My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 5 วันที่ 20 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 5 วันที่ 20 ก.ค.61

เหมียวขอโทษเปิ้ลที่พูดไม่ดีไป ยอมรับว่าตนชอบโขง แต่ไม่ได้บอกเปิ้ลเพราะไม่อยากยอมรับว่าตนชอบโขงจริงๆ และที่ไม่อยากให้เปิ้ลไปทำงานกลางคืนเพราะเจอผู้ชายขี้เมา เปิ้ลจะไม่รู้เลยว่าเขาจะทำอะไรบ้าง บอกว่าถ้าจะหาเงินให้แม่บอกตนตรงๆ เปิ้ลบอกว่า

ทุกวันนี้เหมียวก็ทำงานหนักอยู่แล้ว

“แต่ฉันก็ควรแก้ปัญหาที่ฉันก่อไม่ใช่สร้างปัญหาให้แกเพิ่ม แกช่วยฉันมามากแล้วนะเปิ้ล ฉันจะทำให้แกเดือดร้อนเพราะฉันอีกได้ไง”



ความผูกพันที่ต้องดิ้นรนหาเงินและช่วยเหลือกันมาตลอด ทั้งสองคุยอย่างเข้าใจกัน เปิ้ลบอกว่านอกจากแม่แล้ว ตนก็มีเหมียวคนเดียวที่เป็นเพื่อน เหมียวก็มีความรู้สึกเดียวกัน ทั้งสองกอดกันด้วยความเข้าใจ

โขงเห็นเพื่อนรักเข้าใจกันก็ดีใจ เอาเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานที่จัดหางานให้ประชาชนให้ บอกสองคนว่าติดต่อไป ถ้าไม่เลือกมากยังไงก็ต้องมีงานทำ เดี๋ยวตนจะดูให้อีกที

“เปิ้ล แกรับปากกับฉันได้ไหม ถ้าที่ไหนเสิร์ฟแอลกอฮอล์ให้ลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้าผู้ชาย ดูท่าทางไว้ใจไม่ได้ แกจะไม่ไปทำเด็ดขาดนะเปิ้ล ได้ไหม”

เหมียวจริงจังมากจนเปิ้ลอึ้ง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้...

ooooooo

เมื่อคืนหลังจากเกิดเรื่องแล้ว โตส่งเปิ้ลไปให้พีระจัดการ พีระขอให้เปิ้ลบอกเหตุผลที่น่าเห็นใจ ไม่อย่างนั้นก็คงให้ทำงานที่นี่ไม่ได้ เปิ้ลบอกว่าบ้านจะถูกยึด เจ้าหนี้ทวงเช้าทวงเย็นและขู่จะทำร้ายแม่ด้วย ถ้าไม่ได้เงินอาทิตย์นี้แม่ต้องแย่แน่

พีระแสดงความเห็นใจถามพร้อมว่ายังพอมีตำแหน่งว่างบ้างไหม พร้อมบอกว่ามีแต่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ต้องการคนด่วนมาก ถ้าไปตอนนี้ก็เบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้เลย พอเห็นเปิ้ลสนใจพีระควักเงินปึกหนึ่งให้ ถามว่าเท่านี้พอจ่ายหนี้ไหม

“งั้นฉันไปค่ะ จังหวัดไหนก็ได้ ไปพรุ่งนี้เลยก็ได้ ฉันไปทั้งนั้น” พีระมีข้อแม้ว่าห้ามเธอบอกใครเด็ดขาดว่าได้ทำงานที่นี่ เธอทำงานพลาดไปแล้ว คนอื่นรู้ว่าตนยังจ้างเธออยู่จะถูกหาว่าลำเอียง “ได้ค่ะ ฉันจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับสุดๆ ไม่บอกใครทั้งนั้น” พีระย้ำว่าเธอรับปากแล้วนะ พอเปิ้ลพยักหน้าพีระก็เอาเงินวางในมือให้

“ขอบคุณมากนะคะคุณพีระ คุณนี่พ่อพระมาโปรดจริงๆ ขอบคุณมากเลยค่ะ”

เปิ้ลคิดถึงที่รับเงินและรับปากพีระเมื่อคืนแล้วพูดไม่ออก จนเหมียวถามว่าทำไมเงียบ

“ได้สิได้ ฉันไม่ทำงานในผับในบาร์แล้วล่ะ ฉันสัญญา” เปิ้ลรับปากให้เหมียวสบายใจ แต่ตัวเองเครียด

โขงถูกสั่งให้ทำงานเอกสารอยู่ที่สำนักงานห้ามออกไปไหน แต่วันนี้ได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ พอโขงรับสาย เสียงทับทิมก็ตีโพยตีพายมาว่าให้รีบมาช่วยเด็กถูกตีที่ตลาด โขงบอกแป๊ะแล้วคว้ากระเป๋าจะไป

“เอ๊ย...นายโขง พี่นารีสั่งว่าห้ามไปไหนนะ โดย เฉพาะตลาด” เจียรไนยห้ามไม่ทัน ได้แต่นั่งกลุ้ม กลัวโขงจะไปมีเรื่องอีก

พอไปถึงตลาดจึงรู้ว่าถูกชัยหลอกมา พอโขงไปถึงชัยกับดำก็ป่าวร้องให้บรรดายายๆและชาวตลาดมาดูหน้าฆาตกรโรคจิตฆ่าน้อยหน่าหมกป่า ชาวบ้านกรูกันมาจะประชาทัณฑ์โขง

“คุณพีระพ่อพระแห่งหนองตาคำ มึงยังใส่ความได้ นับประสาอะไรกับชาวบ้านตาดำๆอย่างเรา มึงคลุ้มคลั่งขึ้นมา มึงก็อาจจะกราดยิงแบบที่พ่อมึงเคยทำก็ได้” ชัยได้ทีพูดยั่วยุจะยืมมือชาวบ้านเล่นงานโขง

ทันใดนั้น ไสว เหมียว เปิ้ล วิ่งมาจากอีกทาง เหมียวตะโกนว่า “ไอ้ชัย พูดจาเกินไปหน่อยแล้วนะ” เปิ้ลก็ว่า “คุณโขงเขาเป็นคนดีนะทุกคน” แต่ชัยก็ยังยุยงชาวบ้านว่าเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ต้องไล่โขงออกไปจากหนองตาคำ แล้วตะโกนนำ “ไล่มันออกไป!!”

ยายแจ๊วตัวดีวิ่งไปยกไหปลาร้ามาสาดใส่โขง แต่โขงหลบทันปลาร้าเลยสาดไปโดนยายไรที่ยืนอยู่หลังโขงเข้าเต็มๆ ยายไรตรงเข้ากระชากผมยายแจ๊วด่าลั่นว่ากล้าดียังไงมาสาดปลาร้าใส่ตน

ยายไรเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินค่าซักรีด สระผม และอาบน้ำ ยายแจ๊วไม่หลงประเด็นมุ่งเล่นงานโขงคนเดียว มโนไปต่างๆนานาว่าโขงฆ่าน้อยหน่ามัดถ่วงน้ำ จ้วงแทงนับแผลไม่ถ้วนจนน้อยหน่าทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายคาที่ แล้วเอาศพไปเผานั่งยาง

“น้อยหน่าไม่ได้ตายซะหน่อย แต่มันหนีไปเพราะทนยายไม่ไหวนั่นแหละ ทั้งด่าทั้งตี ทั้งตอกย้ำเรื่องแม่ ยายอย่าโทษคนอื่นเพื่อให้ตัวเองสบายใจเลย ลึกๆลงไปยายก็รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองมีส่วนให้น้อยหน่ามันกลายเป็นเด็กแบบนี้” เหมียวแฉยายแจ๊ว แป๊ะช่วยแฉต่อ จนยายแจ๊วถามว่าตกลงมันเป็นเพราะกูหรือไง!?!

“เออ...คราวลูกสาวเอ็งก็แบบนี้ เอ็งโทษชาวบ้านไปทั่ว ที่แท้ลูกสาวเอ็งวิ่งแจ้นหนีตามผู้ชาย เพราะต้องการจะหนีที่แม่มันไม่ให้ความรักความอบอุ่นไง ใช่ไหมนังหวาน” ยายไรแฉและขอเสียงยายหวาน ยายหวานบอกว่าก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละ ยายไรติดลมแฉต่อ “ทั้งลูกทั้งหลานทิ้งเอ็งไปก็เพราะตัวเอ็งเองนั่นแหละนังแจ๊ว เป็นยายที่แย่ เป็นแม่ที่เลว”

ยายแจ๊วถูกสาวไส้กลางตลาดตะโกนว่าไม่ใช่ แต่ไม่อยู่หนองตาคำแล้วเพราะมันเป็นตำบลแห่งความเศร้า พอสิ้นเสียงยายแจ๊ว ยายๆที่เคยรุมกันนินทาด่าคนอื่นก็หันมาด่าจนยายแจ๊วทนไม่ไหววิ่งเตลิดออกไป

ชัยกับดำที่ทำกร่างแต่แรกคุมเกมไม่อยู่ ถามกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ไป ผิดแผนแล้ว และพากันเผ่นไป โขงเชื่อว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีอีกเป็นแน่ เลยตามไป

ooooooo

ยายแจ๊ววิ่งไปปีนเสาส่งสัญญาณ ทุกคนที่วิ่งตามโขงมาเป็นพรวนตกใจเมื่อเห็นยายแจ๊วปีนเสา เหมียวตะโกนว่าถ้ายายแจ๊วตกลงมาจะทำยังไง ทับทิมด่าเหมียวว่าอยู่ๆไปด่ายายแจ๊วทำไม ปากหาเรื่อง

“ใครกันแน่ที่เป็นตัวการปั่นหัวยายแจ๊ว ปลุกระดมชาวบ้านให้เกลียดคุณโขง” เปิ้ลโต้ตามองไปทางชัย

ชัยอ้างว่าตนปกป้องชาวหนองตาคำด้วยกัน ดำโทษยายไรว่าทำเสียแผนหมด ยายไรโต้ว่ายายแจ๊วเอาปลาร้ามาสาดใส่ตนก็ต้องแก้แค้น แล้วตะโกนให้ยายแจ๊วโดดลงมาเลย...

โขงให้แป๊ะรีบโทร.แจ้งผู้กองกำชัย และบอกสวัสดิ์ให้หาผ้าผืนใหญ่ๆมาขึงรอไว้เผื่อฉุกเฉินแล้วโขงก็วิ่งไปปีนเสาสัญญาณตามยายแจ๊วขึ้นไปท่ามกลางความตกใจของทุกคน

ผู้กองกำชัยติดต่อขอเบาะลมยางจากพื้นที่ใกล้เคียง เจียรไนยก็ติดต่อนักจิตวิทยานัดไปเจอกันที่เกิดเหตุ ทุกคนทำงานอย่างเร่งรีบ

โขงตามขึ้นไปหว่านล้อมยายแจ๊ว ส่วนข้างล่างก็เอาผ้านวมผืนใหญ่มาขึง ยายหวานบอกว่าผืนแค่นี้คนตกลงมาไม่น่าจะรอด ยายไรที่รู้นิสัยยายแจ๊วดีถามทุกคนที่เตรียมการกันว่า

“พวกเอ็งจะวุ่นวายทำไมวะ ข้าจะบอกความจริงให้ ไอ้แจ๊วมันไม่กล้าโดดร้อก มันขี้กลัวจะตาย ออกแนว ขี้ขลาดมากกว่า” แล้ววิ่งไปป้องปากตะโกน “เฮ้ย ไอ้แจ๊ว ...แน่จริงมึงโดดลงมาสิวะ โดดเลยๆๆ”

พอดีเมษา นักจิตวิทยามาถึง ถามสวัสดิ์ว่ายายแจ๊ว อยู่บนนั้นนานแค่ไหนแล้ว

โขงปีนขึ้นใกล้แล้วบอกว่ายายแจ๊วตั้งใจดี หวังดีกับน้อยหน่า ถูกยายแจ๊วย้อนว่า

“มึงจะเข้าใจอะไรวะ มึงไม่เคยมีลูก มึงไม่เคยเลี้ยงใคร ไอ้พวกที่ด่ากูก็เหมือนกันลูกเต้าไม่มีทั้งนั้น แล้วมาด่ากูหาว่ากูเลี้ยงลูกไม่ดี มึงลองมาเป็นกูดูบ้างไหม กว่ามันจะเกิด กว่ามันจะโต กูต้องเสียสละอะไรไปเท่าไหร่ คิดว่าเป็นแม่เป็นยายมันง่ายเหรอวะ”

“นั่นสิครับ ยายแจ๊วต้องเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ให้น้อยหน่า ยายดูแลน้อยหน่าอยู่คนเดียว หน้าที่นี้มันหนักจริงๆ ยายแจ๊วคงเหนื่อย...แต่ถ้ายายแจ๊วไม่อยู่ น้อยหน่ากลับมาจะอยู่กับใครล่ะ”

“มันยังจะกลับมาอีกเหรอวะ” ยายแจ๊วมองโขงอย่างสับสน ส่วนเมษาก็ตะโกนบอกยายแจ๊วว่าตนอยู่ข้างยายแจ๊ว มีปัญหาอะไรให้มาคุยกับตน

ยายแจ๊วมองลงมาเห็นคนข้างล่างตัวนิดเดียวจึงรู้ว่าตัวเองปีนขึ้นมาสูงมาก มือเท้าเริ่มอ่อน เมื่อโขงชวนให้ลงไปคุยกันข้างล่างก็บอกเสียงสั่นว่า

“กู...กูลงไปไม่ได้...ขากูมันสั่น...กูลงไม่ได้”

“ยายแจ๊ว อย่ามองลงไปข้างล่าง” โขงขยับเข้าไปประคองยายแจ๊ว “เราจะลงไปด้วยกัน ไม่ต้องกลัวนะ”

ชัยกับดำสังเกตการณ์อยู่ ดำบอกว่าถ้าโขงพายายแจ๊วลงมาได้มันต้องกลายเป็นฮีโร่แน่ ชัยจึงตะโกนยุยายแจ๊วอย่าเชื่อโขงทั้งหมดนี่เป็นแผนของมัน มันเป็นตัวอันตราย ยายแจ๊วได้ยินจะผละจากโขงทำให้โขงเซและยายแจ๊วก็ทำท่าจะตก โขงรีบคว้าไว้ ขาเลยหลุดจากที่ยืน

โขงห้อยต่องแต่งในสภาพที่มือหนึ่งเกาะเสาอีกมือกอดยายแจ๊วไว้ คนข้างล่างตกใจ แป๊ะบอกว่าแค่ผ้ารองรับน้ำหนักไม่ไหวแน่ เหมียวตะโกนว่าใครมีฟูกมีหมอนให้ขนมารองข้างใต้ ทุกคนวิ่งไปบ้านตัวเองเอาฟูกเอาหมอนมาวางเรียง

“คุณโขงอย่าเพิ่งตกลงมานะ” เหมียวตะโกนพลางบอกชาวบ้านที่ขนฟูกขนหมอนมาให้วางเรียงกัน

แต่โขงก็ล้าแล้ว มือหลุดจากเสาแต่ยังกอดยายแจ๊วไว้พยายามเอาหลังลงเพื่อยายแจ๊วจะได้ไม่เจ็บมาก ร่างโขงกับยายแจ๊วร่วงลงมาบนผืนผ้านวมที่เพิ่งขึงเสร็จเพียงเสี้ยววินาที!

ooooooo

โขงกับยายแจ๊วถูกนำส่งสุขศาลาโดยรถพยาบาลที่ผู้กองกำชัยนำมา โขงหลับตาเหมือนหมดสติ ทั้งสองมีที่บล็อกคอ เหมียว แป๊ะและสวัสดิ์วิ่งตามเตียงโขงไปด้วยความเป็นห่วง

เหมียวตามร้องเรียกโขงไปตลอดทาง จู่ๆโขงก็พูดทั้งที่หลับตาอยู่ว่า

“เสียงดังเนอะคุณ” เหมียวชะงักเขินถามว่าเรียกทำไมไม่ตอบ โขงบอกว่าตกใจเป็นลมไปบ้างไม่ได้รึไงแล้วถาม “แล้วยายแจ๊วล่ะ”

หลังจากหมอตรวจโขงแล้วบอกว่าให้งดใช้แขนข้างนี้ระยะหนี่ง ประคบเย็นไม่ต้องถูแล้วขอไปเอาผ้าพยุงแขนให้ บอกใครก็ได้ช่วยประคบเย็นให้หน่อย แป๊ะกับสวัสดิ์รุนหลังเหมียวออกไปประคบเย็น แล้วทั้งหมดก็พากันออกไปอย่างรู้กัน เปิดโอกาสให้โขงอยู่กับเหมียวตามลำพัง

เหมียวเตือนโขงว่าสิ่งที่เขาทำมันเสี่ยงและอันตราย ไม่กลัวตกลงมาหรือไง โขงบอกว่ากลัวแต่พยายามบอกตัวเองว่าไม่ต้องกลัว เพราะมีมณเหมียวรอรับอยู่ โขงขอบคุณเหมียวที่ช่วยตนไว้ เหมียวบอกว่าตนคนเดียวที่ไหน ชาวบ้านช่วยกันต่างหาก

“เจอชาวบ้านผมค่อยขอบคุณ แต่ตอนนี้ ตรงหน้าผมมีแค่คุณนี่” โขงมองเหมียว ทั้งสองสบตากัน

แต่ทันใดนั้นทิชาก็เข้ามาอย่างร้อนใจ จะพาโขงไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด จะพาไปเอกซเรย์ โขงบอกว่ากระดูกตนไม่เป็นไรและตนจะไม่ไปไหนเพราะงานตนยังไม่เสร็จ

เมื่อไปเยี่ยมยายแจ๊วที่เมษาบอกว่าตั้งแต่ฟื้นขึ้นมายังไม่ยอมพูดกับใครเลย เกรงว่าต่อไปจะเป็นโรคซึมเศร้าได้ ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่ดีขึ้นคงต้องส่งไปให้จิตแพทย์ในจังหวัด ยายแจ๊วพลิกตัวทันทีร้องเรียกโขงถามว่าเห็นน้อยหน่าไหมทำไมยังไม่กลับมา สงสัยจะโกรธตนจริงเลยทิ้งตนไป ตนเป็นคนทำให้น้อยหน่าทิ้งไปใช่ไหม

เหมียวไหว้ขอโทษยายแจ๊วบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะโทษยายว่าเลี้ยงน้อยหน่าไม่ดีอย่าถือสาเลย แต่ยายแจ๊วบอกว่าเหมียวพูดถูกแล้วตนไม่เคยเกลียดน้อยหน่าแม้ไม่ดีใจตอนมันเกิดมาแต่มันก็เป็นหลานคนเดียว ถามโขงว่าชาตินี้ตนจะได้เจอน้อยหน่าอีกไหม

“ต้องได้เจอสิยายแจ๊ว ผมสัญญากับยายแล้วไง ผมต้องพาน้อยหน่ากลับมาให้ได้”

ทิชายืนฟังอยู่ด้วยความสะเทือนใจเพราะรู้แก่ใจดีว่าน้อยหน่าหายไปไหน เมื่อกลับถึงบ้านถามแม่ว่ารู้ใช่ไหมว่าน้อยหน่าหายไปไหน เพราะตอนนี้ยายแจ๊วเสียใจจนคิดจะฆ่าตัวตายแล้ว คุณนายระวีปรามเสียงเข้มว่าตนไม่รู้เรื่องน้อยหน่า ทิชาเองก็เหมือนกันถ้ารู้มากแล้วห้ามปากไม่ได้ก็หูหนวกตาบอดต่อไปเสีย อย่าคิดเปลี่ยนแปลงอะไรเลยเพราะมันไม่ทันแล้ว

“ทำไม...ทำไมคุณแม่ต้องเป็นแบบนี้...” ทิชาพูดอย่างเจ็บปวดแล้วเดินออกไปเลย

ooooooo

เย็นนี้ขณะเหมียวเดินคุยกับโขงมาถึงหน้าสุขศาลาก็เจอรถไสวที่รับทับทิมที่หมดสติเข้ามาที่สุขศาลา เหมียวตกใจถามว่าแม่เป็นอะไร ไสวบอกว่าเห็นบ่นว่าแน่นหน้าอกตั้งแต่บ่ายแล้ว อยู่ๆก็ล้มหมดสติ พยาบาลบอกว่าคนไข้หัวใจหยุดเต้น

เวลาเดียวกัน เปิ้ลถือกระเป๋าไปยืนอยู่หน้าผับพีระ แสนมาเจอถามว่าจะไปไหน เปิ้ลบอกว่าไปเที่ยว พอดีโตมารับ แสนเอะใจว่าไปกับโตแบบนี้ไม่น่าไปเที่ยวแล้ว แสนโทร.หาพ่อทันทีถูกพร้อมที่จับตาดูอยู่ขู่ว่า บอกพ่อให้ระวังตัวหน่อยอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดได้ทุกเวลา อย่าหาเรื่องให้พ่อโดยไม่จำเป็น แล้วเดินผ่านไป

เปิ้ลเจอส้มที่จะไปทำงานต่างประเทศเหมือนกัน แต่พอเห็นชัยมาคุมไปบอกว่าเป็นไกด์ก็เอะใจ แต่ถูกชัยผลักขึ้นรถบอกว่า “สายไปแล้ว...ที่จะเปลี่ยนใจ”

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 5 วันที่ 20 ก.ค.61

เส้นสนกลรัก บทประพันธ์โดย หัสบรรณ
เส้นสนกลรัก บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
เส้นสนกลรัก กำกับการแสดงโดย กีรติ นาคอินทนนท์
เส้นสนกลรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
เส้นสนกลรัก ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ