็โทร.เข้ามาเร่ง อิสร์ถามว่าให้หัวหน้ากับชาติไปแทนได้ไหมเพราะตนมีเรื่องจำเป็นเพื่อทับสักของเราต้องไปทำด่วน คณาบอกว่าตนไม่คุยกับหัวหน้าเสนอว่าเราค่อยเจอกันวันอื่นก็ได้

คณาถูกทัศน์บีบคั้นถามว่าป่านนี้แล้วยังไม่เห็นเงาหัวอิสร์และไม่เห็นเงาหัวคณาเหมือนกัน ขู่ว่าท่าจะไม่มี คณาขอร้องเป็นวันอื่นเพราะวันนี้อิสร์มาไม่ได้จริงๆ อ้อนวอน “นายให้โอกาสผมเถอะครับ”

“โอกาสไม่มี มีแต่กระสุน” ไกรสรจ่อปืนใส่คณาทันที คณาเห็นจวนตัวไม่สู้ก็ตายจึงต่อยลูกน้องไกรสรแล้วแย่งปืนยิงไกรสรทันที ดีที่ทัศน์กระชากไกรสร

พ้นทางปืนได้ทัน ไกรสรยกปืนจะยิงคณา ทัศน์ขอร้องว่าอย่ายิงมันเลย หว่านล้อมว่า

“ไอ้อิสร์ไม่มาวันนี้ วันอื่นมันก็ต้องมา วันนี้ดวงมันอาจจะยังไม่ถึงฆาต...แค่หนูสกปรกตัวเดียวไม่มีประโยชน์หรอกครับ นายมีอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆต้องทำอีกเยอะนะครับ อย่ามาเสียจังหวะเพราะอะไรที่ไม่คุ้มเลยครับ”

ไกรสรพยายามสงบสติอารมณ์ ขอโทษที่ตนสติหลุดไปนิด บอกทัศน์ว่า

“แกพูดถูกทัศน์...ยังมีอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่ไกรสรต้องทำ...อีกมาก...”

คณาหนีกระเซอะกระเซิงไปหลบที่กระต๊อบเล็กๆสำหรับเก็บเครื่องมือเกษตร เขานอนลงอย่างอ่อนล้ามือกุมชายโครง เลือดยังท่วมหน้า เขายกมือกุมหน้าร้องไห้จนไหล่สะท้านที่ทั้งต้องเจ็บตัวและเจ็บใจ

“ไปไหนก็ไม่ได้แล้วกู...ตายซะดีกว่า” คณามองปืนในมือด้วยสายตาเลื่อนลอย...ปวดร้าว

เย็นแล้วปอนด์มายืนที่หน้าธนาคารชะเง้อชะแง้คอย พอเห็นรถของพนัสเข้ามาก็ดีใจและดีใจสุดๆเมื่อเห็นอิสร์ลงจากรถจะเข้าไปกอดแต่เปลี่ยนเป็นจับแขนแทน แต่อิสร์ดึงปอนด์เข้าไปกอดไม่ลังเลจนปอนด์เขิน

เมื่อเข้าห้องประชุม ปอนด์แนะนำคณะจากอุทยานทับสักที่ทุกคนดูไม่หรูแต่เท่มาก

“ขออนุญาตแนะนำคณะผู้พิทักษ์ป่าจากอุทยานแห่งชาติทับสักนะคะ หัวหน้าพนัส ชาติพิทักษ์ ผู้ช่วยอิสระ รัชชพลกุล และ ดร.ชาติ จงกิจสวัสดิ์”

พวกป่าไม้ยกมือไหว้ พวกบริหารยิ้มแย้มต้อนรับ ปอนด์จึงแนะนำฝ่ายบริหาร จากนั้นท่านกรณ์ ประธาน

กรรมการเสนอว่าอยากไปเห็นชุมชนทับสักด้วยตาตัวเอง เราคงต้องจัดทริปไปกัน

“ยินดีครับ พวกเรายินดีต้อนรับอย่างที่สุด” พนัสเชื้อเชิญ

“ขอโทษครับ...ทุกๆท่าน” กรรชิตเข้ามาพร้อมกับเดินปรี่เข้าจับมือพนัส อิสร์และชาติเขย่าหนักแน่น

ooooooo

“ผมกรรชิต ผู้อำนวยการแผนกสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ครับผม ยินดีมากครับที่ได้พบคุณพนัส คุณอิสระและคุณชาติครับ”

กรรชิตปากพูดตาอ่านชื่อที่เสื้อแต่ละคน ยิ้มแย้มเป็นมิตร

“ผมอยากจะพูดสองเรื่องก่อนเลยครับ เรื่องแรกผมต้องขอบคุณคุณปภาพินธ์มาก ที่ช่วยแนะนำเรื่องราวดีๆให้กับธนาคารของเรา อีกเรื่องคือ ผมต้องขอโทษที่ให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนไปในการประชุมบอร์ดครั้งที่แล้ว ผมอยากเพียงแต่จะขอโอกาสอีกครั้งครับผม”

“ยังไงหรือครับคุณกรรชิต” ท่านกรณ์ถาม

“ผมอยากจะมีส่วนในการดูแลโปรเจกต์ใหม่ที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้ธนาคารของเราน่าเชื่อถือศรัทธาจากประชาชนว่าเป็นธนาคารที่...” กรรชิตพูดตามคำพูดของปอนด์เมื่อวานเย็นทุกคำ แล้วตบท้ายว่า “ผมรู้สึกมีพาสชั่น คือความปรารถนาอันแรงกล้าระดับคลั่งไคล้ ที่อยากจะทำโปรเจกต์นี้ที่สุดเลยครับ”

ปอนด์กับอิสร์สบตากันยิ้มขำๆกรรชิตแบบ...ทำไปได้ แต่พอกรรชิตมองมาก็ยิ้มชื่นชม กรรชิตยิ้มรับเต็มหน้า

เมื่อไปที่บ้านครูจันทรา ครูชื่นชมปอนด์ว่า “สุดยอดจริงๆศิษย์สะใภ้คนนี้” แล้วพูดกับพนัสว่า “แบบนี้ก็นับว่ารอดไปด่านนึงแล้วนะคะ ภาพของอุทยานทับสักที่เป็นป่าสมบูรณ์สมควรอนุรักษ์ไว้ก็คงจะชัดเจนขึ้นสำหรับคนในวงกว้างมากกว่าเดิม”

“ต้องเฝ้ากันต่อไปครับ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีคนชงขึ้นมาอีกว่าอยากได้เขื่อน...อยากได้เขื่อน”

หลังอาหารแล้ว เก๋กับชาติคุยกันอย่างคนรู้ใจกันมากขึ้น หยอกล้อทุบหยิกจิกตีกันน่าเอ็นดู

เจนกับโอมที่คบกันมานานแต่ก็ไม่มีทีท่าจะแต่งงาน เจนบอกว่าตนยังรักอิสระรักการทำงานอยู่ โอมยอมรับว่าตนกลัว...กลัวว่าแต่งงานพักหนึ่งแล้วเจนจะไปเหมือนแม่ที่ทิ้งพ่อไป

“โอม...เจนไม่ไปไหนหรอกนะ ไม่ว่าจะแต่งงานหรือไม่แต่งงานเจนก็จะไม่ไปไหน ถึงโอมมีคนอื่นแต่เจนก็จะไม่มีใคร เจนจะอยู่ดูแลโอมตลอดไป”

โอมกอดเจนไว้ ขออย่าทิ้งตนไปเหมือนแม่

พนัสเดินดูรูป มีรูปครูจันทราสมัยสาวๆถ่ายเก๋ๆหลายรูป ครูจันทราเดินมาทักคุยกันอย่างผู้ใหญ่

พนัสชมครูจันทราที่พวกเด็กๆใกล้ชิดสนิทสนม ผิดกับตนเป็นคนที่ลูกน้องไม่ค่อยชอบไม่ค่อยมีใครมาคุยด้วย อิสร์นี่ตัวดีเลย บอกอะไรเขาก็ปฏิเสธไม่เชื่อ เขาดื้อ เชื่อมั่นตัวเองสูงเหมือนตน

ครูจันทราบอกว่าหัวหน้าก็รู้ปัญหา คนเราถ้ารู้สึกดีๆกับใครก็ต้องบอก ต้องแสดงออก ให้กำลังใจเขา แต่ “ถ้าหัวหน้าเป็นคนปากหนัก อะไรที่ควรง่ายมันก็จะยาก บอกด้วยการกระทำ ยังไงบางทีคนเราก็ไม่สังเกตเห็นนะคะ ยิ่งคนมีอคติ ก็อาจจะเห็นเป็นตรงข้ามไป แค่พูดออกมาตรงๆง่ายๆเท่านั้นเอง ง่ายกว่าตั้งเยอะนะคะ”

พนัสรำพึงว่าชีวิตตนที่มันยากแบบนี้ก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้ แต่กับบางคน...มันก็สายไปแล้ว

“ก็...ทำชีวิตที่เหลือให้ดีนะคะ อดีตผ่านไปแล้วก็ช่างมัน มันเอาคืนไม่ได้แล้ว” พูดแล้วครูจันทราก็ขำตัวเองว่า “ฉันนี่ก็ติดนิสัยครูเผลอไปสอนหัวหน้าเข้า ขอโทษที”

“ดีออกครับ ผมก็ต้องการให้มีคนมาสอนเหมือนกัน ชอบนึกว่าตัวเองทำดีพอแล้ว แต่เปล่าเลย”

ทั้งสองคุยกันอย่างผู้ใหญ่ที่มีบทเรียน ประสบการณ์ในการทำงาน

ฝ่ายอิสร์เดินคลอเคลียมากับปอนด์ เขาเอ่ยอย่างชื่นชมจริงใจว่า

“ขอบคุณปอนด์มาก...ขอบคุณที่สุด ที่มาเป็นเมียพี่ ไม่คิดเลยว่าจะได้มีเมียที่เหมือนมีวิญญาณเดียวกันขนาดนี้”

“ก็...ผัวทำอะไรเราก็ต้องทำด้วย...ถ้าปอนด์จะเป็นแบบให้พี่อิสร์เลือกว่าจะรักป่าหรือรักฉัน มันก็คงไปต่อกันไม่ได้ ปอนด์ก็ต้อง เออ...ก็ได้วะ แกรักป่าฉันก็จะรักป่าให้มากกว่าแกอีก...อะไรแบบนี้” อิสร์ชมว่าปอนด์คือฮีโร่ของตนจริงๆ “ไม่เลยค่ะ ปอนด์ก็คือคนธรรมดา สิ่งที่ปอนด์พยายามทำก็ทำในฐานะคนธรรมดา พยายามทำเพื่อพี่อิสร์และทุกอย่างที่พี่อิสร์รักเท่านี้เอง ปอนด์เป็นคนที่รักผัวมากคนนึงของโลก ขอให้พี่อิสร์รู้ไว้”

“รู้แล้วจ้ะ พี่รักปอนด์ที่สุดเลย”

สองคนกอดกันแน่นเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งน้อง และคู่ชีวิตที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันเสมอ

ooooooo

เช้ามืดวันนี้คณาแอบไปหาแม่ถึงในมุ้งเอาเงินให้ปึกใหญ่บอกให้เอาไปใช้หนี้ที่เหลือเก็บไว้ให้แนนเข้าธนาคารไว้ บอกแม่ว่ารีบจัดการแต่เช้าก่อนที่ทุกอย่าง

จะสายแล้วลาแม่บอกว่าถ้าไม่ตายค่อยเจอกันใหม่

เพียงสายวันนี้แม่ก็เอาเงินไปใช้หนี้หมดแล้วเอาที่เหลือไปฝากธนาคาร โชคร้ายเจอทัศน์ถามว่ามาทำอะไรและคณาหายไปไหน แม่อึกอัก มันจับแม่กับแนนไปเพื่อบีบคณา โชคดีที่ออด บรรจงกับเจิมนั่งกินกาแฟอยู่เห็นจึงช่วยแม่กับแนนไว้ได้

พนัสให้ปุ้มกลับมาเปิดร้านอาหารในที่ทำการอุทยานเพื่อขายนักท่องเที่ยว ปอนด์จะช่วยโฆษณาให้นักท่องเที่ยวมามากๆปุ้มจะได้ขายดี สั่งห้ามปุ้มออกไปไหนเชื่อว่าพวกไกรสรไม่กล้าเข้ามาทำอะไรปุ้มที่นี่

อิสร์ถามแม่กับแนนว่าตอนนี้คณาอยู่ไหน แม่อึกอักบอกว่าเมื่อเช้าคณาเอาเงินมาให้หลายแสนให้เอาไปใช้หนี้แล้วก็ไป อิสร์ฉุกคิดทันทีว่าคณารับเงินจากพวกนั้น ส่วนพนัสเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

อิสร์พยายามโทร.หาคณา ทีแรกไม่มีสัญญาณ แต่พอโทร.ติดคณาก็ไม่รับสาย ปุ้มจึงอาสาโทร.ล่อให้ พอคณารับสายก็อัดเสียงคุยกันไว้

คณาอำพรางตัวอยู่ในรถตู้ พอรับสายปุ้มจะให้คุยกับอิสร์ อิสร์ถามว่าตอนนี้อยู่ไหน มีอะไรให้กลับมาคุยกัน คณาจึงรับสารภาพว่า

“ผมกลับไปไม่ได้อีกแล้ว ผมทรยศพี่ ผมทำเองทุกอย่าง ผมเป็นสายให้ไอ้ไกรสรมัน พี่...ผมผิดไปแล้ว”

คณาสารภาพทุกอย่างที่ทำไป ทั้งคอยแจ้งข่าวให้พวกไกรสร ปีนบ้านเขาเพื่อหาแฟลชไดรฟ์ จนกระทั่งเขาถูกรถชนจึงได้แฟลชไดรฟ์ไปให้มัน สารภาพว่าตนชั่วขนาดจะล่อเขาไปให้พวกมันฆ่าเมื่อวานด้วยซ้ำ

“คณา...ทำไม...” อิสร์ช็อกพูดไม่ออก

“ผมมันเห็นแก่เงิน ไอ้ไกรสรมันรู้ว่าผมกำลังจะถูกยึดบ้าน มันรู้ว่าผมไม่มีเงิน มันเอาเงินมาให้ ผมไม่มีทางเลือก พี่ไม่รู้หรอกว่าคนเราเวลามันไม่มีจะกินน่ะมันเป็นยังไง มันทำได้ทุกอย่างแหละ” แต่คณาก็ยอมรับว่าตนอิจฉาอิสร์ทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องปุ้ม สารภาพผิดแล้วคณาฝากแม่กับอิสร์ก่อนเอ่ยลา แม่แย่งโทรศัพท์ไปร้องไห้อ้อนวอนคณาอย่าทิ้งแม่ไป

“แม่...ผมขอโทษ เราคงไม่ได้เจอกันสักพักนะแม่ พักใหญ่ๆเลย แม่ดูแลตัวเองด้วยนะ”

คณาตัดสายทันที แม่ร้องไห้โฮ อิสร์อึ้งพูดอะไรไม่ออกลุกเดินไป ปอนด์จะตามแต่พนัสส่งสายตาทำนองว่าปล่อยเขาไปก่อน แล้วตัวเองก็หยิบโทรศัพท์ของปุ้มเดินไปเปิดฟังที่ห้อง

ooooooo

อิสร์ผิดหวังเสียใจมากที่คณาคนที่ตนรักเหมือนน้องและคอยช่วยเหลือตลอดมากลับเป็นคนทรยศตนและขายความลับของราชการ รู้สึกผิดที่ตัวเองระแวงและเข้าใจพนัสผิดมาตลอด

เมื่อกลับไปผ่านบ้านพนัสเห็นไฟยังเปิดอยู่ อิสร์เข้าไปหาเขาเจ็บปวดจนพูดไม่ออก พนัสจึงลุกมาปลอบ

“ไม่เป็นไรนะอิสร์ ช่างมัน อะไรที่แล้วก็ให้มันแล้วไป เอาใหม่...เอาใหม่...อดทนนะอิสร์ ไม่มีอะไรดีกว่าความอดทน ต้องทนให้ได้ เป็นลูกผู้ชาย เจ็บใจ เสียใจ ผิดหวัง ยังไงก็ต้องทน”

“หัวหน้าครับ...ผมขอโทษ ทุกอย่างที่ผมคิดว่าหัวหน้าเป็นคนทำ แต่ที่จริงมันคือคณาทั้งหมด”

อิสร์น้ำตาไหลจะก้มกราบขอโทษ พนัสรีบดึงไว้บอกว่าตนอภัยแล้ว เข้าใจแล้ว แต่ทีหลังพูดอะไรให้ฟังกันบ้าง บอกอิสร์ให้กลับบ้านเสียปอนด์รออยู่ แต่ตัวเองกลับไปทำเอกสารต่อ

ไกรสรเตรียมแผนการหาเสียงเลือกตั้ง วันนี้ไปเชิญกรรชิตเข้าร้านอาหารหรูขอชื่อเป็นกรรมการเพื่อ เป็นเกียรติในงานทอดผ้าป่าสามัคคีที่ทับสักเดือนหน้า

ไกรสรช็อก แค้น เมื่อกรรชิตบอกว่าทางธนาคารสรุปออกมาแล้วว่าเราไม่มีโปรเจกต์ที่จะสนับสนุนการสร้างเขื่อนทับสัก เมื่อทางบอร์ดฟันธงลงมาอย่างนี้

ตนก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วทำทีมีโทรศัพท์เข้าขอตัวลุกไป

ปอนด์ไปที่ทำการอุทยานเพื่อเตรียมการมาทับสักของท่านประธานและกรรมการบริหารของธนาคาร

เมื่อปอนด์จะกลับ พนัสจึงให้อิสร์ซึ่งเครียดเรื่องคณามากไปส่งปอนด์และพักผ่อนไปด้วย

เมื่อกลับถึงบ้าน ปอนด์หุงข้าวจะทำข้าวผัดสเปนให้กิน

ขณะนั้นเองโอมกับเจนมาที่บ้านบอกว่าตนสองคนคบและอยู่กันมามีความสุขดี แต่ตอนนี้อยากอัปเลเวลความสุขขึ้นไปอีกด้วยการแต่งงาน ปอนด์ดีใจด้วย อิสร์ อาร์มและปิ๊กเข้าไปกอดโอมด้วยความดีใจ

ooooooo

คณาหลบภัยจากพวกไกรสรด้วยการสมัครเป็นลูกเรือประมง ก่อนออกไปกับเรือเขาตัดสินใจส่งไลน์พิกัดต้นสักกับต้นพะยูงไปให้อิสร์ หวังว่าอย่างน้อยเขาอาจแก้ไขได้ทัน รักษาป่าของเราไว้ให้รอดปลอดภัย

อิสร์อ่านใจคณาออก เขาบอกปอนด์ว่าอยู่กินข้าวผัดสเปนกับปอนด์ไม่ได้แล้ว ต้องรีบกลับไปบอกหัวหน้าเดี๋ยวนี้ ระหว่างจัดของอิสร์เจอตะกรุดที่แม่ให้ที่หายไปนาน เขาดีใจมาก ตะกรุดมีสายเป็นเชือก ตัวตะกรุดเป็นโลหะแต่มีพลาสติกหุ้ม อิสร์แกะกล่องออกเห็นจดหมายฉบับน้อยพับอยู่ในนั้น อิสร์คลี่อ่าน เป็นลายมือเขียนไว้อย่างสวยงามว่า

“ตะกรุดลงอาคม มีอันเดียว ให้อิสร์ไว้คุ้มครองตัวเอง รัก จากแม่”

อิสร์ยกตะกรุดขึ้นพนมมือจบเหนือหัวแล้วสวมคอไว้ ปอนด์ทักว่าปกติเขาไม่พกพวกเครื่องรางของขลังสร้อยพระยังไม่สวมเลย อิสร์บอกว่าตนแพ้โลหะ แต่นี่เป็นเชือกแล้วก็มีพลาสติกหุ้มคงไม่เป็นไรหรอก

อิสร์กลับไปถึงกลางดึกก็ไปหาพนัสเลยเล่าอย่างตึงเครียดว่า ตนรู้แล้วว่าคณาขายอะไรให้ไกรสร

พนัสกับอิสร์ดูแผนที่อุทยานที่มีจุดแดงแทนต้นพะยูง จุดเหลืองแทนต้นสัก พนัสเสนอว่าเราต้องลาดตระเวนให้หนักกว่าเดิม แบ่งเวรยามใหม่ประสานกับงานสนธิกำลังทหารมาช่วย อิสร์ขอแรงทุกคนถ้าใครคิดว่าไม่พร้อมบอกก่อนเลยจะได้หาคนมาเพิ่ม ชาติเสนอเป็นคนแรกว่าตนร่วมด้วย ให้ไปไหนกับใครยังไงก็ได้

 ทัศน์บอกไกรสรว่าเราโดนจับไปหลายเที่ยวแล้ว ขาดทุนไปตั้งเท่าไหร่ คราวนี้จะเอาให้คุ้ม ขอให้เจ๊ชบาหลับตาจิ้มมาเลยว่าจะเอาที่ไหนก่อน ปรากฏว่าเจ๊จิ้มได้ที่ “ลาดนกเต้น” ไกรสรตื่นเต้นมากเพราะตรงนั้นเต็มไปด้วยจุดแดงคือไม้พะยูง เจ๊ชบาบอกไกรสรว่ากำลังของเรากับพวกนั้นต่างกันมาก คนไทยไม่พอก็เอาคนนอกเข้ามาเสริม

ฝ่ายพวกอุทยานก็ขอกำลังจากทหารมาช่วย พวกพรานทั้งพรานไผ่ พรานปืน พรานจอม ล้วนเป็นพรานในตำนานก็มาช่วยกันพิทักษ์ป่าเพราะตระหนักว่าทุกวันนี้พวกเราอยู่ได้เพราะมีป่าให้อาศัย ใครคิดจะทำลายก็ต้องเจอกันหน่อย

อิสร์ เจิม พัฒน์ พรานไผ่และทหารสองคนลาดตระเวนมาถึงลาดนกเต้น พวกไกรสรเห็นจึงซุ่มรอจนพวกอิสร์ผ่านไปจึงค่อยโผล่ออกมาเผ่นกลับไปรายงานทัศน์ว่าพวกนั้นกระจายกำลังอยู่ตามจุดสำคัญหมด ทัศน์เสนอไกรสรให้เลื่อนออกไปก่อน ไกรสรบอกว่าตนมีแผนฮอต สั่งทัศน์ให้ไปเอาคนมาอีกแล้วจะบอกให้ทำอะไร

พวกอิสร์หยุดพักผูกเปลนอน อิสร์ได้รับโทรศัพท์จากปอนด์ถามว่าอยู่ที่ไหน อิสร์บอกว่าอยู่ทับดวงเดือน ปอนด์ให้กำลังใจและร้องเพลงกล่อม ทั้งสองร้องเพลงไปด้วยกันทั้งร้องเพลงและร้องไห้อย่างมีอารมณ์ร่วม ส่วนพนัสก็ตื่นเต้นดีใจมากเมื่อแก้วกับขวัญก็โทร.มาชวนเล่นเกมกัน

ส่วนทางด้านกลุ่มบรรจง บุ้งกับออดเดินยาม ทหารสองคน ลุงจอมและบรรจงหลับอยู่ ทั้งหมดถูกจู่โจมทำร้ายแล้วจับมัดมือมัดเท้ามัดปากจนกระดิกไม่ได้

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 7 วันที่ 9 ก.ค.61

ลมไพรผูกรัก บทประพันธ์โดย อุธิยา
ลมไพรผูกรัก บทโทรทัศน์โดย ปราณประมูล
ลมไพรผูกรัก กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ลมไพรผูกรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
ติดตามชมละคร ลมไพรผูกรัก ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ