อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 14(อวสาน) วันที่ 31 ก.ค.61

อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 14(อวสาน) วันที่ 31 ก.ค.61

ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมทำงานของตัวเองเสร็จเรียบร้อย บอกลาเดือนสิบ ดำเกิงและสกาว จากนั้นก็พากันกลับไป ดำเกิงมองนาฬิกาเห็นใกล้พิธีเริ่มแล้ว เรียกลูกให้เข้ามาหาบอกว่ามีของขวัญชิ้นหนึ่งจะให้ สกาวมองผู้เป็นสามีไม่เห็นรู้เลยว่าเขาเตรียมของขวัญมาให้ลูก เดือนสิบเองก็แปลกใจไม่น้อย

“เดือนทำเพื่อพ่อเพื่อน้องมามาก พ่อขอบใจเดือนมากนะที่พยายามทำตัวเป็นลูกที่ดีมาตลอด”

“เดือนเต็มใจค่ะพ่อ”



สกาวโผกอดลูกร้องไห้ด้วยความสงสาร...

ในเวลาต่อมา บริเวณจัดพิธีหมั้นแขกเหรื่อนั่งประจำที่เรียบร้อยแต่ไม่เห็นเจ้าสาวโผล่มาสักที บุญหยาดไม่พอใจบ่นอุบทำไมถึงให้ผู้ใหญ่รอแบบนี้ แล้วสั่งเด็กรับใช้ไปตามและให้ถามด้วยว่าอยากจะแต่งไหม ลำธารเหลือบมองดำเกิงกับสกาวด้วยความเกรงใจ แต่เลือกที่จะนั่งเฉยด้วยไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ

เงินยวงสังเกตอาการของดำเกิงและสกาวที่ดูชิลด์ๆไม่มีความกังวลให้เห็น แถมสบตากันยิ้มๆอีกต่างหาก เริ่มเอะใจจึงอาสาไปดูเดือนสิบให้ เผื่อติดขัดอะไรบางอย่างอยู่ตนจะได้ช่วย ยี่สุ่นสั่งให้เธอนั่งลงเดี๋ยวเดือนสิบก็มาเองไม่ต้องไปตาม

“ยวงไปดูดีกว่าค่ะ” ว่าแล้วเงินยวงลุกออกไปเลย...

สักพักใหญ่ เด็กรับใช้กลับมารายงานบุญหยาดว่าเดือนสิบไม่อยู่ที่ห้องแต่งตัว ในห้องน้ำก็ไม่มี ข้าวของของเธอก็ไม่อยู่ บุญหยาดแปลกใจจะเป็นไปได้อย่างไรแล้วเหลือบมองดำเกิงที่เอาแต่ส่ายหน้าไม่รู้อะไรด้วย

“คุณพ่อครับ เดือนไปไหนครับ”

“ไม่รู้สิครับ” ดำเกิงตอบลำธารยิ้มๆแล้วหันไปจับมือสกาวที่ยิ้มเช่นกัน ยี่สุ่นโวยใส่ทั้งคู่ทำหน้าแบบนี้เหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สกาวยืนยันเราสองคนไม่รู้จริงว่าเดือนสิบไปไหน ดำเกิงนึกไปถึงตอนที่พูดกับเดือนสิบในห้องแต่งตัวว่าของขวัญที่เขาจะมอบให้ลูกในวันนี้คือมอบอิสระให้ เดือนสิบและสกาวต่างตกใจ

“พ่ออยากให้เดือนทำตามใจตัวเองทำในสิ่งที่เดือนมีความสุขไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่เดือนอยากทำมากที่สุดในเวลานี้ พ่ออยากให้เดือนทำ อะไรก็ได้ลูก โดยไม่ต้องแคร์ใครในโลกนี้ ไม่ต้องสนใจความรู้สึกของใครทั้งนั้น”

“รวมทั้งพ่อกับแม่ด้วย...ใช่ไหมคะคุณ” สกาวยิ้มให้ดำเกิงทั้งน้ำตา เขาพยักหน้ารับคำ ขอให้เดือนสิบรับของขวัญชิ้นนี้จากเขาเอาไว้ เธอโผกอดพ่อแน่น ดำเกิงกอดลูกตอบน้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม

“พ่อให้เดือนได้เท่านี้แหละลูก”...

ทั้งลำธาร บุญหยาดและยี่สุ่นยังคงคาดคั้นให้ดำเกิงบอกว่าเดือนสิบอยู่ไหน เขายืนยันคำเดิมว่าไม่รู้ ลำธารเห็นไม่เข้าทีจะไปตามหาเธอเอง แต่ยังไม่ทันลุกขึ้นเงินยวงเดินเข้ามาเสียก่อน

“พี่เดือนไปแล้วค่ะ ไม่ต้องไปตามหรอก เธอไม่กลับมาแล้วล่ะค่ะ”

ยี่สุ่นแค้นอกแทบระเบิด แต่ความเป็นผู้ดีเก่าค้ำคออยู่จำต้องข่มอารมณ์เอาไว้

ooooooo

นารากับพ่อกำลังเฝ้าดวลที่ถูกมัดมือมัดเท้าขึงไว้กับเตียง เห็นดำเกิงกับสกาวกลับแต่หัววันก็ร้องทัก งานเสร็จเร็วดีจังเลย ดำเกิงไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มๆ สกาวขอบคุณสองพ่อลูกที่ช่วยเป็นธุระเรื่องดวลให้ นารายินดีช่วยหากมีอะไรให้เรียกก็แล้วกัน เธอขอบคุณทั้งคู่อีกครั้ง สองพ่อลูกขยับจะไปดำเกิงร้องเรียกไว้

“ขอบคุณนะครับ แล้วก็ขอโทษกับทุกสิ่งที่ผมเคยทำนะครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับเพื่อนบ้านกันมีอะไรพอช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยกันไป” พ่อนารายิ้มให้อย่างเป็นมิตร ดำเกิงยิ้มตอบทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน สกาวสบายใจที่สามีเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน...

ความเปลี่ยนแปลงของดำเกิงไม่ได้หยุดแค่นั้น ยังลามไปถึงเรื่องของดวลอีกด้วย เขาเปลี่ยนใจไม่พันธนาการลูก ค่อยๆแก้เชือกที่มัดมือมัดเท้าลูกออกเพื่อให้เขาหลับสบายขึ้น สกาวรีบเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ สักพักดวลรู้สึกตัว ครั้นขยับแขนขาได้ไม่ถูกมัด เขาลุกพรวดความอยากยาทำให้เขากระสับกระส่าย สกาวต้องกอดลูกไว้ บอกให้นอนลงอย่างเดิม ดวลไม่ฟังดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมกอดแม่

ดำเกิงเข้ามาช่วยจับแต่สู้แรงเขาไม่ไหว พ่อกระเด็นไปทางแม่ไปอีกทางหนึ่ง ดวลไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นพุ่งไปที่ประตูห้อง ดำเกิงหยิบซองยาขึ้นมาชูไว้พลางเรียกลูกให้หันมาดู นี่คือยาที่เขาอยากได้ตนหามาให้แล้ว

ดวลหันมาคว้าซองยาไปจากมือพ่อแล้วจะหนี ดำเกิงกอดเอวลูกไว้ไม่ยอมให้ไป ถ้าเขาต้องการยา จากนี้ไปตนจะเป็นคนไปหามาให้เอง ขอแค่อย่าไปไหนอยู่ที่นี่กับพ่อกับแม่ เราจะอยู่ด้วยกัน ความรู้จักผิดชอบชั่วดีแล่นไปทั่วร่าง เขามองพ่ออย่างสำนึกได้ เหวี่ยงซองยาทิ้ง

“พ่อ แม่ ช่วยดวลด้วย ดวลอยากเลิก ดวลไม่เอาแล้วช่วยดวลด้วยนะ” ดวลทรุดตัวลงนั่งแปะกับพื้นก่อนจะคลานเข้าไปกราบพ่อขอให้ช่วยเขาด้วย สกาวเข้าไปกอดลูกไว้ ดวลยังคร่ำครวญซ้ำๆว่าอยากเลิกยาไม่เอาอีกแล้ว ดำเกิงสัญญาจะช่วยเขาเอง แล้วเล่าเรื่องที่ตัวเองให้อิสรภาพกับเดือนสิบ อยากทำอะไรก็ได้อย่างที่ใจต้องการโดยที่พ่อกับแม่จะไม่เสียใจในสิ่งที่เธอเลือก

“ดวลเองก็เหมือนกัน พ่อจะให้ของขวัญชิ้นหนึ่งกับดวลเหมือนกัน พ่อจะให้ดวลเลือกว่าดวลจะเลิกยาหรือจะใช้มันต่อไป ดวลเลือกได้ มันเป็นสิทธิ์ของดวล...พ่อคิดว่าพ่อจะขายบ้าน มันใหญ่เกินไปสำหรับพวกเรา พ่อเห็นแก่ตัวที่ให้ทุกคนช่วยกันแบกความจมไม่ลงของพ่อมานานถ้าดวลอยากเลิกยาเราจะช่วยกัน”

ดำเกิงยังบอกอีกด้วยว่าถ้าดวลมีความสุขกับการใช้ยา อย่างน้อยท่านก็ยังมีเงินก้อนใหญ่พอที่จะทำให้เขามีความสุขไปได้อีกหลายปี นับจากนี้ท่านจะทำให้ทุกคนมีความสุข ดวลตัดสินใจเลือกการเลิกยา

ooooooo

หลังได้รับอิสรภาพ เดือนสิบเดินทางไปหาเที่ยงวันซึ่งทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยผู้ป่วยเอดส์ที่ประเทศคองโก เขาดีใจมากที่เห็นเธอถามว่ามาได้อย่างไร แล้วงานแต่งงานทำอย่างไร

“เดือนเบี้ยวงานแต่งค่ะ ไม่ดีเลยใช่ไหมคะ”

“ครับไม่ดีเลย...แต่ผมชอบนะ คุณเงินยวงไม่ได้วางแผนล่มงานให้นะครับ” เที่ยงวันพูดติดตลก เดือนสิบส่ายหน้ายิ้มๆ นึกย้อนไปถึงตอนที่เธอหนีงานแต่งกำลังขนข้าวของขึ้นรถหันกลับมามองอีกทีต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเจอเงินยวงยืนมองอยู่ เธอถามเสียงเข้มนั่นคิดจะทำอะไร เดือนสิบไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรได้แต่ขอโทษ

นอกจากจะไม่โกรธที่เดือนสิบทำให้งานวิวาห์ล่ม เงินยวงยังบอกให้เธอรู้อีกด้วยว่าเที่ยงวันอยู่ไหน เธอถึงได้ตามมาหาเขาถูก เธอดีใจที่รู้ว่าเขาอาสามาช่วยงานที่นี่อย่างน้อยเขาก็ไม่หันกลับไปหายาเสพติด

“ก็เกือบไปเหมือนกันนะครับ ถ้าไม่ได้คุณเงินยวงกับหมอตาม”

“เดือนเป็นสาเหตุให้คุณเที่ยงเสียใจแท้ๆเลย”

เที่ยงวันไม่โกรธเธอแม้แต่น้อยแต่โกรธตัวเองที่ไม่สามารถประคองตัวไว้ได้ แต่พอมาที่นี่ได้ช่วยเหลือคนอื่นที่ตกทุกข์ได้ยากกว่าทำให้เขากลับมาเป็นผู้เป็นคนได้อีกครั้ง เจอร์รี่เจ้าหน้าที่ฝรั่งคนหนึ่งเดินถือถ้วยกาแฟเข้ามาสมทบ เที่ยงวันจึงแนะนำให้รู้จักกับเดือนสิบ

เจอร์รี่ถามว่าเธอเป็นแฟนเขาหรือ เที่ยงวันได้แต่อึกอัก เดือนสิบก็เลยตอบคำถามให้แทนว่าใช่ เธอเป็นแฟนเขา เจอร์รี่รู้งานจึงปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง

“ขอบคุณนะครับที่กลับมาหาผม” เที่ยงวันจับมือเดือนสิบมากุมไว้

อีกมุมหนึ่งห่างออกมา หมอตามเห็นเงินยวงยืนมองเที่ยงวันกับเดือนสิบตาเขม็งเดินเข้ามาหา

“ผมละนับถือน้ำใจคุณจริงๆนะครับคุณยวง รักแบบไม่ครอบครองรักแบบเสียสละ”

เงินยวงออกตัวว่าแค่ชอบเที่ยงวันยังไม่ทันได้รัก หมอตามไม่วายพูดติดตลกถ้าเป็นแบบนี้เขาก็มีสิทธิ์จีบเธอใช่ไหม เธอยินดีรับใบสมัครของเขาไว้พิจารณา...

ขณะบรรยากาศที่คองโกอบอวลไปด้วยกลิ่นอายรัก ดำเกิงซึ่งอยู่ในเมืองไทยพาดวลไปบำบัดอาการอยากยาที่วัดแห่งเดียวกับที่เที่ยงวันเคยมาใช้บริการ หลวงพ่อเอายาสมุนไพรบางอย่างมีสรรพคุณช่วยขับสารเสพติดที่ยังหลงเหลือในร่างกายมาให้ดวลดื่ม อึดใจเขาอาเจียนออกมาไม่หยุด จนหมดเรี่ยวแรง

พระลูกวัดเอายามาให้ดื่มอีก ดวลส่ายหน้าเป็นทำนองไม่ไหวแล้ว ดำเกิงรับยาจากพระมาป้อนลูกซึ่งดื่มไปยังไม่ถึงครึ่งขวดก็อาเจียนออกมาอีก ดำเกิงคอยลูบหลังให้ดูแลใกล้ชิด โดยมีหลวงพ่อคอยพูดให้กำลังใจ

“อดทนหน่อยนะโยม ตอนโยมเที่ยงมารักษาตัวก็เป็นอย่างนี้แหละ ตอนนี้ก็หายดีแล้วเห็นไหม”

ooooooo

จากนั้นหลวงพ่อเล่าให้สองพ่อลูกฟังคร่าวๆว่าตอนที่เที่ยงวันมารักษาอาการติดยาเสพติดที่วัดแห่งนี้ แรกๆเขาก็ท้อเหมือนดวล แต่มีทูลคอยเป็นกำลังใจ คอยพูดกระตุ้นให้เขามีแรงฮึดสู้ สองพ่อลูกร่วมกันต่อสู้กับอาการติดยาของเที่ยงวัน จนอาการของเขาดีขึ้นเป็นลำดับ และหายได้ในที่สุด

วันที่เที่ยงวันได้ออกจากที่นี่ ทูลกับสวาทวิมลซึ่งเป็นคนมารับ เข้ามากราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ทำให้พวกตนได้ลูกกลับมาอีกครั้ง ท่านย้ำกับเที่ยงวันว่าได้เกิดใหม่แล้ว ขอให้ดำเนินชีวิตใหม่ให้ถูกต้องด้วย ทำความดีชดเชยสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดลงไป สวาทวิมลดึงลูกมากอด

“หมดทุกข์หมดโศกซะทีนะลูกนะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะลูก”

หลวงพ่อเตือนสามคนพ่อแม่ลูกว่าการเลิกยาว่ายากแล้วการกลับเข้าสังคมยิ่งยากกว่าเพราะคนมองเราผิดอย่างไรก็ยังคงมองอย่างนั้น มีเพียงเราเท่านั้นที่จะแก้ไขทุกอย่างได้และให้หมั่นทำความดีลบล้างความผิดพลาดในอดีตแม้จะลบไม่หมดแต่ความดีจะค่อยๆเจือจางความรู้สึกของผู้คนไปได้ ควรปิดหูปิดตาบ้าง

“รับแต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตเราก้าวไปข้างหน้า อย่าเปิดรับสิ่งที่ทำให้เราถอยหลังกลับมาสู่สิ่งเลวร้าย”...

ในระหว่างที่ดวลตั้งใจแน่วแน่จะเลิกยาให้ได้ ยี่สุ่นยังคงตระเวนขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ที่งานวิวาห์ของลูกชายล่มกลางคัน วันนี้เธอมากราบขอประทานอภัยต่อคุณหญิงถนอมศรีผู้เป็นน้า การมาครั้งนี้ทำให้ยี่สุ่นได้รู้อีกว่า บุญหยาดรู้ทั้งรู้ว่าเชิญจิตกับมิถุนาเป็นพวกหิวเงิน ชอบเกาะคนรวย นิสัยใจคอหยาบกระด้าง ยังพยายามยัดเยียดให้แต่งงานกับลำธาร...

ยี่สุ่นเก็บความเคลือบแคลงนี้กลับมาถามบุญหยาดซึ่งหน้าว่าทำไมถึงทำแบบนั้น ทีแรกเธอไม่ยอมพูดอะไรแต่พอถูกยี่สุ่นคาดคั้นหนักเข้าเธอก็หลุดปากว่าที่ทำแบบนั้นเพราะความอิจฉาที่ยี่สุ่นเกิดมามีทุกอย่าง ถึงเราสองคนจะมีแม่คนเดียวกัน แต่พ่อของยี่สุ่นเป็นถึงหม่อมราชวงศ์ ส่วนพ่อของตนเป็นเพียงครูจนๆ แถมยี่สุ่นยังแต่งงานมีครอบครัวที่ดีมีลูกที่น่ารัก แต่ตนไม่มีอะไรเลย

“คุณพี่...แต่ฉันไม่เคยทิ้งคุณพี่เลย”

“ฉันคอยดูแลเธอและลูกๆ แล้วฉันได้อะไรเธอก็มองฉันเป็นแค่บริวารของเธอเท่านั้น” บุญหยาดคายความในใจออกมาจนหมด ยี่สุ่นเสียใจที่พี่สาวคิดอย่างนี้กับตัวเองมาตลอด

“น้องตัดสินใจจะไปปารีสกับตาธารสักพัก” พูดจบยี่สุ่นเดินขึ้นห้องไม่สนใจบุญหยาดอีกเลย...

ทางด้านชีวาตม์ทำตามที่เคยพูดไว้กับยุพรา เอาน้องปอนด์ลูกของกิ่งคำซึ่งเกิดมามีปัญหาเนื่องจากแม่ติดยามาเลี้ยงดูอย่างดีเหมือนเป็นลูกตัวเอง รับกิ่งคำกลับมาอยู่ด้วยกันโดยที่เธอรับปากจะเลิกยาและเข้ารับการบำบัด รื่นเริงก็ยังอยู่ในความดูแลของเขา การกระทำของชีวาตม์ทำให้ยุพรายิ่งรักเขามากขึ้น รักในความดีของเขาและตั้งใจมั่นจะช่วยเขาให้ผ่านเรื่องยากๆเหล่านี้ไปให้ได้ ในฐานะเพื่อน...

ในที่สุดดวลเลิกยาได้ กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง ดำเกิงขายบ้านหลังใหญ่ได้เงินมากพอสมควรทำให้เคลียร์หนี้สินได้หมดและยังมีเงินเหลือพอซื้อบ้านหลังเล็กๆอยู่ สกาวทำอาหารใต้ให้ดำเกิงเอาไปส่งตามบ้านละแวกนั้น ทุกอย่างดูลงตัวจนเดือนสิบที่ได้รับข่าวดีนี้จากพ่อยิ้มไม่หุบ เที่ยงวันพลอยดีใจไปกับเธอด้วย

“ทุกอย่างก็ดูว่าจะจบลงแบบสวยงามแล้วนะครับ จะเหลือก็แต่เรา แล้วเราล่ะครับจะลงเอยแบบไหน”...

เที่ยงวันกับเดือนสิบลงเอยด้วยการแต่งงานกัน ทั้งคู่ไปแต่งงานที่แอฟริกาใต้ สถานที่ที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรก โดยมีวาวาตูทำพิธีแต่งงานให้ตามประเพณีของเผ่าซูลู ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก

*********อวสาน*********

อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 14(อวสาน) วันที่ 31 ก.ค.61

ละคร ข้ามสีทันดร บทประพันธ์โดย กฤษณา อโศกสิน
ละคร ข้ามสีทันดร บทโทรทัศน์โดย กู๊ดโฮป
ละคร ข้ามสีทันดร กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละคร ข้ามสีทันดร ผลิตโดย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด
ละคร ข้ามสีทันดร ออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ