อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 13 วันที่ 27 ก.ค.61
ดวลอาการค่อนข้างหนักทำให้เดือนสิบเป็นกังวล คราวก่อนหมดเงินไปกับการรักษาเขาแทบไม่เหลือ จึงขอร้องพ่อให้ปล่อยบ้านหลังนี้ไป เรา
แบกภาระกับมันมานานแล้ว อีกอย่างมันใหญ่ไปสำหรับครอบครัวเรา ดำเกิงชี้หน้าห้ามแม้แต่จะคิด สกาวเห็นด้วยกับลูก จะได้เอาเงินส่วนที่ต้องใช้หนี้ค่าบ้านมารักษาดวล
“ไม่อายกันหรือไง แค่นี้ไม่พอหรือไง จะขายบ้านประจานตัวเองกันอีกหรือ ตราบใดที่เรายังอยู่บ้านหลังนี้ ต่อให้ต้องกินข้าวคลุกน้ำปลา เราก็ยังไม่ต้องอายใครทั้งนั้น” ดำเกิงโวยห้องพักผู้ป่วยแทบแตก
สกาวทักท้วง ทำแบบนี้เดือนสิบจะต้องลำบากหาเงิน ดำเกิงไม่สนใจยืนกรานไม่ยอมขายบ้านเด็ดขาด เที่ยงวันเสนอตัวจะช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลของดวล ดำเกิงไม่พอใจตรงเข้าผลักอกเขาจนหงายหลังตึง เดือนสิบกับสกาวช่วยกันห้ามดำเกิงแทบไม่ทัน
“ไม่อย่างนั้นรับดวลกลับบ้านสิครับ ผมจะช่วยดวลเอง เอาดวลกลับไปบำบัดรักษาตัวที่บ้าน”
ดำเกิงไม่ต้องการคำแนะนำจากเที่ยงวันทำท่าจะลุยเขาอีก สกาวต้องล็อกตัวไว้ เที่ยงวันไม่สนใจความกราดเกรี้ยวของอีกฝ่าย ยืนยันถ้าเป็นตัวเองจะยอมรับความช่วยเหลือทุกอย่างถ้ามันช่วยชีวิตลูกของตนไว้ได้ ดำเกิงยิ่งโมโหดิ้นรนจะเข้าไปเอาเรื่องเขาให้ได้ สกาวกลัวเรื่องจะบานปลาย บอกเดือนสิบให้พาเที่ยงวันออกไปก่อน เธอไม่รอให้พูดซ้ำรีบพาเขาออกมาทันที
เที่ยงวันยังยืนกรานคำเดิมจะขอช่วยเดือนสิบเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาดวล เธอทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะเท่ากับเอาเปรียบเขา เที่ยงวันขอให้คิดเสียว่าเป็นการยืมไปใช้ก่อน มีเมื่อไหร่ค่อยคืนและไม่ต้องให้พ่อ
ของเธอรู้ เธอซาบซึ้งในความเอื้อเฟื้อของเขาแต่ขอเธอแก้ไขมันด้วยตัวเองก่อน ถ้าไม่สำเร็จเธอจะนึกถึงเขาเป็นคนแรก
“โอเคครับ ผมเข้าใจ ความจริงถ้าเรา...แต่งงานกัน... ผมอยากอยู่กับคุณ อยากคอยช่วยเหลือคุณทุกๆเรื่อง
ผมรู้ว่าอาจไม่ถูกที่ถูกเวลาที่จะขอคุณเดือนแต่งงาน แต่ผมอยากให้คุณเดือนตกลง”
เดือนสิบไม่ได้รังเกียจเที่ยงวัน อยากแต่งกับเขาตอนนี้เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ติดที่เธอยังมีภาระหลายเรื่องจึงขอเวลาเขาสักนิด ขอให้เธอได้ทำหน้าที่ลูกที่ดี พี่ที่ดีเสียก่อน เขาไม่ขัดข้อง ยินดีรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน
ooooooo
เวลาล่วงเลยมาหลายวันแล้วดำเกิงไม่ยอมให้พาดวลกลับไปรักษาตัวที่บ้าน เที่ยงวันรู้ดีว่าเดือนสิบต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจึงไปขอให้พ่อของเขาช่วย ทูลเซ็นเช็คเงินสดให้ลูกทันที แถมกำชับให้ดูแลเดือนสิบให้ดีๆ สวาทวิมลเข้ามาเห็นเที่ยงวันกำลังเอาเช็คยัดใส่กระเป๋าเสื้อทำท่าจะไปก็ร้องเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อนเที่ยง แม่ชวนฟานมาทำงานกับเรา ฟานเขาเก่งภาษาคงช่วยเรื่องส่งออกนำเข้าได้เยอะ แม่อยากให้เที่ยงสอนงานให้ฟานด้วย”
“แต่ผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร”
“ก็ทำงานสิ ไม่ใช่ออกไปทำตัวเป็นประชา– สงเคราะห์แบบนี้”
เที่ยงวันรับคำ เดินออกไปเงียบๆ สวาทวิมล เล่นงานลูกไม่ได้หันมาเล่นงานทูลฐานให้การสนับสนุนลูก แทนที่จะห้ามปราม เขาได้แต่ยิ้มรับ เธอโกรธควันแทบออกหูแต่ทำอะไรสามีไม่ได้...
พนักงานแผนกเสื้อผ้าแอบได้ยินนายแบบ
ทวงถามเอนถึงยาเสพติดที่จะจัดไปให้ในงานปาร์ตี้ จึงเอาไปฟ้องนภางค์ เพื่อเป็นการเคลียร์ข้อสงสัย เธอกับโอเล่จึงเรียกเอนมาชี้แจง เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าก้านวงศ์เกลียดเขาก็เลยใส่ร้ายเขา โอเล่ขอให้จริงอย่างปากว่า ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่เหลืออะไรเลย
“โธ่ พวกพี่ก็ไปเชื่อพี่ก้านได้ ผมไม่มีทางทำแบบนั้นอยู่แล้ว” เอนนึกแค้นใจก้านวงศ์ คิดหาทางเอาคืน...
หลังได้เช็คจากพ่อ เที่ยงวันนัดเดือนสิบออกมาหาแล้วมอบเช็คฉบับนั้นให้ ทีแรกเธอไม่ยอมรับความช่วยเหลือ เขาต้องคะยั้นคะยอเธอถึงรับเช็คไว้
“ถ้าพ่อยอมให้พาดวลกลับบ้าน มันคงจะง่ายกว่านี้ หรือเพียงแต่พ่อยอมขายบ้าน...”
“ท่านก็มีเหตุผลของท่าน เอาเป็นว่าเราแก้ปัญหาไปทีละเปลาะเถอะนะครับ”...
ขณะดำเกิงกำลังขยำใบ notice ที่ปิดไว้หน้าประตูรั้วทิ้ง ลำธารเข้ามาขอคุยธุระด้วย ธุระที่ว่าก็คือเขาจะขออนุญาตดำเกิงแต่งงานกับเดือนสิบ ดำเกิงตอบตกลงตั้งแต่เขายังพูดไม่ทันจบประโยค แต่สกาว
ทำอย่างนั้นไม่ได้ ขอให้เขาถามความสมัครใจจากเดือนสิบก่อน ถ้าลูกว่าไม่ก็แปลว่าไม่ ดำเกิงตวาดแว้ด
“ทำไมลูกจะต้องปฏิเสธ เขารักกันมาหลายปี นี่ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแต่งงาน”
สกาวอยากรู้แล้วทางบ้านลำธารว่าอย่างไร เขาเล่าว่าแม่และครอบครัวยินดีต้อนรับเดือนสิบเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ เธอมองเขาสีหน้าหนักใจเพราะรู้ว่าลูกหมดรักเขาไปนานแล้ว...
แผลจากถูกไฟสปอตไลต์ล้มใส่ทำให้ใบหน้าของก้านวงศ์เสียโฉม นั่นเท่ากับอนาคตการเป็นนายแบบดับวูบไปด้วย ก้านวงศ์ทนไม่ได้ที่จะอยู่แบบนี้ คว้าปืนขึ้นมายิงตัวตาย...
อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 13 วันที่ 27 ก.ค.61
ละคร ข้ามสีทันดร บทประพันธ์โดย กฤษณา อโศกสินละคร ข้ามสีทันดร บทโทรทัศน์โดย กู๊ดโฮป
ละคร ข้ามสีทันดร กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละคร ข้ามสีทันดร ผลิตโดย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด
ละคร ข้ามสีทันดร ออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ