My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 3 วันที่ 14 มิ.ย.61

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 3 วันที่ 14 มิ.ย.61

คืนนี้แหวนพลอยก็เจอเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัว เมื่อได้ยินเสียงคนเดิน จึงลุกมาเปิดไฟคิดว่าพัสกรจะมาเอาอะไร แต่พอเปิดไฟก็แทบช็อกเมื่อเห็นตุ๊กตาผ้าเหมือนคนติดตรึงที่ผนัง มีมีดปักและเลือดไหลเป็นทาง!

แหวนพลอยถอยหลังกรูด ชนกับเต้ที่ปลอมตัวเข้ามา ในมือถือมีดพับสะท้อนแสงน่ากลัว แหวนพลอยตกใจสุดขีดตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พัสกรออกมาถามว่ามีอะไรหรือ เต้ตกใจวิ่งหนีไป พัสกรจะตาม แหวนพลอยร้องห้ามเรียกให้กลับมา



เมื่อมาสำรวจดูที่ห้องอีกที พัสกรมองตุ๊กตาผ้าเปื้อนเลือดเห็นข้างๆเขียนไว้ว่า

“มึงเต้น ทุกคนตาย” พัสกรมองภาพนั้นสงสัยว่าใครทำ?

เพียงเช้าตรู่สารวัตรนิรุตต์กับหมวดนะก็มาถึง แหวนพลอยกับพัสกรพยายามให้ปากคำ พัสกรบอกว่า ตนเกือบจับมันได้อยู่แล้วแต่มันมีมีด ตอนที่จับแขนมันเหมือนมันจะมีกล้าม และแสงไฟทำให้เห็นลูกกระเดือกมันด้วย เขายืนยันมั่นใจว่า “มันเป็นผู้ชาย!!!”

ขณะที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บรอยเลือดและถ่ายรูปที่เกิดเหตุ จันทิมาเห็นนิรุตต์กับหมวดนะกำลังยืนซุบซิบกันอยู่ก็เดินเข้าไปพูดว่าใครที่มันทำแบบนี้มันต้องการอะไร กุ๊งกิ๊งว่ามันต้องเป็นพวกโรคจิต

“เห็นได้ชัดว่าเมื่อวานนี้ นายฉัตรชัยให้คนคอยติดตามความเคลื่อนไหวของคุณพัสตลอดเวลา สะกดรอยตามแล้วก็ไปทำร้ายคุณพัสกร” นิรุตต์วิเคราะห์ กุ๊งกิ๊งแย้งทันทีว่า

“โน!!! สะกดรอยที่ไหน เมื่อวานมีคนส่งข้อความมาบอกคุณฉัตรชัยต่างหาก คุณฉัตรชัยถึงไปเจอพัส”

จันทิมาถามว่าเธอรู้ได้ไง กุ๊งกิ๊งบอกว่าเธอเล่าให้ตนฟังเองตอนนั่งรถมาด้วยกัน จันทิมาถามว่าตนหรือเล่า ตนรู้เรื่องนายฉัตรชัยขนาดนั้น? กุ๊งกิ๊งแนะนำให้ไปกินแปะก๊วยเสีย อายุเท่าไหร่กัน ทำเป็นลืม

จากหลักฐานและข้อมูลที่ได้ สารวัตรนิรุตต์สรุปในเวลาต่อมาว่า

“คนร้ายมีมากกว่าหนึ่ง และก็คงไม่ใช่อาชญากรทั่วไป อุตส่าห์สร้าง Installation arts เพื่อข่มขู่ มันต้องมีความครีเอทีฟด้วย” สารวัตรนิรุตต์สรุปแล้วเตือนว่า คนร้ายต้องลงมืออีกแน่นอน เสนอพัสกรว่า “ถ้าคุณไม่อยากให้คนของผมมาคุ้มกัน ผมก็ต้องขอให้คุณย้ายไปอยู่ที่อื่นสักพัก ที่ที่มันปลอดภัยกว่าหงส์เหิน”

พัสกรกับขวัญกมลเห็นด้วยแต่แหวนพลอยเห็นว่าเราควรสู้ ต้องอยู่ลุยกับมันกระชากหน้ากากมันออกมาให้ได้ ขวัญกมลถามว่าแล้วต้องให้คนพลีชีพเพื่อพัสกรอีกกี่คนกว่าจะจับมันได้

“ไม่ต้องกลัวขวัญ ผมไม่ยอมให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะผมอีกแล้วเหมือนกัน ถ้าการเต้นมันคือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย ผมจะจบมันเอง” แม้แหวนพลอยจะบอกเขาว่าการเต้นคือความฝันของเขา คือทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเลยนะ ถ้าเลิกเต้นก็ไม่ต่างกับตายทั้งเป็น พัสกรยืนยันว่าตนตัดสินใจแล้ว ยังไงตนก็ไม่เต้นอีก

แต่แล้วก็มีเหตุให้พัสกรต้องมาสอนเต้นเมื่อป้านิดกับครูจันทราขอความช่วยเหลือจากเขาเนื่องจากกิจกรรมของสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเราเขาขาดคน ป้านิดจึงไปเสริม รับปากเขาไปแล้วว่าจะร่วมแสดงชุดกำลังใจจึงต้องให้พัสกรช่วยดูเรื่องการเต้นให้ พัสกรจึงต้องมาสอนเต้นให้

แต่พอแหวนพลอยเล่าเรื่องพัสกรถูกข่มขู่ให้เลิกเต้นว่า “มึงเต้น ทุกคนตาย” ครูจันทรากับป้านิดบอกว่าถ้าอย่างนั้นพัสกรอย่าอยู่เลยรีบหนีไปเถิด ครูจันทราพูดอย่างวิตกว่า

“ไม่ควรมีใครมาเป็นอันตรายจากน้ำมือของไอ้พวกทำตัวเหมือนพวกโรคจิตอีกแล้ว ...พัสกรไม่ควรอยู่ที่โรงเรียนหงส์เหินจนกว่ามันจะถูกจับได้”

“ในเมื่อมันไม่อยากให้ผมเต้น ผมจะหยุดเต้น ไม่อยากให้ผมสอน ผมก็จะหยุดสอน...ผมจะเต้นเมื่อผมอยากเต้น แต่ตอนนี้ผมเต้นไม่ออกจริงๆ ผมเหนื่อยผมก็พัก วันนี้ผมท้อก็เอาไว้วันใหม่”

“งั้นคุณพัสกรจะไปไหน แหวนพลอยก็จะไปอยู่กับคุณ” เมื่อพัสกรแน่วแน่ว่าจะไม่เต้นอีก แหวนพลอยก็จะไปกับเขาทุกที่เหมือนกัน

ooooooo

พัสกรตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านที่อุบลฯโดยพาขวัญกมลไปด้วย ขวัญกมลตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าพัสกรมีบ้านอยู่ที่อุบลฯและบ้านก็ได้รับการปรับปรุงดูแลอย่างดีจากทนายวิโรจน์ที่มาเตรียมไว้แล้ว

ปู่ดีใจมากจัดดนตรีมาต้อนรับและตัวเองก็เต้นอย่างลืมวัย ทนายวิโรจน์บอกว่าให้ปู่วางมือจากงานดูแลบ้านได้แล้ว ต่อไปนี้ตนจะดูแลบ้านนี้แทนปู่เอง

ส่วนที่โรงพักนิรุตต์กับหมวดนะยังติดตามสืบค้นประวัติประกอบการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง วันนี้หมวดนะเอาข้อมูลเรื่องพ่อของจันทิมามาให้ดู ปรากฏว่าพ่อเธอเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ 3 ใบ ตอนนี้ทำเรื่องประนอมหนี้อยู่แต่ต้องส่งต้นส่งดอกทุกเดือน นิรุตต์อ่านแล้วพึมพำ

“ตัวเลขเยอะเหมือนกันนี่นา มิน่า...พอนายฉัตรชัยเสนอเงินที่มากกว่าก็เลยไม่ปฏิเสธ”

ส่วนข้อมูลของฉัตรชัย หมวดนะเล่าว่าก่อนเกิดคดีหงส์เหิน ฉัตรชัยเคยคบกับเศรษฐินีสูงวัยอยู่ 4 คน และคบได้ไม่นานผู้หญิงเหล่านั้นก็ตายกะทันหันด้วยสาเหตุต่างกัน โดยทุกคนเขียนพินัยกรรมยกมรดกให้ฉัตรชัย เล่าแล้วหมวดก็บุ้ยใบ้ให้ดูฉัตรชัยกับหญิงอ้วนอายุราว 40 จากการแต่งตัวและเพชรทองเต็มตัวก็รู้ว่าเป็นพวกเศรษฐินี นิรุตต์จำได้ว่าเป็นลูกสาวเจ้าสัวจรูญรวยระดับพันล้าน

แต่ครู่เดียวก็มีลูกน้องของพ่อแม่สาวไฮโซเข้ามาจะอัดฉัตรชัย มันตะคอกว่า

“เจ้าสัวจรูญเตือนแล้วไงวะ ว่าอย่ามายุ่งกับคุณหนูเพิ้ง”

แต่พอฉัตรชัยผิวปากลูกน้องก็กรูกันออกมาเล่นงานลูกน้องพ่อแม่ของเพิ้ง นิรุตต์กับหมวดนะแสดงตัว

เป็นตำรวจ พวกลูกน้องที่กำลังฟัดกันนัวเนียต่างก็หนีเอาตัวรอด นิรุตต์ให้หมวด ว.เรียกกำลังเพิ่ม แต่พอหันมองอีกทีปรากฏว่าฉัตรชัยกับเพิ้งหายไปแล้ว

ooooooo

 ฉัตรชัยพาเพิ้งหนีมาถึงหน้าโรงเรียนของตัวเองก็กอดโอ๋เป็นการใหญ่ จันทิมาสอนเสร็จเดินออกมาเห็นพอดีจึงแอบดู แต่จู่ๆกุ๊งกิ๊งก็ตรงเข้ามากระชากเพิ้งออกไปตบและด่าว่า กล้าดียังไงมากอดผู้ชายของตน

ฉัตรชัยพยายามห้าม กุ๊งกิ๊งถามเขาว่า “จะไล่มัน หรือให้ฉันแฉคุณ” ฉัตรชัยชะงักไปทันที เปลี่ยนเป็นตะโกนเรียกเจบีให้ไปส่งคุณหนูเพิ้งที่บ้านที

พอเจบีต้อนเพิ้งไป กุ๊งกิ๊งก็ใส่ฉัตรชัยทันทีว่า

 “ไหนบอกว่าจะหยุด ไหนบอกจะไม่มีใคร แล้วไปหิ้วยายนั่นมาทำไม”

“พี่เขาเหงา อยากเรียนเต้น ไม่มีอะไรหรอก อย่าหึงผมเลยนะ กุ๊งกิ๊งก็น่าจะรู้นี่นาว่าผมกำลังทำทุกอย่างเพื่ออนาคตของเรา”

จันทิมาที่แอบดูแอบฟังอยู่ตกใจส่ายหน้าแบบรับไม่ได้ก้าวออกมา แต่ชนเข้ากับนิรุตต์ที่ยืนอยู่พอดี

จันทิมาสับสนรับไม่ได้บอกนิรุตต์ว่า ตนกับกุ๊งกิ๊งเป็นเพื่อนรักกันรวมทั้งพัสกรด้วย กุ๊งกิ๊งไม่ใช่คนแบบนี้ เป็นไปได้ยังไง

นิรุตต์ได้ทีสะกิดว่าดังนั้นกุ๊งกิ๊งอาจทำอย่างอื่นที่เธอคาดไม่ถึงอีกก็ได้เพื่อให้พัสกรเลิกทำโรงเรียน เลิกเต้น เพื่อฉัตรชัยจะได้ไม่มีคู่แข่งอีก เห็นจันทิมานิ่ง นิรุตต์แซะอีกว่า

“คุณกุ๊งกิ๊งพูดว่าจะแฉนายฉัตรชัย กุ๊งกิ๊งมีเรื่องที่เอาไว้ใช้แบล็กเมล์นายฉัตรชัยและก็ทำให้ฉัตรชัยยอมจำนนทันที ทั้งสองคนมีความลับร่วมกัน ความลับอะไร”

จันทิมายังยืนยันว่ากุ๊งกิ๊งไม่มีวันทำพัสกร นิรุตต์แย้งว่า

“ตรงกันข้าม เวลานี้ผมกลับคิดว่าเพื่อนรักที่หักหลังพัสกร อาจจะไม่ใช่คุณแล้วล่ะจันทิมา”

จันทิมาอึ้ง เริ่มลังเล

ooooooo

เพื่อจะทำให้พัสกรหันกลับมาเต้นอีกครั้ง แหวนพลอย ปู่ กวง และทนายวิโรจน์เอาโน้ตบุ๊กมาเปิดรูปถ่ายของพัสกรที่ถ่ายในวาระต่างๆมาเปิดดูและทายกันว่าถ่ายที่ไหน เมื่อไหร่ เล่นกันอย่างสนุกสนานเฮฮา

พัสกรอยู่ในห้องนั่งเล่นได้ยินเสียงเฮฮาจึงเดินลงมาดู พอดีทนายวิโรจน์บอกว่าตนจำได้ว่าคลิปนี้ถ่ายที่หงส์เหิน พัสกรเดินมาดูจำได้ว่า วันนั้นเด็กๆต้องขึ้นประกวดแล้วก็กดดันกันมาก ทนายวิโรจน์เสริมว่า เขาเลยต้องเต้นให้เด็กๆคลายเครียดและสอนเด็กๆว่า

“ไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่มา สนใจกับความสุขตรงหน้า จำความสนุกตอนที่เต้นเอาไว้”

“แล้วเวทีนั้นเด็กๆก็คว้ารางวัลที่ 1 เป็นครั้งแรก” พัสกรภูมิใจ

ทุกคนดึงความสนใจของพัสกรมาสู่อดีตด้วยการดูและทายรูปต่อไป พัสกรเห็นรูปก็บอกทันทีว่าเหตุเกิดที่ไหน ทำอะไร พอจะให้ทายกวงก็นับถอยหลัง แต่พอนับถึง 1 ก็มีเสียงกรี๊ดของขวัญกมลแหลมเข้ามา พร้อมกับเสียงแก้วตกแตก พัสกรและทุกคนรีบวิ่งไปดู

ขวัญกมลในสภาพเกร็งทั้งตัว ท่าทางหวาดกลัวมาก ร้องกรี๊ดๆและชัก พอทุกคนช่วยกันนวดจนเธอผ่อนคลาย เธอเล่าว่า

“ขวัญก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร พอพัสเต้นแล้วได้ยินเสียงนับถอยหลัง อยู่ๆมันก็คิดถึงเรื่องวันนั้น”

ปู่ถามว่าวันไหน กวงบอกว่าวันบึ้มไง ปู่พึมพำว่า “อย่างนี้นี่เอง กลัวจนชักเลย!!”

ทนายวิโรจน์อธิบายว่าเป็นความเครียดที่ตกค้างอยู่ ขวัญกมลรีบบอกว่าไม่ใช่ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู แล้วเดินไปกดโน้ตบุ๊กดูต่อ บอกว่าตนดูได้สบายมากไม่มีอาการตกค้าง ไม่ได้ปรี๊ดไม่ได้เครียดอะไรเลย แต่พอดูถึงท่าตีลังกาของพัสกร เธอตัวสั่นน้ำตาคลอ ปู่ตกใจร้อง

“เฮ้ยๆกำเริบอีกแล้วว่ะ”

พัสกรสั่งไม่ให้ดูและให้ลบคลิปพวกนี้ทิ้งให้หมด แหวนพลอยพุ่งเข้ากอดโน้ตบุ๊กไว้โวยว่า

“ทิ้งได้ไงกันคะ นี่มันความทรงจำของคุณพัสกรทั้งนั้นเลย แหวนพลอยเก็บสะสมมาตั้งนาน”

“งั้นก็อย่ามาเปิดดูกันอีก ทุกคนด้วย ห้ามเปิดรูปเปิดคลิปที่ผมเต้นอีกเด็ดขาด”

แหวนพลอยรับไม่ได้ถามแค่รูป แค่คลิป มันทำร้ายใครไม่ได้หรอก ไม่ได้น่ากลัวอะไร ถามว่าจะปิดหูปิดตาไปทำไม ขวัญกมลถามอย่างหาเรื่องว่า

“เธอหมายความว่าคนที่กลัวของพวกนี้ต้องบ้า ประสาท โรคจิต หรือไม่ก็สำออย เรียกร้องความสนใจใช่ไหมล่ะแหวนพลอย” แหวนพลอยรีบบอกว่าตนไม่ได้หมายความอย่างนั้น “แล้วเธอหมายความว่ายังไง มีแค่คนอ่อนแอเท่านั้นใช่ไหมที่เห็นของพวกนี้แล้วกลัว ดีนะที่ฉันไม่กลัว อย่ามาทำเหมือนฉันอ่อนแอ ทุกคนดูได้ฉันก็ต้องดูได้”

ขวัญกมลจะแย่งโน้ตบุ๊กไป แหวนพลอยกอดโน้ตบุ๊ก เบี่ยงตัวหนีอย่างหวงแหน จนพัสกรบอกขวัญกมลว่าพอได้แล้ว ตวาดแหวนพลอยให้เอาโน้ตบุ๊กไปให้พ้น

แหวนพลอยเสียใจที่ถูกพัสกรตวาด ส่วนขวัญกมลก็ร้องไห้โฮกอดพัสกรไว้แน่นเหมือนทนฝืนตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้ว

ทุกคนนิ่งอึ้ง ปู่ไม่รู้จะพูดอะไรเริ่มไม่ค่อยชอบขวัญกมลขึ้นตงิดๆ พัสกรมองปู่กับทนายวิโรจน์เชิงขอโทษแล้วประคองขวัญกมลออกไป ทนายวิโรจน์เลยชวนปู่ออกไป แหวนพลอยจึงเดินกอดโน้ตบุ๊กตามไป พัสกรมองแหวนพลอยอย่างรู้สึกผิดที่ตวาดเธอแต่ก็ทิ้งขวัญกมลไปไม่ได้ ขวัญกมลร้องไห้กระซิกๆบอกพัสกรว่า

“ขวัญไม่อยากเป็นแบบนี้เลย ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับพวกเราด้วย”

“ตำรวจจับตัวคนร้ายได้เมื่อไหร่ ทุกอย่างก็จะจบนะขวัญ”

พัสกรกอดปลอบและบอกตัวเองในตัวด้วย

ooooooo

สารวัตรนิรุตต์เชิญฉัตรชัยไปให้ปากคำที่โรงพัก ถามว่าคืนเกิดเหตุเขาอยู่ที่ไหน ฉัตรชัยคุยโวว่าตน ค่อนข้างบีซี่ จำไม่ได้ว่าวันไหนทำอะไร หมวดนะถามว่างั้นเขาคงไม่มีพยาน

ฉัตรชัยตอบกวนๆว่ามีมั้ง คงต้องเช็กสเกตดวลอีกที แต่พอนิรุตต์บอกว่าจะถามหนูเพิ้งดูเอง ฉัตรชัยก็ผงะมองนิรุตต์แบบรู้ได้ไง? นิรุตต์ถามว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าพัสกรอยู่ไหนจนตามไปถูก เขาจ้างคนสะกดรอยพัสกรตลอดเวลาใช่ไหม ฉัตรชัยทำเสียงขำๆถามว่า สะกดรอยมันเพื่ออะไร ทนายก็แก้ต่างให้ว่าฉัตรชัยไม่เคยประสงค์ร้ายกับใคร

“แต่มีคนส่งข้อความบอกคุณ” นิรุตต์ดักคอ ฉัตรชัยเผลอบอกว่าใช่ พอนึกได้ก็หันมองหน้าทนาย ทนายไม่ทันแก้ต่าง นิรุตต์ก็ยื่นหน้าเข้าไปถามว่า “ใครเป็นคนส่งข้อความมา?!”

ฝ่ายกุ๊งกิ๊งกับจันทิมาก็โต้เถียงกันว่าใครส่งข่าวเรื่องพัสกรให้ฉัตรชัย กุ๊งกิ๊งไม่ยอมรับว่าตนพูด จันทิมาหาว่ากุ๊งกิ๊งโกหกเพื่อน ถามว่าเธอคบกับฉัตรชัยได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไม...

กุ๊งกิ๊งสวนเสียงดังอย่างโกรธกว่าเพื่อหาเรื่องกลบเกลื่อนว่า

“ทำไม...ก็แล้วจะทำไม ทีเธอไปทำงานกับคุณฉัตรชัยยังไม่บอกใครสักคำ”

เต้เห็นสองสาวมีอารมณ์ใส่กันก็รอมชอมว่าจันทิมาเขามีปัญหาเรื่องเงินกุ๊งกิ๊งก็รู้ กุ๊งกิ๊งหาว่าเต้เข้าข้างจันทิมา จันทิมาพาเต้มารุมตน แฉจันทิมาว่าชอบฉัตรชัย แต่ฉัตรชัยมาชอบตนจึงทนไม่ได้ ไล่ให้กลับไปเสียตนไม่อยากคุยด้วย ตรงเข้าผลักจันทิมาจนเกือบล้ม แต่ยังหันกลับมาบอกกุ๊งกิ๊งว่าตนไม่ได้อ่อยฉัตรชัย ตนไม่ได้ชอบเขาทำไมไม่ฟัง แต่ถูกกุ๊งกิ๊งปิดประตูโครมใส่หน้าแล้ว

จันทิมาตะโกนใส่ประตูว่า “เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนหรือ” กุ๊งกิ๊งเปิดประตูมาตะโกนว่า “แกไม่ใช่เพื่อนฉัน!” แล้วปิดประตูใส่หน้าอีกปัง จันทิมามองอย่างเสียใจ

เต้มองจันทิมาอย่างเห็นใจและเข้าใจ ปลอบว่า

เดี๋ยวเย็นลงแล้วค่อยคุยกันอีกทีก็แล้วกัน จันทิมาบอกว่ากุ๊งกิ๊งชอบฉัตรชัยมาก หวังว่าคงไม่หลงฉัตรชัยจนทำเรื่องไม่ดี เต้บอกว่ากุ๊งกิ๊งรักใครรักจริงเกลียดใครก็เกลียดจริง ตนมั่นใจว่ากุ๊งกิ๊งไม่เกลียดพัสกรแต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะ “บางทีคนเราก็ไร้เหตุผลทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เข้าใจ รู้ว่าไม่ดีแต่ก็ยังทำเพราะความรักตัวเดียว”

ooooooo

ส่วนบ้านที่อุบลฯ พัสกรขอโทษแหวนพลอยที่ตวาดเธอ เมื่อมาอยู่บ้านที่เคยอยู่ด้วยกันแต่เด็ก ความจำในอดีตที่เคยเล่นกันก็ทำให้เกิดความสนิทสนมกันโดยธรรมชาติ ยิ่งเมื่อคุยถึงอดีตก็ยิ่งสนิทกัน

พัสกรถามถึงคลิปกับรูปถ่ายเมื่อวานว่าเธอยังไม่ได้ลบใช่ไหมตนอยากดู แหวนพลอยระแวงว่าเขาแกล้งขอแล้วจะเอาไปลบทิ้ง

“ก็เธอตั้งใจย้อนความหลังให้ฉัน...เพื่อให้ฉันได้ดูภาพเก่าๆ ได้นึกย้อนไปถึงวันดีๆ ฉันจะได้มีกำลังใจสู้ต่อไปไม่ใช่เหรอ”

แหวนพลอยดีใจบอกว่าเดี๋ยวจะเอามาเปิดให้ดู ทั้งสองยังหยอกล้อกันเหมือนตอนเด็กๆดูน่ารักสนุกสนาน ปู่บอกว่าเมื่อก่อนภาพอย่างนี้เห็นประจำ อีหล้าน้อยมันทำให้คุณพัสกรหัวเราะได้เสมอ แล้วบรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อปู่เห็นขวัญกมลเดินมาทั้งปู่และทนายวิโรจน์หลบทันที

ขวัญกมลเข้ามาฉอเลาะพัสกรถามว่ากินข้าวหรือยัง พอรู้ว่ายังก็สั่งแหวนพลอยให้รีบไปตั้งโต๊ะเพราะพัสกรเขากินข้าวผิดเวลาไม่ได้

แหวนพลอยจะเดินไปเข้าครัว ปู่ดึงแขนไว้บอกด้วยสีหน้ามีเลศนัยหัวเราะร่าว่า

“เดี๋ยวปู่ช่วย หึๆ ฮ่าๆๆ”

ไม่นานแหวนพลอยก็ตั้งโต๊ะเสร็จ อาหารวางเต็มโต๊ะล้วนเมนูเด็ดของอีสาน แหวนพลอยเอาถ้วยแบ่งมาตักต้มอึ่งใบมะขามอ่อนแจกจ่าย ทนายวิโรจน์บอกว่าตนเอาแต่น้ำๆพอ ตักชิมก็ชมว่านัวอีหลี แหวนพลอยตักให้ขวัญกมลมีอึ่งตัวกลมท้องเป่งตาถลนลอยอยู่กลางถ้วย

พอขวัญกมลเห็นก็ลุกพรวดวิ่งออกไปอ้วกในห้องน้ำ ปู่กับกวงตีมือกัน ปู่พึมพำสมใจ “สำมะเร็จเสร็จโก๋” แต่ทนายวิโรจน์พึมพำหนักใจประสาทนายความว่า “คดีนี้คงไม่จบง่ายๆ”

ครู่ใหญ่พัสกรก็เข้าครัวจะเจียวไข่ให้ขวัญกมลกิน แหวนพลอยบอกว่าให้เขาพักผ่อนเสียเข้าครัวให้เหนื่อยทำไม ขวัญกมลจึงบอกให้พัสกรไปพักตนจะอยู่ช่วยแหวนพลอยเอง

ระหว่างอยู่ด้วยกันในครัว ขวัญกมลกินคางคกทอดโชว์แหวนพลอยอย่างเอร็ดอร่อย แหวนพลอยอึ้งถามว่าเมื่อเช้าเธอแกล้งอ้วกหรือ ขวัญกมลกินคางคกทอดโชว์พลางก็พูดให้แหวนพลอยเจ็บใจว่า

พัสกรหน้าตาดี อบอุ่น ใครอยู่ใกล้ก็ต้องคลั่งไคล้ อย่างเธอเขาให้ได้แค่ความหวังไม่ใช่ความรักเหมือนที่ให้ตน อย่ากระเสือกกระสนดิ้นรนเลย ยังไงเธอก็ชนะตนไม่ได้ อย่าแย่งแฟนคนอื่นเลย มันทุเรศ!

ปู่เดินผ่านมาได้ยินก็ไม่พอใจบอกว่าแหวนพลอยเจอคุณพัสกรก่อนแล้วจะเรียกว่าแย่งได้ยังไง ร้ายกับหลานตนนักเห็นทีจะอยู่กันดีๆไม่ได้เสียแล้ว

คืนนี้เอง กวงก็ไปทำผีหลอกขวัญกมล เธอตกใจร้องกรี๊ดจนพัสกรลุกมาดูกอดปลอบว่าเธอฝันร้ายมากกว่า ขวัญกมลอ้อนว่าตนไม่กล้านอนคนเดียวแล้ว พัสกรจึงประคองเข้าห้องนอนด้วยกัน

ทุกคนมองอึ้ง แหวนพลอยบอกว่าตนไม่อยากแกล้งคุณขวัญกมลแล้ว แกล้งทีไรเขาก็จับได้แล้วเราก็ซวยเอง คุณพัสกรก็พลอยลำบากไปด้วย บอกทุกคนว่า

“ตอนนี้ตนมีเป้าหมายเดียวที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมากคือการทำให้คุณพัสกรกลับไปเต้นแล้วก็สอนเต้นอีกครั้ง เดินหน้าสู่ความจริงสู่ความฝันไม่ว่อกแว่กไม่หวั่นไหว แหวนพลอยต้องทำให้ได้”

ปู่เห็นด้วยยื่นมือออกไปวางบนมือทนายวิโรจน์ กวงวางทับด้วย แหวนพลอยบอกทุกคนว่า

“เราต้องทำให้คุณพัสกรกลับมาเต้นให้ได้ เฮ้!!”

ทุกคนชูมือขึ้นรวมพลังร่วมใจเต็มที่เพื่อเป้าหมายเดียวกัน

ooooooo

อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก มนตราลายหงส์ ตอนที่ 3 วันที่ 14 มิ.ย.61

มนตราลายหงส์ บทประพันธ์โดย ศตรัศมิ์
มนตราลายหงส์ บทโทรทัศน์โดย ปลายสี
มนตราลายหงส์ กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย นาคสุริยะ,นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์
มนตราลายหงส์ ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี บราเธอร์ จำกัด
มนตราลายหงส์ ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ