My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 8 วันที่ 25 ก.ค.61
“ลงชื่อว่าเหมียว ถ้าไม่ใช่เหมียวนี่แล้วเหมียวไหนวะที่นัดคุณโขงออกไป”สองคนมองตากันมองกันด้วยความสงสัย เหมียวบอกว่าชักไม่ดีแล้ว กดโทร.ไปหาโขง เสียงเรียกดังขึ้น ปรากฏว่าโขงไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปวางชาร์จแบตอยู่ที่บ้าน เปิ้ลถามว่าเอาไงดี
พอดีพัสกรโทร.เข้ามือถือโขง เหมียวตัดสินใจกดรับ
โขงไปถึงท้ายหาดตามนัด แต่ไม่เห็นใครเลย คิดว่าเหมียวยังไม่มาทั้งที่เลยเวลาแล้ว จะโทร.หาจึงรู้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านเลยเดินคอยแถวชายหาดไปเรื่อยๆ
เหมียวซ้อนมอเตอร์ไซค์เปิ้ลออกไปทันที ใจร้อนจนเร่งเปิ้ลให้เร็วกว่านี้ ตนใจคอไม่ดีเลย
เวลาเดียวกันโขงเดินคอยเหมียวไปก็อดบ่นไม่ได้
“หนองตาคำก็มีหาดเดียว นี่ก็ท้ายหาดจนไม่รู้จะท้ายยังไง คุณอยู่ไหนเนี่ยมณเหมียว”
ที่หลังต้นไม้ ชัยซ่อนตัวอยู่ พอเห็นโขงก็ยกปืนเล็งทันที
ooooooo
เหมียวกับเปิ้ลมาถึงเห็นไสวจอดรถอยู่ริมหาดวิ่งเข้าไปถามว่าเห็นคุณโขงไหม ไสวกำลังกินน้ำเลยชี้ไปที่หาด นึกในใจว่ามีเรื่องอะไรกันอีกแล้ว พอวางกระติกน้ำไสวก็วิ่งตามไป
ที่ท้ายหาดโขงเดินหาเดินรอเหมียวอดเฉลียวใจไม่ได้ว่าเหมียวไม่เคยเรียกตัวเองว่าเหมียว แต่ที่หลังต้นไม้ที่ชัยซุ่มอยู่กระบอกปืนเล็งมาที่โขงที่หยุดยืน
“เสร็จกู” ชัยแสยะยิ้ม
“คุณโขง” เหมียววิ่งมาถึงตะโกนเรียก เปิ้ลกับไสววิ่งตามมาติดๆ
ที่ฝั่งตรงข้ามกับชัย ปืนอีกกระบอกหนึ่งโผล่
ออกมา เสียงปืนคำรามขึ้นขณะเหมียววิ่งไปหาโขงเหมียวหวีดร้องก้มหลบโดยสัญชาตญาณ เห็นโขงยืนนิ่งมองเหมียวแล้วก็ทรุดฮวบลง
ชัยตกใจยกปืนขึ้นดูเพราะตนยังไม่ได้ยิง โผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ ไสวเห็นพอดีร้องบอก
“เฮ้ย นั่น มือปืน...มือปืน!!”
ชัยวิ่งหนีทันที ไสววิ่งตาม เหมียวกับเปิ้ลยังตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอได้สติเปิ้ลก็รีบโทร.แจ้ง 1669 ว่าเพื่อนตนถูกยิง ขณะเดียวกันเหมียวก็พยายามประคองโขงขึ้นมา เห็นเลือดทะลักแดงชุ่มที่หน้าอกและแผ่นหลัง
เมื่อนำโขงไปโรงพยาบาลแล้ว เหมียว เปิ้ล และไสววิ่งตามเตียงเข็นไป จังหวะนั้นรถพัสกรก็พุ่งเข้ามาจอด เห็นเตียงโขงถูกเข็นผ่านไป โขงเลือดชุ่ม พัสกรตกใจ วิ่งตามไปถามเหมียวว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำ พอเหมียวเล่าให้ฟังเขาถามว่าใคร เห็นตัวมือปืนหรือเปล่า ไสวบอกว่าตนเห็น ตนวิ่งตามไปแต่ไม่ทัน
พัสกรโทรศัพท์บอกครูจันทรา บอกว่าไม่ต้องห่วงคนดีพระคุ้มครอง คืบหน้ายังไงจะโทร.มาเป็นระยะ พอวางสายจากครูพัสกรก็โทร.หาเบน เบนบอกว่ากำลังคุยกับผู้กองกำชัยพอดี ผู้กองมีข้อสันนิษฐานน่าสนใจมาก
ขณะพัสกรคุยโทรศัพท์ก็เห็นทิชาเดินไปห้องฉุกเฉินอย่างรีบร้อน เปิ้ลสะกิดบอกเหมียว เหมียวลุกไปทันทิชาที่หน้าห้องฉุกเฉินพอดี ทิชาถามว่าโขงยังไม่ออกมาอีกหรือ เหมียวบอกว่ายัง เปิ้ลถามเหมียวเบาๆว่าใครบอกคุณทิชา ทิชาได้ยินหันขวับปรี๊ดถามว่า
“ทำไม?!? ฉันรู้ข่าวคุณโขงไม่ได้รึไง”
พัสกรเห็นเหตุการณ์จึงวางสายจากเบนรีบเข้ามาสมทบกับเหมียว เห็นทิชาจ้องเหมียวตะคอก
“ห้ามฉันรู้เหรอ ห้ามฉันมาเหรอ ทำไม ฉันเป็นห่วงคุณโขงไม่ได้รึไง แกรักเขาได้คนเดียวรึไง นังบ้า!”
พัสกรแทรกขึ้นอย่างสุภาพแนะนำตัวเองบอกว่าเราเคยเจอกันแล้ว ทิชาจึงได้สติขอโทษเปลี่ยนเป็นพูด สุภาพอ่อนหวานว่าตนประสาทเสียไปหมด ทำอะไร
ไม่ถูกเลย ถามว่าโขงเป็นยังไงบ้าง
พอดีหมอออกจากห้องฉุกเฉินถามหาญาติคนไข้ พัสกรบอกว่าตน หมอถามว่ามาจากกรุงเทพฯใช่ไหม
พอพัสกรบอกว่าใช่ หมอก็เชิญเข้าข้างในบอกพวกที่ขยับจะตามว่า “เฉพาะญาตินะครับ”
เหมียวกับเปิ้ลเห็นท่าทางหมอเครียดก็ยิ่งเป็นห่วงตามไปแอบดู ทิชาตามมายืนข้างหลังอีกคน หมอเห็นพวกเหมียวแอบส่องก็ชวนพัสกรไปในห้องผ่าตัดซึ่งข้างนอกมองไม่เห็น
ครู่หนึ่งหมอออกมากับพัสกร หมอปลอบให้ใจเย็นๆ พัสกรทำเหมือนโขงอาการหนักมาก บ่นหงุดหงิด
“คนดี ทำประโยชน์เพื่อสังคม แล้วนี่หรือคือสิ่งที่ได้รับ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนวะ”
เหมียวทนไม่ได้ถามว่าอาการโขงสาหัสมากหรือ หมออึกอัก พัสกรจึงตอบแทนว่า
“คือ...กระสุนตัดเส้นเลือดใหญ่ไปครับ เสียเลือดจนเกิดอาการช็อก แล้ว...ไอ้โขงมันหยุดหายใจไปหลายนาที กว่าจะปั๊มขึ้นมาได้ เราห่วงว่าโขงจะฟื้นไหม หรือถ้าฟื้นขึ้นมาก็ไม่ชัวร์ว่ามันจะเหมือนเดิมไหม”
ทิชาเสนอว่าเราต้องรีบพาไปโรงพยาบาลที่ชำนาญการดูแลเรื่องนี้โดยตรงจะดีกว่า หมอบอกว่ากำลังประสานกับโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯอยู่แต่ตอนนี้เคลื่อนย้ายคนไข้ยังไม่ได้เพราะความดันต่ำมาก
“ผมก็รอลุ้น แค่ทันทีที่มันฟื้น สมองมันใช้การได้ แล้วมันอาจจะจำได้ว่าใครยิง” พัสกรเสริมหน้านิ่ง
“คุณโขงเห็นคนยิงด้วยหรือคะ” ทิชานิ่งงันไปก่อนจะถามเหมือนสติเลื่อนลอย
“เอ่อ...คุณหมอบอกว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งก่อนโขงจะสลบ คุณหมอถามว่าเห็นคนยิงไหม ไอ้โขงตอบว่าเห็น แต่พอคุณหมอถามต่อ ไอ้โขงก็หมดสติแล้วก็หยุดหายใจไปตอนนั้นพอดีครับ”
ชัยแอบฟังอยู่ได้ยินทั้งหมด พึมพำเครียด “ไอ้โขงเห็นเหรอวะ มันไม่เห็นนะเว้ย...”
เหมียวเฝ้าโขงตลอดเวลา ทิชาบอกให้กลับไปเสียตนจะเฝ้าโขงเอง ทั้งยังโทษว่าโขงไปท้ายหาดเพราะเหมียวนัดให้ไป เหมียวทำให้โขงเป็นแบบนี้ พยายามบอกให้เหมียวกลับไป พัสกรได้ยินจึงเดินมาบอกว่าเรื่องนี้ให้เป็นธุระของตนดีกว่า โขงเป็นเพื่อนตายของพวกเรา เราไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายหรอก บอกทิชาว่าให้กลับไปเถอะ ทำใจให้สบายแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่
ขณะที่ทิชาขึ้นรถกลับ ชัยพยายามจะเข้าไปคุยด้วยแต่เข้าไม่ได้เพราะมีบอดี้การ์ดถึงสองคน
ooooooo
เช้านี้เหมียวบอกทับทิมว่าจะไปเยี่ยมโขง
ที่โรงพยาบาล แต่พอผลักประตูออกไปก็ถูกชัยดันเข้าและปิดประตูเอามืดปิดปากเหมียวไม่ให้ร้อง เหมียวดิ้นจนข้าวของล้มโครมคราม
ทับทิมได้ยินเดินบ่นมาว่าซุ่มซ่ามอีกแล้ว แต่พอออกมาเห็นชัยกำลังปล้ำเหมียวก็ชะงัก ชัยใช้ลูกไม้เดิมฟ้องว่าเหมียวทำร้ายตนจะจับตนส่งตำรวจ หารู้ไม่ว่าทับทิมตาสว่างแล้ว แทนที่จะเล่นงานเหมียวเหมือนเคยกลับเอาไดร์เป่าผมอันใหญ่ฟาดหัวชัยอย่างจัง ตะคอกใส่
“คิดว่ากูโง่รึไง กูเห็นเว้ยว่ามึงทำร้ายลูกกู...” ชัยผิดคาดถามทับทิมว่าเป็นอะไร กินยาผิดหรือเปล่า
“ก็พอมึงไม่อยู่กูก็ตาสว่าง กูรู้ กูเห็นแล้ว ใครที่รักกูจริง แล้วใครที่ชอบทิ้งกู”
ทับทิมด่าชัยเอาไดร์ฟาดไม่ยั้ง ชัยสะบัดเหมียวออกหันกระชากผมทับทิมตวาดให้หยุดและเอาเงินมา
ยายหวานกับยายไรได้ยินเสียงเอะอะก็แจ้นมาดู เห็นชัยทำร้ายเหมียวกับทับทิมก็ช่วยกันร้องให้คนช่วย
ชัยให้ทับทิมเอาเงินมา ทับทิมบอกว่าอยากได้
ก็ไปหาเอาเอง ชัยเงื้อมือจะตบ ก็พอดีไสวเข้าจับมือชัยไว้ ชัยหันมาเล่นงานไสว แต่ถูกไสวชกจนเลือดกำเดาไหลแล้วจับเอามือชัยไพล่หลังทันที
ไสวเห็นเสื้อผ้าที่ชัยใส่จำได้ถามว่าเมื่อวานก็ใส่เสื้อตัวนี้ใช่ไหม ก้มดมกลิ่นร้องอย่างมั่นใจ
“ชัวร์ เอ็งนี่แหละมือปืนที่ยิงคุณโขง”
ชัยบอกว่าตนไม่ได้ยิง เหมียวถามว่าแค้นอะไรโขงนักหนา
“เออ กูแค้นมันแต่กูไม่ได้ยิงมัน นังคุณหนูทิชามันจ้างกู แต่กูไม่ได้ยิง กูไม่ใช่คนยิงไอ้โขง!! นังคุณหนูทิชาต่างหากที่ยิงไอ้โขง นังทิชามันจ้างกู แต่มันยิงเอง เลยไม่จ่ายตังค์ให้กู กูจะไปทวงมันก็มีคนคุ้มกันเต็มไปหมด... โว้ย...ปล่อยกูสิวะ” ชัยโวยวาย ทับทิมบอกไสวให้จับส่งตำรวจเลย ตนไม่อยากเห็นหน้ามันแล้ว
ชัยบอกว่ามีเสียงปืนดัง แต่ตนไม่ได้ยิง แต่มองไปเห็นทิชายืนถือปืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
พอเหมียวรู้ว่าทิชาเป็นคนยิงโขงก็เป็นห่วงโขงขึ้นมา วิ่งอ้าวออกไปทันที
ooooooo
เมื่อรู้ว่าโขงเห็นคนยิงตน รุ่งขึ้นทิชาไปที่โรงพยาบาลแต่เช้า คิดแค้นไปตลอดทางว่า
“คุณไม่ควรเห็นเลยว่าใครยิงคุณ...ทุกอย่างมันเป็นเพราะคุณ...ทิชาต้องแกร่ง คุณจะได้ทำร้ายทิชาไม่ได้อีก”
ทิชาเข้าไปในห้องพักโขงเห็นเขาหลับอยู่ก็เอาหมอนมาปิดหน้ากดแน่น แต่ทันใดนั้นโขงกระชากหมอนออก ไม่มีอาการของคนบาดเจ็บหนักเลย ทิชาผงะ โขงเสียใจมากเมื่อเห็นเป็นทิชา ถามว่า
“ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ”
“คุณ...คุณโกหก นี่หมอจัดฉากหลอกชั้นเหรอ”
“ใช่...ฝีมือยิงคุณเกือบดีนะทิชา พลาดหัวใจไปนิดเดียวเอง เข้าสะบักซ้ายทะลุไหปลาร้า เก่งมาก แต่ยังไม่มากพอ ผมเลยไม่เป็นอะไร เราเลยลองวางกับดักให้คนร้ายมาลงมือซ้ำ แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคุณ”
โขงลงจากเตียงเดินมาถามว่า เธอเป็นนางฟ้าไม่ใช่หรือ ทิชาอ้างว่าเขาทำร้ายแม่ ทำลายครอบครัวตน โขงบอกให้คิดดูให้ดีว่าแม่เธอโดนจับเพราะอะไร เพราะสมรู้ร่วมคิดกับพีระหลอกผู้หญิงไปขาย เป็นตัวการสำคัญของขบวนการค้ามนุษย์ต่างหาก
ทิชาตะโกนว่าไม่จริง ทนฟังไม่ได้แผดเสียงกรี๊ดๆ ร้องไห้โฮ พัสกรพรวดออกจากห้องน้ำ ทิชาด่ากราดว่าพวกเขารวมหัวกันเล่นงานตน ด่าโขงว่าเลวเหมือนที่แม่บอก หยิบปืนจากกระเป๋ามาตวาดไม่ให้โขงเข้ามา
เหมียววิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลเจอผู้กองกำชัยบอกว่าชัยบอกตนหมดแล้ว ผู้กองบอกว่าทราบแล้วเพราะหัวกระสุนที่ทะลุร่างโขงออกมาตรงกับปืนที่ทิชาครอบครอง พอมาถึงหน้าห้องเจอสวัสดิ์กับแป๊ะที่เฝ้าอยู่ทั้งสอง
บอกว่าไม่ต้องห่วง ไม่มีใครน่าสงสัยเลย มีแต่คุณทิชาที่เพิ่งเข้าไป
“คุณทิชา!!!” กำชัยกับเหมียวตกใจรีบเข้าไป
ในห้องทันที สวัสดิ์กับแป๊ะตามเข้าไปงงๆ
ในห้องโขงพยายามหว่านล้อมทิชาส่งปืนให้ตน ตนจะบอกตำรวจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ทิชาในสภาพไร้สติบอกว่าตนไม่เชื่อเขาอีกแล้ว บอกตัวเองว่าตนต้องจัดการทุกอย่างเองไม่งั้นเดี๋ยวคุณแม่จะโกรธอีก
ขณะโขงพยายามหว่านล้อมจนทิชาเริ่มฟังบ้าง แต่แล้วความคิดก็เปลี่ยนฉับพลันเมื่อเหมียวพรวดเข้ามา ทิชายกปืนจ่อเหมียวทันทีสั่งให้ทุกคนถอยไปให้หมดแล้วลากเหมียวออกไป โขงพุ่งไปคว้ากางเกงในตู้มาเปลี่ยนแล้ววิ่งตามไปเกลี้ยกล่อมทิชาอีก ถูกเธอด่า “ปัญญาอ่อน ใครจะเชื่อพวกแก”
เหมียวที่ถูกทิชาลากไปและเอาปืนจ่อก็ยังพยายามเกลี้ยกล่อมทิชา แต่เธออยู่ในสภาพเหมือนคนบ้า จิก
ผมเหมียวลากไปที่ลานจอดรถบังคับให้เหมียวขับรถตัวเองถือปืนยิงกราดทุกคนที่ตามมา ยามออกมาขวางก็สั่ง
“ชนมันเลย ชน!!!”
โขงตามเจอป้าขี่มอเตอร์ไซค์คร่ำคร่ามีหลานซ้อนท้ายก็วิ่งไปขวางบอกยืมรถหน่อย ปล่อยหลานกับป้าลงแล้วตะบึงคร่อกแคร่กตามรถทิชาที่เหมียวเป็นคนขับไป
ทิชาบังคับเหมียวขับรถไปก็สบถด่าทอโขงที่เลือกเหมียวที่เป็นเด็กข้างถนน สวะ แทนที่จะเลือกตน เหมียวบอกว่าตนกับโขงไม่ได้เป็นอะไรกัน ทิชาตะคอกว่าแต่เขารักเธอ แล้วสั่งเหมียวให้เลี้ยวรถเข้าท่าเรือเหยียบให้มิด เหมียวบอกว่ามันไม่มีทางไปแล้ว ทิชาพูดอย่างสติแตกว่าพุ่งไปให้สุดขอบฟ้าเราจะตายด้วยกัน
เหมียวมองไปเห็นอีกสามร้อยเมตรจะสุดสะพาน เห็นทิชาไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย และมัวแต่กังวลกับโขงที่ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา เหมียวเหยียบคันเร่งพุ่งไปอย่างเร็ว พอใกล้สุดสะพานก็เบรกกะทันหัน ทิชาคว่ำหน้ากระแทกกระจกเลือดอาบ ปืนหลุดจากมือแน่นิ่งไป
เหมียวลงจากรถวิ่งไปหาโขง กอดกันด้วยความดีใจ บอกว่าทิชาอยู่ในรถให้รีบไปดู แต่พอไปเปิดประตูรถ ทิชาหายไปแล้ว มองไปเห็นทิชายืนที่ปลายสะพาน ปืนจี้ที่ตัว เหมียวตะโกนบอกให้พอเถอะ มันจบแล้ว
“มันจะจบเมื่อฉันตาย คุณโขงคอยดูนะ ฉันจะตายให้คุณดูแล้วคุณต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะคุณคือสาเหตุที่ทำฉันตาย”
ผู้กองกำชัยบอกทุกคนอย่าเข้าไปทำให้ทิชารู้สึกว่าจนมุม พัสกรก็บอกให้ตามนักจิตวิทยามาคุยกับทิชา
ooooooo
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 8 วันที่ 25 ก.ค.61
เส้นสนกลรัก บทประพันธ์โดย หัสบรรณเส้นสนกลรัก บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
เส้นสนกลรัก กำกับการแสดงโดย กีรติ นาคอินทนนท์
เส้นสนกลรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
เส้นสนกลรัก ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ