My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 1 วันที่ 27 มิ.ย.61
เช้าตรู่ พนัสกับลูกน้องกลุ่มหนึ่งพากันเข้าป่าไปถึงบริเวณที่ต้นสักโดนตัดเหลือแต่ตอ ทุกคนเชื่อว่าเป็นพวกเดิมที่พยายามตัดเมื่อสองสามวันก่อน แต่
ครั้งนี้มันส่งคนงานชุดอื่นเข้ามาเพราะพวกมันหลายคนโดนจับอยู่โรงพักและยังมีบางคนบาดเจ็บอยู่โรงพยาบาล
จริงอย่างที่พวกพนัสคาดการณ์ เพราะจากนั้น ไม่นานบรรจงพบหลักฐานซองบะหมี่สำเร็จรูปของประเทศเพื่อนบ้านที่ทิ้งซองเอาไว้ คนร้ายใช้แรงงานพวกนี้เพราะค่าแรงราคาถูก พอโดนจับก็ปล่อยให้ถูกขังสองสามวันแล้วจะมีคนจากสถานทูตมาช่วย สุดท้ายไม้ของเราโดนตัดฟรี สาวยังไงก็ไม่ถึงตัวคนจ้าง
ทุกคนเจ็บใจมาก โดยเฉพาะคณาที่แค้นสุดๆ
ถึงกับเอ่ยชื่อผู้บงการคือ ส.ส.ไกรสร ซึ่งคนอื่นๆก็เชื่อเช่นนั้น แต่พนัสไม่ต้องการให้เอ่ยชื่อใครออกมาโดย
ไม่มีหลักฐาน เพราะถ้าเผลอไปพูดให้ชาวบ้านได้ยินจะเป็นเรื่องและเดือดร้อนมาถึงอุทยานฯ
ที่โรงพยาบาล ปิ๊กกับต๊ะปลอดภัย ผลตรวจออกมาพวกเขาไม่ได้เป็นไข้มาลาเรียแต่เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา รอไข้ลดก็กลับบ้านได้ ปอนด์ดีใจบอกน้องว่าพ่อกับแม่ต๊ะกำลังจะมาถึง ให้ปอนด์เตรียมคำอธิบายไว้ดีๆ
เรื่องที่พากันหลงป่า
“ปิ๊กขอโทษ ปิ๊กไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิด
ขนาดนี้ พอดีปิ๊กเจอไอ้พวกตัดไม้มันจับตัวไว้ มันน่ากลัวมากเลยพี่ ส่วนใหญ่มันไม่ใช่คนไทยนะ แต่ไอ้หัวหน้าน่ะคนไทย พวกมันซ้อมปิ๊ก จับผูกตา น้ำซักหยดก็ไม่ให้กิน”
“มันไม่ฆ่าก็บุญแล้วปิ๊ก”
“ตอนมันจะไป มันจับปิ๊กไปผูกไว้ในน้ำ กะให้พวกป่าไม้มาเจอ จะได้มาช่วยปิ๊กแล้วไม่ไปตามมันไง”
“พอแล้วปิ๊ก ไม่ต้องพูดมากเลย แล้วถ้าใครให้ไปชี้ตัวผู้ร้ายอะไร ก็อย่าไปชี้ บอกว่าจำไม่ได้ไว้ก่อนเข้าใจมั้ย”
“แต่ปิ๊กต้องช่วยพี่อิสร์จับมันให้ได้”
ปอนด์หน้าตึงขึ้นมาทันที สั่งเสียงแข็ง “ไม่ต้อง!!”
“ก็ถ้าไม่ได้พี่อิสร์ปิ๊กคงไม่รอดแล้ว อยากให้พี่ปอนด์เห็นตอนพี่อิสร์ลุยน้ำมาช่วยปิ๊ก...อย่างเท่”
ปอนด์หงุดหงิดหน้างอ ได้ยินปิ๊กรบเร้าให้พาไปขอบคุณพี่อิสร์ก็ยิ่งอารมณ์เสีย สวนว่าทำไมต้องให้พี่
พาไป...พอดีอิสร์โผล่มา เห็นปิ๊กอาการดีขึ้นก็มองหน้าปอนด์เหมือนจะทวงสัญญา
ปอนด์สะบัดหน้าเดินหนีออกไปนั่งที่ร้านกาแฟด้วยความรู้สึกวุ่นวายใจ สักพักอิสร์ตามมาส่งเสียง
อยู่ข้างหลังจนเธอสะดุ้งหันขวับไป
“ไง...คิดเงื่อนไขใหม่ๆได้รึยัง ปิ๊กก็ไม่เป็นอะไรแล้ว แล้วแถมยังบอกรูปพรรณสัณฐานคนร้ายให้ผมเรียบร้อยแล้วด้วย ไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้ารังเกียจผมจนอยาก จะผิดคำพูดล่ะก็...ผมเข้าใจ”
ปอนด์ลุกพรวดยืดตัวตรงพูดเน้นหนักว่าคนรักษาคำพูดคือตนเสมอ คนที่ผิดนัดผิดคำพูดมีแต่เขา เรื่องสัญญาไม่ต้องห่วง เขาอยากแต่งเมื่อไหร่ให้บอกมา ขอให้แน่จริง
“ผมแน่จริงอยู่แล้ว คุณไปหาฤกษ์มาให้เร็วที่สุด ถ้าคุณไม่ไปหาฤกษ์และไม่รีบกลับไปเลิกกับแฟน คุณก็ไม่แน่จริง”
ปอนด์ถลึงตาใส่แทบจะหลุดออกนอกเบ้า ฮึดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาแม่ที่อเมริกาเป็นเวลาดึกดื่น บอก แม่ให้หาฤกษ์แต่งงาน อำไพได้ฟังตกใจแทบตกเก้าอี้ แต่ก็รับปากเพราะเห็นว่าลูกสาวคบกับกรรชิตนานแล้ว
“ปอนด์ไม่ได้จะแต่งกับพี่เก้าค่ะ”
อิสร์ยิ้มพอใจที่ปอนด์กล้าพูดอย่างนั้น ขณะที่อำไพร้องอ้าว ถามลูกสาวว่าไม่แต่งกับกรรชิตแล้วแต่งกับใคร
“ปอนด์จะแต่งงานกับพี่อิสร์ค่ะแม่”
“พี่อิสร์ไหน”
“ก็พี่อิสร์ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันไงคะ”
“อ๋อ บ้านหนุ่มสามออนั่นน่ะเหรอ”
“ค่ะ อิสร์นั้นแหละค่ะ”
“อะไรกันปอนด์ นั่นเลิกกันไปตั้งหลายปีดีดักแล้ว ทำไมจู่ๆจะกลับมาแต่งงานกันได้ แล้วคุณกรรชิตไปไหนซะล่ะ ก็เห็นคบกันดีๆนี่ลูก”
หญิงสาวอยากจะกรี๊ดแต่ไม่กล้าทำต่อหน้า
ชายหนุ่มที่ยืนจับตา บอกแม่ว่าสรุปสั้นๆง่ายๆคือตนเลิกกับกรรชิตแล้ว และกำลังจะแต่งงานกับอิสร์ ช่วยหาฤกษ์แต่งงานเร็วที่สุดให้ตนด้วย พูดแค่นั้นก็วางสายเพราะไม่อยากให้แม่ซักไปมากกว่านี้ แล้วให้อิสร์บอกเวลาตกฟากมาจะได้ให้แม่หาฤกษ์เร็วๆ
“จำไม่ได้...แล้ววันเกิดไม่เอาเหรอ”
“จำได้” ตอบพรวดไปแล้วเธอชะงัก อิสร์ยิ้มปลื้มที่อีกฝ่ายจำวันเกิดเขาได้ ปอนด์รู้ตัวว่าเสียท่าเลยแขวะใส่ “จำได้สิ ฉันมันคนความจำแม่น ไม่เหมือนใครบางคนหรอก จำอะไรไม่เคยได้”
อิสร์ไม่ตอบโต้ มัวแต่ดีใจจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักมาก...มันคือความจริงไม่ใช่ความฝัน
ooooooo
ตกเย็นเลิกงาน อิสร์อารมณ์ดีนั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงหน้าบ้าน ปุ้มลูกสาวของบรรจงปั่นจักรยานมาจอด ชื่นชมน้ำเสียงเขาเพราะมาก ก่อนจะเอ่ยขอโทษว่าวันนี้ตนมาช้าไปหน่อย
ปุ้มนำอาหารใส่ปิ่นโตมาส่งและคะยั้นคะยอให้อิสร์กิน แต่ถ้าเหงาเธอจะนั่งกินเป็นเพื่อน อิสร์ไม่ได้เหงาแต่อึดอัดมากกว่าเพราะปุ้มทอดสะพานเล่นหูเล่นตา ขยับเสื้อผ้าเห็นเนินไหล่ขาวเนียน
ปุ้มหลงรักอิสร์เลยตื๊อหนัก แต่แล้วคณาโผล่พรวดมาขัดคอ หาทางทำให้อิสร์ได้กินข้าวคนเดียวอย่างสบายใจ ส่วนปุ้มหน้างอปั่นจักรยานออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
คณารักปุ้มมาก ขี่จักรยานตามมาตีคู่ บอกให้ใจเย็นไม่ต้องรีบ ถึงทางจะมืดแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวเพราะมีตนคอยดูแลตลอดทางจนถึงบ้านแน่นอน
“ฉันกลัวแกนี่แหละคณา ไอ้ตัวก้างขวางคอ”
“โห...เห็นเราเป็นก้าง น้อยใจจัง...ทำไมเหรอ กะจะกินพี่อิสร์หรือไง เราไม่ให้เธอกิน พี่อิสร์เขากิน
ไม่อร่อยหรอก”
“นี่เบาๆหน่อย เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้าหรอก”
“โอเคๆ เขาไม่พูดถึงพี่อิสร์ก็ได้ เรามาคุยเรื่องของเราดีกว่า คณารักปุ้มนะ คณาอยากเป็นแฟนกับปุ้ม”
“ถุย!”
“เฮ้ย! ถึงกับถุยเลย” พูดแล้วคณาร้องเพลงตัดพ้อ แต่ปุ้มยิ่งหงุดหงิดกับเสียงเพี้ยนของเขา
“โอ๊ย...นี่เสียงคนหรือควายออกลูกวะ พอเหอะคณา ถ้าในโลกนี้มีแกเป็นผู้ชายคนเดียวนะ ฉันขอเป็นดี้ว่ะ”
“งั้นฉันขอเป็นทอม”
เสียงมอเตอร์ไซค์ดังมา ปุ้มเห็นพ่อก็รีบฟ้องว่าคณาทะลึ่งใส่ตนอีกแล้ว บรรจงมองชายหนุ่มตาขวาง
“อะไรคณา แกมาเกาะแกะลูกสาวฉันเหรอ”
“เปล่านะลุง ฉันขี่รถมาเป็นเพื่อนปุ้ม เห็นถนนมันมืดๆ เดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย”
“เออดี ขี่รถมาเป็นเพื่อนน่ะโอเค แต่อย่าคิดจะขี่รถมาเป็นผัวมันละกัน”
“ลุงจะหวงปุ้มไว้ให้ใครเหรอ มันก็ถึงวัยแล้วน่ะ”
“ถึงวัยแล้ว แต่ข้าก็อยากให้มันได้ผัวดีๆ ไม่ใช่...”
“ไม่ใช่อะไร”
“บ้านเอ็งไม่มีกระจกเหรอ งั้นก็ตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาหัวตัวเองซะบ้างก็ดีนะเว้ย”
“จริงพ่อ คนที่เหมาะกะปุ้มคือผู้ช่วยอิสระ รัชชพลกุล หรือพี่อิสร์สุดหล่อเท่านั้น”
“อีนี่ก็เพ้อ”
“ไม่เพ้อนะพ่อ พี่อิสร์ชอบหนู หนูมองตาก็รู้ พ่อคอยดูไปละกัน จะได้ลูกเขยเป็นผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”
“พอแล้วๆ เป็นผู้หญิงจะพูดจะจาก็ให้มันแต่
พอสมควร ไป...กลับบ้านเร็ว ขี่นำไปเลย”
ปุ้มสมใจยิ้มเยาะคณาก่อนขี่จักรยานนำพ่อไป คณามองตามด้วยความเสียใจ
ส่วนอิสร์ หลังอาหารมื้อค่ำเขาโทร.หาพ่อที่ฝรั่งเศส บอกเรื่องแต่งงานเพื่อให้พ่อกลับมาเจรจาสู่ขอผู้หญิงภายในสองอาทิตย์นี้ พ่อตกใจแต่ก็รับปากและอาจจะพาเมียแหม่มไปเที่ยวเมืองไทยด้วย
ooooooo
เช้าวันถัดมาอิสร์นำทีมลูกน้องและชาวบ้านกลุ่มหนึ่งไปทำฝายกั้นน้ำในลำธาร ทุกคนร่วมแรง ร่วมใจกันเต็มที่เพราะทราบดีถึงประโยชน์ของฝายมากมาย ที่สำคัญช่วยชะลอน้ำไม่ให้ไหลเร็วและ
แรงเกินไปจนอาจทำอันตรายให้โคลนถล่มหรือท่วมพื้นที่ข้างล่าง
ช่วงเวลาพัก อิสร์เห็นคณานั่งหน้าเศร้าไม่ค่อยคุยกับใครจึงเข้ามาถามว่าเป็นอะไร คณาเล่าอย่างไม่อายเรื่องปุ้มไม่รักตอบ แล้วยังบ่นอิจฉาอิสร์ที่มีแต่ผู้หญิงชอบ ขนาดคนที่มาตามหาน้องชายเจอเขาแป๊บเดียวก็จะแต่งงานด้วย
“บ้าแล้วไอ้คณา ปอนด์เขาเป็นแฟนพี่มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว”
“จริงอ่ะ แล้วไง ตะก่อนผมไม่เห็นพี่มีใครเลย อยู่ๆก็มีแฟนเก่าโผล่มาเจอกันแล้วเลยแต่งงานกันเหรอ”
“อือ คู่แล้วไม่แคล้วกันไง”
คณาฟังแล้วเศร้า คิดว่าปุ้มคงไม่ใช่เนื้อคู่ของตน อิสร์ให้กำลังใจว่าอย่ายอมแพ้ เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องสู้ ต้องทำให้ผู้หญิงรู้ว่าเรารักเขาจริง ดูแลรับผิดชอบเขาได้ เรื่องความรวยหรือจนไม่เกี่ยว คณาฟังแล้วเกิดแรงฮึด
อีกคนที่สงสัยเรื่องอิสร์จะแต่งงานก็คือพนัส...
เมื่อคืนเขาได้ยินอิสร์โทร.คุยกับพ่อ แต่เพราะตอนนั้นเมาเลยยังไม่ได้ถาม เย็นวันนี้เจออิสร์ตามลำพังจึง
สบโอกาสถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าอาชีพอย่างเรา ผู้หญิงจะรับไม่ได้ ยิ่งเป็นคนกรุงเทพฯด้วยแล้ว ไม่รอดแน่ แต่งไปเดี๋ยวก็เลิก
“ทำไมล่ะครับ”
“เขาไม่มีวันเข้าใจเราหรอก เขาทนไม่ได้หรอกผู้ช่วยอิสร์ โดยเฉพาะคนอย่างคุณ”
“คนอย่างผมเป็นยังไงหรือครับ”
“คุณเหมือนผมไง คุณจริงจังกับงาน คุณรักที่นี่ ไม่มีผู้หญิงที่ไหนเขารอสามีที่อยู่แต่ในป่า นานๆกลับบ้านทีหรอก เขาไม่รอ เขาไม่ทน...แล้ววันที่เขาทิ้งไป คุณจะ
เป็นแบบผม ไม่เหลืออะไร ครอบครัวคือฝันร้ายที่เจ็บปวด เหลือเราคนเดียว เมาคนเดียว สุขคนเดียว ทุกข์คนเดียว... ไม่สิ ไม่คนเดียว เราอยู่กับป่าที่เรารักต่างหาก มีแต่เรากับป่าที่เรารักตลอดกาล”
อิสร์ฟังแล้วอึ้ง แล้วพอรุ่งขึ้นขณะขี่มอเตอร์ไซค์คนละคันออกไปตลาดกับพนัส ระหว่างทางเจอดวงตาอดีตภรรยาของพนัสมากับลูกชายหญิงและสามีใหม่
ยิ่งตอกย้ำให้อิสร์หนักใจเรื่องแต่งงาน พนัสเหลือ
ตัวคนเดียวจริงๆ แม้แต่ลูกชายหญิงที่คิดถึงเขาก็แทบไม่ได้เจอกัน
ดวงตากับสามีใหม่แม้ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกับพนัส แต่ดวงตาก็ยังฝังใจว่าเพราะพนัสทำแต่งานจน
ไม่มีเวลาให้ครอบครัว จึงเกิดเหตุการณ์หย่าร้าง...
อิสร์เห็นใจพนัสมาก และบอกตัวเองว่าต้องไม่เป็นแบบเดียวกับหัวหน้า เขากับปอนด์ต้องไปกันรอด
ooooooo
อำไพแม่ของปอนด์กลับมาเมืองไทยแล้ว ทันทีที่อยู่กันสองคนแม่ลูก อำไพสำรวจเนื้อตัวลูกสาวเพราะคิดว่าท้องก็เลยต้องรีบแต่งงานแบบฟ้าแลบ
ปอนด์ยืนยันว่าไม่ได้ท้อง อ้างว่าเธออยากแต่งงานมีครอบครัวอย่างที่แม่อยากให้มี ไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ ส่วนพ่อของอิสร์ก็มาจากฝรั่งเศสแล้วเช่นกัน ทั้งพ่อ พี่ชาย และน้องชายต่างเห็นดีเห็นงามที่อิสร์จะแต่งงาน สองฝ่ายจึงนัดพบกันที่บ้านของฝ่ายหญิง
พ่อมาทาบทามสู่ขอปอนด์ให้อิสร์ แต่ในระหว่างการพูดคุยทุกคนรู้สึกได้ถึงความไม่ค่อยลงรอยกันของปอนด์กับอิสร์ ฟังดูทะแม่งๆจนไม่น่าเชื่อว่าสองคนรักกันมากถึงขนาดอยากแต่งงาน
เจรจากันเสร็จปุ๊บ อิสร์มีเหตุต้องขอตัวกลับอุทยานฯเพราะมีงานด่วน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับปอนด์
ที่อุทยานฯมีคนลักลอบฆ่าสัตว์และขนสัตว์เป็นๆ ออกมาโดยวางยาพวกมันจนอยู่ในสภาพใกล้ตาย พนัสกับลูกน้องตามจับคนร้ายไม่ได้ พวกมันทิ้งรถขนสัตว์แล้ววิ่งหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกคนเดือดดาลโดยเฉพาะบรรจงที่พูดโพล่งว่าถ้ามีปืนในมือจะสอยพวกมันให้ร่วง
เท่านั้นเองบรรดาชาวบ้านที่มามุงดูเกิดความ
ไม่พอใจ คนหนึ่งตั้งคำถามว่าจะไปยิงเขาได้ยังไง บรรจงโมโหสวนกลับทันใด คราวนี้เลยมีปากเสียงกันใหญ่
“แล้วทีมันฆ่าเสือล่ะเว้ย เสือมันไปทำอะไรให้มันรึไง”
“ใครมันจะไปรู้ เขาอาจจะโดนเสือไล่ตะปบมาก็ได้”
“ไม่มีทาง เสือป่าไม่มีทางยุ่งกับคนก่อน ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ มีแต่คนนี่ล่ะที่จ้องจะเอาชีวิตเสือ” ชาติตอบโต้อย่างฉุนๆ
“แล้วมันใช่เรื่องที่จะไปไล่ยิงคนรึไง เสือมันก็ตายไปแล้ว อ๋อ นี่จะจับคนไปรับรางวัลเอาหน้าออกทีวีล่ะสิ”
“พูดอะไรระวังปากหน่อยลุง ลุงนี่หน้าคุ้นๆนะ ครั้งที่แล้วไปประกันตัวหลานชายออกมาจากคุกข้อหาเก็บของป่านี่”
“เออ ถ้าใช่แล้วไงวะ ของในป่ามีตั้งเยอะตั้งแยะ เก็บนิดเก็บหน่อยจะเป็นอะไรไป”
“ก็คิดกันอย่างงี้ ป่ามันถึงได้ฉิบหาย เสือนี่ก็เหมือนกัน รู้มั้ยว่ามันอาจจะเป็นตัวสุดท้ายของป่านี่ก็ได้”
“ก็แล้วยังไงล่ะ นี่มันก็ตายไปแล้ว พวกมึงเห็นสัตว์ที่ตายไปแล้วดีกว่าชีวิตคนรึไงวะ”
“เจ้าหน้าที่ก็งี้แหละ ใช้อำนาจ คิดแต่จะจับชาวบ้าน ไม่แหกตาดูบ้างล่ะเว้ยว่ามันยากจน มันไม่มีอะไรกิน ถึงได้ต้องหาของป่ากัน”
บรรจง ชาติ และคณาทุ่มเถียงกับชาวบ้านทั้งกลุ่มที่ออกอาการหัวเสียไม่สบอารมณ์ อิสร์และเจ้าหน้าที่
ป่าไม้คนอื่นๆฟังอยู่ตลอด พยายามบอกชาวบ้านว่า
มันผิดกฎหมาย แต่ก็มีชาวบ้านคนหนึ่งหัวหมอสวนว่า
“แล้วที่เอ็งจะยิงคนมันก็ผิดกฎหมายมั้ยล่ะเว้ย เดี๋ยวพวกมึงก็โดนฟ้องข้อหาทำเกินกว่าเหตุอีกหรอก โดนไปทีนึงไม่เข็ดรึไงวะ”
“พูดแบบนี้มึงพวกเดียวกันใช่มั้ย มึงไปลากคอมันมาเลยนะ” คณาฟิวส์ขาดโกรธจนหน้ามืดปราดเข้าไปจะคว้าคอชาวบ้านคนนั้น อิสร์ต้องรั้งคณาออกมา ขณะที่พนัสเข้ามาเป็นคนกลางห้ามทั้งชาวบ้านและลูกน้อง
ของตนด้วยสีหน้าขึงขังท่าทางน่าเกรงขาม
“หยุดได้แล้ว ทั้งหมดเลย”
ลูกน้องทุกคนของพนัสหยุดทันที ถอยไปยืนล้อมรถไว้
“ช่วยหลีกให้พวกเราทำงานของเราด้วยครับ เราทุกคนก็มีหน้าที่ต้องทำกันทั้งนั้น ผมก็รักษากฎหมาย พวกคุณก็ต้องเคารพกฎหมาย ใครทำผิดผมก็มีหน้าที่ต้องจับกุมดำเนินคดี งานนี้ก็เหมือนกัน สัตว์ป่าเขาก็มีชีวิตมีครอบครัวเหมือนพวกคุณ ถ้าคนในครอบครัวของคุณตาย คุณจะไม่อยากหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีหรือไง”
“เพ้อเจ้อ สัตว์ป่ามันจะไปมีครอบครัวอะไรได้ยังไง บ้าบอ”
“มี...พวกเรานี่แหละตัวแทนสัตว์ป่าทุกตัวบน
ผืนป่านี้ ไม่มีทางที่จะยอมให้ชีวิตของสัตว์ตัวใดหรือต้นไม้ต้นใดต้องถูกทำลาย ตราบใดที่พวกเรายังอยู่” อิสร์ประกาศกร้าว
ทีมงานผู้พิทักษ์ป่าทุกคนออกมายืนประจันหน้าพร้อมเพรียงกัน ชาวบ้านบางคนมองพวกเขาราวกับศัตรูตัวฉกาจ
ooooooo
ที่ธนาคารใหญ่โตในกรุงเทพฯ ปอนด์ตั้งใจมาบอกกรรชิตเรื่องที่ตัวเองจะแต่งงาน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าผู้จัดการกำลังเตรียมตัวประชุม ไม่ให้เข้าพบ สงสัยอารมณ์ไม่ดี
ปอนด์รู้จักพนักงานคนนี้เพราะเธอเคยแวะเวียน
มาที่นี่บ่อยในฐานะแฟนกรรชิต จึงตอบกลับไปว่า
“ไม่ให้พบก็ตามใจค่ะ ตั้งใจจะมาบอกเรื่องสำคัญแท้ๆ แล้วอย่ามาบ่นว่าทำอะไรไม่บอกกันอีกนะ”
“เรื่องสำคัญ เรื่องอะไรคะ”
“ปอนด์จะแต่งงานค่ะ”
“อ้าว คุณปอนด์จะแต่งงาน แล้วทำไมคุณกรรชิตไม่รู้เรื่อง เอ๊ะยังไง”
“คือ...ปอนด์ไม่ได้แต่งกับพี่เก้าค่ะ ปอนด์จะแต่งกับคนอื่น ยังไงก็ฝากบอกพี่เก้าด้วยแล้วกันนะคะ ขอบคุณค่ะ”
ปอนด์เดินจากมาแล้ว แต่พนักงานคนนั้นยังยืนอึ้งกิมกี่ จับต้นชนปลายไม่ถูก
ออกจากธนาคารมาแล้วปอนด์มีนัดกับแม่ไป
ร้านเวดดิ้งเพื่อเลือกและลองชุดเจ้าสาวทั้งที่เธอไม่ได้
มีท่าทีกระตือรือร้นสักนิด พนักงานเอาใจลูกค้าว่า
สวยเพอร์เฟกต์ขนาดนี้ใส่ชุดแบบไหนก็สวยแน่นอน
แต่ปอนด์ยังนิ่งเฉยจนแม่ต้องกระตุ้น
“ว่าไงลูก จัดงานเช้าอย่างเดียว ใส่ชุดไทยก็สวยดีนะ หรือลูกจะเปลี่ยนชุดลงมาปาร์ตี้อีกชุดก็ได้...นี่ลูกสาว
เพื่อนแม่นะ แต่งงานครึ่งวันเช้าแบบนี้แหละ แต่เปลี่ยนชุดตั้ง 8 ชุด สวยๆทุกชุดเลยนะปอนด์”
“จะเปลี่ยนหลายชุดทำไมให้เปลืองคะ เอาชุดเดียวก็พอค่ะ”
“แล้วชุดไหนดีลูก ชอบสีไหน”
“สีไหนก็ใส่ได้ทั้งนั้นค่ะแม่”
อำไพยิ้มแหยๆ ขณะที่พนักงานก็ทำหน้างงๆ
“แล้วอิสร์ล่ะลูก เลือกชุดให้เขาเลยมั้ย รู้ไซส์ของเขารึเปล่า”
“แหม...คุณแม่ จะแต่งงานกันอยู่แล้วก็ต้องรู้ทุกไซส์ของทุกอย่างของแฟนนั่นแหละค่ะ” พนักงานแซวว่าที่เจ้าสาวและยิ้มขำๆ แต่ปอนด์กลับทำให้เธอ
หุบยิ้มแทบไม่ทัน ตอบชัดถ้อยชัดคำว่า
“ไม่รู้ค่ะ”
พนักงานเหวอ อำไพแก้เก้อชวนลูกสาวเลือกชุดให้อิสร์ไว้ก่อน ชุดราชปะแตนหรือแบบสากลก็หล่อดี
“อยากจะใส่อะไรก็เรื่องของเขา จะใส่ชุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาปอนด์ก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”
แป่ว!! คราวนี้ทั้งอำไพและพนักงานต่างอึ้ง งง ปอนด์พูดแล้วเลี่ยงไปยืนดูชุดแต่งงานและรูปถ่ายของคู่บ่าวสาวที่ยิ้มให้กันอย่างมีความสุขด้วยสายตาว่างเปล่า
ooooooo
อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 1 วันที่ 27 มิ.ย.61
ลมไพรผูกรัก บทประพันธ์โดย อุธิยาลมไพรผูกรัก บทโทรทัศน์โดย ปราณประมูล
ลมไพรผูกรัก กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ลมไพรผูกรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
ติดตามชมละคร ลมไพรผูกรัก ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ