อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 8 วันที่ 7 ก.ค.61
เที่ยงวันขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว นาราไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เขาแวะไปที่โรงพยาบาลพบว่าเดือนสิบกลับบ้านแล้วก็เลยตามมาที่นี่ ดำเกิงพาลด่าเขาไปด้วย เดือนสิบออกโรงปกป้องว่ากำลังอยากพบเขาอยู่พอดี แล้วหันไปขอบคุณลำธารที่อุตส่าห์ไปรับเธอกลับบ้าน เขาคงเหนื่อยแล้วกลับไปก่อนได้เลย ลำธารไม่พอใจ พูดแบบนี้จะไล่กันหรือ เธอยอมรับว่าใช่ เชิญเขากลับได้เลย เธอมีเรื่องต้องคุยกับเที่ยงวัน“คุณพ่อครับ ผมให้โอกาสเดือนแล้วนะครับทั้งที่ผมควรจะโกรธเดือน แล้วดูเดือนทำกับผมสิครับ”
เดือนสิบอยากรู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้ลำธารโกรธ เขาโกรธเธอเรื่องที่เห็นเธอกอดกับเที่ยงวันเมื่อวานนี้ เที่ยงวันปฏิเสธว่าไม่ได้กอดแค่ช่วยเธอให้ลุกขึ้นเดินต่างหาก เขาเห็นตำตาขนาดนั้นจะให้เชื่อได้อย่างไรว่าทั้งคู่ไม่มีอะไรกัน เดือนสิบหมดความอดทน
“งั้นเดือนควรจะเชื่อใจคุณใช่ไหมคะที่เห็นคลิปคุณขับรถเข้าไปในบ้านผู้หญิงอื่นแล้วกลับออกมาอีกทีตอนเช้า...เดือนควรจะเชื่อใจธารเขาอย่างที่พ่อว่าใช่ไหมคะพ่อ ใช่ไหมคะแม่”
ลำธารตกใจไม่คิดว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้ เที่ยงวันเอง ก็แปลกใจไม่น้อยที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ดำเกิงรีบแก้ไขสถานการณ์ ในเมื่อพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ให้ลำธารอธิบายให้ฟังเลยแล้วกันว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่ แล้วก่นด่าคนที่เอาคลิปมาให้ดูว่าเป็นพวกยุแยงตะแคงรั่ว ดำเกิงอุตส่าห์ช่วยแก้ต่างให้แต่ลำธารกลับเอาแต่นิ่ง
“สรุปว่าจริงใช่ไหมคะ คุณมีคนอื่นจริงๆใช่ไหมคะธาร” เดือนสิบพูดทั้งน้ำตา...
แทนที่จะเล่นงานลำธารที่นอกใจเดือนสิบ ดำเกิงกลับพาลใส่เที่ยงวันว่าเป็นต้นเหตุทำให้ลำธารโกรธ แล้วนี่จะทำอย่างไรกัน เดือนสิบไม่เห็นจะต้องทำอะไรในเมื่อระหว่างเธอกับลำธารจบกันแล้ว ดำเกิงโวยวาย ถ้าเธอไม่แต่งงานกับลำธารแล้วชีวิตเธอจะเหลืออะไร เดือนสิบยอมอยู่อย่างคนไม่มีคุณค่าไม่เหลืออะไรดีกว่าจะต้องแต่งงานกับคนทรยศ ดำเกิงหัวเสียอย่างหนักที่พูดแล้วลูกไม่ฟังเดินปึงปังขึ้นห้อง
ooooooo
ชีวาตม์ยืนมองกระเป๋าเดินทางของตัวเองที่ไม่ได้รับการจัดไว้ให้ เขาต้องเดินทางคืนนี้แล้ว
ปกติกิ่งคำจะเตรียมทุกอย่างให้แต่วันนี้เธอไม่ทำ แถมเตรียมตัวออกไปข้างนอกอีกต่างหาก เขาหงุดหงิดเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเสื้อสามชุดโยนใส่กระเป๋าเดินทางรวมทั้งของใช้จำเป็น แล้วปิดกระเป๋าลากออกไป
กิ่งคำมองตามอย่างเคืองแค้นที่สามีไม่ง้อเหมือนที่เคยทำ...
เมื่อได้อยู่กันตามลำพัง เดือนสิบขอโทษเที่ยงวันด้วยที่ต้องมารับรู้เรื่องวุ่นวายภายในครอบครัวของเธอ เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษที่โผล่มาไม่บอกกล่าว เธอกลับเห็นว่าดีแล้วที่เขามาทำให้เธอมีโอกาสได้พูดถึงความรู้สึกของตัวเอง แล้วถามว่าดวลเป็นอย่างไรบ้าง เที่ยงวันให้ผู้จัดการสาขาช่วยสอนงานให้
“ขอบคุณนะคะ ฉันรบกวนคุณทุกเรื่องเลย”
“ผมยินดีและยินดีจะทำตลอดไป ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะไม่ถือโอกาสเอาเรื่องดวลหรือเรื่องอะไรมาใกล้ชิดคุณแน่ๆ เราจะยังคงเป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือกันนะครับ”...
แต่งตัวเสร็จกิ่งคำรีบร้อนออกจากบ้าน รื่นเริงตามมาแบมือขอเงิน เธอเปิดดูในกระเป๋าพบว่ามีเงินไม่มากพอให้แม่จึงขอติดไว้ก่อนแล้วขึ้นรถขับออกไปเลย ไม่สนใจเสียงโวยวายของแม่...
คืนนี้เดือนสิบชวนแม่มานอนด้วยเพราะรู้ดีว่าท่านคงเข้าหน้าพ่อไม่ติด เธออดถามแม่ไม่ได้ว่าตัวเองคิดถูกหรือเปล่าที่บอกเลิกลำธาร เห็นวันนี้พ่ออารมณ์ดี เห็นพ่อกับแม่ยิ้มให้กัน เธออยากให้เป็นแบบนี้ทุกวัน ถ้าเธอแต่งงานกับลำธาร พ่อคงมีความสุขพลอยทำให้แม่ สุขไปด้วย สกาวสงสัยถ้าทำอย่างนั้นแล้วลูกจะมีความสุขหรือ เธอยิ้มเศร้าถ้าพ่อกับแม่มีความสุขเธอก็คงมีความสุข
“แต่แม่คงไม่มีความสุขแน่ๆ ถ้าลูกของแม่โดนย่ำยีหัวใจและศักดิ์ศรี พ่อกับแม่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกสักกี่ปี แล้วชีวิตที่เหลือของเดือนล่ะลูก...ขอบใจนะที่เดือนทำเพื่อแม่และเพื่อน้องมาตลอด”...
ดำเกิงข่มตาหลับไม่ลง ลำธารซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายของเขาได้จากไปแล้ว เขาได้แต่กุมหัวด้วยความเครียด พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำของเขา ตอนนั้นเขาล้มเหลวในชีวิต ธุรกิจที่อุตส่าห์สร้างขึ้นมาพังไม่เป็นท่า หนี้สินท่วมหัว จดหมายทวงหนี้กองเป็นตั้ง เขาคิดฆ่าตัวตายขับรถไปจอดริมถนนเปลี่ยวหยิบปืนจากช่องหน้ารถขึ้นมาจะยิงตัวตายเพื่อหนีปัญหา
เขาเกือบเหนี่ยวไกปืนอยู่แล้วถ้าภาพถ่ายครอบครัวไม่ไหลออกมาจากช่องเก็บของนั้นด้วย ดำเกิงลดปืนลงหยิบรูปขึ้นมาดู ก่อนจะกอดมันไว้ร้องไห้ตัวโยน เขาจะตายไม่ได้ ถ้าเขาตายครอบครัวของเขาจะอยู่กันเองได้อย่างไร ดังนั้นเขาต้องสู้ต่อไป
ดำเกิงตื่นจากภวังค์ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ไม่รู้ว่าจะผ่านทุกอย่างไปได้อย่างไร ทั้งหนี้สิน และความรู้สึกล้มเหลว พยายามหลับตาไม่ให้น้ำตาไหล แต่มันยังเล็ดลอดออกมาจนได้
ooooooo
กิ่งคำตื่นขึ้นในตอนเช้าด้วยอาการปวดหัวอย่างหนักจากฤทธิ์ยาที่เสพเข้าไปเมื่อคืน เอนมีนัดต้องรีบไปทำงาน ถ้าเธอจะกลับก็ปิดห้องให้ด้วย เธอพยักหน้าขยับจะนอนต่อ
“ผมขอยืมค่ารถหน่อยนะครับ ถือว่าเป็นค่าขนมที่พี่เล่นไปเมื่อคืนแล้วกัน” เอนถือวิสาสะหยิบเงินในกระเป๋าเธอไปเกือบหมด เธอขอให้เขาทิ้งยาเสพติดหรือที่เขาเรียกมันว่าขนมไว้ให้บ้าง เขาเก็บมันไว้ในลิ้นชักเชิญเธอหยิบตามสบาย ไม่ต้องเดาเขาก็พอจะรู้ว่ากิ่งคำเริ่มติดใจยาเสพติดที่เขาให้ ยิ้มพอใจ...
เที่ยงวันพาเดือนสิบมาเยี่ยมดวลที่ที่ทำงาน แล้วปล่อยให้สองพี่น้องได้คุยกันตามลำพังเผื่อจะช่วยให้คลายความคิดถึงไปได้บ้าง ส่วนเขาแวะไปหาแม่ที่ห้องทำงาน สวาทวิมลไม่พ้นต้องพูดถึงดวลกับครอบครัวเนื่องจากไม่เห็นด้วยที่ลูกให้เขามาทำงานกับเรา ความจริงถ้าเขาคิดจะช่วยเด็กคนนั้นก็มีตั้งหลายวิธีอย่างเช่นให้เงินไปสักก้อนหนึ่ง เที่ยงวันกลับเห็นว่าเงินจะยิ่งทำให้ทุกอย่างพัง
“คุณยศรายงานว่าเด็กนี่ไม่เหมาะกับงานของเรา”
ที่สวาทวิมลยกข้ออ้างมาทั้งหมดเพราะไม่ต้องการให้เที่ยงวันไปยุ่งเกี่ยวกับดวล กลัวจะนำปัญหามาให้ที่ผ่านมาเขาเกือบติดคุก ไหนจะต้องคอยวุ่นวายกับเด็กคนนี้จนเสียเวลาบำบัดของเขา และทำให้เขาพลาดการเข้าคลาสเรียนทำขนม เที่ยงวันให้สัญญาจะกลับมาทำทุกอย่างเหมือนเดิมแน่แม่ไม่ต้องห่วง
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะเที่ยง” สวาทวิมลมองลูกอย่างรอคำตอบ เขากลับไม่พูดอะไรลุกออกไปเงียบๆ เธอประกาศกร้าวอุตส่าห์ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขากลับมาจะไม่ยอมเสียเขาไปอีกแน่...
ดวลเดินมาส่งพี่สาวกับเที่ยงวันที่หน้าซุปเปอร์มาร์เกต ไม่ลืมย้ำกับพี่ช่วยบอกแม่ให้ด้วยว่าไม่ต้องมาหาเขา ขืนแม่มาวนเวียนอยู่แถวนี้บ่อยๆ ตนคงไม่ได้ทำงาน อายคนอื่นแย่ ไม่อยากให้ใครมองว่าเป็นลูกแหง่
“บอกแม่นะ รอสิ้นเดือนแล้วดวลจะกลับไปแน่ๆ บอกพ่อด้วย”
เดือนสิบพยักหน้ารับคำ เดินออกไปกับเที่ยงวัน...
ทางด้านนภางค์มีโปรเจกต์จะทำละครออนไลน์ จึงอยากให้เอนมาแสดงร่วมกับนักแสดงชายหญิงอันดับต้นๆของไทย เขาจะต้องสวมบทเป็นเกย์ เอนยินดีเล่นไม่ว่าจะเป็นบทอะไร นภางค์ไม่ได้อยากได้แค่เขาแต่อยากได้ดวลมาเล่นเป็นคู่ขาของเขาอีกด้วยเนื่องจากข่าวฉาวดวลกับเอนครั้งที่แล้วเรียกกระแสได้พอสมควร เอนรู้ดีว่าดวลต้องไม่ยอมเล่นเพราะคราวก่อนถ่ายแค่ภาพนิ่งยังต้องขอร้องแทบตาย
โอเล่แนะให้ลองชวนดูก่อน เอนเสนอให้ส่งเด็กในสังกัดคนอื่นมาให้นภางค์เลือกแทน โอเล่ส่ายหน้าทางนั้นอยากได้ดวลกับเอน ซึ่งมีกลุ่มแฟนคลับอยู่แล้ว เขาไม่แน่ใจว่าดวลจะยอมแสดงหรือเปล่า
“ก็ไปคุยก่อนสิ ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากัน ถ้าโน้มน้าวได้ เธอก็ได้งานนี้ไป ถ้าไม่ได้ฉันว่าจะลองเสนอคู่ของมาร์กกับกัน คู่นั้นเขามีแฟนอยู่แล้วก็ขายง่าย”
เอนเริ่มเป็นกังวล กลัวจะไม่ได้งานนี้
ส่งเดือนสิบที่บ้านเรียบร้อย เที่ยงวันมาหาเงินยวงที่โรงพยาบาล เธอเงยหน้ามองเขาสีหน้าเฉยเมย
“ฉันว่าคุณคงไม่ต้องการคำปรึกษาหรือการบำบัดจากฉันแล้วล่ะค่ะ”
เที่ยงวันงงทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เงินยวงเห็นว่าเขาหายดีแล้วดังนั้นเธอจึงหมดประโยชน์ เขาสงสัยเธอไม่พอใจเขาเรื่องอะไรหรือเปล่า เรื่องที่เขาไม่ได้มาตามนัดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหรือที่เขาผิดนัดที่บ้านโอบอุ้ม เธอไม่ตอบแถมไม่ยอมสบตาด้วย เขารู้สึกเหมือนถูกไล่ทางอ้อม จึงลุกขึ้นขอตัวกลับก่อน เงินยวงเดินออกมาส่งด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หมอตามเดินผ่านมาเห็นก็ร้องทักหายไปไหนมาไม่ได้เจอกันนาน
อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 8 วันที่ 7 ก.ค.61
ละคร ข้ามสีทันดร บทประพันธ์โดย กฤษณา อโศกสินละคร ข้ามสีทันดร บทโทรทัศน์โดย กู๊ดโฮป
ละคร ข้ามสีทันดร กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละคร ข้ามสีทันดร ผลิตโดย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด
ละคร ข้ามสีทันดร ออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ