อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 3 วันที่ 18 มิ.ย.61
“เดือนไม่เห็นธารตอบอะไรมา เดือนเลยรอ...ไม่เป็นไรค่ะ เดือนเข้าใจค่ะ ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ” เดือนสิบวางสายแล้วหันหน้าไปทางนอกรถกลัวเที่ยงวันจะเห็นน้ำตาที่เริ่มไหลริน เขาสงสารเธอจับใจ อยากจะดึงมาซบไหล่แต่ไม่กล้า...ด้านมิถุนาเห็นลำธารยืนมองมือถือตัวเองหน้าเครียดถามว่าเรียบร้อยไหม มีอะไรหรือเปล่า เขาส่ายหน้าไม่มีอะไร ชวนให้กลับกันดีกว่า เธอยังไม่อยากกลับ อยากชวนเขาไปฉลองที่ติดต่อเรื่องที่ดินสำเร็จด้วยดี แล้วเข้ามาออดอ้อน
“นะคะ...นีน่ารู้จักอยู่ที่หนึ่ง รับรองพี่ธารจะต้องชอบ”...
ขณะที่ดำเกิงกำลังรอการมาถึงของลูกสุดเลิฟ ดวลดันกลับมาที่บ้านหวังจะมาขอเงินแม่ตามคำแนะนำของเอน ดำเกิงเห็นสภาพดูไม่จืดของลูกชายไล่ตะเพิดไปให้พ้นหน้า เขาเองก็ไม่ได้อยากมาเหยียบที่นี่นัก แค่อยากได้เงินแล้วก็จะไป นอกจากจะไม่ให้เงินอย่างที่เขาต้องการแล้ว ดำเกิงยังลงไม้ลงมือกับเขาถีบจนหงายหลังตึง สกาวกลัวดำเกิงจะทำร้ายลูกอีกเข้าไปกอดปกป้องลูกเอาไว้
ooooooo
รถแท็กซี่แล่นมาจอดหน้าบ้าน เดือนสิบเปิดประตูรถลงมาได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากด้านในวิ่งเข้าไปดูโดยมีเที่ยงวันตามไปติดๆ เห็นดวลกำลังชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้น โดยมีสกาวกอดเขาเอาไว้
ดำเกิงยืนตัวสั่นอยู่ที่มุมหนึ่ง เธอวิ่งไปกอดน้องขอร้องให้เที่ยงวันช่วยน้องของเธอด้วย เที่ยงวันเห็นสภาพของดวลก็รู้ทันทีว่าเสี้ยนยา รีบประคองเขาไปที่ห้องน้ำ
“คุณเดือน ขอน้ำดื่มให้ผมด้วยขวดใหญ่ๆ เอามาหลายๆขวดเลย”
เดือนสิบลนลานออกไป ขณะที่ดำเกิงยังคงยืนตะลึงอยู่ที่เดิมไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนสกาวก็เอาแต่ร้องไห้ เที่ยงวันพาดวลไปที่โถส้วมบอกให้อาเจียนออกมาขณะที่ตัวเองถอดเสื้อที่เปื้อนออกให้ เดือนสิบเอาน้ำดื่มขวดโตมาให้ เที่ยงวันเอาให้ดวลค่อยๆดื่ม เขาดื่มได้ไม่กี่อึกก็อาเจียนออกมาอีก
“ดีมากครับ คุณเดือนขอผ้าเช็ดตัวชุบน้ำมา”
หญิงสาววิ่งปรู๊ดออกมาเกือบชนดำเกิงที่ตามมาดูแต่ไม่ช่วยทำอะไร สกาวจะเข้าไปช่วยเที่ยงวันแต่ดำเกิงห้ามไว้ ปล่อยให้หมอจัดการดีกว่า เธอไม่ต้องเข้าไปยุ่ง เที่ยงวันจัดการกับดวลได้อย่างคล่องแคล่ว ยิ่งทำให้ดำเกิงปักใจเชื่อว่าเขาเป็นหมอ หลังจากให้ดวลอาเจียนจนหมดท้อง เที่ยงวันพาเขาไปที่ใต้ฝักบัวเปิดน้ำรดเขา เนื่องจากเขายังช่วยตัวเองไม่ได้ เที่ยงวันจึงต้องคอยประคองเขาไว้ ตัวเองพลอยเปียกไปด้วย...
ชีวาตม์นอนอยู่บนเตียงเห็นกิ่งคำกำลังปลาบปลื้มกับแหวนเพชรของขวัญจากแอฟริกาใต้ก็กระเซ้าว่าล้างเรียบร้อยแล้ว เธอเล่าให้ฟังว่าแม่โวยใส่เธอเป็นชุดที่ทิ้งให้ท่านไปเที่ยวตามลำพัง เขาขอร้องทีหน้าทีหลังถ้าเธอไม่ได้ไปด้วย เขาก็ไม่อยากให้ท่านไป เพราะไปแล้วทำแต่เรื่องวุ่นวาย อาจทำให้อาชีพการงานของเขาพังได้และจะพานทำให้บ้านเราลุกเป็นไฟอีกด้วย เธอเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
“พ่อก็มาด่วนจากไปอย่างนี้ พี่ๆก็ไม่มีใครเอาสักคน กิ่งไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียวน่ะค่ะ”
กิ่งคำเห็นชีวาตม์เงียบไปไม่หือไม่อือ หันมองอีกทีเขาหลับไปแล้ว เธอถึงกับถอนใจเซ็ง...
สกาวเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ดวลที่นอนหายใจแผ่วอยู่บนเตียง เดือนสิบส่งผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าของพ่อให้ เที่ยงวันซึ่งยืนตัวเปียกมองอยู่ เขาหันมาถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือยัง ดำเกิงไม่ยอมให้เรียกเพราะไม่อยากเป็นเป้าให้ชาวบ้านแถวนี้โจมตี เดือนสิบยืนกรานจะโทร.เรียกเพราะอาการน้องยังไม่ดี
“ถ้าใครบังอาจเรียกรถพยาบาล ฉันจะฆ่าไอ้ดวลให้ตายกับมือฉันเองเลย”...
ผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว อาการของดวลไม่ดีขึ้นเริ่มมีไข้สูง สกาวเช็ดตัวให้ลูกไปพลางร้องไห้ไปด้วย เที่ยงวันต้องเข้าไปช่วยเช็ดตัวเขาแรงๆเพื่อให้ไข้ลดเร็วขึ้น จากนั้นเข้าไปขอร้องดำเกิงให้พาดวลไปโรงพยาบาล ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ดวลจะได้ไม่ทรมานอย่างนี้ ดำเกิงส่ายหน้าไม่อยากให้มีประวัติ
“แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่คุณทำอยู่ผมจะลองคิดดูนะ จะได้ช่วยกันเก็บประวัติได้...คุณชื่ออะไร”
“เที่ยงวันครับ คุณอาเรียกเที่ยงเฉยๆก็ได้ครับ”
“ไม่ได้ๆ ต้องเรียกหมอเที่ยงสินะถึงจะถูก” ท่าทางดำเกิงดูจะปลื้มเที่ยงวันอยู่ไม่น้อย เดือนสิบรีบบอกว่าเที่ยงวันไม่ได้เป็นหมอ ดำเกิงถึงกับร้องอ้าว ไม่ได้เป็นหมอแล้วทำไมถึงได้ดูคล่องแคล่วนัก เขาเล่าให้ฟังว่าตอนนี้เขากำลังเรียนทำขนม วางแผนจะเปิดเบเกอรีให้ซุปเปอร์มาร์เกตของครอบครัวที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ดำเกิงเสียดายแทน เขาน่าจะเป็นหมอมากกว่า
“เห็นสิ่งที่คุณทำแล้วอาทึ่งนะ ไม่รู้คุณรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร”
เที่ยงวันรับสถานการณ์แบบนี้ได้เพราะเคยติดยามาก่อน ดำเกิงที่เคยมองเขาด้วยสายตาชื่นชมตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ที่เคยพูดดีด้วยก็กลายเป็นมะนาวไม่มีน้ำ แถมพยายามขับไล่ไสส่งให้เขาไปพ้นๆ เดือนสิบที่เดินมาส่งเขาขึ้นรถแท็กซี่ขอบคุณที่ช่วยชีวิตดวลเอาไว้ และขอโทษแทนพ่อของเธอด้วย เธอลืมเตือนเขาไม่ให้พูดเรื่องที่เขาเคยติดยามาก่อน
“มันเป็นเรื่องจริง จะหนียังไงก็ไม่พ้นหรอก วันหนึ่งท่านก็ต้องรู้อยู่ดี”...
ทางด้านทูลกับสวาทวิมลนั่งคอยลูกอยู่ที่ห้องรับแขกด้วยความเป็นห่วง ครั้นเที่ยงวันเดินเข้ามา เธอร้องทักทำไมกลับดึกนัก ส่งหนูเดือนแล้วแวะไปไหนอีกหรือ เขาไม่พูดอะไรเข้ามานอนหนุนตักแม่ รู้สึกว่าตัวเองโชคดี ถึงเขาจะผ่านเรื่องร้ายๆมาก็ยังมีท่านทั้งสองคอยอยู่เคียงข้างเสมอ แล้วถามแม่ว่าอายไหมที่มีลูกติดยา
“อายสิลูก แต่แยกแยะออกน่ะว่าเราห่วงชื่อเสียงของเราหรือห่วงสภาพจิตใจของลูกสุดที่รักของเรา”
“ขอบคุณนะครับที่อยู่เคียงข้างผมเสมอมา”
เที่ยงวันกอดแม่เอาไว้แน่น...
เช้านี้เดือนสิบจะต้องเอาของฝากจากแอฟริกาใต้ไปให้คนที่บ้านลำธาร แต่เนื่องจากรถของดำเกิงเสีย
เธอจึงต้องทิ้งรถตัวเองไว้ให้ท่านใช้ เผื่อเกิดเหตุจำเป็นอะไรกับดวล เดือนสิบหอบของฝากถุงใหญ่ขึ้นแท็กซี่ไปที่บ้านแฟนหนุ่ม แต่ปรากฏว่าทั้งยี่สุ่นและบุญหยาดไม่ปลื้มของฝากที่เธออุตส่าห์หอบหิ้วมาให้
มีเพียงเงินยวงเท่านั้นที่ชื่นชอบ นอกจากจะไม่ปลื้มของที่เดือนสิบเอามาฝาก ยี่สุ่นยังบอกอย่างชัดเจนว่าทีหลังไม่ต้องซื้อมาให้อีก ท่านมีข้าวของเยอะแยะแล้ว ไม่อยากได้อะไรมารกบ้าน ลำธารสงสารเดือนสิบ แต่หาใช่เรื่องไม่ที่จะไปขัดใจแม่ เขาจึงตัดบท
“เดือนรีบไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมไปส่งเดือนนะ”
“อ้าว ป้าไม่รู้ ป้าให้คนไปเรียกแท็กซี่มารอแล้ว” บุญหยาดเหมือนจะไล่เดือนสิบทางอ้อม เงินยวงสงสารว่าที่พี่สะใภ้ เสนอตัวจะไปจ่ายเงินค่าเสียเวลาให้แท็กซี่เอง พี่ธารจะได้เป็นคนไปส่งพี่เดือน ยี่สุ่นตวาดแว้ด
“ไม่ต้อง...เดือนสิบ ฉันว่าไม่ค่อยงามนะจ๊ะที่ปล่อยให้ใครมานั่งรอแบบนี้”
คนถูกไล่ทางอ้อมทนต่อไปไม่ไหว ขอตัวกลับก่อนยกมือไหว้ลายี่สุ่นกับบุญหยาดแล้วลุกออกไป ลำธารขยับจะตามก็ถูกยี่สุ่นจิกตาใส่จนไม่กล้าลุก เงินยวงเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเดือนสิบรีบลุกตามไปปลอบใจ เธอกลับทำตัวเข้มแข็งบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร เงินยวงไม่ต้องคิดมาก
“พี่โอเคนะคะ แค่ได้เอาของมาฝากทุกคนก็โอเคแล้ว เห็นน้องยวงชอบพี่ก็ดีใจแล้ว พี่ไปนะคะ รถคอยนานแล้ว” พูดจบเดือนสิบเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ เงินยวงได้แต่มองตามสงสารเธอจับใจ
ฝ่ายเดือนสิบขึ้นรถแท็กซี่ได้ก็ถอนใจเหนื่อยใจในวันแย่ๆอย่างนี้เธออยากมีใครสักคนเป็นเพื่อนปลอบใจ อยากให้คนคนนั้นเป็นลำธารแต่เขาไม่เคยอยู่ตรงนั้นเพื่อเธอ...
ขณะเดียวกัน ดำเกิงแง้มประตูแอบมองดวลที่ยังนอนเหงื่อซึมอยู่บนเตียงโดยมีสกาวนั่งหลับซบกับที่นอนอยู่ข้างๆ เปลือกตาเขาขยับไปมาเหมือนกำลังฝันและดูท่าจะไม่ใช่ฝันดี ดำเกิงอยากจะเข้าไปปลอบลูกใจจะขาดแต่อีกใจก็เกลียดขี้หน้าเหลือเกิน เขาเป็นลูกที่ไม่เคยทำให้สมหวังแม้แต่ครั้งเดียว
ooooooo
กิ่งคำต้องแพ็กกระเป๋าให้ชีวาตม์เพราะเขามีทริปพาลูกทัวร์ไปฮ่องกงตอนเย็น ลากกระเป๋าเดินทางของเขามาเปิดเอาเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ตะกร้าสำหรับซัก เจอภาพถ่ายของเขากับยุพราในกรอบไม้ที่วาวาตูทำขายที่ก้นกระเป๋า พยายามไม่สนใจวางภาพลงหันไปจัดกระเป๋าต่อ เจอรูปเขากับยุพราอีก 4 ใบ
มีเสียงรื่นเริงดังขึ้นทางด้านหลัง “รูปนังยุพรา... คนที่จ้องจะงาบผัวแก”
“แม่พูดอะไรน่ะ กิ่งไม่เชื่อหรอกค่ะ”
รื่นเริงเชิญลูกตามสบายจะสนใจหรือไม่ก็แล้วแต่ สั่งให้เอาเงินมาตนจะไปเล่นไพ่ กิ่งคำหยิบเงินในกระเป๋าให้แม่หนึ่งหมื่นบาท รื่นเริงพอใจโวยวายลั่นว่าน้อยไปเล่นไม่กี่ตาก็หมดแล้ว กิ่งคำโวยกลับก็อย่าเล่นเยอะ ยิ่งไม่ค่อยจะมีเงินอยู่ด้วย รื่นเริงใส่ความว่าชีวาตม์มัวแต่เอาเงินไปหว่านให้สาวๆ เงินก็เลยไม่ถึงมือเมีย
“ฉันว่านะมันตั้งใจจะซื้อแหวนให้อีนังเด็กนี่ แต่ฉันไปเห็นซะก่อน”
กิ่งคำตัดรำคาญหยิบเงินให้อีกหนึ่งหมื่นบาท แล้วบอกให้รีบไปเดี๋ยวจะเล่นไพ่ไม่ทัน รื่นเริงคว้าเงินแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป กิ่งคำหยิบรูปขึ้นมาดูอีกครั้งรู้สึกได้ว่าทำไมชีวิตคู่ของตัวเองช่างจืดชืดไม่เห็นเหมือนในรูปพวกนั้นเลย ชีวาตม์กับยุพราช่างดูมีชีวิตชีวาเหลือเกิน...
เที่ยงวันพยายามโทร.หาเดือนสิบเพื่อถามอาการของดวลแต่ติดต่อไม่ได้ ตัดสินใจแวะมาเยี่ยมด้วยตัวเอง ดำเกิงไม่ชอบใจเขาเป็นทุนเดิมก็เลยไม่ยอมให้เข้าบ้านแถมไล่ตะเพิดให้กลับไปอีกด้วย เขาหันหลังจะกลับไปที่รถ แต่เดือนสิบลงจากรถแท็กซี่เสียก่อน เธอเห็นเขายืนอยู่ก็แปลกใจมาได้อย่างไร
“น้องคุณอาการเป็นไงบ้างผมเป็นห่วง ติดต่อคุณไม่ได้เลย อย่าโกรธนะที่ผมบุกมาอย่างนี้”
เดือนสิบส่ายหน้า จะโกรธเขาได้อย่างไร เขาช่างดีกับเธอเหลือเกิน ผิดกับลำธารลิบลับ คิดแค่นี้น้ำตาพานไหล เที่ยงวันใจเสีย นี่เขาทำให้เธอลำบากใจหรือ หญิงสาวส่ายหน้าอีกครั้ง เอาหน้าผากพิงกับแขนเขาก่อนจะร้องไห้ออกมา เขาปล่อยให้เธอใช้แขนเป็นที่พักพิงโดยไม่แตะต้องตัวเธอแม้แต่น้อย หลังจากตั้งสติได้ เดือนสิบดันตัวออกห่างปาดน้ำตาทิ้ง ขอโทษเที่ยงวันด้วยที่ทำให้ตกใจ
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ คุณเดือนมีอะไรที่ผมพอช่วยได้ก็บอกผมแล้วกันนะครับ ผมพร้อมจะช่วยเหลือคุณเสมอ อย่าได้เกรงใจ คิดซะว่าผมเป็นคนในครอบครัว...เฮ้ย ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมหมายถึง คิดซะว่าผมเป็นพี่ชายเป็นญาติคุณ ส่วนเรื่องจะจีบติดไม่ติด มันเป็นเรื่องของอนาคต”
หญิงสาวยิ้มเศร้า จะตอบกลับไมตรีของเที่ยงวันได้อย่างไรในเมื่อเธอมีลำธารอยู่แล้วทั้งคน...
เนื่องจากเดือนสิบต้องอยู่ดูน้อง จึงโทร.ไปขอร้องให้ยุพราช่วยโทร.ประสานงานกับชีวาตม์แทนตนเองด้วย ยุพรารับปากจะจัดการทุกอย่างให้เอง เธออยู่ดูแลดวลไม่ต้องเป็นห่วง วางสายจากเพื่อนรัก ยุพราโทร.หาชีวาตม์ โชคไม่ดีเขาไม่ได้เอามือถือเบอร์นี้ไปทำงาน ทิ้งไว้ที่บ้าน กิ่งคำจึงเป็นคนรับสาย ถึงกับชะงักเมื่อรู้ว่าคนโทร.มาชื่อยุพรา แต่พยายามไม่คิดอะไร ให้เบอร์มือถือชีวาตม์อีกเบอร์หนึ่งไป
ooooooo
เงินยวงพอจะมองออกว่าพี่ชายมีใจให้ผู้หญิงที่ชื่อมิถุนา เตือนว่าจับปลาสองมือระวังจะแห้วไม่ได้สักตัว ลำธารว่าเธอเหลวไหล ว่างมากหรืออย่างไรถึงได้เที่ยวแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ เธอแค่สงสารพี่เดือน เขาควรจะทำหน้าที่ปกป้องเธอ ไม่ใช่ปล่อยให้เธอถูกแม่กับป้าเล่นงาน ลำธารเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
“นั่นแม่เรานะยวง มันเป็นปัญหาโลกแตกอยู่แล้ว ใครๆก็รู้”
“ก็เลยจะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ใช่ไหมคะ พี่ธารคะ ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลกนะคะ” คำเตือนของเงินยวงทำให้ลำธารเริ่มหวั่นไหว...
เดือนสิบรู้ว่าเที่ยงวันเป็นห่วงดวลอย่างจริงใจ จึงชวนให้เข้าไปเยี่ยมน้องด้วยกัน ทีแรกเขาอิดออดเพราะไม่อยากมีปัญหากับดำเกิง แต่เธอยืนยันว่าจะดูแลเขาเอง เขาถึงได้ยอมรับคำชวนของเธอ
เมื่อเข้ามาในห้องดวล เดือนสิบกับเที่ยงวันต้องตกใจที่เห็นดวลถูกดำเกิงล่ามโซ่เอาไว้ เธอทนไม่ได้ต้องไปคุยกับพ่อให้รู้เรื่องแล้วพรวดพราดออกไป สกาวเป็นห่วงลูกรีบเดินตาม เที่ยงวันมองดวลแล้วอดนึกถึงตัวเองตอนติดยาอย่างหนักไม่ได้ เขาเองมีสภาพไม่ต่างจากดวลแต่พ่อของเขาไม่เคยปฏิบัติกับเขาแบบนี้ ท่านจะปฏิบัติกับเขาด้วยความรักเสมอ เมื่อเห็นข้อเปรียบเทียบกันแล้ว เที่ยงวันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก...
เดือนสิบพยายามยกเหตุผลมาคุยกับพ่อเพื่อให้ถอดโซ่ออกจากขาน้อง แต่ท่านไม่ยอมทำตาม แถมยังโทษว่าที่น้องเป็นแบบนี้เพราะสกาวเลี้ยงไม่ดี ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ต้องล่ามเขาไว้แบบนี้...
อ่านละคร ข้ามสีทันดร ตอนที่ 3 วันที่ 18 มิ.ย.61
ละคร ข้ามสีทันดร บทประพันธ์โดย กฤษณา อโศกสินละคร ข้ามสีทันดร บทโทรทัศน์โดย กู๊ดโฮป
ละคร ข้ามสีทันดร กำกับการแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร
ละคร ข้ามสีทันดร ผลิตโดย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด
ละคร ข้ามสีทันดร ออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ