อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 5 วันที่ 25 มิ.ย.61
ตั้งแต่มีปัญหากับเดือนสิบ เที่ยงวันเอาแต่นั่งซึมและเหม่อลอย สวาทวิมลเห็นลูกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็ไม่สบายใจเพราะเหมือนตอนที่ฟานบอกเลิกกับลูกไม่มีผิดเพี้ยน บ่นกับทูลว่ากลัวเหลือเกินว่าลูกจะรับสภาพนี้ไม่ได้และหันกลับไปพึ่งยาเสพติดอีก ทูลขอให้ดูๆไปก่อน อาจจะไม่มีอะไรก็ได้อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้“คุณก็ใจเย็นแบบนี้ทุกที ฉันจะไม่ยอมให้เที่ยงกลับไปทุกข์ทรมานแบบนั้นอีกเด็ดขาด”...
ไม่ได้มีแต่เที่ยงวันเท่านั้นที่ทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เดือนสิบเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน แถมหนักกว่าด้วยซ้ำเพราะไม่ใช่จะมีแต่เรื่องนี้เท่านั้น เธอยังเป็นกังวลเรื่องที่ดวลไม่ให้ความร่วมมือ นี่ถ้าเปลี่ยนจากลำธารกับเงินยวงเป็นเที่ยงวัน ดวลคงจะให้ความร่วมมือมากกว่านี้ การที่ดวลตั้งแง่กับเงินยวงทำให้ลำธารไม่พอใจ ทนดูต่อไปไม่ไหวขอตัวกลับก่อน เดือนสิบจะเดินไปส่งเขาก็ไม่ยอมให้ไป เธอได้แต่มองตามหนักใจ...
ด้านสวาทวิมลพยายามจะเอาใจเที่ยงวันทุกอย่างเผื่อเขาจะผ่อนคลายเรื่องทุกข์ใจได้บ้าง เขากลับหงุดหงิดใส่ เธอถึงกับน้ำตาซึม...
เดือนสิบปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ จึงเข้ามาคุยกับดวลตรงๆให้ร่วมมือกับเงินยวง เขาอ้างยังไม่พร้อมไว้พร้อมเมื่อไหร่เขาจะเลิกเอง เธอเริ่มไม่พอใจ คาดคั้นว่าเมื่อไหร่จะพร้อม ทุกคนอุตส่าห์เสียสละเวลามาช่วยเขาทั้งที่มีงานต้องทำ ดวลไม่ได้อยากคุยกับเงินยวงแต่อยากคุยกับเพื่อนที่พูดภาษาเดียวกัน ขอร้องให้เธอตามเอนเพื่อนที่ดีสุดมาให้ เดือนสิบอัดอั้นใจน้ำตาแทบร่วงต่อว่าเขาว่าไปถามถึงเพื่อนแบบนั้นทำไม
“เพื่อนที่ยืนมองดวลกำลังจะตายโดยไม่คิดจะช่วยอะไรเลย คนแบบนี้น่ะเหรอเพื่อนที่ดีที่สุดของดวล”
“แล้วคนพวกนั้นพี่เดือนคิดว่าเขาดีกับดวลเพราะหวังดีเหรอ พี่ธารเขาก็แค่หลงก้าวเท่านั้น พี่เดือนเองก็เถอะ ที่พี่เดือนพยายามให้ดวลเลิกยาเพราะห่วงตัวเองมากกว่า บ้านพี่ธารเขารังเกียจดวล ที่พี่เดือนทำทุกอย่างก็เพื่อจะได้แต่งงานกับพี่ธาร ไม่ได้ทำเพื่อดวล”
“พูดพอหรือยัง” สกาวตวาดลั่น ดวลตกใจไม่เคยเห็นแม่ของขึ้นแบบนี้มาก่อน เดือนสิบทั้งจุกทั้งเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ หมดแรงจะพูดกับน้องชายต่อไป เดินหนีออกจากห้องทั้งน้ำตา สกาวใจคอไม่ดีรีบตามเธอจนทัน ขอร้องอย่าทิ้งน้องไปน้องยังเด็ก เธอปาดน้ำตาทิ้ง
แล้วกุมมือแม่ไว้
“บางทีดวลอาจจะพูดถูก เดือนอาจจะมองแต่ปัญหาตัวเอง แล้วที่เดือนทำทั้งหมดก็คงเพื่อตัวเอง” เดือนสิบตัดพ้อ สกาวดึงลูกมากอด ขอร้องอย่าถือโทษโกรธน้องที่พูดไปด้วยอารมณ์ ที่ผ่านมาเธอทำดีแล้วเพียงแต่ท่านไม่แน่ใจว่าที่เธออดทนกับลำธารเพื่ออะไร เดือนสิบตอบโดยไม่ลังเลว่าอดทนเพื่อพวกเราทุกคน
“แล้วตัวเดือนล่ะลูก...ชีวิตเป็นของเดือนนะลูก เดือนตัดสินใจให้ดีว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ยังไง ความรักมันมีวันหมดนะลูก และถ้าวันไหนที่ความรักเหือดแห้งเหลือแค่ความรับผิดชอบล่ะก็...”
เดือนสิบโดนแม่พูดจี้ใจดำเข้าไปเต็มๆถึงกับพูดอะไรไม่ออก...
เอนมาเที่ยวผับเจ้าประจำเจอสรามากับเพื่อนอีกสองคนรีบเข้าไปทักทายหวังจะปะเหลาะถามถึงกิ่งคำ แต่ไม่ได้อะไรมากนัก รู้แค่ว่าคืนนี้เธอไม่มา ทีแรกเขาจะเปลี่ยนใจลองอ่อยสราดู แต่พอเห็นกระเป๋ารองเท้ากับเสื้อผ้าของเธอแล้วยังไม่ใช่เกรดที่เขาจะพอสูบเงินได้ ก็เลยต้องกลับที่พักอย่างผิดหวัง
ยิ่งเปิดประตูห้องมาเจอจดหมายทวงค่าเช่าห้อง 30,000 บาท เอนขยำจดหมายทิ้งหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เดินไปเปิดลิ้นชักหยิบห่อยาเสพติดออกมาทำให้นึกถึงดวล พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดของเอน ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กนักเรียน ม.4 เจอดวลครั้งแรกที่หน้าโรงเรียน ดำเกิงกับสกาวขับรถมาส่งดวล โดยมีเดือนสิบนั่งมาด้วย เอนเห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้ ช่างเป็นครอบครัวสุขสันต์มีแต่รอยยิ้มให้กัน
ดวลเกือบจะเดินชนกับเอนที่เดินสวนมา ทีแรกเขาไม่ค่อยจะชอบดวลนักเพราะอิจฉาที่ดวลมีครอบครัวที่อบอุ่น ส่วนเขาไม่มีใครสนใจไม่ว่าพ่อหรือแม่ เอนยังแปลกใจไม่หายว่าเขากับดวลไม่น่าจะมาเป็นเพื่อนกันได้ ดวลเป็นเด็กเรียนเก่งด้านกีฬา ส่วนเขาแทบจะไม่เคยเข้าเรียน มั่วยาเสพติด เกเรไปวันๆ
แต่แล้วโชคชะตาพาให้ทั้งคู่มาสนิทกัน ดวลบังเอิญเข้าห้องน้ำไปเจอเอนถูกรุ่นพี่รุมเล่นงานเพื่อจะแย่งยาเสพติด เขาร้องเอะอะทำให้รุ่นพี่ตกใจวิ่งหนี เอนก็เลยรอดมาได้
ooooooo
เอนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของครอบครัวดวล จากที่เคยยิ้มแย้มมีความสุขตอนมาส่งดวลที่โรงเรียนมาบัดนี้นอกจากจะไม่มีรอยยิ้ม ดำเกิงยังเกรี้ยวกราดใส่ เมื่อได้อยู่กันตามลำพังเอนคาดคั้นให้ดวลบอกว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเล่าว่าพ่อของเขาล้มละลายก็เลยพาลกับคนในบ้านไปหมด
“เขาเปลี่ยนไปเยอะ ใครก็เข้าหน้าไม่ติดว่ะ กูก็ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้...กูเครียดว่ะ บางทีก็ไม่อยากกลับบ้าน สงสารแม่ด้วย มีอะไรพ่อก็ระเบิดลงอย่างเดียว”
“ไม่ต้องไปคิดมาก เอางี้...” เอนหยิบยาเสพติดที่ซุกในกระเป๋านักเรียนออกมาให้ ดวลไม่ยอมรับเขาก็เอายายัดใส่กระเป๋าเสื้อเผื่อจะทำให้ลืมเรื่องเครียดๆได้ ดวลปฏิเสธว่าไม่ต้องการลองกลัวจะติด
“กูไม่ได้ให้มึงแดกทุกวันนะ กูห่วงมึง กูช่วยมึงได้เท่านี้แหละ”...
เหตุการณ์ที่ทำให้ดวลแตกหักกับพ่อคือตอนที่ครูใหญ่ยึดยาเสพติดได้จากดวลและเอน จึงเชิญผู้ปกครองของทั้งคู่มาพบ ดวลเห็นว่าถ้าโยนความผิดให้เอนเป็นเจ้าของยาเสพติด เขาก็จะถูกไล่ออกเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ดวลจึงรับสมอ้างว่าเป็นเจ้าของยาเสพติดเพื่อช่วยเพื่อน ดำเกิงโกรธมากกระโจนเข้าไปดึงคอเสื้อลูกจะเอาเรื่อง ครูใหญ่กับสกาวต้องช่วยกันแยกเขาออกจากดวล
ดำเกิงเล่นงานลูกตัวเองไม่พอ ยังตามมาเอาเรื่องเอนอีกด้วย สั่งห้ามไม่ให้มายุ่งกับดวล โทษว่าเป็นเพราะเขาชักจูงลูกของตนไปในทางไม่ดีลูกถึงได้เป็นแบบนี้
แล้วกระชากคอเสื้อเอนจะเอาเรื่อง ดวลมาเห็นพอดีเข้าไปห้าม และสั่งไม่ให้พ่อมายุ่งกับเพื่อนของตน ดำเกิงโกรธมาก
“ไอ้ดวลไอ้ลูกเวร แกพูดอย่างนี้ได้ไง ฉันเป็นพ่อแกนะ แกจะเลือกเพื่อนหรือเลือกใครว่ามาเลย”
ดวลตอบโดยไม่ต้องคิดว่าเลือกเพื่อน ดำเกิงแค้นสุดๆ ไล่ส่งจะไปลงนรกที่ไหนก็เชิญ...
เอนนึกถึงอดีตแล้วก็อดคิดถึงดวลไม่ได้ รู้สึกเหงาที่ไม่มีเขาอยู่ใกล้ๆ มองยาเสพติดในมือก่อนจะเก็บไว้อย่างเดิม เห็นจดหมายทวงค่าเช่าที่ตัวเองขยำทิ้งแล้วนึกถึงโอเล่ขึ้นมาได้ โทร.ไปของานทำ เขายังไม่มีงานให้แต่วันพรุ่งนี้เขาอยากให้เอนไปเป็นเพื่อน
“ได้ครับพี่โอเล่ ไม่เป็นไรครับ...ผมอยากไปอย่างน้อยก็ได้เปิดโอกาสให้ตัวเองครับ” เอนวางสายหงุดหงิดพอสมควรที่นอกจากจะไม่ได้งานยังต้องออกไปทำธุระกับโอเล่อีกต่างหาก...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน สวาทวิมลดีใจที่เที่ยงวันลงมากินข้าวด้วย ตักข้าวให้อย่างเอาอกเอาใจ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปด้วยดี กระทั่งสวาทวิมลพูดเรื่อง
เดือนสิบขึ้นมาวงแตกทันที เที่ยงวันวางช้อนส้อมลุกออกไปเลย เธอจะตามทูลจับมือไว้ไม่ให้ไป เธอจึงได้แต่มองลูกเดินจากไปอย่างหนักใจ...
เที่ยงวันเดินเข้ามาในห้องตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงรู้สึกหดหู่เหลือเกิน อยากจะสนุกอยากมีความสุขเหมือนสมัยเรียนหนังสือ เขาอดนึกถึงวันเก่าๆเพื่อนเก่าๆไม่ได้ เพื่อนกลุ่มที่เขาสนิทด้วยเป็นคนชักชวน
ให้เขาเข้าไปในวังวนของยาเสพติด ตอนแรกก็เป็นแค่สูบกัญชา เมื่อเมาได้ที่เห็นอะไรก็หัวเราะขำกันไม่หยุด เขามีความสุขเมื่อได้อยู่กับเพื่อนๆ จากแค่กัญชา หนึ่งเพื่อนของเขาก็หายาเสพติดตัวที่แรงขึ้นมาให้ลอง
ยาเสพติดตัวใหม่ทำให้เที่ยงวันได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขกับเพื่อนกลุ่มนี้ยาวนานขึ้น เขาอยากมีความสุขเหมือนเมื่อวันวานอีก คว้ามือถือขึ้นมาโทร.หาหนึ่ง...
ทางด้านสวาทวิมลเป็นกังวลมากบ่นกับทูลว่ากลัวลูกจะกลับไปหายาเสพติดอีก แม้เธอจะเชื่อใจลูก แต่กลัวว่าสิ่งแวดล้อมที่เราสองคนอุตส่าห์พาลูกออกมาไกลจากมันแล้ว แต่มันก็ยังกลับเข้ามาในชีวิตลูกอีก
“แต่ผมเชื่อ...เชื่อว่าลูกของเราเข้มแข็งพอ”
ooooooo
ณ ออฟฟิศของชีวาตม์ การประชุมกันระหว่างชีวาตม์กับยุพราและนภางค์เริ่มต้นขึ้นไปพลางก่อนโดยมีก้านวงศ์ขอตามนภางค์มาสังเกตการณ์ด้วย แม้โอเล่ซึ่งต้องมาร่วมประชุมด้วยยังมาไม่ถึงก็ตาม
ที่ชีวาตม์นัดมาเจอกันครั้งนี้ก็เพื่อจะคุยเกี่ยวกับการทำทริปไปมาชูปิกชูในเปรู ที่เราจะไปในอีกสองเดือนข้างหน้าซึ่งน่าสนใจมากโดยเฉพาะสำหรับนภางค์เพราะยังไม่เคยเห็นใครไปถ่ายแบบที่นั่นมาก่อน
“จริงด้วยค่ะ น่าสนใจมากนะคะ”
อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 5 วันที่ 25 มิ.ย.61
ละคร ข้ามสีทันดร บทประพันธ์โดย กฤษณา อโศกสินละคร ข้ามสีทันดร บทโทรทัศน์โดย กู๊ดโฮป
ละคร ข้ามสีทันดร กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละคร ข้ามสีทันดร ผลิตโดย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด
ละคร ข้ามสีทันดร ออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ