อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 12 วันที่ 10 มิ.ย.61

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 12 วันที่ 10 มิ.ย.61

“แต่เราห่วงอลัน เฮเดสจ้องจะฆ่าอลันและตอนนี้อลันก็หายตัวไป เราจะไปตามน้องเรากลับมา”

“แต่เจ้าชายอลันยังไม่พร้อมเสด็จกลับวัง”

“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมเพื่อความปลอดภัย ผู้พันดวิน...เราขอสั่งให้คุณพาเราไปหาอลันเดี๋ยวนี้!”

“พระองค์ไปหาเจ้าชายอลันไม่ได้พระเจ้าค่ะ”



“ทำไมจะไปไม่ได้”

“ที่เจ้าชายไม่ยอมกลับวังเพราะเจ้าชายเบื่อการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท ตำแหน่งที่ทำให้เจ้าชายต้องสูญเสียเจ้าฟ้าอังเดรและเจ้าฟ้าหญิงโมนา เจ้าชายไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับทุกคนในวังโดยเฉพาะพระองค์”

“ที่น้องไม่กลับเป็นเพราะเราเหรอ ถ้าอย่างนั้นเราจะเป็นคนไปตามน้องกลับมาเอง ตามเจซีมาพบเราที่ห้อง”

พูดจบก็ผละไปเตรียมตัว ดวินไม่ยอมขยับตัวแต่โพล่งขัด

“พระองค์เสด็จออกนอกวังไม่ได้นะพระเจ้าค่ะ... มันอันตราย”

อลิซไม่สนความปลอดภัยของตัวเองสวนกลับ “ถึงอันตรายเราก็จะไป ผู้พันห้ามยังไงเราก็จะหนีออกไปอยู่ดี เพราะฉะนั้น...เลือกเอาว่าจะไปหาอลันด้วยกัน หรือจะให้เราหนีไปคนเดียว!”

ooooooo

ดวินไม่มีทางเลือกต้องร่วมมือกับเจซีพาอลิซออกจากวังไปหาอลันจนได้ นาวิกโยธินหนุ่มเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวซึ่งเจซีหามาให้พร้อมแผนที่ที่มีคำอธิบายคร่าวๆถึงเมืองที่อลันอยู่

อลิซใจร้อนอยากไปถึงเร็วๆ ดวินต้องปลอบให้ใจเย็น แวะพักกลางทางและคะยั้นคะยอให้เธอกินข้าว ราชนิกุลหญิงปฏิเสธจนเขาต้องขู่เรื่องโรคประจำตัวของเธอซึ่งจะกำเริบหากกินอาหารไม่ตรงเวลา

“รู้ได้ยังไงว่าเราเป็นอะไรและต้องกินตอนไหน”

“กระหม่อมถามจากเจซีเพราะเราต้องอยู่กันตาม ลำพังสองต่อสอง กระหม่อมอยากดูแลพระองค์อย่างดีที่สุด”

“จะบอกว่าทำตามหน้าที่อีกหรือไง”

“ไม่ใช่เพราะหน้าที่แต่ที่ทำเพราะเป็นห่วง เหตุผลที่กระหม่อมเดินทางมาก็เช่นกัน กระหม่อมมาเพราะห่วงพระองค์ ตอนนี้ไม่ว่าพระองค์เป็นใคร...จะเป็นเจ้าหญิงอลิซหรือเป็นนารีกระหม่อมไม่แคร์ กระหม่อมรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่กระหม่อมเป็นห่วงมากที่สุดและกำลังตกอยู่ในอันตราย กระหม่อมจะต้องดูแลและปกป้องด้วยชีวิต”

ดวินตัดสินใจพูดเรื่องค้างคาใจทั้งหมด อลิซซาบซึ้งใจมากและอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ได้ขัดขืนความเอาใจใส่ของเขาเพราะอยากดื่มด่ำความรู้สึกดีๆที่มีเขาเคียงข้าง ดวินเห็นเธอนิ่งไม่ตอบโต้ก็ใจชื้น กล้าพอจะเย้าเรื่องบนดอยที่เขาเชื่อว่าเป็นความทรงจำดีๆของเขากับเธอ

“มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก ทุกอย่างเรียบง่ายเป็นตัวของตัวเอง ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น คิดถึงตอนพระองค์สอนหนังสือเด็กๆแล้วก็ตอนไปเก็บเห็ด ตอนเต้นรำ ตอนทำฝาย...กระหม่อมก็คิดถึงพระเจ้าค่ะ”

สีหน้ายิ้มแย้มของดวินเหมือนจำไม่ได้เรื่องที่เคยตัดรอนเธอทำให้อลิซปรี๊ดแตก

“นายพูดถึงอะไร...เราจำไม่ได้! เราลืมทุกอย่างไปหมดแล้วเพราะมีคนบอกเราว่าไม่ต้องจำเราก็เลยไม่จำ แล้วคนพูดก็บอกเองว่าเขาจะลืม เราก็หวังว่าเขาจะลืมได้เหมือนที่พูด”

ดวินหน้าจ๋อยยอมสงบปากสงบคำก่อนผละไปหาเสบียงอาหารในหมู่บ้านเพราะใกล้ถึงเวลาที่อลิซต้องกินแล้ว แต่เพราะยังหาอลันไม่เจอ เสบียงอาหารที่เจซีเตรียมมาก็ร่อยหรอ เขาเลยต้องตระเวนหาอาหารในหมู่บ้านแทน แต่เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆไม่มีตลาด ทั้งเขากับเธอจึงต้องทำงานแลกอาหารซึ่งอลิซก็ให้ความร่วมมือดี

แรงงานของดวินกับอลิซแลกอาหารได้ส่วนหนึ่ง นาวิกโยธินหนุ่มสละให้กินก่อนแต่ราชนิกุลสาวไม่ยอมบังคับให้กินด้วยกัน บรรยากาศงดงามรอบด้านทำให้บรรยากาศอึมครึมระหว่างสองหนุ่มสาวดีขึ้นโดยเฉพาะอลิซที่ถึงกับลืมตัวระบายความอึดอัดใจ

“ตั้งแต่เรากลับมาฮรีสอซ ช่วงเวลาที่เราเกลียดที่สุดคือตอนนี้...ตอนอาหารมื้อค่ำ เราต้องนั่งโต๊ะอาหารใหญ่โตแล้วกินข้าวคนเดียว เราคิดถึงโต๊ะอาหารเล็กๆที่บ้านนาย คิดถึงระเบียงบ้านบนดอย...คิดถึงการมีคนนั่งกินอาหารด้วย”

ดวินสะเทือนใจมาก เข้าใจความรู้สึกเธอดี พึมพำตอบเสียงแผ่ว

“กระหม่อมก็...ไม่ต่างกัน”

ooooooo

เคธแอบได้ยินเจซีคุยโทรศัพท์กับดวินจนรู้ว่าอลิซแอบหนีไปนอกวังเพื่อตามหาอลัน ราชนิกุลสาวฉวยโอกาสนี้เรียกเฮเดสมาพบและออกคำสั่งให้เขาตามฆ่าอลิซและอลันก่อนที่คนในวังจะไหวตัว

อลิซไม่รู้ตัวว่าจะถูกลอบสังหารอีกครั้ง เข้าพักในบ้านชาวนาแถบนั้นพร้อมดวิน บรรยากาศดีๆคืนมาอีกครั้งและเธอก็อดใจไม่ไหวต้องถามเรื่องเสาวณี

“เราถามหน่อย...นายมาที่นี่แม่นายไม่ว่าเหรอ”

“แม่เป็นคนบอกให้กระหม่อมมาด้วยตัวเองก่อนมาท่านยังอวยพรให้กระหม่อมด้วย”

“แม่นายเนี่ยนะ...ทำไม”

“เพราะท่านรู้ว่าถ้ากระหม่อมไม่ได้มา กระหม่อมจะรู้สึกผิดตลอดชีวิต...กระหม่อมต้องขอประทานอภัยกับสิ่งที่พูดในโบสถ์วันนั้น กระหม่อมเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าพระองค์”

“เสียใจแล้วพูดแบบนั้นทำไม”

“ถ้าเลือกได้กระหม่อมก็ไม่อยากทำแต่ภาวะตอนนั้นกระหม่อมเลือกไม่ได้จริงๆ”

“เราเข้าใจ...ชีวิตคนเราต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้เลือกตั้งมากมาย ถ้าเราเลือกได้จริงๆเราอยากเลือกเป็นคนธรรมดา ไม่ต้องมาเจอปัญหาที่เจออยู่ทุกวันนี้”

“แต่ปัญหาทำให้เราเข้มแข็งและทำให้กระหม่อมได้รู้จักพระองค์ดียิ่งขึ้น”

ดวินปลอบเสียงอ่อนก่อนเตือนสติให้เธอมองชีวิตในมุมใหม่

“ชีวิตมีแบบทดสอบให้เราเสมอและไม่ว่าเราจะเลือกหรือไม่เลือกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็คือสิ่งดีที่สุดสำหรับกระหม่อม อย่างเช่นขณะนี้...เป็นช่วงเวลาดีที่สุด ก่อนหน้านี้กระหม่อมอาจพูดสิ่งที่ไม่อยากพูดเพราะไม่มีสิ่งอื่นให้เลือก แต่ตอนนี้กระหม่อมมั่นใจว่าเลือกทำสิ่งถูกต้องที่สุดแล้ว...ทำในสิ่งที่หัวใจอยากทำที่สุดคือการอยู่ตรงนี้เพื่อปกป้องพระองค์”

อลิซซึ้งใจมากอยากโผกอดแต่ต้องข่มใจกุมมือตัวเอง “นายพูดแบบนี้ยิ่งทำให้เราอยากเป็นคนธรรมดา ถ้าเราเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้เป็นเจ้าหญิง ชีวิตเราคงง่ายกว่านี้ เราคงได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำมากกว่านี้”

น้ำตาของอลิซทำให้ดวินใจอ่อนยวบ พ่ายแพ้ใจตัวเองอย่างหมดท่าดึงตัวเธอมากอด อลิซรู้สึกหวานล้ำและอุ่นวาบในหัวใจ...ในที่สุดเธอก็ทลายกำแพงระหว่างกันได้เสียที...

อลันเคืองแพนไม่หายเรื่องส่งข่าวถึงดวินกับอลิซ นาวิกโยธินสาวต้องรับปากว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครอีกเขาถึงยอมอ่อนท่าที แต่กระนั้นเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน ราชนิกุลหนุ่มจึงออกไปหางานทำ

แพนหนักใจมาก ตามไปช่วยหางานด้วยและตัดสินใจพาเขาไปสมัครงานที่ร้านอาหารของมาลีอดีตทหารลับหญิงที่เคยทำงานด้วยกัน ประสบการณ์ทำให้มาลีดูออกทันทีว่าอลันไม่ใช่คนธรรมดาแต่เป็นวีไอพีของหน่วยราชการลับซึ่งแพนต้องคอยอารักขา แพนยอมรับแต่โดยดีและขอร้องให้อีกฝ่ายรับอลันไว้เพื่อความปลอดภัย

มาลียอมให้อลันทำงานด้วย แพนโล่งใจมากและถือโอกาสขอใช้โทรศัพท์ของมาลีติดต่อดวิน นาวิกโยธินหนุ่มรู้ข่าวเรื่องอลันก็พาอลิซมุ่งหน้าไปร้านอาหารของมาลีทันที!

ooooooo

อลิซดีใจมากเมื่อรู้จากดวินเรื่องพิกัดของอลัน แต่กระนั้นก็อดกังวลไม่ได้ว่าญาติหนุ่มจะหนีหน้าและไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ ดวินเห็นใจดึงมือเธอมากุม

“พระองค์ทรงรู้ไหมว่ากระหม่อมรู้สึกยังไง”

แววตาที่อัดแน่นไปด้วยความรักและความจริงใจของดวินทำให้อลิซหน้าแดงก่ำ

“นายเป็นห่วงเรา”

“พระองค์ทรงรับรู้ความรู้สึกกระหม่อมได้เพราะกระหม่อมแสดงมันอย่างเปิดเผยและจริงใจ กระหม่อมเปิดความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างไม่มีความกังวลใดๆ เช่นกัน ถ้าพระองค์มีความประสงค์ให้เจ้าชายอลันรับรู้ความรู้สึกของพระองค์แค่เปิดเผยมันอย่างจริงใจไม่ต้องกังวลใดๆทั้งสิ้น”

“เปิดเผยอย่างจริงใจ”

“ใช่พระเจ้าค่ะ...ที่ผ่านมาพระองค์ทรงเป็นห่วงเจ้าชายมาตลอดแต่ไม่เคยแสดงออก ถึงเวลาที่จะต้องแสดงมันออกมาแล้วพระเจ้าค่ะ ความจริงใจเท่านั้นที่จะ ทำให้เจ้าชายอลันเปิดใจ”

“เหมือนที่นายทำ...เพราะความจริงใจของนายทำให้เราเปิดใจรับนายเข้ามา”

“พระเจ้าค่ะ...กระหม่อมจะอยู่เคียงข้างพระองค์ เจ้าชายอลันจะต้องเข้าใจพระองค์แน่นอน”

สองหนุ่มสาวต่างสถานะและฐานันดรจับมือกันแน่น ก่อนนั่งเรือข้ามฟากไปหาอลันตามพิกัดร้านอาหารที่แพนบอก อลันตกใจมากเมื่อเห็นหน้าญาติสาว ประกาศกร้าวจะไม่กลับวังหรือเจอเธออีก!

แพนหน้าซีดตัวชาเมื่อเจอสายตาโกรธจัดของอลันแต่อลิซไม่มีเวลาใส่ใจตามไปเคลียร์กับญาติหนุ่ม

“อลัน...หยุดก่อน คุยกันก่อนอลัน”

“ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับพี่...กลับไปซะ!”

น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของอลันทำให้อลิซฉุนกึกอยากปรี๊ดกลับแต่ต้องข่มใจใช้ความจริงใจตามที่ดวินแนะนำ

“อลัน...พี่ขอโทษ ทุกอย่างมันเป็นความผิดของพี่เอง”

คำขอโทษจากญาติสาวทำให้อลันชะงัก ไม่อยากเชื่อหู อลิซเห็นดังนั้นจึงรีบพูด “ถ้าพี่ไม่มองทุกคนเป็นศัตรู ไม่ปิดตัวเองมากเกินไป พี่กับท่านลุงคงไม่ต้องเข้าใจผิดกันเองจนกลายเป็นจุดอ่อนทำให้คนที่คิดร้ายเข้ามาทำให้เราแตกแยก สิ่งที่พี่เสียใจที่สุดคือการไม่ได้ปรับความเข้าใจกับท่านลุงก่อนจากกันพี่เลยตัดสินใจมาหาเธอวันนี้”

ท่าทางรู้สึกผิดอย่างจริงจังของอลิซทำให้อลันอ่อนท่าทีแต่ยังทิฐิ

“กลับวังเถอะนะอลัน อยู่แบบนี้มันอันตราย ครอบครัวเราสูญเสียเกินไปแล้ว พี่ไม่อยากเสียเธอไปอีกคน”

“ถ้าพี่ไม่อยากเสียผมก็ปล่อยผมไว้ที่นี่ ที่ที่อันตรายคือในวังต่างหาก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะตำแหน่งรัชทายาทที่ผมไม่เคยอยากได้ ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะอยู่ที่นี่!”

“แต่ทำแบบนี้คือเธอกำลังหนีความจริงนะอลัน เธอกำลังวิ่งหนีเงาตัวเองซึ่งเธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”

“ผมตัดสินใจแล้วและไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจผมได้!”

ooooooo

อลันยืนกรานปฏิเสธ อลิซเหนื่อยใจมากแต่ไม่ยอมแพ้เกลี้ยกล่อมญาติหนุ่มให้กลับวังด้วยกัน ดวินปลอบให้ใจเย็นให้เวลาอลันคิดบ้าง แพนอาสา ช่วยกล่อมอีกแรงแต่นอกจากอลันจะไม่ฟังยังไล่เธอจากบ้านพักอีกต่างหาก

แพนดื้อแพ่งไม่กลับ อลันโมโหจะอาละวาดแต่ไม่ทันขยับ เฮเดสกับคนร้ายหลายคนก็ปรากฏตัว แพนพยายามขัดขวางเต็มกำลังแต่สู้แรงผู้ชายหลายคนไม่ไหว โชคดีที่ดวินกับอลิซตามมาถึงบ้านพักทันเวลาสถานการณ์ของอลันเลยไม่เลวร้าย แต่กระนั้นเฮเดสก็อาศัยความไวคว้าปืนมาจ่อหัวอลัน!

อลิซแหวลั่น “อย่ายุ่งกับอลันเด็ดขาด”

“เห็นทีจะไม่ได้พระเจ้าค่ะ”

“ถ้าต้องการชีวิตเราก็ฆ่าเราแค่คนเดียว...ปล่อยอลันไป!”

เฮเดสไม่สนใจคำสั่งของอลิซหันไปถามอลันเสียงเหี้ยม “มีอะไรสั่งเสียก่อนตายไหมพระเจ้าค่ะ”

อลันกลัวมากแต่ทำเสียงแข็งใส่อลิซที่พาความตายมาถึงตน เฮเดสสะใจมากยิ้มเยาะ

“โถ...พี่น้องแตกกันเองซะแล้ว ถ้าพี่สาวคนนี้เป็นตัวอันตรายให้กระหม่อมจัดการให้ดีไหมพระเจ้าค่ะ”

ข้อเสนอของเฮเดสทำให้อลันตัวแข็ง กลัวแทนญาติสาวจับใจ อลิซร้อนรนมากโพล่งออกไป

“อลัน...รู้ไหมว่าผู้ชายคนนี้ทำอะไรไว้กับเธอ ผู้ชายคนนี้คือคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ของเธอนะอลัน”

อลันช็อกมาก ก่อนเปลี่ยนเป็นดุดันกระชากเสียงถามเฮเดส “แกฆ่าพ่อแม่ฉันทำไม!”

“เป็นความผิดพลาดพระเจ้าค่ะ เพราะจริงๆ กระหม่อมตั้งใจจะฆ่าพระองค์ต่างหาก แต่ตอนนี้กระหม่อมขอจัดการพี่สาวพระองค์ก่อนคนแรก!”

เฮเดสจะยิงอลิซแต่อลันพุ่งเข้าชน ดวินเห็นดังนั้นก็เข้าตะลุมบอนด้วยเลยถูกกระสุนของเฮเดสเฉี่ยวหัวไหล่ อลิซตกใจมากต่างจากอลันที่ได้สติก่อนคว้าปืนของแพนยิงใส่เฮเดส

กระสุนจากอลันทำให้เฮเดสอ่อนแรงแต่ยังแข็งใจวิ่งหนีเอาตัวรอด ดวินกับทหารของคิงเฮนรี่ซึ่งตามมาช่วยพยายามตามจับแต่ก็สายไป เฮเดสถูกคนร้ายนิรนามในชุดดำกระหน่ำกระสุนปืนใส่จนตกหน้าผา!

ไม่มีใครรู้ว่ามือปืนนิรนามคือใคร เช่นเดียวกับศพของเฮเดสที่ยังหาไม่พบ ดวินกลับไปสมทบกับอลิซที่บ้านพักของอลันทันได้ยินเธอกล่อมญาติหนุ่มให้กลับวังด้วยกัน

อลันยืนกรานไม่กลับจนอลิซเหลืออด “ความตายไม่เคยทำให้อะไรจบ ท่านลุงกับน้าโมนาตายแล้วมันจบไหม...มันก็ไม่จบ! เธอยังเจ็บปวดจมอยู่กับความรู้สึกผิดจมกับความทุกข์ แล้วถ้าเธอตายท่านปู่จะเป็นยังไงท่านปู่จะต้องรู้สึกผิด เจ็บปวดและทุกข์ใจมากแค่ไหนเคยคิดบ้างหรือเปล่า”

อลิซน้ำตาคลอ ทั้งโมโหทั้งเสียใจที่กล่อมญาติหนุ่มกลับวังด้วยไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องผละไปแต่ไม่วายทิ้งท้าย

“เธออาจไม่แคร์ไม่ห่วงชีวิตตัวเองแต่คนอื่นที่ห่วงเธอจะเจ็บแค่ไหนถ้าเธอเป็นอะไรไป...กลับบ้านเถอะนะอลัน ชีวิตของเธอมีค่ามากกว่าที่เธอคิด เธอไม่ได้อยู่คนเดียว เธอยังมีพี่ มีท่านปู่ เธอยังมีครอบครัวรออยู่”

อลันสะเทือนใจมาก อ่อนท่าทีลงจนอลิซใจชื้น

“เธอก็เห็นแล้วว่าคนร้ายมันตั้งใจทำให้เราแตกแยกกัน อย่าทำให้เป็นแบบที่มันต้องการ บางทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ท่านลุงอาจต้องการบอกอะไรเธอบางอย่าง... ทุกคนเป็นห่วงเธอนะอลัน”

ในที่สุดความจริงใจของอลิซก็ซึมสู่ใจอลัน ราชนิกุลหนุ่มคิดได้และยอมกลับวังโดยดี อลิซดีใจมากผละหาดวินและตัดสินใจถามเรื่องกำลังเสริมของคิงเฮนรี่ที่ตามมาช่วย

ดวินไม่คิดปิดบังสารภาพตามตรง “กระหม่อมเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยรายงานทุกอย่างให้คิงเฮนรี่รับทราบ พระองค์ทรงเป็นห่วงเลยส่งกองกำลังมาอารักขา บังเอิญที่เฮเดสกับพวกบุกมาพอดี”

“แล้วเฮเดสหนีไปได้อีกหรือเปล่า”

“กระหม่อมไม่แน่ใจแต่เมื่อกี้มีคนปริศนาโผล่มายิงเฮเดสโดนจุดสำคัญหลายจุดก่อนที่มันจะตกลงไปในน้ำ”

“ใคร...เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเฮเดส”

“กระหม่อมก็คิดเช่นนั้น ตอนนี้ทหารกำลังเร่งงมหาร่างมันอยู่ เราจะมั่นใจว่ามันตายก็ต่อเมื่อเจอศพพระเจ้าค่ะ”

อลิซพยักหน้ารับรู้ มองแผลบนหัวไหล่เขาอย่างห่วงใย

“เราเป็นหนี้ชีวิตนายหลายครั้ง ตอบแทนเท่าไหร่คงไม่หมด”

“กระหม่อมทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แค่เห็นพระองค์ปลอดภัยกระหม่อมก็พอใจแล้ว”

ดวินพูดจากใจจริง อลิซซึ้งใจมากช่วยเขาพันแผล... ซึมซับความรู้สึกดีๆที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

ooooooo

อลันยอมกลับวังตามคำขอของอลิซ แพนตามอารักขาเช่นเคยและเมื่อถึงเวลาจึงขอตัวกลับเมืองไทย ราชนิกุลหนุ่มแกล้งอนุญาตให้กลับทำให้เธอน้อยใจมากจนเขาต้องเลิกแกล้ง

“เธอกลายเป็นคนขี้งอนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย...เมื่อกี้ฉันล้อเล่น ถ้าเธอไปแล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนฉัน”

“นี่พูดจริงๆไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”

“พูดจริง...ขอบใจมากที่เป็นห่วงแล้วก็ขอโทษที่คิดแต่จะไล่เธอ”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฉันยอมโดนคุณโกรธถ้ามันทำให้คุณกลับเข้าวังเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง”

“อืม...ขอบคุณนะ ต่อไปนี้จะไม่ไล่เธอไปไหนอีกแล้ว”

ความสัมพันธ์ระหว่างอลันกับแพนเป็นไปในทางดีขึ้น ต่างจากเรื่องลับๆของเคธกับเฮเดสที่ถึงคราวแตกหักเพราะเธอเป็นคนสังหารเขากับมือในคราบของมือปืนชุดดำ!

ไม่มีใครสนใจตามหาคนร้ายชุดดำมือสังหารปริศนาที่ยิงกระสุนใส่เฮเดสจนตกน้ำ ทุกคนในวังโดยเฉพาะคิงเฮนรี่มัวปลาบปลื้มใจที่อลิซกับอลัน...องค์รัชทายาทอันดับหนึ่งและสองปลอดภัยและปรับความเข้าใจกันได้ ดวินทำหน้าที่อารักขาอลิซเหมือนเคยแต่ไม่วายจับสังเกตเคธที่มีอาการเงียบขรึมลงทุกวัน

ท่าทางผิดปกติของเคธทำให้ดวินสังหรณ์ว่าเธออาจมีส่วนกับเรื่องสังหารเฮเดสจึงร่วมมือกับแพนวางแผนลับเพื่อยั่วให้คนร้ายตัวจริงปรากฏตัวแต่ไม่ทันได้สะระตะแผนการทั้งหมดวิลก็มีคำสั่งจับกุมเขา!

วิลหมั่นไส้ที่ดวินได้ความดีความชอบจากคิงเฮนรี่และฉวยโอกาสนี้ตั้งข้อหาให้อีกฝ่ายโทษฐานทำการสุ่มเสี่ยงให้อลิซมีอันตรายเกือบถึงชีวิต ดวินไม่มีท่าทีหวาดหวั่น ไม่ขัดขืนการจับกุมแต่ตอบโต้อย่างใจเย็น

“กระหม่อมคิดว่าพระองค์ทรงทำเกินกว่าเหตุ กระหม่อมไม่เคยคิดร้ายและที่ต้องออกไปหาเจ้าชายอลันก็เป็นเพราะพระประสงค์ของเจ้าหญิง”

“ถึงจะเป็นความต้องการของอลิซแต่หน้าที่ของคุณคือต้องรายงานผู้บังคับบัญชาซึ่งตอนนี้ก็คือเราท่านลุงมอบหมายให้เราดูแลความปลอดภัยให้อลิซ”

ดวินยังเงียบ วิลโมโหข่มเสียงเข้ม “ถ้าอลิซเกิดเป็นอะไรขึ้นมาชีวิตนายทั้งชีวิตก็ทดแทนไม่ได้...นายก็น่าจะรู้...ชีวิตนายทหารธรรมดาอย่างนายไม่มีทางจะเทียบเท่ากับชีวิตของเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งฮรีสอซ ที่ผ่านมานายอาจจะอยู่ใกล้ชิดอลิซมากเกินไปจนลืมความต่างระหว่างนายกับเจ้าหญิง”

คำพูดกดดันทำอะไรดวินไม่ได้ วิลอยากเอาชนะสั่งให้ส่งตัวกลับเมืองไทยแต่อลิซไม่ยอม

“พี่วิลจับผู้พันดวินทำไม!”

“พี่เห็นว่าผู้พันลักลอบพาอลิซหนีออกไปจนเกิดความเสี่ยงและพี่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำสองพี่เลยจะจับตัวเขาส่งกลับประเทศไทย”

“แต่อลิซไม่อนุญาต...ผู้พันไม่ได้ทำผิด เขาทำตามคำสั่งของอลิซและถ้าไม่ได้ผู้พัน อลิซกับอลันอาจจะตายไปแล้วก็ได้...ขอบคุณพี่วิลที่เป็นห่วง แต่อลิซไว้ใจผู้พันและมั่นใจว่าถ้ามีเขาอยู่อลิซจะไม่เป็นอันตราย”

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 12 วันที่ 10 มิ.ย.61

ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทประพันธ์โดย นิดา
ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทโทรทัศน์โดย ณัฐิยา ศิรกรวิไล และกัลยาณมิตร
ละครเรื่อง ลิขิตรัก กำกับการแสดงโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ผลิตโดย บริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ควบคุมการผลิตโดย แอน ทองประสม
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ