My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 6 วันที่ 20 มิ.ย.61

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 6 วันที่ 20 มิ.ย.61

“หลงฝูงมาตัวนึงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะ แต่มันตั้งใจมาอวยพรเธอ...หายไวๆนะแหวนพลอย”

“คุณพัสกรพับให้แหวนพลอยเหรอคะ” แหวนพลอยรับมาอย่างตื้นตันใจ ทั้งสองสบตากันนิ่ง...นาน...

ขณะกำลังเคลิ้ม พลันอารมณ์ก็กระจุยเมื่อเสียงกวงทักขึ้นอย่างไม่พอใจว่า มองหาขี้ตากันอยู่รึไง?! แล้วกวงก็ไล่แหวนพลอยให้ไปล้างหน้าแปรงฟัน ซ้ำยังบ่นว่าสกปรกคราบน้ำลายเต็มแก้ม แหวนพลอยจึงผละไป เหลือแต่กวงกับพัสกรยืนเผชิญหน้ากัน กวงพูดขึงขังเอาเรื่องว่า

“ผมโกรธนะ โกรธมากด้วย แต่ผมจะไม่ต่อยคุณ เพราะผมโตแล้ว ผมมีสติพอผมระงับอารมณ์ได้ แต่คุณก็ควรทำตัวให้สมกับเป็นผู้ใหญ่ รู้ว่าใครเป็นใคร แหวนพลอยเป็นแฟนผม อย่ามาใกล้อย่ามาให้ความหวัง กลับไปดูแลคุณขวัญกมลแฟนคุณให้ดี ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ ก็อย่าทำให้คนที่รักคุณต้องเจ็บอีก”



พูดแล้วกวงหันหลังเดินห่างออกมา พูดกับตัวเองเบาๆอย่างทึ่งมาก “โคตรเท่เลยเว้ยไอ้กวง”

ฝ่ายพัสกรฟังกวงแล้วอึ้ง...หนักใจ ตัดสินใจซื้อดอกไม้ไปหาขวัญกมลต้องตั้งหลักทำใจให้สดชื่นก่อนเข้าไปหาเธอในห้อง ไม่วายถูกประชดว่ายังจำทางได้หรือ พัสกรขอโทษเรื่องที่สนามบิน เธอบอกว่าไม่เป็นไร ตนชินแล้วกับการถูกทิ้ง

พัสกรเห็นรอยกรีดที่ข้อมือ พอถามเธอก็บอกว่าตนแค่อยากรู้ว่ามันจะเจ็บแค่ไหน แล้วพูดยิ้มๆว่า

“จริงๆมันไม่ได้เจ็บเท่าไหร่ ถูกแฟนทิ้งเจ็บกว่าอีก ขวัญน่าจะลองอีกทีตรงนี้” แล้วเอานิ้วกรีดที่คอพัสกรรู้สึกผิดที่เธอทำร้ายตัวเองเพราะตน ขวัญกมลถามว่าอยากให้ตนทำอีกไหม มากกว่านี้ก็ทำได้ รำพึงว่า

“แต่คราวหน้าถ้าเต้มาช่วยไว้ทันเหมือนคราวนี้ มันจะเป็นยังไง พัสอยากให้ขวัญตายไหม?” พัสกรขอร้องให้เธอตั้งสติหน่อยอย่าทำร้ายตัวเองเพราะตนเลย “ขวัญก็ไม่รู้เหมือนกัน ขวัญไม่รับปากเพราะมันขึ้นอยู่กับพัส พัสเป็นคนเลือกว่าจะให้ขวัญอยู่หรือไป” เธอโผกอดเขาอ้อน “ชีวิตขวัญอยู่ในกำมือของพัสคนเดียวนะคะ”

พัสกรถูกขวัญกมลมัดมือชกนิ่มๆก็อึ้ง อึดอัด พูดไม่ออก

ooooooo

กุ๊งกิ๊งเคี่ยวเด็กๆให้เต้นเพื่อจะเอาชนะทีมหงส์เหิน ให้ได้ พอดีเจบีพาเอวากับข้าวปุ้นที่เพิ่งชนะการประกวดแดนซ์ซิ่งคอนเทสต์มาสมัครเข้าทีม ฉัตรชัยมั่นใจว่าได้สองคนนี้มาทีมตนต้องชนะหงศ์เหินเด็กบ้านนอกแน่นอน

ฝ่ายทีมหงส์เหิน พัสกรกับแหวนพลอยให้มาร์ค จ่อย กับจุ๊บซ้อมกันจริงจัง แต่เด็กๆไม่มีกำลังใจเพราะทีมไม่ครบยังไงก็ประกวดไม่ได้ มาร์คถามว่า “เราจะซ้อมหนักไปทำไม ถ้าไม่ได้แข่ง”

“ต้องได้แข่งสิ” เสียงน้ำฝนแทรกขึ้น แตงกวาที่เดินตามมาก็ถามพัสกรว่า

“รับพวกเราเป็นสมาชิกเพิ่มไหมคะ...ครูพัส”

พัสกรดีใจมาก คุยกับแม่แตงกวาจึงรู้ว่าแหวนพลอยไปตื๊อจนแม่ต้องยอมเพราะถ้าไม่ยอมก็คงตื๊อไม่เลิกตั้งแต่เช้ายันค่ำ และแตงกวาก็อยากมาเรียนด้วย

“เธอทำเพื่อฉันอีกแล้วเหรอ” พัสกรพึมพำซึ้งใจ แม่แตงกวาบอกว่ามีแฟนเกื้อหนุนแบบนี้โชคดีนะ “แหวนพลอย ไม่ใช่แฟนของผมหรอกครับ” พัสกรตอบแล้วเมินอย่างทำใจ

กวงรู้ก็เหน็บแหวนพลอยว่าเหนื่อยฟรี ขอบคุณสักคำก็ไม่มี แหวนพลอยสวนทันควันว่า

“ฟรีตรงไหน จ่อย จุ๊บ มาร์คได้ประกวด น้ำฝนกับแตงกวาก็ได้กลับมาเต้นอีกครั้ง เด็กห้าคนกำลังมีความสุข เหนื่อยยังไงก็คุ้ม” กวงถามว่า สาบานว่าไม่ได้พูดเพื่อปลอบใจตัวเอง? “ถ้าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง มันก็ต้องมีผิดหวังอยู่แล้วล่ะแต่ถ้าคิดว่าเราทำเพื่อคนอื่น มันก็มีแต่ได้กับได้ ได้ตั้งแต่ให้ไม่ต้องรอใครมาขอบคุณ...”

กวงขยับปากยิบๆ แหวนพลอยดักคอว่า “ไม่ต้องมาแซวว่าเราโลกสวยเลยนะ เพราะเราสวยทั้งหน้าทั้งตัวทั้งใจ...งานนี้เราทุ่มเต็มที่ เพื่อเด็กๆ ใครอยากเต้นต้องได้เต้น ใครอยากประกวด ก็ต้องได้ประกวด”

แม้เวลาซ้อมจะน้อยแต่พัสกรบอกเด็กๆว่าขอให้ทุกคนทำเต็มที่ ให้ลืมทุกอย่างต้องพร้อมเกิน 200 เปอร์เซ็นต์ถึงจะมั่นใจได้ แต่จ่อยถอดใจเมื่อเจอคู่แข่งที่น่ากลัว บอกว่าท่าของเราดูกระจอกไปเลย

เมื่อทีมงานเรียก ทีม 1033 ให้สแตนด์บาย แหวนพลอยบอกเด็กๆว่าตาเราแล้ว ไม่ต้องตื่นเต้น ให้ใจเย็นๆ จ่อยบอกพัสกรว่า เมื่อสักครู่เขาตีลังกากันสวยมากเลย

“ท่าของพวกเราก็สวยนะ เราช่วยกันคิดมาดี คิดแค่ทีมเรา 5 คน คนอื่นช่างมัน ไม่ต้องแคร์ เอาให้มันเต็มที่ปล่อยให้สุด ออกไปสนุกเหมือนที่เราซ้อมมาไม่ต้องกลัว พร้อมนะ...สู้!!”

“สู้!!!” ทุกคนตะโกนพร้อมกัน พอดีทีมงานเรียกทีม 1033 แหวนพลอยขานรับว่าพร้อมแล้ว บอกเด็กๆทุกคนให้เต็มที่เลยนะ แต่เต้ก็พูดทำลายขวัญว่า อย่าลืมว่าถ้าไม่ผ่านก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านเลยนะ

“กลับบ้านเลยเหรอ” จ่อยจ๋อย บอกว่าตนไม่อยากกลับบ้านแต่ท่าเต้นของพวกเราสู้เขาไม่ได้นะเพราะจ่อยใจฝ่ออยู่แล้วจึงทำจังหวะพลาดท่าผิดจนร้องไห้ รู้สึกแต่ว่าเราสู้เขาไม่ได้ สู้ไม่ได้

“มันมีอีกตั้งหลายเวทีให้เราพิสูจน์ความสามารถ เรามาซ้อมกันใหม่ ซ้อมให้เยอะกว่าเดิม แล้วไปประกวดที่เวทีอื่นกัน” จ่อยบอกว่าเวทีอื่นก็มีคนอื่นที่เก่งกว่า “แล้วไง เขาเก่งเพราะอะไรเพราะเขาซ้อมหนักใช่ไหม ถ้าเราอยากเก่งเหมือนเขา เราก็ต้องซ้อมเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าพอเห็นคนอื่นเก่งกว่าเราก็ถอดใจง่ายๆ จ่อยเคยสู้มาตั้งเท่าไหร่ อย่าเพิ่งยอมแพ้ เราต้องพยายาม เราต้องทำได้”

จ่อยถามว่าแล้วครูพัสทำได้หรือเปล่า ถ้าครูทำได้ตนถึงจะเชื่อว่าตนก็ทำได้ แล้วจ่อยก็เอาโทรศัพท์มาเปิดคลิปให้ดู เต้ถามพัสกรว่าจะให้โทร.ตามจันทิมาไหม เพราะท่านี้เขาต้องเต้นกับจันทิมา น้ำฝนเสนอให้ครูพัสเต้นกับพี่แหวนพลอยเลย

พัสกรบอกว่าแหวนพลอยไม่เคยซ้อมไม่รู้ท่า แหวนพลอยบอกว่าคลิปนี้ตนดูไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง หลับตาก็ยังเต้นได้ เด็กๆเชียร์ให้พี่แหวนพลอยเต้นกับครูพัส

เต้แย้งว่าท่านี้ไม่ใช่แค่ดูจากคลิปก็เต้นได้หรืออยากเต้นก็เต้นได้เลย ไม่งั้นพลาดขึ้นมาจะแย่กว่าเก่า ทำให้แหวนพลอย ลังเล แต่พัสกรแทรกขึ้นว่า

“ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง...มา ลองดู”

เต้ได้แต่ทำหน้าหนักใจ แต่พอเพลงขึ้นแหวนพลอยก็เต้นได้อย่างจันทิมาเต้นในคลิปจนพัสกรพึมพำ “เธอเต้นได้จริงๆ” แต่พอถึงท่าที่พัสกรต้องยกแหวนพลอยขึ้น เขากลับยกเธอได้เพียงเล็กน้อยแล้วเจ็บเข่าจนล้มลง ทุกคนช็อก!

แต่พัสกรไม่ยอมแพ้ขออีกรอบ เต้บอกว่าอย่าดันทุรังเดี๋ยวเข่าจะพังกว่านี้ พัสกรเห็นสายตาเด็กที่มองอย่างผิดหวังก็ลุกเขยกออกจากห้อง แหวนพลอยจะตามไปเต้ดึงแขนไว้บอกว่า “ให้ไอ้พัสมันอยู่คนเดียว” แต่แหวนพลอยดึงแขนตัวเองออก บอกว่า “เดี๋ยวให้เขาไล่แหวนพลอยเองค่ะ” แล้วตามพัสกรไป

แต่พอแหวนพลอยไปให้กำลังใจ พัสกรกลับไม่พอใจบอกว่าอย่าทำให้ตนสมเพชตัวเองมากไปกว่านี้เลย ตนดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องมาทำอะไรเพื่อตนอีกแล้ว เข้าใจไหม พูดจบก็เดินไปเลยทิ้งให้แหวนพลอยยืนมึนอยู่ตรงนั้น

พอพัสกรกลับไปหาขวัญกมล เธอเป็นห่วงเป็นใยนวดให้ผ่อนคลาย พูดอย่างละอายใจว่าพัสกรดูแลตนมาตลอด ที่แล้วมาตนมัวแต่อ่อนแอ ต่อไปนี้ตนขอโอกาสแก้ตัวใหม่จะไม่อ่อนแอให้เขาลำบากใจอีกแล้ว รำพึงรำพันว่า

“ขวัญยอมแพ้แล้วนะพัส ยอมพัสทุกอย่าง ขวัญจะไม่ห้าม ไม่ขวางไม่ฟูมฟายเรียกร้องอะไรอีก ถ้าพัสอยากเต้นขวัญจะคอยเชียร์ ถ้าพัสอยากสอน ขวัญจะมาช่วยดูแลเด็กๆให้ ขวัญจะซัพพอร์ตสุดใจ ขอแค่พัสมี ความสุข ขวัญก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว...ขวัญจะยืนข้างๆพัสเหมือนเดิมนะคะ ขอให้อยู่ตรงนี้นานๆเพื่อพัสแล้วขวัญยอมได้ทุกอย่าง ขวัญเป็นของพัส...เป็นของพัสตลอดไป เรามีกันและกันนะคะพัส”

 ขวัญกมลออดอ้อน ยั่วยวนจนพัสกรเคลิ้มจูบกันดูดดื่ม แหวนพลอยยืนอยู่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด สมองสับสน อื้ออึง ชาไปทั้งตัว น้ำตาไหลโดยไม่ได้ร้องไห้ แหวนพลอยรีบปาดน้ำตาถอยออกไปอย่างทนดูไม่ได้

ooooooo

ในขณะที่แหวนพลอยเจ็บช้ำอย่างที่สุด เต้ก็แทรกเข้าไปทำเป็นรู้ใจเห็นใจกระทั่งลูบผมปลอบโยนจนแหวนพลอยร้องไห้ ขวัญกมลควงพัสกรมาเจอ เข้ามาถามว่าสองคนทำอะไรกัน ทั้งสองตกใจผละจากกัน

ขวัญกมลบอกพัสกรว่าแหวนพลอยร้องไห้ท่าทางไม่ดีเลย ให้เขาพักตรงนี้ก่อนตนจะไปคุยกับเต้และแหวนพลอย เอง พัสกรมองตามขวัญกมลไปพึมพำ “แหวนพลอยร้องไห้ทำไม”

คืนนี้ขณะแหวนพลอยอยู่ในครัวขวัญกมลเข้าไปพูดคุยอย่างสนิทสนม ยอมรับว่าที่แล้วมาตนทำตัวไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่แต่ตอนนี้ตนปรับตัวแล้ว จะไม่ยอมให้ความหึงหวงงี่เง่ามาครอบงำอีก ชวนเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม แหวนพลอยอยากให้ตนช่วยอะไรบอก

ได้เลย ขอโอกาสตน ตนพยายามที่สุดแล้วที่จะเป็นคนดีเหมือนเธอบ้าง

ขวัญกมลพยายามพูดเอาอกเอาใจแหวนพลอยจนแหวนพลอยทำหน้าไม่ถูก

ส่วนเต้ก็คุยกับพัสกรให้เขาตัดสินใจให้ชัดเจนสักที ให้มันเจ็บแค่หนึ่งคนไม่ใช่สองสามคนคาราคาซังอยู่อย่างนี้ บอกพัสกรก่อนลุกไปว่า

“ขวัญเขาสูญเสียมาเยอะแล้ว...ตัดสินใจดีๆนะไอ้พัส”

พัสกรคิดหนัก ดูนกกระเรียนที่แหวนพลอยพับให้ คิดถึงคำพูดของขวัญกมลที่ว่าชีวิตตนอยู่ในกำมือเขาคนเดียว พัสกรบอกตัวเองว่าอย่าทำให้ใครร้องไห้อีก เอานกกระเรียนกระดาษใส่ลิ้นชักบอกตัวเองว่า

“ชัดเจนสักที”

เมื่อพัสกรตัดสินใจแล้ว เขาทำทุกอย่างตามขวัญกมล อาหารการกินที่เคยห้ามเด็กๆกินพิซซ่ากับน้ำอัดลมเพราะทำให้อ้วน พอขวัญกมลซื้อมาเขาก็กินอย่างเอร็ดอร่อย ซ้ำชวนเด็กๆกินกันด้วย

แหวนพลอยพยายามเตือนก็ถูกพัสกรพูดอย่างไม่แยแสว่า อาหารขยะแต่อร่อย ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้ พัสกรกินจนแหวนพลอนเตือนว่าเดี๋ยวปวดท้องเพราะต้องซ้อมอีก

“เธออายุเท่าไหร่ จู้จี้จุกจิกยังกับคนแก่น่ารำคาญ ขวัญอุตส่าห์ซื้อมาฝาก ถ้าเธอไม่อยากกินก็ไปไกลๆเลย เกะกะ” แล้วทั้งชวนและแย่งกันกินกับเด็กๆอย่างสนุกสนาน

 แหวนพลอยเสียใจมากเดินออกไปเลย กวงตามไป แหวนพลอยตัดบทไม่ให้กวงพูดอะไร แต่กวงก็ยังขอนิดหนึ่ง ชี้ไปที่มุมกินข้าว

“โน่นน่ะตัวจริง รักจริง เด็ดจริง เขามาเวนคืนพื้นที่ของเขา หันมามองตัวเรา แมงวันตอมหึ่งแล้วเห็นไหมหัวเน่าขนาดนี้หน้าด้านอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วนะ ต้องไปแล้วนะแหวนพลอย เกะกะ น่ารำคาญ เข้าใจไหม”

แหวนพลอยมองไปที่กินข้าว พึมพำกับตัวเองอย่างตัดสินใจแล้วว่า “หรือเราควรไปจริงๆ”

ooooooo

ฉัตรชัยได้ข่าวว่าทีมหงส์เหินไม่ผ่านการออดิชันตั้งแต่รอบแรก ก็สะใจมาก บอกกุ๊งกิ๊งกับเจบีว่า

“แพ้แบบนี้มันง่ายไป เงียบไป ไม่สะใจ ไม่สนุกเลย มันต้องแพ้เป็นข่าว แพ้ออกสื่อ แพ้ต่อหน้าฝูงชน ให้ทุกคนบนโลกรู้ว่าไอ้พัสกรมันสู้ฉัตรชัยไม่ได้...โลกต้องเห็นความพินาศย่อยยับของไอ้พัส หงส์เหินต้องพ่ายแพ้ราบคาบมันยอมศิโรราบให้แก่แชมเปี้ยนแดนซ์”

ฉัตรชัยระเบิดหัวเราะอย่างผยองสุดขีด

พัสกรพยายามซ้อมเต้น มีขวัญกมลนั่งดูอย่างตั้งใจ แต่พอถึงท่ายากที่เขาเคยทำได้ เขากลับทำไม่ได้และล้มลง ขวัญกมลรีบเข้าพยุงอย่างห่วงใย

ทันใดนั้นเอง เต้วิ่งเข้ามาบอกข่าวดีว่า กองประกวดโทร.มาว่ามีทีมนึงใน 20 ทีมสุดท้ายที่ผ่านรอบออดิชันขอถอนตัว ทีมเราเลยได้เข้ารอบแทน ขวัญกมลดีใจมาก แต่พัสกรกลับนิ่ง เต้ถามว่าไม่ดีใจหรือ

“ผมต้องฝึกให้หนักกว่านี้” พัสกรบอก

เต้เสนอว่าถ้าเขายังทำไม่ไหวก็ให้บอก เผื่อตนจะสอนแทน เห็นพัสกรสีหน้าหนักใจ เต้ถามว่า

“พัสไม่ไว้ใจเราเหรอ พัสคิดว่าเราอยากแย่งเด็กพัสเหรอ...ถ้านายรู้สึกแย่เราก็เสียใจ ขอโทษ”

พัสกรบอกว่า “ไม่เกี่ยวกับไว้ใจหรือไม่ไว้ใจแต่มันใกล้จะแข่งขันแล้วนายมาช่วยสอนเหอะ ฝากนายด้วยนะเต้”

“เราจะไม่ทำให้นายผิดหวัง ไอ้พัส”

พัสกรยังพยายามซ้อม บอกตัวเองว่าเราต้องทำให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่คิดทำให้ยิ่งหงุดหงิด

แต่แล้วจู่ๆ เบน อิสร์ อคิน โขงก็เดินดาหน้าเข้ามา พัสกรระแวงถามว่าแหวนพลอยโทร.ไปบอกใคร อิสร์บอกว่าพวกตนคิดถึงเขาเลยมาหา เบนบอกว่า พวกตน เพียงคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ นานแล้วเราไม่ได้ใช้เวลาด้วยกัน พวกตนคิดถึงจะแย่แล้ว

เพื่อนๆชวนกึ่งบังคับให้พัสกรไปรำลึกความหลังกัน เมื่อพัสกรไม่มีอารมณ์ไปก็พากันหิ้วไปจนได้

เพื่อนๆพาพัสกรไปที่เกมโซนในห้าง พาไปเล่นเครื่องเล่นกันเหมือนสมัยเด็กแล้วยังพาไปห้องคาราโอเกะร้องเพลงและเต้นกันอย่างครึกครื้น ดึงพัสกรออกไปร้อง และเต้นด้วย

พัสกรลืมทุกอย่างร้องและเต้นกับเพื่อนจากความรู้สึกอินไปกับเพลงอย่างปลดปล่อยเต็มที่

เป็นที่อัศจรรย์ เมื่อพัสกรสามารถเต้นท่าที่เต้นไม่ได้อย่างคล่องแคล่ว เขาร้องอย่างดีใจสุดๆ

“กูทำได้แล้ว...กูเต้นได้แล้ว!!!”

“พอ feel มามึงก็เต้นได้เลยเหรอ เท่ว่ะ” อิสร์ชื่นชม เบนบอกว่าตนก็เป็น เวลากังวลมากๆ ไอ้ที่เคยทำได้มันก็กลับทำไม่ได้ อคินเสริมว่า ตั้งใจมากไปแทนที่จะผลักดันเลยกลายเป็นกดดัน

“แต่กูเข้าใจนะเว้ย ขึ้นชื่อว่าการแข่งขัน ใครๆก็อยากชนะกันทั้งนั้น แต่อย่างเมื่อกี้ ตอนที่เราเล่นเกมกันมันสนุกตอนที่ได้เล่นมากกว่าตอนที่เกมจบอีกรึเปล่าวะ” โขงตั้งข้อสังเกต

“มัวแต่ไปโฟกัสที่ปลายทาง ระหว่างทางมันก็กร่อยเลยไง มึงยังไม่ลืมใช่ไหมไอ้พัส อุดมการณ์ของมึงใครอยากเรียนต้องได้เรียน ใครอยากเต้นต้องได้เต้น เท่าที่ กูจำได้มึงไม่เคยพูดว่าใครอยากชนะต้องชนะเลยนะ” อิสร์เตือนความจำ

“มึงเคยสนุกกับการเต้น มีความสุขกับการสอน มึงยังจำความรู้สึกแบบนั้นได้อยู่หรือเปล่า มันสำคัญนะเว้ย เพราะถ้าตอนนี้มึงไม่เอนจอยกับมัน กูว่าถ้ามึงไม่หลงทาง มึงก็โฟกัสผิดที่แล้วล่ะ” เบนตอกย้ำ

“ตั้งสติแล้วสตาร์ตใหม่ มึงเลือกทางนี้เพราะมึงรัก มึงก็ต้องทุ่มเทด้วยหัวใจ ไม่ใช่ใช้สมองกดดันตัวเองหรือหักโหมจนร่างกายมันช้ำ...มึงต้องปล่อยให้หัวใจนำทางมึงไป แล้วมึงจะเจอหัวใจอีกดวง” อคินเสริม

“ไอ้ประโยคสุดท้ายนี่มันเข้ากันตรงไหน” พัสกรถามแซวๆ อคินยอมรับว่าตนจบไม่ลง โขงเลยอาสาช่วยจบให้ว่า

“มึงมีความสุขกับการเต้นเมื่อไหร่ เด็กๆก็จะมีความสุขไปกับมึง”

อิสร์บอกว่าตนโหวตให้โขง เบนกับอคินเอาด้วย

“บอกเด็กๆไม่ให้เครียด แต่กูนี่แหละกดดันสุด บอกให้เต้นจากความรู้สึก แต่ในหัวกูมีแต่เรื่องแพ้ชนะ ต้องทำได้...ต้องทำได้...ขอบใจนะเว้ยที่ช่วยกันดึงสติกูกลับมา ขอกอดหน่อยวะ”

พัสกรกางสุดแขนโอบกอดทุกคนไว้แน่น จนเพื่อนๆบอกให้พอก็ยิ่งแกล้งกอดแน่นเข้า ทุกคนทั้งขำทั้งหายใจไม่ออก หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ที่มุมหนึ่ง แหวนพลอยแอบดูอยู่กับวิโรจน์ วิโรจน์ยกโทรศัพท์โทร.ถึงครูจันทรา เล่าอย่างตื่นเต้น

“เป็นไปตามการคาดคะเนของครูจันทราไม่มีผิด สี่หนุ่มของครูจันทราช่วยกันปลดแอกคุณพัสกรจากความเครียดได้สำเร็จแล้วครับ...กำลังกอดกันกลมเลยครับ เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้ดู”

วิโรจน์พูดเสร็จหันมาอีกที แหวนพลอยถอยห่างออกไปแล้ว....

ooooooo

วิโรจน์รีบไปเรียกแหวนพลอยถามว่าจะไปไหน เธอบอกว่าคิดถึงปู่กะทันหันอยากกลับไปหาปู่ ส่วนเรื่องหนี้กับคุณพัสกรจะพยายามหาและฝากผ่านคุณวิโรจน์มาใช้ให้หมด ฝากคุณวิโรจน์ลาคุณพัสกรตรงนี้เลย แล้วสวัสดี ลาเลย

“ครูจันทราได้ยินแล้วใช่ไหมครับ เอาไงดีครับ” วิโรจน์ถามครูจันทราที่ยังอยู่ในสาย

พัสกรกลับถึงบ้านรู้ว่าแหวนพลอยกลับบ้านแล้วก็ร้อนรน โทร.ไปก็ไม่รับสาย แต่ไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ทำเป็นบ่นกับวิโรจน์ว่าตนไม่ชอบคนไม่มีความรับผิดชอบอยู่ๆก็ทิ้งหน้าที่ไป วิโรจน์บอกว่าไม่ต้องห่วง ตนประกาศหาแม่บ้านใหม่ไปแล้ว ไม่นานคงมีคนมาสานต่อ

รุ่งขึ้น พัสกรซ้อมเต้นกระแทกกระทั้นระบายอารมณ์ ซ้ำเรียกขวัญกมลให้มาเต้นคู่กับตนด้วย ขวัญกมลบอกว่าตนไม่เคยเต้น แต่พอพัสกรบอกว่าเต้นกับเธอ

ตนต้องเต้นได้แน่เธอจึงยอมเต้น

แต่พอเต้นท่ายกตัวขวัญกมลกลัว เกร็งจนสั่น พอพัสกรยกตัวเธอขึ้นก็หงายไปทั้งสองคน เต้เข้ามารับขวัญกมล ไว้ทัน ขวัญกมลขอลองอีกครั้งบอกพัสกรว่าเขาจำเป็นต้องเต้นท่านี้ให้ได้เพื่อความมั่นใจของเด็กๆ ขอซ้อมวนไปจนกว่าจะได้ ตนตกมาแค่นี้คงไม่ช้ำในถึงตาย แต่พัสกรถอดใจแล้ว ขวัญกมลจึงเสนอให้เต้มาเต้นแทนเพื่อเรียกขวัญกำลังใจจากเด็กๆ พัสกรจึงบอกให้เต้ลองดู

สารวัตรนิรุตต์กับหมวดนะมาหาพัสกรเล่าผลการสืบสวนจากร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ปรากฎว่ามี ผู้หญิงผมทองใส่หน้ากากอนามัยเสียงพูดแปร่งๆมาซื้ออุปกรณ์ วิโรจน์ถามว่าสารวัตรเทน้ำหนักไปที่ใคร นิรุตต์ถามพัสกรว่าทราบไหมว่ากุ๊งกิ๊งกุมความลับอะไรของนายฉัตรชัยไว้

 จันทิมาไปหาฉัตรชัยที่โรงเรียนสอนเต้น เจอกุ๊งกิ๊งจึงบอกว่าตนจะมาขอฉัตรชัยกลับมาทำงานที่นี่ กุ๊งกิ๊งบอกว่าถ้าอยากได้งานก็ต้องขอตน ถ้าอยากได้ตังค์ก็ต้องขอตนอีกเหมือนกัน พูดอย่างรู้ทันว่าเธอควงกับตำรวจอยู่คิดว่าตนเป็นคนร้ายใช่ไหม เชิญเสียเวลาไร้สาระไปคนเดียวเถอะ หลบไปอย่ามาเกะกะตนจะคุมเด็กซ้อมต่อ จันทิมาติงว่าในหัวเธอมีแต่เรื่องแพ้ชนะมันไม่ใช่เป้าหมายของการเต้นเลยนะ

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 6 วันที่ 20 มิ.ย.61

มนตราลายหงส์ บทประพันธ์โดย ศตรัศมิ์
มนตราลายหงส์ บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
มนตราลายหงส์ กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย นาคสุริยะ,นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์
มนตราลายหงส์ ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี บราเธอร์ จำกัด
มนตราลายหงส์ ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ