My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 7 วันที่ 8 ก.ค.61

My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 7 วันที่ 8 ก.ค.61

ที่บ้านไกรสร...ไกรสรหยิบเมมโมรีการ์ดจากชิปล็อกออกมาใส่เครื่องอ่าน เจ๊ชบาถามมันได้มาตั้งหลายวันแล้วทำไมเพิ่งเอามาให้ ทัศน์บอกว่ามันปลีกตัวมาลำบาก ไกรสรบอกว่ามันเรียกเงินเพิ่มด้วย

ไกรสรว่าถ้าดูแล้วไม่มีอะไรจะกลับไปตื้บแม่งให้น่วมเลย แต่พอเปิดดูทั้งแม่ทั้งลูกก็ผงะ ทุกคนเงียบอึ้งดูคลิปการคุยกันระหว่างไกรสรกับมิสเตอร์ลีกจนจบ

เจ๊ชบากลัวว่าคลิปจะถูกก๊อบปี้ไว้หรือเปล่า กลัวเรื่องจะปูดออกไป ไกรสรบอกว่าถ้ามันตายไปสักคนก็ไม่มีใครเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ได้



เวลาเดียวกันทัศน์ก็ได้รับโทรศัพท์ ปลายสายบอกว่าเมื่อได้ของแล้วก็ขอให้เลิกยุ่งกับอิสร์เสีย เจ๊ชบาบอกไกรสรว่าถ้าเขาไม่ฆ่ามันก็ต้องซื้อมันอีกคน ไกรสรบอกว่าคนพวกนี้เงินซื้อไม่ได้หรอก ความตายเท่านั้นเป็นคำตอบสุดท้ายและคำตอบเดียวของมัน แล้วไกรสรก็สั่งทัศน์ให้ไปหามาให้ได้ว่าใครเป็นคนทรยศจนถูกถ่ายภาพนั้นออกมาได้

เย็นนี้เองขณะปุ้มกับบรรจงไปขายกับข้าว ทัศน์ก็พาสมุนเกือบสิบคนไปฉุดปุ้ม เกิดยื้อยุดกัน บรรจงถูกตีจนสลบ ไทยมุงทยอยกันมา คณาแหวกคนเข้ามาดู บรรจงรู้สึกตัวบอกคณาว่าพวกนั้นลากปุ้มไปที่ท้ายตลาด คณาขี่รถตามไปทันที

สมบัติเล่นงานปุ้มด่าว่าหลอกให้พาเที่ยวแล้วยังหลอกเอาความลับไปอีก ปุ้มยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ มันไม่เชื่อ คณามาช่วยก็ถูกพวกมันรุม แต่มีคนแจ้งตำรวจไว้ก่อนแล้ว ครู่หนึ่งตำรวจมาพวกมันจึงพากันหนีไป

คณากับปุ้มมาพักที่บ้านอิสร์ เขาตำหนิตัวเองว่าไม่น่าบุ่มบ่ามทำให้ทุกคนเดือดร้อน บอกให้คณากลับไปก่อนแล้วคุยกับปุ้ม

เพื่อความปลอดภัยของปุ้ม อิสร์ขอให้ชาติพาไปอยู่ที่บ้านตนที่กรุงเทพฯ แต่ขณะพาปุ้มไปซื้อของใช้ที่ห้าง ถูกมะเฟืองกับมะนาวเพื่อนของเก๋เห็นจำลุงชาติที่เก๋ส่งรูปให้ดูได้ แอบถ่ายทั้งสองแล้วส่งให้เก๋ เก๋ตามมาเล่นงานถึงห้างหาว่าลุงชาติหลอกลวง

ครู่หนึ่งเจนตามมาที่ห้างเพราะชาตินัดให้มารับปุ้มไปอยู่ที่บ้านอิสร์ เจนอธิบายอยู่นานเก๋จึงสงบลง ขอโทษชาติที่เข้าใจผิด เก๋ดันทุรังจะตามไปด้วย เจนเลยพาไป ที่แท้เก๋จะไปดูเพื่อแน่ใจว่าปุ้มไม่ได้ไปอยู่บ้านชาติ

ooooooo

คณาไม่พอใจที่อิสร์ทำให้ปุ้มกับบรรจงเดือดร้อน คืนนี้ไปซุ่มดูที่บ้านอิสร์เห็นคณาหน้าบวมปูดถามว่าโดนใครทำมา คณาจ้องหน้าอิสร์ระบายความอัดอั้นออกมาว่า

“ผมรัก เคารพ ศรัทธาพี่ที่สุด แต่พี่มันเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ พี่ใช้ปุ้มเป็นสายทำให้ปุ้มกับพ่อโดนเล่นงานเกือบตาย พี่ก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันรักพี่ พี่ยังใช้ความรักที่บริสุทธิ์ของผู้หญิงเป็นเครื่องมือ ใช้เสน่ห์ของความเป็นผู้ช่วยอิสร์ผู้แสนเท่หลอกให้ปุ้มมันไปเสี่ยงชีวิต พี่เคยคิดไหมว่ามันคือคนในท้องถิ่น ยังไงมันก็ต้องอยู่ที่นี่ แต่พี่ทำให้มันต้องทิ้งบ้านทิ้งเรือนหนีตาย พี่มันเลว!”

“ขอโทษเอ็งจริงๆว่ะไอ้ณา พี่ยอมรับว่าพี่ผิดเรื่องนี้พี่จะ...”

“พอเหอะ พี่คิดว่าผมโง่รึไง ที่กรุงเทพฯไอ้ปุ้มมันรู้จักใครที่ไหนนอกจากพี่ พอเมียพี่มาอยู่นี่ พี่ก็ฉวยโอกาสคราวนี้สับหลีกเอาปุ้มไปซุกไว้เป็นเมียน้อย จะได้เอาไว้บำเรอเวลาเข้ากรุงเทพฯใช่ไหม”

“เฮ้ย...บ้าแล้ว ไอ้ณา คิดได้ไงวะเนี่ย”

“เออ ผมบ้า พี่ก็รู้ว่าผมชอบปุ้ม พี่ยังทำแบบนี้กับผมอีก ถึงผมจะจนแต่ผมไม่ได้โง่ให้พี่มาแทงข้างหลังผมแบบนี้ พอกันที ผมกับพี่ขาดกัน”

คณาพรวดออกไป อิสร์เผลอคว้าแขน แต่ถูกสะบัดจนเซเจ็บแผลจนร้อง ได้แต่มองคณาขี่รถออกไปอย่างกลัดกลุ้ม

คืนนี้อิสร์นอนไม่หลับ ปอนด์ถามว่ามีอะไรไม่สบายใจบอกได้ไหมจะได้แบ่งปันความรู้สึกกัน อิสร์บอกว่า  ถ้าจะทุกข์ตนขอทุกข์คนเดียวได้ไหม ปอนด์ตอบทันทีว่าไม่ได้

จนเช้าอิสร์ไม่อยากให้ปอนด์กังวลจึงพาไปเที่ยวชมทับสักกัน

ปอนด์ได้ไปเห็นดอกไม้งาม นกสวย ป่าไม้เขียวชอุ่ม และสัตว์หายากอีกมากมาย ทั้งลำธาร น้ำตก ทุกสิ่งสวยงาม จึงนั่งกินอาหารกันอย่างมีความสุข

เมื่อชมธรรมชาติที่สวยงามล้ำค่ามากมายแล้ว อิสร์บอกว่าที่แห่งนี้กำลังจะถูกเขาสร้างเขื่อน ถ้าสร้างเขื่อนทุกอย่างจะหายไปหมด ข้างหน้าเราจะเป็นที่โดนน้ำท่วมหมด ปอนด์รำพึงว่ามันมหึมามากเลย

“ใช่ มันจะใช้พื้นที่ป่ามหาศาล เพื่อผลได้ที่ไม่คุ้มเลย”

ทั้งสองมองไปเบื้องหน้าต่างเงียบ แต่ในใจมีแต่ความกังวล

ปอนด์ถามว่าทับสักจะกลายเป็นเขื่อนจริงหรือ อิสร์บอกว่าไม่มีทางเราจะสู้ให้ถึงที่สุด

“แล้วเราจะสู้ไหวเหรอคะ”

“ไหวไม่ไหวเราก็จะสู้สุดชีวิต ป่าของประเทศเราเหลือน้อยจนเราไม่ควรยุ่งกะมันอีกแล้วนะ ไม่ว่าป่าผืนไหนทั้งนั้น” ปอนด์ถามว่าแล้วถ้าสู้แพ้ล่ะ “ถ้าแพ้...เราก็สูญเสียทับสัก แต่เราก็จะสู้ต่อ เพื่อรักษาผืนป่าต่อไป ทุกวันนี้ เราก็สู้เพื่อป่าที่เหลือไปเรื่อยๆ เพราะเราเกิดมาเป็นเรา... เป็นแบบนี้”

ปอนด์รับคำอย่างเข้าใจ อิสร์ถามว่าไม่ถามอีกแล้วหรือว่าระหว่างปอนด์กับป่าตนรักอะไรมากกว่ากัน ปอนด์บอกว่าไม่ถามแล้ว

“ยิ่งพี่รักปอนด์ พี่ก็ยิ่งรักป่านะ เพราะถ้าไม่มีป่า จะไม่มีใครอยู่กันได้อีก ยิ่งในเวลาที่เป็นวิกฤติโลกร้อนแบบทุกวันนี้ ป่าคือสิ่งเดียวที่จะช่วยชีวิตทุกชีวิตไว้ได้ แต่เขาก็ยังไม่รู้กัน ยังเกลียดชัง ทะเลาะ ต่อสู้กันไม่สำนึกเลยว่าเรากำลังเดินทางไปสู่หายนะของโลกด้วยกันอยู่เนี่ย”

ปอนด์ยิ่งฟังก็ยิ่งซึ้งกอดอิสร์ไว้ด้วยความรู้สึกท่วมท้น สองหัวใจในความรู้สึกหนึ่งเดียวกัน กอดกันนิ่งเหมือนจะร้องไห้...

ขณะเดินทางกลับทั้งสองเจอออด พัฒน์ เจิมและบุ้ง ร้องกรี๊ดกร๊าดแต๋วแตกกันลั่นป่า ถามได้ความว่ากล้องที่ติดดักไว้ได้รูปเสือกับลูกสองตัวน่ารักมาก

เมื่อกลับไปดูกันที่ทำการอุทยาน อิสร์ถามว่าบอกหัวหน้าพนัสหรือยัง ออดบอกว่าโทร.บอกแล้วหัวหน้าตื่นเต้นดีใจใหญ่เลย

เจิมถามว่าแล้วคณาหายไปไหนไม่เห็นเลย ออดนึกได้บอกว่าไม่เห็นแต่เช้าแล้ว

อิสร์ที่มีเรื่องกับคณาเมื่อคืนหน้าเจื่อน แต่พอนึกได้ก็ยิ้มกลบเกลื่อน

ooooooo

ค่ำนี้อิสร์นั่งดูคลิปครอบครัวเสือที่ดักถ่ายมาอย่างมีความสุข ปอนด์บอกว่าลูกเสือน่ารักดี อิสร์ก็ว่าน่ารัก เมื่อเข้านอนอิสร์ถามปอนด์ว่าอยากมีลูกกี่คน ปอนด์บอกว่าสองคนก็พอหญิงคนชายคน

แต่เมื่อพูดถึงการเลี้ยงลูก อิสร์บอกว่าตนอยากช่วยเลี้ยงด้วย ปอนด์ถามว่าเขาพร้อมแล้วหรือที่จะเป็นคุณพ่อที่กลับจากทำงานต้องมาช่วยเลี้ยงลูกแบบนั้น อิสร์เปรยว่าปอนด์คงอยากอยู่กรุงเทพฯมากกว่าที่นี่ ปอนด์ก็ว่าพี่อิสร์ก็คงอยากอยู่ที่นี่มากกว่าอยู่กรุงเทพฯ...แล้วต่างก็เงียบไปในความคิดของตัวเอง

วันนี้ปอนด์แต่งตัวสบายๆไปตลาดทับสักเพื่อซื้อของและอาหาร เห็นไกรสรกับกรรชิตลงจากรถมีลูกน้องประกบหน้าหลังก็รีบหลบ สงสัยว่าพี่เก้ามาทำอะไรที่นี่ กรรชิตกวาดตาผ่านไป เห็นปอนด์แต่จำไม่ได้ กรรชิตเปรยกับไกรสรว่าประชาชนที่นี่ดูยากจนกันมาก ท่าทางจะทำมาหากินฝืดเคือง

“ทับสักมันแล้งเต็มทีครับ ดินก็เป็นดินที่เสื่อมโทรม ปลูกอะไรก็ไม่ค่อยได้ผล”

ปอนด์รู้สึกว่าไกรสรพูดไม่ตรงกับความจริงแต่ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องของตน จึงเดินไปหาซื้อของในตลาด เห็นแผงขายเสื้อผ้าวัยรุ่นก็เดินไปเลือกซื้อ

จู่ๆฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ขณะกำลังหลบฝนอิสร์ก็ขับรถมารับกลับไป ปอนด์เห็นรางน้ำฝนไม่ตรงปากตุ่มอีกทั้งตุ่มก็ปิดฝา จึงไปเปิดฝาตุ่มและขยับให้น้ำไหลลงตุ่ม อิสร์เห็นนึกสนุกเลยนุ่งผ้าขาวม้าไปเล่นน้ำฝนด้วย สองคนเลยผลัดกันช่วยฟอกสบู่ถูตัวหัวเราะกันคิกคักแข่งกับเสียงฝนและสายน้ำที่โปรยปราย

ฝนตกหนักทั้งคืน ตลาดทับสักน้ำท่วมถึงเหนือเข่า ชาวบ้านลุยน้ำไปมากันลำบากมาก

ไกรสรพากรรชิตนั่งรถยกสูงมาดูสภาพ กรรชิตพูดว่าอาจเพราะระบบระบายน้ำไม่ดีขยะเข้าไปอุดตันน้ำเลยต้องรอการระบาย ไกรสรบอกว่านี่มันยังไม่ถึงหน้าฝน ถ้าถึงหน้าฝนแล้วประชาชนก็ต้องลำบากกันมาก กรรชิตถามว่าเพราะอย่างนี้ใช่ไหมจึงจำเป็นต้องสร้างเขื่อน ไกรสรว่าถ้าไม่จำเป็นเราก็ไม่อยากสร้างหรอก

ชาติขับรถกระบะยกสูงผ่านหน้าบ้านอิสร์ ตะโกนบอกว่าน้ำท่วมตลาดตนจะไปดูหน่อย อิสร์สงสัยว่าฝนตกแค่นี้จะท่วมได้ยังไงจะไปดูด้วย ปอนด์ได้ยินขอไปด้วยคน

ไปถึงตลาดเห็นน้ำท่วมจริงๆ และถนนหนทางในชุมชนน้ำก็ท่วมสูงถึงเข่า ชาติถ่ายคลิปสภาพน้ำท่วมไว้ แปลกใจว่านอกเมืองน้ำกลับไม่ท่วม พอมาถึงสะพาน ชาติจอดรถลงไปดูเห็นประตูน้ำปิดสนิท

ฝั่งนอกเมืองแล้ง แต่ฝั่งในเมืองน้ำท่วม หมายความ ว่าอย่างไร ทำไมไม่เปิดระบายให้น้ำออกไป? ชาติถ่ายคลิปไว้อีกเพื่อใช้เป็นหลักฐานรายงาน ส่วนอิสร์และปอนด์ต่างนิ่งงง

ooooooo

ต่อมาปรากฏว่าที่บริเวณปากทางถนนที่ถูกน้ำท่วม ไกรสรนำรถติดแผ่นป้าย “ไกรสรอยู่เคียงข้างชาวทับสักทุกคน” และ “น้ำท่วมน้ำแล้งจะหมดไปเลือกไกรสร” ไปประกาศและแจกของช่วยชาวบ้าน

กรรชิตถามว่าเป็นแบบนี้ทุกปีเลยหรือ ไกรสรบอกว่าปีหลังๆนี้ยิ่งแย่ น้ำท่วมหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงหน้าแล้งก็แล้งหนักปลูกอะไรไม่ได้ ป่าก็เสื่อมโทรม เขื่อนก็ไม่มี ชาวบ้านตาดำๆต้องบุกรุกป่าหาของป่ามายังชีพ ทั้งที่ไม่มีอะไรเหลือให้หากันอยู่แล้ว

ทั้งสองเห็นพ้องกันว่าต้องสร้างเขื่อน ไกรสรบ่นว่ามีคนคอยขัดขวางตลอดแต่ตนก็จะพยายามต่อไป

กรรชิตรับปากว่าตนจะช่วยอีกแรง

“ยินดีมากครับที่ได้คนมีวิสัยทัศน์อย่างคุณกรรชิตและธนาคารของคุณมาสนับสนุน”

ไกรสรสบตากับเจ๊ชบาอย่างลิงโลดที่กรรชิตตกหลุมพรางตนโดยง่าย

วันเดียวกันดวงตากับสามีใหม่พาแก้วขวัญ ลูกแฝดของพนัสมาขอบคุณเขาที่ฝากลูกเข้าเรียน โรงเรียนประจำที่เขาเคยเรียนได้ พนัสบอกว่าเพื่อนตนเป็นสมาชิกสมาคมศิษย์เก่าทั้งนั้น เขาพูดกันว่าแก้วกับขวัญสอบข้อสอบพิเศษของพวกเขากลางเทอมได้เอง ไม่ต้องใช้เส้นสายอะไรเลย

ช่วงบ่ายพนัสเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่ทำการอุทยานทับสัก แจ้งแก่ที่ประชุมท่าทางเคร่งเครียดว่า

“เรื่องน้ำท่วมตลาดและประตูน้ำที่ผิดปกติผมติดต่อกับหน่วยงานที่รับผิดชอบไปแล้ว เขาบอกว่าขอดูรายละเอียดก่อนแล้วจะมาชี้แจงวันพุธ...เอาล่ะ ผมขอปิดการประชุมนะครับ” พอทุกคนจะแยกย้าย พนัสถามว่าไม่เห็นคณามาทำงานหลายวันแล้วใครรู้บ้างว่าเขามีปัญหาอะไร อิสร์อาสาจะไปตามให้

พนัสบอกทุกคนให้นั่งลงก่อนตนมีเรื่องด่วนต้องหารือ “เย็นนี้ประชุมที่ท่าน้ำ เตรียมอาหารเครื่องดื่มให้ พร้อม ผมเป็นเจ้ามือเอง” บุ้งเฮที่จะได้กินฟรี ชาติถามว่าหัวหน้ามีเรื่องอะไรดีๆหรือ

“ลูกๆผมเข้าเรียนโรงเรียนเก่าของผมที่กรุงเทพฯได้ มันก็ต้องฉลองกันหน่อย เอาน่ะ เย็นนี้เจอกัน”

“โรงเรียนเก่าหัวหน้าเข้าก็ยาก ค่าเรียนก็แพง เข้าได้สองคนพร้อมกันเลย เจ๋งจริงๆครับหัวหน้า” ออดชม


อิสร์ฟังอย่างคลางแคลงใจ และเมื่อเริ่มงานได้ไม่นานอิสร์ก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำ เขาเริ่มแซะเรื่องลูกของพนัสเข้าโรงเรียนประจำของลูกไฮโซที่ทั้งเข้ายากและแพงมากต้องทั้งเก่งและเงินหนา หัวหน้ารวยจังส่งลูกเรียนได้ถึงสองคนค่าใช้จ่ายคงเป็นแสน

พนัสบอกว่าตนไม่ต้องจ่ายอะไร สามีใหม่ของดวงตาฐานะดีเป็นคนดูแลให้ ตนไม่มีตังค์หรอก

“โกหก!! วันก่อนก็ให้เงินลุงชัยแกไปลงทุนทำไร่นาสวนผสม ตลกไหม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ชาวบ้านยืมเงินไถ่ถอนที่ดินจากนายทุนได้ด้วย แล้ววันนี้เอาลูกเข้าโรงเรียนดังๆได้สบาย หัวหน้ามีแหล่งเงินทุนที่ไหนแนะนำผมบ้างสิครับ เอ๊ะ...หรือมีใครให้เงินทองมารึเปล่า”

อิสร์จับโกหกและประชดอย่างไม่เกรงใจ จนชาติกับปอนด์ต้องรีบพากลับไป พนัสไม่ได้แสดงอาการโกรธเคือง แต่บรรยากาศงานฉลองก็กร่อยไปถนัด

กลับถึงบ้านพักแล้ว อิสร์ยังคุกรุ่นเรื่องร่ำรวยผิดปกติของพนัส ปอนด์ติงว่าหัวหน้าเป็นคนดีรักทับสักมากบ้างานจนเมียทนไม่ได้ไม่ใช่เหรอ และวันนี้หัวหน้าก็ใจเย็นมาก ถ้าเป็นตนถูกกล่าวหาแบบนี้มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่

อิสร์ตะแบงว่าเพราะเขารู้ตัวว่าผิด เป็นต้นเหตุทุกอย่างที่ทำให้ตนทุกข์ใจอยู่นี่ไง ทั้งเรื่องให้หาหลักฐานจนตนต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปถ่ายคลิปไกรสรกับนายทุนต่างชาติมา แล้วพอเกิดเรื่องยังขโมยเมมโมรีการ์ดไปอีก คณาก็โกรธตนที่เอาปุ้มไปเดือดร้อนและบรรจงก็พลอยซวยไปกันหมด สมแล้วที่คณาไม่ให้อภัยตน

ปอนด์ติงว่าอาจเป็นคนอื่นเอาไปก็ได้เขามีอคติกับหัวหน้าเลยพาลเกลียด อิสร์แย้งว่าตนไม่ได้เกลียด รักเขาด้วยซ้ำถึงได้ผิดหวังขนาดนี้ เพราะคนเราไม่มีวันผิดหวังคนที่เราเกลียด เราผิดหวังคนที่เรารักต่างหาก

เมื่อปอนด์กลับไปทำงาน ได้ยินกรรชิตสั่งเลขาให้ปรินต์ข้อมูลผลวิจัยที่ไกรสรส่งมาเรื่องเขื่อนทับสักเพราะตนต้องเอาเข้าเสนอที่ประชุม ปอนด์ถามเลขาจึงรู้ว่ากรรชิตเร่งเสนอเพื่อให้เป็นหนึ่งในโปรเจกต์เด่นของปีหน้า

ปอนด์เดินอ้าวออกไปหามุมโทรศัพท์บอกอิสร์ให้ส่งรูปแม่เสือกับลูกในป่าและไฟล์การปิดประตูระบายน้ำที่ผิดปกติมาด่วน

การประชุมบอร์ดธนาคารเริ่มขึ้นแล้ว กรรชิตฉายสไลด์น้ำท่วม ผืนดินที่แห้งแล้งและชาวบ้านที่ต้องคอยรับการช่วยเหลือจากไกรสรนักการเมืองท้องถิ่นอยู่ตลอดเวลา เป็นเหตุผลที่จำเป็นต้องสร้างเขื่อนทับสักโดยเร็ว

ที่ประชุมปรบมือให้กับข้อมูลที่ครบถ้วนและเหตุผลในการสร้างเขื่อน

แต่ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูรัวขึ้น ปอนด์กระหืด กระหอบเข้ามาบอกว่าตนมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติทับสักมาเรียนให้ทราบ กรรชิตด่าว่าบ้าไปแล้วหรือนี่ไม่ใช่หน้าที่ของเธอ เธอถูกสามีล้างสมองไปแล้ว ปอนด์บอกว่าตนทำหน้าที่ของพนักงานที่ไม่อยากให้ธนาคารของเราก้าวไปในเส้นทางที่ผิด กรรชิตด่าว่าจะบ้าหรือ นี่ไม่ใช่กิจของพนักงานธรรมดาๆกระจอกๆจะมาพ่นอะไรที่ไร้สาระแบบนี้ แต่กรรมการอีกสองคนอยากฟัง ทั้งยังปกป้องปอนด์ว่า



“คุณปภาพินธุ์ไม่ใช่พนักงานธรรมดาๆกระจอกๆนี่ครับ เธอทำงานสำคัญในแผนกต่างประเทศ มีลูกค้าชื่นชมมากมาย แล้วที่สำคัญในธนาคารของเรา ไม่มีใครธรรมดาๆ หรือกระจอกๆเลยครับ คุณกรรชิต”

กรรชิตไม่พอใจ จ้องหน้ากรรมการผู้นั้นแล้วหันมาจ้องปอนด์ ซึ่งปอนด์ก็จ้องตอบอย่างไม่หวั่นไหว

ooooooo

ปอนด์เปิดทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวให้ที่ประชุมดู บอกว่าเป็นทั้งของส่วนตัวและเพื่อนสามี ไม่ใช่งานวิจัยของใคร ยังไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์จากนักวิชาการแต่ตนอยากให้ทุกท่านได้ชม

เมื่อปอนด์เปิดทิวทัศน์สวยงามบอกว่าเหมาะแก่การท่องเที่ยว กรรชิตก็โต้ว่าเราไม่ได้คุยเรื่องการท่องเที่ยว เราคุยเรื่องเขื่อน แต่ไม่ว่ากรรชิตจะโต้แย้งอย่างไรปอนด์ก็แก้ได้ทุกประเด็น จนสุดท้ายเธอพูดกับที่ประชุมแสดงความซื่อสัตย์จริงใจในฐานะพนักงานตัวเล็กๆคนหนึ่งขององค์กรว่า

“ปอนด์มีความฝันที่จะเห็นธนาคารของเรามีชื่อเสียงว่าเป็นธนาคารที่มีธรรมาภิบาล ประชาชนสามารถเชื่อถือ พึ่งพิง และศรัทธาในมาตรฐานการทำงานที่ดีมีความซื่อสัตย์สุจริต ลูกค้าธนาคารมีความสบายใจว่าได้ใช้ธนาคารที่ไม่สนับสนุนโครงการที่เป็นที่สงสัย เคลือบแคลงไม่โปร่งใส และในขณะเดียวกันก็เป็นธนาคารที่ช่วยส่งเสริมสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง เช่นการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ การทำ ชลประทานท้องถิ่นขนาดกลางและขนาดเล็ก ดูแลต้นไม้และป่า และการช่วยอนุรักษ์ระบบนิเวศให้ป่าของเรา เช่นการดูแลนกเงือก และเสือโคร่งในประเทศไทย เป็นต้น”

พอรุ่งเช้าปอนด์ส่งคลิปการพูดในที่ประชุมของตนเมื่อวานมาให้ดู ทั้งอิสร์ พนัส ชาติและคนอื่นๆในสำนักงานกรูกันจ้องจอคอมฯที่โต๊ะอิสร์ พอดูจบทุกคนเฮ ปรบมือชื่นชมปอนด์ พนัสถึงกับพูดว่า

“เยี่ยมเลยสะใภ้ของผม ฮ่ะๆๆ อิสร์ คุณโชคดีมากเลยนะที่มีเมียเป็นปอนด์เนี่ย”

แต่ขณะที่ทุกคนกำลังชื่นชมปอนด์นั้น แม่ของคณาก็พรวดเข้ามาถามไปร้องไห้ไปว่า

“มีใครเห็นไอ้ณาบ้าง มันถูกฆ่าไปแล้วแน่ๆ มันเคยพูดว่าสักวันมันต้องตาย ใครก็ได้ช่วยตามไอ้ณากลับมาที”

อิสร์โทรศัพท์ตามหาก็ไม่มีสัญญาณตอบรับเพราะปิดเครื่อง พนัสว่าไปกินเหล้าเมาแล้วนอนบ้านเพื่อนหรือเปล่า แม่บอกว่าคณาไม่เคยเหลวไหล จะไปไหนหรือค้างที่ไหนก็บอกแม่ทุกครั้ง เมื่อวานก็โดนชกหน้าแหกกลับมา ไม่รู้ว่าจะถูกอุ้มฆ่าเผานั่งยางหรือเปล่า ชาติถามว่าคณาไปตามหาปุ้มที่กรุงเทพฯหรือเปล่า ทำให้อิสร์ยิ่งรู้สึกผิด บอกทุกคนว่า “คณามันเป็นแบบนี้ เพราะผมเอง”

ทุกคนช่วยกันตามหาทั้งที่วัด โรงพยาบาล โรงพัก และที่กรุงเทพฯ ทุกแห่งยืนยันว่าไม่มีใครเห็นคณา

ooooooo

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 7 วันที่ 8 ก.ค.61

ลมไพรผูกรัก บทประพันธ์โดย อุธิยา
ลมไพรผูกรัก บทโทรทัศน์โดย ปราณประมูล
ลมไพรผูกรัก กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ลมไพรผูกรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
ติดตามชมละคร ลมไพรผูกรัก ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ