อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 15 วันที่ 4 มิ.ย.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 15 วันที่ 4 มิ.ย.61

“ทางรอดทางเดียวคือเราต้องบุกยึดจันทบูรในคืนนี้ให้จงได้” พระเจ้าตากประกาศเด็ดเดี่ยว “สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็เพื่อจะกู้บ้านกู้เมืองให้อาณาประชาราษฎร์ได้ทำมาหากินกันอย่างมีความสุข สมณชีพราหมณ์แลนักบวชในลัทธิต่างๆสามารถประกอบกิจพิธีกรรมกันต่อไป หากเราต้องมาพ่ายแพ้ในวันนี้ ก็มิต้องคิดถึงการใหญ่ในภายหน้าแล้ว”

ทหารทุกคนคุกเข่าพนมมือ พระเจ้าตากพูดเสียงดังได้ยินกันทั่วอย่างห้าวหาญว่า



“เราจะเข้าตีเมืองจันทบูรในคืนนี้ เมื่อกองทัพหุงข้าวเย็นกินเสร็จ ทั้งนายทั้งไพร่ให้เทอาหารที่เหลือทิ้งแลต่อยหม้อเสียให้หมด หมายไปกินข้าวเช้าด้วยกันในเมืองจันทบูร หากตีเอาเมืองไม่ได้ในคืนนี้ ก็จะตายเสียด้วยกันทั้งหมด”

สิ้นเสียงพระเจ้าตาก ทหารเฮลั่น ทุกคนฮึกเหิมถึงขีดสุด ดังคำบรรยายที่ว่า

“สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงตัดสินพระทัยอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะยึดเมืองจันทบุรีให้จงได้ จึงมีรับสั่งให้ทุบหม้อข้าวและเทอาหารที่เหลือทิ้งทั้งหมดหลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ เป็นสัญญาณว่าต้องเอาชนะในศึกครั้งนี้ให้ได้ หากไม่สำเร็จก็ต้องตายพร้อมกัน นับเป็นกลยุทธ์ที่สร้างขวัญกำลังใจให้ทหารอย่างถึงที่สุด ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย”

ooooooo

ค่ำนี้พระยาพลเทพเอ่ยกับขุนแผลงฤทธิ์ขณะเดินตรวจความเรียบร้อยของทหารบนกำแพงเมืองว่า

“ทหารเมืองจันทบูรคึกคักเข้มแข็งกันถ้วนทุกคน เห็นเช่นนี้ฉันก็สบายใจ”

ขุนแผลงฤทธิ์ยิ้มร่าบอกว่าท่านเจ้าคุณอย่าห่วงเลย ทัพเรามีความพร้อมเต็มที่ ไม่ว่าพระยาตากจะข้ามน้ำมาหรือถอยทัพกลับก็ไม่พ้นความตายไปได้ พระยาพลเทพกลัวว่าจะถอยทัพกลางคืน ขุนแผลงฤทธิ์บอกว่าตนส่งหน่วยเสือหมอบแมวเซาออกไปแล้ว ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็ไม่พ้นหูพ้นตาตนไปได้ดอก

“รอบคอบมากท่านขุน ไม่เสียแรงที่เป็นมือขวาของฉัน” พระยาพลเทพตบบ่าขุนแผลงฤทธิ์หัวเราะย่ามใจ “ฉันแทบจะอดใจรอเห็นหัวของพระยาตากกับลูกอ้ายขุนทองมาวางอยู่ตรงหน้าไม่ไหวแล้ว”

ค่ำนี้เองขันทองก็ซุ่มฆ่าทหารจันทบูรตายคนหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็ถูกพันหาญกับทหารอีกกลุ่มฆ่าทิ้งโดยมันไม่ทันได้ร้องสักคำ

“พวกเสือหมอบแมวเซาไม่มีเท่านี้แน่ เราต้องกำจัดให้หมดทุกกองไม่ให้มันส่งข่าวไปบอกจันทบูรได้”

“ได้ พ่อขันทอง” พันหาญตอบรับแล้วสั่งทหาร “แยกกันไป”

ตี 3 คืนนี้เอง พระเจ้าตากก็ทรงช้างพังคีรีบัญชรนำทหารเข้ามาประชิดเมือง พอพระเจ้าตากชักปืนสั้นยิงขึ้นฟ้าเป็นสัญญาณ ขันทองและทุกคนก็โห่ร้องกึกก้องวิ่งบุกโจมตีกำแพงเมืองทันที

ทหารจันทบูรตกใจทำอะไรไม่ถูก พระยาพลเทพก็ตกใจเปิดประตูห้องนอนออกมาพบขุนแผลงฤทธิ์กับพระยาจันทบูรรออยู่หน้าห้อง ถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“อ้ายพระยาตากมันยกทัพมาตีเราแล้ว” พระยาจันทบูรเครียดหนัก

“มันบุกมาเองเลยรึ” พระยาพลเทพยิ้มร้าย “กำลังมันน้อยกว่าเราหลายเท่า เทวดาดลใจให้มันกลับมาหาที่ตายแท้ๆ ท่านขุน บัญชาการป้องกันอย่าให้มันบุกเข้ามาได้ หากมันถอยไปเมื่อใดจงรีบตามไปตีทันที”

ที่กำแพงเมืองทหารจันทบูรยิงปืนใส่ทหารพระเจ้าตากที่บุกเข้ามาไม่ยั้ง ทหารพระเจ้าตากบุกตะลุยเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย ความมืดทำให้ทหารจันทบูรยิงเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาพลาดเสียเป็นส่วนใหญ่

ในที่สุดทหารพระเจ้าตากก็บุกประชิดกำแพง พอทหารพาดบันไดกับกำแพง ขันทองก็คาบดาบ ปีนบันไดขึ้นไปทันที

การบุกโจมตีของพระเจ้าตากครั้งนี้ แบ่งเป็นสามทัพ ขันทองโจมตีทางด้านซ้ายมีพันหาญเป็นคนนำ หลวงพิชัยโจมตีด้านขวามีติ่นกับผลร่วมทัพ ส่วนพระเจ้าตากทรงช้างอยู่ตรงกลางมีม่วงอยู่ในทัพยังไม่เข้าโจมตี ม่วงรายงานพระเจ้าตากว่าทัพพ่อขุนทองกับทัพหลวงพิชัยบุกทางซ้ายและขวาพร้อมกันแล้ว เราจะบุกเข้าตรงกลางเลยหรือไม่

“ยังก่อน ทัพตรงกลางของจันทบูรยังหนาแน่นอยู่ รอจนกว่ามันจะแยกทัพไปป้องกันทั้งสองทางแล้วค่อยบุกเข้าไป” พระเจ้าตากนิ่งขรึมอย่างมีสมาธิ ใจจดจ่อ


ooooooo

พระยาจันทบูร พระยาพลเทพ และขุนแผลงฤทธิ์มาถึงกำแพงเมือง ขุนแผลงฤทธิ์ตะโกนลั่น

“อย่าสับสนสิโว้ย มันบุกมาทางซ้ายและขวาพร้อมกัน พวกเอ็งจงแบ่งกำลังไปต้านมันไว้ทั้งสองด้าน”

เมื่อทหารจันทบูรกระจายกำลังออกสองด้าน

ตรงกลางจึงมีทหารเบาบาง พระเจ้าตากลูบหัวพังคีรีบัญชรด้วยความเอ็นดู

“แม่พัง ศึกนี้ขึ้นอยู่กับแม่พังแล้ว มิใช่ชีวิตของฉันกับเหล่าทหารเท่านั้น แต่การกู้บ้านกู้เมืองแลชีวิตของอาณาประชาราษฎร์ทั่วแผ่นดินก็ขึ้นอยู่กับแม่พังทั้งสิ้น สู้ให้สุดใจเถิดแม่”

พังคีรีบัญชรแผดเสียงแล้ววิ่งเข้าใส่กำแพงทันที พระยาพลเทพตกใจร้องบอกว่าเราหลงกลมันแล้ว

“ยิงไปที่อ้ายพระยาตากบนหลังช้าง ไม่ต้องสนใจที่อื่นแล้ว” ขุนแผลงฤทธิ์ตะโกนลั่น แล้วยิงปืนใส่ทันทีพวกทหารพากันระดมยิงแต่กระสุนเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาไม่โดนสักนัด

หลวงพิชัยกับติ่นและผลปีนขึ้นกำแพงได้สำเร็จ พระยาจันทบูรร้องเสียงหลง

“มันปีนขึ้นมาแล้ว ปกป้องกู ปกป้องกู”

ทหารที่ปกป้องพระยาจันทบูรถูกหลวงพิชัยฆ่าอย่างง่ายดาย แต่ก็ต้องสู้พวกที่กรูกันเข้ามาอีกอย่างดุเดือด

ขันทองปีนขึ้นถึงบนกำแพงเห็นพระยาพลเทพก็ตวาดลั่น “อ้ายพลเทพ” ขันทองฆ่าทหารที่ปกป้องพระยาพลเทพแล้วบุกเข้าไปก็เจอขุนแผลงฤทธิ์ถือดาบยืนขวางปกป้องพระยาพลเทพ ตะคอกท้า

“มึงเข้ามา อ้ายขันทีลูกโจร”

ขันทองกระโจนเข้าใส่ทันที ทั้งสองประดาบกันอย่างดุเดือดบนกำแพง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของหนักกระแทกกับประตูเมืองอย่างแรง พระยาพลเทพตกใจตะโกนลั่น

“มันใช้ช้างพังประตู เร็วโว้ย รีบดันประตูไว้ อย่าให้เข้ามา”

แต่ทหารที่ยันประตูไว้ถูกพังคีรีบัญชรกระแทกประตูพังจนกระเด็นกระดอนไปคนละทางพร้อมกับประตูเมืองเปิดออก

พระเจ้าตากทรงช้างเดินเข้าประตูมาอย่างสง่างาม โดยมีม่วงกับพวกทหารโห่ร้องวิ่งตามเข้ามาอย่างฮึกเหิมสุดขีด

“ประตูเมืองแตกแล้ว หนีเร็ว” พระยาจันทบูรตกใจสุดขีดวิ่งหนีทันที ขุนแผลงฤทธิ์สู้พลางถอยพลางปกป้องพระยาพลเทพที่วิ่งตามพระยาจันทบูรไป ทหารจันทบูรแตกกระเจิงต่างหนีเอาตัวรอด

เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ดังคำบรรยายว่า

“เช้าตรู่ของวันที่ 15 มิถุนายน พุทธศักราช 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสิน ก็สามารถยึดเมืองจันทบุรีได้สำเร็จ เป็นการยึดฐานที่มั่นสำคัญที่ใช้ในการกู้บ้านกู้เมืองต่อไป และเป็นวีรกรรมครั้งสำคัญที่ถูกเล่าขานมาจนทุกวันนี้”

ooooooo

พระเจ้าตากมาถึงเรือนพระยาจันทบูรแต่เช้าตรู่ พอขึ้นเรือน หลวงพิชัยกับม่วงก็รีบเข้ามารายงานว่าพระยาจันทบูรหนีไปแต่ตัว ลูกเมียบ่าวไพร่แลทรัพย์สมบัติทั้งหมดยังอยู่บนเรือน และไม่มีผู้ใดคิดต่อสู้อีกแล้ว

“ดีแล้ว มิควรที่จะต้องเสียเลือดเนื้อคนไทไปมากกว่านี้อีกแล้ว” พระเจ้าตากพยักหน้า มองไปรอบๆถาม “พ่อขันทองกับพันหาญเล่า”

หลวงพิชัยรายงานว่าทั้งสองนำทหารตามไป

จับตัว พระยาจันทบูรกับพระยาพลเทพ พระเจ้าตากพูดอย่างไม่สบายใจเป็นห่วงว่า

“ทั้งสองคนไม่เป็นภัยต่อเราแล้ว ตามไปเช่นนี้เหมือนไล่หมาจนตรอก อันตรายนัก”

เป็นเวลาที่ขันทองกับพันหาญกำลังนำทหาร

ไล่จับตัวพระยาพลเทพ พระยาจันทบูร และขุนแผลงฤทธิ์ที่มีทหารวิ่งตามคุ้มกันอยู่ที่ชายหาด พระยาจันทบูรเห็นเรือ ของตนก็ตะโกนให้ขุนแผลงฤทธิ์กับพวกทหารถ่วงเวลาไว้ ขุนแผลงฤทธิ์กับพวกทหารจึงหันไปสู้ถ่วงเวลาเพื่อให้พระยาจันทบูรวิ่งไปที่เรือ

พระยาพลเทพที่วิ่งมากับพระยาจันทบูรถามว่าท่านเจ้าคุณจะหนีไปที่ใด พระยาจันทบูรพูดไปแก้เชือกเรือไปว่า “ฉันจะหนีไปบันทายมาศ ฉันกับเจ้าเมืองบันทายมาศเป็นสหายน้ำมิตรกัน อยู่ที่นั่นเราจะปลอดภัย”

พระยาพลเทพรีบเข้าช่วยพระยาจันทบูรแก้เชือกเรือ ขันทองเห็นจึงพุ่งเข้าฟันพระยาพลเทพเต็มแรงแต่พระยาพลเทพหลบทัน พระยาจันทบูรแก้เชือกเรือเสร็จหันมาเห็นขันทองกำลังไล่ฟันพระยาพลเทพก็ผลักเรือออกพายหนีไป

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 15 วันที่ 4 มิ.ย.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ