My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 3 วันที่ 1 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 3 วันที่ 1 ส.ค.61

“เดี๋ยวสิคะ จะรีบไปไหน”  ริศาถามแล้วบ่นเซ็งๆ “แต่ปู่ฉันเป็นคนดี ปู่ฉันไม่มีวันทรยศเพื่อนหรอก”

ริศากลับมาที่ห้องหารูปปู่ที่ทำหล่นเมื่อคืน ถามอคินเขาทำหน้าซื่อตาใสบอกว่าไม่เห็น ริศาจึงหาไปตามใต้โต๊ะ อคินหยิบรูปจากกระเป๋าออกมาดูแล้วตัดสินใจเก็บใส่กระเป๋าตามเดิม

ริศากับอคินมีความรู้สึกดีๆต่อกัน อคินบอกว่าตนจะกลับไปหาคุณย่าก่อน ค่ำๆจะกลับมา จับมือริศาบอกว่าที่ตนพูดว่าจะดูแลริศานั้นตนพูดจริงเพราะตนรักและห่วงมาก ขาดเหลืออะไรขอให้คิดถึงตนก่อนคนอื่น ริศามองอย่างซาบซึ้ง เคลิ้ม กำลังจะรับคำ พลันเสียงโทรศัพท์ของอคินก็ดังขึ้น ริศาใกล้กว่าจึงเดินไปหยิบ



อคินบอกว่าสงสัยคุณย่าโทร.มา แต่บนจอโทรศัพท์ที่ริศาหยิบขึ้นมาเป็นรูปอคินกับหญิงสาวสวยถ่ายกันอย่างแนบชิด ดูก็รู้ว่าเป็นแฟนกัน ริศาหน้าตึงทันที อคิน

พยายามจะชี้แจงว่าเธอเข้าใจผิด แต่ริศาตัดบทว่าไม่ผิดตนเข้าใจแล้วว่าเขาเป็นคนยังไง เชิญให้รีบกลับไปเสียคนหลอกลวง

ที่บ้านคุณย่า ขณะคุณย่ารออคินอย่างกระวน กระวายนั้น อรนิภาญาติผู้น้องที่หลงรักอคินก็มากดกริ่งหน้าบ้าน คุณย่าดีใจนึกว่อคินกลับมาแล้ว แต่พอเห็นเป็นอรนิภาคุณย่าก็เซ็ง

ooooooo

อคินขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาเกือบชนวีรนุชเพื่อนสนิทของริสาที่เพิ่งลงจากแท็กซี่มาหาริศาที่บ้าน ริศาออกมาเจออคินก็ของขึ้นถามว่าตามมาอีกทำไม ทำไมไม่รีบไป เดี๋ยวแฟนก็โทร.มาตามอีกหรอก

วีรนุชมองความหล่อของอคินเคลิ้ม ริศาแนะนำประชดว่าเขาชื่ออคินเป็นคนแลกไฟลท์กับพ่อตน แล้วชวนวีรนุชเข้าบ้านเลย

เมื่อเข้าไปในห้องของริศา วีรนุชเห็นสร้อยพร้อมจี้สวยแปลกวางอยู่ก็หยิบลองสวมดู ผีอัศนีไม่พอใจบอกว่า “อนงค์...ให้อนงค์เท่านั้นไม่ให้ใคร” ปรากฏว่าวีรนุชร้อนจนต้องรีบถอดออก ถามริศาว่าทำไมมันร้อนอย่างนี้ ริศาบอกว่าเมื่อกี๊กล่องสร้อยวางตากแดดอยู่ก็เลยร้อน ชวนวีรนุชว่ามาก็ดีแล้วคืนนี้นอนบ้านด้วยกันนะ

ฝ่ายอคินกลับถึงบ้านคุณย่า เจอทั้งคุณย่า อยุทธและอรนิภามองมาเป็นตาเดียว อคินยิ้มหวานไหว้คุณย่ากับพ่อทักร่าเริง “แหมอยู่กันครบเลย”

คุณย่าตำหนิว่าหายไปหนึ่งวันหนึ่งคืนทำตัวเหลวไหลแบบนี้ไม่ได้นะ อคินปะเหลาะคุณย่าเอาขนมให้กินจะได้อารมณ์ดีขึ้น อรนิภาถามอคินเรื่องถูกพักงานและชวนไปทำงานกับตน ถูกคุณย่าขัดคอว่างานขายอาหารเสริมของเธอจะให้อคินที่เป็นนักบินช่วยยังไง อคินไม่ทำหรอก แล้วแนะนำให้ซื้อเครื่องบินให้ขับเล่นสักลำอคินถึงจะไปทำงานด้วย

อรนิภาทำเป็นนึกได้ว่าถึงเวลาต้องประชุมแล้ว จึงลากลับขอให้อคินเดินไปส่งที่รถด้วย แล้วอรนิภาก็ถาม อคินว่าเรื่องเครื่องบินตกเป็นอย่างไรบ้าง ทางประเทศอินดาน่าที่เป็นต้นทางเครื่องบินเขายังไม่เชื่อเลย ตอนนี้กำลังสืบกันวุ่น อคินสนใจทันทีถามว่าเธอสนใจเรื่องนี้ด้วยหรือ

อรนิภาบอกว่าพอตนได้ข่าวเครื่องบินตกก็ติดต่อไปทางคุณพ่อ อคินถามว่ามีข่าวคืบหน้าอะไรไหม

“มีค่ะ พรุ่งนี้พี่ไปรับอรที่บ้านสิคะ เดี๋ยวอรจะเล่าให้ฟังทุกอย่างเลย พี่อยากรู้อะไรอรจะถามพ่อให้แบบพิเศษเลย”

อคินสนใจมากเพราะเป็นเรื่องที่ตนมุ่งมั่นต้องเคลียร์ให้ได้

เมื่อกลับเข้าไป อคินเอารูปสันติให้อยุทธดู ถามว่าพ่อรู้จักเครื่องแบบนักบินแบบนี้ไหม ปู่เป็นนักบินหน่วยไหน อยุทธบอกว่าตนไม่สนใจเรื่องนี้ พออคินบอกว่าปู่ขึ้นบินในวันที่พ่อเกิดพอดี อยุทธปรามอคินว่าย่าห้ามเราคุยถึงปู่

ถ้าท่านได้ยินจะเป็นเรื่อง ตนไม่อยากให้ย่าเสียใจ

คุณย่าพอใจที่อคินถูกพักงานจะได้เปลี่ยนอาชีพ แต่อคินบอกว่าถึงตนไม่ได้บินที่บลูไคท์ก็จะไปบินที่อื่น เพราะเรื่องเครื่องบินตก มันเป็นฝีมือของคนด้วยกัน

ซึ่งตนจะต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง แล้วขอตัวไปนอนบ้านเพื่อน บอกพ่อว่าไม่ต้องโทร.ไปอีก เสร็จธุระเมื่อไหร่ตนก็จะกลับ

พออคินไป คุณย่าถามอยุทธว่าบอกอคินเรื่องที่ตนอ้อนวอนกระทั่งกราบกรานผู้ใหญ่ไม่ให้อคินสอบผ่านทั้งที่สอบได้อันดับที่ดีหรือเปล่า คุณย่าร้องไห้บอกว่าไม่อยากให้อคินเป็นทหาร ไม่อยากให้มีจุดจบเหมือนปู่

“แม่...แม่อย่าร้องไห้ แม่อย่ากลัวนะครับ พวกเรา ผมกับอคิน จะอยู่กับแม่ไม่ทิ้งแม่ไปเหมือนที่คนอื่นทำแน่นอนครับ ผมสัญญาครับแม่ อคินก็สัญญาครับ”

อยุทธกอดปลอบแม่ที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น

อคินไปที่บ้านเบน เบนกับอวัศยาเปิดแผนที่อินดาน่าในคอมพ์ให้ดู อธิบายที่ตั้งและปัญหาในประเทศนี้ให้ฟังซึ่งซับซ้อนและเต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งทางศาสนาและชนเผ่า ส่วนหมู่เกาะอาวีที่เต็มไปด้วยน้ำมันก็กำลังขัดแย้งเรื่องราชวงศ์ซาลองยาน

อวัศยาบอกว่าอคินไม่ควรไปอินดาน่าเพราะอันตราย เชื่อว่าอรนิภาอาจหาทางหลอกให้อคินไปเพื่อเคลมเขามากกว่าจะช่วยสืบเสาะอะไร

แต่อคินมีเหตุผลสามข้อที่ต้องไป คือหนึ่ง ในใจของริศามีความคิดว่าตนเป็นคนทำให้พ่อเขาต้องตายตลอดเวลา สอง พวกผู้บริหารโยนความผิดว่าพี่สารัตถ์ สภาพร่างกายไม่พร้อมก่อนบิน ซึ่งตนจะต้องพิสูจน์ว่าไม่จริง และสาม พวกนั้นพยายามสร้างภาพว่ามีการจงใจทำให้เครื่องตก ตนคือผู้สมรู้ร่วมคิดถึงได้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและแลกไฟลท์กับพี่สารัตถ์ เพราะฉะนั้นตนจึงต้องรีบทำ

ผีอัศนีบอกริศาว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยตนพาเธอไปดูเรื่องราวของตนกับอนงค์ไม่สะดวก โทษว่าเพราะริศากำลังวุ่นวายใจเรื่องอคินจนลืมทุกอย่างแม้แต่เรื่องของตนกับเรื่องของปู่เธอ ประณามว่าเธอเห็นแก่ตัวเหมือนปู่

ริศาไม่พอใจที่มาว่าปู่ตน โต้ว่าปู่ตายไปแล้วไม่มีสิทธิ์มาแก้ตัวอะไรทั้งสิ้น เขาจะพูดอะไรก็ได้ ผีอัศนีจึงพาเธอไปดูสภาพของสันติที่ไปดื่มเมาจนไม่ได้สติ

ตนต้องไปหิ้วปีกกลับทั้งที่สันติเป็นคนไม่ค่อยดื่ม สาเหตุเพราะอกหัก สันติยอมรับว่าตนรักอนงค์แต่อนงค์กลับรักอัศนี ยิ่งเมื่ออัศนีบอกว่าตนจะแต่งงานกับอนงค์ สันติแสดงความยินดีด้วยที่เขาชนะ รำพึงรำพันว่า

“แกมันชนะฉันทุกอย่าง ชนะมาตลอด แกไม่ควรจะมีชีวิตอยู่เลย น่าจะตายๆไปซะให้รู้แล้วรู้รอด..ถ้ามึงตายไปซะ อนงค์ก็ต้องรักกู”

สันติทำท่ายิงและทำเสียงปังแล้วหัวเราะราวกับเสียสติบอกว่าล้อเล่น ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง กล่องของขวัญที่เขียนว่า “ผมชอบ” ก็ตั้งใจจะเอาไปให้ยัยแอ๋วที่บาร์จินนี่พรุ่งนี้ ริศาถามว่าหยอกกันแบบนี้เลยหรือ

“ไปบอกปู่เธอโน่น...ปู่เธอมันตัวการ” ผีอัศนีโยนกล่องเสียงขุ่น

ooooooo

ริศาถือที่ร่อนแป้งเดินคุยกับผีอัศนีมาในซอยเข้าบ้านเลยดูเหมือนเดินพูดคนเดียว อคินขับรถมาเจอคิดว่าเธอละเมอเดินออกนอกบ้าน เป็นห่วงบอกเธอน่าจะไปพบแพทย์

ป้านิ่มกับวีรนุชออกตามหาริศาเจออยู่กับอคิน

วีรนุชถามว่าริศาออกมาเคลียร์กับอคินหรือ ส่วนอคินบอกป้านิ่มจริงจังว่า อาการริศาน่าเป็นห่วงควรพาไปพบแพทย์

ริศาเลยพาลโทษผีอัศนีที่ทำให้ตนเกือบถูกอคินจับส่งโรงพยาบาลบ้าเพราะเห็นเดินพูดคนเดียว

วันเดียวกันศรันย์จะไปรับริศามาประชุมที่บริษัทเพื่อเซ็นรับโอนหุ้นของสารัตถ์ ฝันฟุ้งว่าต่อไปตนแต่งงานกับเธอแล้วหุ้นก็จะเป็นของเราทั้งหมด บอกศรุตว่าคนนี้ตนชอบให้พ่อช่วยจัดการให้ด้วย

ศรุตบอกว่าสิ่งแรกที่เขาควรทำคือประชุมเรื่องบัญชีกับพ่อด่วน พ่อต้องการดูเอกสารเรื่องการจัดซื้อ ย้อนหลังหน่อย ศรันย์หน้าเสียถามว่าพ่อให้ตนดูแลการเงินของบริษัทแล้วทำไมต้องมาเช็กโน่นเช็กนี่ซ้ำซ้อนให้มันวุ่นวายอีก แล้วลูกน้องจะมองตนยังไง

ศรุตบอกว่าแผนกบัญชีของเขามีปัญหา ศรันย์ทำหน้าตายถามว่าจริงหรือ ตนจะเช็กเองไม่ต้องถึงมือทีมงานวัยเกษียณอย่างพ่อหรอก

ศรันย์กลัวถูกสาวไส้ คิดหนักว่าจะทำอย่างไรดี สุดท้ายสั่งนุชให้ทำลายหลักฐานการจัดซื้อย้อนหลังสามเดือนให้หมด ถ้าใครมาถามอะไรไม่ต้องตอบ เข้าใจแล้วให้รีบทำเลย เสร็จแล้วไปหาริศาที่บ้านอดคิดไม่ได้ว่าวันนี้อาสารัตถ์คงไม่เฮี้ยนเหมือนวันก่อน

หารู้ไม่ว่าผีอัศนีเตรียมต้อนรับอยู่แล้ว เมื่อศรันย์ไปถึงก็แกล้งเอามือลูบหลังจนศรันย์เสียววาบแต่แข็งใจเดินเข้าบ้านก็ถูกผีอัศนีขัดขาหน้าคะมำ ตั้งหลักได้ก็เดินคอแข็งทำเท่เข้าไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ป้านิ่มกำลังจะไปตลาด ผีอัศนีดลใจป้านิ่มให้รีบเข้าไปเฝ้าริศา ป้านิ่มตัดสินใจเดินย้อนกลับไปเฝ้าริศา

ศรันย์จู่โจมเข้าไปยืนข้างหลังริศาที่กำลังดูเตาอบจนริศาหันมาเกือบชนกัน เขาบอกริศาว่าจะมารับไปโอนหุ้น ป้านิ่มเดินฉับๆเข้ามาบอกว่าเรื่องหุ้นเรามีทนายจะเข้าไปเจรจาไม่ใช่หน้าที่ของริศา ริศาผสมโรงว่าใช่ ศรันย์ติงว่าจะจ้างทนายอีกทำไมให้เปลืองใช้ทนายของบริษัทเราเองนี่แหละ เร่งให้รีบไปจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่บริษัทจะบอบช้ำมากกว่าที่เป็นอยู่

 พอดีวีรนุชเข้ามาบอกริศาว่าถ้าเพื่อนไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ศรันย์มองวีรนุชตาขวางบอกว่าตนเป็นรองประธานบริษัท แล้วเธอล่ะเป็นใคร ผีอัศนีกระซิบริศาทันทีให้บอกว่าเป็นทนายของเธอ

ทั้งริศา ป้านิ่มและวีรนุชเล่นละครประสานกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย วีรนุชอ้างว่าจะเปิดพินัยกรรมที่มันซับซ้อนกว่าทุกคนคิด ริศาขอให้ศรันย์กลับไปก่อนเพราะนี่เป็นความลับของครอบครัว ศรันย์ทำท่าจะไม่ยอมกลับ ถูกผีอัศนีแกล้งโดดขี่คอจนเข่าอ่อนทรุด มีเสียงแว่วข้างหูว่า “ไปเดี๋ยวนี้” ศรันย์กลัวเจอเฮี้ยนอีกเลยรีบไป

 ริศากับวีรนุชไปเดินห้างกัน วีรนุชชวนถ่ายเซลฟี่กันเพื่อให้อารมณ์ดีขึ้น บังเอิญติดอคินที่อยู่อีกฝั่งพอดีริศาว่าบังเอิญเจออย่าไปสนใจเลย แต่วีรนุชอยากไปทักทาย ลากริศาไปด้วยกัน แต่ไปไม่ทันถึงก็ถูกอรนิภาตัดหน้าไปควงอคินหมับ สองสาวหยุดกึก ริศาฟันธงว่าอคินมาห้างแถวนี้เพราะต้องการโชว์แฟน จงใจเย้ยเรา

ขณะสองสาวชะเง้อมองอคินกับอรนิภานั้น ศรันย์ก็ร้องทักเสียงดัง

“น้องริศา จับได้แล้ว” แล้วตรงเข้าคว้ามือริศาไปกุมทันที กลายเป็นอคินควงกับอรนิภาและศรันย์กุมมือริศามองกันอยู่ ริศาตัดสินใจชวนศรันย์ไปบริษัทบลูไคท์กันเดี๋ยวนี้เลย ศรันย์มองวีรนุชถามว่าแล้วทนายล่ะ

“ให้เขาไปฟังการประชุมของเราที่บริษัทด้วยดีกว่าค่ะ”

วีรนุชหันมองอคินตาขวางแล้วตามริศาไป อคินมองตามริศาที่ไปกับศรันย์อย่างเป็นห่วง

ooooooo

วันนี้กิตติปลอมเป็นคนส่งของหอบช่อดอกไม้ไปที่บริษัทบลูไคท์ แลกบัตรกับพนักงานแล้วรีบเข้าไปที่ห้องน้ำตามแผน พอเข้าห้องน้ำก็รีบพ่นสีสเปรย์ที่ผนังห้องน้ำอย่างเร็ว อึดใจเดียวตัวอักษรสีแดงก็เต็มผนัง

ศรันย์พาริศาเข้าบริษัทโอบเอวพาเข้าห้องประชุม บอกว่าตนจะไปเตรียมเอกสาร ให้ริศาเข้าไปเก็บของในห้องอาสารัตถ์เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้ว

ริศายังทำใจไม่ได้เรื่องพ่อ เธอเดินไปอีกทาง ศรันย์จะตามก็ถูกวีรนุชมาขวางด่าว่าพูดอะไรโง่ๆแบบนั้นกับริศาได้ยังไง ศรันย์ผลักวีรนุชให้พ้นทาง ก็ถูกกิตติที่นั่งดูอยู่หยิบปากกาปาใส่หัวโป๊กแล้ววิ่งตามริศาออกไป

กิตติวิ่งไปบอกริศาว่าพ่อเธอไม่ได้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ มีคนในบริษัทวางแผนปล้นเครื่องบิน พวกที่ปล้นนี่แหละที่ทำให้พ่อของเธอตาย ริศาถามว่ารู้ได้ไง ใครเป็นคนทำ ก็พอดีกิตติเห็นศรันย์เดินมาจึงรีบหนีไป

ศรันย์มาขอโทษริศาสัญญาว่าจะไม่พูดถึงพ่อน้องอีกแล้ว น้องยังทำใจไม่ได้ก็ไม่บอก แล้วพาริศากลับไปห้องประชุม จัดแจงเอาใบเซ็นรับโอนหุ้นให้เซ็น แล้วยังเอาใบเซ็นแต่งตั้งตนเป็นผู้ดูแลแทนอ้างว่าริศายังต้องใช้เวลาเรียนรู้งานอีกมาก วีรนุชขัดขึ้นว่าเรื่องนี้ให้ริศาคิดเองดีกว่า

ศรันย์อ้างว่าริศายังไม่มีประสบการณ์อะไร ตนมาช่วยดูแลให้ไม่ดีตรงไหน

“มันไม่ดีตรงที่สาริศาเขามีคนทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบชีวิตของเขาอยู่แล้วน่ะสิครับ คุณศรันย์”

ศรันย์หันด่าอคินถามว่าใครเชิญมา เขาไม่มีสิทธิ์เข้ามาเหยียบบลูไคท์อีกแล้ว อคินเลยไหว้กรรมการทุกคนบอกว่าตนอยากคุยกับทนายของบลูไคท์เหมือนกันว่าที่นี่มีสิทธิ์อะไรสั่งพักงานตนไม่มีกำหนด

ทนายบอกว่าตนเปล่า ทางฝ่ายกฎหมายของบลูไคท์ ไม่ได้เป็นคนบอกว่า...ทนายพูดไม่ทันจบนุชก็วิ่งหน้าตื่นตกใจเข้ามาบอกศรันย์ว่า

 “คุณศรันย์คะแย่แล้วค่ะ คุณศรุตกำลังช็อก!”

ooooooo

ศรันย์วิ่งไปที่ห้องน้ำชายเห็นพนักงานมุงกันเต็ม เขาตกใจแทบเสียสติร้องเรียกถามว่าพ่อเป็นอะไร...ศรุตพยายามยกมือชี้ไปที่ผนังและกระจกห้องน้ำชายถาม

“ใคร...ใครมันกล้าทำแบบนี้ มันเป็นใคร”

ศรันย์มองไปเห็นข้อความพ่นไว้เต็มห้อง “ไม่ใช่อุบัติเหต”, “มีคนร้ายปล้นเครื่องบิน”, “จับฆาตกรให้ได้” และ “เครื่องบินตกไม่ใช่ความผิดของนักบิน” และพนักงานรวมทั้งนุชด้วยก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างตื่นตระหนก

อคินเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปตัวหนังสือเหล่านั้นทันที ถูกศรันย์กรากเข้ากระชากมือสั่งให้ลบรูปทิ้งให้หมด อคินปฏิเสธก็ถูกแย่งโทรศัพท์ปาและกระทืบซ้ำ ศรุตพยายามขอร้องว่าอย่ามีเรื่องกับอคิน

อคินถลันเข้าใส่ ศรันย์ท้าให้เอาเลย จากพักงานจะได้ไล่ออกแทน ริศาถลาเข้าจับแขนอคินบอกว่าอย่ามีคดีอะไรติดตัวอีกเพราะตนต้องพึ่งเขาอีกนาน อคินจึงได้สติชะงักและถอยออกมา

ศรันย์สั่งแม่บ้านให้ปิดห้องน้ำและไล่พนักงานที่มามุงดูกลับไปทำงานให้หมด ศรุตสั่งให้ดูกล้องวงจรปิด ขณะกำลังวุ่นวายกันนั้นริศาดึงอคินและวีรนุชออกไป

ศรันย์ปรี่เข้ามาขวางบอกริศาว่าเดี๋ยวตนจะไปส่ง ตนไม่ยอมปล่อยให้น้องไปกับไอ้อคินเด็ดขาด

ศรุตบอกให้ศรันย์เลิกยุ่งกับคนอื่นตนหายใจ

ไม่ออกแล้ว กระนั้นศรันย์ยังละล้าละลัง มองอคินที่เดินออกไปกับริศาและวีรนุชอย่างหงุดหงิด

ทั้งสามเดินมาถึงสวนสาธารณะ อคินพยายามกู้โทรศัพท์แม้หน้าจอจะแตกแต่ภาพทั้งหมดยังโอเค ริศาบอกว่าผู้ชายคนนั้นชื่อกิตติ เป็นพนักงานที่นี่ เชื่อว่ากิตติต้องเป็นคนพ่นสีในห้องน้ำและพยายามบอกเรื่องพ่อกับตน แต่บอกไม่ทัน

อคินเสนอว่าเราสองคนต้องร่วมมือกัน วีรนุชขอร่วมด้วย ริศายอมรับว่าลำพังตนไม่สามารถทำอะไรได้ต้องพึ่งอคินเพราะเป็นคนที่พ่อไว้ใจและตนก็ไว้ใจ ยืนยันว่าเราจะไม่แตะเรื่องส่วนตัวกัน

อคินเสนอว่าเราต้องพยายามหาตัวกิตติและต้นทางที่เครื่องบินลำนั้นขึ้นบินคืออินดาน่า ถามว่าริศาจะไปค้นหาความจริงกับตนไหม ริศาชะงักสะบัดเสียงว่า “แฟนพี่คงไม่ชอบหรอกค่ะ”

อคินอึ้งนึกในใจว่า...อีกแล้วเหรอ? เขาอ่อนใจที่จะพูดเรื่องนี้อีก วีรนุชได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ที

ooooooo

รุ่งขึ้นอคินสืบค้นเรื่องที่บริษัทบลูไคท์อย่างจริงจัง เขาดูภาพถ่ายมาสะดุดใจคำว่า “ฆาตกร”จากสเปรย์ที่ผนัง ขณะกำลังคิดเครียด อรนิภาก็มาขัดจังหวะ แต่โชคดีที่เบนกับพัสกรมาแกล้งเล่นมุกเกย์ยั่วจนเธอทนไม่ได้หนีกลับไป ทั้งสองจึงช่วยกันค้นหากิตติ กุญแจสำคัญที่จะไขปัญหาคำว่า “ฆาตกร” ให้ได้

ฝ่ายศรันย์เช็กจากกล้องวงจรปิดแล้วบอกศรุตว่าเป็นฝีมือของกิตติแน่นอน จะช่วยตามหากิตติให้ ศรุตบอกว่าเขาไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้ อย่าทำให้เสียเรื่อง ศรันย์ตัดพ้อว่าพ่อไม่เชื่อฝีมือตนอีกแล้ว ตนไม่ยุ่งกับพ่ออีกก็ได้ แต่จะไปล่าไอ้กิตติให้ได้

 “อย่า ศรันย์พ่อขอร้องล่ะ” ศรุตร้องห้ามแต่ศรันย์พรวดไปแล้ว ศรุตทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรง สิ้นหวัง

ฝ่ายอคิน เบนกับพัสกรร่วมกันคิดหาทางที่จะตามกิตติให้เจอ เบนพาเพื่อนไปตามที่ระบุในบัตรประชาชน เจอกิตติจริงๆ อคินแสดงตัวว่าเป็นน้องรักของสารัตถ์ ต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนเครื่องกันแน่

“จริงเหรอ คุณไม่ได้รู้ล่วงหน้าเหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณถึงแลกให้คุณสารัตถ์ไปบินแทนไง”

เบนก้าวเข้าไปถามว่าไหนว่ารู้จริง ถ้ารู้จริงทำไมพูดแบบนี้ โม้หรือเปล่าหรือเที่ยวคุยมั่วไปเรื่อย กิตติท่าทีเปลี่ยนทันทีบอกว่าใช่ ตนมั่วเล่นโม้ไปเรื่อย ไม่รู้อะไรทั้งนั้น พัสกรหว่านล้อมว่าไม่ต้องกลัว เพราะกิตติกับอคินตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันคือถูกไล่ออกจากบริษัท ดังนั้นเขาควรร่วมมือกับเรา

กิตติท่าทีอ่อนลงแต่พอถามว่าพวกอคินรู้ได้ไงว่าตนอยู่ที่นี่ พออคินบอกว่าดูจากบัตรประชาชน กิตติก็ระแวงขึ้นมาว่าพวกนั้นก็ต้องรู้ที่อยู่ของตนเหมือนกันเพราะตนได้แลกบัตรที่ประตูทางเข้า แม้เบนบอกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ให้ กิตติก็ไม่สนใจ หาจังหวะโดดระเบียงหนีไปต่อหน้าต่อตา เบนจะตาม อคินบอกว่าอย่าเลยไม่คุ้ม

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 3 วันที่ 1 ส.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทประพันธ์โดย นภสร
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทโทรทัศน์โดย ทิพย์สุดา
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ