อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 8 วันที่ 8 ก.ค.61

อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 8 วันที่ 8 ก.ค.61

เที่ยงวันงงทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เงินยวงเห็นว่าเขาหายดีแล้วดังนั้นเธอจึงหมดประโยชน์ เขาสงสัยเธอไม่พอใจเขาเรื่องอะไรหรือเปล่า เรื่องที่เขาไม่ได้มาตามนัดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหรือที่เขาผิดนัดที่บ้านโอบอุ้ม เธอไม่ตอบแถมไม่ยอมสบตาด้วย เขารู้สึกเหมือนถูกไล่ทางอ้อม จึงลุกขึ้นขอตัวกลับก่อน เงินยวงเดินออกมาส่งด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ หมอตามเดินผ่านมาเห็นก็ร้องทักหายไปไหนมาไม่ได้เจอกันนาน

“ผมติดธุระนิดหน่อยครับ”



“ธุระ...ธุระของคนอื่นน่ะสิ ไม่รักตัวเอง” แดกดันจบเงินยวงสะบัดหน้าใส่เดินจากไป หมอตามร้องถามว่าจะไปไหน เธอไม่วายว่าประชดเที่ยงวันอีกว่าเลิกงานแล้วก็ต้องกลับบ้านไม่ได้มีธุระเยอะเหมือนคนอื่น

หมอตามเห็นสีหน้าเจื่อนๆของเที่ยงวันก็พอเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น ชวนไปคุยกันต่อที่มุมปลอดคน เขายอมรับผิดว่าเหลวไหลไปหน่อยไม่ยอมมาบำบัด ต่อไปเขาจะรับผิดชอบเรื่องของตัวเองให้มากกว่านี้ หมอตามไม่ได้จะตำหนิอะไรเขา เพราะการช่วยเหลือคนอื่นให้เลิกยาเป็นสิ่งดี แต่เขาต้องทำด้วยความมีสติ อย่าคาดหวังและเมื่อผิดหวังเขาต้องเข้มแข็งและรับมือกับมันให้ได้อย่าหวนกลับมาใช้ยาอีก เที่ยงวันยิ้มๆ

“แม่ฟ้องทุกเรื่องเลยสิครับ”

“แม่ก็คือแม่นะครับ แต่หมอก็เห็นด้วยกับคุณแม่นะครับ อย่าให้ประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอยอีก คนเป็นแม่ไม่มีอะไรจะเจ็บเท่าเห็นลูกเจ็บอีกแล้วนะครับ”

เที่ยงวันนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมาทันที ตอนนั้นเขาเพิ่งกลับจากเยี่ยมเมฆเด็กชายที่เขาขับรถชนตอนเมายา ร้องไห้ฟูมฟายที่แม่ของเมฆไม่ยอมยกโทษให้

เขาจิตตกอย่างหนัก รอจนได้อยู่คนเดียวลำพังในห้อง เอามีด เชือดข้อมือตัวเอง ทูลเอะใจวิ่งขึ้นมาดูโดยมีสวาทวิมลตามมาด้วย ครั้นเห็นสภาพลูกมีเลือดไหลจากข้อมือสองข้างนองพื้น เธอตกใจแทบสิ้นสติโผกอดลูกร้องไห้โฮ...

ที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วยเที่ยงวันจิตตกมากขึ้นที่ไม่สามารถจบชีวิตตัวเองลงได้ จึงเพ้อหาแต่ยาเสพติด พยาบาลสองคนต้องช่วยกันจับตัวเขาไว้ไม่ให้ดิ้น หมอตามจะให้ยาคลายเครียดกับเที่ยงวันเพื่อให้ได้หลับพักผ่อนได้ สวาทวิมลเห็นลูกทรมานจากอาการอยากยาก็ทนไม่ไหวขอให้หมอตามให้ยาเสพติดลูกไปเลยอย่าให้เขาต้องทรมาน ทูลเตือนให้เธอมีสติหน่อย

“แต่เมื่อยาหมดฤทธิ์ เขาก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

สวาทวิมลเสนอให้ยาไปเรื่อยๆ หมอตามเล่าให้ฟังว่ามีการรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติดในลักษณะนี้เหมือนกันในต่างประเทศ แต่มันเท่ากับเป็นการเลี้ยงไข้ หมอจะให้ยาเสพติดในปริมาณที่ลดลงเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็ดูแลสุขภาพของคนไข้ให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่ทรมานกับอาการอยากยา

แต่มีข้อเสียตรงที่ว่าคนไข้จะไม่สามารถเลิกยาเสพติดได้เด็ดขาด ถ้าวันหนึ่งคนไข้เกิดรู้สึกว่าการมารักษาที่โรงพยาบาลไม่ตอบโจทย์ ไม่มีความสุขเท่าเสพเอง การรักษาก็ล้มเหลว ทูลไม่ต้องการให้ซื้อเวลาอยากให้ลูกถอยห่างจากยาเสพติดให้เร็วที่สุด สวาทวิมลทนเห็นลูกเจ็บปวดไม่ไหว หากเจ็บแทนได้เธอขอเจ็บเองแล้วโผกอดลูกร้องไห้

เที่ยงวันคลำรอยแผลเป็นที่ข้อมือเมื่อนึกถึงวันเก่าๆที่เขาขาดสติ เสียงหมอตามปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์

“วันที่เราผิดหวังเสียใจ เราอาจขาดสติได้ เวลาและประสบการณ์ชีวิตจะสอนเราให้รู้จักควบคุมจิตใจของเรา ให้เรานึกถึงคนรอบข้างก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป หมออยากให้คุณเที่ยงนึกถึงความทุกข์ของคนรอบข้างเมื่อวันนั้นให้มากๆ หมอเชื่อนะว่าคุณเที่ยงพร้อมแล้วที่จะมีชีวิตใหม่”

“งั้นผมยังต้องบำบัดกับคุณเงินยวงต่อหรือเปล่าครับ คุณเงินยวงคงไม่พอใจที่ผมไม่มีความรับผิดชอบไม่มาตามที่นัดไว้”

“ครับ...อย่ากังวลเลยนะครับ คุณเที่ยงก็ทำนัดมาปกติ”...

ขณะเที่ยงวันถูกหมอตามอบรมชุดใหญ่ เอนมาหาดวลที่ทำงาน ขอร้องให้รับงานแสดงเป็นคู่เกย์กับตนเอง เขาปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาดจะไม่รับงานแสดงแบบนี้ เอนต่อว่าเขาว่าไม่มีน้ำใจ ทีตนช่วยเขาทุกอย่างแต่พอตนขอให้ช่วยเรื่องแค่นี้กลับไม่ยอมช่วยแล้วตีอกชกตัว ดวลต้องเข้าไปห้าม

“พอเถอะๆ กูจะไปอธิบายให้เขาฟังเอง พรุ่งนี้ได้ไหม พรุ่งนี้วันหยุดของกู”

“เออๆ มึงไปฟังเงื่อนไขก่อน มึงอาจเปลี่ยนใจก็ได้” เอนมองเพื่อนซี้อย่างมีความหวัง...

ทางด้านเงินยวงหงุดหงิดเรื่องเที่ยงวันไม่หาย กลับบ้านมาเห็นพี่ชายนั่งใจลอยอยู่ในห้องรับแขกก็เลยพาลใส่ถ้าว่างมากนักน่าจะไปดูแลแฟนตัวเอง หัดทำตัวเป็นคนรักที่ดีบ้าง ลำธารไม่พอใจ ไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอสักหน่อยอย่ามายุ่ง สองพี่น้องมีปากเสียงกันรุนแรงถึงขนาดลำธารขว้างปาข้าวของระบายอารมณ์ ยี่สุ่นได้ยินเสียงโครมครามเข้ามาดูก็ตกใจมาก เงินยวงไม่เคยเห็นพี่ชายขาดสติขนาดนี้ โผกอดแม่อย่างขวัญเสีย

“อะไรกันนะ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่ทะเลาะกัน แล้วทำไม...เอาเถอะๆ มีแขกมาหาเราแน่ะ ไปรับแขกก่อน”

เงินยวงมองผู้เป็นแม่งงๆว่าใครกัน ครู่ต่อมา เธอเดินมาที่โต๊ะสนามหน้าบ้านเจอหมอตามนั่งรอท่าอยู่ ถามว่ามาทำไม เขาแค่จะมาเตือนสติเธอเรื่องเที่ยงวัน เธอเป็นนักจิตบำบัด ควรจะทำให้คนไข้รู้สึกดีขึ้นไม่ใช่แย่ลง ไม่ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรกับคนไข้ก็ตาม แต่งานก็คืองานต้องแยกแยะให้ได้

“ถ้าเกิดคนไข้กำลังมีทุกข์หนักมาแล้วมาเจอคุณใส่อารมณ์แบบนี้ เขาไม่แย่เหรอ ถ้าคนไข้เกิดคิดสั้นขึ้นมาจะทำยังไง หมอเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ แต่คุณเที่ยงเขาไม่รู้ความรู้สึกของคุณหรอกถ้าคุณไม่บอก”

“หมอรู้!! น่าอายจังเลย”

“ไม่ต้องอายหรอก คุณเป็นคน คุณมีความรู้สึกจะรู้สึกดีกับใครก็ไม่เห็นแปลก ก็เหมือนหมอ หมอก็เป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์ หมอก็มีความรู้สึก ถ้าหมอจะรักจะชอบใครก็คงไม่แปลกใช่ไหมครับ”...

แทนที่จะโทษลูกตัวเอง ยี่สุ่นกลับโยนความผิดไปให้เดือนสิบหาว่าเป็นต้นเหตุให้เขากลายเป็นคนเกรี้ยวกราด เตือนว่าเราเป็นผู้ดี อย่าให้ใครมาดึงความมืดดำในใจเราออกมา เขาลุกพรวด

“ถ้าเป็นผู้ดีแล้วชีวิตมันยุ่งยากขนาดนี้ ผมก็ไม่อยากเป็นมันแล้ว” พูดจบลำธารเดินหนีขึ้นห้อง ยี่สุ่นไม่พอใจมากที่เขาแสดงกิริยาแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอเกลียดเดือนสิบมากขึ้น

ลำธารทำใจไม่ได้ที่จะต้องเสียเดือนสิบให้กับขี้ยาอย่างเที่ยงวัน จึงคิดจะรวบหัวรวบหางเธอ โดยแวะมาหาที่บ้านชวนให้ไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศที่หัวหินด้วยกัน เป็นทริปครอบครัว แม่กับน้องและป้าของเขาไปกันหมด ก็เลยอยากจะชวนเธอไปด้วย

“ธาร...เดือนนึกว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีกนะคะ”

ดำเกิงไม่อยากให้ลูกเลิกกับลำธารอยู่แล้วจึงไล่ให้ไปเก็บเสื้อผ้าจะได้เดินทางไปกับเขา สกาวทักท้วงไปตอนนี้เลยหรือ ลำธารแต่งเรื่องว่าที่บ้านเดินทางล่วงหน้าไปตั้งแต่เช้าแล้ว คุณแม่ของเขาเลยให้มาขออนุญาตและรับเดือนสิบไปเที่ยวด้วยกัน ดำเกิงเสียงเข้มในเมื่อผู้ใหญ่ชวนก็ควรจะไป เธออิดออด ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวขอผ่านไว้วันหลังก็แล้วกัน ดำเกิงสั่งเสียงเฉียบให้ลูกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า

ทั้งที่ไม่อยากไปเพราะประกาศตัดขาดกับลำธารแล้ว แต่เดือนสิบไม่อาจขัดใจพ่อได้ จำใจขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าอย่างที่พ่อต้องการ...

ด้านดวลไปคุยกับนภางค์ถึงออฟฟิศของเธอตามที่รับปากกับเอนเอาไว้ ทั้งโอเล่ นภางค์และเอนพยายามกล่อมให้เขารับบทเกย์คู่กับเอน เขายืนกรานไม่ยอมเล่นบทนี้เด็ดขาดแล้วลุกพรวดออกจากห้อง นภางค์ไม่ค่อยจะพอใจนักถามเอนจะเอาอย่างไรกันแน่

“ขอโทษครับ เดี๋ยวผมไปคุยกับดวลมันเองครับ” ว่าแล้วเอนวิ่งปรู๊ดตามดวลไปสวนกับก้านวงศ์ที่เดินเข้ามา โอเล่กับนภางค์เห็นหน้าแขกไม่ได้รับเชิญก็พอจะเดาได้ว่าเขามาทำไม...

เอนเดินตามดวลจนทัน ขอร้องให้ช่วยรับงานแสดงนี้ เขาทำไม่ได้จริงๆขืนพ่อรู้เข้าต้องเป็นเรื่องอีกแน่ๆ เอนกล่อมถ้าเขาทำไม่ได้ก็มีตัวช่วยอยู่แล้ว เสพยาเข้าไป รับรองเขาจะแสดงได้ระดับออสการ์เลย

“อุบาทว์ มึงทำได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ”

“มึงจะดักดานเป็นคนงานในซุปเปอร์มาร์เกตก็ตามใจนะ แต่กูอยากได้เงิน ชีวิตกูต้องดีขึ้น” เอนเห็นดวลไม่คล้อยตาม ก็ไม่พอใจทวงบุญคุณที่เคยทำไว้กับเขา ดวลมองเพื่อนสีหน้าหนักใจ...

การมาครั้งนี้ของก้านวงศ์เพื่อจะมาต่อว่านภางค์โดยเฉพาะที่ทำละครทั้งทีไม่บอกกันสักคำ ทั้งที่เขารับใช้เธอสารพัด ที่สำคัญเขาเป็นผัวของเธอน่าจะมีบทให้เขาได้เล่นบ้าง นภางค์สวนทันที

“จุ๊ๆๆ อย่ามาใช้คำว่าผัวกับพี่ No จ้ะก้าน เธอไม่ใช่ผัวพี่ การที่เธอนอนกับพี่ไม่ได้แปลว่าเป็นผัวพี่นะ จะไปไหนก็ไป พี่ไม่มีธุระอะไรกับเธอแล้ว”

ก้านวงศ์ทั้งโกรธทั้งเสียหน้าเดินกระแทกเท้าปังๆออกไป โอเล่เตือนนภางค์ถ้าเขาเอาเรื่องนี้ไปปูดกับนักข่าวจะทำอย่างไรกัน เธอไม่แคร์ ดีเสียอีกจะได้มีกระแสแซ่บๆกับเขาบ้าง จะทำละครแซ่บตัวแม่ก็ต้องแซ่บ

“พี่ว่าก้านเขาไม่กล้าหรอกเพราะมันคือชื่อเสียงเขาด้วย แถมยังมีคนที่เขาเที่ยวไปหว่านเสน่ห์ไว้อีกตั้งมาก สิ่งที่เธอต้องกังวลไม่ใช่เรื่องของพี่หรอกโอเล่”

ooooooo

ดำเกิงบังคับให้เดือนสิบไปกับลำธารจนได้ เที่ยงวันแวะมาที่บ้านพอดี เห็นเธอนั่งรถไปกับลำธารมองด้วยความข้องใจ ดำเกิงหันไปทางสกาวที่ยืนหน้าเครียดอยู่ข้างๆ

“ตัวสอดมาอีกแล้ว เธอบอกมันด้วยนะว่ายัยเดือนไปไหน” ดำเกิงมองเย้ยเที่ยงวันก่อนจะเดินเข้าบ้าน ทิ้งให้สกาวรับหน้าเขาอยู่คนเดียว ในเมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร สกาวทำได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง และย้ำกับเที่ยงวันว่าเดือนสิบไม่ได้อยากไปแต่ถูกพ่อบังคับ จังหวะนั้นทางโรงพยาบาลโทร.มาตาม เที่ยงวันจึงต้องขอตัวกลับก่อน ไหว้ลาสกาวแล้วรีบร้อนออกไป...

เอนยังคงเกลี้ยกล่อมดวลให้รับงานแสดงละคร ตอนที่ก้านวงศ์เดินเข้ามาสาวหมัดใส่เอนซึ่งไม่ทันตั้งตัว

“มึง ไอ้สองผัวเมีย มึงแย่งงานกูเหรอ”

ดวลฉุนกึก จึงช่วยกันกับเพื่อนซี้รุมยำไอ้คนปากเสียไม่ยั้ง โอเล่กับนภางค์ต้องเข้ามาห้าม ก้านวงศ์ฟ้องว่าสองคนนี้รุมทำร้ายเขา นภางค์ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเขาต้องเป็นคนเริ่มก่อนก็เลยไม่เข้าข้าง ยิ่งทำให้ก้านวงศ์โกรธถึงขนาดขึ้นไอ้ขึ้นอีกับนภางค์ เตือนดวลกับเอนให้ระวังตัวให้ดี หมดประโยชน์เมื่อไหร่จะถูกเธอเขี่ยทิ้งเหมือนหมา โอเล่ตกใจมาก ปรามให้เขาพูดจาดีๆก็เลยโดนเขาเล่นงานไปด้วย...

อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 8 วันที่ 8 ก.ค.61

ละคร ข้ามสีทันดร บทประพันธ์โดย กฤษณา อโศกสิน
ละคร ข้ามสีทันดร บทโทรทัศน์โดย กู๊ดโฮป
ละคร ข้ามสีทันดร กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละคร ข้ามสีทันดร ผลิตโดย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด
ละคร ข้ามสีทันดร ออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ