My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 2 วันที่ 31 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 2 วันที่ 31 ก.ค.61

“หยุดพูดถึงพ่อฉันเดี๋ยวนี้ คุณไม่มีสิทธิ์จะเรียกชื่อพ่อฉันด้วยซ้ำ คุณเป็นคนทำให้พ่อต้องตาย” ว่าแล้วกระแทกไหล่เขาออกไปเลย

อคินตามไปด้วยความเป็นห่วง จนถึงสะพานเห็นลูกหมาสีน้ำตาลอ่อนนอนเลือดท่วมตัวอยู่ที่ริมตลิ่ง

อคินวิ่งลงไปอุ้มลูกหมาขึ้นมาจนเสื้อเขาเปื้อนเลือด

ความสงสารลูกหมาทำให้ทั้งสองมีอารมณ์ร่วมช่วยกันพาลูกหมาไปคลินิกรักษาสัตว์ ริศาเป็นห่วงร้องไห้กลัวลูกหมาจะเป็นอะไรไป อคินกอดปลอบว่าไม่ต้องห่วงเพราะถึงมือหมอแล้ว



เมื่อหมอแจ้งว่าผ่าตัดลูกหมาเรียบร้อยแล้วเจ้าน้ำตาลปลอดภัย อคินฝากให้หมอช่วยดูแลด้วย ตนจะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอง ต่างก็เอามือลูบเจ้าน้ำตาลอย่างเอ็นดู มือโดนกันโดยไม่ตั้งใจ อคินตัดสินใจกุมมือเธอไว้ เอ่ยอย่างชื่นชมว่า

“วันนี้น้องสาริศาช่วยชีวิตไว้ได้หนึ่งชีวิตแล้วนะครับ เก่งมากเลย”

“ไม่ใช่แค่ฉันหรอก เราก็ช่วยมันกันทั้งสองคนแหละค่ะ”

ต่างมองกันด้วยความประทับใจเหมือนวันเก่าๆอีกครั้ง และเมื่อกลับถึงบ้านตอนบ่ายเสื้อผ้าอคินยังไม่แห้ง ริศาบอกว่าถ้าไม่มีอะไรจะใส่ก็ใส่ไปก่อนก็ได้ ทำเอาอคินยิ้มหน้าบาน

ooooooo

ป้านิ่มทำอาหารเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเป็นสุกี้หม้อไฟ พอนั่งโต๊ะอคินเตรียมเททุกอย่างลงไปต้มในคราวเดียวกัน ริศาจึงแนะนำวิธีกินสุกี้ให้อร่อยและสาธิตให้ดู อคินฟังและทำตามทั้งทำให้ริศาและกินเอง

ความสัมพันธ์ที่กลับมาเป็นปกติเพราะเจ้าน้ำตาลทำให้หนุ่มสาวคุยกันอย่างเพลิดเพลิน

ผีอัศนีนั่งร่วมโต๊ะเท้าคางมองทั้งสองอย่างหมั่นไส้

ตกเย็นอคินช่วยตัดหญ้าที่สนามหน้าบ้าน ระหว่างนั้นเขาคุยถึงความสัมพันธ์กับสารัตถ์ที่เป็นทั้งพี่ เพื่อนและครูอย่างซาบซึ้งใจ แต่ริศาได้ฟังเรื่องพ่อแล้วความไม่พอใจก็ปะทุขึ้นมาอีก ทนไม่ได้ลุกวิ่งหนีไปขึ้นห้องนอน ป้านิ่มตามไปก็ถูกปิดประตูใส่หน้าแล้วเก็บตัวเงียบ

อคินงงว่าตนพูดอะไรผิด ผีอัศนีที่ยืนอยู่ข้างๆอคินหัวเราะพูดใส่หน้าว่า “โง่จริงๆ ไม่ได้โง่เล่นๆ”

พอเริ่มค่ำอคินเตรียมตัวกลับ ป้านิ่มขอร้องให้อยู่ค้างที่นี่เพราะกลัวขโมยหรืออะไรที่ไม่ใช่คน อคินจึงค้างที่บ้านสวน และคืนนี้เขาเข้าไปในห้องพักของสารัตถ์เห็นรูปของสารัตถ์แล้วยิ่งเศร้า ยิ่งรู้สึกผิด พึมพำ...

“ผมไม่เชื่อว่าที่เครื่องบินตกเป็นเพราะพี่อยู่ในสภาพไม่พร้อมบิน ผมจะต้องหาข้อมูลมายืนยันความบริสุทธิ์ของพี่ให้ได้ ผมจะไม่ยอมให้พี่ต้องเสียชื่อเสียงเด็ดขาด”

อคินโทร.ไปสอบถามความคืบหน้าของการสืบสวนเรื่องเครื่องบินตกจากนุชก็ได้รับการปฏิเสธที่จะพูด จึงนึกได้ว่านุชเป็นพวกเดียวกับศรันย์ คิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆนึกถึงกิตติที่สารัตถ์ช่วยให้เข้าทำงานที่บลูไคท์ เห็นกิตติปีนรั้วบ้านริศาคืนก่อน ฉุกคิดว่ากิตติต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องเครื่องบินตก

ฝ่ายริศานอนอยู่ดีๆสร้อยกับจี้ที่วางอยู่ข้างรูปพ่อจู่ๆก็หล่นลงมา และผีอัศนีก็ปรากฏให้เห็นอีก ขอร้องให้ริศาเอาสร้อยไปให้อนงค์ ริศาตกใจจะวิ่งหนี แต่ถูกอัศนีจูงไปดูตนในอดีต...

“อุดรธานี พ.ศ.2510” อัศนีบอกว่านี่คือที่เริ่มต้นเรื่องราวของตนกับอนงค์...บอกริศาว่าเธอยังไม่ตายนะ แต่เธออยู่ในความฝัน...

ในปี พ.ศ.2510 นั้น อุดรธานีเต็มไปด้วย GI ทั้งฝรั่งและผิวสี มีคลับบาร์ราวกับดอกเห็ดในฤดูฝน และมีผู้หญิงกลางคืนมากมายที่แต่งตัวล่อแหลมจัดจ้านรอรับนักท่องเที่ยว

อัศนีพาริศาไปที่สนามบินลับ ชวนสันติขึ้นบินผาดแผลงโดยพลการจนถูกชาลีหัวหน้าปฏิบัติการฝึกบินของนักบินไทยลงโทษวิ่งรอบสนามพร้อมเครื่องสนามห้าสิบรอบ อัศนียังคึกท้าสันติว่าใครหมดแรงก่อนแพ้ต้องเป็นเจ้ามือคืนนี้

เมื่อเข้าไปในบาร์ที่เต็มไปด้วยจีไอ ผีอัศนีกับริศาที่ยืนมองอดีตอยู่เห็นจีไอตัวโตคนหนึ่งกำลังกอดจริยาเด็กสาวอยู่ อนงค์เดินตรงไปบอกจริยาว่าพ่อกับแม่ให้มาตาม

จริยาเป็นลูกศิษย์ของอนงค์ รีบบอกว่าตนไม่ได้ทำอะไรแค่มาเที่ยวเท่านั้น จีไอคนนั้นไม่ยอมให้จริยาไป หากจริยาไปอนงค์ก็ต้องมาแทน ดึงอนงค์ไปกอดตะปบสะโพกอย่างเมามัน สันติทนเห็นจีไอลวนลามอนงค์ไม่ได้ เข้าไปช่วยอนงค์เลยถูกพวกมันกรูกันเข้ามารุม อัศนีพุ่งเข้าไปช่วยเพื่อน เลยเกิดตะลุมบอนกันขึ้น อนงค์ตกใจตะโกนหลอกว่าสารวัตรทหารมา

การตะลุมบอนหยุดทันที แต่พอมองไปเห็นยามยืนอยู่ก็ลุยกันต่อ อึดใจเดียวสารวัตรทหารตัวจริงก็มา พวกนักตะลุมบอนเลยวิ่งกันตัวใครตัวมัน อัศนีคว้ามืออนงค์กับสันติวิ่งอ้าวออกไปขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไป

อนงค์พาไปที่บ้านพักครูของตน ขอบคุณทั้งสองที่ช่วย อัศนีในสภาพหน้าบวมปูดเลือดกบปากแต่พอเห็นความงามของอนงค์ก็ตกอยู่ในภวังค์ สันติเรียกจึงรู้สึกตัว อนงค์เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเลือดที่หน้าให้อัศนีเบาๆ ต่างมองกันเขินตามอารมณ์ของหนุ่มสาว

หลังจากนั้นทั้งสามก็นัดเที่ยวพักผ่อนด้วยกันทั้งภูเขาและน้ำตก วันนี้นัดไปไหว้พระในวัดด้วยกัน ขณะอัศนีกับอนงค์เดินผ่านต้นลั่นทมที่ดอกเพิ่งร่วงลงมา อัศนีหยิบดอกลั่นทมทำใจกล้าส่งให้อนงค์ อนงค์มองอึ้งแล้วเอียงหน้าให้เขาเอาทัดหูให้แทน ต่างมองกันนิ่งซึ้งด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกัน...ใจตรงกัน...

สันติเดินพ้นมุมอาคารมาเห็น เขามองอึ้ง หยุดกับที่ไม่กล้าเดินเข้าไป ตกกลางคืนเมื่อมาเดินเล่นที่ท่าน้ำริมคลอง อัศนีตัดสินใจจะบอกรักอนงค์ แต่ใจยังไม่กล้าพอ อนงค์รู้ใจค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปจนใกล้ กระซิบ

“พี่ไม่ต้องพูดก็ได้...”

อัศนีใจฟุ้งก้มจูบอนงค์เบาๆ ผีอัศนีที่ยืนดูอดีตกับริศาบอกเธอว่า

“มันเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต”

แต่ที่อีกมุมหนึ่งสันติเดินถือกล่องของขวัญน่ารักมาก เห็นภาพนั้นยืนขาตาย เอากล่องที่เขียนข้อความสั้นๆ แต่เป็นความรู้สึกทั้งหมดจากหัวใจว่า “ผมชอบคุณ” ซ่อนไว้ข้างหลัง

ผีอัศนีบอกริศาที่ยืนดูอดีตด้วยกันว่า “เพื่อนรัก เพื่อนทรยศ” อัศนีหันขวับมองริศาหน้าบึ้งตึง แต่ไม่ทันพูดอะไรก็รู้สึกโลกสั่นไหวแล้วทุกอย่างรอบข้างก็กลายเป็นฝุ่นควัน พลันอัศนีก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังต่อเนื่อง

ริศาตื่นจากความฝันบอกอัศนีว่าเขาควรเล่าต่อว่าสันติไปทำอะไรเขา พลันอัศนีก็เหมือนถูกพลังบางอย่างกระชากออกไปจากห้องริศา แล้วร่างอัศนีก็กลายเป็นควันฟุ้งลอยไปปรากฏต่อหน้าอคินโดยไร้สาเหตุ อคินกำลังคุยกับคุณย่าที่โทร.มาตามวางหูโทรศัพท์พอดี

อัศนีแปลกใจว่าอคินเป็นใคร คุยกับใคร ทำไมถึงมีแรงดึงดูดตนได้ พอดีอคินมองมาจึงลองถามว่า

“นายเห็นฉันนี่ นายได้ยินฉันใช่ไหม” อคินเอื้อมมือออกมาเหมือนจะจับอัศนีแต่มือก็ทะลุผ่านไป แล้วเขาก็คว้าหมอนมากอดนอนต่อ อัศนียิ่งงง “ทำไม...เกิดอะไรขึ้น ไอ้ทึ่มนี่มันเป็นใครกันแน่”

ผีอัศนีพยายามปลุกอคินให้ขึ้นมาคุยกันว่าเขาเป็นใคร ทำไมตนจึงถูกดูดออกมาจากฝันของริศามาหาเขาได้ แต่อคินก็นอนนิ่ง ผีอัศนีจึงจะทำแบบเดียวกับทำกับริศา ทำเสียงเย็นๆเนิบๆ เรียก อคินนนน...แต่ก็ไม่ได้ผลเลยเปลี่ยนเป็นโน้มตัวเข้าไปหาตะโกน

“ไอ้ทึ่ม ตื่นเดี๋ยวนี้เว้ยยยย”

ooooooo

ริศาอยู่ที่ห้องนอน เปิดตู้เก็บของดึงกล่องออกมาวาง เจออัลบั้มและหนังสือเก่าๆ เปิดอัลบั้มเห็นรูปสันติในวัยหนุ่มใส่ชุดนักบิน พลิกดูด้านหลังเขียนว่า “สันติ พงศ์บุญยภา พ.ศ.2511”

“คุณปู่สันติคือเพื่อนสนิทของนายอัศนีแล้วมีเรื่องรักสามเส้าด้วย...มิน่า อีตาผีอัศนีถึงได้ตามหลอกหลอนเราอยู่ได้ แล้วสร้อยคอเส้นนั้นก็เจอที่นี่...บ้านของปู่...

หรือว่า????” ริศามีคำถามเต็มไปหมด

ขณะที่ผีอัศนีพยายามวิธีสุดท้ายจะเข้าสิงร่างอคิน พอโน้มตัวลงไปจะทับร่างอคิน ริศาก็ผลักประตูเข้ามาเห็นพอดี ตกใจร้องลั่น “เย้ย...นั่นคุณจะทำอะไรพี่อคินน่ะ!”

ริศาคิดว่าผีอัศนีจะทำมิดีมิร้ายอคิน เธอบอกว่าอย่าทำอะไร อคินเป็นคนดี รับปากว่าตนจะช่วยให้เขาได้ไปผุดไปเกิดให้ได้

ริศาพูดเสียงดังกับผีอัศนีจนอคินตื่น เขางงว่าเธอพูดอะไรคนเดียว ริศาชะงักปดว่ายุงมารบกวน อคินซึ้งที่เธออุตส่าห์ตื่นมาไล่ยุงให้ ริศาเห็นอัศนียังพยายามจะสิงอคิน ห้ามก็ไม่ฟังจึงตบผีอัศนีบนหน้าอคินเพียะ!

อคินงุนงงว่าตบหน้าตนทำไม ริศาอ้างว่าตบยุง อคินตกใจถามว่าน้องริศาไม่สบายหรือเปล่าทำไมพูดแปลกๆ ฝ่ายผีอัศนีก็พยายามจับมือริศาไว้ จึงเห็นรูปของสันติชัดๆถึงกับเซไป ริศาสงสัยว่าทำไมผีอัศนีเห็นรูปแล้วมีอาการแปลกๆ พลิกรูปสันติให้ดูบอกว่า

“นี่รูปปู่ฉัน...สันติ เพื่อนคู่หูของคุณที่คุณให้ฉันเห็นในฝัน เหมือนคุณกับปู่สันติและผู้หญิงคนนั้น...”

อคินงงแล้วงงอีก มองเลิ่กลั่กว่าริศาพูดกับใคร

ฝ่ายผีอัศนีอารมณ์เปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด

หน้าหล่อๆกลายเป็นผีน่ากลัว ริศาถามผีอัศนีว่าปู่ตนไปแย่งแฟนเขาหรือ

“สันติเป็นปู่ของเธอนี่เอง มิน่าล่ะ เพราะมันคือตัวต้นเหตุ ทำให้ฉันไม่ได้ไปผุดไปเกิด เพราะมันทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ ไอ้สันติ แกทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง...ทำไม...ทำไม!”

ริศาตกใจกลัวมาก อคินที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ปลอบไปตามประสานักบินว่าอากาศแปรปรวนกะทันหันเท่านั้น แต่ผีอัศนีตะโกนอย่างโกรธแค้นขึ้น

“ฉันไว้ใจมัน แต่มันทรยศฉัน...ไอ้เพื่อนชั่ว!!!”

ริศากลัวตัวสั่น ในขณะที่อคินก็ยังปลอบว่าเป็นธรรมชาติ...ไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัว ตนอยู่ตรงนี้...

ริศากอดอคินขอร้องเขาอย่าทิ้งตนไปไหน อคินจึงประคองเธอเข้าห้องนอน ปลอบว่าไม่ต้องกลัวตนจะนอนเฝ้าอยู่หน้าห้อง ริศาขอร้องอย่าไป อยู่กับตนก่อนแล้วในคืนที่ฟ้าคำรามฝนกระหน่ำลมกระโชกนี่เอง อคินอยู่ปลอบริศาจนเผลอใจจูบเธอ ริศาอยู่ในความอบอุ่นรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ แต่พอได้สติก็บอกอคินว่าออกไปก่อนดีกว่าตนอยู่คนเดียวได้ พออคินออกไปริศาก็เอาหมอนมากอดปิดหน้าถามตัวเอง

“โอ๊ย...ทำอะไรลงไปเนี่ย”

ฝ่ายอคินเมื่อออกไปเห็นหน้าต่างบานหนึ่งเปิดก็เดินไปปิดบ่นงึมงำว่าลมฟ้าอากาศมันแปรปรวนจริงๆ... พิลึก แล้วตบปากตัวเองเบาๆ ด่าตัวเองว่าไปจูบน้องเขาได้ยังไง นิสัยไม่ดี เดินไปพูดกับรูปสารัตถ์อย่างรู้สึกผิด

“พี่สารัตถ์ครับ ผมขอโทษครับที่ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ไปจูบน้องริศาแบบนั้น ผมสัญญาครับว่าจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด... จนกว่า...จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมครับ...”

พูดแล้วอคินเขิน ทวนเบาๆ

“จนกว่าจะถึงเวลา นี่แสดงว่าเรารอให้ถึงเวลานั้นอยู่ใช่ไหมล่ะ...ตาย ตาย ไอ้คิน”

ooooooo

อคินคิดแล้วขำตัวเอง เห็นรูปตกอยู่หยิบขึ้นมาดู นึกได้ว่าริศาบอกว่าเป็นรูปปู่สันติ พึมพำสงสัยว่าคุณพ่อของพี่สารัตถ์ก็เป็นนักบินรบด้วยหรือ สงสัยว่าเครื่องแบบไม่มีสัญลักษณ์แล้วจะรู้ได้ไงว่าเป็นนักบินอะไร อคินพลิกดูด้านหลังภาพ เขียนว่า “สันติ พงศ์บุญยภา พ.ศ.2511” อคินคิดทบทวนว่า

“2511...ก็สมัยสงครามเวียดนามสินะ ปีเดียวกับปีเกิดของพ่อเราเลย ปู่สันติ...ปู่ของริศายังมีรูปให้ดูแต่ปู่เราสิไม่มีอะไรเลย ปู่ไปบินแล้วก็หายไปในวันที่พ่อเกิด...แค่นี้เองที่รู้ นอกนั้นเราไม่มีสิทธิ์รู้อะไรเลย”

รุ่งเช้าอคินกับป้านิ่มใส่บาตรเสร็จ อคินบอกว่าดีจังได้ใส่บาตรตอนเช้าแบบนี้ด้วย ป้านิ่มบอกว่า

ถ้ามาค้างที่นี่ตนกับริศาก็ต้องตื่นมาใส่บาตรทุกที แต่พอมองหา เห็นริศาไปนั่งกรวดน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไกลๆ

ริศากรวดน้ำแผ่กุศลไปถึงผีอัศนีที่ยืนอยู่ใกล้ๆด้วย ทำให้ผีอัศนีได้รับส่วนกุศล ใบหน้าที่หม่นหมองก็สดใสหล่อเหลา อารมณ์ดีขึ้นทันที ริศาเอ่ยถึงเหตุการณ์เมื่อคืนว่า

“ในฝัน ปู่สันติท่าทางเหมือนจะเป็นคนพ่ายรักในกรณีรักสามเส้าไม่ใช่เหรอคะ ปู่ฉันเป็นคนที่อกหักเป็นคนที่แพ้นี่คะ แล้วทำไมคุณมาโกรธปู่ คุณว่าปู่เป็นต้นเหตุให้คุณไม่ได้ไปผุดไปเกิด มันคืออะไรคะ”

“ถ้าไอ้ส่วนเกินมันกลับไป แล้วจะบอก” ผีอัศนีมองไปทางอคินอย่างรังเกียจ ริศาถามว่าจะให้ตนไล่เขากลับไปหรือ “ถ้าไอ้ทึ่มอยู่ มันก็จะคอยดึงพลังไปจากฉัน ทำให้ฉันพาเธอเข้าไปในฝันไม่ได้”

ริศาถามว่าทำไม ผีอัศนีบอกว่าไม่รู้เหมือนกันแล้วร่างก็จางหายไป

“เดี๋ยวสิคะ จะรีบไปไหน”  ริศาถามแล้วบ่นเซ็งๆ “แต่ปู่ฉันเป็นคนดี ปู่ฉันไม่มีวันทรยศเพื่อนหรอก”

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ตอนที่ 2 วันที่ 31 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทประพันธ์โดย นภสร
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา บทโทรทัศน์โดย ทิพย์สุดา
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ใต้ปีกปักษา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ