อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 9 วันที่ 10 ก.ค.61

อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 9 วันที่ 10 ก.ค.61

เลิกกับเดือนสิบได้ไม่กี่วัน ลำธารเข้าไปขออนุญาตเชิญจิตคบหาดูใจกับมิถุนา เธอดีใจแทบโดดตัวลอยในที่สุดแผนจับผู้ชายรวยๆของลูกสาวก็สัมฤทธิผล...

ได้เวลาพักเที่ยงของพนักงาน ดวลมีเงินไม่พอจะซื้ออะไรกิน จึงต้องดื่มน้ำก๊อกประทังความหิว ยศสงสารเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เติมน้ำร้อนแล้วมาให้กิน “ไม่มีเงินเหรอ ทำไมไม่บอกคุณเที่ยงล่ะ”

“ผมเกรงใจน่ะครับ ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ยศผมอาศัยกินมื้อเย็นเอา เดี๋ยวก็สิ้นเดือนแล้ว”



ยศรู้สึกดีกับเด็กคนนี้ เพราะเขามีสิทธิพิเศษจากทูลและเที่ยงวันแต่เขากลับรู้จักเกรงใจและเจียมตัว...

สิ่งที่เดือนสิบทำเพื่อตอบแทนเที่ยงวันคือพาไปหาเมฆที่บ้าน เขายังขยาดกับครั้งก่อนไม่หายที่โดนกำไลแม่ของเมฆไล่ตะเพิดออกมา แล้วถ้าคราวนี้เจอเธอไม่พอใจอีกจะทำอย่างไร

“นี่เป็นหนึ่งในแม่น้ำทั้ง 7 ที่คุณเที่ยงจะต้องว่ายข้ามไปค่ะ ถ้าไม่ข้ามไปก็จม คุณเที่ยงจมอยู่กับเรื่องน้องเมฆมานานแล้ว ลองว่ายข้ามไปสิคะ เดือนไม่รู้เหมือนกันว่าคุณจะว่ายข้ามไปถึงฝั่งหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็อยากให้คุณเที่ยงให้โอกาสตัวเองนะคะ ส่วนผลจะออกมายังไง คุณเที่ยงก็ต้องทำใจรับมันให้ได้”

เที่ยงวันรับคำอย่างไม่ค่อยเต็มปากนัก จากนั้นทั้งคู่ช่วยกันขนของฝากจากท้ายรถที่เดือนสิบซื้อหามาให้เมฆ เธอเห็นสีหน้าไม่สู้จะมั่นใจของเที่ยงวัน ปลอบว่ามันต้องออกมาดีแน่ๆขอให้เชื่อมือเธอ...

นับเป็นโชคดีของเที่ยงวันที่วันนี้กำไลไม่อยู่ออกไปทำธุระ มีเพียงป้าเพื่อนบ้านที่คอยวิ่งมาดูเมฆเป็นระยะๆ เด็กน้อยถูกทิ้งให้นั่งดูทีวีอยู่บนรถเข็นคนเดียว พอเห็นเที่ยงวันเท่านั้นแกดีใจมาก ป้ากำลังจะมาหาอะไรให้เมฆกินพอดี เดือนสิบก็เลยอาสาจะจัดการให้เอง

“เออดีๆ ป้าก็วุ่นๆอยู่ พวกเธอดูมันด้วยแล้วกันนะ ป้าไปก่อนนะ อยู่กับพี่เขานะเจ้าเมฆ”...

ด้านลำธารพามิถุนามากินมื้อเที่ยงที่บ้าน เธอซื้อใจทุกคนในบ้านด้วยของฝากเล็กๆน้อยๆ ยี่สุ่นกับบุญหยาดเป็นปลื้มมากที่เธอมีน้ำใจไม่ใช่แต่เฉพาะเจ้านายในบ้านนี้ แต่เผื่อแผ่ไปให้เด็กรับใช้ในครัวอีกด้วย แม่บ้านกับเด็กรับใช้ปลื้มเธอไม่แพ้เจ้านาย จะมีก็แต่คนขับรถซึ่งรู้เช่นเห็นชาติมิถุนาเท่านั้นที่ไม่ปลื้มด้วย แม่บ้านกับเด็กรับใช้ซักกันใหญ่ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่เหมือนคนอื่น ไปรู้อะไรมาหรือ

คนขับรถเล่าเหตุการณ์วันที่ขับรถพามิถุนาไปส่งบ้านให้ฟัง แม่บ้านไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเธอจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ขนาดนี้ นึกว่าจะมีแต่ในละครเท่านั้น...

หลังกินอาหารมื้ออร่อยเสร็จ เดือนสิบมีอะไรสนุกๆให้เมฆได้ทำร่วมกับเที่ยงวัน จับเด็กน้อยมัดติดกับเขา โดยให้แกยืนบนเท้าเขาแล้วพาไปเตะบอลที่สนามหญ้าหน้าบ้าน พอเขาเตะบอลเท้าของเมฆจะสัมผัสบอลไปด้วยเหมือนแกได้เตะมันด้วยตัวเอง เที่ยงวันเห็นเดือนสิบเล่นราวกับเป็นเด็ก หัวเราะร่าเริงไม่มีความเศร้าในแววตาก็พลอยมีความสุขไปด้วย ส่วนเมฆไม่ต้องพูดถึง สนุกกับการเตะบอลมาก

ทั้งสามคนไม่รู้ว่ากำไลแอบซุ่มดูอยู่ เธอถึงกับน้ำตาคลอเมื่อเห็นลูกหัวเราะมีความสุข กระทั่งมีเสียงป้าข้างบ้านร้องเรียกกำไลดังขึ้น ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปทันที ความสุขสนุกสนานของทุกคนเป็นอันจบลงไปด้วย เที่ยงวันกับเดือนสิบถูกไล่ตะเพิดออกมา

เดือนสิบแปลกใจที่คราวนี้เที่ยงวันไม่จิตตกเหมือนครั้งก่อนที่โดนกำไลไล่ตะเพิด เขาสารภาพว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเธอทำให้วันนี้สดใส เขาไม่เคยรู้ว่าเธอจะสดใสได้ขนาดนี้ เขาชอบที่เธอเป็นแบบนี้

“วันนี้คุณเดือนเพิ่งจะสอนผมว่าความสุขความทุกข์มันลอยอยู่รอบตัวเรา อยู่ที่เราจะเลือกหยิบมันมาเป็นอารมณ์...ผมก็อยากให้คุณเดือนเลือกที่จะหยิบความสุขมาใส่ให้ตัวเองบ้างนะครับ”...

หลังเลิกงานยศเอาถุงใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารกระป๋องมาให้ดวลไว้กิน ตนช่วยได้แค่นี้ บอกให้เขาอดทนหน่อย เขาซาบซึ้งใจมาก อาหารพวกนี้ไม่ใช่ทำให้เขาอิ่มท้องเท่านั้น แต่อิ่มใจด้วย

กำไลยังอารมณ์เสียจากการมาของเที่ยงวันไม่หาย ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบเชียบผิดปกติ เมฆใจเสียที่แม่เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ตัดสินใจทำลายความเงียบ

“แม่...เมฆขอโทษ แม่อย่าโกรธพี่เที่ยงเลยนะครับ” เด็กน้อยเห็นแม่รวบช้อนทั้งที่กินไปได้แค่สองคำก็ยิ่งใจเสีย “เมฆขอโทษนะครับ แม่กินข้าวต่อเถอะ เมฆจะไม่พูดเรื่องนี้กับแม่แล้ว แม่กินข้าวเถอะนะ”...

ด้านเดือนสิบขับรถมาส่งเที่ยงวันที่หน้าบ้าน เขาขอบคุณเธอมากสำหรับวันนี้ เธอทำให้เขาอยากลุกขึ้น มาทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ถ้าอย่างนั้นวันพรุ่งนี้เขาจะเป็นฝ่ายขอเซอร์ไพรส์เธอบ้าง เธอสงสัยเซอร์ไพรส์อะไร

“บอกแล้วจะเซอร์ไพรส์เหรอครับ” เที่ยงวันยิ้มให้เดือนสิบ แล้วก้าวลงจากรถเข้าบ้าน...

ทูลเห็นลูกเดินยิ้มเข้าบ้านก็ร้องทักไปไหนมาถึงได้อารมณ์ดีแบบนี้ เที่ยงวันแวะไปบ้านเมฆมา สวาทวิมลถึงกับร้องเอะอะไปทำไม คดียังไม่สิ้นสุด เกิดแม่ของเด็กนั่นเฮี้ยนขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร เที่ยงวันไม่ตอบได้แต่ยิ้ม ก่อนจะขอตัวไปนอน เธอมองตามลูกที่เดินขึ้นข้างบนอย่างขัดอกขัดใจ หันมาบ่นกับทูล

“ให้เงินแล้วก็แล้วกันไปสิ ฉันว่าอย่าเอาตัวไปวุ่นดีกว่าเดี๋ยวจะเดือดร้อนถ้าเกิดมีอะไรขึ้นมา ทีนี้ได้รื้อคดีออกมาเล่นกันยาว”

“คุณ วันนี้ลูกยิ้มมีความสุขคงรู้สึกดีที่ได้ไปทำอะไรที่มันจะช่วยเยียวยาแผลในใจเขาได้ เราอย่าไปคิดถึงเรื่องไกลๆเลย แค่ได้เห็นลูกมีความสุขกับปัจจุบันเท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว”

สวาทวิมลตัดพ้อต่อว่าสามีที่คิดแต่เรื่องปัจจุบันไม่คิดถึงอนาคต เขาไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรถ้ามัวแต่นึกถึงอนาคตจนปัจจุบันไม่มีความสุข...

มิถุนาเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ ตอนที่ลำธารขับรถมาส่งที่บ้าน เธอยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาหนึ่งฟอด ก่อนจะแสร้งเขินอายเดินเข้าบ้าน เขามองตามไม่แน่ใจว่ายินดีกับท่าทีของเธอเมื่อครู่หรือไม่

เชิญจิตที่แอบมองมาจากในบ้านไม่ค่อยจะชอบใจนักกับการกระทำของลูกสาว เตือนเธอว่าผู้หญิงดีๆไม่ทำแบบนั้น เธอกลับยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

ooooooo

ยศเดินตรวจงานมาเจอดวลกำลังถูพื้นอยู่ก็ยิ้มพอใจที่เห็นเขาขยันขันแข็ง แต่พอเลี้ยวพ้นหัวมุมตึกเท่านั้น ยศหุบยิ้มแทบไม่ทันที่เห็นสวาทวิมลยืนหน้าเครียดรอท่าอยู่

“ไปพบฉันที่ห้องด้วยนะคุณยศ”...

ที่สวาทวิมลเรียกยศไปพบที่ห้องทำงานเพื่อเร่งให้เขาหาทางกำจัดดวลไปให้พ้นจากที่นี่ เขาทักท้วงว่าดวลไม่ได้เป็นเด็กเลวร้ายอะไร ออกจะเป็นเด็กดีด้วยซ้ำ น่าจะเก็บไว้ใช้งาน ทั้งขยัน ฉลาด อดทน น่าจะพัฒนาไปเป็นหัวหน้างานได้ เธอไม่สนใจว่าดวลจะดีแค่ไหนขอแค่ให้ไปจากที่นี่เป็นพอ

“ผมคงทำไม่ได้ ขอโทษนะครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”

“งั้นคุณยศก็คงไม่เหมาะกับงานที่นี่” สวาทวิมลยื่นคำขาดถ้ายศไม่จัดการกับดวลตามที่เธอสั่ง คนที่จะต้องไปก่อนใครเพื่อนคือเขานั่นเอง เธอจะให้เวลาเขาตัดสินใจถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น...

เซอร์ไพรส์ของเที่ยงวันคือมารับเดือนสิบไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน และหากเธอไม่รังเกียจเขาขอรับเธอไปกินข้าวแบบนี้ด้วยกันบ่อยๆ เธอไม่ขัดข้องแต่มีข้อแม้ว่าเราสองคนต้องว่างจากหน้าที่หลักของเรา ว่างจากความรับผิดชอบของแต่ละคนและว่างจากชีวิตส่วนตัว นี่คือกฎระหว่างเราจะได้ไม่ต้องผิดใจกัน

“ชัดเจนดีครับ กฎระหว่างเรา”...

กำไลเป็นไข้สูงหมดสติไประหว่างยกสำรับมาตั้งบนโต๊ะ จานอาหารกระเด็นไปคนละทิศละทาง เมฆตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ตะโกนเรียกให้คนมาช่วย แต่เสียงเขาดังไม่พอให้ใครได้ยิน เด็กน้อยตัดสินใจโผลงจากรถวีลแชร์คลานไปหาแม่ที่สลบไสลไม่ได้สติ ถึงได้รู้ว่าท่านตัวร้อนจัด พยายามเขย่าตัวเรียกแต่ท่านได้แค่ปรือตามองแล้วหลับไปอีก เมฆนึกถึงเบอร์โทร.ที่เที่ยงวันจดไว้ให้คลานไปหยิบ

อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 9 วันที่ 10 ก.ค.61

ละคร ข้ามสีทันดร บทประพันธ์โดย กฤษณา อโศกสิน
ละคร ข้ามสีทันดร บทโทรทัศน์โดย กู๊ดโฮป
ละคร ข้ามสีทันดร กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละคร ข้ามสีทันดร ผลิตโดย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด
ละคร ข้ามสีทันดร ออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ