My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 2 วันที่ 13 ก.ค.61
คุณนายระวีพยายามรั้งทิชาไว้เอาใจพีระให้อยู่คุยกับพีระก่อน พีระทำเป็นเข้าใจบอกว่าไม่เป็นไรทิชาอยากพักผ่อนตนกลับเลยดีกว่า ทิชารีบบอกขอให้กลับดีๆ คุณนายระวียังให้ทิชาไปส่งพีระที่หน้าบ้านจนได้โขงกลับถึงห้องเช่าแล้วเดินแปรงฟันออกจากห้องน้ำ มองตัวเองที่มีรอยช้ำเพราะโดนนายพรเอาไม้ฟาดบ่นงึมงำทั้งที่ยังแปรงฟันว่า “ขยันเจ็บตัวไปไหนไอ้โขง ถ้าครูรู้คงโดนด่า” แต่พอเดินมาที่ระเบียงมองไปเรื่อยเปื่อยไปเห็นบ้านทิชาชัดเจนมากเพราะโขงอยู่หอพักชั้น 3 โขงชะงักเมื่อเห็นทิชาอยู่กับพีระสงสัยว่าเป็นแฟน
หรือสามี แต่แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นพีระพยายามกอดจูบ ทิชาปัดป้องและดิ้นอย่างแรงโขงจึงรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว
พอรู้สึกว่าไม่ใช่สามีและแฟน โขงก็ร่ำๆจะไปช่วย พอดีเห็นคุณนายระวีเดินออกมาเอาใบเสร็จรับเงินที่
พีระบริจาคให้มูลนิธิที่คุณนายเป็นนายกอยู่ พีระเลยถามเรื่องที่จะให้ทิชาไปทำงานกับตน
เมื่ออยู่กับแม่ตามลำพัง ทิชาบอกแม่ว่าตนไม่ไป เพราะไม่ชอบทั้งพีระและงานที่เขาทำ คุณนายยังพยายามหว่านล้อมให้เชื่อแม่แล้วจะสบายเหมือนแม่ ทิชาบอกว่าตนไม่ได้อยากสบายอย่างแม่
เมื่อกลับเข้าห้อง ทิชายืนในบ้านที่ใหญ่โตหรูหราอย่างโดดเดี่ยววังเวงอยู่คนเดียว
ooooooo
เช้าวันนี้เหมียวซิ่งมอเตอร์ไซค์มีเปิ้ลซ้อนท้ายไปทำงานที่โรงงานสับปะรดกระป๋องตามปกติ พอมาถึงเปิ้ลเร่งให้รีบไปตอกบัตรเดี๋ยวไม่ทัน เหมียวบอกว่าทันเพราะมีเวลาอีกห้านาที
แต่แล้วก็ถูกส้มเดินมาทักว่าเหมียวถูกสาดน้ำกรดใช่ไหม ตนสงสารเหมียวมากด่าไอ้พวกผู้ชายนี่มันเลวจริงๆ น่าจะเฉือนเอาให้เป็ดกินเสียให้หมด เหมียวกับเปิ้ลสงสัยว่าส้มจะมาไม้ไหนเพราะไม่เคยรู้จักกันเลยจะขอตัว ทันใดก็สะดุ้งเมื่อเฮียนางทอมบอยเข้ามาขวางถามจะรีบไปไหนว่ะไอ้เหมียว ทั้งที่เหมียวกับเปิ้ลไม่รู้จัก
เฮียนางหาว่าเหมียวมายุ่งกับส้มแฟนตน เหมียวไล่ให้หลีกไปเดี๋ยวตอกบัตรไม่ทัน เฮียนางพูดเย้ยว่า
เอาตัวแดงไปเลยโดนหักเงินแน่
“เออ ถ้าฉันตอกบัตรไม่ทัน ฉันจะตอกหน้าเฮียให้คว่ำ” เหมียวหน้าถมึงทึง เฮียนางยังกวนประสาทเลยถูกเหมียวผลักกระเด็นไปแล้วรีบเข้าไปในอาคาร เฮียนางหันมาอีกทีส้มกำลังวิ่งหนีไป เฮียนางรีบวิ่งตามไป
ฝ่ายเหมียวกับเปิ้ลเข้าไปในอาคารเห็นพี่โชติกำลังด่าน้องเมี่ยงหาว่าขโมยเงินสาวโรงงานด้วยกันไป น้องเมี่ยงบอกว่าตนไม่ได้ขโมย คนอื่นเยอะแยะทำไมไม่สงสัยมาสงสัยตน
พี่โชติว่าน้องเมี่ยงใช้เงินเกินตัว ยืมเงินคนไปทั่วบอกให้ลาออกไปเสียไม่งั้นจะแจ้งตำรวจให้มาสอบสวน เหมียวติงว่าพี่โชติทำแบบนี้ก็ไม่ถูกมีใครเห็นน้องเมี่ยงขโมยเงินหรือเปล่า ส้มเห็นเหมียวเถียงแทนเมี่ยงก็ปลื้มชมว่าเท่จัง เฮียนางหมั่นไส้ ยุให้เหมียวเอาเงินเดือนตัวเองใช้หนี้แทนเมี่ยงไปเลย เปิ้ลบอกว่าไอ้ที่ได้ก็แทบไม่พอกิน จะไปแบ่งอะไรใครอีก พี่โชติบอกว่าจ่ายหนี้แทนไม่ได้ก็เงียบไปเลย ไล่ทุกคนที่มามุงให้ไปทำงานเสีย ส้มดึงหูเฮียนางลากออกไปอีกทาง เหมียวมองน้องเมี่ยงอย่างเห็นใจ
สุดท้ายเหมียวกับเปิ้ลก็ตอกบัตรได้ตัวแดงจนได้ น้องเมี่ยงระบายความอัดอั้นให้เหมียวฟังว่าน้องไม่สบายเลยมายืมเงินไปรักษาไม่งั้นก็ไม่ยืมใครหรอก เหมียวเลยแนะให้หางานใหม่ทำ เมี่ยงบอกว่าตนไม่ใช่คนที่นี่ซ้ำบัตรอะไรก็ไม่มีไม่รู้จะไปหางานที่ไหน
พอดีเปิ้ลมองไปข้างหน้าพึมพำแปลกใจ “ใครมาวะ หล่อแบบแปลกๆ” เหมียวมองไปเห็นโขงยืนคุยกับสาวโรงงานอยู่ พอโขงเห็นเหมียวก็หยุดคุยทันทีเพราะกำลังสอบถามเรื่องเหมียวอยู่ ฝ่ายเหมียวพอเห็นโขงก็ชักสีหน้าไม่พอใจ ถามว่ามาทำไม เมื่อวานบอกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับตน โขงบอกมาดูว่าเธอทำงานปกติไหม
ยียวนโต้เถียงกันจนโขงเกือบจะรู้แล้วว่าชัยไม่ใช่สามีของเหมียว แต่ถูกเฮียนางมาขัดจังหวะหาว่าเหมียวทำให้ส้มเลิกกับตน ส้มวิ่งตามมาทันด่าเฮียนางว่าเป็นบ้าอะไร หึงไม่มีเหตุผล โวยวายไร้สาระ เพราะอย่างนี้
ตนเลยอยากเลิก บอกให้ดูเหมียวขนาดโดนสาดน้ำกรดยังไม่คร่ำครวญอะไรเลย แมนๆให้ได้อย่างนี้สิตนถึงจะชอบ
เฮียนางยิ่งเขม่นเหมียวเลยไปกระชากผ้าก๊อซจากหน้าออก โขงอึ้งเมื่อเห็นหน้าเหมียวไม่ได้เละอย่างที่คิด หากเป็นรอยแดงๆเท่านั้น!
ที่แท้เหมียวไม่ได้โดนสาดน้ำกรด หากโดนชัยบีบน้ำยาล้างห้องน้ำใส่ขณะทะเลาะกันเท่านั้น เปิ้ลมาเจอเหมียวถูกบีบน้ำยาล้างห้องน้ำใส่ก็รีบพาซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปหาหมอ
แต่ยายหวานที่สาระแนสอดรู้สอดเห็น ปากสว่างเที่ยวโพนทะนาว่า
“ไอ้ชัยมันได้นังเหมียวเป็นเมีย แล้วมันก็สาดน้ำกรดนังเหมียวเพราะความหึงหวงคู่ทอมดี้!!!”
เปิ้ลเห็นโขงมาก็บอกเหมียวว่าพวกที่ช่วยแก้ปัญหาครอบครัวอาจช่วยเราได้ แต่เหมียวเห็นว่าจะมาทำให้ยุ่งมากกว่าแล้วแม่ตนนั่นแหละจะซวยกว่าเพื่อน บอกเปิ้ลว่า
“คนพวกนี้เขามาแล้วก็ไป แต่ฉันกับแม่ต้องอยู่ด้วยกันไปจนตาย อย่าให้คนอื่นมาแส่เรื่องในบ้านของเราเลยเปิ้ล”
เปิ้ลเห็นเหมียวไม่สนใจเลยเงียบไป
ooooooo
โขงเข้ามาในสำนักงานเปิดคอมพ์พิมพ์รายงาน เอะใจว่าคนในสำนักงานหายไปไหนหมด ครู่หนึ่งได้รับโทรศัพท์จากแป๊ะโทร.จากงานระดมทุน “หรรษาเมตตาธรรมหนองตาคำร่มเย็น” ถามว่า
“พี่โขงอยู่ไหน...ถ้าพี่มาไม่ทัน รับรองซวย”
ที่แท้แป๊ะได้ยินสุรารักษ์กับเจียรไนยยุนารีให้เอาเรื่องโขงถ้ามาไม่ทันงาน เพราะทั้งสองไม่ชอบโขงที่เป็นคนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ยุให้นารีสั่งย้ายโขงไปที่อื่นเสีย นารีบอกว่าถ้างานเริ่มแล้วโขงยังไม่มาตนจะจัดการเอง
พอแป๊ะโทร.มาบอกโขงก็รีบออกจากสำนักงานโบกรถสองแถวเจอรถไสวพอดี
เวลาเดียวกันคุณนายระวีมาที่รถเห็นทิชานั่งที่คนขับถามว่านายพรไปไหน ทิชาบอกว่าลากลับบ้าน ขอร้องแม่ว่าอย่าให้เขากลับมาเลย คุณนายระวีบอกว่าไม่ต้องห่วงแม่หาคนขับรถใหม่มาให้แล้ว ทันใดนั้นรถของพีระก็เข้ามาจอด พีระลงจากรถสวัสดีคุณนายระวีแล้วบอกทิชาว่าตนกะเวลาไม่ผิดจริงๆ แล้วเชิญทิชาไปขึ้นรถตน โดยมีนายพร้อมเป็นคนขับ
ทิชานั่งหน้าตึงมาในรถ พีระชวนคุยและจับมือถือแขน ทิขาปัดป้องก็บอกว่ายังไงเราก็อยู่ทางเดียวกัน มาเดินข้างๆกันสิ ทิชาสวนทันทีว่าตนไม่มีวันเป็นแบบเขาเด็ดขาด
บนเส้นทางเดียวกัน แป๊ะโทร.มาเร่งโขงที่อยู่บนรถสองแถวของไสว โขงให้ไสวเร่งเร็วกว่านี้ได้ไหม พอไสวเร่งพักเดียวรถก็กระตุกแล้วแน่นิ่งไปเลย ผู้โดยสารสามคนเลยต้องมายืนแหง่วรอรถคันต่อไป
ทิชาทนพีระไม่ไหวพอดีเห็นโขงจำได้บอกให้นายพร้อมจอด นายพร้อมตกใจจอดทันที ทิชาเปิด
ประตูรถวิ่งไปหาโขงถามว่าเขาจะไปไหน พอรู้ว่าไปงานเดียวกันก็ดีใจบอกว่าตนจะไปงานนี้เหมือนกัน พอดีพีระเดินมาเร่งทิชาให้รีบไป เธอจึงชวนโขงไปด้วยกัน
ทุกคนในงานแปลกใจที่โขงนั่งรถหรูมากับพีระและทิชา แต่โขงโล่งใจที่มาทันเปิดงานเพราะคุณนายระวีสั่งให้รอพีระทั้งที่เลยฤกษ์ไปแล้ว พีระไม่พอใจที่ทิชาสนิทกับโขง สั่งนายพร้อมให้คอยสังเกตและโทร.บอกตน
ทิชาถามโขงว่าทำอะไรอยู่ในงานนี้ โขงบอกว่าตนทำงานอยู่สำนักงานพัฒนาครอบครัว ทิชาสงสัยว่าทำไมเราไม่เคยเจอกันเลยทั้งที่มูลนิธิของคุณแม่ทำการกุศลกับสำนักงานนี้ โขงบอกว่าโชคดีที่ตนรู้จักกับเธอทำให้รู้สึกว่าเมืองนี้น่าอยู่ขึ้น ทิชาก็บอกว่าตนโชคดีที่ได้เจอคนอย่างเขา คนที่จะช่วยคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
พอดีเดินมาถึงซุ้มสาวน้อยตกน้ำ โขงแนะนำวิธีเล่นและชวนเธอลองเล่นดู ทั้งสองเลยเล่นกันสนุกสนาน
แล้วจู่ๆชัยกับดำก็เข้ามากร่าง ทิชาเห็นบรรยากาศไม่ดีจึงชวนโขงไปที่อื่น โขงเห็นชัยแกล้งปาบอลใส่เหมียวตกน้ำทั้งที่เหมียวบอกมันว่าตนกำลังทำงานอยู่ ชัยปาบอลถูกเหมียวตกน้ำเสื้อผ้าบางๆเปียกจนโป๊ก็ยิ่งชอบใจ โขงทนไม่ได้ย้อนกลับไปเข้าทางหลังซุ้ม เอาผ้าขนหนูให้เหมียวคลุมส่วนสงวนไว้ พลางก็แนะนำเหมียวที่บอกว่าตนมาหารายได้พิเศษว่า
“เป็นผู้หญิง ถึงอยากหารายได้พิเศษก็ควรจะเลือกงานหน่อย อย่าสร้างโอกาสให้ถูกลวนลามจะดีกว่า” เหมียวแหวใส่ว่าตนเนี่ยนะสร้างโอกาส? “ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงตกเป็นเหยื่อก็เพราะความประมาท ถ้าคุณไม่อยากโดนก็อย่าทำตัวให้เสี่ยงสิ”
“ต่อให้ฉันใส่เสื้อคอเต่า กระโปรงยาวถึงตาตุ่ม ก็ไม่มีทางปลอดภัยหรอกถ้าพวกผู้ชายมักมากไม่หยุดแบบนี้ แทนที่จะสอนผู้หญิงให้ระวัง ทำไมไม่สอนผู้ชายให้รู้จักสำรวมบ้างล่ะ”
ชัยมาเห็นโขงจำได้ว่าเป็นคนเมื่อวานนี้ ดำยุให้สอยเลย ชัยบอกว่าตนเย็บผ้าไม่เป็นจะให้สอยอะไร โขงสมเพชถามว่านี่มุกกวนๆหรือว่าโง่จริง ชัยถูกด่าว่าโง่เลยสั่งดำลุย ซุ้มสาวน้อยตกน้ำเลยกลายเป็นมวยวัด
ซัดกันนัว ทิชาเห็นแป๊ะกับสวัสดิ์ยืนดูกลัวๆกล้าๆ บอกว่าโขงเป็นอะไรหรือเปล่าให้เข้าไปดูเดี๋ยวนี้เลย ทั้งสอง
จึงเข้าไปดูและช่วยดึงดำออกมา
ทับทิมอยู่ที่ซุ้มสอยดาว ยายแจ๊วกับยายไรวิ่งไปบอกว่าชัยต่อยกับใครไม่รู้ที่ซุ้มสาวน้อยตกน้ำ เหมียวไปนั่งเป็นสาวน้อยตกน้ำสงสัยชัยหึง ทับทิมด่าเหมียวว่าเป็นต้นเหตุอีกแล้ววิ่งไปที่ซุ้มสาวน้อยตกน้ำทันที
ทิชาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งกลัวทั้ง
เป็นห่วงโขง ตะโกนบอกให้โขงพอแล้วเลิกแล้วต่อกันเสีย แต่พวกที่ตะลุมบอนกันเลือดขึ้นหน้าไม่ฟังเสียง เหมียวเลยเอาลูกบอลปาหัวชัย ทิชาเชียร์เหมียวให้เอาอีกๆ
พีระมาเห็นทิชาก็ไม่พอใจถามว่าบ้าไปแล้วหรือ ส่วนดำพอเห็นพีระก็เรียกอย่างนอบน้อม “ลูกพี่”
ที่แท้ทั้งหมดเป็นแผนของพีระที่ให้ชัยกับดำลูกน้องเก่าของตนเล่นงานโขง เมื่อสะใจแล้วก็มาสั่งให้พอเป็นจังหวะที่ทับทิมวิ่งมาถึงพอดีตะโกนด่าเหมียว
“อีเหมียว!!! เอ็งทำไรผัวข้า” แล้วลากเหมียวออกไปเลย
โขงชะงักกึก เพิ่งรู้ว่าที่แท้ชัยเป็นผัวทับทิม
แม่ของเหมียว แต่ได้ยินยายไรบอกว่าสักวันเหมียวต้องเป็นเมียชัยแน่ หมอนี่มันพระยาเทครัวอยู่แล้ว เพราะคนจ้องจะทำกับคนคอยหนีมันสู้แรงกันไม่ไหวหรอก
ooooooo
ผู้กองกำชัยมาถึงเมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว คุณนายระวีขอให้ผู้กองช่วยดูแลความสงบในงาน พีระเย้ยในทีว่าถ้าไม่ไหวจริงๆตนจะเอาคนมาช่วยก็ได้ ตำรวจทำงานหนักหลายอย่างเลยไม่มีเวลามาพิทักษ์สันติราษฎร์
ทันใดนั้นผู้กองกำชัยก็ได้รับแจ้งให้ไประงับเหตุที่อื่น ผู้กองบอกพีระว่า
“ที่คุณพีระจะส่งคนมาช่วยที่นี่อีกแรงก็ดีครับ เพราะอย่างนายชัยเองก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเป็น รปภ.ให้สถานเริงรมย์ของคุณมาก่อนจริงไหม คนของคุณพีระทั้งนั้น คุณพีระต้องจัดการได้อยู่แล้วจริงไหมครับ”
คุณนายระวีถามทิชาว่ารู้จักผู้ชายคนที่ขึ้นรถมากับลูกเหรอ พีระโพล่งอย่างมีอารมณ์ว่า
“ทิชาเรียกมันมาจากข้างถนนเลยครับ เพื่อจะเอามันมาเป็นก้างขวางคอผม”
“จริงเหรอทิชา” คุณนายระวีถาม ทั้งพีระและคุณนายระวีจ้องหน้าทิชาเหมือนเธอเป็นจำเลย
ooooooo
สุรารักษ์กับเจียรไนยยังเฝ้าจับผิดจะให้นารีย้ายโขงออกไปให้ได้ แต่นารีจัดการปัญหาอย่างรอบคอบ ถามโขงว่าที่สองคนนั้นพูดเป็นความจริงไหม โขงยอมรับว่าตนควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แต่ไม่ได้ต่อยใครก่อน
นารีเลยใช้โขงให้ไปถ่ายเอกสารสำคัญให้แต่ที่แท้เรียกไปคุยกันเกี่ยวกับความลับครอบครัวทับทิม
ตั้งแต่เมื่อคืนที่มีเรื่องกัน ทับทิมก็ไม่กลับบ้านเลย เหมียวเป็นห่วงแม่ เมื่อทับทิมกลับมาตอนเช้าจึงรู้ว่า
ไปตามหาชัยที่หายตัวไป เหมียวบอกว่าชัยมีคดีติดตัวมาก พอเห็นตำรวจมันก็กระเจิงไปแล้วเดี๋ยวเงินหมดมันก็กลับมาเองแหละ ทับทิมด่าเหมียวว่าเป็นลูกดวงมาร อยู่ด้วยก็มีแต่ฉิบหายไล่จะไปไหนก็ไปไม่ต้องกลับมาอีก
นารีคุยกับโขงเรื่องของเหมียว โขงบอกว่าเหมียวเองก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยแล้วก็ไม่ยอมหนีออกจากบ้านแถมไม่ยอมให้ใครช่วยด้วย นารีบอกว่าบางทีเขาอาจจะยังไม่เข้าใจเชื่อใจเราพอ
เราก็ต้องทำตัวเป็นคนดูไปก่อน ดูอยู่ห่างๆแต่ก็ยังอยู่ในสนาม
แล้วผู้กองกำชัยก็มีเรื่องใหม่เข้ามาบอกว่าระยะนี้มีเด็กหายบ่อย เป็นเด็กผู้หญิงวัย 12-13 ผู้ปกครองประกาศหาแต่ไม่มีความคืบหน้า ผู้กองบอกว่าเราไม่ได้ตั้งประเด็นการหาย แต่ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มีปัญหาครอบครัว แล้วเอารูปเด็กที่หายที่เห็นหน้าชัดที่สุดมาฝากให้ทุกคนช่วยดูด้วย
เมี่ยงที่ทำงานในโรงงานเดียวกับเหมียวก็หายไป เหมียวถามเพื่อนๆในโรงงานว่าใครเห็นเมี่ยงบ้าง ปรากฏว่าไม่มีใครเห็นเลย ส้มสงสัยว่าเมี่ยงได้งานใหม่เงินดีไม่ต้องใช้บัตรอะไรเลยรีบไปไม่ได้บอกเพื่อนฝูง
พอดีเหมียวกับเปิ้ลเดินผ่านพนักงานสาวสามคนกำลังดูใบปลิวรับสมัครพนักงานเสิร์ฟสาวสวย เงินเดือนเป็นหมื่นไม่ต้องใช้บัตรรับรอง ทั้งสองฟังอย่างสนใจ
เวลาเดียวกันโตก็เข้าไปบอกพีระว่าเด็กใหม่มาแล้ว พาเข้าไปแนะนำว่า
“น้องเมี่ยงครับ แต่ผมเปลี่ยนเป็นเมลิซ่า กำลังหาเงินไปรักษาน้องที่ป่วย” แล้วกระซิบว่า “แอบเข้าเมืองมาคนเดียวไม่มีญาติที่นี่”
พีระถามเมี่ยงว่าต้องการเงินเท่าไหร่และรับปากช่วยทันที แล้วเรียกให้เข้าไปคุยกันในห้อง
สวัสดิ์เห็นโขงเครียดเรื่องเด็กหายจึงชวนไปเที่ยวผับของพีระเพราะแสนลูกชายตนเพิ่งเข้าไปเป็นนักร้อง
วันนี้เองขณะโขงอยู่ในผับเหลือบเห็นเหมียวกับเปิ้ล
เข้ามาก็สงสัยว่าเหมียวมาทำไม เหมียวมาตามหาเมี่ยงเอารูปเมี่ยงให้บาร์เทนเดอร์ดูถามว่าเคยเห็นไหม บาร์เทนเดอร์ไม่เคยเห็นยื่นรูปให้สาวเสิร์ฟที่อยู่แถวนั้นดู สาวเสิร์ฟดูแล้วบอกว่าถ้าแต่งหน้าแต่งตัวกว่านี้หน่อยก็เหมือนเคยเห็น
เปิ้ลกับเหมียวมีความหวังขึ้นมา แต่ถูกโตคอยขวางบอกว่าที่นี่ไม่มีวันรับเด็กต่างด้าวมาทำงาน หาว่าคู่แข่งส่งสองคนมาป่วนร้านตน เหมียวจะเข้าไปดูหลังร้าน
ที่เป็นที่พักพนักงาน ถูกโตกระชากออกมา
โขงทนไม่ได้ตามเคย ตรงเข้าไปต่อว่าโต อย่ารุนแรงกับผู้หญิง แล้วพูดขู่ถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจก็ให้เธอเข้าไปดูหน่อยจะได้จบๆ บอกเหมียวให้รีบเข้าแล้วรีบออกมา โตขวาง โขงบอกว่างั้นตนเรียกตำรวจ โตเลยเรียก รปภ.มาคุมตัวโขง เหมียวกับเปิ้ลเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งกลับไปที่ตัวร้านแต่ก็ถูก รปภ.ตามไปรวบไว้
โตรายงานพีระว่าสามคนนี้มาก่อความวุ่นวายที่ร้าน ตนกำลังให้การ์ดพาตัวออกไป พีระมองโขงเหมือนจะจำได้ โขงบอกเหมียวให้เอารูปน้องสาวที่หายให้พีระ
ดูเผื่อจะเคยเห็น พีระดูแล้วบอกว่าไม่คุ้นขอรูปไว้ถามพนักงานดู แล้วหันไปพูดกับลูกค้าที่เริ่มหันมาสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น บอกลูกค้าว่า
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 2 วันที่ 13 ก.ค.61
เส้นสนกลรัก บทประพันธ์โดย หัสบรรณเส้นสนกลรัก บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
เส้นสนกลรัก กำกับการแสดงโดย กีรติ นาคอินทนนท์
เส้นสนกลรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
เส้นสนกลรัก ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ