My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 4 วันที่ 17 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 4 วันที่ 17 ก.ค.61

วันต่อมา คุณนายระวีได้รับโทรศัพท์จากคุณนายสมร คุณนายผู้ว่าเชิญไปในงานมอบโล่ให้โขงที่ช่วยแก้ปัญหาในชุมชนทั้งเรื่องพ่อติดเหล้า เด็กติดเกมที่เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม

คุณนายระวีผสมโรง ถามทิชาว่า เห็นว่าจะให้ครูสอนเต้นมาเปิดคอร์สที่มูลนิธิด้วยใช่ไหม ทิชาบอกว่าโครงการนี้เกิดขึ้นเพราะคุณโขง

“ดีค่ะ” คุณนายสมรชื่นชม “หน่วยงานรัฐกับเอกชนร่วมมือกัน ประเทศชาติก็จะได้ผลประโยชน์ งั้นต้องฝากหนูทิชาประสานงานกับคุณโขงเรื่อยๆนะคะ ถ้าสำเร็จคงได้เป็นหนองตาคำโมเดลให้ชุมชนอื่นๆ



ทำตาม ทั้งโครงการพาพ่อเลิกเหล้ากลับบ้านกับพาลูกหลานออกจากร้านเกม”

“แค่พาออกมาไม่พอครับ เราต้องตรวจจับร้านเกมที่ผิดกฎหมายด้วย” โขงเสริม

คุณนายระวีรีบบอกว่าทำแค่นี้พอแล้ว เรื่องร้านพวกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ...คุณนายระวีพูดไม่ทันจบ โขงก็บอกว่า “ผมรายงานเรื่องนี้กับผู้กองกำชัยแล้วครับ” ทำเอาคุณนายระวีหน้าเสียเพราะพีระเป็นคนคุมร้านเกมในหนองตาคำทั้งหมด

พอออกมาจากสำนักงานโขง คุณนายระวีรีบโทร.บอกพีระให้ระวังตัวทันทีเพราะกลัวว่าถ้าพีระถูกจับตัวเองจะเดือดร้อนไปด้วย

น้อยหน่าในชุดนักเรียนเดินบ่นหงุดหงิดยายแจ๊วขณะเดินมาที่ตลาดว่าเงินมีเยอะแยะขอก็ไม่ให้แล้วจะให้ตนไปหาเงินจากไหน พอดีชัยได้ยิน ได้ช่องบอกน้อยหน่าว่า เรื่องเงินปรึกษาพี่ได้นะคนสวย

เปิ้ลก็เดือดร้อนเรื่องเงินที่จะส่งไปให้แม่แก้ปัญหาบ้านที่กำลังจะถูกยึดแต่ปกปิดเหมียวไม่อยากให้เพื่อนไม่สบายใจ เห็นใบปลิวโฆษณาของผับพีระว่า “งานดี เงินดี...รับสมัครด่วน” ก็สนใจแอบเก็บใส่กระเป๋า

หลังจากโขงได้โล่แล้ว ทุกคนในสำนักงานก็ทำงานกันอย่างคึกคักเอาการเอางานจนนารีเอ่ยปลื้มว่า

“คิดว่าจะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ซะแล้ว”

สุรารักษ์เอาแฟ้มสรุปปัญหาเด็กติดเกมห้าคน

มาให้นารี บอกว่าล้วนมาจากครอบครัวที่มีปัญหาทั้งนั้นมีเด็กหญิงคนหนึ่งเนื้อตัวมีรอยช้ำแต่ยังไม่ยอมบอกว่าโดนอะไรมา ตนนัดทีมสหวิชาชีพไปเยี่ยมเด็กพรุ่งนี้แล้ว

“ขอบคุณสุรารักษ์...ขอบคุณทุกคนนะที่สู้ๆ

เพื่อช่วยเด็กอย่างแข็งขันขนาดนี้” นารีเอ่ยแล้วเอากระดาษ แผ่นหนึ่งไปวางที่โต๊ะโขงบอกว่า “คุณนายสมรภรรยาผู้ว่าฝากมาให้”

“ทุนการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส” โขงดีใจบอกทุกคน

นารีให้โขงติดต่อมูลนิธิแสงระวีหาเด็กที่เหมาะสมมารับทุนด้วย สุรารักษ์เสียใจ น้อยใจที่ตนตั้งใจทำงานแต่ไม่เคยได้รับความสนใจ บ่นงึมงำ

“เหนื่อยทุกคน...แต่ได้หน้าคนเดียว”

ooooooo

วันนี้ทิชานัดโขงที่ร้านอาหารพี่สา เหมียวไปต้อนรับ ทิชาชวนนั่งด้วยกัน เหมียวบอกว่านั่งไม่ได้ผิดกฎ พี่สาจึงกดไหล่เหมียวให้นั่งซ้ำฝากให้ดูแล

คุณทิชาด้วย

ทิชาถามเหมียวว่าเรื่องเมื่อคืนก่อนเป็นยังไงบ้าง เหมียวฉุนโขงทันทีที่เล่าเรื่องของตนให้ทิชาฟัง

เมื่อโขงมา โขงบอกเหมียวว่าคุณนายผู้ว่ามอบทุนการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส ถามเหมียวว่าเธอพอแนะนำได้ไหม เหมียวสวนกลับทันทีว่าตนคนหาเช้า กินค่ำ ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดจะไปเที่ยวสอดรู้เรื่องชาวบ้านได้ยังไง ทิชาจับมือเหมียวหว่านล้อมว่า

“ข้อมูลจากเธอ ทำให้เราทำงานง่ายกันขึ้นนะเหมียว มาช่วยฉันกับคุณโขงนะ”

“ไม่ต้องเสียเวลามากหรอก รู้จักลูกใครที่ต้องออกจากโรงเรียนกะทันหันก็ลองเสนอมา” โขงบอกขณะออกจากร้าน แต่เหมียวทำหูทวนลมไหว้ทิชาแล้วหันเดินเลย ไม่ทันระวังชนเด็กเสิร์ฟที่กำลังยกแกงร้อนๆมา แกงหกรดเหมียวที่แขน โขงรีบเข้าไปดู พี่สาตกใจ เด็กเสิร์ฟฟ้องว่าเหมียวชนตน พี่สาตำหนิเหมียวว่าซุ่มซ่าม ให้รีบทำแกงใหม่ไปให้ลูกค้าและเหมียวต้องรับผิดชอบจ่ายค่าแกงถ้วยนี้

“ฉันจ่ายให้เองค่ะ พี่สาอย่าดุเลย เหมียวไม่ได้ตั้งใจ” ทิชาขอร้อง

เหมียวให้หักค่าแรงตนดีกว่าเพราะไม่อยากเป็นหนี้ใคร โดนพี่สาดุว่าอย่าหยิ่งนัก ชมว่าทิชาเป็นนางฟ้ามาเกิดจริงๆ ให้เหมียวขอบคุณคุณทิชาเสีย เหมียวจำต้องไหว้ขอบคุณ รู้สึกตัวเองยิ่งต้อยต่ำกว่าเก่า

ชัยนัดน้อยหน่าให้ไปหาที่ผับพีระ แสนเห็นน้อยหน่าแต่งชุดนักเรียนมาก็ถามว่ามาทำอะไรแถวนี้ ชัยออกมาพอดีบอกแสนว่า “เด็กกูนัดมา อย่าเผือก ตีนกูหนัก” แล้วพาน้อยหน่าเข้าไปเลย

“เป็นเด็กนักเรียนมาคบไอ้ชัยได้ไงวะ แบบนี้มันพรากผู้เยาว์นี่หว่า” แสนพึมพำ

ชัยพาน้อยหน่าไปหาพร้อม พร้อมถามว่าทำไมแต่งชุดนักเรียนมา อยากให้นายเดือดร้อนรึไง

เมื่อน้อยหน่าถูกพาไปพบพีระและเล่าปัญหาของน้อยหน่าให้ฟัง น้อยหน่าประหม่าตื่นเต้นมาก ยิ่งพีระเรียกให้เข้าไปหาก็ยิ่งตื่นเต้น พอเข้าไปพีระลูบผมน้อยหน่าเบาๆ อ่อนโยน บอกว่า

“ให้ฉันช่วยนะ”

“ค่ะ” น้อยหน่าตอบเคลิ้มๆ

“ไม่ต้องกลัวนะคนดี” พีระยื่นหน้าเข้าใกล้

พูดอ่อนโยน พร้อมรู้จังหวะเดินออกไป ชัยกับดำเดินตามไปด้วยความเสียดาย

จนถึงกลางคืน พีระเรียกพร้อมมาพร้อมกับชัยและดำเห็นน้อยหน่าอยู่ในชุดอาบน้ำในมือมีเงินปึกหนึ่ง พีระสั่งให้หาเสื้อผ้าที่เข้ากับร้านมาให้เปลี่ยน บอกชัยว่าให้น้อยหน่าเริ่มงานพรุ่งนี้เลย สั่งอย่าลืมเปลี่ยนชื่อจากน้อยหน่าเป็นชูการ์แอปเปิ้ลด้วย

ooooooo

โขงเห็นแขนเหมียวถูกแกงลวกเป็นผื่นแดง

ก็ซื้อยาตามไปให้ เหมียวตะบึงตะบอน โขงถามว่าจะทาเองหรือจะให้ทาให้ เหมียวจึงทายาเอง

โขงบอกเหมียวว่าถ้าเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณทิชาที่จะจ่ายค่าแกงจืดให้ก็ให้ช่วยทำงานเป็นการตอบแทนเรื่องช่วยเด็กที่ต้องออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะ

พ่อแม่ยากจน แล้วให้โปสเตอร์โครงการให้ดูบอกว่าคุณนายจะส่งเรียนจนจบปริญญาตรี ให้เหมียวเอาไปปิดตามตลาด ตามโรงเรียน ตามชุมชนต่างๆ

“นี่เป็นโครงการนำร่อง ตอนนี้เรามีทุนให้แค่ 3 ทุนต้องมาคัดเลือกกันอีกทีว่าใครเหมาะสม แต่เราจะพยายามขยายให้ช่วยเด็กได้มากกว่านี้ในอนาคต”

เปิ้ลดูโปสเตอร์แล้วคิดถึงแม่ เปรยว่าถ้าตนได้เรียนก็คงหาเงินได้มากกว่านี้ เหมียวคิดถึงทิชาที่ดูเลิศหรู

ก็รำพึงว่า “ถ้าฉันได้เรียน ฉันก็คงสู้คนอื่นได้”

ที่ผับของพีระ น้อยหน่ามาอยู่ได้ไม่กี่วันก็ทำงานคล่อง ยิ่งได้เงินทิปมากงานก็ยิ่งคล่องและถึงเนื้อถึงตัวง่ายขึ้น ไม่นานก็ได้เข้าไปรับแขกในห้องวีไอพีที่รู้กันว่าเป็นห้องอะไร

แสนเห็นน้อยหน่าเด็กมากก็สงสัยว่าเด็กขนาดนี้ต้องไปบริการวีไอพีแล้วหรือ?

ด้วยความเป็นห่วงแสนจึงไปคุยกับโขง บอกว่าที่ผับคุณพีระมีอะไรที่ตนเห็นแล้วไม่สบายใจหลายอย่าง

เล่าว่าพีระรับเด็กอายุไม่ถึง 18 เข้ามาทำงานแถมยังมากับชัย พอทำงานไม่กี่วันก็ได้เข้าห้องวีไอพี โขงถามว่าได้ถ่ายรูปไว้หรือเปล่า แสนบอกว่าตนเข้าไม่ถึงน้องเขาเลย แต่เป็นวัยรุ่นหน้าตาน่ารักขาวๆใสๆ

แสนชี้ให้ดูเด็กสาวที่กำลังเลือกเสื้อผ้าในร้าน

แล้วร้องว่านั่นเด็กสาวคนนั้น...ใช่เลย คนนี้แหละ

“น้อยหน่า” โขงอุทานเมื่อมองไปตามแสนชี้

โขงไปดึงน้อยหน่าจากร้านเสื้อผ้าไปคุยกันที่มุมหนึ่ง

ในตลาด น้อยหน่าถามว่าตนแค่ไปทำงานพิเศษทำไมโขงต้องโมโหขนาดนี้ด้วย น้อยหน่าเสียงดังจนยายหวานได้ยินสงสัยว่าใครมาทะเลาะกันแถวนี้ย่องดู พอเห็นโขงอยู่กับน้อยหน่าก็ตาโตเงี่ยหูฟังแทบไม่หายใจ

โขงบอกว่าน้อยหน่าอายุยังไม่ถึง 18 ทำงานแบบนี้ผิดกฎหมาย ถามว่ายายรู้หรือเปล่า

“อย่าบอกยายนะพี่โขง ยายรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด” บ่นว่าน้อยหน่าขโมยก็ด่า ขยันก็ว่า มันอะไรกันนักหนา โขงบอกว่าตนเป็นห่วง น้อยหน่าตาเป็นประกาย ถามว่าห่วงหรือหวงหรือหึงกันแน่ที่ตนไปอยู่ใกล้คุณพีระ

แล้วสะบัดออกไป โขงตามไปอีก

ยายหวานตาโตเท่าไข่ห่าน ร้องอย่างสะใจ

“ชัดช้า! ไอ้นี่มันสำมะคันจริงๆ ทั้งนังเหมียว ทั้งนังน้อยหน่า เสร็จนายโขงเรียบ” ทำท่าคันปากเต็มที

ooooooo

เหมียวเก็บเงินจนได้ครบใส่ซองเอาให้เปิ้ล

เปิ้ลบอกว่าเดี๋ยวจะรีบส่งไปให้แม่ กอดขอบใจเหมียวด้วยความดีใจ ทันใดส้มก็เข้ามาถามว่ารู้หรือยังตำรวจไปจับบ่อนที่ทับทิมเล่นประจำ เหมียวผงะหน้าซีดเผือด

ปรากฏว่าทับทิมถูกผู้กองกำชัยจับ แต่ชัยกับดำหนีไปได้ เมื่อถูกนำตัวไปโรงพักเหมียววิ่งไปถึงพอดี ทับทิมด่าว่าจะมาสมน้ำหน้าหรือ ผู้กองกำชัยบอกว่าเหมียวเขาเป็นห่วงต่างหาก ทับทิมย้อนว่าถ้าเป็นห่วงก็จ่ายค่าปรับให้สิ ผู้กองบอกว่าจ่ายค่าปรับไม่ได้เพราะทำผิดซ้ำซากต้องประกันตัวเท่านั้น

เหมียวนึกๆ แล้ววิ่งอ้าวออกไปเพื่อจะเอามอเตอร์ไซค์ไปขายเอาเงินมาประกันแม่ เปิ้ลติงว่าอย่าขายเลย ผ่อนมาตั้งหลายปี แล้วเอาซองเงินที่เหมียว

เพิ่งให้คืนให้เหมียวเอาไปประกันแม่

พอประกันตัวกลับถึงบ้าน เปิ้ลถามว่าแล้วชัย

ไปไหน ทับทิมโวยวายทันทีว่าเหมียวมาทำดีด้วยก็เพราะอยากกลับมาอยู่บ้านอ่อยชัย ไล่ทั้งเหมียวและเปิ้ลให้ไปเลย พอดูเสื้อตัวเองก็โวยวายสีไม่ถูกโฉลกรีบวิ่งไปเปลี่ยน

เหมียวกับเปิ้ลเดินออกมา เหมียวซาบซึ้งน้ำใจบอกเปิ้ลว่า

“ถ้าไม่มีแกสักคนฉันจะเป็นยังไงวะ...ขอบใจจริงๆนะเปิ้ล ขอบใจมากๆ”

“อืม...เลี้ยงข้าวด้วยนะ” เปิ้ลพยายามกลั้นน้ำตาพูดให้ขำแล้วสองสาวก็หัวเราะกันทั้งที่น้ำตาคลอ...

ooooooo

พีระโมโหมากที่ทั้งบ่อนทั้งร้านเกมของตนถูกตำรวจจับ สั่งพร้อมต่อสายถึงท่านรอง พร้อมบอกว่าท่านรองอาจช่วยไม่ได้เพราะเรื่องนี้ผู้ว่าสั่งการเองให้ปราบปรามแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นทั้งจังหวัด

พีระถามว่าอยู่ๆมาเฮี้ยนอะไรตอนนี้ กลัวไม่มีผลงานหรือยังไง

“ก็ตั้งแต่คุณนายสมรลงมาเจอไอ้โขงนั่นแหละมันทำให้หนองตาคำของเราเปลี่ยนไป” ชัยแค้น

“เพราะโขงต้องการกำจัดอิทธิพลของคุณพีระ มันตั้งใจจะเป็นศัตรูกับคุณพีระ” ดำยุ

“กำจัดอิทธิพลกูเหรอ ไอ้โขง มึงกะกู...ใครกันแน่ที่จะถูกกำจัด” พีระจิกตาแค้น

เช้านี้โขงไปที่ตลาดเพื่อจะคุยกับยายแจ๊วถามสภาพของน้อยหน่า พอไปถึงตลาดก็กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนจนโขงรู้สึกแปลกๆ พอเขาไปขอคุยกับยายแจ๊วก็ถูกยายแจ๊วแว้ดทวงหลานตนคืนทันที

เหมียวบอกว่าน้อยหน่าหายจากบ้านไปสามสี่วัน ไปไหนก็ไม่รู้ บ้านเพื่อนก็ไม่ได้ไป

ที่แท้ยายหวานมาเม้าท์ว่าเห็นโขงพาน้อยหน่าไปเป็นคนสุดท้าย พวกยายๆก็รุมกันเข้ามาหาโขง เหมียวเห็นท่าไม่ดีบอกให้โขงหนีไป ยายแจ๊วได้ยิน “ไอ้โขง หนีไป” ก็นึกออกว่าที่แท้โขงคือลูกสันติกับปราณีที่

ฆ่ากันตายแล้วโขงหนีหายไปตั้งแต่คืนนั้น

บรรดายายๆมโนกันไปต่างๆนานาว่าโขงต้องเป็นโรคจิตโหดเหี้ยมแน่ๆ เพราะเห็นพ่อฆ่าแม่และ

ฆ่าตัวตายต่อหน้า อาจจะเป็นคนพาเหมียวไปฆ่าแล้วหมกป่าก็ได้ โดยมีชัยคอยยุและเสริมตลอดเวลา โขงจึงกลายเป็นจำเลยโดยปริยาย

โขงเดินผ่านกลุ่มคนที่มามุง พวกนั้นแหวกออกเป็นทางอย่างหวาดเสียว เหมียวมองตามโขงไปอย่างเข้าใจและเห็นใจ

ทับทิมมาฟังเรื่องราวของโขงก็ผสมโรงว่าเพราะตอนที่พ่อฆ่าแม่ไม่มีใครช่วย โขงแค้นเลยกลับมาแก้แค้นชาวหนองตาคำทุกคน ชัยคอยยุยงเป็นระยะ

ยายแจ๊วกลับไปเอาไหปลาร้ามาราดหัวโขงแก้แค้น

โขงเดินหัวโชกน้ำปลาร้าไปตามถนนอย่างเหม่อลอย เสียงด่าของยายๆและชาวบ้านอื้ออึง เหมียวตามมาเรียกอย่างเห็นใจ ทั้งหมดพากันขึ้นรถลุงไสวเพื่อไปส่งโขงที่บ้าน

ถึงบ้านแล้วโขงยังเหม่อลอย เหมียวกับเปิ้ลจึงสร้างบรรยากาศแซวว่ากลิ่นปลาร้านัวดีจัง โขงบอกให้เอาข้าวเหนียวมาจิ้มสิ เลยกลายเป็นเรื่องหัวเราะไป โขงบอกให้สองคนไปทำงานเถอะ เหมียวขอโทษที่ไม่เชื่อเรื่องพ่อแม่เขา

เหมียวไปตักน้ำมาราดปลาร้าที่หัวของโขงและสระผมให้ด้วย โขงพูดขำๆว่า

“ตลกดีนะ ทำไมเราต้องมาผลัดกันสระผม ล้างพวกของกินที่คนอื่นเขาสาดใส่ด้วย”

เหมียวเข้าใจและเห็นใจโขง ถามว่าอยากให้ตนปลอบไหม โขงถามว่าเธอจะปลอบว่ายังไง

“สู้ๆ พรุ่งนี้ก็วันใหม่แล้ว...เก็บแรงไว้สู้ต่อพรุ่งนี้”

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก เส้นสนกลรัก ตอนที่ 4 วันที่ 17 ก.ค.61

เส้นสนกลรัก บทประพันธ์โดย หัสบรรณ
เส้นสนกลรัก บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
เส้นสนกลรัก กำกับการแสดงโดย กีรติ นาคอินทนนท์
เส้นสนกลรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
เส้นสนกลรัก ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ