My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 2 วันที่ 28 มิ.ย.61
ปิ๊กตื่นเต้นดีใจมากที่พี่สาวจะแต่งงานกับอิสร์ เขากระตือรือร้นช่วยปอนด์จดรายชื่อแขกที่จะเชิญมางาน แต่จู่ๆกรรชิตโผล่มาถึงบ้าน ต่อว่าปอนด์อย่างไม่เกรงใจเมื่อรู้ว่าเธอจะแต่งงานกับอิสร์ แฟนเก่าที่ไร้อนาคตปิ๊กโกรธแทนอิสร์ ทำท่าจะเอาเรื่องแต่โดนปอนด์ไล่เข้าบ้าน ปิ๊กไม่ยอมกรรชิตง่ายๆ แอบโทร.ตามโอมกับอาร์มพี่และน้องของอิสร์ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันมาสมทบ คราวนี้เลยเถียงกันใหญ่จนปอนด์ปวดหัว
ปอนด์ไม่อยากพูดมากแต่ขอให้กรรชิตเคารพการตัดสินใจของตน การแต่งงานจะจัดขึ้นเร็วๆนี้อย่างเรียบง่ายและอบอุ่น เธอกับอิสร์พร้อมที่จะก้าวไปเผชิญอนาคตร่วมกัน แต่พอกรรชิตถามหาว่าที่เจ้าบ่าว ปอนด์อึ้งเพราะจนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววของอิสร์เช่นกัน
เวลาเดียวกันนั้นอิสร์ยังอยู่ที่อุทยานฯ วันนี้เขากับเพื่อนๆและพนัสเข้าไปที่ตลาดและได้พบไกรสรกับลูกน้องกำลังพูดหาเสียงกับพี่น้องประชาชน
“สิ้นสุดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก น้ำน้อยทำนาไม่ได้ ผลผลิตไม่ดี ไม่ต้องเที่ยวขุดบ่อน้ำบาดาลมาใช้ทุกปี เพียงช่วยกันสนับสนุนให้มีการสร้างเขื่อนทับสักเท่านั้น”
ด้านหน้าเวทีมีทั้งหน้าม้า หัวคะแนน ชาวบ้านทั่วไปยืนอยู่เต็มไปหมด ทุกคนปรบมือและส่งเสียงสนับสนุนคำพูดไกรสรกันดังลั่น กลุ่มของพนัสเดินเข้าไปทำตัวกลมกลืน แต่ก็มีชาวบ้านบางคนจำได้หันมาไหว้พนัสและทักทายอิสร์ ขณะที่ไกรสรยังคงหาเสียงต่อไป
“พื้นที่ป่ามันเสื่อมหมดแล้ว เก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ ขัดขวางการทำมาหากินของพี่น้อง เลือกผมแล้วผมจะผลักดันให้สร้างเขื่อนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องทุกคนให้ได้”
อิสร์ยกมือถามเสียงดัง “เดี๋ยวครับ ที่ว่าป่าเสื่อมโทรมมันเสื่อมยังไงครับ”
ไกรสรมองอิสร์แล้วแสร้งยิ้มอย่างเป็นมิตร “แหม...ผู้ช่วยอิสร์กับหัวหน้าพนัสนี่เอง ให้เกียรติมาฟังผมปราศรัยด้วย ปลื้มใจจังครับ”
พนัสยิ้มให้ตามมารยาทก่อนหันมาส่งสายตาปรามอิสร์ว่าอย่ามีเรื่อง แต่อิสร์ยังรุกต่อเพราะข้องใจ
“ว่าไงครับ พูดแบบนี้เลื่อนลอยไปหรือเปล่า อยากได้หลักฐานน่ะครับ ว่าป่ามันเสื่อมโทรมยังไงเหรอ”
ชาวบ้านฮือฮา ลูกน้องของไกรสรเดินกระชับวงล้อม เข้ามา
“ผมก็พูดตามที่เห็นมา ผมเกิดที่นี่ เป็นคนจังหวัดนี้ ถ้าป่ามันสมบูรณ์นัก ทำไมมันถึงได้มีปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำๆทุกปีล่ะครับ คุณเจ้าหน้าที่”
“มันก็มีปัญหาอย่างอื่นอีกนะ เช่นเอลนีโญ ลานีญา รู้จักกันบ้างสิ”
คณาโพล่งออกไป แต่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ไกรสรกระทุ้งว่า
“อย่าเอาศัพท์วิชาการมาพูดให้สวยหรูเลยคุณเจ้าหน้าที่ เอาเรื่องง่ายๆ ว่าประชาชนเขาเดือดร้อนกันก็เพราะพวกคุณขวางไม่ให้สร้างเขื่อนบนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมของคุณมาพูดกันดีกว่า”
“ป่าไม่ใช่ของผม ไม่ใช่ของใคร มันเป็นของชาติ ของพวกเราทุกคน ที่ต้องช่วยกันรักษา ที่สำคัญมันไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรม” อิสร์ชี้แจงความจริง แต่ไกรสรค้านหัวชนฝาอีก
“เหลือตรงไหนให้รักษา มันเสื่อม มันเน่าหมดแล้ว เอามาทำอย่างอื่นไม่ง่ายกว่าเหรอ จริงมั้ยพี่น้อง”
“ถ้าป่าทับสักมันเสื่อมโทรมจริง ทำไมถึงยังมีสัตว์ป่าตามธรรมชาติอาศัยอยู่ เช่น เสือโคร่ง”
“ไอ้เสือหูแหว่งตัวนั้นมันไม่ได้อาศัยอยู่ในป่าแล้วมั้งคุณ ป่านนี้ไปวิ่งเล่นบนสวรรค์แล้ว”
ไกรสรหัวเราะเยาะ อิสร์หมดความอดทนจะพุ่งขึ้นเวทีแต่พนัสรั้งแขนไว้แล้วประสานสายตากับไกรสรอย่างไม่ยอม
“แปลกนะ ที่คุณรู้ว่าเสือในป่าที่ตายไปมันเป็นตัวที่หูแหว่ง เรื่องนี้ไม่น่าจะมีใครรู้ดีเท่าคนสั่งยิง”
คำพูดของพนัสทำให้ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยซุบซิบกันแล้วมองไกรสรอย่างเคลือบแคลง ไกรสรหน้าเสียไปนิดเหมือนวัวสันหลังหวะ แต่แล้วหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะปราศรัยต่อ
“คนที่ยิงเสือก็คือนายพราน นายพรานก็คือ
ชาวบ้าน ทำไมนายพรานถึงต้องยอมเสี่ยงทำอาชีพผิดกฎหมาย เพราะเขายากจน ที่ยากจนเพราะน้ำมันแล้ง สลับกับน้ำท่วมไงครับ เพราะฉะนั้นทุกคนหมดเวลาจนแล้ว เราจะรวยๆๆ ถ้าเลือกไกรสร เบอร์ 8 เราจะได้เขื่อนสวยๆมาแทนป่าโทรมๆแน่นอนครับ”
พวกหน้าม้าเฮรับ พนัสยิ้มหยันเดินออกมาจากกลุ่มชาวบ้าน อิสร์และเพื่อนเดินตามมาเงียบๆ ข่มความไม่พอใจไว้สุดกำลัง
ooooooo
กลุ่มของพนัสแวะมาที่ร้านกาแฟที่คุ้นเคยสั่งกินกันคนละแก้ว ระหว่างนี้ดวงตากับต้อมสามีใหม่เดินเข้ามาสั่งนมเย็นกับโกโก้เย็นและขนมปังปิ้งกับไข่กระทะ พนัสเห็นแต่ควบคุมอาการไม่สนใจอดีตภรรยา
กระทั่งเธอเดินมาใกล้จึงทักทายด้วยไมตรี ดวงตาเห็นอดีตสามีกินกาแฟจึงเตือนด้วยความหวังดี เพราะเขาเป็นโรคกระเพาะไม่ควรกินวันละหลายแก้ว รวมทั้งเหล้าด้วย ส่วนต้อมค่อนข้างเกรงใจพนัส พูดเรื่องเรียนของลูกชายหญิงว่ากำลังหาโรงเรียนที่ดีที่สุดไม่เกี่ยงค่าเทอม แต่ดวงตาบอกว่าไม่เกี่ยวกับเงิน โรงเรียนที่ดี ที่สุดคือที่ที่พนัสเคยเรียน แต่เขาจะสนใจหรือเปล่าไม่รู้
พนัสรู้ว่าโดนอดีตภรรยาแขวะ เรื่องลูกเขาสนใจแน่ แต่ไม่ทันจะพูดอะไรกันอีก ไกรสรกับทัศน์เดินเข้ามาในร้านทำใจดีขอรับผิดชอบค่าของทั้งหมด รวมทั้งของพวกพนัสด้วย แต่พนัสไม่ยอม ควักเงินตัวเองจ่ายแล้วเดินออกไปโดยมีลูกน้องตามหลัง
ทางด้านปอนด์ที่กรุงเทพฯ เธอยังต้องนั่งตอบคำถามของกรรชิตอย่างเบื่อหน่าย ขนาดมีปิ๊ก โอม และอาร์มช่วยด้วยก็ยังอึดอัดอยู่นานกว่ากรรชิตจะยอมกลับไปอย่างคนพาล
วันรุ่งขึ้นปอนด์ชวนโอมกับอาร์มเอาการ์ดแต่งงานไปให้ครูจันทรากับป้านิดถึงบ้าน สองคนประหลาดใจมาก ที่อิสร์จะแต่งงานและเจ้าสาวก็คือปอนด์ ผู้หญิงที่เลิกกันไปแล้วหลายปี
เมื่ออยู่กันตามลำพังในสวน จันทราเตือนกึ่งขอร้องปอนด์ว่า “อิสร์เป็นคนทำอะไรทำจริง รักใครก็รักจริง ขอบใจหนูที่รักเขา แต่รักเขาแล้วก็ต้องเข้าใจเขาหน่อยนะ”
“เข้าใจ...หมายถึงต้องยอมรับทุกอย่างที่เขาทำใช่ไหมคะ”
“งานของเขาไม่เหมือนคนทั่วไป โดยเฉพาะนิสัยของเขา หนูต้องเข้มแข็ง ต้องเป็นคนที่อิสร์พึ่งพิงได้ในเวลาที่เขาต้องการนะลูก”
“เขาจะอยากมาพึ่งพิงอะไรหนูคะครู”
“อิสร์เลือกชีวิตที่ไม่ง่าย เป็นชีวิตที่ต้องอุทิศอะไรมากมาย แต่เขาไม่รู้สึกหรอกว่าเขาอุทิศอะไร เพราะเขามีความสุขที่จะทำแบบนี้ แต่ชีวิตแบบนี้ต้องการคนข้างๆที่ต้องเข้มแข็งยิ่งกว่า”
“เข้มแข็งยิ่งกว่า...ปอนด์ไม่ใช่คนเข้มแข็งเลยค่ะ ไม่เคยเข้มแข็งเลยด้วย”
“งานของอิสร์เป็นงานที่มีปัญหาใหญ่ให้รับผิดชอบมาก ถ้าเขาต้องห่วงทั้งงาน ทั้งคนข้างหลัง มันก็คงไม่ดี ใช่ไหมลูก”
ปอนด์ตาแป๋วไม่รับคำ เพราะไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่จันทราพูด
เช้าอีกวันปอนด์แต่งตัวเตรียมไปทำงานตามปกติ แต่วันนี้เกิดไม่ปกติเพราะอิสร์ขับรถมารับแถมยังมีอาหารเช้าเป็นข้าวเหนียวไก่ย่างมาให้กินด้วย
ปอนด์งงๆ ฟังเขาบอกว่ามาทำหน้าที่แฟน ซึ่งพอดีมาธุระที่กรุงเทพฯด้วย ขณะสองคนจอดรถกินข้าวเหนียวไก่ย่างด้วยกัน กรรชิตขับรถหรูมาจอดใกล้ๆ สองหนุ่มมองกันไปมาอย่างท้าทาย ปอนด์นั่งหวั่น พูดกับอิสร์ว่า
“พี่เก้าจะคิดยังไง เขาจะหาว่าปอนด์พาพี่อิสร์มาเย้ยเขาหรือเปล่า”
“มันจะคิดยังไงก็ช่าง แต่มันจะได้จำใส่กะโหลกไว้ว่าต่อไปนี้อย่ามาตีท้ายครัวผมอีก”
เสร็จเรื่องส่งปอนด์ถึงที่ทำงานแล้ว อิสร์ขับรถไป หาครูจันทรากับป้านิด นำแฟลชไดรฟ์มาให้
“ในนี้มีไฟล์คลิปเสือที่พวกเราตั้งชื่อให้ว่าผู้ใหญ่บ้านที่พวกเรารวบรวมมาได้ทั้งหมด แล้วก็มีไฟล์ซากศพของผู้ใหญ่บ้านที่ถูกชำแหละและของกลางที่พวกเราจับมาได้ แล้วก็มีไฟล์สภาพป่าในปัจจุบันของอุทยานแห่งชาติทับสักที่ไม่ได้เสื่อมสภาพแม้แต่น้อย และไฟล์สุดท้ายเป็นคลิปตัวอย่างการจัดการน้ำของ
หมู่บ้านที่ร่วมมือกับเรา มีการทำฝายขนาดเล็ก รางส่งน้ำจากบึงสู่หมู่บ้าน บ่อน้ำของเกษตรกรจัดการน้ำในโครงการวิจัยของ ดร.ชมจันทร์”
“ดีๆ ครูจะเอามาใส่แผ่นดีวีดีแจกตามโรงเรียนเพื่อนๆครูทั้งหมด”
“คือทางผมก็เผยแพร่ทางเว็บไซต์กับแฟนเพจของอุทยานฯเราแล้ว แต่มันก็ยังไม่เข้าถึงคนส่วนใหญ่จริงๆ ต้องฝากครูช่วยด้วยครับ ถ้าครูมีเพื่อนทำพวกรายการทีวีอะไร ครูเอาไปให้พวกเขาทำสารคดีทำข่าวอะไรยังไงก็ได้นะครับ ให้มันเผยแพร่ไปให้คนรู้มากๆ”
“แหม...ทีเรื่องป่านี่คุณอิสร์ออกจากป่ามากรุงเทพฯได้ แต่เรื่องแจกการ์ดงานแต่งงานตัวเองกลับไม่มานะคะ” ป้านิดกระเซ้า
“พอดีวันนี้ผมมีประชุมที่กรมฯด้วยครับ เลยมาทีเดียว แวะทำทุกอย่าง”
“เธอจะแต่งงานอยู่แล้วนะอิสร์ เธอช่วยอะไรเจ้าสาวเขาบ้างหรือเปล่า”
“ก็...เมื่อเช้าไปเจอเขาแล้วครับ”
“แล้วเขาไม่บ่นอะไรเลยเหรอ”
“ไม่นี่ครับ”
“เขาคงรักเธอมากเลยนะเนี่ย ขนาดเลิกกันไปห้าปี กลับมาปุ๊บก็ยอมแต่งงานกับเธอ แถมดูแลจัดการงานทุกอย่างไปแบบไม่เห็นหัวเจ้าบ่าว เขาก็ไม่บ่น”
“เขาทราบครับว่าผมงานยุ่ง”
“จริงเหรอ ก่อนที่จะเผยแพร่คลิปพวกนี้ให้เหล่ามวลชนของเธอได้รับรู้ เธอเคยเอาไปเปิดแล้วเล่าให้ปอนด์ฟังแล้วหรือยัง”
“โอ๊ย...ปอนด์เขาไม่สนใจหรอกครับ ขืนไปนั่งเล่าให้ฟัง สงสัยจะหลับ”
“ทำไมไปว่าเขาอย่างนั้นล่ะคะ เขาอาจจะเข้าใจแล้วสามารถแนะนำอะไรดีๆให้คุณก็ได้”
“น้อยไปสิป้านิด เขาไม่เคยเข้าใจแล้วก็ไม่เคยสนใจอะไรที่ผมสนใจหรอก”
“แต่เธอก็รักกัน...”
“ความรักไม่มีเหตุผลหรอกครับครู”
“แล้วการแต่งงานนี่ล่ะ มีเหตุผลไหมอิสร์”
“เหตุผลคือความรัก...ที่ไม่มีเหตุผลนั่นแหละครับ”
ครูจันทรากับป้านิดฟังแล้วทะแม่ง มีแววกังวลกับความรักของสองคนอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนวันแต่งงานหนึ่งวันอิสร์ก็ยังไม่เข้ากรุงเทพฯ มีเพียงพ่อแม่และพี่น้องช่วยกันเตรียมงาน ปอนด์หนักใจและพยายามโทร.ตามแต่ไม่สามารถติดต่อได้
อิสร์ตั้งใจเก็บเสื้อผ้ากลับกรุงเทพฯวันนี้ แต่เผอิญคณามาบอกว่าเจ้าหน้าที่พบคนลักลอบจับสัตว์ป่าที่ถ้ำวัวแดง อิสร์เลยเข้าป่าไปกับทีมงาน แต่ผ่านไปทั้งคืนกว่าจะจับคนร้ายได้
เช้าวันงานทุกคนเฝ้ารออิสร์ด้วยความกระวน กระวาย ญาติและแขกสนิทที่มาต่างถามหาเจ้าบ่าว ขณะที่พ่อแม่ของปอนด์เริ่มบ่นไม่พอใจ จันทราเองก็หวั่นใจ เพียรโทร.หาอิสร์แต่ไร้ผล
เมื่อเกินเวลาฤกษ์ไปแล้วสิบกว่านาที พ่อของอิสร์หาทางออกเอาไว้ว่าตนมีลูกชายอีกสองคน ถ้าลูกคนกลางไม่มาก็เอาคนโตหรือคนเล็กเข้าพิธีแทนไปพลางๆก่อน
“เฮ้ยคุณ...มันได้ไงล่ะ บ้าเหรอ” อำไพแม่ปอนด์โวย
“ก็ไม่รู้ล่ะ พวกแขกผู้ใหญ่อาจจะหูตาฝ้าฟางจำไม่ได้หรอกว่าใครเป็นใคร เอาแค่พอขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน”
“พูดแบบนี้คุณเห็นลูกสาวผมเป็นยังไง คิดจะมาเล่นตลกกันรึไง” พ่อปอนด์ออกอาการฉุนๆ
“ก็เพราะเกรงใจลูกสาวคุณไง ไม่อยากให้เป็นแม่สายบัวแต่งตัวเก้อ ก็นั่งรดน้ำคู่กะไอ้โอมไปก่อน เดี๋ยวไอ้อิสร์มาก็ให้สลับตัวกัน”
“จะเก้าโมงแล้ว...เลยฤกษ์ไปครึ่งชั่วโมงแล้ว แบบนี้จะทำไง มันก็พังกันหมดสิ”
“ไม่ยอมนะ ถ้าลูกชายคุณมาทำให้ยัยปอนด์เสียใจ ฉันจะฆ่ามันเลย” อำไพกระแทกเสียงไม่สบอารมณ์
ปอนด์อยู่บนห้องกับเพื่อนเจ้าสาวสองคนคือเจนกับดาว สองสาวลุกออกไปชะเง้อตรงระเบียงบ่อยครั้ง ขณะที่ปอนด์นั่งหน้าเคร่งอยู่บนเตียงนอน
“เลยฤกษ์แต่งงานไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ปอนด์ว่าปอนด์ไม่แต่งดีกว่า ไปค่ะ ลงไปบอกแขกกันว่าเชิญรับประทานอาหารแล้วกลับได้เลย ไม่มีแล้วเจ้าบ่าวไม่มีพิธีมงคลสมรสอะไรทั้งนั้น”
“รออีกนิดเถอะ อิสร์กำลังมา...เชื่อพี่” เจนปลอบ แต่ดาวพูดตรงๆว่าจะรอถึงเมื่อไหร่ ปอนด์โพล่งขึ้นว่า นับหนึ่งถึงสิบแล้วกัน...แต่สักครู่ก็พูดปลงๆว่า
“ไม่ต้องตกใจนะคะ ปอนด์ทำใจได้แล้ว ทั้งหมดนี่มันคือเรื่องล้อกันเล่น อิสร์อยากแก้แค้นความงี่เง่าในอดีตของปอนด์ที่ทิ้งเขาด้วยเรื่องไร้สาระ วันนี้เขาก็ทิ้งปอนด์ให้หน้าแตกบ้างแบบขำๆ แค่นั้นล่ะค่ะ”
เจนกับดาวฟังแล้วเศร้าแทน ส่วนปอนด์เริ่มนับหนึ่งถึงสิบอย่างที่บอก...
ทันใดรถกระบะของพนัสแล่นมาด้วยความเร็ว จอดดังเอี๊ยดตรงหน้าบ้านที่มีผู้คนเต็มไปหมด ปอนด์กับเพื่อนเจ้าสาวยืนมองจากระเบียงอย่างตื่นตะลึง ส่วนคนข้างล่างพากันออกมายืนสลอน
พนัสในชุดข้าราชการกรมป่าไม้สีเขียวประดับยศสง่างามก้าวลงมา อิสร์อยู่ในชุดเดียวกัน หน้าตาสะอาดแต่เคราเขียวไม่ได้ผ่านการโกนตามลงมา...พ่อแม่พี่น้องและครูจันทรายิ้มหน้าบานด้วยความดีใจสุดๆ
เสียงญาติคนหนึ่งตะโกนว่า “เจ้าบ่าวมาแล้ว” ทุกคนมองอิสร์เป็นตาเดียว
อิสร์พาพนัสมาแนะนำตัวว่าเป็นหัวหน้า ก่อนที่พนัสจะเอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อมว่า
“ขอโทษนะครับที่เรามาช้า อิสระ รัชชพลกุล ทำหน้าที่จับคนร้ายสำเร็จเมื่อคืนนี้ มีปะทะกันนิดหน่อย แต่โชคดีทุกคนปลอดภัยครับ อิสระเป็นกำลังสำคัญของอุทยานฯเราจริงๆ ถ้าไม่มีเขา พวกผมคงแย่แน่ๆ”
“เห็นไหม อิสร์ก็ต้องเป็นอิสร์ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้” จันทราพูดยิ้มๆ
อิสร์แหงนหน้ามองเจ้าสาวที่ระเบียงแล้วตะโกน “เจ้าบ่าวมาแล้วครับ เจ้าบ่าวอยากแต่งงานแล้วครับ เรามาทำพิธีกันเถอะครับ”
“เอ้า งั้นโห่เลยพวกเรา” พ่อเจ้าบ่าวส่งเสียงลั่น คนอื่นขานรับโห่ร้องกันครื้นเครง
จากนั้นมีการกั้นประตูเงินประตูทองตามประเพณี อิสร์ยิ้มแย้มแจกซองอย่างมีความสุข ไม่นานก็ฝ่าด่านเข้าไปในบ้าน เตรียมเริ่มพิธีขั้นต่อไปเพราะปอนด์ในชุดสวยงามกับเพื่อนเจ้าสาวลงมาแล้ว
ช่วงเวลารดน้ำสังข์เป็นช่วงเวลาที่ญาติผู้ใหญ่ซาบซึ้งใจ บางคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ครูจันทราอวยพรบ่าวสาวว่า
“อิสร์...ปอนด์ จำไว้นะ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น อิสร์กับปอนด์ต้องอย่าแบ่งข้างกัน เราสองคนต้องอยู่ข้างเดียวกันเสมอ ไม่ว่าจะกำลังเผชิญกับอะไรอยู่ก็ตาม”
“หมายความว่า...นอกจากเอาแต่มองสบตากันแล้วควรจะมองไปในทิศทางเดียวกันด้วยไงล่ะ”
ป้านิดอธิบายเสริมแต่ดูเหมือนบ่าวสาวจะยังงงๆ พนัสต่อแถวเข้ามารดน้ำและอวยพรขอให้อิสร์โชคดีมีความสุข ขอให้ความรักชนะทุกอย่าง...
อ่านละคร My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก ลมไพรผูกรัก ตอนที่ 2 วันที่ 28 มิ.ย.61
ลมไพรผูกรัก บทประพันธ์โดย อุธิยาลมไพรผูกรัก บทโทรทัศน์โดย ปราณประมูล
ลมไพรผูกรัก กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ลมไพรผูกรัก ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด
ติดตามชมละคร ลมไพรผูกรัก ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ