My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 6 วันที่ 19 มิ.ย.61

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 6 วันที่ 19 มิ.ย.61

“เธอเป็นยังไงบ้าง” / “คุณพัสกรโอเคไหม”

พัสกรขอโทษที่ตนทำให้เธอเกือบตายอีกครั้ง แหวนพลอยก็ตำหนิตัวเองว่าถ้าตนไม่ถ่ายคลิป ไม่ไลฟ์อัปเดตชีวิตเขาลงโซเชียล คนร้ายก็คงตามมาไม่ถูกยอมรับว่าตนผิดเอง

เมื่อได้เปิดใจคุยกัน ความรู้สึกที่สนิทสนมก็กลับคืนมา พัสกรดีดมะกอกใส่หน้าผากแหวนพลอยบอกว่าไล่ความนอยด์ออกไป แหวนพลอยก็เลยเอาคืนบ้าง เลยกลายเป็นแกล้งกันไปมาสนุกสนาน

พัสกรถามแหวนพลอยว่ากลัวไหม เธอบอกว่าถ้าตอบว่าไม่กลัวก็ตกนรก แต่ถ้าถามว่าจะถอนตัวไหม “แหวนพลอยก็จะตอบเหมือนคุณพัสกร...” แล้วทั้งสองก็พูดพร้อมเป็นใจเดียวกันว่า “สู้!!!”



เบนกับอิสร์ได้ยินเสียงนึกว่าเกิดอะไรขึ้น พอออกมาเห็นทั้งสองไล่ดีดมะกอกใส่กันหัวเราะร่าเริงก็หลิ่วตาอย่างรู้กัน เบนเปรยว่า “ไกลขนาดนี้ยังรู้เลยว่ามึงรักใคร”

“รักแต่ทำตามใจตัวเองไม่ได้ ไมมึงอาภัพงี้วะไอ้พัส” อิสร์พึมพำสมเพชเพื่อนที่ข้างหลังเบนกับอิสร์ ขวัญกมลจิกตามองพึมพำ “อยากสู้ไปด้วยกันนักใช่ไหม...”

แล้วดึกคืนนี้ขวัญกมลก็ไปปลุกแหวนพลอยออกไปคุยกันในสวนหลังบ้านถามว่า

“เธอจะแย่งพัสให้ได้จริงๆใช่ไหม”

แหวนพลอยรู้ทันบอกเธอว่าที่นี่ไม่มีใครเห็นเธออยากพูดอะไรก็พูดมาเลย อยากใส่ก็ใส่มาเลย อยากตบก็ตบเลย ขวัญกมลเห็นว่าใช้ไม้แข็งกับแหวนพลอยไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นดราม่า คร่ำครวญชีวิตที่โดดเดี่ยวไม่มีใคร มีแต่พัสกรคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้ตนอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

แหวนพลอยเริ่มใจอ่อน แต่ไม่ทันพูดอะไรก็มีมือลึกลับจากหลังต้นไม้ใหญ่ดึงขวัญกมลไป ขวัญกมลร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายเอามีดปลายแหลมจี้เอวขู่ว่ามึงร้องมึงตาย แหวนพลอยวิ่งตามไปขอร้องอย่าทำร้ายขวัญกมล คนร้ายตวาดให้หุบปาก ไม่ใช่เรื่องของมึง

แหวนพลอยแกล้งร้อง “คุณพัส ทางนี้ค่ะ” คนร้ายชะงักหันมอง เธอจึงพุ่งเข้าไปดึงขวัญกมลออกมา

ขวัญกมลตกใจดิ้นจนล้มไปด้วยกัน คนร้ายพุ่งเข้ามาเล่นงานแหวนพลอย จับบีบคอเอามีดจี้จะกรีดหน้า

วินาทีนั้นแหวนพลอยคิดถึงพัสกรร้องเรียก

“คุณพัส!!!”

ทันใดนั้นพัสกรโผล่มาข้างหลังชกคนร้ายแล้วจะตามเตะซ้ำแต่คนร้ายหลบทันกลิ้งหนีไป

พัสกรรีบไปดูแหวนพลอยแต่คนร้ายกลับมาจะเอามีดแทงเขา แต่ถูกพัสกรปัดมีด พอดีเสียงเบนกับอิสร์เข้ามา คนร้ายชะงัก พัสกรดันมือคนร้ายออก มีดจึงปาดท้องแขนซ้ายคนร้ายเป็นทาง คนร้ายจึงวิ่งหนีไป เบนถามพัสกรว่าเขาโดนมีดหรือเปล่า เขาบอกว่า “เปล่า แต่ฉันว่ามันโดน” เบนกับอิสร์จึงวิ่งตามคนร้ายไป

พัสกรเดินผ่านขวัญกมลไปดูแหวนพลอย

แหวนพลอยเห็นเลือดที่แขนพัสกรก็เป็นลม เขาจึงอุ้มเธอเดินผ่านขวัญกมลไปเหมือนผ่านต้นไม้ใบหญ้า พอดีฝนตกหนัก ขวัญกมลนั่งอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางสายฝนในยามดึกอย่างเจ็บใจ

พอกลับถึงบ้าน ปู่ตกใจถามว่าแหวนพลอยเป็นอะไร พัสกรบอกว่าเธอตกใจที่เห็นเลือด แต่ไม่ใช่เลือดตนเป็นเลือดของคนร้าย แต่ฝนตกหนักชะรอยเลือดไปหมดแล้ว จึงน่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐานสืบคนร้ายได้

เบนกับอิสร์ตามคนร้ายไป มันควักโคลนปาใส่หน้าจนต้องหยุดเช็ดโคลนออก ส่วนคนร้ายไปแอบหลังต้นไม้ถอดหมวกอำพรางหน้าออก ที่แท้คือเต้นั่นเอง! แล้วเต้ก็รีบกลับไปที่บ้านทันที

เมื่อทุกคนในบ้านวิเคราะห์กันถึงคนร้ายที่ตามมาเล่นงานกันถึงอุบลฯ เต้ที่อาบน้ำเสร็จเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาผสมโรงว่า

“อย่าบอกนะเว้ยว่าคนร้ายมันตามมาถึงที่นี่ถึงกับบุกมาบ้านนี้เลยเหรอ มันจะมากเกินไปแล้ว”

ooooooo

รุ่งเช้าสารวัตรนิรุตต์กับหมวดนะมาที่บ้านดูหลักฐานจากที่แหวนพลอยถูกบีบคอ นิรุตต์ถามว่าเธอได้ยินเสียงมันไหม แหวนพลอยบอกว่าได้ยินแต่ดูเหมือนมันจะดัดเสียง พัสกรบอกว่าตอนสู้กันมันโดนมีดตรงแขนซ้ายน่าจะมีแผล

“มีแผลที่แขนซ้าย” นิรุตต์ได้ข้อมูลจึงไปหาฉัตรชัยที่โรงแรมขอดูแขน ปรากฏว่ามีแผลจริงๆ แต่ซักถามแล้วฉัตรชัยบอกว่าเกิดจากการซ้อมเต้น ซ้ำกุ๊งกิ๊งยังมีคลิปตอนซ้อมให้ดูด้วย ฉัตรชัยพูดเป็นนัยยิ้มๆว่า

“เชื่อผมเถอะครับ ไอ้พัสไม่ได้มีศัตรูแค่ผมคนเดียวหรอก”

เวลาเดียวกันที่บ้านพัสกร ขวัญกมลลากกระเป๋าออกมาบอกว่าตนจะกลับแล้ว ตนกลัว แต่ถ้าพัสกรอยากอยู่ก็อยู่ได้ไม่ต้องห่วงตนกลับเองได้

ในที่สุดพัสกรตัดสินใจจะพาทั้งหมดกลับกรุงเทพฯ เขาบอกเบนกับอิสร์ว่า ความกลัวของพวกเราทำให้มันยิ่งได้ใจไล่ล่าเราไปเรื่อย อิสร์ถูกใจบอกว่าเราต้องสู้อย่าไปกลัว เบนก็ว่าอยู่ที่โน่นดูแลกันง่ายกว่าที่นี่ เต้ที่มาฟังอยู่พูดแทรกขึ้นว่า

“ดีแล้วล่ะ หน้าที่ของนายน่ะ ควรตามใจขวัญให้สบายใจซะบ้าง”

จันทิมาสังเกตที่แขนซ้ายของเต้ตลอดเวลา

เมื่อเต้กลับไปจัดของที่ห้องก็ตามไปจะช่วย เต้บอกว่าไม่ต้องเพราะของตนไม่มาก จันทิมาจึงไปเอาน้ำมาให้แกล้งทำน้ำหกรดแขนซ้ายแล้วกุลีกุจอเช็ดให้ จึงเห็นรอยที่แขนซ้าย เต้บอกว่าเป็นรอยน้ำร้อนลวกเพราะเมื่อคืนตนหิวลงไปต้มน้ำจะกินบะหมี่เลยถูกน้ำร้อนลวก จันทิมาจึงลุกไปหายามาทาให้

ooooooo

บ่ายนี้ทุกคนเตรียมเดินทางกลับกัน ปู่ผูกข้อมืออวยพรให้เดินทางปลอดภัยทุกคน แต่พอขวัญกมลเดินมาเห็นรถ ร้องว่ารถมีระเบิดเกิดอาการเกร็งชักจนหมดสติ

พัสกรอุ้มเธอกลับเข้าบ้าน ทุกคนตามไปด้วยความเป็นห่วง เต้ทำท่าจะตามไปแต่แล้วก็หยุด เห็นว่าปลอดคนแล้วก็ควักไขควงตรงไปที่รถตู้

เมื่อขวัญกมลรู้สึกตัวก็บอกว่าตนกลัวขอไปเครื่อง พัสกรไม่ต้องห่วงตนไปคนเดียวได้ เขาไม่อาจปล่อยให้เธอไปคนเดียวกอปรกับทุกคนบอกให้เขาไปกับขวัญกมล อิสร์จึงไปกับรถ และเบนไปเครื่องกับพัสกร

สารวัตรนิรุตต์ไม่อาจเอาผิดกับฉัตรชัยได้ ฉัตรชัยสะใจมากพอเดินออกจากโรงพักก็โทรศัพท์ทันที

“เออ...เป็นไง...ไอ้พัสมันหนีกกลับกรุงเทพฯแล้วเหรอวะ จะรออะไรล่ะ ลุยเลยสิ!”

ส่วนในรถตู้ที่เต้มากับเด็กๆ เขาเอาอกเอาใจซื้อขนมให้เด็กๆกินเป็นที่ถูกอกถูกใจเด็กๆมาก

ฝ่ายพัสกรกับขวัญกมลจะนั่งเครื่องสายการบินของอคิน ขวัญกมลฉอเลาะตลอดเวลาแต่พัสกรใจลอยคิดถึงพวกที่ไปกับรถไม่ได้ฟัง เบนรู้เลยช่วยแก้เกี้ยวให้ว่าปวดหนักก็ไปเข้าห้องน้ำสิ นั่งกลั้นอยู่ทำไม

เพราะห่วงพวกเด็กๆและแหวนพลอย พัสกรโทร.เข้ามือถือแหวนพลอยแต่ทำเป็นว่าโทร.ผิด แต่เมื่อรับสายแล้วก็ถามถึงสภาพการเดินทาง แหวนพลอยให้ฟังเสียงเด็กๆสนุกสนานกันก็สบายใจ พริบตาเดียวก็มีมอเตอร์ไซค์โผล่มาตีขนาบแล้วปาดหน้า แหวนพลอยบอกให้กวงเร่งแซงมันไป พอกวงเร่งแซง มันก็เลี้ยวอีกทาง รถกวงเร่งเร็วแล้วเบรกไม่ได้ เบรกจม กวงหักรถลงข้างทางท่ามกลางเสียงร้องตกใจของเด็กๆ พัสกรได้ยินจากโทรศัพท์ตกใจถามว่าเป็นอะไรก็ไม่มีเสียงตอบ ขวัญกมลเร่งพัสกรว่ารีบขึ้นเครื่องเถอะ เขาไฟนอลคอลแล้ว พัสกรบอกเบนว่าฝากขวัญกมลด้วยแล้ววิ่งอ้าว

ออกไป ขวัญกมลบ่นเซ็งๆว่า “เอาอีกแล้วนะพัส ทิ้งขวัญอีกแล้ว”

เบนได้รับโทรศัพท์จากอิสร์ เขาตกใจถาม

“ว่าไงไอ้อิสร์...รถคว่ำเหรอวะ!!!”

เวลาเดียวกันฉัตรชัยที่เพิ่งเป็นอิสระพ้นข้อสงสัย นั่งอยู่ในรถคุยโทรศัพท์อารมณ์ดี

“มีใครตายรึเปล่า...เออ งั้นไป มึงรีบไปซุกหัวซ่อนตัวไกลๆเลยนะ อย่าให้ตำรวจเจอเด็ดขาด แล้วกูจะส่งเงินไปให้” พอวางสายก็พึมพำ “กูแค่จะขู่ แต่พวกมึงดันซวยเอง ช่วยไม่ได้นะเว้ย”

ooooooo

พัสกรมาถึงโรงพยาบาลปรากฏว่าเด็กๆไม่เป็นอะไรมากเพราะแหวนพลอยบอกให้ทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย แต่แหวนพลอยยังไม่ออกจากห้องตรวจ พัสกรพุ่งเข้าไปไม่ฟังเสียงห้ามของพยาบาล

พัสกรขอโทษแหวนพลอยที่ทำให้เธอเกือบตายอีกแล้ว แหวนพลอยบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเขาและตนก็สบายดี พยาบาลบอกว่าน้องเขาแค่หัวโน พัสกรกอดแหวนพลอยขอบคุณที่ไม่เป็นอะไร ทีแรกแหวนพลอยก็อึ้ง แต่แพ้ใจตัวเองกอดพัสกรไว้อย่างไม่สนใจอะไรอีกเพราะอยากกอดมานานแล้ว

ทั้งสองกอดกันอย่างอบอุ่น ซึ้งใจ ห่วงใยกันในห้องตรวจนั่นเอง

จากการเก็บหลักฐานโรงพักใกล้ที่เกิดเหตุ พบว่าน้ำมันเบรกรั่ว อิสร์สงสัยว่าจะรั่วได้ยังไงในเมื่อก่อนออกเดินทางได้ตรวจสภาพรถกันอย่างละเอียดแล้ว วิโรจน์ดูกล้องหน้ารถของพัสกรที่ขับมาแล้วบอกว่าเห็นมอเตอร์ไซค์ที่พยายามปาดหน้ารถตู้

“ถ้าเรารู้ว่ามอเตอร์ไซค์คันนั้นเป็นใคร เราจะได้รู้ว่ามันเกี่ยวกับน้ำมันเบรกรั่วไหม แล้วก็ใช่เพราะคนที่เพิ่งเป็นอิสระหรือเปล่า”

“ฉัตรชัยจะจองล้างจองผลาญพัสไปถึงไหนมันลงมือซ้ำๆถี่ๆไม่เหนื่อยรึไง ปล่อยไว้แบบนี้พัสแย่แน่” จันทิมามองหน้านิรุตต์ตัดสินใจบอกว่า “ฉันจะกลับไปทำงานกับฉัตรชัย”

“เฮ้ย...ได้ไง...ไม่...”

“อย่าเพิ่งห้ามค่ะ เพราะฉันก็ไม่ชัวร์ว่าฉัตรชัยจะรับฉันกลับเข้าทำงานหรือเปล่า แต่ยังไงเราก็ต้องล้วงลับตับไตทั้งฉัตรชัยทั้งกุ๊งกิ๊งให้ได้”

“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” วิโรจน์เสริม

จันทิมาพูดจริงจังว่าขอให้ตนลองอีกสักครั้งเถอะ นิรุตต์มองหน้านิ่ง คิดหนัก

ooooooo

ที่ห้องพักคอนโดขวัญกมล เธอไปลับมีดอยู่ในห้องครัวท่ามกลางเสียงฟ้าคำรามและฝนตกพรำ สายตาเธอเลื่อนลอยพึมพำเหมือนคนไม่มีสติ...

“พัสทิ้งขวัญ...ทิ้งขวัญไปหาคนอื่น...”

ขวัญกมลถือมีดมาที่ระเบียงยืนตากฝนพรำพร่ำแต่ว่า “พัสทิ้งขวัญ...พัสรักคนอื่น...ขวัญไม่เหลือใครแล้ว...” เธอกรีดข้อมือทำร้ายตัวเอง ปล่อยให้เลือดไหลจนยืนโงนเงน

ทันใดนั้นเต้พรวดเข้าประคองเธอกอดไว้แน่น...

“ไม่นะขวัญ ผมไม่มีทางยอมให้คุณตาย ไม่มีทางเด็ดขาด”

ขวัญกมลร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอกของเต้ ท่ามกลางสายฝน

เมื่อพาเข้าห้อง เต้ถามว่าเธอทำร้ายตัวเองเพราะพัสกรใช่ไหม ขวัญกมลบอกว่าเต้เองก็ต้องเจ็บตัวเพราะเขาเหมือนกัน

“ทำไมเราสองคนต้องมาอยู่ในสภาพนี้ด้วย ต้องมาเจ็บซ้ำๆซากๆเพราะเขาคนเดียว” เต้คำรามว่าไอ้พัสไม่ควรทอดทิ้งคุณ “ถ้าเขาดีกับขวัญได้สักเสี้ยวหนึ่งของเต้ก็คงดี...แต่ตอนนี้มีแต่ขวัญที่เหนื่อยอยู่คนเดียว ทุ่มเทอยู่คนเดียว ขวัญไม่อยากวิ่งไล่ ไม่อยากร้องขอ ไม่อยากทรมานอย่างนี้อีกแล้ว”

“ไอ้พัสไม่มีทางทำร้ายคุณได้อีก เชื่อใจผมนะขวัญ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณเอง”

เต้ซบหน้ากับตักของขวัญกมล เธอลูบผมเขาเบาๆเอ่ยอ้อน...

“นอกจากเต้ ขวัญก็ไม่เชื่อใครอีกแล้ว ขอบคุณนะเต้...”

เต้กอดเอวขวัญกมลไว้อย่างแสนรักและเทิดทูน

ooooooo

คืนนี้...ที่โรงเรียนหงส์เหินเปิดไฟสว่างไสวไปทั้งโรงเรียน จ่อย จุ๊บ มาร์ค ตื่นเต้นมากที่ได้มาเห็นโรงเรียนที่แสนอลังการ ผิดกับที่เคยเต้นอยู่แถวชายทุ่งที่ผ่านมา มาร์คถามว่าเราจะได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม

“ใช่แล้วล่ะ แต่เราต้องมาช่วยกันทำความสะอาดก่อนนะ ปิดไว้เป็นเดือนฝุ่นเต็มเลย” แหวนพลอยบอกเด็กๆทุกคนขานรับแข็งขัน

พัสกรถามว่าจะทำอะไรกัน แหวนพลอยบอกว่าทำความสะอาด เขาบอกว่าไม่ต้องเลยตนทำเอง จ่อยกับจุ๊บอาสาจะช่วย แหวนพลอยถามว่าหิวกันไหม ตนจะไปทำกับข้าวให้กิน พัสกรไม่ให้ทำบอกให้ไปนอนพัก

กวงเสนอ “เอางี้ คุณพัสกรทำความสะอาดไป แหวนพลอยก็พักไป เดี๋ยวผมไปซื้อกับข้าวมาให้ ไม่ต้องเถียง ไม่ต้องมาอยู่ใกล้กัน แยกๆๆ”

พัสกรจึงชวนเด็กๆไปทำความสะอาดกัน คืนนี้เอาให้พอนอนได้ก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที

“เยสเซอร์!!!” ทั้งสามตอบพร้อมกันแข็งขัน

ขณะทำความสะอาดนั้นจุ๊บทำโหลใส่นกกระเรียนตกลงมา นกกระเรียนหกกระจายมีกระดาษหลุดออกมา จุ๊บหยิบอ่าน “ขอให้คุณพัสกรหายไวๆ”

“วุ้ยๆ ใครให้ครูพัสเหรอ” จ่อยตื่นเต้น

“ลายมือแหวนพลอย” พัสกรชะโงกดู

“พี่แหวนพลอยพับนกให้ครูพัส” มาร์คพึมพำ จุ๊บทำตาโตบอกว่าตั้งเยอะแยะพับได้ไงเนี่ยพลางเก็บนก

“ค่อยๆเก็บนะ เดี๋ยวนกเจ็บ” จ่อยล้อ

พัสกรมองไปเห็นแหวนพลอยกำลังกินยาและดื่มน้ำตาม เขาพึมพำอย่างซึ้งใจ

“เธอทำให้ฉันเหรอแหวนพลอย...”

ทำความสะอาดเสร็จ เด็กๆปิดไฟนอนกันหมดแล้ว แต่พัสกรยังเดินคุยโทรศัพท์อยู่บนชั้นลอย

“เรียบร้อยดีครับครู เบนส่งคนมาช่วยดูก็อุ่นใจขึ้นเยอะเลย...ครับ...แล้วผมจะแวะไปหานะครับ...ราตรีสวัสดิ์ครับครู”

วางสายจากครูแล้วหันไปโดยไม่ตั้งใจ เห็นแหวนพลอยนอนอยู่บนโซฟาที่ชั้นล่าง...

ooooooo

แหวนพลอยนอนหลับสนิทบนโซฟา เธอห่มผ้าถักนิตติ้งแต่ตอนนี้ผ้าเลื่อนเกือบหลุดจากตัวแล้ว พัสกรเดินไปนั่งที่โซฟา มองหน้าผากที่โน เกลี่ยผมออกเบาๆ เอ่ยเสียงแผ่ว

“ขอบคุณที่เธอเป็นคนหัวแข็ง”

แหวนพลอยค่อยๆรู้สึกตัวลืมตาเห็นพัสกรอยู่ใกล้ๆ เธอนอนนิ่งอยู่ที่เดิมเรียกเหมือนละเมอ

“คุณพัสกร...”

“เจ็บเหรอ...”

แหวนพลอยครึ่งหลับครึ่งตื่นไม่รู้ว่าเป็นความจริง หรือความฝัน เธอส่ายหน้าเบาๆ พัสกรก้มลงเป่าที่หน้าผากบอกเสียงอ่อนโยน “หายไวๆนะ” จนแหวนพลอยอึ้ง ใจสั่น บอกตัวเองว่าต้องฝันอยู่แน่ๆ ถามว่าตนฝันอยู่ใช่ไหม พัสกรตอบเสียงนุ่มว่า “ใช่ นี่เป็นความฝันของเรา”

“ในความฝัน เราจะทำอะไรก็ได้...” เธอมองเขานิ่ง ตัดสินใจบอก “คุณพัสกรกอดแหวนพลอยหน่อยได้ไหม” แต่แล้วก็บอกตัวเองว่าไม่ได้ ถึงเป็นความฝันก็ไม่ได้ บอกเขาว่า “แค่จับมือก็แล้วกัน”

พัสกรยื่นมือมาให้จับ แต่ไม่จับเฉยๆ เขาเอานิ้วก้อยเกี่ยวกับนิ้วแหวนพลอยไว้ แหวนพลอยยิ้มพึมพำ

“แหวนพลอยฝันอยู่จริงๆ ขอฝันแบบนี้ตลอดไปเลยได้ไหม...”

“ฉันก็ไม่อยากตื่นเหมือนกัน...”

เสียงพัสกรเหมือนอยู่ในความฝัน เขาก้มจูบที่หน้าผากแหวนพลอยอย่างอ่อนโยนทะนุถนอม แหวนพลอยกอดมือพัสกร...หลับตาพริ้มยิ้มอย่างมีความสุข...

กวงแอบดูอยู่อีกมุมหนึ่ง ค่อยๆถอยไปปล่อยให้แหวนพลอยมีความสุข แต่ตัวเองกลับเศร้า...

จนกระทั่งเช้า...เสียงปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้น แหวนพลอยหยิบมาปิดเสียง มองไปรอบๆ ว่างเปล่า...

ไม่มีใครอย่างในฝันเลย แหวนพลอยลูบรอยจุ๊บที่หน้าผาก พึมพำ “ว่าแล้ว...ว่าฝัน”

อึดใจเดียวเสียงเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นอีก เธอคว้าดู เห็นข้อความ “ตื่นแล้วมาที่ห้องครัวด้วย” เธอจ้องมองโทรศัพท์จำได้ว่าเป็นโทรศัพท์ของพัสกร

พอเข้าไปในห้องครัวเห็นข้าวต้มร้อนๆสองชาม มีข้อความจากมือถืออีกว่า “กินข้าวซะ จะได้กินยา”

ขณะกำลังสงสัยว่าเป็นพัสกร ก็มีเสียงจริง

ดังจากข้างหลัง “ขอมือถือฉันคืนด้วย” พอหันไปเห็นพัสกรตัวจริงยืนอยู่เกือบติด แหวนพลอยตกใจแอ่นหลบเลยเกือบล้ม พัสกรเอามือรองรับไว้เลยกลายเป็นอยู่ในอ้อมอกเขาพอดี หัวใจสองดวงเต้นจนได้ยินและสะเทือนถึงกันเบาๆ

พอรู้สึกตัวแหวนพลอยเด้งตัวออกมา ต่างเขิน พัสกรมองข้าวต้ม เอ่ยแก้เขินให้รีบกินเสียเดี๋ยวหายร้อน

กระนั้นแหวนพลอยก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นความฝันหรือความจริง จนพัสกรดีดหน้าผากเรียกสติถามว่าชัดหรือยังว่าไม่ได้ฝัน

 พัสกรเป่าแผลที่หน้าผากแหวนพลอยขอให้หายไวๆ แหวนพลอยจึงเชื่อว่าเรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ฝัน พัสกรถามว่าเธอพับนกกระดาษให้ตนแล้วทำไมไม่เอามาให้สักที พลางควักนกกระดาษจากกระเป๋ากางเกงออกมาตัวหนึ่งพูดติดตลกแต่จริงใจว่า

“หลงฝูงมาตัวนึงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะ แต่มันตั้งใจมาอวยพรเธอ...หายไวๆนะแหวนพลอย”

“คุณพัสกรพับให้แหวนพลอยเหรอคะ” แหวนพลอยรับมาอย่างตื้นตันใจ ทั้งสองสบตากันนิ่ง...นาน...

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 6 วันที่ 19 มิ.ย.61

มนตราลายหงส์ บทประพันธ์โดย ศตรัศมิ์
มนตราลายหงส์ บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
มนตราลายหงส์ กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย นาคสุริยะ,นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์
มนตราลายหงส์ ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี บราเธอร์ จำกัด
มนตราลายหงส์ ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ